공유

บทที่ 3

last update 최신 업데이트: 2024-10-20 11:55:41

บทที่ 3

 

“น้องยี่หวามาด้วยเหรอวะ ยิ่งโต ยิ่งสวย ผ่านมากี่ปีก็ยังสวยไม่เปลี่ยน”สายตาของอนุภพจับจ้องไปยังภัทรานิษฐ์แบบไม่กระพริบ บางครั้งก็แอบลามกสำรวจทรวดทรงองค์เอวของเธอ เพราะภัทรานิษฐ์ในความทรงจำนั้นใส่แค่ชุดนักเรียนและชุดนิสิต แต่วันนี้เธอเป็นสาวสะพรั่ง หน้าอกหน้าใจอวบอูม เอวคอดกิ่ว ผิวสวยๆ ที่เห็นเมื่อไหร่ก็อยากเข้าไปสัมผัสแต่ก็ทำได้เพียงแค่คิด

“ไหนวะ น้องยี่หวาของเอ็ง" พัฒน์ชนะมองตามสายตาของอนุภพไปเหมือนกัน ก่อนจะเอ่ยถามว่าคนที่ทำให้เพื่อนออกอาการเพ้อได้ขนาดนี้คือใคร 

“นั่นไง คนที่ใส่ชุดเกาะอกสีฟ้านะ”อนุภพเอ่ยบอกพิกัดพัฒน์ชนะจึงมองตามไปก่อนจะถึงบางอ้อ ที่เขาไม่ทันเห็นเมื่อครู่ก็เพราะมีหนุ่มๆ ยืนล้อมหน้าล้อมหลังเธออยู่นั่นเอง 

“อ้อ...ผู้หญิงในรถนั่นเอง” 

“อ้อ...อุทานเหมือนไม่รู้จัก เฮ้ย...อย่าบอกนะว่าแกไม่รู้จักน้องเขา”คนขี้สงสัยเอ่ยถาม เพราะอนุภพไม่เชื่อว่าพัฒน์ชนะจะไม่รู้จักภัทรานิษฐ์ แต่ก็อาจจะไม่แน่เพราะเพื่อนของเขานั้นออกจะเป็นหนุ่มเนื้อหอมมีสาวๆ รายล้อมอยู่เป็นประจำ

“ไม่รู้จัก”พัฒน์ชนะเอ่ยตอบตามตรง แม้จะไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวแต่ที่เขารู้สึกว่าคุ้นหน้า คงเป็นเพราะเคยเรียนที่โรงเรียนเดียวกันก็ได้ อาจจะมีการเดินสวนกันไปมาบ้างละ 

“เป็นไปได้ยังไงวะ ก็น้องเขาเป็นทั้งรุ่นน้องที่โรงเรียน และก็เป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยอีก พอเข้าปีหนึ่งยังได้เป็นดาวคณะ แถมยังชนะการประกวดได้เป็นดาวมหาวิทยาลัยเชียวนะเอ็ง เรียนก็เรียนโรงเรียนเดียวกัน จบก็จบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน จะเป็นไปได้ยังไงวะที่เอ็งจะไม่รู้จัก" อนุภพออกแนวไม่เชื่อที่พัฒน์ชนะไม่รู้จักภัทรานิษฐ์จริงๆ เพราะหญิงสาวนั้นเป็นที่รู้จักมากอยู่ 

“จริงเหรอ...ไม่เห็นรู้เรื่องน้องเขาสักนิด”พัฒน์ชนะเอ่ยรับ เพราะเขานั้นไม่รู้จักภัทรานิษฐ์เป็นการส่วนตัวจริงๆ จะให้ทำยังไง 

“เวรกรรม”เพื่อนหนุ่มเอ่ยบอกน้ำเสียงออกแนวปลงๆ 

“วันประกวดดาว เดือนอะไรนั่น ข้าคงไม่ได้ไปมั้ง”คนฟังทำท่าคิด ขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังภัทรานิษฐ์อยู่ ยอมรับว่าคืนนี้หญิงสาวดูสวยโดดเด่นมาก สวยกว่าทุกคนในงานเลยก็ว่าได้ แต่ทำไมเธอถึงไม่มองมาทางเขาสักนิด ทั้งๆ ที่ผู้หญิงในงานต่างก็จับจ้องเขาทั้งนั้น รวมทั้งเพื่อนของหญิงสาวสองคนในที่อยู่ในรถนั่นก็ด้วย แต่ภัทรานิษฐ์กลับนิ่งเฉย 

