“คุณย่าครับผมไม่อยากทำตามพินัยกรรมเลย” ทินภัทรพูดกับคุณย่าอรุณีเมื่อทนายธีระและอาวศินขับรถออกจากบ้านไปแล้ว
“ย่าก็ไม่เห็นด้วยกับพินัยกรรมนั้นเลยนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง”
“คุณย่าว่ามันมีทางอื่นที่เราจะไม่ต้องทำตามพินัยกรรมไหม”
“มันเป็นไปได้ยากคุณธีระเป็นทนายที่ตรงฉินมากๆ และท่านคงไม่ยอมแน่ๆ ถ้าหากทินจะไม่ทำตามพินัยกรรมที่คุณปู่เขียนไว้”
“ครอบครัวของปู่อำนาจที่เขาเป็นใครเหรอครับคุณย่า”
“ปู่อำนาจกับปู่สุทัศน์เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้ว ทางบ้านของปู่อำนาจเปิดร้านทองและค่อนข้างจะมีเงินช่วงนั้นปู่ของทินกำลังต้องการเงินทุนมาเปิดบริษัทก็ได้ปู่อำนาจนี่แหละที่ยื่นมือเข้ามาช่วยทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมีอะไรก็คอยช่วยเหลือกันตลอด”
“เหรอครับ”
“ใช้จ้ะ ปู่ของทินพูดกับย่าเสมอว่าถ้าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากเพื่อนรักในวันนั้นก็อาจจะไม่มีกิจการใหญ่โตเหมือนอย่างทุกวันนี้”
“แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องให้ผมไปแต่งงานกับหลานสาวของเขา ผมอยากรู้จริงๆ ว่าทำไมปู่ถึงคิดจะทำแบบนี้”
“ทานก็คงอยากจะตอบแทนบุญคุณฝั่งนั้น”
“ถ้าคุณปู่อยากจะตอบแทนบุญคุณจริงๆ คุณปู่ก็ให้เงินเขาไปก็ได้นี่ครับ เงินทองคุณปู่มีตั้งเยอะแยะหรือจะให้ที่ดินเขาสักผืนก็ยังได้เลยแต่นี่อะไรให้ผมไปแต่งงานกับหลานสาวของเขา” ยิ่งพูดทินภัทรก็ยิ่งโมโห
“แล้วทินจะเอายังไงล่ะลูกจะยอมทำตามพินัยกรรมไหม”
“ผมมืดแปดด้านไปเลยครับคุณย่าไม่รู้ว่าจะหาทางเปลี่ยนพินัยกรรมได้หรือเปล่าตอนนี้ผมยังให้คำตอบอะไรคุณย่าไม่ได้ ผมขอคิดดูก่อนนะครับ”
“ทินอย่าหาว่าย่าบังคับหลานเลยนะ ย่ารู้ว่าหลานลำบากใจกับเรื่องนี้มากๆ แต่สมบัติของคุณปู่ก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยถ้ามันไม่หนักหนาอะไรขึ้นก็แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นไม่มีลูกกับเธอหรือก็ทำให้เธอหย่าหลังจากแต่งงานครบหนึ่งปี แต่ถ้าแต่งแล้วทินกับเธอรักและเข้าใจกันและอยากจะใช้ชีวิตด้วยกันย่าก็จะไม่ว่าอะไรเลย” คุณอรุณีพูดกับหลานชายด้วยเสียงอ่อนลง
เธอเคยเจอกับหลานสาวของปู่อำนาจมาแล้วเมื่อหลายปีก่อนและคิดว่าถ้าทินภัทรได้เจอกับผู้หญิงคนนั้นเขาก็อาจจะยอมตกลงแต่งงานด้วยก็เป็นได้
“คุณย่าอยากให้ผมแต่งงานจริงๆ เหรอครับ” เขาถามทั้งที่เห็นท่าทางของท่านก็พอจะรู้คำตอบแล้ว
