หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้จะมีทั้งหมด 2 ภาค สามีของตัวร้าย น่ารักเหมือนกันนะ (ภาค 1) ใครว่าจุดจบของตัวร้ายมีเพียงความตายเท่านั้น ผิดแล้ว... นี่คือเรื่องราวของตัวร้ายหลังถูกหย่าและพิพากษา จุดจบนั้นใช่ว่าจะเป็นความตายตามต้นฉบับเสมอไป เพราะเส้นทางของตัวร้ายต่อจากนี้ โรยด้วยกลีบกุหลาบหอมฟุ้ง อบอวลด้วยความสุข +++++ ลูกชายของตัวร้าย น่ารักที่สุดเลย (ภาค 2) รู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นเบบี้ตัวกลมแก้มยุ้ย แถมยังมีหม่าม๊าเป็นผู้ชาย ส่วนป่าป๊า…หล่อสู้คาร์ริสไม่ได้หรอก หม่าม๊าของคาร์ริสเป็นตัวร้ายในนิยายด้วยฮะ ถูกรังควานแทบไม่มีชีวิตส่วนตัว เบบี้น้อยน่ารักคนนี้เลยโตมากับลุงโบ้ ลุงโบ้ขี้อ้อนติดคาร์ริสมาก แต่ก็ถูกคนสวยหลอกเปย์บ่อยๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของลุง คาร์ริสต้องคอยสแกนคนสวยให้ลุงตลอด…สรุปใครเลี้ยงใคร!?
View More(ภาค 1)
บทที่ 1 เคานต์ปีศาจ
ซีเอล ลูกัสตาร์ แต่งงานกับสามีมาได้สามเดือนแล้ว
สามีของซีเอลชื่อว่า ไคล์เดน ฮิลล์ตัน มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงเคานต์แห่งเบอร์แรม ปกครองอาณาเขตทางตะวันตกของจักรวรรดิอันเดอร์นิซ
ไคล์เดนเป็นคนพูดน้อย เคร่งครึม รอยแผลเป็นที่พาดยาวตรงหางคิ้วด้านขวา...และที่มีอยู่เต็มตัว คือเกียรติยศอันน่าภาคภูมิใจของทหารที่กรำศึกอยู่ในสนามรบมานาน
ประมาณสามปีที่แล้ว กลุ่มป่าเถื่อนที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนของอาณาจักรเลอร์เวียรุกรานอาณาเขตของจักรวรรดิ ไคล์เดนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพ นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดนจนสำเร็จ ศึกครั้งนั้นไม่เพียงสร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลฮิลล์ตันและไคล์เดน ยังทำให้อาณาจักรอื่นๆ รับรู้ว่าจักรวรรดิอันเดอร์นิซมีสุดยอดกองทัพที่แข็งแกร่ง
แต่ถึงอย่างนั้น ขุนนางที่เป็นปรปักษ์กับตระกูลฮิลล์ตัน และไม่พอใจหน้าตาของไคล์เดนกลับตั้งฉายาให้ว่า เคานต์ปีศาจ
จริงอยู่ ไคล์เดนมีภาพลักษณ์เหมือนราชสีห์ นัยน์ตาสีอำพันเย็นชาน่ากลัวไม่ต่างจากสัตว์ร้าย แต่ภายในกลับซื่อตรง เอาใจใส่คนรอบข้าง แถมยังน่ารักมากๆ อีกด้วย
ซีเอลมองแผ่นหลังกว้างของสามีหลังจากเดินมาส่งถึงหน้าประตูคฤหาสน์ ทันใดนั้นชายหนุ่มชะงักฝีเท้า หันหลังขวับจนเสื้อคลุมตัวยาวสีดำสะบัดเสียงดังพึ่บ!
เหล่าสาวใช้ที่บังเอิญทำความสะอาดอยู่ตรงนี้ถึงกับสะดุ้งตกใจ บางคนตัวแข็งทื่อ
มีเพียงซีเอลเท่านั้นที่เอียงศีรษะมองสามีด้วยความสงสัย
ลืมอะไรหรือเปล่านะ?
ระหว่างซีเอลคิดอย่างนั้น ชายหนุ่มก้าวฉับๆ ตรงเข้ามาหา
หน้าตาที่บึ้งตึงตลอดเวลาชวนให้เหล่าคนรับใช้เข้าใจผิด
สาวใช้คนหนึ่งทำท่าจะเข้ามาช่วยซีเอล
ทว่า...
