แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: เจ้าหน่อไม้น้อยแห่งตระกูลกู่
“แ_่ง ไอผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าฉันเป็นเพียงคนธรรมดาที่เดินผ่านมา สวมเสื้อผ้าพวกจน ๆ แล้วทำไมฉันต้องรู้สึกกลัวด้วยวะ?”

ซุน เถิงหยาง ถ่มน้ำลายและอยากจะต่อยไอ้คนที่เดินผ่านมานี่สักที

อย่างไรก็ตามในครู่ต่อมา ชายผู้เดินผ่านมานั้นเหยียบย่ำซุน เถิงหยาง ที่ใบหน้าแนบแน่นลงกับพื้น ซุน เถิงหยาง ผู้น่าสงสาร!

เมื่อชายสองคนเห็นจึงรีบเข้าไปซัดชายผู้เดินผ่านมานี้ที่จู่ ๆ ก็ปรากฎตัวขึ้น

ทันใดนั้น ทั้งหมดที่หลิง อี้หราน เห็นนั้นคือชายผู้เดินผ่านมาซัดชายหนุ่มทั้งสามคน ช่างเป็นฉากที่ค่อนข้างโหดเหี้ยมทีเดียว

ไม่ไกลจากตรงนั้นมีรถคนหนึ่งที่อยู่ในมุมสี่แยกที่เปล่าเปลี่ยวนั้น เกา ฉงหมิงซึ่งนั่งอยู่ในรถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของเขาและอธิษฐานพึมพำ”นายน้อยอี้ได้โปรดอย่าทำอะไรบ้าๆนะครับ!”

ถ้านายนายอี้ทำอะไรที่บ้าคลั่งลงไป ผลลัพธ์จะน่ากลัวอย่างคาดไม่ถึง คงไม่แปลกที่เขาจะฆ่าคน

เกา ฉงหมิง เคยเห็นพฤติกรรมอันบ้าคลั่งของเขามาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่อยากที่จะเผชิญกับมันอีกไปตลอดชีวิตของเขา

คนนี้ถนนถูกปิด ใครจะคาดคิดว่าคนห้าคนกับรถ Ferrari จะบุกเข้ามาที่นี่? พวกเขารบกวนนายน้อยอี้ที่ต้องการอยู่คนเดียว

ในวันนี้ของทุก ๆ ปี นายน้อยอี้จะปิดถนนทั้งสายเพื่ออยู่คนเดียวบนท้องถนนและสวมเสื้อผ้าเก่า

ไม่มีใครกล้าถามราวกับว่ามันเป็นเรื่องต้องห้าม

แม้ว่าเกา ฉงหมิงจะติดตาม อี้ จิ่นหลี มาหลายปีแล้ว แม้แต่เขาก็ยังไม่รู้เหตุผลเช่นกัน

ในขณะที่เกา ฉงหมิง มองดูนายน้อยของเขายกชายร่างอ้วนได้อย่างสบาย ๆ แล้วทุ่มศีรษะเข้ากับกำเเพงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่รู้ว่าควรจะหยุดเจ้านายของเขาดีไหม

แต่ทันใดนั้นเจ้านายของเขาก็หยุดต่อสู้กับชายคนนั้น เกา ฉงหมิง กะพริบตาด้วยความตกใจ เขาแน่ใจว่าเจ้านายของเขาหยุดลงเพราะผู้หญิงคนนั้นที่เกือบจะถูกข่มขืนพูดอะไรบางอย่างซึ่งทำให้นายน้อยอี้หยุดการกระทำของเขา

หลิง อี้หราน กล่าวว่า "ถ้าคุณชกเขาอีกเขาจะตายนะคะ"

“เเล้วยังไง?” อี้ จิ่นหลี กล่าวพรางก้มศีรษะลงมองอย่างเยือกเย็นไปที่หลิง อี้หราน ผู้ซึ่งพยายามยืนให้อยู่ด้วยความยากลำบาก

หลิง อี้หราน ถึงกับชะงัก ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถจะเห็นหน้าชายคนนี้ได้ จนกระทั่งตอนนี้เธอสามารถเห็นชายคนนี้ได้อย่างชัดเจนเเจ่มเเจ้ง

เขาหล่อและจมูกที่โด่งตรงเป็นสันขึ้นรูป ริมฝีปากของเขาบางและดูมีไตล์ แม้ว่าเขาจะดูมีรูปลักษณ์ที่ดี แต่เขายังซ่อนอารมณ์สีหน้าไว้ไม่ให้ใครรับรู้

แววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเสน่หาของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นมัวและความเฉยเมยแห่งตายภายใต้ผมหน้าม้าของเขา ราวกับว่าชีวิตของผู้คนนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับเขาเลยทั้งสิ้น เขาไม่สนใจชีวิตของคนอื่นหรือแม้เเต่ชีวิตของเขาเอง

หลิง อี้หราน สูดหายใจเข้าอย่างลึก ๆ เเละพูดว่า “มันไม่คุ้มค่าที่จะถูกขังอยู่ในคุกเพราะคนห่วยๆแบบนี้”

หลังจากที่จ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ ในไม่กี่วินาที อี้ จิ่นหลี ก็คลายนิ้วมือของเขาออก ซุน เถิงหยาง รู้สึกราวกับว่ากลับมามีชีวิตอีกคครั้งโดยไม่สนใจว่าจะมีเลือดอยู่บนใบหน้าของเขาหรือไม่ ซุน เถิงหยาง รีบวิ่งไปที่รถพร้อมกับเพื่อน ๆ ของเขาทั้งสามคน จากนั้นก็หนีไป

ซุน เถิงหยาง แสยะยิ้มด้วยความมุ่งร้ายและพูดว่า “ฉันจะพาพวกมามากกว่านี้และซัดไอ้คนนั้นให้สาสม”

หญิงสาวเงียบงัน ม่านตาของเธอหดตัวลงเมื่อรู้ว่าชายที่เดินผ่านมานั้นดูคุ้นเคยเล็กน้อย งานเลี้ยงที่เธอได้เคยเข้าร่วมเมื่อก่อน เธอชำเลืองมองเขาจากระยะไกล ชายผู้เดินผ่านมาคนนั้นคือ… “เขาคือ อี้ จิ่นหลี คนที่เดินผ่านมาเมื่อกี้คือ อี้ จิ่นหลี!”

ชายหนุ่มอีกสามคนมองที่เธอด้วยความตกใจและถามว่า “อี้ จิ่นหลี ชายที่รวยที่สุดในเมืองเฉิน? เป็นไปได้ยังไง?”

“เเต่เขาดูเหมือนอี้ จิ่นหลี จริง ๆ นะ” หญิงสาวกล่าวด้วยความหวาดกลัว

ทั้งสี่คนหน้าซีดและมองหน้ากันอย่างมืดมนไร้หนทาง

——

หลิง อี้หราน จ้องมองไปที่ชายตรงหน้าของเธอและกล่าวด้วยความลังเล “สำหรับตอนนี้… ขอบคุณค่ะ”

“ทำไมไม่ขอความช่วยเหลือ” เขาถามทันทีในขณะที่จ้องมองเธอ

“ฉันคิดจริง ๆ ว่าคุณไม่มีทางจะเอาชนะพวกมันได้ ดังนั้นมันไม่จำเป็นที่ฉันจะหาเรื่องให้กับคุณ” เธอตอบ

เขาไม่พูดอะไร แต่เดินไปอีกฝั่งของถนนและนั่งพิงหลังกับกำแพง

“เขาไม่กลับบ้านหรือ? ตอนนี้อากาศหนาวเย็นและคืนนี้อุณหภูมิจะต่ำตั้งเเต่ 10 องศาไปจนถึงศูนย์ ถ้าคืนนี้เขานอนบนถนนนี่ พรุ่งนี้เช้าเขาจะยังมีขีวิตอยู่ไหมนะ?”

หลังจากพิจารณาว่าชายผู้นี้ได้ช่วยเธอไว้ หลิง อี้หราน จึงเริ่มเดินเข้าไปหาเขา

“ตอนนี้คุณไม่กลับบ้านเหรอ? ครอบครัวคุณอยู่ที่ไหนคะ? คุณมีหมายเลขโทรศัพท์ของพวกเขาไหม? ฉันสามารถช่วยคุณติดต่อพวกเขาเเเละขอให้พวกเขามารับคุณ” หลิง อี้หราน พูดในขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าชายผู้นี้

เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตาแห่งความตายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่หาจ้องมองเธออีกครั้งเเต่ไม่ได้ตอบอะไรใด ๆ กับเธอ

