Share

ขอบคุณ

last update Last Updated: 2025-11-24 20:50:26

"แมนทำหน้าดีๆ หน่อยลูกชายคนแรกของเรากำลังจะแต่งงานนะ"

พ่อของลูกชายทั้งเจ็ดบีบแก้มคนหน้าบึ้งเบะปากมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวลูบผมลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้เต็มขั้น

"แต่งได้ก็เลิกได้คิดว่าโรแมนติกมากมั้งถ่อมาไกลถึงทะเลลมก็แรงมีแต่กลิ่นเกลือใครมันเป็นคนเลือกสถาณที่เนี่ย สิ้นคิดชะมัด" แมนบ่นอุบสะบัดหน้าให้หลุดพ้นเงื้อมมือพ่อของลูก

"พี่วันไงพี่วันชอบทะเล" ทูถือไอติมยื่นให้แม่กับพ่อพลางตอบคำถามตัวแม่ แมนหุบปากฉับย่นจมูกอย่างขัดใจแต่แอบเนียนงับไอศกรีมผัวเพราะอยากชิม

"อ้าวไม่ใช่หมอนั่นเลือกเรอะ"

"เรียกลูกเขยให้มันเหมือนชาวบ้านหน่อย"

"เช๊อะ...ทะเลก็สวยดีดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นสิ"

"เปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าเลยนะ" ดีว่าให้เมียตัวร้ายที่เดินไปสมทบกับปู่ย่าตายายเพื่อหาเหล้าฟรีดื่ม

แสงสุดท้ายของวันทอดตัวเหนือผิวน้ำ กลืนเข้ากับท้องฟ้าสีทองอ่อนจนแทบมองไม่ออกว่าทะเลเริ่มตรงที่ใดลมเย็นพัดผ่านกลิ่นเค็มจาง ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ขาวที่ประดับเรียงรายตลอดทางเดิน ผืนผ้าสีงาช้างพลิ้วเบาอยู่เหนือพื้นทราย ทุกอย่างดูเรียบหรูมีรสนิยมบ่งบอกตัวตนความเป็นคนรวยของทั้งสองตระกูลได้เป็นอย่างดี

เสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะเดียวกับคนตัวสูงในชุดสูทสีขาวสะอาดยืนมองคนรักหน้าซุ้มดอกไม้ยามค่ำดวงตาคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่อบอุ่นไม่ซ่อนสายตาเปล่งประกายพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนทีมีให้คนคนนี้เสมอ

“ได้เวลาสวมแหวนแล้ว”

พ่อของดีกันยื่นกล่องแหวนให้ลูกชายแหวนแต่งงานทองเรียบเกลี้ยงไร้ลวดลายผิดกับรสนิยมหรูหราฟู่ฟ่าของฝั่งเจ้าบ่าวอย่างที่ควรจะเป็น เพราะดีกันตามใจคนรักอย่างวันว่าจะสวมแหวนแบบไหนวันจึงเลือกแหวนทองง่ายๆ เพียงสลักชื่อคู่ไว้ภายใน

วันไม่ชอบเลือกของจากยี่ห้อแต่มักจะคำนึงถึงส่วนได้ส่วนเสียอย่างดีเขาไม่ชอบสวมเครื่องประดับและอาจจะทำหายในสักวัน แล้วอีกอย่างทองเป็นของที่มีมูลค่าเพิ่มในอนาคตราคาไม่ตกเท่าแหวนเพชรขนาดกลาง หากใส่เพชรใหญ่ก็ดูจะตลกและใช้มือลำบากเกินไป

“วัน...แต่งงานกันนะ” ดีกันนั่งลงคุกเข่าตรงหน้าคนรักวันนี้ทั้งสองสวมเชิ้ตผ้าสีขาวแขนยาวกับกางเกงผ้าขายาวสีเดียวกันท่ามกลางญาติพ่อแม่พี่น้องและเพื่อนอีกไม่มากนัก วันเม้มปากน้อยๆ ก้มมองสบตาคนรักนิ่งงันชัวครู่

