ログイン“สรุปแล้วนายเป็นคอป์แคทรึเปล่า โดมาน”
ครั้นคาเลนถามคำถามย้ำ โดมานซึ่งยิ้มกว้างมองมาไม่นานก็ตามด้วยเสียงหัวเราะต่ำ ใบหน้าโน้มลงเล็กน้อยก่อนจะหันไปกล่าวกับคนซักไซ้ไม่เลิก โดยเขานั้นปราศจากอาการทุกข์ร้อนทั้งที่รอบข้างกำลังมีสายตาจริงจังทั้งสามจ้องอยู่
“ท่านอย่าเพิ่งเข้าใจเราผิดไปเลย”
“งั้นอธิบายมาสิ” บิทเทอเร่งให้ตอบ
“เพียงแค่เพราะว่าเพื่อนท่านตั้งข้อสงสัยนั้นขึ้นมา ก็แคลงใจตามแล้วหรือ” โดมานถามยอกย้อนกลับ ปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งอย่างเดิม โดยเขาเองคงไม่รู้เลยว่าคนที่ตั้งข้อสงสัยเป็นแอนนาลิสต์ที่รู้จักพวกภูตเป็นอย่างดี
“แล้วคุณจะยืนยันไหมว่าตัวเองใช่หรือไม่ใช่”
บิทเทอไม่ปล่อยให้อีกคนเบี่ยงคำถาม ชายผิวดำกลอกตามองฮันเตอร์หนุ่มซึ่งเพ่งสายตามา ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงหนักแน่นกังวาน
“เราไม่ใช่คอป์แคท”
เมื่อบทสนทนายามค่ำคืนจบลง หลายๆ อย่างที่น่าประหลาดก่อนหน้าจึงถูกคลี่คลายไปมาก แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าชายจากเผ่าบาฮินคนนี้ช่างน่าสงสั
“สรุปแล้วนายเป็นคอป์แคทรึเปล่า โดมาน”ครั้นคาเลนถามคำถามย้ำ โดมานซึ่งยิ้มกว้างมองมาไม่นานก็ตามด้วยเสียงหัวเราะต่ำ ใบหน้าโน้มลงเล็กน้อยก่อนจะหันไปกล่าวกับคนซักไซ้ไม่เลิก โดยเขานั้นปราศจากอาการทุกข์ร้อนทั้งที่รอบข้างกำลังมีสายตาจริงจังทั้งสามจ้องอยู่“ท่านอย่าเพิ่งเข้าใจเราผิดไปเลย”“งั้นอธิบายมาสิ” บิทเทอเร่งให้ตอบ“เพียงแค่เพราะว่าเพื่อนท่านตั้งข้อสงสัยนั้นขึ้นมา ก็แคลงใจตามแล้วหรือ” โดมานถามยอกย้อนกลับ ปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งอย่างเดิม โดยเขาเองคงไม่รู้เลยว่าคนที่ตั้งข้อสงสัยเป็นแอนนาลิสต์ที่รู้จักพวกภูตเป็นอย่างดี“แล้วคุณจะยืนยันไหมว่าตัวเองใช่หรือไม่ใช่”บิทเทอไม่ปล่อยให้อีกคนเบี่ยงคำถาม ชายผิวดำกลอกตามองฮันเตอร์หนุ่มซึ่งเพ่งสายตามา ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงหนักแน่นกังวาน“เราไม่ใช่คอป์แคท”เมื่อบทสนทนายามค่ำคืนจบลง หลายๆ อย่างที่น่าประหลาดก่อนหน้าจึงถูกคลี่คลายไปมาก แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าชายจากเผ่าบาฮินคนนี้ช่างน่าสงสั
