“พี่ต้องขอโทษแทนหนูนิดด้วยนะแพร เธอยังเด็กและเธอก็รักพี่สาวมาก คงไม่รู้ว่าเราสนิทกันมากจนก้าวข้ามคำว่าชู้สาวแบบที่หลายๆ คนคิดไปแล้ว” รามเอ่ยขึ้นเมื่อถึงห้องทำงาน
มือเล็กที่กำลังเรียบเรียงเอกสารเข้าที่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มขยับต่อ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ราม แพรเข้าใจความรู้สึกของเธอค่ะ” เธอตอบโดยไม่ละสายตาไปจากงาน “ว่าแต่คุณนิดจะกลับออสเตรเลียเมื่อไหร่เหรอคะ” และถามต่อเหมือนถามเรื่อยเปื่อย แต่จริง ๆ แล้วอยากจะรู้คำตอบมากที่สุด
“ไม่มีกำหนด แต่ก็คงอีกนาน เพราะหนูนิดเขาอยากจะอยู่เลี้ยงน้องกายไปก่อน”
คำตอบที่ได้รับสร้างความไม่พอใจให้หญิงสาวยิ่งนัก แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือการพยักหน้าน้อย ๆ และแสร้งทำเป็นเห็นด้วย
“ก็ดีนะคะ แต่สาวๆ สวยๆ แบบคุณนิดจะทนอยู่กับเด็กเล็กได้นานแค่ไหนก็ไม่ทราบนะคะ”
“ก็แล้วแต่เขา พี่ไม่ว่าอะไรหรอก หนูนิดเขาตั้งใจมาเรียนต่อโทที่นี่ก็เพื่อจะได้มีเวลาอยู่ดูแลหลานไปด้วย”
ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงต้องหาทางเข้ามาใกล้ชิดเขาให้มากกว่าเดิม เธอจะไม่ปล่อยให้หญิงสาวคนนั้นมาใกล้ชิดกับเขาเหมือนพี่สาวหล่อนอีก
“พี่รามคะ แพรรบกวนอะไรหน่อยได้ไหมคะ” เริ่มหาอุบายมาหลอกเขา
“อะไรเหรอ”
“คือบ้านแพรกำลังซ่อมแซมชุดใหญ่ อีกประมาณสองอาทิตย์ถึงเสร็จ ถ้าไม่รบกวนพี่รามจนเกินไป แพรขอมาอาศัยอยู่ชั่วคราวได้ไหมคะ”
“ได้สิ พรุ่งนี้พี่จะบอกให้ป้าศรีให้เตรียมห้องให้นะ”
“ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะพี่ราม ความจริงแพรไม่อยากรบกวนพี่รามเลยค่ะ แต่ยิ่งซ่อมก็ยิ่งบานปลาย พ่อกับแม่ก็เลยตัดสินใจรีโนเวตทั้งหลังเลย”
“แล้วคุณน้าทั้งสองจะไปพักอยู่ที่ไหนล่ะ มาอยู่ด้วยกันที่นี่ก็ได้นะ”
“พ่อกับแม่กลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดค่ะ ถือโอกาสกลับไปดูแลสวนยางด้วยเลย” เธอรวบรวมเอกสารใส่แฟ้มยื่นให้เขาแล้วหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นบ่า “เสร็จงานแล้วแพรขอตัวกลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เจอกันนะคะ” เมื่อสมดั่งใจหวังแล้วก็ไม่คิดจะอยู่ต่อให้เสียเวลา เพราะต้องกลับไปเตรียมเก็บเสื้อผ้าเพื่อย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้
บ้านพิทักษ์ทรัพย์
“เมื่อคืนไปกินข้าวที่บ้านพี่รามมาเหรอลูก” มารดาถามลูกชายคนเล็กที่เดินเข้ามาหอมแก้ม
“ครับคุณแม่ คุณพ่อไปไหนเหรอครับ”
“วันนี้พ่อเขามีนัดออกรอบกับเพื่อนๆ ที่ประจวบ ก็เลยออกไปหลังกินมื้อเช้าเสร็จ”
“แล้วทำไมคุณแม่ไม่ไปด้วยล่ะครับ”
