Home / โรแมนติก / พิศวาสล่ามรัก / ตอนที่ 4 ครั้งนี้ไม่เจ็บเท่าไหร่

Share

ตอนที่ 4 ครั้งนี้ไม่เจ็บเท่าไหร่

last update Last Updated: 2025-02-12 20:43:18

 

          หลังจากนั่งคุยกันพักใหญ่ พยาบาลก็เข้ามาทำแผล นฤดลบอกให้หญิงสาวออกไปรอนอกห้องเพราะกลัวว่าหญิงสาวเห็นแผลของเขาแล้วจะกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ 

          “มีนาอยากอยู่เป็นเพื่อนคุณดลไงคะ ถ้าเจ็บก็บีบมือมีนาไว้แน่นๆ นะคะ” หญิงสาวกระซิบ ก่อนจะสอดมือเข้าใต้ผ้าห่ม มือเล็กสอดนิ้วเข้ากับมือใหญ่ บีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจ

          แผลที่หัวไหล่มีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ พยาบาลต้องค่อยๆ ดึงผ้าก็อซอย่างเบาที่สุด แต่ก็ยังมีเลือดไหลซึมออกมาจากรอยแผล

          “ต้องทำแผลทุกวันไหมคะ” มีนาชวนเธอคุย

          “ค่ะ ต้องทำแผลและเปลี่ยนผ้าทุกวัน จะเจ็บหน่อยนะคะ เพราะแผลค่อนข้างลึกค่ะ” เธอหันมาตอบทั้งคนถามและบอกคนเจ็บไปพร้อมๆ กัน

          “นานไหมคะกว่าแผลจะหาย” มีนาถามด้วยความอยากรู้

          “ดูจากลักษณะและความลึกแล้วก็ประมาณเดือนกว่าถึงจะหายสนิทค่ะ แต่แผลก็จะตื้นขึ้นทีละนิดนะคะ หลังจากสัปดาห์แรกคุณต้องพยายามยกแขนข้างนี้ขึ้นบ้าง ช่วงแรกอาจจะเจ็บหน่อย”

          “ทำไมต้องยกล่ะคะ รอให้หายก่อนไม่ได้เหรอคะ” มีนายังคงถามต่อ

          “ถ้าคนไข้ไม่ใช้แขนหรือขยับหัวไหล่ข้างที่เจ็บเลย หัวไหล่ของคนไข้จะยึดติดได้ค่ะ ถ้าถึงเวลาที่จะเริ่มบริหารหัวไหล่จริงๆ จะมีนักกายภาพมาแนะนำอีกทีค่ะ”

          ขณะที่พยาบาลคุยกับมีนา คนเจ็บอย่างนฤดลก็จับมือเธอแน่น เขารู้สึกเจ็บมากถึงแม้พยาบาลจะให้ยาแก้ปวดผ่านทางสายน้ำเกลือก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม

          ชายหนุ่มมองหน้ามีนาขณะที่เธอกำลังมองพยาบาลอย่างไม่วางตา สายตาของหญิงสาวที่มองบาดแผลของเขานั้นไม่มีความหวาดกลัวเลยสักนิด หากแต่ว่ามันเต็มไปด้วยความห่วงใยและความเห็นใจ

ทุกครั้งที่พยาบาลแตะไม้พันสำลีลงบนแผล หน้าเธอจะนิ่วเหมือนตัวเองกำลังเจ็บ กิริยาของเธอทำให้คนเจ็บอย่างเขาคลายความรู้สึกเจ็บไปได้ค่อนข้างมาก

“คุณเจ็บมากไหมคะ”

“มากสิ”

“แต่คุณดลเก่งมากเลยนะคะ เพื่อนของมีนาเลยรถล้มแล้วมีแผลแบบนี้ที่เข่า แต่เวลาที่พยาบาลมาทำแผลเขาร้องลั่นห้องเลยค่ะ มีนากับเพื่อนอีกคนต้องเอาผ้าเช็ดหน้ายัดปากเขาไว้”

