เย็นวันเดียวกันนั้นก่อนที่จะถึงเวลาอาหารเล็กน้อย ประตูห้องนอนของสิริญ่าก็ถูกเคาะเบาๆ ก่อนจะมีสาวใช้เปิดประตูเข้ามา
“ป้าศรีให้มาบอกว่าอาหารเย็นจะเลื่อนช้าออกไปสักหนึ่งชั่วโมงนะคะคุณนิด”
“ทำไมถึงต้องเลื่อนล่ะ ป้าศรีทำอาหารยังไม่เสร็จเหรอ” ถามด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่ค่ะ แต่คุณรามโทรมาบอกให้เลื่อนเพราะคุณราชจะแวะมาทานข้าวเย็นด้วย”
“โอเคจ้ะ” นึกถึงชายหนุ่มที่ชื่อราชที่อายุมากกว่าเธอสามปี และเป็นคนที่ค่อนข้างจะคุยกันถูกคอ “ถ้าพี่ราชมาถึงแล้วขึ้นมาตามฉันด้วยนะส้ม”
“ค่ะคุณนิด”
หลังจากนั้นเกือบหนึ่งชั่วโมงส้มก็มาเคาะประตู เพื่อบอกว่าแขกมาถึงแล้วตามคำสั่ง
ราชลุกขึ้นจากโซฟารับแขก ส่งยิ้มให้สาวสวยหุ่นดีที่มีความสูงน่าจะประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเกือบเท่าตนอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีครับหนูนิด” เขารีบยกมือรับไหว้เธอที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม
“นิดเพิ่งรู้ว่าพี่ราชจะมาทานข้าวด้วย แล้วมาคนเดียวเหรอคะ คุณพ่อกับคุณแม่ไม่มาด้วยเหรอ”
“คุณพ่อกับคุณแม่ไปงานเลี้ยงวันเกิดท่านรัฐมนตรีครับ พี่ไม่อยากกินข้าวคนเดียวก็เลยขอพี่รามมาฝากท้องด้วยสักมื้อ”
“แล้วพี่ราชไม่ได้มาพร้อมพี่รามเหรอคะ”
“พี่รามไปงานนอกกับพี่แพร ส่วนพี่ตรงมาจากบริษัท แต่เมื่อกี้โทรคุยกัน พี่รามบอกว่ากำลังจะถึงนะ”
“พี่รามมาถึงพอดีเลยค่ะ” เจ้าของดวงตาเรียวโตซึ่งหันไปทางประตูเข้าบ้านพอดีเอ่ยขึ้น และร้องหึในลำคอขึ้นมาทันทีที่เห็นหญิงสาวที่เดินตามเขาเข้ามา
ราชหันกลับไปมองทางหญิงสาวทันทีที่ได้ยินเสียงเช่นกัน ได้แต่ยิ้มขำๆ กับท่าทางที่เปิดเผยอย่างชัดเจนว่าไม่ค่อยพอใจ
“พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ไม่มีอะไรให้คิดมากหรอกจ้ะ” เพราะอายุที่ห่างกับพี่ชายคนโตถึงสิบสามปี ทำให้เขาไม่รู้จักกับพินแพรมาก่อนเหมือนพี่ชาย แต่ก็เคยได้ยินเรื่องของพวกเขาจากมารดาว่าบ้านเคยอยู่ติดกันก่อนที่ครอบครัวของเธอจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด
“แต่นิดรู้สึกว่าเธอจะทำเกินหน้าที่ของเลขานะคะ พี่แก้วเพิ่งจากไปแท้ๆ น่าจะเกรงใจกันบ้าง กลับช้าจังเลยนะคะพี่ราม” เธอเปลี่ยนไปทักทายคนที่เพิ่งกลับมาถึง
“ขอโทษที วันนี้รถติดมากเลย”
“ทานข้าวกันเถอะค่ะ นิดหิวแล้ว แล้วป้าศรีรู้หรือยังคะว่าเราจะมีแขกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ถ้ายังนิดจะได้สั่งให้ป้าศรีจัดเพิ่มอีกที่”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนิด แพรแค่แวะมาเคลียร์งานที่ค้างกับพี่รามเท่านั้น.. เดี๋ยวแพรไปรอที่ห้องทำงานนะคะพี่ราม”
