“ อะไรกันเนี่ย นายเรียกฉันมาทำไมมีอะไรคุยทีหลังไม่ได้รึไงต้องมาคุยอะไรตอนนี้จะรีบกลับบ้านโว้ย ! ”
“ เดี๋ยวนี้นายติดบ้านติดช่องตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันไม่ยักรู้หรือที่บ้านมีอะไรพิเศษถึงอยากกลับไปนัก ” ภวัตต์หรี่ตามองหน้าน้องชายคล้ายจับพิรุธ “ เปล่า มีอะไรพูดมาเร็วๆเสียเวลา ” “ เออน่า อย่าบ่นนักเลยฉันคิดถึงน้องไม่ได้หรือไง ” ภวัตต์เทน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้น้องชายที่ตอนนี้นั่งแทบไม่ติดไม่รู้จะรีบกลับทำไมหนักหนา นี่อย่าบอกนะว่ามันรักสัตว์ในช่วงนี้ โทรไปกี่ทีมันก็บอกเลี้ยงแมวบ้าง ดูกวางน้อยบ้าง อยากเห็นหน้าตาจริงๆจะน่ารักขนาดไหน ลูกมงลูกแมวอะไรเนี่ย ภวิชเดินไปรอบห้องนอนคนโสดของพี่ชาย ว้าวุ่นใจจนแทบคลั่ง “ วัตต์เราถามหน่อยสิ นายไม่มีหวานใจบ้างหรือไง ” “ จู่ๆมาถามฉันเรื่องนี้ทำไมวะว่าที่คู่หมั้นนายหล่ะเจอบ้างรึยัง ” ภวัตต์ยกแก้วกาแฟเข้าปาก นี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว ภวิชเริ่มมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยนึกถึงเวลาถ้าเจอหน้าคู่หมั้นจริงๆแล้วมินตราของเขาหล่ะเธอจะรู้สึกยังไง วันนี้เขาไลน์บอกเธอแล้วว่าคงจะถึงบ้านดึกหน่อย ทั้งๆที่มาถึงตั้งแต่บ่ายแต่ไอ้พี่ชายตัวดีดันกักตัวไว้ “ นายมีอะไรก็รีบๆ พูดสิเร็วๆ เวลาฉันมีค่านะเว้ย ” ภวิชเถียงกลับตอนนี้คิดถึงภรรยาสาวแทบขาดใจ “ เรื่องงานนั่นแหล่ะตรงๆเลยนะ...............” ภวัตต์เริ่มพูดเข้าเรื่องการเรื่องงานนานพอสมควรภวิชมีสมาธิในการฟังงานแต่สติหลุดตอนไลน์เด้งขึ้นหลายข้อความจนอดไม่ได้ที่จะเบรกเรื่องงานไว้ก่อน “ วัตต์ขอเวลาแปปนึง” เขายกมือขึ้นห้ามคำพูดของพี่ชายแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดูแทน...ในใจร้อนรุ่มเหมือนใครจุดไฟเผา “ วิชนายเป็นไรรึเปล่า ” เขาถามเมื่อเห็นใบหน้าอำมหิตที่แผ่ขึ้นเต็มวงหน้าของน้องชาย มองฝ่ามือที่บีบโทรศัพท์หวังจะให้แหลกก็ไม่ปาน “ วัตต์เรื่องงานคุยพรุ่งนี้นะวันนี้เราเหนื่อยขอตัว ฟึ่บ ” “ เฮ้ยวิชเดี๋ยว! ” ภวิชไม่รอคำตอบของพี่ชายเขาเดินออกจากห้องด้วยอารมณ์พายุที่พร้อมจะพังทลายทุกอย่างตรงหน้าได้ 'นี่หรอ ที่บอกให้เขาไม่ต้องรีบกลับมา.... ...นี่หรอที่บอกคิดถึงเขา.......ผู้หญิงมารยา......... หลอกลวง........เธอมันเจ้าเล่ห์หลอกให้ฉันหลงเสน่ห์แล้วยังมีหน้า ไปหลอกคนอื่น แพศยา..... เธอจะต้องได้รับโทษมินตราที่กล้าสวมเขาให้ฉัน ผัวไม่อยู่ร่าเริงกับชายอื่น หึ.....!' ...