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกราวกับว่าทุกอย่างหยุดนิ่ง

จู่ ๆ หลิง อี้หราน คิดถึงชีวิตอันน่าสังเวชของเธอในคุก

ย้อนกลับไปในตอนนั้นมันช่างเป็นช่วงเวลาที่มืดมนสำหรับเธอ แม้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่เเต่เธอก็ไม่มีความหวังอะไรใด ๆ

“ถ้าคุณไม่มีที่ไหนจะอยู่ ก็มากับฉันนะคะ” เธอกล่าวชักชวนเขา

——

หลิงอี้หรานไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะพาชายแปลกหน้ากลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอด้วยแรงกระตุ้น

บางทีอาจเป็นเพราะชายคนนั้นช่วยเธอไว้หรือเพราะเขาเตือนเธอถึงประสบการณ์ภายในคุก

“นี่คือที่ที่ฉันอาศัยอยู่ ถ้าคุณโอเคกับมัน ฉันจะปูเสื่อบนพื้นให้คุณได้พักผ่อน” หลิง อี้หรานกล่าว

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยังคงเงียบไม่พูดอะไร หลิงอี้หรานจึงหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่และแปรงสีฟันอันใหม่ออกมาแล้วมอบให้เขา “ไปชำระล้างในห้องน้ำก็ได้ เเต่ฉันไม่มีเสื้อผ้าให้คุณ อย่าทำให้เสื้อผ้าของคุณเปียกล่ะ”

เมื่อชายหนุ่มเข้าไปในห้องน้ำ หลิง อี้หราน ก็เริ่มจัดแจงปูเสื่อแล้วหยิบผ้านวมสำรองมา

อพาร์ทเมนต์ให้เช่ามีขนาดไม่ใหญ่ มีพื้นที่ครอบคลุม 10 ตารางเมตร เป็นสตูดิโออพาร์ตเมนต์พร้อมห้องน้ำ

เมื่อชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำผมก็เปียก เห็นได้ชัดว่าเขาสระผม แต่ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า

เมื่อมองไปที่ผมที่เปียกของชายหนุ่ม หลิง อี้หราน ก็หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาและพูดว่า "โค้งตัวสิ"

ชายหนุ่มจับจ้องมาที่เธอ

"ฉันก็แค่อยากจะช่วยให้ผมคุณแห้งด้วยผ้าขนหนูนี่ ฉันไม่มีเจตนาร้ายอะไร" เธอกล่าว "ถ้าคุณไม่ทำให้ผมเปียกของคุณแห้ง คุณอาจเป็นหวัดได้ง่าย ๆ นะคะ"

เขายังคงจ้องมองเธอ หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ช่างดึงดูดใจ "คุณเป็นห่วงผมหรือ?"

"ใช่" หลิง อี้หราน ไม่ได้หลีกเลี่ยงการสบตากับเขา "หลังจากพาคุณมาที่บ้านฉันไม่อยากให้คุณเป็นหวัด"

เขากะพริบตาและค่อย ๆ ก้มลง

หลิงอี้หราน ถามว่า "คุณชื่ออะไร"

เขานิ่งอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ตอบว่า "จิน"

“จิน” หลิง อี้หราน พูดชื่อของเขาซ้ำอีกครั้งและคิดว่ามันควรจะเป็นชื่อเล่น “ฉันชื่อหลิงอี้หรานคุณอยู่ที่ไหน? ครอบครัวของคุณล่ะ?”

“ฉันไม่มีครอบครัวหรอก” เขาตอบ

เธอก็ชะงักอย่างกะทันหัน "เขาอยู่คนเดียวเหรอ? นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นคนจรจัด?"

ในทางกลับกันครอบครัวของเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอรู้สึกราวกับว่าพวกเขาไม่ใช่ครอบครัวของเธอ ความแตกต่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคนคือเธอเช่าอพาร์ตเมนต์

"ดูเหมือนว่าเราอยู่ในเรือลำเดียวกัน" เธอกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่นบนใบหน้าขณะที่เธอยังคงเช็ดผมให้แห้ง

เมื่อผมของเขาแห้งเธอก็วางผ้าขนหนูลงและหวีผมให้กับเขา

เมื่อเธอหวีผมม้าขึ้นไปบนศีรษะของเขา หน้าผากอันกว้างเต็มของเขา หลิง อี้หราน พบว่าเขาหล่อกว่าที่เธอคิดไว้