หมับ!
ไคล์เดนดึงซีเอลเข้ามากอดแนบแน่น สีหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม หัวคิ้วขมวดชนกันเหมือนโกรธใครสักคน
ด้วยความที่ซีเอลเป็นโอเมก้า ร่างกายจึงค่อนข้างเพรียวบางเมื่อเทียบกับผู้ชายวัยเดียวกัน
ไคล์เดนเป็นอัลฟ่า ถึงจะเป็นเลือดผสมระหว่างอัลฟ่ากับเบต้า หนำซ้ำมารดาของไคล์เดนยังเป็นเพียงสามัญชน แต่เพราะตระกูลฮิลล์ตันเป็นตระกูลนักรบ ไคล์เดนที่ฝึกฝนร่างกายมาตั้งแต่วัยเยาว์ ร่างกายจึงแข็งแกร่งกำยำ ตอนนี้จึงดูเหมือนว่าไคล์เดนพยายามใช้ร่างกายที่ใหญ่โตบีบอัดซีเอลให้แบนแต๊ดแต๋
ในสายตาของคนอื่น ซีเอลตอนอยู่ในอ้อมกอดของสามีไม่ต่างจากสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ตกเป็นเหยื่อ จึงทำให้บรรดาเหล่าคนรับใช้ต่างเป็นห่วงว่าซีเอลกำลังถูกสามีทรมานอยู่หรือไม่
แต่สำหรับซีเอลแล้ว อ้อมกอดของสามีอบอุ่นที่สุดเลย!
ซีเอลวาดวงแขนโอบกอดสามีด้วยรอยยิ้ม ทันใดนั้นร่างกายใหญ่โตของชายหนุ่มเกร็งขึ้นมานิดหนึ่ง
“ข้าจะไปทำงานแล้ว”
เสียงทุ้มต่ำดังข้างหู
ดวงตากลมโตสุกใสของซีเอลหยีโค้งมากกว่าเดิม
“ไปดีมาดีนะครับ”
ถึงจะบอกแบบนี้ แต่ใบหน้าเรียวเล็กยังคลอเคลียกับอ้อมอกกว้างอันแสนอบอุ่น เหมือนไม่อยากอยู่ห่าง
เสียงสูดหายใจดังขึ้นทีหนึ่ง ก่อนที่ไคล์เดนจะเป็นฝ่ายผละตัวออกไป วินาทีต่อมา ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงแตะจูบหน้าผากมน
จุ๊บ
“เมื่อกี้ลืมจูบก่อนออกห้อง” ชายหนุ่มบอกหน้าตาจริงจัง
หัวใจของซีเอลหวั่นไหวมากกว่าเดิม หน้าร้อนผ่าวๆ
แต่งงานกันมาสามเดือน แต่สามีก็ยังทำตัวน่ารักไม่เปลี่ยน
น่ารัก...
“ข้าต้องไปทำงานแล้ว”
ชายหนุ่มย้ำอีกครั้งเหมือนตัดใจไม่ลง หนำซ้ำนัยน์ตาสีเหลืองอำพันยังคงอ้อยอิ่งบนริมฝีปากแดงเรื่อของภรรยาหนุ่มอยู่นานสองนาน
ซีเอลพยักหน้าพร้อมกับลูบหน้าผากปอยๆ ตรงที่ถูกจูบเหมือนยังร้อนอยู่เลย
“นายท่านครับ วันนี้ท่านมีประชุมในราชวัง ประเดี๋ยวจะสายเอานะครับ”
ฟินน์ ทอร์บาส หัวหน้าพ่อบ้าน ติดตามรับใช้ไคล์เดนตั้งแต่ที่ชายหนุ่มเป็นเพียงคุณชายอยู่ในคฤหาสน์ดยุกฮิลล์ตัน ตอนกล่าวประโยคนั้นสีหน้าของฟินน์เรียบเรื่อย ไม่มีท่าทีหวั่นเกรงใดๆ
ชายหนุ่มตวัดสายตามองฟินน์ ถึงอย่างนั้นฟินน์ก็ยังทำหน้านิ่ง
ต่อมา ไคล์เดนหันมาบอกภรรยา “ข้าจะรีบกลับมา” แล้วหมุนตัวหันหลัง เดินออกประตูคฤหาสน์
หลังจากไคล์เดนก้าวออกจากคฤหาสน์แล้ว ซีเอลได้ยินเสียง “ฟู่ว...” เมื่อหันมองตามเสียงเหล่านั้น พบว่าเหล่าคนรับใช้ถอนหายใจพลางตบหน้าอกเบาๆ
ดวงตากลมโตสีฟ้าสดใสของซีเอลกะพริบปริบๆ อย่างไม่เข้าใจ
สามีของเขาออกจะน่ารัก หวาดกลัวอะไรกัน?
