“เอ่ยถึงน้องเจ้า ซีเยว่นี่ช่างซุกซนจนน่าเหนื่อยใจ อย่างไรเจ้าช่วยกล่าวตักเตือนให้นางซุกซนน้อยลงบ้าง”
“น้องเล็กที่สดใสร่าเริง สร้างรอยยิ้มให้พวกเรา ข้าชอบที่นางเป็นเช่นนี้เจ้าค่ะ”
“นั่นสิท่านแม่ ข้าเห็นด้วยกับลู่เสียน” พี่ใหญ่กล่าวเสริม แต่ดูเหมือนมารดาจะไม่สนใจตนและบิดา
“เจ้านี่ก็อีกคน ตามใจน้องเช่นเดียวกับพี่ชายและบิดา พวกเจ้ารู้หรือไม่กำลังจะทำให้น้องกลายเป็นสาวเทื้อ บุรุษเรือนไหนจะอยากได้สตรีเช่นนางไปเป็นฮูหยินบ้าง หากนางแต่งออกไปไม่ได้ พวกเจ้าทุกคนต้องช่วยกันเลี้ยงดูนาง”
“ข้ายินดี” ทั้งบิดาและพี่ใหญ่ต่างตอบรับด้วยสีหน้ายินดี
“ท่านแม่อย่าได้กังวล น้องเล็กน่ารัก น่าเอ
“หมั้นหมายกับพี่ เมื่อเรื่องที่หนานโจวเสร็จสิ้น นั่นคือคำขอจากพี่” ‘เล่นแบบนี้เลยหรือ’ “ว่าอย่างไร เจ้าตกลงหรือไม่” “ก็ได้เจ้าค่ะ แต่หากในวันหน้าท่านถูกใจสตรีอื่นอยากรับเข้าเรือนหลัง ท่านต้องยอมให้ข้าถอนหมั้นหรือหย่า...” นางกล่าวยังไม่ทันจบ ริมฝีปากของเขาก็ทาบทับลงบนริมฝีปากนาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนุ่มอย่างอุกอาจ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการดูดดึงปากนางอย่างแรงราวกับกำลังระบายโทสะ ดวงตาเมล็ดซิ่งเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อถูกจุมพิตอย่างเร่าร้อนเช่นนี้ หัวใจดวงน้อยเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง พลันเข้าใจได้ในทันทีว่านางเอกในนิยายพวกนั้นรู้สึกเช่นไรยามถูกบุรุษจุมพิต 
15 พี่เปลี่ยนใจแล้ว อวี้ซีเยว่ได้แต่ชอกช้ำระกำใจเมื่อนางขอไปนอนที่ห้องของพี่สาวแล้วถูกปฏิเสธ เพราะอีกฝ่ายเห็นบุรุษสำคัญกว่า เพียงแค่คล้อยหลังนางไปอาบน้ำแค่ชั่วครู่พี่รองก็เปลี่ยนไป เอาแต่เฝ้าดูแลเหล่าบุรุษที่ร่ำสุราจนเมามาย ทิ้งให้น้องเล็กอย่างนางเดินคอ
“หากเปลี่ยนจากลู่เสียนเป็นซีเยว่เล่า เจ้าจะยินยอมง่ายดายถึงเพียงนี้หรือไม่” คำถามของสหายพี่ชายทำให้อวี้ซีเยว่ที่กำลังยกน้ำชาขึ้นจิบแทบสำลัก “ก็ต้องดูว่าน้องเขยข้าเป็นใคร มีนิสัยเช่นไร เขาดีต่อน้องสาวข้าหรือไม่ และสามารถแต่งเข้าตระกูลข้าได้หรือไม่” การรับปากว่าจะแต่งสตรีเพียงคนเดียวเป็นฮูหยินสำหรับเขาเป็นเรื่องเพ้อฝัน “หากเป็นข้าคุณชายหยางผู้นี้เล่า” “แค่กๆ” คราวนี้อวี้ซีเยว่สำลักน้ำชาจริงๆ “ใจเย็นๆ ซีเยว่” อวี้ลู่เสียนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ช่วยลูบหลังให้น้องน้อย “ขอบ...คุณ เจ้าค่ะ” “ดูเหมือนเป็นซีเยว่เอ
