แชร์

บทที่ 11

ผู้เขียน: เจ้าหน่อไม้น้อยแห่งตระกูลกู่
หลิง กว๋อจื้อ,ฟาง ซุ่ยเอ๋อ และหลิง ลั่วอิน มองหน้ากันอย่างลังเล

ฟาง ซุ่ยเอ๋อ กำลังจะสาปแช่ง แต่จู่ ๆ หลิง กว๋อจื้อ ก็หยุดไว้ "มาเถอะ บางทีชายคนนี้ก็ถูกปล่อยออกจากคุกเหมือนกัน! มีคนอยู่ในคุกทุกประเภทใครจะรู้ว่าทำไมชายคนนี้ถึงถูกตัดสินให้จำคุก?"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟาง ซุ่ยเอ๋อ ก็พูดอย่างอึดอัดใจหลังจากนั้นไม่นาน "แล้วพวกเราจะปล่อยมันไปแบบนั้นเหรอ?"

หลิง กว๋อจื้อ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า "รอดูเถอะ ถ้าผู้ช่วยผู้กำกับเหอดไม่ดูแลลั่วอินในอนาคต แล้วเราจะคิดวิธีอื่น" เขาไม่มีความกล้าที่จะเข้ามาและท้าทายชายคนนั้นในตอนนี้…

หลิง ลั่วอิน ขมวดคิ้วด้านข้าง “ชายคนเมื้อกี้นั้น จริง ๆ เหรอ... เคยอยู่ในคุกจริง ๆ อย่างนั้นเหรอคะ?” แม้ว่าเธอจะมองเห็นได้ไม่ชัดนักเนื่องจากดวงตาของชายคนนั้นถูกปิดไว้ด้วยผมหน้าม้าของเขา แต่เธอก็ยังสังเกตเห็นได้ว่าเขาดูดี…

ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอจึงรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นดูคุ้น ๆ เหมือนกับว่าเธอเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน

หรือชายคนนี้ยังเป็นสมาชิกในแวดวงบันเทิงด้วย?

ในห้องเช่า หลิง อี้หราน มองไปที่ อี้ จิ่นหลี และพูดว่า "ขอบใจนะ" ถ้าจินไม่กลับมาเธอคงจะถูกพ่อของเธอทุบตีไปแล้วเมื่อกี้นี้

"ไม่ต้องขอบใจที่ผมช่วยพี่หรอก มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ผมควรทำหรือไง?" เขาพูดพร้อมมองไปที่ข้อเท้าของเธอ "มันยังไม่หายดีเลยนะ ผมจะทาน้ำมันไพลให้พี่เอง"

ในขณะที่เขาพูดเขาหยิบขวดน้ำมันไพลออกมาทาที่ข้อเท้าของเธอแล้วกดมือลงบนข้อเท้าของเธอ

บรรยากาศเงียบลงเล็กน้อย หลิง อี้หราน กัดริมฝีปากเของเธออย่างเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทำไมคุณไม่ถามฉันว่าทั้งสามคนมาที่นี่เพื่ออะไร?"

“ผมจะไม่ถามถ้าพี่ไม่อยากบอก” เขากล่าว

“อันที่จริง แล้วมันไม่มีอะไรยากที่จะพูดหรอก พวกเขาเป็นพ่อ แม่เลี้ยง และน้องสาวต่างเเม่ของฉัน” หลิง อี้หราน กล่าว “แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่ปัญหาของฉันอีกต่อไปแล้วแหล่ะ”

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ถามอีกครั้ง "นายไม่มีอะไรจะถามอีกเหรอ?" เขาน่าจะได้ยินตอนที่พ่อของเธอดุเธอต่อหน้าเขาว่าเธอติดคุกแล้ว

เขากะพริบตาแล้วเงยหน้าขึ้น "พี่สาวอยากให้ผมถามอะไรครับ?

