Share

บทที่ 4

Author: ดอกมะลิ
คืนนั้น โจวจือเหยียนพาซูหว่านฉิงกลับมาที่บ้าน เขายังลงมือทำอาหารด้วยตัวเองอีก

ระหว่างมื้อเย็น เขาคอยคีบกับข้าวและซุปให้เธอไม่ขาดมือ รู้ทุกอย่างว่าเธอชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไร

“หว่านฉิง ซุปนี่รสอ่อน น่าจะถูกปากเธอนะ”

“นี่ ปลาที่เธอชอบ กินเยอะๆ หน่อยเถอะ จะได้บำรุงร่างกาย”

ฉันนั่งมองท่าทีที่สนิทสนมของพวกเขา น้ำตาคลอเบ้า

ฉันก้มหน้าลง กินข้าวเงียบๆ

ฉันไม่สามารถแสดงอารมณ์รุนแรงใดๆ ออกมาได้ ไม่สามารถให้โจวจือเหยียนรู้ว่าฉันกำลังเปลี่ยนไป

เพราะถ้าเขารู้ว่าฉันมีแผนจะไป เขาย่อมไม่มีวันปล่อยฉันไปแน่

อีกทั้งตอนนี้ฉันยังมีลูกของเขาอยู่ในท้อง เรื่องนี้จะให้เขารู้ไม่ได้เด็ดขาด...

“อาเหยียน คุณดูแลฉันขนาดนี้ คุณเจียงจะไม่โกรธเอาเหรอ?”

ซูหว่านฉิงมองฉันแวบหนึ่ง ก่อนตั้งใจพูดขึ้นมา

โจวจือเหยียนอึ้งไป ก่อนจะรีบตอบว่า

“เธอไม่โกรธหรอก หว่านฉิง ตอนนี้เธอท้องอยู่นะ ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ”

“หรานหรานเองก็เป็นผู้หญิง เธอเข้าใจดี”

ฉันก้มหน้า ไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์

หลังมื้อเย็น ฉันออกมาเดินเล่นคนเดียวในสวน

พอเดินมาถึงศาลา ก็เห็นซูหว่านฉิงเดินมาทางนี้

“คุณเจียง ออกมาเดินเล่นคนเดียว อารมณ์ไม่ดีเหรอคะ?”

เธอนั่งลงตรงข้ามฉัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความท้าทาย

“คุณนี่ก็อดทนเหมือนกันนะ ถึงกับยอมช่วยเลี้ยงลูกคนอื่น แต่ไม่อยมจากไป?”

ฉันเหลือบมองเธอ ไม่พูดอะไรสักคำ ลุกขึ้นจะเดินหนี

“หยุดนะ!”

จู่ๆ ซูหว่านฉิงก็ยื่นมือมาขวางฉันเอาไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

เห็นได้ชัดว่าความเงียบของฉัน มันยิ่งทำให้เธอโกรธ

เธออยากเห็นฉันหงุดหงิดโมโห โวยวาย หรือไม่ก็เสียสติจนควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ฉันไม่เป็นแบบนั้นเลย

เดิมเธอคิดว่าจะอาศัยเด็กในท้อง มายั่วยุฉัน แต่ฉันก็ไม่

“เจียงอวี่หราน เธอแสร้งทำอยู่ใช่ไหม แสร้งทำเป็นไม่สนใจ แสร้งทำเป็นไม่เป็นไร?”

“มีผู้หญิงคนไหนกันที่จะยอมเลี้ยงลูกของสามีกับผู้หญิงคนอื่นด้วยความเต็มใจบ้าง!”

“ทำไมเธอไม่โกรธ ทำไมไม่ทะเลาะกับโจวจือเหยียน ทำไมต้องแสร้งทำเป็นคนใจกว้างด้วย?”

“หน้าไหว้หลังหลอกจริงๆ!”

“เธออยากทำตัวเป็นคนดี อดทน ยอมทุกอย่าง แล้วเขาจะรู้สึกผิดแล้วหันกลับมาชดเชยให้เธออย่างนั้นใช่ไหม?”

“นั่นมันคือการชดเชยไม่ใช่ความรัก! กอดชีวิตแต่งงานที่ไม่มีความรักแบบนี้ เธอนี่มันน่าสมเพชจริงๆ”

ฉันกัดริมฝีปากแน่น พยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา

“จริงสิ เด็กในท้องฉันน่ะไม่ใช่ของโจวจือเหยียนหรอกนะ แต่ว่า โจวจือเหยียนเขาอยากได้ลูกจนแทบบ้า ฉันก็แค่แต่งเรื่องโกหกขึ้นมาแค่นี้เขาก็เชื่อแล้ว...”