ความหวงของรักมันไม่อาจหยุดคนเจ้าอารมณ์ได้เลย “ กลับบ้านสายชลไปเร็วที่สุด ปั้ง ” เสียงปิดประตูรถที่ดังลั่นไม่กลัวว่ามันจะพังเอาซะเลย ราคาไม่ใช่เล่นกี่ล้านไม่รู้เขาไม่สนใจ ฟังจากเสียงที่สั่งแล้วสีหน้าที่ขมวดมุ่นตลอดเวลา ทำให้สายชลรับรู้ได้ทันทีเลยว่าเจ้านายต้องเจอเหตุการณ์อะไรที่ไม่สบอารมณ์มาแน่ และในเวลาแบบนี้ไม่ควรปลิปากถามอะไรสักอย่าง เงียบไว้จะดีที่สุด เอี๊ยด ปึง! ” รถหรูหราที่วิ่งด้วยความเร็วตามแรงเหยียบของลูกน้องคนสนิทที่ทำตามคำสั่งของเจ้านายนี่ถ้ามีความเร็วถึง250 เขาไม่เหยียบมันจนปลิวไปเลยหรืออย่างไร ทันทีที่ถึงคฤหาสน์อันแสนงามในยามนี้ที่ตอนนี้คฤหาสน์หลังนี้แทบจะไหม้จุลด้วยพายุอารมณ์ของคนที่มาเยือนเสียงปิดประตูรถที่ดังสนั่นทำให้คนรับใช้รวมถึงแม่บ้านทั้งหลายกระเจิดกระเจิง รู้ความร้ายกาจและอารมณ์รุนแรงของคุณชายบ้านหลังนี้ว่าน่ากลัวขนาดไหน..... “ สายชลฉันต้องการพักผ่อนห้ามให้ใครมากวน ” ส่วนนี่ มันเป็นแบบแผนงานที่ฉันวางไว้แล้ว พรุ่งนี้ถ้าฉันไม่เข้าบริษัทนายช่วยจัดการแทนฉันทีแล้วไม่ต้องให้ใครเสนอหน้ามาหาฉัน ถ้าใครถามหาก็บอกไปว่าฉัน ไปสัมมนาเข้าใจไหม!! ”เขาสั่งเรื่องงานเมื่อก้าวเข้ามาในตัวบ้าน กระเป๋าเอกสารถูกโยนให้ลูกน้องที่เป็นทั้งบอดี้การ์ดแล้วยังทำหน้าที่เป็นเลขาคู่ใจให้กับเขาอีก “ ครับเจ้านาย ” ภวิชไม่พูดอะไรอีกนอกจากเดินตรงไปยังห้องนอนทันทีหมายจะลงโทษคนที่ปั่นหัวเขา “ ปัง! มินตรา ” เขากระชากประตูออกอย่างรวดเร็วแต่กลับไม่พบคนที่อดใจรอพบด้วยความคิดถึงมาหลายวัน แต่ตอนนี้มีเพียงความโกรธรุนแรงเท่านั้นและยิ่งไม่พบตัวคนที่อยากเจอภวิชยิ่งโกรธจนตัวสั่นกำหมัดแน่นเข้าหากันจนเส้นเลือดปูดโปน ...ดึกดื่นแล้วยังไม่กลับบ้านจะไปไหน... “ มินตราเธอได้ยินไหม! มิน ! มิน! ” เดินทั่วห้องกวาดสายตามองหาทุกมุม ความกังวลใจแผ่ไปทั่วใบหน้า รูปภาพมินตรากับชายแปลกหน้าที่ยิ้มหวานให้กัน ที่เขาเห็นในไลน์ รูปที่จับมือกันใกล้ชิดกันมันยิ่งทำให้ภวิชแทบคลั่งทำไมเธอถึงได้ดูสนิทกับไอ้ผู้ชายคนนั้นนักดูหน้ามันก็คุ้นๆยังไงชอบกล ผู้ชายในภาพ..ทั้งที่ตอนแรกไม่สนใจด้วยซ้ำว่า ใคร?จะส่งข้อความมาแต่พอมีรูปภาพและข้อความสุดท้ายที่เขาเห็น ผ่านหน้าจอ คือคำว่าน่ารักดี....มินตรา.....เท่านั้นแค่เห็นคำว่ามินตราเขาก็ไม่รอที่จะเปิดดูมันแล้วก็ได้เห็นภาพบาดตาคนขี้หวงก็ออกอาการอยากแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของและยิ่งเป็นของส่วนตัว นั่นหมายถึงไม่ต้องการให้ใครมายุ่ง! อย่าคิดมาแย่ง! ถ้าเขาไม่ให้! “ กรอด ” เสียงกัดฟันที่ข่มความโกรธยิ่งไม่พบคนก่อเหตุยิ่งทวีคูณ นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เจ็บปวดเหมือนที่เคยเจอมายิ่งทำให้เขาระแวง “ เสื้อผ้า! ” เขาพรึมพรำเบาๆเดินตรงไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าอย่างกระวนกระวาย “........ฟึ่บ......กึก....