ที่สำคัญถ้าเป็นอย่างที่อนุภพพูด ทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนก็ไม่รู้ได้ สงสัยตอนนั้นมีแค่คนมาสนใจก็เลยไม่ได้สนใจคนอื่นมั้ง เพราะสาวๆ ที่เข้ามาหาเขาแต่ละคนก็สวยไม่แพ้ภัทรานิษฐ์หรอก 

“เออใช่ๆ วันนั้นเอ็งไม่เข้าไปนี่หว่า ข้าลืมไป โทษที” อนุภพถึงบางอ้อ แต่ภัทรานิษฐ์มาเปล่งประกายความสวยก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี่แหละ ตอนนั้นเขาคิดอยู่เสียนานว่ารุ่นน้องปีหนึ่งคนนี้ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นหน้ามาก เหมือนจะเคยเจอกันที่ไหนสักที่ ก่อนจะยิ้มเมื่อรู้ว่าเธอจบมาจากโรงเรียนเดียวกันกับเขา 

“สวยๆ แบบนี้รอดมือข้าไปได้ไงวะ” 

“ปากเสียนะเอ็ง ข้าจะบอกให้ว่าสมัยเรียน ไม่มีใครได้แอ้มน้องเขาแน่นอน เพราะน้องยี่หวาไม่เคยมีแฟน ถึงจะมีคนจีบมากแต่ไม่เห็นควงใคร” คำพูดแสนมั่นใจของอนุภพ ทำให้พัฒน์ชนะแอบคิดว่าการรู้ลึก รู้จริงแบบนี้ หนึ่งในคนที่ไปตามจีบหญิงสาวต้องมีเพื่อนเขาคนนี้แน่นอน 

“เหรอ งั้นคืนนี้ข้าจะแอ้มน้องเขาให้ดู” พัฒน์ชนะเอ่ยบอกอย่างมั่นใจ 

การที่เขาคิดจะทำแบบนั้นเนื่องจากอยากเอาชนะเธอ ผู้หญิงที่กล้าเมินใส่เขา เพราะคนอย่างเขาต้องเมินใส่ผู้หญิงเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่าท่าทางของภัทรานิษฐ์ที่แสดงออกตอนนี้ เนื่องจากหญิงสาวกำลังประหม่านั้นเอง เพราะแค่ก้าวเข้ามาในงานเมื่อครู่ สายตาของเธอก็ประสานกับคนที่แอบชอบอยู่เข้าอย่างจัง จนต้องแสร้งไม่สนใจเขา ทั้งๆ ที่ภายในใจนั้นเต้นไม่เป็นส่ำ

“อ้าว...ไอ้นี่” คนฟังหันขวับมามองเพื่อน 

“พนันกันไหมล่ะ ว่าข้าทำได้” คนเอ่ยท้าพนันเอ่ยบอกด้วยความมั่นใจ รูปร่างหน้าตาอย่างเขา ต่อไม่เสนอผู้หญิงต่างก็เข้ามาสนองถึงที่นักต่อนักแล้ว ประโยคนี้ได้ยินกันแค่พัฒน์ชนะและอนุภพเท่านั้น 

“ฉิบ…หาย...” อนุภพเอ่ยแต่ละคำเน้นๆ ไม่รู้ว่าในสมองพัฒน์ชนะนั้นกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ 

“เอ็งไม่กล้าล่ะสิ เพราะคนอย่างข้า อยากได้อะไรก็ต้องได้ว่ะ” 

“หนึ่งแสน” เงินพนันสูงลิ่ว เพราะอนุภพมั่นใจว่าพัฒน์ชนะไม่กล้าเล่นต่อแน่นอน แต่กลับผิดคาดไปมากโข เพราะคนอย่างพัฒน์ชนะเมื่อได้ยินคำนี้ต้องกระโดดใส่ เพราะนั่นมันคือสิ่งที่ชายหนุ่มคิดว่าเป็นการท้าทาย แต่ก็ไม่วายเอ่ยหยั่งเชิง 

“ยอดพนันของเอ็งเยอะนี่หว่า” 

“เพราะข้ามั่นใจว่าเอ็งจะไม่ได้แอ้มน้องเขาแน่นอน" แม้จะไม่มั่นใจเต็มร้อย แต่อนุภพก็เอ่ยดักไว้ก่อน 