“ถ้าถามความเห็นของย่า ย่าก็อยากให้ทินทำตามพินัยกรรมแต่ย่าจะไม่บังคับหรอก ย่าว่าวันมะรืนนี้ลองเชิญคุณอำนาจและกับครอบครัวของเขามาทานข้าวที่บ้านเรา ทินกลับบ้านเร็วหน่อยนะมาทานข้าวที่บ้านมาทำความรู้จักกันไว้ก่อน ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงย่าจะให้ทินเป็นคนตัดสินใจอีกที”
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับคุณย่า คุณย่าคิดว่าฝั่งนั้นเขาจะยอมแต่งงานกับผมไหม”
“ย่าก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ถ้าหากเขาไม่ยอมแต่งปัญหาก็จะเกิดขึ้นแน่ๆ ผมว่าพินัยกรรมนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะ คุณปู่บอกให้ผมต้องแต่งงานกับหลานของปู่อำนาจแล้วถ้าเกิดหลานของปู่อำนาจไม่ยอมแต่งงานกับผมขึ้นมาผมไม่ต้องเสียมรดกของคุณปู่ไปฟรีๆ เหรอครับคุณย่า”
“นั่นสินะย่าก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยเพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำให้ฝ่ายนั้นยอมแต่งงานกับทินด้วยนะ”
“ยิ่งพูดผมยิ่งปวดหัวครับคุณย่า”
“ย่าเองก็ปวดหัวมากๆ เหมือนกัน”
“เย็นนี้ผมขอออกไปดื่มกับเพื่อนนะครับคุณย่า คิดว่าคงไม่กลับมานอนที่นี่”
“ไม่มานอนที่นี่เราจะไปนอนที่ไหนล่ะคงไม่ไปนอนห้องผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม”
“ใครเขาจะทำแบบนั้นครับย่า ผมจะไปนอนที่คอนโดนั่นแหละ ตอนเช้าตื่นไปทำงานจะได้ใกล้หน่อย”
“ถ้าอย่างงั้นก็ตามใจขับรถก็ระวังด้วยนะ”
“ครับคุณย่า”
หลังจากรับประทานอาหารเย็นกับคุณย่าอรุณีแล้วทินภัทรก็อาบน้ำแต่งตัวและโทรศัพท์นัดเพื่อนให้ไปเจอกันที่ผับซึ่งพวกเขาไปใช้บริการเป็นประจำ
ชายหนุ่มไปถึงที่ผับเป็นคนแรกเขาเดินไปโซนวีไอพีชั้นสองจากนั้นก็นั่งดื่มรอเพื่อนอยู่ตามลำพัง ไม่นานนักเพื่อนของเขาอีกสองคนก็เดินขึ้นมา
“เฮ้ย! ทำไมนั่งอยู่คนเดียวไม่ได้ไม่เรียกเด็กมานั่งด้วยล่ะ” ภูวเดชแปลกใจเพราะปกติเวลามานั่งดื่มเพื่อนจะเรียกเด็กของทางร้านมาคอยชงเครื่องดื่มให้เสมอ
“ฉันมีเรื่องจะปรึกษาพวกนายสองคนน่ะ” เขาอยากถามความเห็นของเพื่อนว่าจะเอายังไงกับพินัยกรรม
“เรื่องอะไรเรื่องพินัยกรรมใช่ไหมล่ะ” อรรณพซึ่งเป็นลูกชายของคุณธีระถามอย่างรู้ทัน
“เออก็เรื่องนั้นแหละนายก็รู้ข้อความในพินัยกรรมด้วยใช่มั้ยล่ะ”
“รู้สิ พ่อฉันเพิ่งบอกตอนที่กลับมาจากบ้านนายนั่นแหละว่าแต่นายจะเอายังไงต่อล่ะ”
“เดี๋ยวก่อนนะ นี่จะคุยกันแค่สองคนใช่ไหมเล่าให้ฉันฟังก่อนสิว่ามันเรื่องอะไรแล้วพินัยกรรมของใคร”
“ก็พินัยกรรมของปู่ไอ้ทินน่ะสิ”
“นี่คุณปู่ยกสมบัติให้นายทั้งหมดเลยเหรอ”
“ใช่ปู่รักฉันมากเลยว่ะ ท่านก็เลยยกสมบัติให้ฉันทั้งหมด” ทินภัทรพูดแล้วหัวเราะก่อนจะยกแก้วเหล้าข้างหน้าขึ้นดื่ม
“ก็ดีแล้วนี่ได้สมบัติทั้งหมด แล้วทำไมหน้านายดูเครียดๆ ล่ะทิน”