ฉันตกตะลึง...

ยังไม่ทันได้พูดอะไรจู่ๆ เธอก็ลุกขึ้น แล้วผลักฉันอย่างแรง

“ฉันจะทำให้เธอเห็นเอง ว่าใครกันแน่ที่สำคัญที่สุดในใจโจวจือเหยียน!”

จากนั้นเธอก็แกล้งล้มลง ส่งเสียงร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด

“ท้องของฉัน... เจ็บ... เจ็บเหลือเกิน...”

เธอใช้สองมือกุมหน้าท้องเอาไว้แน่น ไม่นาน เลือดก็เริ่มซึมออกมาจากหว่างขาของเธออย่างช้าๆ

ฉันตกใจสุดขีด ทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วทำไมเธอถึงมีเลือดออกแบบนั้น...

โจวจือเหยียนได้ยินเสียงก็รีบวิ่งมา เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

“หว่านฉิง!”

เขารีบอุ้มซูหว่านฉิงไว้ในอ้อมแขน แล้วหันมาจ้องฉัน

“เจียงอวี่หราน เธอทำอะไรหว่านฉิง?”

“ฉันไม่ได้...” ฉันส่ายหน้า กลับถูกซูหว่านฉิงพูดแทรกขึ้นมา

ซูหว่านฉิงก็ร้องไห้ขึ้นมาในอ้อมแขนของเขา

“อาเหยียน ฉันไม่เป็นไร อย่าโทษคุณเจียงเลยนะ”

“เธอแค่ไม่ชอบฉัน ไม่ชอบลูกของฉัน...”

โจวจือเหยียนได้ยินดังนั้น ก็ยิ่งโกรธ

เขาผลักฉันอย่างแรง แล้วอุ้มซูหว่านฉิง รีบร้อนไปทันที

“เจียงอวี่หราน เธอทำเกินไปแล้วนะ!”

“ถ้าหว่านฉิงเป็นอะไรไป ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้เธอ!”

ฉันทรุดตัวลงกับพื้น มองเงาหลังของพวกเขาที่ค่อยๆ ห่างออกไป หัวใจเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง

ในคืนนั้น โจวจือเหยียนไม่ได้กลับมา

ในคฤหาสน์หลังใหญ่เหลือแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น

ฉันนอนอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมานอนไม่หลับ

ภาพในหัวของฉันเต็มไปด้วยใบหน้าของโจวจือเหยียนที่มองฉันอย่างไม่เชื่อใจ และรอยยิ้มลำพองของซูหว่านฉิง

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันเริ่มเก็บของ

ทุกเก็บสัมภาระทั้งหมดลงในกระเป๋าเดินทาง และจัดการเคลียร์ของทุกอย่างในบ้านที่เกี่ยวข้องกับฉันออกจนหมด

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ฉันลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ออกจากคฤหาสน์

วินาทีที่ประตูถูกปิดลง ฉันก็หันกลับไปมองอีกครั้ง

ที่นี่ เคยเป็นบ้านของฉันกับโจวจือเหยียน

ตอนนี้ มันไม่ได้เป็นของฉันอีกต่อไปแล้ว

ก่อนจากไป ฉันโทรหาทนาย

“ทนายหลี่ เรื่องทรัพย์สินจัดการเรียบร้อยหรือยังคะ?”

“เรียบร้อยแล้วครับ คุณเจียง เงินโอนเข้าบัญชีของคุณแล้วครับ”

“พาสปอร์ตของคุณเตรียมพร้อมหมดแล้ว บ้านที่สวิตเซอร์แลนด์ก็ซื้อไว้เรียบร้อย”

“ทุกอย่างพร้อมหมดแล้วครับ”

ฉันพยักหน้า ในใจรู้สึกโล่ง

“ดีค่ะ ขอบคุณนะคะ”

“ฉันจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ ฉันก็เห็นข่าวพาดหัวที่พูดถึงโจวจือเหยียนดูแลซูหว่านฉิงอยู่ในแผนกสูตินรีเวช

“หัวหน้าแก๊งมาเฟียโจวจือเหยียนคลั่งรักภรรยา…” จริงสิ... ฉันแต่งงานกับโจวจือเหยียนมานานหลายปี แต่ไม่เคยมีใครรู้เลยว่า...