 “ตกลงตามนั้น หนึ่งแสน”คำตอบรับของพัฒน์ชนะ ทำให้อนุภพตาค้าง เขาก็ได้แต่ภาวนาว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาภายหลัง และได้แต่หวังว่าภัทรานิษฐ์จะไม่ยอมใจอ่อนให้ไอ้เพื่อนหน้าหล่อของเขา อนุภพมองไปยังภัทรานิษฐ์ด้วยความเห็นใจ ทางฝ่ายพัฒน์ชนะเองก็มองหญิงสาวอย่างไม่วางตาเช่นกัน 

แต่เพียงไม่นานเขาก็หันไปสนใจสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นรุ่นน้องที่เขาเคยควงสมัยเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยซึ่งบางคนจบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน และในวันนี้ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เปรี้ยวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าตามเดิม

 

 

++++++++++++++++

ฝากติดตามผลงานของนักเขียนนามปากกา วรนิษฐา ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • พิศวาสร้อนซ่อนรัก   บทที่ 107 (จบ)

    “ดีมากจ้ะ” ภัทรานิษฐ์ลูบใบหน้าพลอยประภัสเบาๆ เด็กหญิงจึงได้ทีถามแม่เรื่องการแต่งตัว เพราะอยากให้ชม“แม่จ๋า… น้องพราวแต่งตัวเสร็จแล้ว เก่งไหมคะ”“เก่งค่ะ ว่าแต่วันนี้ใครแต่งตัวให้น้องพราวของแม่นะ” ภัทรานิษฐ์มองชุดที่ลูกสาวสวมอยู่ ไม่มีอะไรเกินความคาดหมายวันนี้พลอยประภัสมาในชุดเสื้อยืดเท่ๆ กางเกงยีนส์ขายาว คาดเข็มขัด ผมยาวเลยบ่าไปแล้ว มัดสูงขึ้นรวบตึงที่ด้านหลัง ใส่หมวกอีกใบคงเท่ขึ้นเป็นกอง“พี่พลอย”“ขอบคุณพี่หรือยังคะ”“ยังค่ะ”“หนูต้องทำยังไง” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูก พลอยประภัสหันมองหาพลอยไพลิน เมื่อเห็นว่ากำลังเดินลงมาจากบันไดก็เข้าไปกอดและเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้ม ก่อนจะเอ่ยบอก“ขอบคุณค่ะ พี่สาวของน้องพราว” พลอยไพลินที่ลงมาช้า เพราะพึ่งแต่งตัวเสร็จ หลังจับน้องจอมซนใส่เสื้อผ้าแล้ว เด็กหญิงยิ้มให้น้องทันที ก่อนจะจูงมือไปยังโต๊ะอาหารที่พ่อนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งภัทรานิษฐ์และพัฒน์ชนะยิ้มให้ เพราะทั้งสองคนมักจะบอกลูกๆ ว่าใ

  • พิศวาสร้อนซ่อนรัก   บทที่ 106

    ห้าปี ต่อมาครอบครัวของพัฒน์ชนะและภัทรานิษฐ์ สมบูรณ์แบบตามคำว่าครอบครัว มีความรักลอยอบอวลอยู่รอบข้างของเหล่าสมาชิกที่ตอนนี้เพิ่มมาเป็นสี่คนและอีกหนึ่งคนกำลังเติบโตอยู่ในท้องของภัทรานิษฐ์รอเวลาลืมตาดูโลก ภาพตอนนี้ คือทั้งสี่คนกำลังยืนแปรงฟันหน้ากระจกและอ่างล่างหน้าที่ลดหลั่นเป็นขั้นบันไดไปตามความสูง เริ่มที่พัฒน์ชนะ ภัทรานิษฐ์ พลอยไพลินและพลอยประภัส สมาชิกคนที่สี่ที่ตอนนี้อายุได้สามขวบแล้ว ส่วนพลอยไพลินเป็นพี่ใหญ่อายุเจ็ดขวบครึ่ง“แปรงให้สะอาดนะคะ” เสียงอบอุ่นของแม่เอ่ยบอก ทั้งสามีและลูกๆ ของเธอ“ค่ะ/ค่ะแม่” เสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวทั้งสองคนเอ่ยตอบภัทรานิษฐ์กลับไป ยิ่งนานวันครอบครัวนี้ก็ยิ่งมีแต่ความสุขและความน่ารักของสมาชิก“ไหน… อ้าปากให้พ่อดูหน่อย น้องพลอย น้องพราว” พัฒน์ชนะที่แปรงฟันเสร็จแล้ว ลงไปนั่งยองๆ มองหน้าลูกทั้งสองคน“อ้า...” พลอยไพลินและพลอยประภัสอ้าปากให้ผู้เป็นพ่อดูความสะอาด ก่อนจะยิ้มแฉ่งอวดฟันซี่เล็กๆ สีขาวที่ดูแลเป็นอย่างดี“โอ้โห้...ฟันขาวสะอาดกั

