LOGIN“จริงๆ ไม่ต้องรีบตื่นไปส่งผึ้งก็ได้ พี่เอ็มน่าจะนอนต่อ ผึ้งขึ้นรถเมล์แล้วต่อรถไฟฟ้าแป็บเดียวก็ถึง” ยิ่งเห็นเขาอ้าปากหาวฉันก็ยิ่งเกรงใจ ร้องเพลงเสร็จกลับมาก็ดึก ยังต้องรีบตื่นมาดักรอฉันตรงนี้อีก
“ไม่เป็นไร พี่อยากไปส่งแฟน แฟนพี่โคตรสวยเลยรู้ไหม พอเข้ามหาลัยก็ยิ่งสวย พี่หวงจะแย่ นี่ถ้าไปนั่งเฝ้าตอนเรียนได้พี่คงไปแล้ว” พอฉันได้ยินก็หลุดขำออกมา ก่อนจะขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แล้วก็โอบกอดคนตัวอุ่นเอาไว้แน่น กลิ่นกายแมนๆ ของแฟนมันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นบ้าเลย เรื่องความหื่นของคุณนักร้องนำวงปีเตอร์แพนนั้นก็ไม่มีแผ่วลงเลย พี่เอ็มยังไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น ยังคงอยู่ที่ร้านจักรยานกับแม่ แฟนฉันเขารักแม่มาก เขาบอกว่าในโลกนี้มีผู้หญิงอยู่แค่สองคนที่เขารักสุดหัวใจและอยากจะดูแลให้ดีที่สุด นั่นก็คือ ‘แม่อ้อยกับน้องน้ำผึ้งสาวข้างบ้าน’ อีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่ยอมย้ายไปอยู่ที่อื่นก็คือ... เพราะร้านจักรยานมันเป็นบ้านที่อยู่ติดกับบ้านฉัน “พี่ต้องเห็นหน้าผึ้งทุกวัน ถึงไม่ได้เอาทุกวัน ก็ต้องเห็นหน้าทุกวัน เข้าใจไหม” นี่คือสิ่งที่พี่เอ็มพูดกับฉันตั้งแต่ตอนเราเพิ่งจะเริ่มคบกัน และคุณพี่ชายข้างบ้านที่ตอนนี้กลายเป็นนักร้องอาชีพหล่อล่ำมาดเซอร์ก็ยังคงคอยขับรถรับส่งฉันอยู่เหมือนเดิมยกเว้นในวันที่เขาติดงาน ส่วนป๊า… พอฉันเรียนจบมอหกก็ลดความเข้มงวดลงเยอะเลย คงเห็นว่าฉันโตขึ้น ไม่ใช่เด็กมัธยมคนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่ถึงฉันจะเข้ามหาลัยแล้ว ป๊าก็ยังห้ามอย่างเด็ดขาด ว่าไม่ให้ฉันมีแฟนอยู่ดี ให้ตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ก่อน ป๊าไม่ยอมให้ฉันย้ายไปอยู่หอพักใกล้ๆ มหาวิทยาลัย ทั้ง ๆ ที่ฉันพยายามอ้อนวอนขออยู่หลายวัน แต่เพราะหลักสูตรที่ฉันเรียนมันค่อนข้างจะยากและเรียนหนักป๊าจึงอนุญาตให้ฉันค้างกับเพื่อนได้หากมีติวสอบหรือมีงานกลุ่มที่ต้องทำส่งอาจารย์ “คืนนี้พี่อยากพาผึ้งไปที่ร้านด้วย ไปดูแฟนร้องเพลงนะครับ” ก็ดีนะ วันนี้วันศุกร์ ส่วนพรุ่งนี้ก็เป็นวันเสาร์ฉันไม่มีเรียน อยากออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาอยู่แล้ว และที่สำคัญก็คือ… อยากฟังแฟนร้องเพลง ตั้งแต่คบกันมา ฉันยังไม่เคยเห็นพี่เอ็มร้องเพลงตอนทำงานเลย “แล้วผึ้งจะบอกป๊าว่ายังไงดี พี่เอ็มช่วยคิดหน่อยสิ” ถึงแม้สกิลการพูดโกหกของฉันจะอยู่ในเลเวลแอดวานซ์แล้วก็ตาม แต่ฉันก็ยังอยากได้คำปรึกษา “ก็บอกไปตรงๆ เลยว่าจะไปเที่ยวกับแฟน โตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว!” เออ! ไม่น่าถามเลย สรุปว่า... คืนนี้ฉันอยากออกไปกับเขามาก ก็เลยโทรไปบอกหม่าม้าว่ามีกิจกรรมรับน้อง รุ่นพี่ที่คณะจะมาพูดคุยให้คำปรึกษาเรื่องการเรียนแล้วก็แนะแนวการทำงาน กว่าจะเสร็จก็น่าจะดึก เลยขอค้างที่ห้องเพื่อนแล้วก็กลับบ้านพรุ่งนี้เช้าแทน ก็รู้สึกผิดแหละที่ต้องโกหก แต่อยากไปดูแฟนร้องเพลงมากเลยนี่นา ฉันพยายามตั้งใจเรียนในช่วงเช้า วิชาชีววิทยาและร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งที่ฉันถนัดอยู่แล้ว ฉันเลยค่อนข้างจะมีความสุขในการเรียน หากจะมีสิ่งที่รบกวนสมาธิฉันในเวลานี้ก็มีอยู่เพียงสิ่งเดียวนั่นก็คือ… ความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวกลางคืนเป็นครั้งแรก ร่างผอมบางแต่นมโตเดินหอบหนังสือเล่มหนาออกมาหน้าตึกคณะ ยังไม่ทันจะก้าวลงบันไดก็ได้ยินเสียงซุบซิบของสาวๆ ดังขึ้น “พี่เขาหล่อจัง มายืนรอใครนะ” “แก… ฉันอยากได้บ้าง ฉันอยากได้แบบนี้” “นั่น! พี่เค้ามองมาที่เราด้วย” “แฟนใครอ่า โคตรเท่เลย” จริงๆ แล้วเหตุการณ์แบบนี้มันคุ้นๆ นะ แต่ฉันก็ไม่ได้หันไปทางนั้นเพราะคิดว่าคงไม่ใช่แฟนฉันหรอก ที่ไหนได้… ผู้ชายที่บรรดาสาวๆพวกนั้นกำลังพูดถึงอยู่คือแฟนฉันเอง “ผึ้ง” ก็น้ำเสียงแหบห้าวที่คุ้นเคย ตะโกนเรียกฉันซะดัง! ใบหน้าหมวยสวยเฉี่ยวน่ารักรีบหันขวับไปทางเจ้าของเสียงทุ้มกังวานคนนั้นทันที วันนี้คนตัวสูงใส่เสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์สีซีดที่ขาดเล็กน้อย เซ็ตผมตั้งเปิดหน้าผาก เพราะอากาศมันร้อนและเขาคงจะยังไม่ชินกับการใส่เสื้อเชิ้ต เลยปลดกระดุมเสื้อลงมาสามเม็ด อวดกล้ามอกแน่นๆ กับรอยสักรูปเปลวเพลิง โอ๊ย! หล่อละลายใจสาว ในมือถือดอกกุหลาบแดงอยู่หนึ่งดอก กับถุงกระดาษสีชมพูที่ดูแล้วน่าจะมีเสื้อผ้าอยู่ในนั้น “พี่เอ็ม มาทำไม” รีบเดินเข้าไปหาด้วยท่าทางขวยเขินเล็กน้อย อดยิ้มกว้างไม่ได้ พอเห็นแฟนแล้วก็อยากจะเข้าไปกอดแต่ก็เกรงใจคนที่เดินผ่านไปผ่านมารวมทั้งอาจารย์ด้วย มือเรียวยาวยื่นดอกกุหลาบแดงให้ฉัน ก่อนจะขโมยหอมแก้มเนียนนุ่มไปฟอดใหญ่โดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว “พี่เอ็ม!” มือเล็กทุบแขนเขาเบาๆ แก้มแดงไปหมดแล้วฉัน “ดอกไม้แค่ดอกเดียวเนี่ยนะ คนอื่นเขาให้กันเป็นช่อโตๆ” รีบพูดกลบเกลื่อนความเขิน ผู้ชายห้าวๆ แบบพี่เอ็มถือดอกกุหลาบมาดักรออยู่หน้าคณะ แค่ดอกเดียวก็ดีใจจะแย่ “ช่อโตๆ น่ะมันถือยาก พะรุงพะรัง ดอกเดียว… แทนหัวใจที่รักเดียวใจเดียวของพี่ไง” ยักคิ้วพูดแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มมองมา ทำท่าเหมือนจะหอมแก้มฉันต่อแต่ฉันหลบทัน “จริงๆ แล้วพี่ก็อยากซื้อเป็นช่อโตๆ น่ะแหละ แต่ทางร้านเขาบอกว่าต้องสั่งล่วงหน้า พี่รีบ ขี้เกียจรอ ก็เลยซื้อมาดอกเดียว เดี๋ยวคืนนี้พี่ค่อยจัดหนักให้หลายๆ ดอก” ประโยคหลังขยับหน้าหล่อๆ มากระซิบตรงข้างหู ทำไมพอได้ยินแล้วต้องหน้าแดงด้วยวะ! “แล้วจะซื้อดอกไม้มาให้ผึ้งทำไม” สายตาหื่นๆ ของแฟนทำให้ฉันต้องรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “อ้าว! ก็วันนี้ครบรอบ” รีบตอบทันที แต่เดี๋ยวก่อน ครบรอบอะไร ฉันตามไม่ทัน “ครบรอบเหรอ… ครบรอบอะไร” มีเครื่องหมายคำถามเล็กๆ ลอยอยู่บนใบหน้าฉันที่ยังคงงุนงงอยู่ “วันนี้ครบรอบสามเดือนที่เราได้กันไง! ผึ้งจำไม่ได้เหรอ” พูดเสียงดังจนคนหันมามองกันเต็มไปหมดแล้ว “ไม่ต้องเน้นตรงคำว่า ‘ได้กัน’ ซะดังขนาดนั้นก็ได้พี่เอ็ม แต่ผึ้งจำไม่ได้จริงๆ” ใครจะไปจำได้ ฉันจำไม่ได้หรอก ว่าวันที่เขาหลอกฉันขึ้นไปฟันบนห้องคือวันที่เท่าไหร่ แต่ก็น่าจะราว ๆ สามเดือนได้แล้ว พี่เอ็มเป็นคนที่ใส่ใจทุกเรื่องเกี่ยวกับเรา ช่างน่าประทับใจจริงๆ มิน่าล่ะ… คืนนี้เลยชวนฉันไปดูเขาร้องเพลง แล้วคงกะจะจัดหนักเป็นการฉลอง “แล้วก็นี่พี่ซื้อชุดใหม่มาให้ คืนนี้ผึ้งไม่มีชุดใส่ เพราะไม่ได้เตรียมมา” จริงด้วย! ลืมนึกไปเลยฉัน “ไหน… ชุดอะไรขอผึ้งดูหน่อย” ฉันรีบหยิบชุดออกมาจากถุง เป็นชุดใหม่ที่เพิ่งซื้อมาสดๆ ร้อนๆ ยังมีป้ายราคาติดอยู่เลย “เอ่อ…ใส่ไปผับคืนนี้ มันดูเรียบร้อยไปไหม” ชุดเดรสลายกุญแจซอลและตัวโน้ต สีชมพูดูหวาน แขนยาว ปกเชิ้ตและยาวเลยเข่า! “พี่ไม่อยากให้ผู้ชายเมาๆ ในผับมันแทะโลมแฟนพี่ด้วยสายตา พี่ไม่อยากให้ใครเห็นต้นแขนต้นขาของผึ้งแล้วก็คอ…” “โอเคๆ พอแล้วพี่เอ็ม เอาเป็นว่าผึ้งชอบชุดนี้ จะใส่ชุดนี้ แล้วผึ้งก็ไม่อยากแต่งตัวโป๊ด้วย” พูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เขาจะพูดจบ ขี้หวงที่สุดแล้วแฟนฉัน เวลาเดินด้วยกันแล้วมีหนุ่มหันมามองฉันก็ทำท่าไม่พอใจ “แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง” เที่ยงพอดี พี่เอ็มน่าจะหิว “ยัง ก็จะมากินข้าวเที่ยงกับแฟนไง กินเสร็จแล้วก็กลับไปงีบ แล้วเย็นๆ ค่อยออกมารับผึ้ง” “งั้นเดินไปกินที่โรงอาหารกัน เดี๋ยวบ่ายโมงครึ่งผึ้งมีเรียนต่อ” คนตัวโตโอบเอวฉันเดินไปยังโรงอาหารด้วยท่าทางที่แสดงความเป็นเจ้าของ ตามประสาผู้ชายที่มีแฟนเป็นดาวคณะแพทย์ตะวันออกปีหนึ่ง วันนี้คงตั้งใจมาเปิดตัวให้คนอื่นรู้ว่า ‘ฉันมีเจ้าของแล้ว’ “จริงๆ ไม่ต้องรีบตื่นไปส่งผึ้งก็ได้ พี่เอ็มน่าจะนอนต่อ ผึ้งขึ้นรถเมล์แล้วต่อรถไฟฟ้าแป็บเดียวก็ถึง” ยิ่งเห็นเขาอ้าปากหาวฉันก็ยิ่งเกรงใจ ร้องเพลงเสร็จกลับมาก็ดึก ยังต้องรีบตื่นมาดักรอฉันตรงนี้อีก“ไม่เป็นไร