หน้าหลัก / รักโบราณ / พิศวาส 3000 ปี / ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.3

แชร์

ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.3

ผู้เขียน: จ้าวฮุ่ยอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-06 19:15:08

ในขณะเดียวกัน

ขบวนเสด็จถูกหยุดกลางคันเมื่อได้ยินพระสุรเสียงของชินอ๋องทรงมีพระบัญชาออกมาเช่นนั้น ภายในรถม้าหน้ากากทองคำที่ทรงเตรียมไว้ถูกนำมาสวมครอบพระพักตร์หล่อเหลาของจอมมารชินซาง ครอบพระพักตร์ตั้งแต่ส่วนบนของหน้าผากทั้งหมดยาวครอบคลุมพระพักตร์ซีกซ้ายจรดปลายคาง

เผยให้เห็นส่วนพระพักตร์หล่อเหลาทางซีกขวาเท่านั้น ซึ่งลักษณะของหน้ากากดังกล่าวช่างออกแบบเหมือนกับของเฉินวาวาที่กำลังสวมอยู่ในขณะนี้เช่นกัน แตกต่างตรงที่ลวดลายบนหน้ากากเท่านั้นซึ่งหน้ากากของพระองค์สลักลายเป็นเปลวไฟอัคคี

 พระวรกายสูงใหญ่ในฉลองพระองค์ชุดเกราะของจอมทัพสีดำทะมึน ค่อยๆ ก้าวออกมาจากรถม้า ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่กลางเมืองท่ามกลางประชาชนทั้งสองฝั่งฟากถนน ที่กำลังตกตะลึงเมื่อได้เห็นชินอ๋องหรือเทพเจ้าสงครามตัวเป็นๆ ที่ต่างให้ความเคารพและเทิดทูน และไม่ต้องมีใครบอก ประชาชนรวมไปถึงผู้คนจากต่างแคว้นพากันทรุดกายลงนั่งกับพื้นถวายความเคารพผู้ปกครองของตนทันที

“ถวายพระพรพ่ะย่ะค่ะ!” 

เสียงประชาชนต่างเอ่ยออกมาเป็นประโยคเดียวกัน ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าพากันชื่นชมพระสิริโฉมของชินอ๋อง ที่พากันยกย่องให้เป็นเทพสงครามกันอย่างเอ็ดอึง

พระวรกายสูงใหญ่ทะมึนกว่าบุรุษปกติทั่วไปในฉลองพระองค์ชุดเกราะสีดำ เกศาสีเงินยวงถูกเกล้าขึ้นสูงม้วนเป็นมวยพร้อมครอบเครื่องประดับพระเกศาสัญลักษณ์ของเชื้อพระวงศ์เสียบด้วยปิ่นปักผมทำจากหยกสูงค่า พระพักตร์ถูกครอบด้วยหน้ากากทองคำ

ทั้งนี้เพื่อปกปิดพระพักตร์จริงมิให้ผู้ใดพานพบ เพื่อความปลอดภัยของพระองค์มิให้ศัตรูจากต่างแคว้นจดจำพระพักตร์จริงได้ ด้วยทรงยกทัพออกตีเมืองมาไว้ในความครอบครองของเทียนโจวมานับไม่ถ้วนย่อมก่อให้เกิดความแค้นอย่างมากมายนั่นเอง 

ทว่าถึงแม้จะปกปิดเพียงใด ราวกับว่ายิ่งซ่อนเร้นมากเพียงใด ยิ่งทำให้พระองค์น่าค้นหามากยิ่งขึ้น อิสตรีน้อยใหญ่ทั้งในแคว้นและมาจากต่างแคว้นที่เดินทางมาเที่ยวชมเทศกาลลอยโคมประทีปต่างพากันยืนมองพระองค์ด้วยความหลงใหลไปตามๆ กัน เสียงชื่นชมดังออกมาอย่างไม่ขาดสาย

ในขณะที่จอมมารชินซางทรงพระดำเนินไปยังบริเวณจุดที่เฉินวาวาเคยยืนอยู่เมื่อครู่ที่ผ่านมา พระองค์ทรงทอดพระเนตรไปทั่วบริเวณเพื่อสอดส่ายค้นหา ร่างระหงของบุรุษในชุดสีขาว พระวรกายสูงทะมึนก้มลงรับสั่งถามชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพระพักตร์