  • พิศวาสร้อนซ่อนรัก   บทที่ 105

    “คุณเก๋!” น้ำเสียงตึงๆ ของศุภวุฒิดังขึ้นไปอีก ชายหนุ่มกำลังโกรธเพราะหึงอยู่นั่นเอง ลักขณาจึงเอ่ยดักทางไว้“ทำเสียงเข้มๆ แบบนั้นทำไมคะ หึงหรือไง”“เปล่า ไม่ได้หึง” ศุภวุฒิรีบปฏิเสธทันที ก่อนจะกลับไปทำ หน้าตาย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ลักขณาส่ายหน้าให้ผู้ชายปากแข็ง ลักขณาขี้เกียจจะซักต่อ จึงเอ่ยถามถึงที่หลับที่นอนของเขาแทน“เปล่าก็เปล่า แล้วนี่คุณวุฒิจะพักที่ไหน”“ที่นี่” ชายหนุ่มเอ่ยตอบแบบไม่รีรอ คนฟังอุทานเสียงดังทันที“เอ๋…ได้ไงคะ”“ทำไมจะไม่ได้ ผมจะนอนที่นี่”“เก๋…พึ่งรู้ว่าคุณวุฒิเอาแต่ใจ”“อืม จะว่าไปที่นี่มีโรงเรียนอนุบาลหรือยังนะ” ศุภวุฒิไม่ตอบคำถามนั้นของลักขณา ก่อนจะทำท่าคิด เรื่องที่เขาต้องการจะทำอีกอย่าง“ถามทำไมคะ”“คงต้องสำรวจตลาดกันสักหน่อย เผื่อจะมีคู่แข่ง” สีหน้าของชายหนุ่มดูจริงจังมาก ก่อนจะควานหาอะไรในกระเป๋

  • พิศวาสร้อนซ่อนรัก   บทที่ 104

    หลังเสร็จงานแต่งงานของพัฒน์ชนะและภัทรานิษฐ์ที่แสนเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความทรงจำที่แสนล้ำค่า พอเห็นลูกมีความสุขจรรยาและทวี รวมทั้งวสุวัสก็ขอตัวกลับบ้าน ภัทรานิษฐ์อยากให้ครอบครัวเธออยู่ต่ออีกหน่อย แต่ทุกคนกลับส่ายหน้าให้ เพราะสามสี่วันที่ได้อยู่ดัวยกันมันก็มีค่ามากพอแล้ว อีกอย่างกรุงเทพฯ - ตราดก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ ไปมาหาสู่ได้สบาย อนุภพมีงานก็ขอตัวกลับด้วยเหมือนกันส่วนศิรดาและรัชยศก็ขอตัวกลับกรุงเทพฯ เพราะศิรดามีนัดตรวจครรภ์ ลักขณาเองก็ต้องกลับโดยมีศุภวุฒิขับรถไปส่งเธอใจจริงหญิงสาวอยากอยู่นานๆ แต่ด้วยงานที่ต้องรับผิดชอบจึงทำแบบนั้นไม่ได้ ที่ชะอำในตอนนี้จึงมีแต่เหล่าสมาชิกของบ้านสุนทรโรจน์อยู่กันพร้อมหน้า พวกเขาจะอยู่ต่ออีกวัน พรุ่งเช้าค่อยกลับกรุงเทพฯ ศุภวุฒิขับรถมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ชายหนุ่มเข้าไปรับตั๋วเครื่องบินให้ลักขณา เพราะเขาจองตั๋วไว้แล้ว แต่ในมือศุภวุฒิลับมีตั๋วถึงสองใบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะส่งตั๋วเครื่องบินใบหนึ่งให้เธอ“คุณวุฒิ… จะบินไปไหนคะ”“ผมมีงานน่ะครับ” ศุภวุฒิ ไม่ได้บอกว่าเขามีงานที่ไหน ลักขณาออกอาการงง