ไม่มีแม้แต่สถานะที่ได้รับการยอมรับต่อสาธารณะ บางทีนี่มันก็บอกทุกอย่างได้แล้ว

บางทีเขาอาจจะรู้อยู่แล้วว่าหว่านฉิง... โกหกเรื่องที่เธอบอกว่าเธอท้องลูกของเขา เพียงแต่เขาเลือกแสร้งทำเป็นไม่รู้ก็ได้ และคงมีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่ามันเพราะอะไร

เพราะเขาเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟีย เป็นนักธุรกิจที่ฉลาดรอบคอบขนาดนั้น จะไม่สงสัยคำโกหกไร้สาระนั่นสักนิดเลยเหรอ

ฉันลูบหน้าท้อง อย่างน้อยฉันก็มีลูก

ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ลบชื่อของโจวจือเหยียนออกจากรายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมด แล้วหันหลังเดินขึ้นเครื่องบินไป
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาทายาทของเขาหนีไป   บทที่ 8

    แต่โจวจือเหยียนกลับเหมือนคนเสียสติเขาไม่ปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก แต่ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน ฉันก็มักจะเห็นเขาอยู่ในระยะไม่ไกลเสมอฉันได้แต่ถอนหายใจ รู้ดีว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ฉันคงไม่สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสงบแน่ดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจยุติการเดินทางท่องเที่ยวเร็วกว่ากำหนด แล้วกลับบ้านตลอดทาง ฉันพยายามจะหนีให้พ้นสายตาของโจวจือเหยียน จนในที่สุดฉันก็กลับมาถึงบ้านใหม่ในสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างปลอดภัยฉันเปลี่ยนทั้งที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ แต่โจวจือเหยียนก็หาฉันจนเจออยู่ดีเขายืนอยู่หน้าบ้านของฉัน ดูโทรมมากเมื่อเห็นฉัน สายตาของเขาก็มีประกายความดีใจ“หรานหราน ในที่สุดคุณก็ยอมเจอผมแล้ว” เขาพูด “ผมตามหาเธอมาตลอด”ฉันจ้องไปที่เขาด้วยสายตาที่เย็นชา ไม่ได้พูดอะไร“หรานหราน ผมสำนึกผิดแล้ว คุณให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะนะ”โจวจือเหยียนพูดขอร้องอ้อนวอน “ลูกไม่ควรขาดพ่อ คุณอยากให้เขาเกิดมาก็ไม่มีพ่อเหรอ?”ฉันก้มเอามือลูบหน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้น แล้วตอบอย่างหนักแน่นว่า “ถึงไม่มีคุณ ฉันก็จะเลี้ยงลูกจนโตได้”“และเมื่อเขาเติบโตขึ้น ก็จะไม่มีวันยอมรับพ่อที่เคยนอกใจได้หรอก”โจวจือเหยียนได้ยิ

  • พาทายาทของเขาหนีไป   บทที่ 7

    หลังจากมาถึงสวิตเซอร์แลนด์ ฉันก็ปล่อยวางทุกอย่างลงเลิกคิดถึงโจวจือเหยียน เลิกจมอยู่กับอดีตฉันตั้งใจพักฟื้นร่างกาย และใช้เวลลาไปกับการท่องเที่ยวที่นี่มีทิวทัศน์งดงาม อากาศบริสุทธิ์ ทำให้จิตใจของฉันสงบและเบิกบานฉันได้ไปเที่ยวชมเทือกเขาแอลป์ สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของขุนเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะฉันเดินทอดน่องริมทะเลสาบลูเซิร์น มองผิวน้ำที่สงบจนรู้สึกผ่อนคลายฉันยังได้ไปเมืองซูริก สัมผัสเสน่ห์ของมหานครที่คึกคักระหว่างการเดินทาง ฉันได้เห็นความงดงามของโลกใบนี้ และเข้าใจความหมายของชีวิตมากขึ้นที่แท้ ชีวิตไม่ได้มีเพียงแค่โจวจือเหยียน โลกใบนี้กว้างใหญ่มากชีวิตของฉันเมื่อก่อน มันช่างจืดชืดและแคบเหลือเกินวันหนึ่ง ฉันเดินทางมาถึงเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งบังเอิญเจอชาวเมืองกำลังจัดงานขบวนพาเหรดวันคริสต์มาสพอดีถนนทั้งสายประดับไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ เต็มไปด้วยความครึกครื้นผู้คนแต่งกายในชุดเทศกาล เต้นรำ หัวเราะ และร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานบรรยากาศรื่นเริงนั้นทำให้หัวใจฉันอบอุ่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ฉันจึงร่วมเดินไปกับขบวนพาเหรดด้วยในขบวนพาเหรด มีคู่สามีภรรยาสูงวัยคู่หนึ่งพวกเขาจับมือกัน ใบห