“แล้วถ้าฉันร้องลั่นแบบนั้นเธอจะอาผ้าเช็ดหน้ายัดปากฉันไหมล่ะ”

“มีนาไม่กล้าทำหรอกค่ะ”

“วันแรกฉันก็แหกปากเหมือนเพื่อนเธอนั่นและ ไม่เชื่อถามคุณพยาบาลดูสิ”

“จริงเหรอคะคุณพยาบาล”        

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ก็แค่ร้องว่าเจ็บเท่านั้นเอง แต่วันนี้คนไข้เก่งมากนะคะที่ไม่บ่นว่าเจ็บ”

“ถึงผมบ่นไปมันก็ไม่หายเจ็บนี่ครับ” นฤดลตอบพยาบาล วันนี้เขายังเจ็บอยู่และเหมือนจะเจ็บกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ทุกครั้งที่เจ็บเขาจะบีบมือเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม ซึ่งพอเขาบีบมือเธอหนึ่งข้าง มืออีกข้างที่อยู่ด้านบนก็ลูบไปบนหลังมือเบาๆ อย่าปลอบโยนมันทำให้ความรู้สึกเจ็บลดน้อยลงได้อย่างประหลาด

“เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวพยาบาลพิเศษก็คงประชุมเสร็จ เขาจะเข้ามาเช็ดตัวให้นะคะ”

“ขอบคุณครับ” นฤดลกล่าวของคุณ

พอพยาบาลเดินออกไปแล้วมีนาก็ดึงมือของตัวเองออกก่อนจะดึงทิชชูส่งให้กับนฤดล

“เหงื่อคุณดลเต็มเลยค่ะ”

“ขอบใจนะมีนา” เขาหยิบมาเช็ดแล้วส่งคืนให้เธอเอาไปทิ้งขยะ

“คุณดลจะนอนพักไหมคะ เดี๋ยวมีนาปรับเตียงให้”

“ไม่ละ แต่ฉันอยากกินผลไม้ มีนาเอาให้หน่อยสิ พี่ฤดีเตรียมไว้ให้แล้วในตู้เย็น”

มีนาเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบกล่องผลไม้มาวางบนโต๊ะก่อนจะลากไปคร่อมบนเตียงเพื่อให้เขาหยิบทานได้เองอย่างสะดวก

“เอาอะไรเพิ่มไหมคะ”

“ไม่ล่ะ ขอบใจมาก กินด้วยกันไหม”

“ไม่ดีกว่าค่ะ มีนาไม่อยากแย่งคนเจ็บ”

“ผลไม้ตั้งเยอะแยะฉันกินคนเดียวกินไม่หมดหรอก ขากลับมีนาเอากระเช้าผลไม้กลับด้วยนะ”

“น่าเกลียดตายเลยค่ะ มาเยี่ยมตัวเปล่าแต่พอขากลับเอาของกลับไปด้วย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น”

“ถ้างั้นก็ต้องมาช่วยกันกินนะ”

“พูดแบบนี้แสดงว่าคุณยอมให้มีนามาเฝ้าแล้วใช่ไหมคะ”

“อือ มีนามาเฝ้าก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ไม่เหงา แต่เธอนั่นแหละจะเหงา”

“ไม่หรอกค่ะ มีนาขอเอาหนังสือมาอ่านด้วยได้ไหมคะ”

“ไหนว่าสอบเสร็จแล้ว”

“มีนาจะอ่านหนังสือภาษาอังกฤษค่ะ”

“อ๋อ”

การได้คุยกับมีนาทำให้นฤดลหายเบื่อ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าจะต้องนอนที่นี่อีกนานแค่ไหน เขาอยากจะเอางานมาทำที่นี่ แต่มารดาและพี่สาวก็ยังไม่ยอมให้เขาทำงาน และการนอนอยู่บนเตียงเพียงอย่างเดียวมันก็ทำให้คนขยันเครียดมากกว่าเดิม

ประตูห้องคนไข้เปิดออกอีกครั้งเมื่อมารดาและพี่สาวของนฤดลกลับมาจากการคุยกับหมอเจ้าของไข้