ดวงตาสีเข้มของเขาเผยให้เห็นความเงียบแปลก ๆ ภายใต้แสงไฟสีเหลืองสลัว

หลิง อี้หราน ค่อย ๆ สงบลงจากความวิตกกังวลแลหายใจเข้าลึก ๆ "ฉันถูกตัดสินจำคุกสามปี ในข้อหาเมาแล้วขับจนเป็นเหตุก่อให้เกิดแก่ความตายและฉันก็ได้รับการปล่อยตัวเมื่อไม่นานมานี้"

หลายคนคงเปลี่ยนทัศนคติเมื่อได้ยินเช่นนั้น หลังจากที่เธอถูกปล่อยตัวตราบใดที่คนรอบข้างรู้ว่าเธอติดคุก พวกเขาจะปฏิบัติต่อเธอด้วยการอคติและจงใจรักษาระยะห่างจากเธอ

“แต่เขาล่ะ... เขาจะ...” ในตอนนี้เธอมีความรู้สึกเหมือนกับตอนที่กำลังรอการพิจารณาคดีในศาล

“จริงเหรอ?” เขาพูดอย่างเฉยเมยโดยยังคงจดจ่ออยู่กับการนวดข้อเท้าของเธอ

"แค่… แค่นั้นเหรอ?" เธอกระพริบตาด้วยความประหลาดใจ "นายไม่รังเกียจเหรอ?" เธอถาม

"ทำไมผมถึงต้องรังเกียจล่ะ?" เขาตอบในเชิงถาม "อย่างที่พี่พูดจากนี้ไปตราบใดที่ผมเรียกคุณว่าพี่เราแค่ต้องห่วงใยซึ่งกันและกันและไม่มีอะไรจะต้องสนใจอีก"

หัวใจของเธอดูเหมือนจะสงบลงเพราะคำพูดของเขา หลิง อี้หราน ยิ้มราวกับว่าเธอได้รับการปลดปล่อยจากภาระอันหนักอึ้งนี้ "จิน ฉันโชคดีจังที่ได้พบนาย”

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เธอไม่ได้สังเกตว่ามีแสงแวบเข้ามาในดวงตาของเขา

ในวันอาทิตย์ ชิน เหลียนอี ไปเยี่ยมอพาร์ทเมนต์เช่าของหลิง อี้หราน โดยเฉพาะเมื่อเธอเห็น อี้ จิ่นหลี เธอไม่สามารถที่จะเคิดได้เลยว่าเขาเป็นพวกคนจรจัดที่เพื่อนของเธอพูดถึงได้

แม้ว่าเขาจะสวมเพียงแจ็คเก็ตและกางเกงขายาวผ้าฝ้ายธรรมดาและรองเท้าผ้าใบราคาถูกซึ่งเห็นได้ชัดว่าซื้อมาจากแผงขายของข้างถนน แต่เขาก็ดูไม่ราคาถูกแม้ว่าจะในชุดนี้เพราะเขามีรูปร่างดี

เขาสูงมากกว่า 180 ซม และมีโครงหน้าที่สวยงามแม้ว่าผมม้าหนาของเขาจะบังสายตาของเขาอยู่บ้าง แต่การมองดวงตาใต้ผมหน้าม้าเป็นครั้งคราวจะทำให้คุณประทับใจอย่างมากเลยทีเดียว

อย่างน้อย ชิน เหลียนอี ก็ไม่เคยเห็นดวงตาของผู้ชายที่สวยได้ขนาดนี้ซึ่งสวยกว่าไอดอลหรือคนดังคนไหนอีก ด้วยใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและการออกเสียงภาษาจีนกลางแบบมาตรฐานเขาสามารถตอบคำถามของเธอได้อย่างคล่องแคล่ว

"นี่เหรอที่เรียกว่าคนจรจัด?"

เธอดึงหลิง อี้หราน ไปด้านข้างและแอบถาม "เธอแน่ใจหรือว่าเขาเป็นคนจรจัดที่ไม่มีที่จะอยู่ เขาสามารถเป็นดาราหรือนายแบบได้ด้วยรูปร่างหน้าตาของเขาเลยนะ"

“ไม่ใช่คนหน้าตาดีทุกคนที่เหมาะจะเป็นดาราหรือนางแบบนะ” หลิง อี้หราน ตอบ

ชิน เหลียนอี คิดอีกครั้งและตระหนักว่าการหาเลี้ยงชีพในวงการบันเทิงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

"ในขณะที่เธอติดแหง็กอยู่กับเขาทุกวัน เธอไม่มีความคิดเลยหรือ?"