“แม่มีประชุมที่สมาคม ก็เลยปล่อยให้พ่อเขาไปคนเดียว”
“ไม่กลัวคุณพ่อพาอีหนูไปเหรอครับ” ราชแกล้งเย้ามารดา
“ไม่หรอกจ้ะ ลูกก็รู้ว่าพ่อเขานิสัยยังไง” ยุพาตอบอย่างมั่นใจในตัวสามีที่อยู่ด้วยกันมามากกว่าสี่สิบปี “เล่าให้แม่ฟังบ้างซิว่า พี่รามของลูกเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้”
“ก็ปกตินะครับ แต่ก็ไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน”
“ก็เมียตายทั้งคนนี่นะ แม่สงสารพี่รามเขาจริง ๆ นะลูก”
“ให้เวลาพี่เขาสักหน่อยนะครับ”
“แล้วหลานล่ะลูกเป็นอย่างไรบ้าง แม่คิดว่าวันนี้หลังจากประชุมเสร็จจะแวะไปเยี่ยมหลานสักหน่อย”
“ไม่ต้องห่วงครับคุณแม่ หลานมีหนูนิดคอยดูแลอย่างดี”
“หนูนิดยังไม่กลับออสเตรเลียอีกเหรอลูก” นางแปลกใจมากเมื่อรู้ว่าน้องสาวของลูกสะใภ้ยังอยู่ที่บ้านของลูกชายคนโต
“ทำไมคุณแม่ต้องทำท่าแปลกใจอย่างนั้นด้วยครับ หรือว่าคุณแม่ไม่ชอบหนูนิด” ราชถามจริงจัง
“แม่จะไปรังเกียจเขาเรื่องอะไรล่ะลูก หนูนิดเขาก็น่ารักดีออก แม่แค่แปลกใจเท่านั้นเอง”
“แล้วระหว่างหนูนิดกับคุณแพรแม่ชอบใครมากกว่ากัน”
“ทำไมมาถามแม่แบบนี้ล่ะราช” ยุพาแปลกใจหนักจนต้องชักสีหน้า
“ก็ผมอยากรู้ความคิดของคุณแม่”
“แม่ก็ชอบทั้งคู่นั่นแหละ หนูนิดก็น่ารัก หนูแพรก็น่ารัก นิสัยเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดีทั้งคู่”
“ถ้าให้เลือกได้คนเดียวคุณแม่จะเลือกใครครับ”
“ตอบยากจัง หนูแพรก็ดีนะ แม่รู้จักกับหนูแพรมานานกว่า แม่คิดว่าแม่รู้จักนิสัยเธอดีกว่าหนูนิดเยอะนะ”
“ต่างกับผมนะครับ ผมว่าหนูนิดเธอดูจริงใจกว่าคุณแพร ดูไม่สร้างภาพดีครับ ส่วนคุณแพรเธอดีเกินไปจนเหมือนฝืน” แล้วยังเรื่องข่าวคาวที่ได้ยินเข้าหูที่บริษัทอีก ถ้าเขาพูดออกไปมารดาจะรู้สึกอย่างไรนะ
“คิดมากน่าราช ถ้าหนูแพรเธอสร้างภาพอย่างที่ลูกว่า ป่านนี้ที่บริษัทคงมีข่าวในแง่ลบของเธอกับรามให้เราได้ยินบ้างแล้ว”
“ผมก็แค่คิดไปเรื่อยเปื่อยแหละครับคุณแม่”
“ในเมื่อลูกพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว แม่ก็ขอปรึกษาลูกเลยละกัน เพราะปรึกษาคุณพ่อแล้วไม่ได้เรื่อง”
“เรื่องอะไรเหรอครับคุณแม่”
“เรื่องพี่รามกับหลานนั่นแหละ”
“พี่รามทำไมเหรอครับ”
“ลูกมีความคิดเห็นอย่างไรถ้าแม่จะหาแม่เลี้ยงให้น้องกาย”
“ทำไมคุณแม่ต้องหาด้วยล่ะครับ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่รามไม่ดีกว่าเหรอครับ” ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด แต่เขาก็พูดกับมารดาอย่างใจเย็น
“แม่ไม่อยากรอให้ตากายโตจนรู้ความ อยากให้พี่ชายเราแต่งงานกับผู้หญิงดี ๆ สักคนเพื่อมาทำหน้าที่แม่ให้ตากาย” นางไม่อยากให้หลานรับรู้ว่าเป็นเด็กกำพร้า อยากให้เขาโตมาอย่างครอบครัวอบอุ่น ที่มีพร้อมทั้งบิดาและมารดามากกว่า
“ผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณแม่เรื่องหลานนะครับ แต่เรื่องจะหาพี่สะใภ้คนใหม่นี่ผมไม่เห็นด้วยสักนิด และผมก็มั่นใจว่าพี่รามคิดไม่ต่างจากผมเหมือนกัน”
“แต่ถ้าเป็นหนูแพร พี่เขาอาจจะยอมก็ได้นะ”
“คุณแม่!” ราชอุทานด้วยความตกใจกับความคิดของมารดา เพราะไม่คิดเลยว่าท่านจะนึกถึงพินแพร “ถ้าพี่รามมองคุณแพรเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง พี่รามก็คงไม่แต่งงานกับพี่แก้วหรอกครับ ผมว่าคุณแม่ควรจะคิดเรื่องนี้ใหม่นะครับ”
“ไม่รู้แหละ แม่ว่าหนูแพรนี่แหละที่เหมาะสมจะเป็นแม่ของตากาย ไม่มีใครเหมาะสมเท่าเธอแล้ว”
“พี่กลับมาก่อน ปล่อยให้ราชเขารับผิดชอบส่วนที่เหลือต่อ”“อ้าว! นิดนึกว่ากลับมาพร้อมกันซะอีก” ตอนที่เขาโทรหาเธอเมื่อช่วงกลางวัน เธอก็ถามถึงราช แต่เขาก็ไม่บอกว่าไม่ได้กลับมาด้วยกัน“ไม่ได้กลับมาหรอกจ้ะ ลูกค้าชวนให้อยู่ฉลองวันเกิดเขาด้วยกันเย็นนี้ พี่ก็เลยให้ราชเขาอยู่ต่อน่ะ”“แล้วทำไมพี่รามถึงไม่อยู่ด้วยล่ะคะ”เขาเหลือบไปมองเธอ ก่อนจะหันไปมองถนนอีกครั้ง “อยากให้พี่อยู่นักเหรอ”“พี่รามก็สมควรจะอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”“ก็ใช่ แต่ที่นั่นไม่มีหนูนิด พี่ก็เลยไม่อยากอยู่”คำตอบของเขา ทำให้กลีบปากบางถึงกับคลี่กว้างอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะรีบเม้มเข้าหากันอย่างฝืนความรู้สึก.. ถ้าเป็นผู้หญิงที่อ่อนไหวง่ายก็คงถามไปแล้วว่า ไม่มีตัวเองอยู่หรือเพราะไม่มีเลขาคนสวยอยู่กันแน่ แต่บังเอิญว่ามันไม่ใช่นิสัยของตน“แต่นิดชอบนะคะที่ไม่มีพี่รามอยู่ใกล้ ๆ เพราะมันทำให้นิดนอนหลับสบายทั้งคืนเลยค่ะ”เธอหลับสบายจริงเหรอ ขนาดเขายังนอนไม่ค่อยจะหลับเพราะไร้ไออุ่นจากเธอ
“ก็ได้ค่ะ นิดเลิกเรียนตอนห้าโมงนะคะ”(โอเค เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันนะครับ)“ค่ะ บาย”(หนูนิด..)“ขา”(...พี่ ..พี่คิดถึงหนูนิดนะครับ)หัวใจของหญิงสาวถึงกับเต้นรัวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำพูดที่ฟังดูคล้ายขัดเขินจากปลายสาย เขาคงเขินมากสินะถึงได้ตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบแบบนั้นวิคเห็นอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของสิริญ่า ก็ยิ่งสงสัยหนักกว่าเดิม สรุปแล้วคนที่โทรมาสายแรกกับสายที่สอง ใครคืนคนพิเศษของเธอกันแน่ หัวใจของเธอยังว่างพอจะให้เขาเข้าไปจับจองได้บ้างไหม เขาอยากรู้จริง ๆ “ยิ้มแก้มปริเลยนะ ใครโทรมาล่ะ”คนที่ยิ้มเพลิน ๆ หุบยิ้มลงไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองคนที่ด้านข้าง เพราะมัวแต่ปลื้มปริ่ม จึงลืมไปเลยว่ายังนั่งอยู่ในรถกับเขา“ไปนั่งรอคนอื่นในห้องดีกว่า” เธอบอกกับเขาแล้วเปิดประตูลงจากรถ เก็บความสุขเอาไว้ในใจ แล้วชวนเพื่อนคุยเรื่องอื่นขณะเดินไปที่ห้องเรียนเมื่อเข้าห้องเรียนได้สักพัก อาจารย์คนใหม่ก็เดินเข้ามาทักทายก่อนจะเริ่มทำการสอน และบอกเหตุผลกั