(ภาค 2) บทที่ 34เหตุผลที่มาเป็นพ่อบ้าน (2) คำพูดของหลานชาย ทำเอาคิ้วคมเลิกขึ้นเล็กน้อย ริคาร์โดก้มหน้าลงมองเจ้าตัวเล็กบนตัก (เด็กคนนี้ต้องชอบดาร์เรียนขนาดไหนถึงได้แก้ตัวแทน แต่ว่า...หลานของข้าฉลาดเสียจริง) ริคาร์โดคิดอย่างภูมิใจ แต่ภายนอกต้องแสร้งทำหน้านิ่งขรึมขณะสอบสวนหลานชาย “คาร์ริสยกอาหารให้ดาร์เรียนไปเหรอ” เด็กน้อยพยักหน้าแรง “อื้อ” ริคาร์โดเกือบหลุดขำออกมา แต่สักครู่สั้นๆ ชายหนุ่มก็สาดสายตามองดาร์เรียน เอ่ยอย่างคาดเดาพร้อมกับตั้งคำถาม “บ้านเด็กกำพร้าที่ตระกูลเทรย์เวอร์ดูแลก็อยู่ในอาณาเขตกอร์เลต ภายใต้การปกครองของมาร์ควิสลีวาน ทำไมบารอนคาร์สันไม่เขียนรายงานส่งมาเลย พวกเจ้ากำลังคิดว่าตระกูลลูกัสตาร์อยู่เบื้องหลังการงบประมาณหรือยังไง อีกอย่าง ถ้าแค่เรื่องงบประมาณบ้านกำพร้า ไม่น่าลำบากถึงขั้นต้องกู้ยืมเงินจากกลุ่มการเงินนอกระบบ พวกเจ้ายังมีเหตุผลอื่นด้วยหรือเปล่า” ได้ยินแบบนี้ ดาร์เรียนอดนับถือความฉลาดของริคาร์โดไม่ได้ แต่...ฉลาดก็ส่วนฉลาด ปัญหาของตระกู
(ภาค 2) บทที่ 33เหตุผลที่มาเป็นพ่อบ้าน (1) พอสนใจคนคนหนึ่ง สายตาก็จะเฝ้าวนเวียนมองหาเพียงคนคนนั้น ตอนกำลังพักสายตาจากกองเอกสาร บังเอิญริคาร์โดเห็นทั้งสามอยู่ในสวนหลังคฤหาสน์จากหน้าต่างชั้นสองพอดี จึงยืนมองต่ออีกสักพัก ทันใดนั้น หลังต้นไม้ปรากฎเงาของผู้บุกรุก ริคาร์โดออกคำสั่งกับลอร์ฟ ส่งอัศวินให้เข้าไปดูลาดเลาพร้อมกับปกป้องคาร์ริส ลอร์ฟทำงานอย่างรวดเร็ว เพียงเดี๋ยวเดียว ริคาร์โดก็เห็นอัศวินเข้าไปซุ่มซ่อนหลังพุ่มไม้ใกล้ๆ จุดปิกนิก แต่ทุกอย่างก็จบลงอย่างรวดเร็วหลังจากดาร์เรียนลุกขึ้นไปหาชายคนนั้น ริคาร์โดสาบานเลยว่า เขาแค่กะพริบตาสองสามครั้ง ชายคนนั้นก็ถูกดาร์เรียนล็อกคอซะแล้ว ดาร์เรียนเป็นโอเมก้าจริงแท้แน่นอน แถมลักษณะภายนอกยังนุ่มนิ่มใจดี แต่ว่า เก่งการต่อสู้ด้วยเหรอ!? พอเห็นแบบนี้ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวริคาร์โด ดีจริง ที่ค่ำคืนนั้นระหว่างพวกเขาเป็นไปด้วยความยินยอม ไม่อย่างนั้น... ชายหนุ่มหยุดความคิดแล้วก้มหน้ามองเป้าตัวเอง เพียงคิดก็สะท้านแล