พี่อยากไปส่งแฟน แฟนพี่โคตรสวยเลยรู้ไหม พอเข้ามหาลัยก็ยิ่งสวย พี่หวงจะแย่ นี่ถ้าไปนั่งเฝ้าตอนเรียนได้พี่คงไปแล้ว” พอฉันได้ยินก็หลุดขำออกมา ก่อนจะขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แล้วก็โอบกอดคนตัวอุ่นเอาไว้แน่น กลิ่นกายแมนๆ ของแฟนมันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นบ้าเลยเรื่องความหื่นของคุณนักร้องนำวงปีเตอร์แพนนั้นก็ไม่มีแผ่วลงเลย พี่เอ็มยังไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น ยังคงอยู่ที่ร้านจักรยานกับแม่ แฟนฉันเขารักแม่มาก เขาบอกว่าในโลกนี้มีผู้หญิงอยู่แค่สองคนที่เขารักสุดหัวใจและอยากจะดูแลให้ดีที่สุด นั่นก็คือ ‘แม่อ้อยกับน้องน้ำผึ้งสาวข้างบ้าน’ อีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่ยอมย้ายไปอยู่ที่อื่นก็คือ... เพราะร้านจักรยานมันเป็นบ้านที่อยู่ติดกับบ้านฉัน“พี่ต้องเห็นหน้าผึ้งทุกวัน ถึงไม่ได้เอาทุกวัน ก็ต้องเห็นหน้าทุกวัน เข้าใจไหม” นี่คือสิ่งที่พี่เอ็มพูดกับฉันตั้งแต่ตอนเราเพิ่งจะเริ่มคบกัน และคุณพี่ชายข้างบ้านที
พี่เอ็มรีบขับรถพาฉันกลับบ้านก่อนจะเย็น หลังจากเดินมาถึงบ้านฉันก็วิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของตัวเองในทันที ร่างเล็กบอบบางนั่งลงตรงโต๊ะอ่านหนังสือ จะตั้งใจเตรียมตัวสอบอีกครั้ง กำหนดสอบคือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ มีเวลาอ่านหนังสือสามวันต้องทำให้ได้ แต่ก่อนจะเตรียมตัวสอบมือเล็กรีบเปิดเอกสารอ่านรายละเอียดของหลักสูตรก่อนหลักสูตรแพทย์แผนจีนบัณฑิต คณะแพทย์ตะวันออก มหาวิทยาลัยอรุณรักษา เรียนตั้งหกปีแน่ะ เนื้อหาก็ดูยากเหมือนกันนะเนี่ย ต้องเรียนภาษาจีนประกอบด้วยแบบนี้ป๊ากับหม่าม้าต้องชอบแน่เลย ฉันมีพื้นฐานภาษาจีนอยู่ค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว แบบนี้คิดว่าไม่น่าจะยากเท่าไหร่ พอเรียนจบก็มาเปิดคลินิกแพทย์แผนจีนได้เลยตามประสาแพทย์ทางเลือก‘หากมีความรู้ภาษาจีนจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ’ นั่นไง! เข้าทางฉันเลย งื้อ… ต้องขอบคุณพี่เอ็มจริงๆแต่เดี๋ยวก่อน! ค่าเทอมเทอมละแปดหมื่นห้า ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์ ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตรก็ล้านกว่าโอย... อย่างแพงฉันรู้แหละว่าป๊ากับหม่าม้าส่งฉันเรียนไหวเพราะพอจะมีเงินเก็บอยู่ก้อนใหญ่ แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ได้มีกำไรมากมายอะไร แล้วในแต่ละวันทั้งคู่ก็ทำงานหนักมากแต่ถึง