“หมอว่าไงครับแม่ ผมต้องอยู่ที่นี่อีกนานไหม”

“ก็จนกว่าจะหาย”

“แล้วเมื่อไหร่ละครับแม่”

“แม่ก็ไม่รู้ แต่หมอบอกว่าเรื่องกระดูกที่ร้าวเดี๋ยวก็เข้าที่ แต่ดลต้องอยู่นิ่งบนเตียงไปก่อน ถ้าขยับมากๆ ก็จะหายช้า แต่เรื่องแผลที่ไหล่ต้องรอให้แผลหายเกินกว่าครึ่งถึงจะกลับบ้านได้”

“เฮ้อ ผมอยากทำงานแล้วครับแม่ ให้คุณนุชเอาเอกสารมาให้ก็ได้นะครับ”

“อย่าห่วงเรื่องงานเลย เดี๋ยวพี่จะเขาไปดูให้ก่อน” ดลฤดีบอกนอกชาย แต่ก่อนกับน้องชายก็ช่วยกันทำงาน ทั้งงานที่โรงเรียนเอกชนและงานที่บริษัทผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์การเรียน แต่พอแต่งงานก็ออกไปช่วยสามีดูแลธุรกิจของสามี

“มีนา ป้าขอสั่งนะ อย่าให้เขาทำงานเด็ดขาด ถ้าป้ารู้ว่าเอาแอบเอางานมาทำป้าจะทำโทษหนู”

“ป้าคะ ถ้าคุณดลดื้อล่ะคะ” มีนาไม่กล้าขัดใจเขา เพราะเห็นว่าเขากำลังเจ็บ

“ฉันไม่ใช่เด็กนะมีนา”

“เขานอนอยู่บนเตียงแบบนั้นเขาจะดื้อได้สักเท่าไหร่กันเชียว พี่ว่ามีนาอย่ากลัวไปเลย เขาทำอะไรเราไม่ได้หรอก”

“พี่ฤดีครับ ผมเจ็บแทนที่พี่จะเห็นใจ”

“ก็เห็นใจไง ถึงเข้ามาทำงานแทน”

“นอนบนเตียงอย่างเดียวเบื่อแย่เลยครับ”

“ถ้าอยากทำงานจริงๆ พี่จะเอกสารจากโรงงานมาให้ดูนะ เรื่องที่เราสงสัยกันนั่นแหละ”

“ได้ครับ ผมขอแฟ้มเอกสารด้วยครับพี่ฤดี จะดูว่ามันตรงกับไฟล์ที่เขาส่งให้เราเซ็นไหม เอาย้อนหลังไปสักห้าปีก็พอ”

“ได้สิ เดี๋ยวพี่จัดการให้ แต่เดี๋ยวพี่กับแม่จะกลับก่อน พยาบาลพิเศษก็น่าจะเข้ามาตอนห้าโมงเย็น อยู่คนเดียวได้นะ”

“ได้ครับ”

“มีนาเดี๋ยวกลับพร้อมพี่เลยนะ”

“แต่มีนาอยากเฝ้าคุณดล”

“พี่ไม่ได้ห้าม แต่มีนาต้องไปบอกแม่ก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเฝ้า พี่บอกคุณหมอให้แล้วว่ามีนาอยากจะเฝ้า พรุ่งนี้ช่วงที่กลางวันให้มีนาไปเรียนทำแผลกับพยาบาลเพราะถ้ากลับไปอยู่ที่บ้านมีนาจะต้องเป็นคนทำแผลให้พี่เขา”

“ค่ะพี่ฤดี”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 37 ถ้าง่ายแต่แรกก็จบ (ตอนจบ)