(ภาค 2) บทที่ 32ผู้บุกรุก (2) แม้วิญญาณจะอยู่ในวัยสิบกว่าๆ แต่ร่างกายเป็นแค่เด็กสองขวบ ร่างกายไม่สอดคล้องวิญญาณ บวกกับอากาศดี สายลมพัดสบาย มันก็ต้องง่วงน่ะสิ! คาร์ริสคิดเข้าข้างตัวเอง ขณะขดตัวนอนหนุนตักดาร์เรียน ดาร์เรียนหยิบคุกกี้ที่คาร์ริสยังถือคามือเก็บลงบนจาน ก่อนจะประคองศีรษะเล็กๆ ขึ้นหนุนตักของตนดีๆ สวนอันกว้างขวางแห่งนี้ นอกจากสนามหญ้าสีเขียวสด ยังมีทั้งต้นไม้ใหญ่และพืชที่เป็นพุ่มเตี้ย ซุ้มกุหลาบ บ่อน้ำพุ ทั้งร่มรื่นและสวยงามอย่างลงตัว จังหวะที่ดาร์เรียนนั่งมองต้นไม้ใหญ่น้อยรอบๆ ด้วยจิตใจผ่อนคลาย เสียงแหบของชายวัยสามสิบดังมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ ไม่ไกลจากจุดปิกนิก “คุณชายดาร์เรียนได้งานดีเลยนี่ งั้นดอกเบี้ยเดือนนี้คงส่งมากหน่อยใช่ไหม” ถึงคนพูดไม่เปิดเผยตัว หากคำพูดที่เอ่ยออกมาก็ทำให้รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร ...กลุ่มการเงินอัลเดริก! ดาร์เรียนใจหายวูบ เพราะไม่คิดว่าจะถูกเจอตัวเร็ว มิหนำซ้ำ กลุ่มเจ้าหนี้ยังกล้าส่งคนเข้ามาในคฤหาสน์ของท่านมาร์ควิส! ถึงอย่างนั้น ดาร์เ
(ภาค 2) บทที่ 31ผู้บุกรุก (1) พอนับรวมกับเรื่องเมื่อคืน ตอนนี้ความสนใจของคาร์ริสที่มีต่อดาร์เรียนเพิ่มมากกว่าเดิม ทว่า... ไม่ใช่การจ้องจับผิด คาร์ริสอยากรู้ว่าทำไมบ้านเด็กกำพร้าที่บารอนคาร์สันคอยดูแลถึงได้ขาดแคลนอาหาร เช้าวันต่อมา ทุกอย่างเป็นปกติเหมือนเดิม ดาร์เรียนกับลูน่าเข้ามาในห้อง ทั้งสองช่วยกันแต่งตัวให้กับเจ้าตัวจิ๋ว หลังจากคาร์ริสตื่นเต็มตา จมูกน้อยๆ ก็ได้กลิ่นหอมลอยมาจากดาร์เรียน เป็นกลิ่นของเนยผสมนมและแป้ง “หอมจัง” พอเด็กน้อยเอ่ยขึ้น ลูน่าก็ทำจมูกฟุดฟิด ก่อนจะร้องขึ้นเช่นกัน “จริงด้วยค่ะ กลิ่นหอมๆ แบบนี้...คุกกี้หรือเปล่าคะ” “ยูน่า” คาร์ริสเรียกสาวใช้พร้อมกับกางสองแขน ลูน่าก้มตัวลง สอดมือใต้อกแล้วอุ้มเด็กน้อยลงจากเก้าอี้ เจ้าตัวเล็กเดินเข้าไปด้อมๆ มองๆ รอบตัวดาร์เรียน เมื่อเดินอ้อมมาข้างหลังก็พบว่าในมือของดาร์เรียนถือถุงใบหนึ่ง ในนั้นมีคุกกี้หน้าตาน่าอร่อย เห็นแบบนี้เสียงเล็กน่ารักก็โพลงออกมา “เจอแย้ว!”