เมื่อครั้งยังเป็นเด็กวันไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมคนเราต้องแต่งงานกันเพราะการอยู่ด้วยกันเต็มไปด้วยปัญหาจุกจิกกวนใจ

ไม่เคยเข้าใจเลยว่าคนที่ไม่นอนด้วยกันไม่กินข้าวพร้อมกันไม่พูดจาดีๆ ใส่กันทำไมต้องสร้างครอบครัวด้วยกัน

ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคนที่เกิดจากท้องคนคนหนึ่งที่ตามมาอีกหกคนถึงมีความสุขกับการได้อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ไม่เข้าใจเลยจนกระทั่ง..

ออกมาอยู่นอกบ้านคนเดียว

ห้องที่เคยต้องการความสงบกลับเงียบเกินไป

ข้าวที่กินตามลำพังไม่มีรสชาติจนต้องดื่มนมมากกว่ากินอาหารเพื่อให้ไม่ซูบลงจนถูกแม่ห่วง

ดีขึ้นมาหน่อยตรงที่คนรักดูแลเอาใจใส่ทะนุถนอมแต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีอย่างที่คาดไว้ แต่..

พอกลับบ้านที่น่ารำคาญ

อาการวูบโหวงก็หายไปจนหมด อาหารที่กินกับน้องๆ ที่มีพ่อกับแม่แอบมองอร่อยกว่าข้าวร้านไหน ...

ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจแต่คิดว่า..

จะยังกลับบ้านพ่อแม่บ่อยๆ เหมือนเดิม

"อื้อ~ แต่งกัน" วันยิ้มกว้างพยักหน้าตอบรับพลางยื่นมือให้ดีกันสวมแหวน

เฮฮฮฮ-

“หวานมาก”

“หล่อม้าก~”

“อิจฉาจังหนูอยากแต่งงาน”

“เลิกกัดเล็บให้ได้ก่อนเถอะ”

เสียงปรบมือจากแขกค่อย ๆ ดังขึ้นขณะพระอาทิตย์ตกดินพอดีแสงสุดท้ายสะท้อนบนแหวนคู่นั้นเป็นประกายวันเอียงหน้าเล็กน้อย ยอมให้คนที่อ่อนโยนที่สุดในชีวิตจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากมน ทุกอย่างเรียบง่าย แต่สวยงาม ไม่มีคำสัญญา ไม่มีคำสาบาน มีเพียงสายตาสองคู่ที่พูดแทนคำพูดใด

“วันนี้ยิ้มสวย” ดีกันเอ่ยชมเรียบง่ายแต่หนักแน่นกว่าครั้งไหน

“ตั้งแต่ปอหกฉันก็ชอบนายอยู่ก่อนแล้ว…และก็ไม่เคยหยุดชอบนายได้เลย”

คลื่นซัดเข้าหาฝั่งอีกครั้ง เหมือนโลกทั้งใบตอบรับคำสัญญาที่ไม่ต้องเอ่ยออกมา

หลังแขกกลับไปหมด เหลือเพียงเสียงคลื่นที่ยังคงซัดเข้าหาฝั่งอย่างสม่ำเสมอแสงไฟจากวิลล่าหลังเล็กสะท้อนบนผิวน้ำสระส่วนตัว ดอกไม้ขาวยังคงส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยปะปนกับกลิ่นทะเลวันถอดสูทออก เหลือเพียงเชิ้ตขาวพับแขนขึ้นสูง นั่งพิงราวระเบียงแสงไฟสีนวลตกกระทบเสี้ยวหน้าเรียบสงบที่ยังอยู่ในชุดเดิม ใบหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาเต็มไปด้วยแสงบางอย่างที่ต่างจากตอนกลางวัน

“เหนื่อยไหม” ดีกันถามเสียงนุ่ม

“ไม่เท่าไหร่”