ลักษณะที่ดีของเขา เเต่ดูแข็งแกร่งเเละหาได้ยากในชาวเอเชียตะวันออก ตอนนี้แววตาของเขาไม่ว่างเปล่าเหมือนก่อน และเขากำลังมองเธอเหมือนกำลังจะสอบสวน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1480

    หลิงอี้หรานลุกขึ้นและกอดชินเหลียนอีเบา ๆ “ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องเสียใจ”“เธอพูดเรื่องอะไรกัน? ฉันก็แค่อยากให้เธอโอเคแล้วก็ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องในอดีต ยังไงซะ เธอก็ต้องเดินหน้าต่อไปใช่ไหมล่ะ?” ชินเหลียนอีพูดพร้อมสูดจมูกและฝืนยิ้มให้หลิงอี้หรานแต่หลิงอี้หรานรู้สึกแสบจมูกเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มของเพื่อนรัก เหลียนอีนั้นยังเจ็บช้ำจากอาการอกหัก แต่ว่าเลือกทึ่จะกลบฝังความเจ็บปวด และเผชิญหน้ากับคนอื่นด้วยรอยยิ้ม“ฉันจะไม่เป็นอะไร เธอไม่ต้องห่วงฉันหรอก เธอสิเป็นคนที่ต้องไม่เป็นอะไร รีบ ๆ หายดีไว ๆ เธอต้องมาเล่นกับลูก ๆ ของฉันตอนที่พวกเขาเกิดมาแล้ว” หลิงอี้หรานบอก“พวกเราทุกคนจะต้องไม่เป็นอะไร” ชินเหลียนอีกอดเพื่อนรักเธอแน่นและก็พูดกับตัวเองอีกครั้ง “ฉันจะลืมไป๋ถิงซิน ฉันทำได้แน่ ๆ ฉันก็แค่ต้องมองว่า ความสัมพันธ์ของฉันและไป๋ถิงซินก็เป็นความทรงจำเรื่องหนึ่ง จากนี้ไปมันจะเป็นแค่ความทรงจำเท่านั้น”อาการเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ก็ใกล้วันตรุษจีนเข้ามาทุกที หลิงอี้หรานเอามือลูบท้อง เธอไม่เห็นจินมาหลายวันแล้ว ทุกวันนี้เธอคิดถึงแต่เรื่องที่เหลียนอีพูด ‘เดินไปข้างหน้า’ เธอถามตัวเองว่า เธอรัก

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1479

    ”นายน้อยอี้แค่ต้องการปกป้องคุณให้ดีขึ้นแค่นั้นครับคุณผู้หญิง” เกาฉงหมิงบอก “เขาจะปกป้องฉัน หรือว่าคอยจับตาดูฉันกันแน่?” อี้หรานถาม เกาฉงหมิงเงียบไปทันที เพราะอย่างไรนายน้อยอี้ก็สั่งไม่ให้บอกอี้หรานเรื่องเลขาหวังเพื่อไม่ให้เธอต้องเป็นกังวลโดยเฉพาะตอนนี้เธอใกล้คลอดแล้ว หลิงอี้หรานเองก็ไม่ได้คาดคั้นเธอแค่ก้มหน้ามองหน้าท้องที่พองนูน เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหลิงอี้หรานก็เจอชินเหลียนอี เธอดูท่าทางสดใสตอนนี้เธอดูแลตัวเองได้แล้ว เมื่อออกจากโรงพยาบาลและได้พักผ่อนสักหน่อย เธอก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้ชินเหลียนอี้ทักหลิงอี้หราน “อี้หราน เธอมาแล้ว มาสิมา มานั่งเร็ว เธอเป็นคนท้องแล้วตอนนี้ก็เป็นช่วงต้องระวัง” หลังจากที่อี้หรานนั่ง เธอก็ถามว่า “เป็นยังไงบ้าง? หมอบอกไหมว่า เธอจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน?”“หมอบอกว่า ฉันออกได้อาทิตย์หน้าน่ะ” ชินเหลียนอี้ยิ้มกริ่มพร้อมเอามือลูบหัวที่โล้นเลี่ยน หลังจากที่เธอผ่าตัดสมองผมของเธอก็โดนโกนออกจนเกลี้ยงและเธอก็อาจจะต้องใส่วิกไปสักพักหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล “เมื่อวานพี่โจวมาหาฉันแล้วบอกว่าเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉันว่าเธอเหมือนรอดตายหวุดหวิดเลยห