หลิง อี้หราน กลอกตาของเธอ เหลียนอีไม่เป็นกังวลมาก่อนที่จินจะทำอะไรที่ชั่วร้ายกับเธอ? ตอนนี้เธอดูเหมือนจะกังวลว่าเธอจะทำอะไรกับเขาแทน

"เขาอายุน้อยกว่าฉันไม่กี่เดือนฉันถือว่าเขาเป็นน้องชายของฉันเท่านั้น"

ชิน เหลียนชี เดินไปข้างหน้า อี้ จิ่นหลี “ฉันจะพูดตรง ๆ ว่าคุณสามารถอยู่ที่นี่ได้ถ้าคุณต้องการ แต่คุณต้องสัญญาว่าคุณจะไม่ทำให้วุ่นวายและจะไม่โกหกอี้หราน คุณรู้ไหมเธอเกลียดการหลอกลวง และถ้าคุณเป็นคนโกหกฉันจะโทรแจ้งตำรวจและจับคุณ!"

"เหลียนอี เธอกำลังพูดเรื่องอะไรเนี่ย? จินจะไม่โกหกฉัน" หลิงอี้หราน ตอบอย่างรีบร้อน

"เธอรู้จักเขามานานแค่ไหนกัน? มาทำให้มันชัดเจนก่อน เฮ้ จิน คุณได้ยินไหม?" ชิน เหลียนอี พูดกับ อี้ จิ่นหลี

เขายกมุมปากขึ้นแล้วพูดว่า "ตกลง ผมรู้แล้ว"

ตอนนี้เขากำลังยิ้มเบา ๆ แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธเธอ และไม่ได้ตอบว่า "ใช่"

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ชิน เหลียนอี รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าออร่าที่เปล่งออกมาจากเขานั้นทำให้เธอเป็นคนที่ได้รับคำเตือน

“เขาเป็นแค่คนจรจัด ฉันคงคิดมากเกินไปเองแหล่ะ” ชิน เหลียนอี คิดกับตัวเอง อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะจากไปเธอแอบบอกกับเพื่อนของเธอให้ปกป้องตัวเองและโทรหาเธอถ้าจำเป็น

เมื่อเหลือแค่พวกเขาเพียงสองคนในห้อง หลิง อี้หรานจึงพูดกับอี้ จิ่นหลี ว่า "อย่าสนใจสิ่งที่เหลียนอีพูดเลยเมื่อกี้เลย เธอเพียงแค่เป็นห่วงฉันน่ะ"

"เธอเป็นเพื่อนของพี่ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรผมก็จะไม่เสียใจหรอก" อี้ จิ่นหลี กล่าว เขาพบว่าคำเตือนแบบนั้นไร้สาระ "พี่เข้ากันกับเธอได้ดีไหม?"

“นายรู้หรือไม่ว่าฟางช่วยชีวิตคืออะไร? เมื่อนายจมน้ำนายไม่สามารถคว้าอะไรได้ไม่ว่านายจะพยายามแค่ไหน ในเวลานั้นเมื่อนายสามารถจับฟางได้แม้ว่าฟางเส้นนี้จะพานายไปไม่ได้ มันจะให้ความหวังแกนาย เพื่อที่นายจะไม่สิ้นหวัง" เธอบ่นพึมพำ "เหลียนอีเป็นฟางของฉันน่ะ"