(ภาค 2) บทที่ 30ความจำเป็นของดาร์เรียนลมร้อนพัดมาเป็นระยะ นอกจากเป็นสัญญาณว่าเข้าสู่ต้นฤดูร้อน เผลอแป๊บเดียว ดาร์เรียนก็ทำหน้าเป็นพ่อบ้านส่วนตัวของคาร์ริสร่วมสองเดือนแล้ว ค่ำคืนเงียบสงัด บนเตียงกว้างแสนนุ่มเต็มไปด้วยตุ๊กตา เด็กชายตัวน้อยนอนพลิกซ้ายทีขวาที ทันใดนั้นดวงตาคู่หนึ่งก็เปิดโพลงปวดฉิ้งฉ่อง...!ภายนอกเป็นเด็กสองขวบ แต่จิตวิญญาณข้างในคือเด็กนักเรียนมัธยมปลาย ต่อให้เด็กวัยนี้จะปัสสาวะรดที่นอนก็ไม่มีใครต่อว่า หากลึกๆ เขากลับรู้สึกกระดากใจ พอคิดถึงเรื่องนี้ ความรู้สึกตอนปล่อยรดใส่ผ้าอ้อมสมัยแบเบาะก็หวนเข้ามาในความทรงจำ ตอนนั้นลุกไปไหนมาไหนเองไม่ได้ แถมยุคนี้ไม่มีผ้าอ้อมสำเร็จรูปดูดซับของเหลว เขาปวดจนทนไม่ไหว เลยต้องปล่อยออกมาอย่างจนใจ ทุกครั้งที่ปล่อยหนักปล่อยเบา ศักดิ์ศรีของเขาเหมือนถูกทำลาย เพราะอย่างนั้น พอปล่อยออกมาแล้วเขามักจะร้องไห้โยเย เมื่อเข้าสองขวบ เขาก็ตั้งมั่นว่าจะไม่ปล่อยรดใส่ที่นอนอีก จึงบอกลูน่าให้เปิดประตูแง้มๆ ไว้ พอปวดกลางดึกจะได้ลุกไปเข้าห้องน้ำเองคาร์ริสในชุดนอนหมีลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตาหนึ่งที ทั้งตบแก้มนุ่มยุ้ยอีกสองที ปลุกตัวเองให้ตื่นเต็มตาเสร็จแล้วก็ไต
(ภาค 2) บทที่ 29ริคาร์โดน่าสงสัยเช้าตรู่ของวันถัดมา หลังได้รับหน้าที่พ่อบ้านประจำตัวคุณชายน้อย ดาร์เรียนก็ฟังลูน่าอธิบายเกี่ยวกับหน้าที่ก่อนเริ่มงานจริงคุณชายน้อยซุกซน แต่มีไหวพริบอย่างไม่น่าเชื่อคุณชายน้อยไม่ชอบให้พูดถึงท่านไคล์เดน ตรงนี้ลูน่าเสริมว่า ‘ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ชอบให้พูดถึงท่านพ่อนะคะคุณชายน้อยชอบของแวววาว ชอบทานเค้กช็อกโกแลต ไม่ชอบของที่มีรสชาติเปรี้ยว...ลูน่าอธิบายยาวเหยียดนานเป็นชั่วโมง ตอนท้ายยังย้ำว่ามื้อเช้ากับมื้อเย็นต้องพาคุณชายน้อยมาร่วมโต๊ะทานอาหารกับท่านริคาร์โด ห้ามพลาดไปสักมื้ออย่างเด็ดขาดเมื่ออธิบายจบ ลูน่าก็เหลือบมองนาฬิกาแขวนผนังก่อนบอกว่า “ถึงเวลาที่ต้องทำงานแล้วค่ะ” จากนั้นก็เดินนำดาร์เรียนมาห้องของคุณชายน้อยลูน่าเข้ามาปลุกเด็กน้อยที่กำลังนอนน้ำลายยืดดาร์เรียนเตรียมน้ำสำหรับเช็ดหน้ากับเลือกชุดไว้ผลัดเปลี่ยนทั้งสองทำหน้าที่อย่างขันแข็ง ดาร์เรียนเช็ดคราบน้ำลายบนแก้มยุ้ยๆ ขณะที่เจ้าตัวเล็กยืนงัวเงีย กางแขน ยกขา ปล่อยให้ลูน่าแต่งตัว ผ่านไปสักพัก เด็กน้อยก็ตื่นตา ดวงตาบ๊องแบ๊วไร้เดียงสาจ้องมองดาร์เรียน พ่อบ้านคนสวยจึงย่อตัวลงตรงหน้าคาร์ร
Comments