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1478

    อี้จิ่นหลีเกือบจะวิ่งออกจากห้องตรวจของหมอด้วยอาการตื่นตระหนก เขาสั่งหวงเซียนบอดี้การ์ดของหลิงอี้หรานแล้วหมอคนใหม่ให้กลับมาที่ห้องตรวจ หมอที่เคยตรวจหลิงอี้หรานนั้นโดนคนของกู้ลี่เฉินทำให้สลบ“นายน้อยอี้ คุณเป็นอะไรไหมครับ?” เกาฉงหมิงถาม เพราะว่าตอนนี้นายน้อยอี้ดูหน้าซีดมาก“ฉันไม่เป็นอะไร” อี้จิ่นหลีหายใจอย่างยากลำบาก เขาไม่คาดคิดว่า ตัวเองจะยังหวาดกลัวอยู่ เขานั้นกลัวว่า เธอจะตอบว่าเสียใจ แม้เธอจะยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการหย่า เขาก็กลัวว่าสักวันเธอจะคิดขึ้นมา เขานั้นกลัวว่า เธออาจจะรักเขาไม่มากพอ.. เขากลัวหลายอย่างมาก“นายเจอเลขาหวังหรือยัง?” อี้จิ่นหลียกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากและถามเกาฉงหมิง“ยังครับ” เกาฉงหมิงตอบ ตั้งแต่งานศพของนายท่านอี้ เลขาหวังที่เคยทำงานให้นายท่านอี้ก็หายตัวไป แม้ว่าพวกเขาจะสั่งคนเพิ่มไปตามหาเลขาหวังก็ยังหาไม่เจอ“ตามหาต่อไป ตราบใดที่เขายังไม่ออกจากเมืองเฉินไป ถึงต้องพลิกแผ่นดินก็ต้องหาเขาให้ได้” อี้จิ่นหลีสั่ง สีหน้าเขามืดครึ้ม เลขาหวังนั้นเป็นคนเก็บความลับของปู่ ปู่ของเขาน่าจะทำมากกว่าแค่ส่งอีเมลข้อมูลความจริงไปหากู้ลี่เฉิน มันจะต้องมีอย่างอื่นอีก ไม่อย่า

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1477

    ขณะที่พูดเขาก็เดินมาหาหลิงอี้หรานและจ้องเธอ “เธอเคยบอกว่าเธอจะไม่ทิ้งฉันตราบใดที่ฉันไม่ทิ้งเธอใช่ไหม? ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะไม่ทิ้งฉันไปตราบที่เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม?” หลิงอี้หรานอึ้งไป สิ่งที่เธอเคยพูดก่อนหน้านี้ยังดังกังวาลในหูเธอ มือของเธอจับหน้าท้องซึ่งตอนนี้ใหญ่เท่าอายุครรภ์พร้อมคลอด เธอสูดหายใจลึกก่อนบอกว่า “ใช่ ฉันพูดแบบนั้น” จากนั้นเธอก็หันไปมองกู้ลี่เฉินและพูดว่า “กู้ลี่เฉิน คุณก็ได้ยินเขาแล้ว ฉัน… จะไม่ทิ้งจินไป” เมื่อเธอพูดคำว่า ‘จิน’ ออกมา ดวงตาของอี้จิ่นหลีก็เป็นประกายขณะที่เขายืนอยู่ข้างเธอ ความตื่นเต้นยินดีฉายผ่านใบหน้าเขาอย่างห้ามไม่อยู่ ‘เธอเรียกฉันว่าจินอีกครั้งแล้ว นี่หมายความว่าเธอยอมอภัยให้แล้วลืมเรื่องในอดีตใช่ไหม?’สีหน้ากู้ลี่เฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้รู้สีกแปลกใจมากนัก บางทีเขาก็อาจจะคาดคำตอบนี้ไว้แล้ว เขาแค่อยากรู้ว่า เธอจะยังอยู่กับอี้จิ่นหลีไหมหลังจากที่ได้รู้ความจริง “โอเค เข้าใจแล้ว ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ” กู้ลี่เฉินพูดก่อนที่จะออกจากห้องตรวจของหมอไปพร้อมคนของเขา อี้จิ่นหลียังสั่งให้คนอื่นออกไปจากห้อง จู่ ๆ ก็เหลือ