“ก็ในพินัยกรรมระบุไว้ไงว่าถ้าไอ้ทินถิ่นมันอยากได้สมบัติทั้งหมดมันก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณปู่หาไว้ให้และมีลูกกับลูกผู้ชายกับเธอ หรือถ้าไม่มีลูกด้วยกันก็จะต้องแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันห้าปีแล้วสมบัติทุกอย่างของคุณปู่ก็จะเป็นของไอ้ทิน แต่ถ้าไอ้ทินมันไม่ทำตามคุณปู่ท่านก็จะยกสมบัติทั้งหมดให้กับฝ่ายหญิง”
“เฮ้ยอย่าไปยอมนะทินปู่นายสมบัติตั้งกี่พันล้านจะยกให้คนอื่นได้ยังไง”
“ก็เพราะเหตุผลนี้ไงฉันถึงต้องเครียดและไม่รู้จะทำยังไง”
“ไม่เห็นจะต้องคิดมากอะไรเลย นายก็รีบแต่งงานจากนั้นก็จัดการปั๊มลูกแค่นั้นเองพอลูกคลอดก็เลิกกับเธอซะมันง่ายมากเลยนะ”
“ไอ้พูดน่ะมันพูดง่ายแต่มันทำยากนะสิ ตอนนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่ฉันจะต้องแต่งงานด้วยหน้าตาเป็นยังไง”
“นี่ไม่เคยเจอกันเลยเหรอ”
“ไม่หรอกแต่อีกสองวันข้างหน้าคุณย่าจะนัดมาเจอ”
“ฉันหวังว่าหน้าตาเธอคงสวยถูกใจนายนะทิน” ภูวเดชให้กำลังใจเพื่อน
“ณพนายเคยเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ไหม”
“ไม่เคยเห็นหรอกคุณพ่อบอกว่าเธอไปเรียนที่ต่างประเทศเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน”
“เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกแบบนี้ฉันว่าไอ้ทินคงได้ของมือสองแล้ว เผลอๆ ฝั่งนั้นอาจจะย้อมแมวขายก็ได้”
“เรื่องนั้นฉันไม่สนใจหรอกภู สมัยนี้หาบริสุทธิ์ยากจะตาย แต่ที่สนใจก็คือเธอจะหน้าตาเป็นยังไงหุ่นเป็นแบบไหน ต่างหากล่ะถึงแม้จำเป็นจะต้องแต่งงานกันจริงๆ ก็ขอคนที่หน้าตาๆ หุ่นดีๆ หน่อยก็แล้วกัน”
“หน้าตาดีแบบนั้นพอได้ไหมวะ” ภูวเดชพยักหน้าไปทางด้านล่างซึ่งตอนนี้ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามากับกลุ่มเพื่อนเธอดูเด่นสะดุดตากว่าทุกคน
“โอ้โหถ้าได้แบบนั้นนะกูจะปั๊มลูกเช้าปั๊มลูกเย็นเอาให้ท้องตั้งแต่เดือนแรกกันเลยทีเดียว” ทินภัทรมองผู้หญิงที่เพื่อนบอกด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย เธอคนนั้นหุ่นดีตรงใจเขามากผิวขาวขนาดมองไกลๆ ยังรู้สึกได้เลยว่ามันเนียนนุ่มน่าสัมผัส รูปร่างของเธอก็สูงโปร่งแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้หญิงตั้งมากมายเธอก็ยังโดดเด่นจนเขาละสายตาไม่ได้เลย