ร่างบางยิ้มน้อยๆ งานไม่ใหญ่คุยกับน้องๆ ยังเหนื่อยกว่าเจ้าทูยังเหมือนเดิมโตมาซนแข่งกับแม่ เจ้าทรีเป็นนักสตีมเกมส์แข่งกับพ่อถึงแม้จะทะเลาะกันตลอดก็ตาม เจ้าโฟร์เป็นนักกีฬาฟุตบอล เจ้าไฟฟ์ชอบทำอาหาร เจ้าซิกชอบเรียนบอกว่าอยากเป็นหมอแต่นิสัยอาจจะแปลกๆ หน่อย เจ้าเซเว่นอยากเป็นตำรวจแค่เพราะเจ็บใจที่โดนตำรวจปรับแม่เรื่องไม่สวมหมวกกันน็อคแต่แม่ไม่มีตังจึงต้องยืมตน ป่านนี้ยังไม่คืน

เป็นแม่นี่เสมอต้นเสมอปลายดีไม่ต้องมีเงินแค่มีสามีกับลูกก็มีชีวิตอยู่ได้

แต่…เพราะแม่ที่เป็นแบบนี้สินะ

ความกดดันทั้งหลายทั้งปวงที่ควรจะเป็นจึงไม่มี

ความว่างเปล่าและง่ายดายของแม่ กลายเป็นเซฟโซนให้ครอบครัวเรา

มาตั้งแต่แรก

“วัน..คิดอะไรอยู่”

ดีกันรวบกอดร่างบาง จรดริมฝีปากหยักลึกลงข้างกลางหน้าผากพลางไล้ปลายจมูกลงบนส่วนเดียวกันจ้องมองดวงตาคู่สวย แตะหลังมือเขาเบา ๆ ก่อนจะสอดนิ้วเข้าหากันประสานเข้าด้วยกัน คำพูดเรียบง่ายไม่มากมายแต่จริงใจเสมอ เป็นคนที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นตั้งแต่แรกเจอมาจนถึงตอนนี้

“นายยังมองฉันเหมือนตอนนั้นเลย”

“อืม…ล็อคมงมาตั้งแต่ปอหก”

“ขอบคุณ…ขอบคุณที่เก็บกระเป๋ามาคืน ขอบคุณที่อยู่ข้างๆ ตลอดทั้งที่ฉันไม่ค่อยอ่อนโยน ขอบคุณที่เข้าใจเรื่องที่ไม่ยอมมีอะไรด้วยเพราะกลัวจะท้อง ขอบคุณนะ..”

“ไม่ต้องขอบคุณ ฉันทำเพราะหวัง หวังว่าสักวันนายจะเป็นของฉัน นายมีสเน่ห์มากนะวัน เหมือนจะจริงจังเด็ดขาดเด็ดเดี่ยวแต่มีภูมิคุ้มกัน มีความรักรอบกายเป็นภูมิคุ้มกัน ฉันเป็นลูกคนเดียวฉันหวังจะพึ่งความรักของนายเพื่อใช้ชีวิตที่มีความสุข ฉันไม่ใช่คนดีแต่ฉัน..จะอยู่กับนาย ฉันอยากอยู่กับนาย”

ไม่มีคำพูดต่อจากนั้น มีเพียงความเงียบที่อบอวลอยู่ระหว่างทั้งคู่ลมทะเลพัดผ่าน เส้นผมของวันปลิวเบา ๆ ก่อนดีกันจะยกมือขึ้นเกลี่ยออกจากใบหน้าโน้มตัวเข้าใกล้ ช้าๆ ราวกับกลัวว่าถ้าขยับเร็วเกินไปสิ่งตรงหน้าจะหายไปในอากาศ

ริมฝีปากเย็นเชียบแตะกันแผ่วเบาขยับกดแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนอุณหภูมิอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ในตอนแรกว่างเปล่าหนาวเหน็บ จนได้สัมผัสมากเข้า มากเข้ากลับอบอุ่น อุ่น และอุ่นราวกับคลื่นลูกแรกที่ซัดแตะเท้าในฤดูร้อนก่อนจะค่อย ๆ ลึกขึ้น ไม่ใช่เพราะความต้องการแต่เพราะมันคือ ความรักที่บ่มเพาะอย่างถนุถนอมมาตลอด