‘บิทเทอมองไม่เห็นผม’นั่นคือสิ่งที่คาเลนสรุปได้หลังสังเกตท่าทางงวยงงชายผมบลอนด์ขาวมาพักหนึ่ง อีกฝ่ายมองผ่านไปมาไม่รู้ตั้งกี่รอบก็ไม่เห็นตนสักที จริงๆ ตอนนี้เขาควรจะหาทางสลัดตัวออกจากคนแปลกหน้านี่แต่มันยังมีบางอย่างติดใจอยู่ บางอย่างที่น่าแปลกจนผิดสังเกต นั่นคือร็อตไวเลอร์ข้างๆ ชายหนุ่มกำลังส่งเสียงครางต่ำไม่เป็นมิตรใส่บิทเทอ มันไม่ควรเกิดขึ้น เจ้าหมานี่ไม่น่าจะแสดงท่าทางแบบนั้นออกมากับคนที่มันเคยออดอ้อนก่อนหน้านี้คาเลนกลอกมองภาพตรงหน้าอย่างพินิจ แล้วเหลือบกลับมามองแขนใหญ่ที่ยังปิดปากเขาแน่น‘หมอนี่ตั้งใจจะทำอะไร? ตั้งใจจะช่วยหรือรู้อะไรอยู่กันแน่?’“คิก...”เสียงหัวเราะเล็กแหลมหลุดออกมาเพียงชั่วขณะ แต่นั่นทำเอาคาเลนขนลุกชันไปทั้งตัว ครั้นเห็นใบหน้าบิทเทอบิดเบี้ยวไปแวบหนึ่งคล้ายภาพหลอนปรุงแต่ง รอยยิ้มกว้างกรีดขึ้นสูงชวนน่าขนลุก ท่าทางผิดวิสัยจากปกติ นัยน์ตาเปลี่ยนจากสีฟ้าใสเป็นดำล้วนฉายแววอันตรายแฝงร้ายเล่ห์“หายไปไหนกันนะ~”
ทั้งสามคนเข้าป่าขนัดด้วยต้นไม้ใหญ่สูงบดบังแสงอาทิตย์และวิวท้องฟ้า ตลอดการเดินทางไม่มีอะไรผิดแผกมากมาย เห็นพวกสัตว์ป่าเดินผ่านไปมาเป็นครั้งคราวจนชินตา ซึ่งถ้าไม่จำเป็นพวกเขานั้นก็ไม่คิดจะยุ่งกับพวกมัน เพราะด้วยอาวุธและทรัพยากรที่จำกัด การหวังจัดการพวกมันท่าเดียวคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนอกเหนือจากเหล่าบุรุษขี่พาหนะยังมีอีกหนึ่งชีวิต ซึ่งนั่นก็คือเจ้าหมาร็อตไวเลอร์ตัวใหญ่คอยเดินตามหลัง เอาแต่สำรวจไปทั่วรวมถึงแวะเล่นกับพวกเขาอย่างกระตือรือร้น บิทเทอเหลียวมองเจ้าสี่ขาด้วยสีหน้าสงสัย จากนั้นหันกลับมาถามคาเลน“หมานั่นเป็นภูตจริงเหรอ?”“ใช่ ถึงมันจะเหมือนกับร็อตไวเลอร์ แต่ตั้งแต่ตอนอยู่บ้านจนเมื่อกี้ ฉันเห็นออร่าคำสาปออกมาจากตัวมันไม่ผิดแน่นอน” ชายผมยาวดำให้คำตอบพลางเลิกคิ้วมองฮันเตอร์อย่างสงสัย“ฉันก็นึกว่านายจะมองออกซะอีก”หนุ่มบลอนด์ขาวถอนหายใจอ่อน “ไม่ได้ถึงขั้นมองไม่ออก แต่ปกติพวกภูตเป็นมิตรกับคนที่ไหนกัน”“ก็ใช่”‘ตกใจเหมือนกันแฮะ ที่บิทเทอมองไม่
โฮ่งๆ ๆ“อะไร? แกก็ตื่นเต้นเหรอไอ้ตูบ~”คาเลนว่าพลางยืนเท้าเข่ามองเจ้าร็อตไวเลอร์พิลึกนี่วิ่งวนตรงหน้าบ้าน ดูจากสภาพแวดล้อมปลอดโปร่งและห่างไกลจากผู้คน ที่นี่คงเป็นนอกเมืองเกือบเข้าเขตป่า ชายหนุ่มออกมาสูดอากาศเพราะหลังจากโดนเข็มอาร์ลีนไปหลายเล่มก็หลับยาว ใช้เวลาเพียงคืนเดียวแผลจึงหายดีแต่ไอ้ที่ว่าดีก็ดี ไอ้ที่ว่าแย่ก็แย่ แย่คืออะไรล่ะเหรอ?เปรียบเทียบง่ายๆ คือคนเราโดนฉีดยาเข็มเล็กๆ ยังปวดแขนขนาดนั้น แต่เข็มที่เขาโดนน่ะยาวเท่าศอกแทงจนทะลุหนังไปแล้วรึเปล่าก็ไม่รู้ ดังนั้นคงไม่ต้องพูดถึงความปวดความชาเลย เพราะทั้งแขนและขาใช้การตอนนี้เหมือนมีไฟฟ้าช็อตตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ช่าง ตอนนี้เขาหายดีแล้วคาเลนนึกไปเรื่อยพลางยื่นมือไปลูบหัวหมาออดอ้อนก่อนจะกล่าว“ฉันสัญญาว่าจะไม่แย่งอาหารแกกินอีก”โฮ่ง!เขาพูดแซวตัวเอง แต่จริงๆ ส่วนหนึ่งก็แอบรู้สึกผิดนิดหน่อย ถึงจะไม่แน่ใจว่านี่มันหมาปกติจริงไหม แต่ถ้าเจ้าร็อตไวเลอร์ตัวนี้ไม่ช่วยไว้เมื่อวานนี้ เขาคงโดนอาร์ลีนแทงเข็มจนตัวพรุนไปแล้ว ขณะเล่นกับเพื่อนใหม่เพื่อนหมา ราวินกับบิทเทอก็เดิน