.
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1480

    หลิงอี้หรานลุกขึ้นและกอดชินเหลียนอีเบา ๆ “ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องเสียใจ”“เธอพูดเรื่องอะไรกัน? ฉันก็แค่อยากให้เธอโอเคแล้วก็ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องในอดีต ยังไงซะ เธอก็ต้องเดินหน้าต่อไปใช่ไหมล่ะ?” ชินเหลียนอีพูดพร้อมสูดจมูกและฝืนยิ้มให้หลิงอี้หรานแต่หลิงอี้หรานรู้สึกแสบจมูกเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มของเพื่อนรัก เหลียนอีนั้นยังเจ็บช้ำจากอาการอกหัก แต่ว่าเลือกทึ่จะกลบฝังความเจ็บปวด และเผชิญหน้ากับคนอื่นด้วยรอยยิ้ม“ฉันจะไม่เป็นอะไร เธอไม่ต้องห่วงฉันหรอก เธอสิเป็นคนที่ต้องไม่เป็นอะไร รีบ ๆ หายดีไว ๆ เธอต้องมาเล่นกับลูก ๆ ของฉันตอนที่พวกเขาเกิดมาแล้ว” หลิงอี้หรานบอก“พวกเราทุกคนจะต้องไม่เป็นอะไร” ชินเหลียนอีกอดเพื่อนรักเธอแน่นและก็พูดกับตัวเองอีกครั้ง “ฉันจะลืมไป๋ถิงซิน ฉันทำได้แน่ ๆ ฉันก็แค่ต้องมองว่า ความสัมพันธ์ของฉันและไป๋ถิงซินก็เป็นความทรงจำเรื่องหนึ่ง จากนี้ไปมันจะเป็นแค่ความทรงจำเท่านั้น”อาการเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ก็ใกล้วันตรุษจีนเข้ามาทุกที หลิงอี้หรานเอามือลูบท้อง เธอไม่เห็นจินมาหลายวันแล้ว ทุกวันนี้เธอคิดถึงแต่เรื่องที่เหลียนอีพูด ‘เดินไปข้างหน้า’ เธอถามตัวเองว่า เธอรัก

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1479

    ”นายน้อยอี้แค่ต้องการปกป้องคุณให้ดีขึ้นแค่นั้นครับคุณผู้หญิง” เกาฉงหมิงบอก “เขาจะปกป้องฉัน หรือว่าคอยจับตาดูฉันกันแน่?” อี้หรานถาม เกาฉงหมิงเงียบไปทันที เพราะอย่างไรนายน้อยอี้ก็สั่งไม่ให้บอกอี้หรานเรื่องเลขาหวังเพื่อไม่ให้เธอต้องเป็นกังวลโดยเฉพาะตอนนี้เธอใกล้คลอดแล้ว หลิงอี้หรานเองก็ไม่ได้คาดคั้นเธอแค่ก้มหน้ามองหน้าท้องที่พองนูน เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหลิงอี้หรานก็เจอชินเหลียนอี เธอดูท่าทางสดใสตอนนี้เธอดูแลตัวเองได้แล้ว เมื่อออกจากโรงพยาบาลและได้พักผ่อนสักหน่อย เธอก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้ชินเหลียนอี้ทักหลิงอี้หราน “อี้หราน เธอมาแล้ว มาสิมา มานั่งเร็ว เธอเป็นคนท้องแล้วตอนนี้ก็เป็นช่วงต้องระวัง” หลังจากที่อี้หรานนั่ง เธอก็ถามว่า “เป็นยังไงบ้าง? หมอบอกไหมว่า เธอจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน?”“หมอบอกว่า ฉันออกได้อาทิตย์หน้าน่ะ” ชินเหลียนอี้ยิ้มกริ่มพร้อมเอามือลูบหัวที่โล้นเลี่ยน หลังจากที่เธอผ่าตัดสมองผมของเธอก็โดนโกนออกจนเกลี้ยงและเธอก็อาจจะต้องใส่วิกไปสักพักหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล “เมื่อวานพี่โจวมาหาฉันแล้วบอกว่าเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉันว่าเธอเหมือนรอดตายหวุดหวิดเลยห