เมื่อริมฝีปากแยกจากกัน วันหลุบสายตาลงเล็กน้อย “นายชอบตามใจฉัน บ้าชะมัด ฉันจะเสียคน” วันว่าเสียงแผ่วดีกันส่งยิ้มจาง ๆ พ่นลมหายใจออกช้า ๆ ก่อนจะยกมือแตะต้นคอของอีกฝ่าย แล้วโน้มลงจูบตอบอย่างลึกซึ้งครั้งนี้ไม่มีความลังเล มีแต่ความเงียบสงบที่เต็มไปด้วยความหมาย ใต้แสงจันทร์เหนือทะเล

“การ์ดอะไรวะไอ้ดี?”

แมนเดินเซแถดๆ เข้ามาเกาะหลังสามีตัวโตกลิ่นแอลกอฮอลลอยฟุ้งเข้ามาในห้องพักริมทะเลที่ลูกชายคนโตจองไว้ให้ สามีที่เริ่มสูงวัยแต่ภาพที่เห็นยังคงเป็นคนตัวโตอยู่เคียงข้างลูกๆ ทุกโอกาสเสมอ ไม่ว่าจะตอนท้อง ตอนคลอด ขึ้นอนุบาล ประถม มัธยมจนกระทั่ง..แต่งงาน เป็นคนที่ทำมากกว่าพูด เถรตรงไปหน่อยแต่..

“มานี่สิ” ดีตบปุบที่นั่งข้างๆ คนเมาจนหน้าแดงไถลกายปวกเปียกเอียงหัวซบซอกคออุ่นยกขาพาดตักสามีมองการ์ดในมืออย่างสงสัย

ขอบคุณครับคุณแมน ขอบคุณครับคุณดี

ขอบคุณที่เก็บผมเอาไว้ในวันที่ยังเรียนไม่จบ

ขอบคุณที่รักลูกในแบบของตัวเอง

ผมจะไม่ขอโทษแม่หรอกนะแม่ไถสมบัติครอบครัวเราไปมากแล้ว

กินเหล้าให้มันน้อยๆ หน่อย ถ้าแม่ตายแล้วผมอาจจะมีแม่ใหม่กับน้องต่างแม่อีกหนึ่งโขยง

ผมยังยืนยันคำเดิมนะว่าไม่อยากมีน้องต่างแม่ เพราะฉะนั้น..อย่าดื้อล่ะ

พ่อ…เลิกตามใจแม่ได้แล้ว คนแก่คนนั้นเสียนิสัยเพราะคุณนั่นแหละ เลิกสปอยเมียสักที

..

.

“ฮึ้กกก.. ฮืออออ.. ไอ้ดีลูกเรียกกูว่าแม่ด้วย แง๊งงงง ..เขาห่วงฉัน เขารักฉัน ฮืออออออ …กูไม่ต้องถูกเอาไปทิ้งที่บ้านพักคนชราแล้วใช่ม้าย~”

“ไอ้บ้า หึ หึ หึ”

.

.

รักพ่อกับแม่นะ

(วัน ลูกคนแรก)