“เหตุใดเจ้าถึงถีบพี่ตกเตียงเช่นนี้” ใบหน้าไร้ที่ตินั่นยุ่งเหยิงราวกับกำลังไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกเช่นใดดีระหว่างมึนงงกับไม่พอใจ จะให้เขาพอใจได้อย่างไร ในเมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกสตรีถีบตกเตียงเช่นนี้ พระจันทร์แสนซุกซนของเขาช่างไม่เหมือนใครจริงๆ แต่เพราะนางเป็นเช่นนี้ เขาถึงได้หลงใหลมิใช่หรือ “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าเพียงตกใจ ก็ใครใช้ให้ท่านขึ้นมานอนเตียงสตรีที่ยังไม่ได้ปักปิ่นล่ะเจ้าคะ ข้านั้นเป็นเพียงแม่นางน้อยที่ไร้เดียงสาจึงตกใจอยู่บ้างที่มีบุรุษมาอยู่บนเตียง” อวี้ซีเยว่หลุบตาลงเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มเข้าหากันราวกับกำลังไม่ได้รับความเป็นธรรม “พี่ขอโทษ ที่ทำเจ้าตกใจ” เขากล่าวพลางลุกยืนขึ้น มือใหญ่ปัดอาภรณ์อย่างลวกๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้นาง “ข้าก็ต้องขอโทษ
“ตามแต่ท่านต้องการเจ้าค่ะ แต่ขอยกเว้นชีวิตและเงินทองเจ้าค่ะ ข้าค่อนข้างยากจน ทุกวันนี้อยู่ดีกินดีเพราะบิดามารดา” นางกล่าวจบก็กลับมานั่งตัวตรงพร้อมกับหลุบตาลงเล็กน้อยให้ดูน่าเอ็นดูกึ่งน่าสงสาร “ท่านผู้ตรวจการโจว เย็นนี้ท่านพอจะมีเวลาว่างหรือไม่ขอรับ” เมื่อมีคนเสนอค่าตอบแทนให้ คุณชายหยางเช่นเขามีหรือจะไม่รับไว้ ในเมื่อค่าตอบแทนที่เขาต้องการมันช่างหอมหวานยิ่ง... “ข้าไม่ได้มีงานสำคัญใด ท่านมีอันใดหรือไม่” ขุนนางหนุ่มเอ่ยถามบุรุษผู้ที่มีอายุน้อยกว่า “เย็นนี้ข้าอยากจะเชิญท่านมารับมื้อเย็นที่จวนที่พวกข้าพักอาศัย อาจจะมีการจิบสุราบ้างเล็กน้อยเพื่อสร้างความคุ้นเคยกัน” หยางเฟยฉีกล่าวจบก็เหลือบมองสหายตน&nb
“ใช่ เขากล่าวว่าอย่างไรก็ไม่แต่ง เพราะตัวเขานั้นรักฮูหยินมาก สุดท้ายคนแบกความอับอายจึงเป็นคุณหนูเฟินที่บุรุษหลายคนในงานได้เห็นนางในสภาพเช่นนั้น ทั้งยังถูกบุรุษปฏิเสธไม่รับผิดชอบอีก” “ข้าเพิ่งรู้ว่ามีเรื่องเช่นนี้ด้วย แล้วการที่นางตกน้ำเป็นฝีมือใครหรือเจ้าคะ” เหตุใดนางถึงได้รู้สึกเหมือนว่าเวรกรรมกำลังตามทันสตรีผู้นั้น “ไม่ทราบ คุณหนูเฟินก็บอกไม่ได้ว่าเป็นฝีมือใคร เพราะบริเวณนั้นไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว” ‘ก็คงไปสร้างศัตรูเอาไว้มาก เลยมีคนมาเอาคืน’ “เจ้าอยากกินอะไรเพิ่มหรือไม่ พี่จะสั่งให้” สิ้นเสียงของรองเจ้ากรมยุติธรรม ก็มีบุรุษสองคนเปิดประตูห้องส่วนตัวเข้ามา “มิรบกวนท่านรอ