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1478

    อี้จิ่นหลีเกือบจะวิ่งออกจากห้องตรวจของหมอด้วยอาการตื่นตระหนก เขาสั่งหวงเซียนบอดี้การ์ดของหลิงอี้หรานแล้วหมอคนใหม่ให้กลับมาที่ห้องตรวจ หมอที่เคยตรวจหลิงอี้หรานนั้นโดนคนของกู้ลี่เฉินทำให้สลบ“นายน้อยอี้ คุณเป็นอะไรไหมครับ?” เกาฉงหมิงถาม เพราะว่าตอนนี้นายน้อยอี้ดูหน้าซีดมาก“ฉันไม่เป็นอะไร” อี้จิ่นหลีหายใจอย่างยากลำบาก เขาไม่คาดคิดว่า ตัวเองจะยังหวาดกลัวอยู่ เขานั้นกลัวว่า เธอจะตอบว่าเสียใจ แม้เธอจะยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการหย่า เขาก็กลัวว่าสักวันเธอจะคิดขึ้นมา เขานั้นกลัวว่า เธออาจจะรักเขาไม่มากพอ.. เขากลัวหลายอย่างมาก“นายเจอเลขาหวังหรือยัง?” อี้จิ่นหลียกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากและถามเกาฉงหมิง“ยังครับ” เกาฉงหมิงตอบ ตั้งแต่งานศพของนายท่านอี้ เลขาหวังที่เคยทำงานให้นายท่านอี้ก็หายตัวไป แม้ว่าพวกเขาจะสั่งคนเพิ่มไปตามหาเลขาหวังก็ยังหาไม่เจอ“ตามหาต่อไป ตราบใดที่เขายังไม่ออกจากเมืองเฉินไป ถึงต้องพลิกแผ่นดินก็ต้องหาเขาให้ได้” อี้จิ่นหลีสั่ง สีหน้าเขามืดครึ้ม เลขาหวังนั้นเป็นคนเก็บความลับของปู่ ปู่ของเขาน่าจะทำมากกว่าแค่ส่งอีเมลข้อมูลความจริงไปหากู้ลี่เฉิน มันจะต้องมีอย่างอื่นอีก ไม่อย่า

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1477

    ขณะที่พูดเขาก็เดินมาหาหลิงอี้หรานและจ้องเธอ “เธอเคยบอกว่าเธอจะไม่ทิ้งฉันตราบใดที่ฉันไม่ทิ้งเธอใช่ไหม? ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะไม่ทิ้งฉันไปตราบที่เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม?” หลิงอี้หรานอึ้งไป สิ่งที่เธอเคยพูดก่อนหน้านี้ยังดังกังวาลในหูเธอ มือของเธอจับหน้าท้องซึ่งตอนนี้ใหญ่เท่าอายุครรภ์พร้อมคลอด เธอสูดหายใจลึกก่อนบอกว่า “ใช่ ฉันพูดแบบนั้น” จากนั้นเธอก็หันไปมองกู้ลี่เฉินและพูดว่า “กู้ลี่เฉิน คุณก็ได้ยินเขาแล้ว ฉัน… จะไม่ทิ้งจินไป” เมื่อเธอพูดคำว่า ‘จิน’ ออกมา ดวงตาของอี้จิ่นหลีก็เป็นประกายขณะที่เขายืนอยู่ข้างเธอ ความตื่นเต้นยินดีฉายผ่านใบหน้าเขาอย่างห้ามไม่อยู่ ‘เธอเรียกฉันว่าจินอีกครั้งแล้ว นี่หมายความว่าเธอยอมอภัยให้แล้วลืมเรื่องในอดีตใช่ไหม?’สีหน้ากู้ลี่เฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้รู้สีกแปลกใจมากนัก บางทีเขาก็อาจจะคาดคำตอบนี้ไว้แล้ว เขาแค่อยากรู้ว่า เธอจะยังอยู่กับอี้จิ่นหลีไหมหลังจากที่ได้รู้ความจริง “โอเค เข้าใจแล้ว ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ” กู้ลี่เฉินพูดก่อนที่จะออกจากห้องตรวจของหมอไปพร้อมคนของเขา อี้จิ่นหลียังสั่งให้คนอื่นออกไปจากห้อง จู่ ๆ ก็เหลือ