หญิงสาวรีบทำตัวให้สำรวมเมื่อบิดาของวิคเดินเข้ามาหา ยกมือไหว้โดยไม่รอให้เพื่อนแนะนำ“สวัสดีค่ะคุณอา”“เพื่อนผมเองครับป๋า ชื่อนิด” วิคแนะนำหลังจากที่ท่านรับไหว้เธอแล้วบิดาของวิคพยักหน้ารับ แล้วขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิด เพ่งมองเธออย่างพินิจพิเคราะห์“ป๋าครับ” วิคเรียกบิดา เมื่อเห็นว่าการกระทำของท่านนั้นดูไม่ค่อยเหมาะสม และสร้างความอึดอัดใจให้กับหญิงสาว“รู้ตัวหรือเปล่าว่าหนูเป็นคนที่สวยสง่ามาก เคยประกวดนางงามบ้างหรือยัง” บุรุษวัยเลขสี่ปลาย ๆ ถอยห่างออกไป แล้วตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาการกระทำของบิดาเพื่อนทำให้เธอตกใจไปเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเป็นปกติเมื่อรู้เหตุผล “ไม่เคยหรอกค่ะคุณอา” ตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม“สนใจอยากประกวดไหมล่ะ ป๋ามีเพื่อนอยู่ในวงการนี้ด้วยนะ”“ไม่เอาดีกว่าค่ะ นิดอยากอยู่อย่างสงบมากกว่า” เธอคลี่ยิ้มพร้อมตอบคำถาม“เฮ้อ เสียดายจัง ป๋าก็อยากจะเป็นป๋าดันกับเขาสักครั้งในชีวิต แต่ก็ถูกปฏิเสธซะแล้ว” บิดาของวิคทำหน้า
“เราคิดถึงพี่รามมากขนาดนี้เชียวเหรอ” ถามตัวเองและคิดตริตรองหาคำตอบ ทบทวนถึงวันเก่า ๆ ที่ผ่านมา.. แรก ๆ ความรู้สึกของเธอไม่ได้เป็นแบบนี้แน่ ๆ แล้วทำไมตอนนี้มันถึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงได้ล่ะ... หรือว่าเธอรักเขา.. เธอรักเขาจริง ๆ หรือนี่ บ้าไปแล้วหนูนิด! เธอเผลอใจไปรักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมถึงรวดเร็วอย่างนี้แล้วที่เธอเมินคำพูดของพินแพร เพราะอยากเอาคืนหล่อน หรือเพราะไม่อยากเสียเขาให้หล่อนกันแน่...คิดวนไปวนมาจนเคลิ้มหลับไป ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเตือนข้อความเข้าของโทรศัพท์“นิด” เสียงใสทุ้มหูของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ตะโกนเรียกหญิงสาวที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดอาคารเรียน พร้อมกับวิ่งตามไปสมทบ “กู๊ดมอร์นิ่งจ้ะนิด”“กู๊ดมอร์นิ่งวิค กลับมาจากจีนตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วอาม่าเป็นยังไงบ้าง” สิริญ่าทักทายเพื่อนร่วมคณะ ที่เป็นหนุ่มลูกผสมไทย จีน อเมริกัน ซึ่งเป็นเพื่อนใหม่ที่สนิทที่สุดเลยก็ว่าได้“กลับมาเมื่อคืนนี้เอง พออาม่าออกจากโรงพยาบาลวิคกับพ่อก็กลับมาก่อน แต่หม่ามี๊กับน้องสาววิคยังอยู่ต่ออีกสอ