“เจ้าพบเห็นบุรุษชุดขาวร่างบอบบาง สวมหมวกที่มีผ้าคลุมสีขาวเช่นเดียวกัน ยืนอยู่แถวนี้หรือไม่” รับสั่งพลางทอดพระเนตรชายผู้นั้นเขม็ง

ชายคนดังกล่าวคือคนเดียวกันที่ยืนสนทนากับเฉินวาวาเมื่อครู่ที่ผ่านมา ใบหน้าอวบอูมฉีกยิ้มกว้างทันทีครั้นได้ยินชินอ๋องรับสั่งถามตนเช่นนั้น

“มะ... มะ... มีบุรุษชุดขาวตามลักษณะยืนอยู่เมื่อครู่ที่ผ่านมาพ่ะย่ะค่ะ” ชายคนดังกล่าวกราบทูลกลับไป

พระเนตรสีนิลกาฬฉายแววยินดีขึ้นมาทันทีครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น

“แล้วตอนนี้บุรุษผู้นั้นอยู่ที่ไหน!” รับสั่งถามกลับไปทันที

“มะ... มีคนพาออกไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” ครั้นจอมมารทรงได้ยินเช่นนั้น พระพักตร์หันกลับไปทอดพระเนตรทั่วบริเวณดังกล่าวโดยรอบ จอมมารสามารถทอดพระเนตรไม่ว่าระยะไกลเพียงใดก็ทอดพระเนตรได้อย่างชัดเจนราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เพียงตรงหน้าพระพักตร์ของพระองค์เท่านั้น 

ทว่าไม่ว่าจะทอดพระเนตรไปทิศทางใดกลับไม่เห็นแม้เพียงเงาพาดผ่าน ราวกับว่ากำลังเลือนหายไปฉันใดก็ฉันนั้น ความรู้สึกกำลังบอกว่านางกำลังจะหายไปจากบริเวณนี้และพระองค์จะต้องค้นหานางให้ถึงที่สุด พระพักตร์หันกลับไปทอดพระเนตรทางเข้าออกของเมืองทันใด พระหัตถ์ยกขึ้นพร้อมชี้นิ้วพระหัตถ์ไปยังทิศทางดังกล่าว

“ปิดประตูเมือง!!!” จอมมารแผดพระสุรเสียงดังกึกก้องขึ้นมาทันที

“ปิดประตูเมือง!!!”

“ปิดประตูเมือง!!!”

“ปิดประตูเมือง!!!”

เสียงของกองทหารอารักขาขานรับกันเป็นทอดๆ พลางส่งเสียงออกมาอย่างพร้อมเพรียง ดังยาวไปไกลพร้อมคำสั่งปิดประตูเมืองถูกส่งต่อถ่ายทอดไปจนถึงประตูที่จะเข้าสู่เมืองหลวงเทียนฮุยด้วยเช่นกัน

“ปัง! ปัง! ปัง!” ประตูเมืองทิศตะวันออกและทิศตะวันตกถูกปิดลงทันทีตามคำสั่งของจอมมาร

ประชาชนชาวเมืองเทียนจิ้นและจากต่างแคว้นที่เดินทางมาชมเทศกาลลอยโคมประทีปต่างพากันตกใจกันถ้วนหน้าเมื่อได้ยินพระบัญชาของชินอ๋องให้ปิดประตูเมืองทั้งขาเข้าและขาออกจนหมด พร้อมสุรเสียงมีรับสั่งดังขึ้น

“พวกเจ้าไม่ต้องตกใจ! ข้ากำลังค้นหาคนสำคัญที่สุดในชีวิต หากแม้นผู้ใดพบเห็นบุรุษร่างบอบบางสวมอาภรณ์ขาวและคลุมหมวกผ้าสีขาว รีบนำความไปแจ้งเบาะแสได้ที่จวนของข้า รางวัลสำหรับผู้ให้เบาะแสหนึ่งร้อยใบไม้ทองคำ!”

สิ้นพระสุรเสียงชาวเมืองต่างพากันเอ็ดอึงกันอย่างถ้วนหน้ากับรางวัลก้อนใหญ่

“โอ้โฮ หนึ่งร้อยใบไม้ทองคำ!!!”