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1476

    ”จิ่นหลีขังคุณไว้เหรอ?” กู้ลี่เฉินถาม หลิงอี้หรานอึ้งไป ‘ขังฉันเหรอ? เขาเอาความคิดนี้มาจากไหนกัน?’เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของเธอ กู้ลี่เฉินก็บอกว่า “จำนวนของยามในคฤหาสน์อี้ทุกวันนี้เพิ่มขึ้นมาสามเท่า และผมก็ได้ยินว่าระบบรักษาความปลอดภัยก็เปลี่ยนเป็นตัวที่ดีขึ้น อีกอย่างผมไปหาคุณสองครั้งแล้ว แต่ว่าอี้จิ่นหลีก็หยุดผมไว้ทั้งสองครั้ง ผมเจอคุณไม่ได้เลย พอผมโทรเข้ามือถือของคุณ สัญญาณก็โดนตัดไปอัตโนมัติ” หลิงอี้หรานตกใจเมื่อเธอได้ยินเช่นนี้ กลายเป็นที่เธอรู้สึกว่าจำนวนของบอดี้การ์ดเพิ่มขึ้นนั้นเธอไม่ได้คิดไปเอง แสดงว่าจินส่งคนมากขึ้นให้มาคอยตามเธอ มีครั้งหนึ่งที่เธออยากไปเดินแถวบ้านแต่ว่าย่านนั้นก็มีการจัดการเก็บกวาดจนหมด และเธอก็มีบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งคอยห้อมล้อม ตั้งแต่นั้นเธอก็ไม่ออกไปเดินเตร่อีกเลย เธอเดินอยู่แต่ในคฤหาสน์เท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนมีกล้องวงจรปิดในบ้านเพิ่มขึ้นด้วย 'นีจินกลัว… ว่าฉันจะหนีเหรอ? เขาเลยขังฉันไว้ด้วยวิธีนี้’ หลิงอี้หรานครุ่นคิดขณะที่กู้ลี่เฉินพูดอย่างวิตก “ระหว่างคุณกับเขาเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือว่าเขา…” เขานั้นกลัวว่าหลังจากที่อี้หรานรู้ความจริง ความสัมพันธ์ร

  • พิศวาส แรงรัก เมีย นักโทษ ของ นายน้อย   บทที่ 1475

    ”แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังเป็นทายาทลำดับที่สองของตระกูลห่าว ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่ได้อะไรเลย คุณก็ยังได้สิ่งที่พ่อแม่ของคุณจะให้อยู่ดี”“ได้มาไม่เท่าไหร่แล้วจะมีประโยชน์อะไร?” ห่าวอี้เหมิงแค่นเสียง “ถ้าพี่สาวฉันยังมีชีวิตอยู่แล้วฉันเป็นทายาทลำดับสองของตระกูลห่าว พ่อแม่ของคุณคงไม่ให้ค่าฉันแบบนี้แล้วก็ต้องบอกให้คุณระวังตอนที่คบกับฉัน” เซียวจื่อฉีหน้าแดงก่ำทันที เขารู้ว่าห่าวอี้เหมิงพูดถูก พ่อแม่ของเขาเลือกเธอเพราะว่าเธอจะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลห่าว “แต่หลิงอี้หรานบริสุทธิ์ ทำไมคุณถึงทำกับเธอแบบนั้นตอนที่อยู่ในคุก ทั้ง ๆ ที่คุณก็ป้ายความผิดให้เธอแล้ว?” เซียวจื่อฉีถาม เซียวจื่อฉีตัวสั่นเมื่อคิดถึงว่า ห่าวอี้เหมิงทำกับอี้หรานอย่างไรในตอนนั้น แล้วที่แท้ตัวเธอเองกลับเป็นฆาตกรตัวจริง ผู้หญิงคนนี้เสแสร้งแกล้งแสดงใส่เขามากแค่ไหนนะ?“เธอเป็นแฟนคุณ มีเพียงแต่ต้องกำจัดหล่อนเท่านั้นฉันถึงจะมีโอกาสได้เป็นแฟนคุณ” ห่าวอี้เหมิงยิ้มเย้ย “ ฉันก็แค่อยากเห็นว่า หลิงอี้หรานสำคัญกับคุณมากแค่ไหน แต่… ฮ่าฮ่า… กลายเป็นว่าเธอไม่มีค่าอะไรเลย” หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ห่าวอี้เหมิงก็บอกอีกว่า “เซียวจื่อฉี คุณเขี่ยหลิง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status