พินแพรเดินตามเข้าไป มองร่างระหงโปร่งเพรียวที่อยู่ในชุดนอนแนบเนื้อ แล้วถึงกับเกิดอาการริษยา ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลัง หล่อนก็ดูดีไร้ที่ติจริง ๆ เพราะแบบนี้สินะ รามถึงได้รักและหลงหล่อนนัก ไม่ว่าจะจากหรือเจอ ก็ต้องรั้งเธอมากอดจูบอย่างไม่อายสายตาคนอื่นแต่จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้โทษผู้ชายฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ เพราะอีผู้หญิงก็ใช่ย่อย ไม่ว่าจะจากหรือเจอ หล่อนก็ต้องกางแขนยื่นหน้าให้ท่าเขาตลอดสิริญ่าเดินไปที่มุมพักผ่อน ซึ่งเป็นมุมที่เขาและเธอใช้เวลาอ่านหนังสือ เล่นอินเทอร์เน็ต ดูทีวี เล่นกับลูก หรือแม้แต่เรื่องอย่างว่า.. เขาก็เคยทำกับเธอมาแล้ว ร่างกายของเธอรู้สึกวาบหวิวขึ้นมา เมื่อนึกถึงบทรักอันร้อนแรงของเขาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ณ ที่ตรงนี้“เชิญนั่งค่ะ” เธอสลัดความรู้สึกวาบหวามนั้นทิ้งไปแล้วนั่งลง มองหน้าอีกฝ่าย รอฟังโดยไม่ถามเหตุผลที่หล่อนมาขอพบ เพราะรู้อยู่เต็มอกว่ามีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คือเรื่องของราม“ฉันมาทวงสัญญาค่ะคุณนิด” พินแพรเริ่มต้นด้วยคำพูดอ่อนโยนตามสไตล์ของเธอ “เรื่องพี่รามค่ะ”“หลังจากวันนั้นฉ
(อย่าโทษเขาเลยค่ะ ฉันยอมทำทุกอย่างก็เพราะรักเขามาก ฉันเชื่อว่าพี่รามจะไม่ว่าอะไร ถ้าฉันเก็บลูกของเราไว้ ทั้งหมดเป็นการตัดสินใจของฉันคนเดียวเท่านั้น.. คุณนิดคะ ฉันอยากจะขอให้คุณคิดเรื่องนี้อีกสักครั้งได้ไหม)“คิดเรื่องอะไรเหรอคะ”(เรื่องพี่รามกับคุณ.. ฉันอยากให้คุณหลีกทางให้เรา ถึงแม้เขาจะรักฉันน้อยกว่าที่ฉันรักเขา ถึงแม้พี่รามจะบอกฉันว่า ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ก็ตาม เขาให้ฉันอยู่แบบนี้ต่อไป เขาจะไม่ทอดทิ้งฉัน แต่ฉันต้องอยู่อย่างเจียมตัว และเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตลอดไป ถ้าเรื่องของฉันกับเขารู้ถึงหูคุณ เขาจะไม่รับผิดชอบฉันและไล่ฉันออกจากงาน ฉันจึงอยากจะขอให้เรื่องที่เราคุยกันวันนี้เป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ)หึ! ลูกไม้ตื้น ๆ ของคุณ เหมือนในละครไทยน้ำเน่าที่แม่ฉันดูไม่มีผิด นึกว่าเด็กนอกอย่างฉันจะไม่รู้ทันคุณหรือไง“ได้สิคะ เพราะถ้าฉันพูดไป ฉันก็คงจับผิดพี่รามไม่ได้เหมือนกัน”(ไม่ต้องไปจับผิดหรอกค่ะ ที่ฉันพูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริง แม้กระทั่งเรื่องท้องของฉันคุณก็รู้แล้วนี่คะ คืนพี่รามให้ฉันเถอะนะคะคุณนิด คุณยังสา