 แต่ละคนรีบกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณและเริ่มมีปฏิกิริยาค้นหาบุรุษที่มีลักษณะตามรับสั่ง ในขณะที่จอมมารชินซางส่งสัญญาณให้กองทหารอารักขาของพระองค์เช่นกัน

“ค้นให้ทั่ว!” รับสั่งสุรเสียงดังก้อง

“พ่ะย่ะค่ะ!” กองทหารอารักขาขานรับเร็วพลัน พร้อมแยกย้ายออกค้นหาลักษณะของบุรุษตามรับสั่ง

ท่ามกลางสายตาขององครักษ์ลู่เหอ ที่ยืนปะปนสังเกตการณ์กับชาวเมืองเทียนจิ้นอยู่ในเวลานั้น

“ชินอ๋องมีรับสั่งให้ค้นหาบุรุษสวมอาภรณ์ขาว คลุมหมวกผ้าขาวทำไมกันนะ ทรงล่วงรู้อะไรมาหรือไรจึงมีรับสั่งเช่นนั้น ลักษณะของบุรุษก็ช่างตรงกับองค์หญิงเสียนี่กระไร” ลู่เหอรำพึงออกมาเบาๆ ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นมาทันที

“แย่แล้ว! นั่นมันลักษณะขององค์หญิง! ไม่ได้การแล้ว!” ร่างสูงขององครักษ์หนุ่มรีบเดินหนีออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว สายตารีบควานหาร้านเสื้อผ้าของบุรุษอย่างเร่งด่วน

ครั้นสายตาเหลือบไปเห็นร้านขายเสื้อผ้าของบุรุษฝั่งตรงกันข้าม ร่างสูงรีบข้ามถนนเดินตรงไปยังร้านดังกล่าวเพื่อซื้อเสื้อผ้าบุรุษชุดใหม่โดยเร็ว

“เถ้าแก่! ขอชุดเดินทางลำลองพร้อมหมวกผ้าคลุมสีอะไรก็ได้ยกเว้นสีขาวมาหน่อยสักสองสามชุด!” ลู่เหอรีบสั่งรายการที่ตนอยากได้อย่างรวดเร็ว

“อ่อ! ได้ขอรับคุณชาย...ว่าแต่เอาขนาดของท่านหรือขนาดไหนดี!” เถ้าแก่ร้านถามกลับไป

“ขนาดไหนอย่างนั้นเหรอ!” ลู่เหอกล่าวพร้อมพลางกวาดสายตาไปทั่วร้านเพื่อหาขนาดของคนที่มีรูปร่างและความสูงใกล้เคียงกับองค์หญิงของตน ก่อนจะเห็นลูกจ้างสาวของร้านกำลังเดินเข้ามาพอดี

“นั่น! ขนาดเท่าแม่นางผู้นั้น” กล่าวพร้อมชี้มือไปทางลูกจ้างสาวคนดังกล่าว

เถ้าแก่ร้านมองตามไปยังทิศทางที่ลู่เหอชี้ไปทันที ก่อนจะนิ่วหน้าเข้าหากัน

“ขนาดเล็กสุดแบบนั้นมิรู้ว่าจะยังมีไหม บุรุษร่างเล็กบอบบางเช่นนั้นร้านของข้าไม่ค่อยมีแต่จะลองหาดู” เถ้าแก่คนดังกล่าวตอบกลับมา

“เจ้ามีเท่าไรก็เอามาเถิด... ข้ามีเวลาไม่มาก...เร็วๆ เข้า!” ลู่เหอรีบกล่าวตัดบท

“ดะ... ได้! ท่านรอสักครู่... อะไรจะรีบขนาดนั้น” ประโยคสุดท้ายเถ้าแก่ร้านบ่นพึมพำ

ในขณะเดียวกัน

ท่ามกลางสายตาของผู้ติดตามที่เห็นองค์หญิงของตนเลือนหายไปต่อหน้าต่อตาเช่นนั้น แต่ละคนตกใจทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันทีเมื่อพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว

“องค์หญิงหายไปไหน! พวกท่านเห็นเหมือนกับข้าไหม! เห็นไหม!” มู่อิงรีบหันกลับไปถามองครักษ์ทั้งหกนาย