ปั๊ก โธ่โว้ย กล้าหนีฉันหรอมินฝันไปเถอะไม่มีทาง ” เมื้อพบเพียงความว่างเปล่าในตู้เสื้อผ้า ลิ้นชักหลายใบที่เคยมีของใช้เขาเปิดออกกลับไม่พบอะไรสักชิ้น คนมีปมในอดีตอย่างเขาแทบอยากเผาบ้านให้เป็นจุล “ นี่มีใครอยู่บ้านหลังนี้ไหม หายหัวไปไหนกันหมดวะ ได้ยินไหม ” เขาวิ่งลงบันไดตะโกนแหกปากเสียงดังเรียกคนในบ้านที่ไม่มีแม้เงา เสียงปิดประตูรถตั้งแต่เขาก้าวเข้าถึงตัวบ้านก็ไม่มีใครกล้ายืนอยู่บริเวณนั้นแล้ว “ คะคุณชายมีอะไรให้ป้ารับใช้ค่ะ ” แม่บ้านกล้าๆกลัวๆที่ต้องพูดกับเจ้านายหนุ่มเวลานี้ “ มินตราไปไหน ” “ ตอนนี้คุณมินยะอยู่!!! ” “ อยู่ไหนเล่ากระตุกกระตั๊กมันอยู่ได้อยากตายก่อนวัยรึไง ” “ เพล้ง!! อร้ายคุณมิน ” ทันทีที่ได้ยินเสียงเหมือนของบางอย่างที่ตกแตก และเสียงเรียกของแม่นมที่เขาจำได้กำลังเรียกคนที่เขากำลังหาตัวจึงไม่รอช้าที่จะไปลากเธอมาลงทัณฑ์โดยไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้างเลยมินตราค่อยๆลืมตาขึ้นมาในเช้าอีกหนึ่งวัน คุณหญิงมณีจึงตรงเข้าไปกอดลูกสาวเอาไว้แน่น “ มินตื่นแล้วหรอลูกเป็นยังไงบ้างค่อยๆลุกนะลูก ” “ มินรู้สึกเจ็บท้องค่ะแม่ แล้วลูกมินหล่ะค่ะ แม่ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ”มินตราเริ่มผวาเมื่อเธอสัมผัสหน้าท้องเธอจำได้ว่าเมื่อวานเธอมีอาการตกเลือดทำไมเธอเจ็บท้องแล้วความฝันก่อนหน้านั้นที่หนุ่มน้อยเดินหายไปจากเธอคืออะไร “ มินใจเย็นๆนะลูก ” “ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ลูกของหนู ” “ เขาไม่อยู่แล้วลูก หนูเสียเลือดมากคุณหมอต้องขูดมดลูกเพื่อช่วยชีวิตมินไว้ ” “ ไม่จริงอ่ะ แม่โกหกใช่ไหม ลูกหนูกับพี่วิช แม่โกหกใช่ไหม ฮือๆ แล้วพี่วิชหล่ะคะแม่ พี่วิชเขาปลอดภัยใช่ไหมคะแม่ ใช่ไหมฮือๆ ” “ ใจเย็นก่อนนะลูก คุณวิชเขาปลอดภัยหนูอยากไปหาเขาไหม ” “ จริงนะคะ เขาปลอดภัยจริงนะคะ ” ถึงแม้เธอจะเศร้าใจเรื่องลูกแต่ ภวิชปลอดภัยความหวังเธอก็ยังไม่โดนพังหมดซะทุกอย่าง ผู้เป็นแม่เมื่อเห็นน้ำตาของลูกก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ตามเธอสงสารลูกสาวคนเดียวอย่างจับใจแต่เมื่อโชคชะตาให้ลูกเธอเจอแบบนี้ เธอคงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆเธอไม่ตอบอะไรมากนอกจากพยักหน้า มินตราถูกพยุงให้นั่งรถเข็นแ
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ภัสสรใช้เวลาพอสมควรกว่าจะ มาถึง “ ถึงแล้ว ลงมาสิ ” “ เรามาทำอะไรกันที่นี่หรอคะ ” “ ฉันคงพาเธอมานั่งรถเล่นมั้งจะไปไหมเร็วๆเข้า ” “ อ๋อค่ะๆ ” มินตราปลดสายเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวแล้วรีบลงจากรถเมื่อเห็นว่าสาวน้อยที่พามาเริ่มหงุดหงิดแต่เธอก็ไม่เคยคิดโกรธภัสสรเลยเธอกลับชอบเพราะภัสสรซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเธอเองมินตราก้าวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกหลากหลายเธอสงสัย เธอกังวลหรือเธอกำลังกลัวกันแน่ ภัสสรสรเดินนำมินตราไปจนหยุดที่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง “ แกร๊ก ” “ ถึงแล้วเข้าไปสิ ” ภัสสรยืนพิงประตู เบี่ยงหลบทางให้มินตราที่ทำท่าชะเง้อชะแง้มองดู มินตรากล้าๆกลัวๆเดินเข้าไปในห้องเธออยากพบภวิชนะแล้วภัสสรพาเธอมาเยี่ยมใครกัน มินตราเดินใกล้เข้ามายังเตียงผู้ป่วยก็พบกับทั้งพ่อแม่ภวัตต์และรฏาในห้อง เท่านั้นยังไม่พอทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียวคำพูดต่อมาของภวัตต์ทำให้มินตราก้าวขาไม่ออก “ วิช มินมาหา นายลืมตามาดูเธอหน่อยสิฉันรู้ว่านายคิดถึงเขา ” เปลือกตาภวิชที่ขยุบขยิบเหมือนกับได้ยินสิ่งที่ภวัตต์บอกแต่ปฏิกิริยาไม่มีการตอบสนองที่ทำให้รู้ว่าเขาฟื้น มินตรามอ
“ พี่แหวน พี่มองหาใครหรอค่ะ ” “ อ้าวคุณมิน เปล่าค่ะ พี่แค่กำลังมองหารถคันนึงหน่ะค่ะ จะชอบมาจอดหน้าบ้านเราเป็นเวลานานๆ แต่สองสามวันมานี่ไม่เห็นแล้วหล่ะคะ ไม่รู้ว่าพวกโรคจิตหรือเปล่านะคะ จอดรถหน้าบ้านแต่ไม่มีคนลงจากรถเลย ” มินตรามองไปยังหน้าบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตามสายตาสาวใช้ที่บอกไป “ พี่แหวนคิดมากไปหรือเปล่าคะเขาอาจจะเป็นญาติฝั่งตรงข้ามนะคะ ” “ จริงๆนะคะคุณมิน ” “ ชั่งเถอะค่ะ ” “ อะๆ นั่นไงคะรถคันนั้นไงคะคุณมิน ” “ หืม ” มินตราชะงักเท้าที่เธอเพิ่งจะหันหลังกลับเข้าบ้านรถหรูหราที่ หน้าตาคุ้นเคย แล่นมาจอดหน้าบ้านตามคำพูดของสาวใช้มินตราไม่รอให้สาวใช้ตรงไปเปิดประตูเธอเลือกก้าวขาไปหาเอง “ แกร๊ก ” เสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านและเธอก็ได้เห็นร่างสง่างามสมส่วนของสายชลที่ก้าวลงจากรถเดินตรงมาหาเธอ “ สวัสดีครับคุณมิน ” “ สวัสดีค่ะคุณสายชล ” “ คุณมินสบายดีไหมครับ ” “ ก็อย่างที
ตกกลางคืนภวิชเริ่มมีสติหลังจากดื่มน้ำเมาแล้วยังทะเลาะอย่างรุนแรงกับน้องสาวสุดที่รักอีก เขาอดห่วงมินตราไม่ได้จริงๆจึงต้องหวนกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อมาหาเธอ คุณหญิงมณีที่อยู่ภายในห้องแต่ทำไมในห้องถึงมีอดีตเพื่อนรักอย่างโทนี่อยู่ด้วยเขาเอานิ้วมือเรียวแตะที่กระจกเพื่อสัมผัสใบหน้า มินตราผ่านอากาศที่หลังจากนี้เขาจะไม่มีสิทธิ์สัมผัสชิดใกล้กับเธออีกแล้ว “ มินพี่ไม่รู้ว่าลูกจะได้อยู่กับพวกเราไหม แต่ถ้าหากลูกได้อยู่ บอกรักเขาแทนพี่ด้วยนะมิน ” น้ำตาไหลลงอีกครั้งนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอ “ ไอ้เสี่ยชัย!!! ฉันไม่ปล่อยแกไว้ให้แกทำร้ายลูกกับเมียฉันซ้ำสองแน่!! ” เขาทิ้งความอ่อนโยนครั้งสุดท้ายไว้ให้กับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาและแม่ของลูกเขาก่อนจะเปลี่ยนสายตาเป็นแข็งกร้าวและข่มเสียงพูดถึงคนที่ทำร้ายดวงใจของเขา ด้วยความแค้นสุมอก มีใครเคยบอกไหมว่าอย่าให้คนอย่างเขาแค้น เพราะนั่นหมายถึงแค้นฝั่งหุ่นทั้งเป็นและตาย เขาจะไม่ยอมให้คนที่เขารักเป็นอันตรายไปอีกแล้วมันมากไปแล้วที่ผ่านมา