  • พาทายาทของเขาหนีไป   บทที่ 6

    โจวจือเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนผลักประตูห้องเข้าไปเขาจ้องงซูหว่านฉิงด้วยสายตาเย็นยะเยือก แล้วถามว่า“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร?”ซูหว่านฉิงมองไปที่เขา รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที“อาเหยียน คุณ... คุณฟังผิดแล้ว ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”โจวจือเหยียนกลับบไม่หลงกลอีกต่อไป เขากวาดตามองไปรอบห้อง พบว่าหน้าจอโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะยังสว่างอยู่เขาเดินเข้าไปดู บนหน้าจอ คือบทสนทนาในแชตระหว่างซูหว่านฉิงกับฉัน“เจียงอวี่หรานเธอมันนังผู้หญิงแพศยาทางที่ดีตายอยู่ข้างนอกนั่นแหละ อย่าได้กลับมาอีกเลย!”“เห็นแล้วใช่ไหม? ซุปนี่โจวจือเหยียนต้มให้ฉันเองเลยนะ! ชั่วชีวิตเธอคงไม่มีวันได้กินหรอกใช่ไหม?”“เจียงอวี่หราน เธอสมควรแล้วที่ต้องเป็นหม้ายตัวคนเดียว!”คำพูดดูถูกร้ายกาจ แต่ละคำมันทิ่งแทงหัวใจของเขาเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ซูหว่านฉิงจะเป็นคนแบบนี้ไฟโทสะของเขาลุกโชน เลยยกมือตบหน้าซูหว่านฉิงเต็มแรง“นังสารเลว! เธอกล้าทำแบบนี้กับหรานหรานได้ยังไง!”ซูหว่านฉิงถูกตบก็มึนงงไปหมด เธอยกมือขึ้นกุมแก้ม มองไปที่โจวจือเหยียนด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ“อาเหยียน คุณ... คุณตบฉันเพราะนังแพศยาคนนั้นเหรอ?”“อย่าลืม

  • พาทายาทของเขาหนีไป   บทที่ 5

    ฉันจากมาแล้วแต่โจวจือเหยียนกลับเริ่มเสียศูนย์ตอนที่เขาดูแลซูหว่านฉิงอยู่ที่โรงพยาบาล โจวจือเหยียนดูใจลอยอยู่ตลอดเวลาภาพแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของฉันเมื่อคืนยังคงผุดขึ้นมาในหัวของเขาสายตาแบบนั้น เขาไม่เคยเห็นมาก่อนความรู้สึกไม่สบายใจแล่นขึ้นมาจนจุกอก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว คิดอยากจะติดต่อฉัน“อาเหยียน ฉันอยากกินแอปเปิ้ล คุณปอกให้ฉันหน่อยได้ไหม?”เสียงของซูหว่านฉิงดังขึ้น ขัดจังหวะความคิดเขาเขามองโทรศัพท์ในมืออีกครั้ง แล้วเหลือบมองซูหว่านฉิง สุดท้ายก็เก็บโทรศัพท์ไป“ได้สิ เดี๋ยวฉันปอกให้”คืนนั้น โจวจือเหยียนอยู่เฝ้าซูหว่านฉิงทั้งคืนเช้าวันต่อมา เขาถึงได้กลับบ้านแต่ทันทีที่เขาเปิดประตูบ้าน กลับพบว่าบ้านนั้นว่างเปล่าของของฉัน หายไปจนหมดเขายืนตกใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งตามหาไปทั่ว“หรานหราน! หรานหราน!”เขาตะโกนเรียกชื่อของฉัน แต่ไม่มีใครตอบรับเขาค้นทุกห้อง ทุกซอก ทุกมุม แต่ไม่เจอแม้แต่เงาของฉันเขาเริ่มร้อนรน รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วเริ่มโทรติดต่อฉันอย่างบ้าคลั่งแต่ โทรศัพท์ของฉันปิดเครื่อง และไม่มีการตอบกลับข้อความเขาเริ่มโทรหาญาติและ