  • พิศวาสร้อนซ่อนรัก   บทที่ 103

    “พี่รักยี่หวา”“ยี่หวาก็รักพี่แพทค่ะ”“เราจะรักกันไปจนวันตาย”“ค่ะ” ภัทรานิษฐ์เอ่ยรับคำพูดนั้น ทุกคนที่ได้ยินทั้งสองเอ่ยคำรักกันและกัน ถึงกับยิ้มอย่างตื้นตัน เมื่อสวมแหวนเรียบร้อย บ่าวสาวก็เดินไปนั่งตรงซุ้มที่ประดับประดาอย่างสวยงาม ให้ทุกคนได้รดน้ำสังข์ แต่น้ำสังข์ของงานแต่งงานครั้งนี้เป็นทรายสีชมพูที่ผ่านการอวยพรมาจากทุกคนที่ทั้งสองรักบรรยากาศรดน้ำสังข์ทำเอาน้ำตาของภัทรานิษฐ์ไหลนองหน้า คำอวยพรจากพ่อแม่ของเธอ รวมทั้งพ่อและแม่ของพัฒน์ชนะ มันทำให้หญิงสาวมีความสุขจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ เพราะทุกคนล้วนอวยพรให้เธอและพัฒน์ชนะมีความสุขทั้งนั้น ลักขณาและศิรดาก็แอบปาดน้ำตาเหมือนกัน เธอดีใจที่ภัทรานิษฐ์มีวันนี้ วันที่เพื่อนเธอมีความสุข และคนรอบข้างก็อวยพรให้อย่างจริงใจและปรารถนาดีเมื่อผ่านการรดน้ำสังข์และได้รับคำอวยพรจากทุกคน ภัทรานิษฐ์ก็โยนช่อดอกไม้ โดยมีบรรดาสาวโสดที่เป็นพนักงานของรีสอร์ตมายืนรอกันไม่น้อย แต่กลับไม่มีลักขณา เพราะเธอเขินจึงยืนหลบอยู่กลังศุภวุฒิ แต่โชคชะตาก็ได้กำหนดให้ช่อกอดไม้ของภัทรานิษฐ์ มาหล่

  • พิศวาสร้อนซ่อนรัก   บทที่ 102

    “หวา… อย่าพึ่งร้องไห้สิ เดี๋ยวไม่สวยนะ” ศิรดาเอ่ยบอกเพื่อน ซึ่งมันดูยากที่จะห้ามเหลือเกิน เพราะเธอเคยผ่านอารมณ์การแต่งงานมาแล้ว จึงพอเข้าใจว่าตื่นเต้นมากแค่ไหน แถมพัฒน์ชนะยังทำเซอร์ไพรส์ใหญ่แบบนี้ ไม่ตกใจก็ให้มันรู้ไปสิ“ก็คนมันอดไม่ได้ แกสองคนรู้เรื่องนี้กันตั้งแต่ตอนไหน”“เรื่องอะไร ฉันไม่รู้” ลักขณาปฏิเสธตาใส ภัทรานิษฐ์จึงคาดคั้น“ฝน เก๋ เล่ามา”“เสร็จงานก่อน แล้วพวกฉันจะสารภาพนะเพื่อน” ศิรดายิ้มให้ ก่อนจะบรรจงแต่งหน้าภัทรานิษฐ์ให้สวยที่สุด ลักขณาหยิบดอกไม้สีขาวขึ้นมาปักบนเส้นผมที่จัดแต่งอย่างสวยงามของเพื่อน ตามด้วยมงกุฎเพชร ที่เข้ากับชุดแต่งงานสีขาวนั่นเป็นที่สุดเมื่อหน้าผมพร้อม ภัทรานิษฐ์ก็เปลี่ยนชุด เธอยืนมองตัวเองหน้ากระจกเป็นนาน ลูบชุดแต่งงานเกาะอกสีขาวบริสุทธิ์ที่สวมอยู่อย่างเบามือ มุกและคริสตัลทุกเม็ด รวมทั้งลูกไม้ที่ปักอยู่สวยงามไม่มีที่ติ ที่สำคัญเธอใส่มันได้พอดี จึงชวนให้คิดวันที่ศิรดาขอวัดตัวเธอ แล้วบอกว่าจะตัดชุดส่งไปให้ญาติที่ต่างประเทศ ที่แท้ก็เ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status