เฮ้อ~คาเลนซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงถอนหายใจยาว สายตามองเพดานห้องอย่างว่างเปล่า อเนจอนาถใจราวกับว่าเขากำลังทำบางอย่างพลาดไป ใช่...เขาทำพลาด พลาดมากๆ ความพลาดอันเกิดมาจากความหิวตัวเองที่เกินพิกัดอีกด้วย ระหว่างปลงจิตก็เหลียวมองข้างเตียงพบเจ้าร็อตไวเลอร์ตัวใหญ่แลบลิ้นห้อยอยู่ข้างๆ‘ไอ้หมาเวร…’คนป่วยนอนเตียงมองหมาตัวนี้อย่างระแคะระคายใจ บอกว่าความผิดหมาก็ไม่ใช่ จะโทษความหิวตัวเองก็เหมือนเป็นคนขาดความยับยั้งชั่งใจ (ในการกิน) เกินไป“เพราะแกเลยทำให้ฉันเป็นคนกินอาหารหมา... เดี๋ยวสิ?”คาเลนพูดหลังเพิ่งสังเกตบบางอย่างได้เอาตอนนี้ เขาหรี่ตาจ้องสิ่งผิดปกติที่เห็นจากตัวเจ้าหมาร็อตไวเลอร์‘คงไม่ใช่ว่าไอ้ตูบนี่...’“ช่างเถอะ ฉันคงตาฝาดแหงๆ ”เจ้าหมาเอียงหัวมองแล้วส่ายหางเดินสี่ขาออกจากห้องไป อาการเขาดีขึ้นมากแล้วแต่ยังมีไข้อ่อนๆ อยู่นิดหน่อย ใช่แล้ว เขาเห็นอะไรแบบนี้ได้ต้องเป็นเพราะไข้แน่ๆ คาเลนลุกขึ้นจากเตียงสาวเท้าออกไปยังห้องกว้าง ซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นห้องรับแขก ดูเหมือนท
ชายหนุ่มลืมตาตื่นขึ้นรับรู้ได้ว่าร่างตนนั้นหนักอึ้งเหลือหลาย ภาพพร่าๆ ที่ทอดสายตามองตอนนี้คือเพดานห้องขาวหมอง ไม่นานทัศนวิสัยก็ปรับชัดครั้นกะพริบตาอีกครั้งสองครั้ง เขานอนนิ่งครู่หนึ่งก่อนจะกลอกมองรอบๆ ตัว พบว่าราวินนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ เขา“ฉันสลบไปเหรอ?”“ครับ”อัศวินตอบกลับด้วยท่าทีเรียบเฉยเช่นเดิม“งั้นเหรอ? คงทำเอานายกับบิทเทอลำบากแย่เลยสินะ”“ใช่ แกทำ”สิ้นคำพูดนั้นจึงปรายมองตามเสียงอันคุ้นเคย คนกล่าวก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคุณพระเอกซึ่งยืนกอดอกพิงกำแพงฝั่งตรงข้ามเตียงที่เขานอนอยู่ นัยน์ตาสีฟ้าใสฉายแววไม่พึงใจไม่คิดปกปิด คาเลนซึ่งอาการยังไม่คงตัวมากเพียงหลุบมองลงอย่างรู้สึกผิดและเมื่อยล้า“ขอโทษ”“...”บิทเทอไม่ได้ตอบกลับอะไร ถึงกระนั้นถ้าสังเกตจากบรรยากาศอึมครึม เขารู้สึกได้เลยว่าตอนนี้พระเอกกำลังโกรธไม่น้อยเลยทีเดียว“ครั้งแรกเรื่องคำสาปย้อนกลับ แกไม่บอกฉันแต่ให้รามุสรู้ก็ยังพอให้อภัย แต่คราวนี้แกอาการกำลังแย่ แต่เลือกไม่บอกทั้งหมอนั่นหรือฉัน ปล่อยให้ตัวเองเป็นลมล้มพับไปแบบนั้น… ทำไม? แกอยากตายตั้