มญชุ์ชัญญามองหน้าทินภัทรเธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง“ชัญญ่าของพี่น่ารักที่สุด”ทินภัทรกระซิบเบาๆ ก่อนจะกดริมฝีปากร้อนลงบนเรียวปากอิ่มอย่างแผ่วเบา ปลายลิ้นร้อนไล้ไปบนกลีบปากนุ่มที่เม้มเข้าหากันแน่นแต่ไม่นานก็เผยอออกเพราะมือร้อนเลื่อนมากอบกุมหน้าอกอวบอิ่มเคล้นคลึงจนหญิงสาวรู้สึกเสียวซ่านและเผยอปากเปิดโอกาสให้เขาส่งปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กปลายลิ้นร้อนตวัดไล่ต้อนปลายลิ้นเล็ก เมื่อเธอพยายามหลบหลีกก็กลายเป็นหยอกเย้ากระตุ้นให้เขาเปลี่ยนจากจูบหวานเป็นจูบที่เร่าร้อนและหนักหน่วงมากขึ้น ร่างกายของมญชุ์ชัญญาอ่อนระทวยไปกับจูบรสที่ชายหนุ่มมอบให้ หญิงสาวปล่อยกายปล่อยใจไปกับอารมณ์พิศวาสที่เขาปลุกเร้าขึ้นอย่างเต็มที่มญชุ์ชัญญาคล้องแขนไปบนลำคอแกร่งจูบตอบเขาไปตามอารมณ์ความรู้สึกแม้จะเคยจูบกับเขาแค่ไม่กี่ครั้งแต่ก็เรียนรู้จากการกระทำของเขาได้เป็นอย่างดี“จูบเก่งขึ้นแล้วนะ”ชายหนุ่มผละจูบออกแล้วกระซิบจากนั้นก็กดจูบลงไปอีกครั้งอย่างหิวกระหายเพราะตั้งแต่กลับมาจากเสม็ดก็ยังไม่ได้ใกล้ชิดกับมญชุ์ชัญญาเลยสักครั้งหญิงสาวกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ทินภัทรมอบให้ ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นใหญ่หย
มญชุ์ชัญญาเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนก็เห็นว่าตอนนี้สามีของเธอนั้นทำงานเสร็จแล้วเขานั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ในห้องนอนในมือถือแก้วเครื่องดื่ม เมื่อเห็นแบบนั้นมญชุ์ชัญญาก็ไม่อยากจะเข้ากันเลยเพราะยังรู้สึกเข็ดกับเรื่องคืนนั้นตั้งแต่กลับมาจากสมุยเธอกับทินภัทรก็ยังไม่เคยนอนด้วยกันอีกเลย แม้ว่าจะนอนเตียงเดียวกันแต่มญชุ์ชัญญาก็บอกเขาว่าตนเองยังไม่พร้อมเพราะร่างกายยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ทินภัทรก็ไม่ได้บังคับหรือทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอะไรแต่หญิงสาวก็คิดว่าเธอจะบอกเขาแบบนี้ไม่ได้ตลอด“ชัญญ่ามาดื่มด้วยกันไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ทินอยากออกไปดื่มข้างนอกกับเพื่อนไหมคะ”“ทำไมถึงอยากให้พี่ไปดื่มข้างนอกล่ะ”“ก็ตั้งแต่แต่งานพี่ไม่เคยออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเลย อยู่แต่บ้านไม่เบื่อเหรอคะ ถ้าพี่จะออกไปดื่มชัญญ่าไม่ว่าหรอกนะคะ”“ตอนนี้พี่ยังไม่อยากออกไป เอาไว้คืนไหนพี่อยากจะออกไปดื่มพี่จะบอกชัญญ่าและจะพาชัญญ่าไปด้วย”“ไปดื่มกับเพื่อนจะพาชัญญ่าไปทำไมคะ”“ทำไมจะพาไปไม่ได้ล่ะ”“ก็ถ้าพาไปด้วยพี่กับเพื่อนก็คงจะเกรงใจและคุยกันไม่สนุก ชัญญ่าไม่อยากให้พี่อึดอัด”“พี่ไม่เคยอึดอัดเลยนะ แล้วชัญญ่าล่ะอึดอัดไหมที่มาอย