“อย่าทำแบบนั้นเลยค่ะคุณแพร มาทานด้วยกันก่อนแล้วค่อยทำงานดีกว่า”
“จริงด้วยแพร กินข้าวก่อนดีกว่านะ”
“ก็ได้ค่ะพี่ราม” พินแพรตอบอย่างเกรงใจ วางกระเป๋าเอกสารแล้วเดินตามพวกเขาเข้าไปที่ห้องรับประทานอาหาร
สิริญ่านั่งลงตรงที่นั่งด้านขวามือของราม ส่วนราชนั้นเลือกที่นั่งข้างๆ เธอ ที่นั่งด้ายซ้ายมือของรามจึงกลายเป็นที่นั่งของพินแพร
เมื่อทุกคนเริ่มลงมือรับประทานอาหาร ต้มจืดเยื่อไผ่ที่ถูกตักแบ่งโดยพินแพรก็ถูกวางลงข้างจานข้าวของราม
“แพรกินเลย เดี๋ยวพี่จัดการของพี่เอง” รามบอกกับหญิงสาวด้วยท่าทางเป็นกันเอง
“ค่ะ” เธอรับปากแต่ก็ตักเนื้อปลาทอดกรอบราดพริกใส่จานให้เขาอีก “ปลาราดพริกนี้อร่อยมากเลยค่ะพี่ราม”
เคร้ง! เสียงช้อนกระทบกับจาน เรียกร้องสายตาของคนสามคนให้หันไปมองเกือบจะพร้อมเพรียงกัน
“ขอโทษค่ะ นิดทำช้อนหลุดมือ”
ราชหันไปสนใจอาหารต่อ แต่ในใจของเขากลับรู้สึกไม่ดีตามหญิงสาวด้านข้างไปด้วย เขาเพิ่งเริ่มมาทำงานได้แค่ไม่กี่เดือน เคยได้ยินคนในบริษัทเอาพี่ชายกับเลขาคนนี้ไปนินทาลับหลังอยู่บ้าง และก็เคยเกริ่นๆ เตือนเรื่องนี้กับพี่ชายไปแล้ว พี่ชายของเขาก็ปฏิเสธเสียงแข็งมาตลอด แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาเห็นกับตาแบบนี้.. ขนาดเขาเป็นน้องชายแท้ๆ เขายังคิดเลยเถิด ไม่แปลกใจเลยที่คนอื่นจะเอาไปนินทากันสนุกปาก
รามเองก็ถึงกับออกอาการอึดอัด เมื่อเจอสายตาที่ไม่พอใจของน้องเมีย จึงกลบเกลื่อนด้วยการตักปลาราดพริกให้หญิงสาว
“หนูนิดลองทานบ้างสิ”
“ขอบคุณค่ะ แต่นิดไม่ชอบทานของ ‘คาวๆ’ หรอกค่ะพี่ราม” เธอจงใจเน้นคำว่าคาว แล้วเขี่ยเนื้อปลาในจานใส่ถ้วยสำหรับทิ้งก้างอย่างไม่ใยดี
“ถ้าอย่างนั้นลองทานผัดผักนี่สิหนูนิด พี่ว่าอร่อยดีนะ” ราชตักผัดผักน้ำมันหอยใส่จานหญิงสาว เพื่อช่วยคลี่คลายความอึดอัดให้พี่ชาย
“ขอบคุณค่ะพี่ราช..” แล้วตักอาหารใส่ปาก “ผักหวานอร่อยดีค่ะ นิดชอบแบบนี้”
“แสดงว่าหนูนิดชอบทานผักมากกว่าเนื้อสัตว์”
“ค่ะพี่ราช คุณพ่อบอกว่าถ้าอยากมีหุ่นสวย สุขภาพดี ต้องทานผักผลไม้ให้มากๆ ทานเนื้อกับข้าวให้น้อยๆ ค่ะ”
“แบบนี้นี่เองถึงได้หุ่นดีอย่างกับนางแบบ”
“ขอบคุณที่ชมค่ะ พี่รามคะ”
รามชะงักช้อนข้าวที่กำลังจะใส่ปากแล้วมองหน้าเธอ “ครับ”
“ถ้าพี่รามไม่ว่าอะไร รายการอาหารทุกมื้อในบ้านนี้นิดขอเป็นคนจัดการได้ไหมคะ”
“ได้สิ แต่มีเนื้อไว้ให้พี่ทานบ้างนะ” เขาพูดจริงจัง
“นิดเป็นแค่คนอาศัย คงไม่กล้าตัดรายการโปรดของเจ้าบ้านออกไปหรอกค่ะ นิดแค่อยากให้ป้าศรีทำอาหารประเภทเนื้อสัตว์ให้น้อยจานลงบ้างก็เท่านั้น”