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1476

    ”จิ่นหลีขังคุณไว้เหรอ?” กู้ลี่เฉินถาม หลิงอี้หรานอึ้งไป ‘ขังฉันเหรอ? เขาเอาความคิดนี้มาจากไหนกัน?’เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของเธอ กู้ลี่เฉินก็บอกว่า “จำนวนของยามในคฤหาสน์อี้ทุกวันนี้เพิ่มขึ้นมาสามเท่า และผมก็ได้ยินว่าระบบรักษาความปลอดภัยก็เปลี่ยนเป็นตัวที่ดีขึ้น อีกอย่างผมไปหาคุณสองครั้งแล้ว แต่ว่าอี้จิ่นหลีก็หยุดผมไว้ทั้งสองครั้ง ผมเจอคุณไม่ได้เลย พอผมโทรเข้ามือถือของคุณ สัญญาณก็โดนตัดไปอัตโนมัติ” หลิงอี้หรานตกใจเมื่อเธอได้ยินเช่นนี้ กลายเป็นที่เธอรู้สึกว่าจำนวนของบอดี้การ์ดเพิ่มขึ้นนั้นเธอไม่ได้คิดไปเอง แสดงว่าจินส่งคนมากขึ้นให้มาคอยตามเธอ มีครั้งหนึ่งที่เธออยากไปเดินแถวบ้านแต่ว่าย่านนั้นก็มีการจัดการเก็บกวาดจนหมด และเธอก็มีบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งคอยห้อมล้อม ตั้งแต่นั้นเธอก็ไม่ออกไปเดินเตร่อีกเลย เธอเดินอยู่แต่ในคฤหาสน์เท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนมีกล้องวงจรปิดในบ้านเพิ่มขึ้นด้วย 'นีจินกลัว… ว่าฉันจะหนีเหรอ? เขาเลยขังฉันไว้ด้วยวิธีนี้’ หลิงอี้หรานครุ่นคิดขณะที่กู้ลี่เฉินพูดอย่างวิตก “ระหว่างคุณกับเขาเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือว่าเขา…” เขานั้นกลัวว่าหลังจากที่อี้หรานรู้ความจริง ความสัมพันธ์ร

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1475

    ”แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังเป็นทายาทลำดับที่สองของตระกูลห่าว ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่ได้อะไรเลย คุณก็ยังได้สิ่งที่พ่อแม่ของคุณจะให้อยู่ดี”“ได้มาไม่เท่าไหร่แล้วจะมีประโยชน์อะไร?” ห่าวอี้เหมิงแค่นเสียง “ถ้าพี่สาวฉันยังมีชีวิตอยู่แล้วฉันเป็นทายาทลำดับสองของตระกูลห่าว พ่อแม่ของคุณคงไม่ให้ค่าฉันแบบนี้แล้วก็ต้องบอกให้คุณระวังตอนที่คบกับฉัน” เซียวจื่อฉีหน้าแดงก่ำทันที เขารู้ว่าห่าวอี้เหมิงพูดถูก พ่อแม่ของเขาเลือกเธอเพราะว่าเธอจะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลห่าว “แต่หลิงอี้หรานบริสุทธิ์ ทำไมคุณถึงทำกับเธอแบบนั้นตอนที่อยู่ในคุก ทั้ง ๆ ที่คุณก็ป้ายความผิดให้เธอแล้ว?” เซียวจื่อฉีถาม เซียวจื่อฉีตัวสั่นเมื่อคิดถึงว่า ห่าวอี้เหมิงทำกับอี้หรานอย่างไรในตอนนั้น แล้วที่แท้ตัวเธอเองกลับเป็นฆาตกรตัวจริง ผู้หญิงคนนี้เสแสร้งแกล้งแสดงใส่เขามากแค่ไหนนะ?“เธอเป็นแฟนคุณ มีเพียงแต่ต้องกำจัดหล่อนเท่านั้นฉันถึงจะมีโอกาสได้เป็นแฟนคุณ” ห่าวอี้เหมิงยิ้มเย้ย “ ฉันก็แค่อยากเห็นว่า หลิงอี้หรานสำคัญกับคุณมากแค่ไหน แต่… ฮ่าฮ่า… กลายเป็นว่าเธอไม่มีค่าอะไรเลย” หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ห่าวอี้เหมิงก็บอกอีกว่า “เซียวจื่อฉี คุณเขี่ยหลิง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status