“พวกข้าก็เห็นเหมือนกับเจ้านั่นแหละมู่อิง... เป็นไปได้อย่างไรที่องค์หญิงทรงหายไปเช่นนั้น พระนางทรงมีวิชาเร้นกายอย่างนั้นหรอกรึ” หนึ่งในทหารองครักษ์เอ่ยถามมู่อิงกลับมา

“ถามแบบนี้แล้วคิดว่าข้าจะตอบพวกท่านได้อย่างนั้นหรอกเหรอ หรือว่าพวกเราตาฝาดกันไปเอง องค์หญิงคงพระดำเนินเร็วกว่าพวกเรากระมัง”

“เห็นพร้อมกันว่าทรงหายไปต่อหน้าต่อตา แล้วยังจะบอกว่าทรงพระดำเนินหายไปได้ยังไงมู่อิง ไม่ได้การแล้วต้องรีบรายงานท่านลู่เหอ” องครักษ์คนดังกล่าวเอ่ยขึ้นมาทันทีก่อนจะเหลือบสายตาไปเห็นร่างสูงของหัวหน้าตนกำลังวิ่งตรงมาหาเข้าให้พอดี

ครั้นลู่เหอวิ่งมาถึงองครักษ์หนุ่มกวาดสายตามองหาองค์หญิงของตนทันใด

“องค์หญิงไปไหน! เหตุใดจึงมีแต่เพียงพวกเจ้าที่พากันยืนอยู่ตรงนี้เท่านั้น!” องครักษ์หนุ่มเอ่ยถามก่อนจะได้ยินเสียงของมู่อิงเอ่ยตอบกลับมา

“อะ... องค์หญิงหายไปแล้วเจ้าค่ะ”

“อะไรนะ!” ลู่เหอร้องเสียงหลงออกมาทันที

“พวกเจ้าอารักขากันอย่างไรจึงพลัดหลงองค์หญิงไปได้ แยกย้ายกันค้นหาเร็วเข้า!” ลู่เหอสั่งการออกไปทันที

ทว่าบรรดาองครักษ์ทั้งหกนายและมู่อิงต่างหันกลับมามองหน้ากันเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“จะไปตามองค์หญิงที่ใดได้เล่าเจ้าคะ พระนางทรงเลือนหายไปต่อหน้าพวกข้าทั้งหมดนี้เลย ไม่ได้พลัดหลงแม้แต่น้อยและพวกข้าก็เห็นพร้อมกันไม่ได้ตาฝาดแต่อย่างใด เพิ่งจะรู้ว่าองค์หญิงทรงมีวิชาเร้นกายด้วย จึงเร้นพระวรกายหายไปได้เองเช่นนี้” นางกำนัลมู่อิงกล่าวรายงาน

และนั่นทำให้องครักษ์ลู่เหอถึงกับยืนนิ่งไปโดยพลันครั้นได้ยินเช่นนั้น

ในขณะที่คำพูดของผู้ติดตามทั้งหมดเฉินวาวาที่อยู่ในร่างล่องหนซึ่งมิได้เดินจากไปไหนแม้แต่น้อย ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ถึงกับยืนงงเป็นไก่ตาแตกไปเลยทีเดียวครั้นได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวก้มลงมองเรือนกายของตัวเองซึ่งบัดนี้โปร่งแสงเลือนรางส่องประกายระยิบระยับ

“อะไรกันนี่! ทำไมฉันล่องหนหายตัวได้จริงๆ พวกเขาไม่เห็นเราอย่างนั้นเลยเหรอ... ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ แค่คิดเล่นๆ ก็ดันเป็นจริงได้ อะไรมันจะขนาดนั้น... ฝันไปหรือเปล่าเฉินวาวา” หญิงสาวกล่าวพร้อมยกมือบิดเข้าที่ต้นแขนของเธออย่างแรง

“อูยยยย... เจ็บวุ้ย! ไม่ได้ฝันแฮะ แต่มันคือเรื่องจริง” หญิงสาวยืนรำพึงรำพันก่อนจะฉีกยิ้มกว้างพร้อมดวงตาเจ้าเล่ห์ส่องประกายวาววับขึ้นมาทันที