“พี่ก็ไม่ได้ชอบทานอาหารที่เน้นแต่เนื้อสัตว์อย่างเดียวหรอก พี่ชอบประเภทที่มีทั้งเนื้อทั้งผักรวมกันมากกว่า”
“รู้แบบนี้ก็ดีค่ะ นิดจะได้จัดการง่ายขึ้น”
“ถ้าพี่จะมาฝากท้องด้วยบ่อยๆ ได้ไหมหนูนิด” เห็นหญิงสาวอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างราชก็เลยพูดหยอกล้อเธอ
“พี่ราชมาทุกวันเลยก็ได้ ที่นี่ยินดีต้อนรับอยู่แล้วเพราะพี่ราชเป็นน้องชายพี่ราม ไม่ได้เป็นส่วนเกินของเราซะหน่อย”
“พี่ขอคิดดูก่อนนะ ชิมผัดเปรี้ยวหวานนี่บ้างสิ แม่บ้านที่นี่รสมือดีจริงๆ ” ราชรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะฟังออกว่าหญิงสาวกำลังพูดประชดใส่ใคร
พินแพรพยายามอย่างยิ่งในการปั้นหน้า ไม่ให้แสดงความรู้สึกโกรธหญิงสาว ที่เป็นน้องเมียของบุรุษที่ตนรักและเคารพมากที่สุด
หลังจากอาหารเย็นผ่านไป รามและพินแพรก็เอางานไปทำต่อที่ห้องทำงาน ส่วนสิริญ่าและราชก็พากันขึ้นไปที่ห้องนอนของหลานชายตัวน้อย
“เรื่องนี้ต้องถามคุณพ่อจ้ะลูก เพราะแม่ไม่ใช่คนวิ่งตาม แม่ไม่ตอบดีกว่า” ช่วงนี้เธอมักจะมีอาการเหนื่อยง่าย ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็พานจะเป็นลม หน้าที่ดูแลลูกจึงตกไปเป็นของสามีแทน แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ยังไม่ได้บอกให้เขารู้ เพราะเพิ่งจะตรวจดูก่อนที่ลูกชายจะมาถึงนี่เองคืนนี้แหละที่เธอจะบอกเขา เขาคงดีใจมากแน่ ๆ เพราะเคยเปรยอยู่บ่อย ๆ ว่าอยากมีลูกเพิ่มอีกสักสองสามคน และเธอก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะมีรามตัวน้อย ๆ ให้สามีสุดที่รัก ไม่ว่าจะกี่คนก็ตามก็แปลกดีนะ ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาตั้งหกปี ถึงจะตั้งท้องลูกคนแรก ทั้งที่ไม่ได้กินยาคุมกำเนิด และไม่เคยคิดว่าจะมีคนที่สองตามมาอีก เพราะคิดว่าคงเป็นไปได้ยาก แต่ตอนนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว“พ่อรามครับ ตกลงไหมครับ”“ตกลงครับ แล้วเราจะเดินไปหรือขับรถไปดีล่ะ”“เดินไปก็ได้ครับ จะได้ออกกำลังกายด้วย คุณตาพากายเดินไปที่นั่นทุกวันเลยนะครับ” เขาพูดจบพอดีกับที่มารดาเปิดประตูเข้าบ้านเด็กชายจึงปล่อยมือจากมารดา แล้วรีบวิ่งไปหาน้องสาวด้วยความคิดถึง “น้องครีม&rd
รามค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง หลังจากนอนเป็นเพื่อนลูกชายไปได้สักสิบนาที หยิบผ้าห่มมาห่มให้เขาจนเรียบร้อยดีแล้ว จึงปิดไฟดวงใหญ่เหลือไว้เพียงไฟสลัวที่หัวเตียง แล้วกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองเขาแปลกใจเมื่อไม่เห็นภรรยาอยู่ในห้องนอน เดินไปเปิดประตูห้องน้ำแต่ก็ยังไม่มีเธอ จึงเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวรอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏขึ้น เมื่อเห็นเจ้าของร่างเกือบเปลือยที่ยืนหันหลังให้ กำลังรูดแพนตี้ตัวจิ๋วลงไปตามเรียวขา จึงเดินไปหาแล้วแนบกายแกร่ง ประชิดสะโพกกลมกลึงยั่วอารมณ์เอาไว้ทันที“ทำแบบนี้กะจะยั่วกันใช่ไหม” เขาถามแล้วโน้มตัวลงไปพรมจูบบนแผ่นหลังนวลเนียน“ถ้ายั่วแล้วจะยอมเสียตัวไหมล่ะ” เธอถามกลับพร้อมกับหัวเราะเสียงใส แต่จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะยั่วเขาสักนิด ตอนที่กลับเข้าห้องมาแล้วไม่เห็นเขา ก็คิดว่าคงเผลอหลับอยู่ในห้องของลูกชาย จึงตั้งใจจะอาบน้ำให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยเดินไปดู แต่เขาก็โผล่เข้ามาแบบไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงเลย“ยอมสิ รู้ไหมตั้งแต่หนูนิดคลอดลูก พี่รู้สึกเหมือนตัวเองยังไม่ได้หนูนิดคนเก่ากลับมาเลย”คนเป็นเมียถึงกั
โรงพยาบาล“เพลา ๆ บ้างเถอะพ่อคุณ สองวันมานี้ยิ้มจนปากจะฉีกถึงใบหูอยู่แล้วนะ” ยุพาแซวลูกชายคนโตที่ยิ้มไม่หุบ เวลาที่ได้อุ้มลูกสาวแรกเกิด“พ่อรามเขาดีใจนี่ครับคุณย่า” เด็กชายภูมิพัฒน์แก้ตัวแทนบิดา“จริงเหรอลูก ย่าไม่รู้เลยนะเนี่ย แล้วกายดีใจไหมลูกที่มีน้อง”“ดีใจครับ น้องครีมของกายน่ารักมาก กายช่วยแม่นิดเลี้ยงน้องครีมด้วยครับ”“น่ารักจริงหลานย่า” ยุพาดึงหลานชายมาหอมแก้มอย่างรักใคร่ “พ่อแม่หนูเขาจะมาหรือเปล่าหนูนิด”“มาแต่คุณแม่ค่ะ ท่านจะมาถึงคืนนี้แหละค่ะ ส่วนคุณพ่อจะตามมาอาทิตย์หน้า เพราะติดเคสนัดผ่าตัด” คุณแม่มือใหม่ ที่เดินบริหารร่างกายเบา ๆ อยู่ข้างเตียง ตอบคำถามแม่สามี“พรุ่งนี้เราก็ไปทานข้าวกลางวันที่บ้านลูกเลยละกัน จะได้ไปทักทายคุณดวงดาวเธอด้วย” บันเทิงบอกกับภรรยา“ก็ดีค่ะ ไม่ได้เจอคุณดวงดาวนานแล้วด้วย คงได้คุยกันยาวแน่เลย”“คุยจนถึงตอนเย็น ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับคุณยุพา”“คุณพี่นี่ช่าง
หลังจากกลับมาจากงานเลี้ยง สิริญ่าก็เตรียมถอดชุดเพื่ออาบน้ำชำระล้างเหงื่อไคล แต่เพราะรูปร่างที่อุ้ยอ้ายทำให้เธอรู้สึกลำบากเหลือเกิน“พี่รามขา พี่รามมาหานิดที่ห้องแต่งตัวหน่อยค่ะ”“จ๋าๆ” คนถูกเรียกรีบขานรับ ขยับตัวลุกจากโซฟาแล้วตรงดิ่งไปที่ห้องแต่งตัว“ช่วยรูดซิปให้นิดหน่อยสิคะ”“พี่บอกว่าเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วให้ออกไปหาพี่ พี่จะช่วยถอดชุดให้ ทำไมถึงไม่ฟังกันบ้างเลย” ปากของสามีบ่นไปแต่มือก็ทำตามคำสั่งของภรรยาด้วย“ทำไมถึงขี้บ่นจังคะ”“ที่บ่นก็เพราะรักและเป็นห่วงทั้งนั้น กลัวจะเป็นลมหรือหกล้มอยู่คนเดียว” เขาเป็นห่วงเธอสารพัดห่วง