    “ไม่ค่ะ ยังไงพิมพ์ก็ไม่หย่า”“แต่ผมไม่อยากยื้ออีกต่อไปแล้วนะ คุณไม่มีความสุข ผมก็ไม่มีความสุข”“คุณจะรีบหย่าแล้วไปหาเด็กนั่นเหรอคะ เราคุยกันแล้วนี่ดลว่าเราจะแต่งงานกันสองปี ถึงตอนนั้นคุณค่อยมาคุยเรื่องหย่าดีกว่าไหมคะ”“ถ้าคุณไม่ยอมหย่าผมจะฟ้องหย่า”“คิดดีแล้วเหรอคะดล คุณจะเอาความสุขส่วนตัวมาแลกกับชื่อเสียงของครอบครัวเหรอคะ”“คุณคงคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าแต่บางครั้งไพ่มันก็เปลี่ยนได้นะพิมพ์”“หมายความว่ายังไงคะ”“ผมมีหลักฐานที่จะฟ้องหย่าคุณได้ ถ้าคุณไม่ยอมจบแบบเงียบๆ”“ถ้าคุณคิดว่ามันคุ้มกับชื่อเสียงก็เอาสิคะ ถ้าคุณฟ้องหย่าพิมพ์ก็จะบอกเรื่องของคุณให้ทุกคนรู้ พิมพ์คงได้รับความเห็นใจมากๆ ใครจะคิดล่ะคะว่าคุณนฤดลที่แสนจะเพอร์เฟกต์จะมีอีหนูซ่อนไว้”“เรื่องแบบนี้ผู้ชายก็มีกันทั้งนั้น แต่ถ้าคนอื่นรู้ว่าคุณก็หนีสามีไปแต่งงานละ มันจะน่าสนใจกว่าไหม”“ดลหมายถึงอะไร” พิมพ์ปภัสเริ่มร้อนตัว“เรื่องที่คุณพาผู้ชายเข้ามาที่บ้าน ผมไม่ว่าอะไรเลยเพราะมันเป็นสิทธิ์ของคุณ แต่ที่คุณควงกันไปเที่ยวต่างประเทศแล้วไปแต่งงานที่นู่น คุณคิดเหรอว่ามันเป็นความลับ”“ดลพูดเรื่องอะไรคะ” พิมพ์ปภัสคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจ

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 36 เบื้องหลังการแต่งงาน

    ดลฤดีกลับมาถึงเมืองไทยก็รีบเข้าไปคุยเรื่องสำคัญกับมารดาทันทีโดยที่ยังไม่ทันจะเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บ“เรื่องด่วนอะไรกันหรือว่ามีนาเป็นอะไร” คุณดวงกมลถามลูกสาวขณะที่ถูกเร่งให้เดินเข้ามาในห้องทำงานของบิดาซึ่งตอนนี้เจ้าของห้องนั้นไปรดน้ำกล้วยไม้อยู่ที่เรือนเพาะชำ“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมีนาค่ะ มีนาสบายดีทุกอย่างไม่มีปัญหา”“แล้วมันเรื่องด่วนอะไรกันล่ะ”“แม่นั่งก่อนนะคะ”พอให้มารดานั่งและหายาดมมาไว้ใกล้ตัวแล้วก็รีบเล่าเรื่องที่ตัวเองไปเจอมา ทั้งเรื่องที่โรงแรมและเรื่องที่ร้านอาหารในเวกัส“ตาฝาดไปหรือเปล่าลูก เมื่อวานแม่ยังคุยกับน้องอยู่เลย น้องบอกว่าออกมาทานข้าวกับเมียเขา”“แต่ฤดีมีรูปนะคะ นี่ค่ะ” เธอส่งทั้งรูปทั้งคลิปให้มารดาดูซึ่งทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ก็ชัดเจนจนปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่พิมพ์ปภัส“แม่ไม่เข้าใจ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยัยไง ตอนแต่งงานก็เห็นว่ารักกันดี นี่ลูกชายแม่กำลังโดนหลอกใช่ไหม” หญิงสูงวัยถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า“ฤดีว่าแม่ลองเรียกน้องเข้ามาที่บ้านดีไหม”“แม่ไม่อยากเห็นน้องต้องเสียใจอีกเลย เวรกรรมอะไรกันนะถึงได้มาเจอเรื่องแบบนี้”“แม่ไม่อยากให้น้องรู