“ว้าว! แบบนี้ก็ดีน่ะสิอยากไปไหนแค่คิดก็เลือนหาย” หญิงสาวรำพึงอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องแต่แล้วหน้าที่เบิกบานเมื่อครู่ที่ผ่านมาแปรเปลี่ยนไปโดยพลัน

“เฮ้ย! ไม่ได้สิ แล้วถ้าเกิดล่องหนแบบนี้ไปตลอดมันก็เหมือนผีชัดๆ ไม่ได้! ไม่ได้! ฉันไม่อยากเป็นแบบนั้นถึงจะอึดอัดเพราะมีแต่คนคอยเดินตามอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ดีกว่าอยู่คนเดียวเพียงลำพังในยุคโบราณที่ฉันไม่รู้จักใครเลยแบบนี้ ไม่ได้การแล้วทำไงดี ถึงจะหายจากการล่องหนได้!” หญิงสาวพยายามครุ่นคิดหาวิธีเป็นการใหญ่ก่อนจะเบิกตากว้าง

“คิดออกแล้ว! ถ้าเช่นนั้นก็จะต้องลองพิสูจน์ว่าเพียงแค่คิดก็จะได้อย่างที่นึกเอาไว้ ถ้าเช่นนั้น…” ยังมิทันที่เธอจะกล่าวสิ่งใดออกไปคณะผู้ติดตามของหญิงสาวก็ต้องแตกฮือทันที

กองทหารอารักขาหลายสิบนายกำลังเดินตรงเข้ามาใกล้จุดที่องครักษ์ลู่เหอและผู้ติดตามของเฉินวาวา เป็นเหตุให้หัวหน้าองครักษ์ต้องแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าทันที

“นี่พวกเรา! คืนนี้พากันค้างคืนที่โรงเตี๊ยมนี้กันเถอะ พอพลบค่ำค่อยออกมาลอยโคมประทีป” ลู่เหอแสร้งเอ่ยเสียงดังขึ้นมาทันทีพร้อมรีบเดินนำหน้าก่อนจะส่งสัญญาณให้ทุกคนก้าวเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม

“อ้าวเฮ้ย! รอกันด้วยดิ! อย่าเพิ่งทิ้งกันไป!” หญิงสาวตะโกนไล่หลังพลางวิ่งตามไปติดๆ 

ร่างโปร่งแสงเลือนรางเคลื่อนไหวไปมาอยู่ตรงกลางถนน ในขณะที่จอมมารหนุ่มทรงยืนสูงทะมึนทอดพระเนตรไปโดยรอบอยู่ตลอดเวลาและแล้วสายพระเนตรพลันกระทบเข้ากับกลุ่มขององครักษ์ลู่เหอที่กำลังเดินข้ามถนนตรงเข้าไปในโรงเตี๊ยมโดยมีร่างล่องหนของเฉินวาวาเดินตามรั้งท้าย

ทว่าพระองค์ไม่สามารถทอดพระเนตรร่างล่องหนของคู่ชะตาที่ทรงพยายามค้นหามาโดยตลอด พระเนตรสีนิลกาฬทอดพระเนตรผ่านไปยังทิศทางอื่นหากปานไฟอัคคียังสถิตอยู่กับพระองค์ เฉินวาวาไม่มีทางรอดพ้นจากสายพระเนตรไปได้อย่างแน่นอน พระวรกายสูงใหญ่ทะมึนยังคงยืนนิ่งอยู่กลางเมืองเช่นนั้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.5 (ตอนอวสาน)