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   ขอบคุณ

    "แมนทำหน้าดีๆ หน่อยลูกชายคนแรกของเรากำลังจะแต่งงานนะ"พ่อของลูกชายทั้งเจ็ดบีบแก้มคนหน้าบึ้งเบะปากมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวลูบผมลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้เต็มขั้น"แต่งได้ก็เลิกได้คิดว่าโรแมนติกมากมั้งถ่อมาไกลถึงทะเลลมก็แรงมีแต่กลิ่นเกลือใครมันเป็นคนเลือกสถาณที่เนี่ย สิ้นคิดชะมัด" แมนบ่นอุบสะบัดหน้าให้หลุดพ้นเงื้อมมือพ่อของลูก"พี่วันไงพี่วันชอบทะเล" ทูถือไอติมยื่นให้แม่กับพ่อพลางตอบคำถามตัวแม่ แมนหุบปากฉับย่นจมูกอย่างขัดใจแต่แอบเนียนงับไอศกรีมผัวเพราะอยากชิม"อ้าวไม่ใช่หมอนั่นเลือกเรอะ""เรียกลูกเขยให้มันเหมือนชาวบ้านหน่อย""เช๊อะ...ทะเลก็สวยดีดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นสิ""เปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าเลยนะ" ดีว่าให้เมียตัวร้ายที่เดินไปสมทบกับปู่ย่าตายายเพื่อหาเหล้าฟรีดื่มแสงสุดท้ายของวันทอดตัวเหนือผิวน้ำ กลืนเข้ากับท้องฟ้าสีทองอ่อนจนแทบมองไม่ออกว่าทะเลเริ่มตรงที่ใดลมเย็นพัดผ่านกลิ่นเค็มจาง ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ขาวที่ประดับเรียงรายตลอดทางเดิน ผืนผ้าสีงาช้างพลิ้วเบาอยู่เหนือพื้นทราย ทุกอย่างดูเรียบหรูมีรสนิยมบ่งบอกตัวตนความเป็นคนรวยของทั้งสองตระกูลได้เป็นอย่างดีเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   มึงรักกูมั้ยบ18+

    วันนี้ตัวแม่หมกมุ่นอย่างหนักกับคำว่ารักของลูกเขย เหมือนคนขี้อิจฉาผสมปนเปกับความไร้เดียงสาบวกกับความร้ายเดียงสาของแมนทำให้คนดีถามเมียขึ้น “มึงอายุเท่าไหร่นะไอ้แมน” “เอ่อ..น้องวันอายุเท่าไหร่น้า อ่าา..อื้มม?” เมียไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับตัวเลขได้ ไม่ว่าจะเลขอะไรยิ่งมีลูกเยอะก็จำวันเกิดสลับมั่วไปหมดแทบจะเป่าเค้กทุกเดือน “มึงแก่แล้ว” “เออแล้วไงตูดแก่ๆ จะมาเอาอะไรกับกู” “วุ่นวายไปหมดตั้งแต่เด็กยันแก่ กูไม่รู้ รักไหมไม่รู้แต่จะเอาถอดกางเกงเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเซเว่นอายุเท่าไหร่นะ?” “ถามทำไมอี้กมึงเป็นโรคความจำเสื่อมเร๊อะ!” “ก็กูสงสัยไอ้เด็กนั่นมันพูดออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน มันรู้สึกยังไงตอนพูดออกมา มันพูดจริงไหมหรือโกหกเก่ง แต่น้องวันบอกว่ามันดี โอยปวดหัว” “ทีเรื่องตัวเองไม่เห็นมึงจะคิดอะไรท้อง..แพ้ท้อง..แม่ด่า..พ่อไม่คุยด้วยไม่เห็นมึงจะเป็นอะไร” “ลูกรักของข้า น้องวันของข้า มหาสมบัติของข้า” “มึงบ้าไปแล้วไอ้แมน” “มึงสิบ้ากามถอดกางเกงกู” “สาดน้ำใส่สักทีสองทีมึงก็กลับมาร่าเริงเหมือนคนบ้าได้แล้ว” “กูไม่มีแรงมึงตอกมาเลยกูรับบทคนโดนข่มขืนเอง” “เอาหมอนปิดหน้ามึงไว้ได้มั้ยไม่อยากฟังมึงบ่