กลับมาจากสมุยความสัมพันธ์ของมญชุ์ชัญญาและทินภัทรก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นทั้งสองพูดคุยกันเหมือนคู่แต่งงานปกติซึ่งคุณย่าอรุณีก็สังเกตได้เธอ จึงอยากจะให้ทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตด้วยกันตามลำพังมากขึ้นและหวังว่าเร็วๆ นี้จะมีเหลนให้อุ้มก่อนที่เธอจะอายุมากจนไม่มีแรงจะช่วยเลี้ยง“ช่วงนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างทิน” คุณย่าอรุณีถามในค่ำวันหนึ่งขณะที่ทุกคนนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก“ช่วงนี้งานไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ครับคุณย่ามีอะไรหรือเปล่า”“ถ้างานไม่ยุ่งย่าก็คิดว่าทินน่าจะหาเวลาว่างพาหนูชัญญ่าไปฮันนีมูนได้แล้วนะ นี่ก็แต่งงานกันมาเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว”“เราไปสมุยมาแล้วนะคะคุณย่า”“นั้นเขาเรียกไปฮันนีมูนที่ไหนล่ะ”“ผมก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่ยังไม่รู้ว่าจะพาไปที่ไหนชัญญ่าล่ะอยากไปเที่ยวที่ไหน”“เราไม่ต้องไปฮันนีมูนก็ได้นะคะ ชัญญ่าไม่อยากให้พี่เสียงาน”“ไม่เสียงานหรอก พี่ว่าแต่งงานกันแล้วก็ต้องมีเวลาอยู่ด้วยกัน”“ไปเที่ยวกันให้เต็มที่เลยนะเรื่องค่าใช้จ่ายย่าจะเป็นคนจัดการเอง”“ผมไม่รบกวนคุณย่าหรอกครับเรื่องนี้ให้ผมจัดการเองดีกว่า ว่าแต่ชัญญ่าเถอะมีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษหรือเปล่า ไปทั่วยุโรปไหมไป
“พี่คิดว่าชัญญ่ากำลังเข้าใจเรื่องทั้งหมดผิดนะ”“เข้าใจผิดยังไงคะ” มญชุ์ชัญญามองหน้าเขาแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา“ชัญญ่าคิดว่าเมื่อคืนพี่เมาและจำอะไรไม่ได้ใช่ไหม”“ค่ะ”“คนเมาที่ไหนเขาจะทำเรื่องแบบนั้นได้และพี่ก็ดื่มไปแค่แก้วสองแก้วเองไม่ได้เมาเลยสักนิด”“แล้วทำไมพนักงานถึงหิ้วปีกพี่กลับมาแบบนั้นล่ะ” เธอมองหน้าด้วยความสงสัย“พี่ขอโทษทีทำให้ชัญญ่าเข้าใจผิดว่าพี่เมา แต่ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้นชัญญาจะยอมให้พี่ใกล้ชิดและจะยอมนอนกับพี่เหรอ”“พี่ทินใจร้ายมาก พี่ทำร้ายความรู้สึกของชัญญ่าทำไมพี่ต้องทำแบบนั้นด้วย”“พี่ขอโทษพี่รู้ว่าพี่ผิดแล้วพี่ก็ยินดีรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น เรายกเลิกสัญญาการแต่งงานตามพินัยกรรมนะแล้วคบกันอย่างจริงจัง”“พี่ทำแบบนี้กับชัญญ่าแล้วยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอ พี่กำลังล้อเล่นความรู้สึกของชัญญ่า พี่คงสนุกมากใช่ไหม” เสียงที่พูดปนสะอื้นที่ถามออกมาทำให้ทินภัทรรู้สึกผิดมาก“ชัญญ่ากำลังเข้าใจพี่ผิดนะ พี่ไม่ได้ล้อเล่นกับความรู้สึกของชัญญ่าเลยนะ พี่รู้สึกดีกับชัญญ่าจริงๆ”“พี่พูดออกมาเพราะอยากจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหมคะ สำหรับชัญ