    พระราชวังจำลองพิธีอภิเษกสมรสในซีรีส์เรื่องดัง ถ่ายทำฉากกราบไหว้ฟ้าดินระหว่างนางมารร้ายตัวเอกของเรื่องและชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินวาวาด้วยความรู้สึกยากเกินจะบรรยายออกมาได้ ด้วยทุกอย่างตรงกับพิธีที่การทุกอย่างในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่โดยรอบ บรรดาข้าราชบริพารที่ยืนประจำจุดของตน รวมไปถึงตำแหน่งที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนเหมือนกันทุกอย่าง“อะ... อะไรกันนี่!” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวโบราณในพิธีเตรียมพร้อมเข้าฉากถึงกับยืนตะลึงไปโดยพลันในขณะที่อู๋ชิงเหยียนก็มีอาการไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ไม่คาดคิดว่าพิธีแต่งงานในยุคโบราณจะยิ่งใหญ่อลังการถึงขนาดนี้“โอ้โฮ! วาวาเธอนี่โคตรโชคดีเลยให้ตายสิ! ได้เข้าฉากแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ราวกับว่าเข้าไปมีชีวิตในซีรีส์เรื่องนี้เลยนะ” แม่ผู้จัดการสาวกล่าวออกมาตามความรู้สึก“ฉันเคยเข้าพิธีแบบนี้มาแล้วกับชินอ๋องแห่งเทียนโจว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ฉันจะได้เข้าพิธีแบบนี้อีก แตกต่างตรงที่คนที่ฉันจะเข้าพิธีในครั้งนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องของฉัน”

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.4

    งานแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรเฉินวาวานั่งเงียบงันอยู่บนรถ SUV ของบริษัทฯ ซึ่งเธอเดินทางมาร่วมงานในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JCS GOLD MASTER ใบหน้างดงามลึกล้ำถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเฉิดฉายน่ามองชวนหลงใหลอย่างยิ่งยวด หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีแต่ความหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากแม่ผู้จัดการสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกลุ้มใจกับอาการของเพื่อนรัก“วาวา! ถึงงานแล้วไม่ลงเหรอ นั่งเหม่อมาตลอดทาง ไม่ใช่สิ นั่งเหม่อมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแบบนี้จะสองอาทิตย์แล้วนะ ถามจริงเถอะ! เมื่อไรอาการแบบนี้จะหายไปจากตัวแกเสียที” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อนรัก“ไม่หาย! ไม่มีใครรักษาฉันหายหรอกเหยียนเหยียน ป่วยกายรักษาด้วยยาหายได้ แต่ป่วยใจคนที่รักษาได้คือคนรักของฉันเท่านั้น มีเพียงท่านอ๋องคนเดียวที่ทำได้” กล่าวพร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที“แปะ!” น้ำตาร่วงหล่นลงมาทันใด“อั้ยยะ! อย่าร้องนะ! อย่าร้อง... ห้ามร้องเด็ดขาดเลย จะต้องเข้าไปในงาน

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.3

    มณฑลเสฉวน ณ โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องคนไข้พิเศษพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารชินซางยังคงอยู่ในห้วงญาณหลับใหลมาโดยตลอด พระพักตร์หล่อเหลาตราตรึงรัญจวนจิต รับกับขนตางามงอนเป็นแพยาวสวย พระนาสิกโด่งสันสวยขึ้นเป็นสันคม ภายใต้เกศาสีเงินยาวสยายเต็มหมอนที่กำลังถูกนางพยาบาลใช้แปรงหวีพระเกศาสีเงินยาวสยายอย่างเบามือ“ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีกเลยเนอะ พระเอกบางคนยังหล่อสู้ไม่ได้เลย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงมีเส้นผมสีบลอนด์เงินแบบนี้ สีเงินสม่ำเสมอไม่ใช่สีขาวเพราะผมหงอกก่อนวัยด้วย แถมสูงเกือบสองเมตร หุ่นก็ดี๊ดี... กล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วนเลย เช็ดตัวให้ทีไรมีความสุขจริงๆ เลยนะเธอ” นางพยาบาลสองคนที่ช่วยกันดูแลคนไข้ปริศนา ต่างคุยกันอยู่ใกล้เตียงด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่งยวดตั้งแต่จอมมารถูกช่วยขึ้นจากน้ำตกในอุทยานแห่งชาติที่เดียวกันกับเฉินวาวา หากแต่พบพระองค์ห่างไกลออกไปนอนหมดสติอยู่ทางต้นน้ำ หลังจากนั้นได้ถูกช่วยจากเจ้าหน้าที่อุทยานนำส่งโรงพยาบาลเฉิงตู หลังพระชายาเข้าทำการรักษาไปแล้วหนึ่งวัน นับ