  • พาทายาทของเขาหนีไป   บทที่ 4

    คืนนั้น โจวจือเหยียนพาซูหว่านฉิงกลับมาที่บ้าน เขายังลงมือทำอาหารด้วยตัวเองอีกระหว่างมื้อเย็น เขาคอยคีบกับข้าวและซุปให้เธอไม่ขาดมือ รู้ทุกอย่างว่าเธอชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไร“หว่านฉิง ซุปนี่รสอ่อน น่าจะถูกปากเธอนะ”“นี่ ปลาที่เธอชอบ กินเยอะๆ หน่อยเถอะ จะได้บำรุงร่างกาย”ฉันนั่งมองท่าทีที่สนิทสนมของพวกเขา น้ำตาคลอเบ้า ฉันก้มหน้าลง กินข้าวเงียบๆฉันไม่สามารถแสดงอารมณ์รุนแรงใดๆ ออกมาได้ ไม่สามารถให้โจวจือเหยียนรู้ว่าฉันกำลังเปลี่ยนไปเพราะถ้าเขารู้ว่าฉันมีแผนจะไป เขาย่อมไม่มีวันปล่อยฉันไปแน่อีกทั้งตอนนี้ฉันยังมีลูกของเขาอยู่ในท้อง เรื่องนี้จะให้เขารู้ไม่ได้เด็ดขาด...“อาเหยียน คุณดูแลฉันขนาดนี้ คุณเจียงจะไม่โกรธเอาเหรอ?”ซูหว่านฉิงมองฉันแวบหนึ่ง ก่อนตั้งใจพูดขึ้นมาโจวจือเหยียนอึ้งไป ก่อนจะรีบตอบว่า“เธอไม่โกรธหรอก หว่านฉิง ตอนนี้เธอท้องอยู่นะ ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ”“หรานหรานเองก็เป็นผู้หญิง เธอเข้าใจดี”ฉันก้มหน้า ไม่ได้พูดอะไร ใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์หลังมื้อเย็น ฉันออกมาเดินเล่นคนเดียวในสวนพอเดินมาถึงศาลา ก็เห็นซูหว่านฉิงเดินมาทางนี้“คุณเจียง ออกมาเดินเล่นค

  • พาทายาทของเขาหนีไป   บทที่ 3

    โชคดีที่ซูหว่านฉิงไม่ได้ล้มแรงมาก หลังจากหมอตรวจอาการตามขั้นตอนทั่วไปเสร็จแล้ว โจวจือเหยียนก็พาเธอกลับเข้าห้องพักฟื้นทันทีฉันยืนอยู่หน้าประตู มองโจวจือเหยียนวุ่นวายดูแลเธอด้วยความใส่ใจ ฉันเหมือนมือที่สามที่เข้ามาแทรกกลางความสัมพันธ์ของคนอื่น“อาเหยียน ให้คุณเจียงเข้ามาเถอะ”เสียงของซูหว่านฉิงดังแผ่วลอดออกมา น้ำเสียงดูอ่อนแรงมากโจวจือเหยียนเหลือบมองฉัน เขาหลบสายตาไม่กล้ามองฉันตรงๆฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย“คุณเจียง อย่าโทษอาเหยียนเลยนะคะ”ซูหว่านฉิงพิงอยู่กับพนักเตียง ใบหน้าซีดขาวไร้เลือดฝาด“เป็นฉันเองที่ขอให้เขาเรียกคุณมา มีบางเรื่อง เราควรคุยกันให้เข้าใจ”ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ไม่พูดอะไรเลยสักคำโจวจือเหยียนนั่งลงข้างฉัน เขาจับมือของฉันเอาไว้สีหน้าของเขาดูรู้สึกผิดเล็กน้อย ริมฝีปากเริ่มขยับ เหมือนอยากพูดแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง“หรานหราน มีบางเรื่อง ฉันอยากอธิบายให้เธอเข้าใจ”เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดต่อว่า:“ฉันกับหว่านฉิง กลับมาเจอกันอีกครั้งในงานเลี้ยงสังสรรค์”“ตอนนั้นมีคนจงใจมอมเหล้าเธอ ฉันทนดูไม่ได้เลยเข้าไปช่วย”“คิดไม่ถึงเลยว่า พวกเร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status