“แล้วพี่เอ็มรู้ได้ยังไงว่าผึ้งเอ็นท์ไม่ติด” ฉันถามเขาหลังจากที่ยื่นใบสมัครเสร็จเรียบร้อย พอพี่เอ็มวางหูโทรศัพท์ก็รีบหันมาหาฉันทันที นั่น! เพิ่งจะสังเกตว่าแฟนใช้ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดซะด้วย “พี่เอ็ม โทรศัพท์เครื่องใหม่สวยดีนะ” แอบแซวพร้อมกับแย่งมาดู และภาพพักหน้าจอก็เป็นรูปของเรา… รูปที่เขาหอมแก้มฉันในคาเฟ่ “อืม… พี่เพิ่งไปถอยมาเมื่อวาน ได้เงินค่าโฆษณาจากยูทูปมาสี่หมื่น” รีบตอบด้วยความภาคภูมิใจ “พอเปลี่ยนเครื่ิองแล้วงานเข้าเลยเนี่ยเห็นไหม เมื่อกี๊ไอ้อั๋นเพิ่งโทรมาบอกว่ามีงานฉลองใหญ่จ้างให้ไปเล่นเป็นวงเปิดงานที่เยาวราช” ว่าแล้วเชียว! ชักจะดังใหญ่แล้วนะแฟนฉัน “ว่าไง… ตอบผึ้งมาก่อน พี่เอ็มรู้ได้ยังไงว่าผึ้งเอ็นท์ไม่ติด” เขาไปซื้อใบสมัครสอบตรงมาให้ฉันตั้งแต่ก่อนฉันจะกดดูผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสียอีก “ก็พี่เป็นคนคอยขับรถรับส่งผึ้งไปสอบเอง ดูจากหน้าตาท่าทางก็รู้แล้ว” อืม! ช่วงนั้นสีหน้าของฉันห่างไกลกับคำว่าเบิกบานมากเลยทีเดียว ก็คนมันทำข้อสอบไม่ค่อยจะได้นี่นา “อืม… ดูถูกจริงๆ ดูไม่เคยผิดเลย ไม่ผิดเลยสักนิด” แกล้งพูดกลั้วหัวเราะก่อนจะได้ยินเสียงท้องของตัวเองร้อง “พี่ก็หิวเหมือนกั
“ผึ้งไปสอบเถอะ ถ้าสอบได้แล้วป๊าไม่ส่งผึ้งเรียน เดี๋ยวพี่จะเป็นคนส่งผึ้งเอง พี่หาเงินได้แน่นอน เชื่อพี่ พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลผึ้ง… ดูแลให้ดีที่สุด” โอย… น้ำตาจะไหล ทำไมถึงรู้สึกซาบซึ้งใจแบบนี้วะใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองฉันอย่างจริงจัง ฝ่ามือหนาถูกยื่นมาลูบผมฉันเบาๆ ด้วยความเอ็นดูและต้องการจะให้กำลังใจ“ขอกอดหน่อยได้ไหม” พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปซบอกคนตัวสูง อ้อมกอดอบอุ่นและเรียวแขนกำยำที่พร้อมจะปกป้องดูแลฉันเสมอ พอเงยหน้าขึ้นจะมองเขา ม่านน้ำตาก็ดันมาบัง… ทำให้ฉันมองหน้าหล่อๆ ของเขาไม่ชัดเสียนี่ปลายนิ้วเรียวยื่นมาปาดน้ำตาให้ฉันเบาๆ ก่อนที่ปากหยักที่มีกลิ่นบุหรี่จางๆ จะฉกจูบฉันแบบยั้งใจไว้ไม่อยู่ เขาดูดปากฉันอย่างเร่าร้อนเหมือนเช่นเคย ส่วนฉันก็จูบตอบเขาแบบต้องการจะส่งผ่านความรักเข้าไปทางนั้นเราทั้งคู่ยืนดูดปากกันอย่างดูดดื่มและเนิ่นนานตรงซอกตึก คำสัญญาที่เขาบอกว่าจะดูแลฉันให้ดีที่สุดมันก้องอยู่ในหู ถึงแม้ที่ผ่านมาพี่เอ็มดูไม่ค่อยจะน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ แต่วันนี้ฉันกลับเชื่อมั่นในคำพูดเขาจนหมดหัวใจ“พี่เอ็มจะดูแลผึ้งจริงๆ นะ” มองแบบอยากจะขอฝากความหวังเอาไว้ที่