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.2

    ร่างระหงตรงดิ่งเข้าสวมกอดนางพยาบาลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ในขณะที่อีกฝ่าย อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนางร้ายหน้าสวยจึงรู้จักชื่อของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“คุณเฉินวาวารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ” นางพยาบาลที่เหมือนมู่อิงราวเป็นคนเดียวกันถามทำลายความเงียบหญิงสาวที่กำลังสวมกอดด้วยความดีใจ ยิ้มกว้างพร้อมหยาดน้ำตาก่อนจะปล่อยร่างนั้นออกจากอ้อมกอดของเธอเพื่อสำรวจใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ครั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนมู่อิงในยุคอดีตทำให้เฉินวาวายิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้นไปกว่าเดิม“ขอโทษด้วยคะ พอดีคุณเหมือนกับคนที่ฉันรู้จักมากๆ เธอมีชื่อและหน้าตาเหมือนกับคุณพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน ก็เลยทำให้นึกถึงและคิดถึงมากด้วย”หญิงสาวตอบพลางส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาทันทีนางพยาบาลสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับมือเรียวสวยของนางร้ายที่เธอชื่นชอบ พร้อมเอ่ยปลอบโยน“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคนที่คุณรู้จักถ้ารู้ว่าร้องไห้เพราะคิดถึงแบบนี้จะไม่สบายใจเอาได้ ร้องไห้มากตาบวมเดี๋ยวไม่สวยนะคะ”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีเม

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.1

    ยุคอนาคตมณฑลเสฉวน ณ.โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องพิเศษบัดนี้ร่างงามระหงของเฉินวาวา กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาล หญิงสาวได้กลับคืนสู่ยุคอนาคต และยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เธอหลับใหลตั้งแต่อยู่ในอดีตกาลจนกระทั่งกลับมาสู่อนาคตอย่างไม่คาดฝันร่างของเธอถูกพบอยู่บริเวณน้ำตกในอุทยานแห่งชาติในชุดเกราะและสวมหน้ากากทองคำอยู่ด้วยในขณะนั้น แผลจากคมธนูที่ถูกฮ่องเต้แคว้นเยว่ยิงปักถูกร่างนั้น ถูกเย็บและได้รับรักษาเป็นอย่างดีจากแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่การพบนางร้ายหน้าสวยเฉินวาวาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหญิงสาวหายสาบสูญไปนานกว่าหนึ่งเดือน อันเป็นระยะเวลาของโลกอนาคตที่ดำเนินอยู่ ซึ่งแตกต่างจากยุคอดีตที่จากมากาลเวลาในยุคอดีตผ่านไปแล้วหนึ่งปีในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนักข่าวต่างรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น เมื่อข่าวการค้นพบของเฉินวาวา นางร้ายหน้าสว

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารในตำนาน 1.2

    ฉับพลันสุรเสียงของจอมมารชินซางดังกระหึ่มท่ามกลางทะเลเพลิง“มันผู้ใดหาญกล้าแตะต้องราชินีของข้า!” สุรเสียงของจอมมารดังกึกก้อง พร้อมพระวรกายค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงทิวเขาต่อหน้ากองทัพของทั้งสามแคว้นท่ามกลางสายตาของมนุษย์ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนของสองฝั่งแม่น้ำ ต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษสวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินปลิวยายสยาย ในขณะที่รองแม่ทัพซึ่งล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อเห็นชินอ๋องทรงฟื้นขึ้นดั่งเดิมและปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางทะเลเพลิงอยู่ในขณะนี้“ชินอ๋องทรงฟื้นแล้ว! พระองค์ช่วยพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้กำลังจะจับพระชายาถ่วงน้ำ!” รองแม่ทัพตะโกนแทรกออกไปทันทีและนั่นทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้ถึงกับชะงักงันเมื่อบุรุษสูงใหญ่ตรงพระพักตร์แท้จริงแล้วคือชินอ๋องผู้วายชนม์ไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อนแต่บัดนี้กลับมาปรากฏพระวรกายด้วยร่างที่ยังคงรูปมิเน่าเปื่อยแต่อย่างใด“เป็นไปไม่ได้! คนตายแล้วฟื้นคืนกลับมาอย่างนั้นรึ!” รับสั่งรำพึงรำพันในขณะเดียวกันพระวรกายสูงใหญ่ทะ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status