ห่วงจนไม่กล้าแม้แต่จะล่วงเกินเธอตั้งแต่เข้าสู่เดือนที่เจ็ด เพราะกลัวจะเป็นอันตรายกับเธอและครรภ์“รักนิดมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หลังจากเขาช่วยถอดชุดให้เสร็จแล้วเขารู้สึกได้ทันทีว่าเธอเกิดอาการน้อยใจอีกแล้ว จึงสวมกอดจากทางด้านหลัง วางมือใหญ่ลงบนหน้าท้องนูนแล้วลูบไล้แผ่วเบา“ทำไมถึงถามแบบนี้ล
“จริง ๆ ครับคุณกร ผมก็อยากมีเมียเหมือนคนอื่นเขาบ้าง แต่ก็ยังหาที่ถูกใจไม่ได้สักที”“มาตรฐานสูงไปหรือเปล่าคุณราช”“ก็ไม่ได้สูงนะครับ ขอแบบพี่สะใภ้หรือแบบคุณแพร ผมก็พอใจแล้วครับ”“แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่ามาตรฐานสูง” คำพูดของรามเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี“ทำไมแพรไม่ค่อยคุยเลยล่ะ” กรเพิ่งสังเกตเห็นความผิดปกติของภรรยา จึงเอ่ยถาม“แพรรู้สึกเวียนหัวค่ะคุณกร ผะอืดผะอมมาก ก็เลยอยู่นิ่ง ๆ ดีกว่า” พินแพรจงใจประชดใส่สิริญ่าและราม เธอไม่อยากจะพูดกับพวกเขาเลยแม้แต่นิด หน้าก็ไม่อยากจะมองด้วยซ้ำ“แพ้ท้องใหม่ ๆ ก็อย่างนี้แหละครับ อย่าถือสาภรรยาผมเลยนะครับ”“ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะคุณกร ขนาดนิดใกล้จะคลอดอยู่รอมร่อ บางทีนิดยังมีอาการเหม็นขี้หน้าคนเลยค่ะ อยากจะอาเจียนรดหน้าเลยค่ะ” เธอเริ่มก่อนนะพินแพร คนอื่นอาจจะไม่คิดแต่ฉันคิด เพราะฉันเห็นสายตาของเธอ“คนท้องนี่มักจะมีอาการแปลก ๆ กันนะครับ อย่างแพรเขาก็อยากทานไอ้นั่นไอ้นี่ แต่พอหามาให้ทา
รามยิ้มกว้างด้วยความขบขัน หันไปมองภรรยาสุดที่รัก ที่กำลังอุ้มท้องลูกสาวคนแรกของบ้านรามพิทักษ์ทรัพย์ เขาอยากจะกอดเธอ แต่ก็รู้ว่าไม่เหมาะเพราะอยู่ในเขตวัด จึงจับมือเธอแทน“ที่แม่นิดเขาตัวใหญ่กว่าพ่อ ก็เพราะแม่นิดเขาต้องอุ้มท้องน้องของกายเอาไว้นี่ลูก เมื่อก่อนกายเคยเห็นแม่นิดเขาตัวใหญ่แบบนี้ไหม”“ไม่เลยครับ เมื่อก่อนแม่นิดตัวเล็กกว่าคุณพ่อตั้งเยอะ เวลาแม่นิดไปรับกายที่โรงเรียนเพื่อน ๆ ของกายก็ชอบชมว่าแม่นิดสวย และใจดีมากด้วยครับ”“ทีนี้ลูกรู้แล้วใช่ไหม ว่าทำไมแม่นิดถึงตัวใหญ่กว่าพ่อ”“เพราะแม่นิดมีน้องอยู่ในท้องครับ”“เก่งมากลูก” รามลูบศีรษะทุยของลูกชาย หลังจากนั้นอีกสักพัก ก็บอกให้ลูกชายกล่าวลากับภาพถ่ายของมารดาผู้ให้กำเนิด และพากันเดินทางกลับบ้านตกเย็นวันเดียวกันนั้น ครอบครัวของรามพิทักษ์ทรัพย์ทั้งสามคน ก็เดินทางออกจากบ้านอีกครั้ง จุดหมายคือโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองกรุง เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพที่ส่งการ์ดเชิญมาให้ปนัดดาคลี่ยิ้มกว้าง เมื่อเห็นพ่อแม่ลูกตระกูลพิท