วันนี้คือวันชี้ชะตาชีวิตของฉัน…กำหนดประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็คือวันนี้ ฉันเลือกคณะเภสัชของมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังเป็นอันดับหนึ่งและอันดับเดียว แน่นอนว่าการแข่งขันสูงมากจริงๆ และคนที่ตื่นเต้นเฝ้ารอฟังผลมากกว่าฉันก็คือ ‘ป๊า’ ป๊ากับหม่าม้าผู้ซึ่งประหยัดอดออม เอาแต่ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ และไม่ยอมไปเที่ยวที่ไหนเพราะตั้งใจจะเก็บเงินเอาไว้ซื้อตึกตรงข้างร้านจักรยานเพื่อมาเปิดร้านยาตอนฉันเรียนจบเภสัชฉันเครียดกลัวเอ็นท์ไม่ติด แล้วก็ระบายกับพี่เอ็มทุกวัน ส่วนเขาก็เอาแต่บอกว่าไม่เป็นไรหรอก… ชีวิตยังมีทางออกเสมอ อย่าเครียดสิผึ้ง มีพี่อยู่ทั้งคนมันก็จริงนะ… ฉันรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเวลาอยู่กับเขา แต่ฉันแบกความหวังของครอบครัวอยู่นี่ไงว่าแต่ตอนนี้แฟนรูปหล่อข้างบ้านหายไปอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่มาเดินป้วนเปี้ยนตรงหน้าร้าน ตามปกติในช่วงเวลาแบบนี้เขาต้องมาคอยแอบดูฉันแล้ว“ผลเอ็นท์ออกวันนี้ไม่ใช่เหรอ รีบๆ เปิดดูสิผึ้ง มัวชักช้าอยู่ได้” ที่มัวแต่ชักช้าอยู่ก็เพราะกลัวจะเอ็นท์ไม่ติดแล้วทำให้ป๊าโกรธนี่แหละ คะแนนสอบของฉันไม่น่าจะถึงเภสัชนะฉันว่า“ใจเย็นๆ สิป๊า ตอนนี้เว็บมันล่มน่ะ ใครๆ ก็กดดูผลกัน” ฉันยังคง
ฉันอาบน้ำทาโลชั่นหอมกรุ่น ใส่ชุดอยู่บ้านสบายๆ เดินลงไปหาแฟนที่ประตูหลังบ้าน พอเปิดประตูปุ๊บคนตัวโตก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในบ้านของฉันทันที นี่คงจะแอบเอากุญแจประตูรั้วเหล็กตรงกระถางกล้วยไม้ไขเข้ามายืนรอฉันอยู่หน้าประตูบ้านสักพักแล้วยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรร่างสูงใหญ่ก็วิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของฉันร้ายกาจจริงๆ เลยแฟนฉัน เผลอไม่ได้เลยทีเดียว พอฉันเดินตามขึ้นไปบนห้อง ก็เห็นเขานอนยิ้มกอดหมอนข้างอยู่บนเตียงเป็นที่เรียบร้อย“มาเร็วครับแฟน มาให้พี่นอนกอดหน่อย”กวักมือเรียกด้วยท่าทางน่าเอ็นดู... คงอยากจะให้ฉันดูเอ็น“พี่นอนกอดเฉยๆ จริงๆ พี่คิดถึงผึ้ง อยากกอดแน่นๆ มาเร็วๆ สิ” ยังคงอ้อนฉันไม่ยอมหยุด ฉันเลยต้องรีบล็อคประตูห้อง แล้วเดินขึ้นเตียงไปนอนกอดเขา ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกอบอุ่น สูดกลิ่นกายที่ฉันหลงใหลฝ่ามืออุ่นโอบประคองแก้มนุ่มของฉันเอาไว้ จากนั้นริมฝีปากหยักสวยจึงประกบจูบฉันอย่างดูดดื่มลึกล้ำ เมื่อตักตวงความหอมหวานจากกลีบปากนุ่มของฉันจนหนำใจก็ถอนริมฝีปากออกแล้วสบตาพูด“พี่มีของขวัญให้” ล้วงกระเป๋าหยิบของที่ว่าขึ้นมาทันที มันคือกระปุกเครื่องประดับเล็กๆ ของร้านทองแห่งหนึ่ง“อะไรเนี่ยพี่