ภวิชที่ทำแผลเสร็จตอนนี้เขาพันแผลที่หัวไหล่แล้วเรียบร้อย เขาก็รีบตรงมายังหน้าห้องฉุกเฉินทันที เป็นเวลาที่หมอออกมาจากห้องผ่าตัด “ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ ” “ ตอนนี้หมอทำการผ่าตัดนำกระสุนออกมาแล้วนะครับแต่อาการเธอตอนนี้ยัง...” “ เกิดอะไรขึ้นครับหมอ คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ” “ เอ่อ คือหมอคิดว่าคุณคงทำใจไว้สักนิดนะครับ ” “ หมายความว่าไงคะหมอ ” รฏาเริ่มใจคอไม่ดี “ เธอมีอาการตกเลือดหน่ะครับ คุณต้องทำใจไว้ส่วนหนึ่งด้วยนะครับเธออาจสูญเสียเด็กในท้อง ” “ เด็กในท้อง หมายถึง ละ ลูกหน่ะหรอ ” ภวิชพูดจาติดขัดเขาพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้ยิน สายชล ภวัตต์ รฏา รวมถึง กฤษที่อยู่บริเวณนั้น ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คนที่ตกใจที่สุดคงไม่พ้นภวิช “ เฮ้ย! วิช ” ภวัตต์รีบเข้ามาพยุงน้องชายที่เข่าอ่อนลงทันทีที่หมอพูดจบ มินตราท้องหรอ ที่สาวน้อยเขาเพลียบ่อยๆตอนนั้นที่เขาสงสัยว่าทำไมเธอถึงเหนื่อยง่ายๆ เพราะเธอท้องงั้นหรอ แล้วทำไม ทำไมมินถึงใจร้ายไม่ยอมบอกเขาไม่ยอมให้เขาทำหน้าที่พ่อของลูกบ้าง ภวิชเหมือนคนหูอื้อไม่ได้
- แต่งงานกันนะครับ- ทันทีที่เพลงเล่นจบลงภวิชก็ดึงมือทั้งสองของมินตรามากุมไว้ในขณะที่เขายังคงคล้องแซกโซโฟนอยู่เขาใช้นิ้วมือปาดน้ำตาของคนสวยที่เปื้อนตรงแก้มใสอย่างอ่อนโยนแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเขาย่อตัวไปหยิบกล่องแหวนขึ้นมาแล้วมองกล่องแหวนในมือภาวนาขอให้มินตราตอบรับเขา “ ว่ายังไงครับ แต่งงานกับพี่ได้ไหม พี่จะทำให้มินมีความสุขที่สุด ” “ คุณวิชคือมิน.....” “ ว่ายังไงครับ ” “ มิน ไม่........ ” “ ฟุ้บ ปังๆๆๆ ” เสียงปืนที่ดังขึ้นหลายนัดทำให้ความโรแมนติกทุกๆ อย่างหมดสิ้นลง เสียงระเบิดที่ดังขึ้นท้ายเรือทำให้มินตราตกใจ ภวิชคว้าดึงมินตราเข้ามากอดเขาหันมองซ้ายขวา สายชลที่คอยช่วยเหลือควบคุมระบบไฟอยู่บนสุดของเรือในห้องกัปตัน ลูกน้องบางส่วนที่กระจายคอยดูอยู่รอบๆ เขาไม่ได้บอกมินตราเรื่องนี้เพราะกลัวเธอจะตกใจ แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ “ วิช ” “ วัตต์นายรีบพามินลงไปจากเรือลำนี้ที ฉันจะดูทางนี้ให้ ” “ แล้วคุณหล่ะคะวิช ” รฏาเป็นฝ่ายถาม สมองมินตราสับสนไปไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น “ ผมจะดูต้นทางให้รีบลง