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 35 ความลับที่เวกัส

    มีนาเดินทางมาถึงอเมริกาได้หลายวันแล้ว หญิงสาวเข้าพักที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนสอนภาษา ส่วนดลฤดีนั้นพักที่โรงแรมใกล้ๆ เพราะอยากให้มีนาลองใช้ชีวิตคนเดียวระหว่างนี้เธอกับสามีก็ไปดูงานที่โรงเรียนซึ่งใช้เป็นต้นแบบในการจัดการเรียนการสอน ก่อนที่จะพากันไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ“พี่วัฒน์คะ”“ครับ”“ฤดีว่าเห็นคนรู้จักนะคะ แต่พี่อย่าเพิ่งหันไปนะคะ นั่งนิ่งๆ ก่อนเดี๋ยวเขาจะรู้ตัวค่ะ”“ให้พี่นั่งนิ่งแล้วพี่จะรู้ได้ยังไงว่าใช่คนรู้จักของเราไหม” ธนวัฒน์ถามภรรยาอย่างไม่เข้าใจ เพราะถ้าเขาไม่หันไปดูแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าใช่คนที่ตนเองรู้จักไหม“เชื่อฤดีนะคะ นั่งอยู่แบบนี้ก่อน” ดลฤดีบอกสามีจากนั้นเธอก็ยกโทรศัพท์ขึ้นเหมือนกำลังถ่ายรูปของธนวัฒน์ แต่ทว่าเธอกำลังซูมกล้องไปไกลกว่านั้นหญิงสาวนึกขอบคุณโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่สามารถซูมได้มากจนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่เธอเห็นนั้นใช่คนที่เธอรู้จักไหมดลฤดีกดถ่ายรูป จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นโหมดถ่ายวิดีโอจนกระทั่งเธอคนนั้นเดินหายเข้าไปในลิฟต์“พี่วัฒน์ดูนี่นะคะ” เธอส่งโทรศัพท์ให้สามีดูภาพที่ตนเองถ่ายไว้“นี่มันน้องพิมพ์นี่ครับ ผมไม่รู้เลยว่าเธอมาเที่ยว

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 34 ตัดเยื่อเหลือใย

    นฤดลแอบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาอยากคุยกับเธอแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เขาคิดว่าระยะเวลาที่ผ่านมานานเกินครึ่งปีนั้นจะทำให้ความรู้สึกที่มีต่อมีนาลดน้อยลงแต่มันกลับตรงกันข้ามเพราะเขายังรักและคิดถึงเธออาจจะมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อลองเปรียบเทียบกับครั้งที่ตัวเองตามหาพิมพ์ปภัสไม่เจอมันต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งๆ ที่ตนเองแต่งงานไปแล้วและควรมีความสุขกับคนรักที่รอคอย แต่ในทุกๆ วันในใจของเขายังคงนึกถึงช่วงเวลาที่ตนเองมีความสุขกับมีนาอยู่ตลอด“พี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนมีนารอก่อนนะ”“ค่ะพี่ฤดี” มีนานั่งรอดลฤดีที่ห้องรับแขกขณะที่คนอื่นก็ต่างก็กลับห้องของตัวเองไปกันหมดแล้ว“มีนาสบายดีไหม” ในที่สุดเขาก็เปิดปากถาม“ค่ะ คุณดลล่ะคะ”“พี่สบายดี” เขายังแทนตัวเองเหมือนเดิมขณะที่อีกคนนั้นเปลี่ยนสรรพนามไป“แม่บอกว่าปิดเทอมใหญ่มีนาจะไปเรียนภาษาเหรอ” เขาพยายามจะชวนเธอคุย อย่างน้อยตอนนี้ก็อยู่ที่บ้านของตนเองมันไม่ได้น่าเกลียดอะไรถ้าจะพูดคุยกันบ้าง“ค่ะ”“มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้นะ”“ขอบคุณค่ะ”“มีนายังโกรธพี่อยู่เหรอ”“เปล่าค่ะ”“แต่เหมือนมีนาไม่อยากคุยกับพี่เลยนะ” เพราะการถามคำตอบคำแบบนี้ไม่ใช่นิสัยของหญิงสาวท