ทินภัทรรู้ดีว่ามญชุ์ชัญญานั้นเพิ่งนอนพักได้ไม่กี่ชั่วโมงและคิดว่าเธอน่าจะต้องการเวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้นอีกสักนิดชายหนุ่มพามญชุ์ชัญญามารับประทานอาหารเช้าที่ร้านของรีสอร์ท ขณะที่นั่งทานทินภัทรแอบสังเกตว่าวันนี้หญิงสาวดูเงียบผิดปกติและพยายามหลบสายตาของเขาตลอด ทินภัทรอยากจะพูดเรื่องเมื่อคืนแต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง เขาคงต้องเรียบเรียงคำพูดอีกนิดก่อนจะบอกกับเธอว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้เมาและจำเรื่องทุกอย่างได้ดี“ชัญญ่าทำไมวันนี้กินนิดเดียวล่ะ อาหารไม่อร่อยเหรอ ให้พี่พาไปกินร้านข้างนอกไหม”“อาหารอร่อยค่ะ ชัญญ่าไม่ค่อยจะหิวเท่าไหร่”“ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปพักที่รีสอร์ทกันดีไหม”“ค่ะ” หญิงสาวพูดแล้วลุกขึ้นเดินตามทินภัทรออกมาจากห้องอาหารของทางรีสอร์ท“กลางวันนี้ชัญญ่าอยากจะกินอาหารร้านไหน หรือไปกินอะไรคิดไว้หรือยัง”“พี่ทินคะเราเพิ่งกินมื้อเช้ายังไม่ถึงสิบนาทีพี่ถามถึงมื้อกลางวันแล้วชัญญ่าคิดไม่ออกหรอกค่ะ”“คิดไม่ออกก็ไม่เป็นไร พี่ว่าเราขับรถไปหาอะไรร้านอาหารบรรยากาศดีๆ กันดีกว่าเจอร้านไหนถูกใจเราก็แวะแล้วช่วงเย็นก็กลับเล่นน้ำที่หน้าชายหาดกันนะ อยากเล่นน้ำทะเลไหม”“อยากค่ะ” มญชุ์ชัญญามองชายหาด
มญชุ์ชัญญาเผลอครางกระเส่าเมื่อความเสียวแผ่ซ่านไปทั่วร่างสองมือจับไหล่หนาไว้แน่น อกอิ่มแอ่นเข้าหากร้อนด้วยความซ่านรัญจวนอย่างห้ามไม่อยู่ เขาดูดกินโดยไม่รู้สึกเบื่อ ท่อนเอ็นขยับเข้าออกจากเบาเป็นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หัวแม่มือเขี่ยยอดเกสรสวาทเป็นจังหวะ“พี่ทินขา ชัญญ่าเสียวเร็วกว่านี้ได้ไหม”ในที่สุดหญิงสาวก็ทนไม่ไหว เสียงกระซิบที่ข้างหูเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอยากให้เขาช่วยปลดปล่อยเสียงนั้นกระตุ้นให้ทินภัทรกระหน่ำแรงใส่เธออย่างบ้าคลั่ง สะโพกกลมกลึงส่ายร่อนรับความกับท่อนเอ็นร้อนที่กระแทกเข้าหาไปตามอารมณ์ที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้“อ่า....ดีมากชัญญ่า ตอดแรงแบบนี้พี่เสียวมากชัญญ่าของพี่เก่งที่สุด”เขาครางแหบต่ำเมื่อร่องสวาทของหญิงสาวตอดรัดอย่างแรง ทินภัทรก็รู้สึกทรมานและต้องการปลดปล่อยเป็นอย่างมาก หญิงสาวเองก็ไม่ต่างกันเลยมญชุ์ชัญญาหอบหายใจถี่ หน้าอกอวบอิ่มแอ่นโค้งปรนเปรอความหิวกระหายของชายหนุ่มด้วยความเต็มใจ เมื่อเขาทั้งกัดทั้งดูดเธอก็เกร็งสะท้านทินภัทรผละจากเต้างามแล้วจับขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดไว้บนไหล่กว้างก่อนจะกระแทกเข้าหาร่องรักอย่างดุเดือด“อื้อพี่ทิน.....”“อ่าส์ ตอดแรงแบบนี้ถึงใจพี่ที