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   รักกูมั้ย

    ตึกดึกคืนนั้น เงาดำตะคุ่มๆ คืบคลานเข้ามายังหน้าห้องหนึ่งซึ่งปิดป้ายเตือนไว้ยาวเหยียด ห้องที่ชื่อ Daddy ฝรั่งจ๋ามาแต่ไกล บรรทัดต่อมาเตือนว่าให้เคาะห้องตามลำดับการเกิดพ่อจะได้รู้ว่าใครจะมาหาเรื่องอะไร คนที่รู้ว่าลูกแต่ละคนจะมีเรื่องคุยแบบไหนมาหาเพราะอะไรนี่มันช่างเป็นสุดยอดคุณพ่อเสียจริง แต่ร่างตรงหน้าประตูไม่ได้เคาะมันแต่อย่างใดกลับบิดเปิดเข้ามาแผ่วเบาคืบคลานขึ้นมาบนเตียงกว้างคลานคล่อมร่างกำยำไร้อาภรช่วงบนปกปิดอวดกล้ามเนื้อแน่นหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คุณพ่อเพียงหนึ่งเดียวในบ้านนอนหลับสนิทโดยไม่รู้เลยว่ามีภัยคุกคาามคืบคลานคล่อมร่างตนเองและจ้องเขม็งมายังวงหน้าหล่อเหลายามนิทรา สิ่งนั้นเปล่งเสียงท่ามกลางความมืดออกมาว่า! “ไอ้ดี” “..ว่า” ไม่ต้องลืมตาขึ้นมามองก็รู้ว่าใครที่เข้ามาห้องคนอื่นโดยพละการคลานขึ้นเตียงมาตัวขาวโพลน คนที่ไร้มารยาทที่สุดในบ้านและคาดหวังว่ามันจะดีไปกว่านี้ไม่ได้ อีเมียตัวดี “มึงรักกูมั้ย?” คำถามที่มาพร้อมความรู้สึกหยาบกร้านแสบสันไร้ความอ่อนโยนเหมือนกระดาษทรายเบอร์ 88 ทำเอาคนตัวโตขนลุกซู่จนต้องท้าวแขนผงกตัวขึ้นมาเปิดไฟหัวเตียงด้วยใบหน้านิ่งสนิทหรี่ตามองคนร่างควาย

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   คุณแมน

    ตอนแนะนำตัวกับครอบครัววันครั้งแรก ดีกันคิดว่าคงเป็นแค่ทักทายธรรมดาแต่ไม่… มันคือการเจอกองทัพทั้งเจ็ด…อย่างกับสโนว์ไวท์แน่ะเขายืนหน้าประตูบ้าน ยิ้มสุภาพเหมือนคนดูมีมารยาท ทันใดนั้น ฝูงน้อง ๆ ก็กรูเข้ามาเหมือนเจอดารา“สวัสดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีจ้าพี่ดี~!”“เฮลโหลวพี่กันดี เอ้ย ดีกัน!”“ไงพี่กัน!”“โย่วพี่ดีกัน!”เสียงทักดังรัวเหมือนยิงปืนกล“สวัสดีน้องๆ”ใช่ครับแฟนผมมีน้องพ่อแม่เดียวกันมากถึงหกคนรวมแฟนผมเป็นเจ็ดคน…เขากวาดตามองแถวเด็กที่ยืนเป็นระบบระเบียบกว่าทหารเกณฑ์ลูกดกขนาดนี้นี่คือบ้านหรือเครื่องถ่ายเอกสาร?“ลูกดกมาก…” ดีกันกระแอมห่างกันปี สองปี สามปี สูงไล่เลี่ยกันหมด…หน้าตาดีทั้งบ้าน เพราะพ่อแม่หน้าตาดีมากด้วย“ใครให้อินดีกว่านี้มั้ย…ตั้งใจปั๊มลูกอย่างมีระบบมากเลยนี่นา~”น้องซิกยกมือทันที “พ่อบอกว่าอยากครบสิบ!!”ดีกันช็อกจนแทบหยุดหายใจวันตบบ่าเขาเบา ๆดีกันหันมองคนข้างตัวช้า ๆ“…วันอยากมีลูกกับฉันแบบนี้ไหม”วันชะงักเแต่น้องๆ หัวเราะกร๊าก"อยู่บ้านกันหมดเลยเหรอ" ดีกันกวาดตามองรอบบ้านใหญ่ที่เต็มไปด้วยรองเท้ากองหน้าประตู เหมือนทุกคนในจังหวัดนัดกันมาที่นี่"ช่าย นี่

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   อยากเจอพ่อแม่

    (วัน) หลายปีผ่านไปครอบครัวของผมใหญ่ขึ้นเพราะน้องๆ โตขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้นแยกย้ายกันเรียนในสายที่ชอบแต่ไม่ไกลบ้านนัก ผมอยู่คอนโดลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลำพังเสียทีเดียว ก็คุณแมนไปอ้อนคุณยายให้ซื้ออีกห้องชั้นล่างสุดน่ะสิไม่รู้มีแผนอะไรชอบไปตีสนิทกับยามและแม่บ้าน ก็คงเล่นเป็นสายลับเหมือนเดิมเกิดเป็นลูกคนอย่างพ่อกับแม่ไม่ง่ายเลยนะเหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน หลายครั้งก็อยากจะดุด่าให้สำนึกจริงจังสักทีว่าทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ แต่พอโตขึ้นก็นึกขอบคุณที่เขาไม่ตามกระแสยังคงความเป็นตัวของตัวเองแบบมนุษย์ที่มีความแตกต่างได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่รู้สึกแบบนั้นเพราะส่วนหนึ่งเห็นครอบครัวคนรักอย่างดีกันเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตมากไปหน่อย ยามอยู่ห่างกันคนตัวโตทำท่าจะเป็นจะตายเพราะงานที่บ้านชวนให้อึดอัด พอกลับมาเจอก็อ้อนอยากกอดตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านให้ดีกันคอยพักพิงไปเสียแล้ว“เหนื่อยจังไม่อยากทำงานแล้ว”คนตัวสูงรูดเนคไทออกจากลำคอแกร่ง นักบาสคนเก่งกลายร่างเป็นนนักธุรกิจหนุ่มขึ้นทุกวัน ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อนคนอื่นมีแพลนเรียนต่อต่างประเทศเริ่มธุรกิจอย่างที่อยากทำ

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   วันจะไปอยู่คอนโด

    เสียงวันสวนกลับทันที พ่อแม่เงียบไปสามวินาทีก่อนระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน“อู้วว เสียดสีเหลือเกิ๊น” แมนยกมือกุมอกแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดพลางเอนพิงโซฟา “ไปนอนด้วยได้มั้ย เดี๋ยวเหงา”“ไม่เอาอ้ะ” วันพูดเสียงเนือยตัดบททันควัน “ให้อยู่กับคุณ เอาน้องห้าคนไปอยู่ด้วยดีกว่า”“อะไรอ้ะ~” แม่ทำเสียงสูงทันที ส่วนเจ้าแฝดเริ่มหัวเราะคิกคัก“ผมไปอาบน้ำนอนละ อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวน้องเลียนแบบ” วันพูดก่อนเดินขึ้นห้องไป“อะไรอ้าาาา~”เสียงแม่แมนลากยาวตามหลัง ส่วนพ่อดีก็หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ เหมือนจะบอกว่าบ้านนี้…เงียบได้สักวันคงปาฏิหาริย์แล้วล่ะ“มึงดูลูกสิ”แมนทำหน้ายู่ชี้นิ้วไปทางห้องลูกชายคนโตแตสามีเพียงยิ้มให้พลางเทน้ำส้มลงแก้ววางลงตรงหน้าคนท้อง “ดูทำไม ลูกจะเรียนจบมอหกแล้ว โตมาอย่างมีคุณภาพ อาจจะกดดันตัวเองมากไปหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้โดยไม่ทะเลาะกัน”“ใครจะกล้าทะเลาะด้วยวะ ดุจะตาย” แม่แมนหัวเราะในลำคอ นึกถึงสายตาคม ๆ ของลูกชายที่เหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิดดีหัวเราะเบา ๆ “ดีจริง ๆ มีลูกคนแรกมากำราบความดื้อด้านของตัวเองอีกที”“นี่กูคิดถูกไหมเนี่ย ที่ปล่อยให้มีลูกมากขนาดนี้” แมนพูดพร้อมยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบเหล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status