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 33 ชีวิตที่ต้องก้าวไปข้างหน้า

    ทางด้านมีนาที่ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นปี 3 หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจใครอื่น แม้จะมีคนเข้ามาจีบแต่มีนาก็ปิดตายหัวใจ เธอทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างหนักและวางแผนเอาไว้แล้วว่าถ้าเรียนจบจะเข้าไปช่วยคุณดลฤดีทำงานที่โรงเรียน ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนที่นฤดลบริหาร แต่หญิงสาวก็ไม่คิดเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงานในเมื่ออีกคนแต่งงานไปแล้วเรื่องราวของเธอกับเขาก็จบลงไปด้วย ไม่มีการติดต่อไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ทางไลน์หรือทางข้อความ เขาและเธอทำเหมือนอยู่กันคนละโลก แม้จะเจอกันก็แค่ทักทายตามมารยาทเท่านั้นใช่ว่ามีนาจะไม่เสียใจที่ถูกเขาหลอก แต่ชีวิตของเธอจะต้องก้าวไปข้างหน้าต่อ ถ้ามัวแต่ยึดติดกับเรื่องราวที่ผิดหวังในอดีตเธอก็คงหาความสุขให้กับตนเองไม่ได้ แม้จะรักเขามากแค่ไหน แต่ถ้ามันเจ็บเธอก็ต้องยอมตัดใจ หญิงสาวคิดได้แล้วว่าการอยู่โดยไม่มีคนรักมันไม่ได้เลวร้ายเลยสักนิดมีนายังคงไปมาหาสู่ที่บ้านหลังนั้นอยู่ตลอด เพราะเธอรักและเคารพทุกคนที่นั่น อีกอย่างตอนนี้นฤดลก็ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกับภรรยาแล้ว เธอจึงไม่มีโอกาสได้เจอเขาบ่อยนัก“เรื่องฝึกงานมีนาตัดสินใจหรือยังว่าจะฝึกที่ไหน อาจารย์ว่ายังไงบ้าง” ดลฤดีถามขณ

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 32 นาฬิกาเดินช้า

    งานแต่งงานของนฤดลถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกที่มาร่วมงานต่างพากันชื่นชมเจ้าบ่าวเจ้าสาวว่าเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก “ดลคะ ยิ้มหน่อยสิคะ แขกมากันเยอะแล้วนะ” พิมพ์ปภัสบอกเจ้าบ่าวที่เอาแต่ทำหน้านิ่ง “ผมจะยิ้มก็ต่อเมื่อผมอยากยิ้ม คุณอย่ามาบังคับผม แค่เรื่องแต่งงานมันก็มากเกินไปแล้ว” “แต่วันนี้วันแต่งงานของเรานะคะ” “ผมว่ามันเป็นงานของคุณคนเดียวต่างหากล่ะ” นฤดลพูดพลางทำหน้าเบื่อโลกยิ่งกว่าเดิม “ดลคะ เราแต่งงานกันแล้วนะ พิมพ์ว่าดลเลิกคิดที่จะกลับไปหาเด็กมีนานั่นได้แล้ว” “ผมไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้น ผมก็แค่เบื่อที่จะต้องปั้นหน้าว่ามีความสุข” ที่เขาทำหน้าเบื่อก็เพราะไม่คิดว่างานแต่งของตนจะจัดใหญ่แบบนี้ “อดทนอีกนิดสิคะ เดี๋ยวก็ถึงเวลาเข้าหอแล้ว พิมพ์รับรองว่าดลจะมีความสุขและลืมผู้หญิงทุกคนอย่างแน่นอน” พิมพ์ปภัสกล่าวอย่างมั่นใจ เธอจะต้องทำให้นฤดลลืมผู้หญิงที่ชื่อมีนาให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะถึงกำหนดที่เขากับเธอตกลงกันไว้ “ผมบอกเหรอครับว่าจะทำเรื่องแบบนั้นกับคุณ” “ดลค่ะ คุณเป็นผู้ชายนะ จะอดทนได้แค่ไหนกั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status