Masuk“ลูกจะขึ้นมัธยมแล้วกูไม่อยากให้เหมือนเรา อย่างน้องวันเนี่ย..ไทป์ไหนวะ จะชอบคนแบบไหน เท่ๆ หรือน่ารัก ลูกชายคนแรกต้องเป็นผัวใช่ไหม ถ้าเป็นผัวก็ต้องชอบเปย์ ถ้าคนที่ลูกคบหวังจะปอกลอกลูกเราล่ะ ขนาดกูยังไม่ได้ใช้ทรัพย์สมบัติพ่อแม่กูเลย จะให้คนอื่นมาใช้ส่วนนั้นไม่ได้!"
"มึงนี่มัน..กวนตีนไม่เปลี่ยน มึงกับกูเป็นลูกชายคนเดียว ตัวโตเหมือนกัน เป็นนักเลงบ้านรวยเหมือนกัน ยังมีอะไรกันจนท้องได้เลย ห้ามคนเอากันมันไม่ง่ายนะไอ้แมน ไม่รักกันยังเอากันได้ แล้วถ้าลูกรักคนคนนั้นมึงจะหยุดฮอร์โมนวัยรุ่นนั่นยังไง ” “ถ้าลูกถูกหลอกให้รักล่ะ มึงไม่ห่วงลูกเหรอ กูกับมึงยังดีที่พ่อแม่รวยบริหารเงินเก่ง แต่ถ้าคนที่ลูกชอบหวังจะมาผลาญเงินทองของลูก ผลาญโอกาสของลูกเราล่ะ กูไม่ยอมให้ใครมาทำให้ลูกต้องตกต่ำย่ำแย่แน่ ต้นทุนของลูกกูต้องเป็นอนาคตอันสดใสของลูกกูเท่านั้น!!” “ดีดอะไรมา โคล่าเหรอ กูไม่ให้เงินมึง อยากได้ก็ไปทำงานหาเงินเอาเองสิ” “กูทำอะไรไม่เป็น” “แม่กูบอกว่าโรงเรียนมัธยมที่จะส่งน้องวันเข้าเรียนมีคาเฟ่ที่แม่ซื้อไว้ด้วยล่ะ” “แล้วไงวะ?” “ตรงข้ามกับหน้าโรงเรียนเลยเห็นนักเรียนเดินเข้าเดินออกตลอด” “นี่มึงหมายความว่า..” “ทำงานมะ” “กูไม่อยากทำคนเดียว” “กูจะทำด้วย” “ไม่ไหวหรอกอยู่ด้วยกันตีกันตาย” “กูไม่อยู่ข้างในกูจะตีป้อมในป้อมยาม” “อืม..ก็ดี ทำไมวันนี้มึงดูฉลาดวะ?” “กูเป็นคุณพ่อลูกสามไง กูไม่เคยหาเงินเองมาตลอด 26 ปีแต่สองปีมานี้กูมีเงินซื้อของเข้าบ้านซื้อนั่นซื้อนี่ให้ลูกแล้วก็ให้มึง กูความรู้สึกเร็วกว่ามึงนะไอ้แมนกูว่าลูกคนโตของเราโตเร็วกว่าเราเยอะเลย เราไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวลูกแต่ดูเหมือนน้องวันจะไม่เหมือนเรา ลูกกำลังคาดหวังในตัวเองอยู่..” ** วันต่อมา "มึง..กูไปแอบส่องโซเชียลลูกมา~" "มึงนี่มันหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ แล้ว..เจออะไรมะ" "ไอ้ป๊อดต้องรอให้กูเปิดก่อนตลอด ดูนี่! เด็กสมัยนี้ไม่ชอบถ่ายหน้ากันถ่ายแต่มือกับขาถ่ายวิวหมูหมากาไก่แต่มึงดูนี่! หมอนี่มากดไลค์ในไอจีให้น้องวันตลอด ลูกเราถ่ายรองเท้าก็ยังมากดไลค์ นี่ด้วยในต๊อกแต๊ก ไอจี เอ็กซ์ ห่าเหวโซเชียลมาหมดมึงว่ามันทะแม่งปะ?" แมนกระโดดทิ้งตัวบนโซฟาวางขาสองข้างพาดตักของดียื่นมือถือที่มี่มีชื่อลูกชายวัยแรกรุ่นเล่นโซเชียล..ไม่มีรูปหน้าลูกซักรูป หน้าตาดีทำไมไม่อวด? "ไม่รู้สิปกติของเพื่อนสนิทมั้ง" "สนิทบ้าอะไรอยู่คนละโรงเรียน มันเรียนอินเตอร์ที่ค่าเรียนแพงที่สุดด้วย ดีนะที่แม่กูเลือกโรงเรียนนี้ไม่ไปโรงเรียนนั้นไม่งั้นต้องสนิทกันตั้งแต่อนุบาลรักกันตอนปอหนึ่งและอาจจะมีอะไรกันตอนปอสาม โอ้ มาย ก้อด! ไม่อยากจะคิดถ้ามีลูกกันตอนปอห้า กูต้องเป็นคุณยายทั้งที่อายุไม่ถึงสามสิบ โอยจะเป็นลม" "เพ้อเจ้อ มึงมันฟุ้งซ่าน" "ไม่ได้ดิต้องส่องให้ถึงที่สุด พ่อแม่เป็นใครมาจากไหนทำงานอะไรคู่ควรกับบ้านเราหรือเปล่า" "คนเรียนโรงเรียนระดับนั้นจะไม่คู่ควรกับใครได้ มีแค่มึงนั่นแหละที่ไม่คู่ควรกับใครเขา" "ไอ้ดีกูมีทะเบียนสมรสอย่าขัดกู" "ทะเบียนสมรสบ้านมึงใช้กันผีได้ด้วยไหมกูจะได้เอาไปแปะหน้าประตู" "จิ๊! ..นี่ไงเจอแล้วบริษัทซุปเปอร์ดีนำเข้าสินค้าลักชูทุกแบรนด์ นี่เหรอรูปครอบครัวไอ้เด็กนั่นตัวสูงซะไม่มี เอ๊ะ หล่อ ดูหล่อภูมิฐานนะไม่น่ารักหรอกเหรอ เรียนชั้นไหนวะ ...อ้อปอหก พ่อแม่อายุ 35 ห่างกับเราเยอะเหมือนกันแฮะ นี่มันร่างหนากับร่างบางในนิยายหรือไง ดูแม่เด็กนี่สิตัวบางเฉียบแขนขาเล็กซะไม่มี ผิวขาวเรืองแสงขนาดนี้คงเข้าคลินิกศัลยกรรมทุกวันเลยสิท่า คนผัวก็ใส่สูทซะอย่างกับพนักงานขายประกัน จำเป็นต้องยิ้มหล่อละลายขนาดนั้นไหม เฟค เฟค เฟค ไม่เห็นจะน่าเกี่ยวดองด้วยเลย กูไม่ชอบ" "ถ้าลูกชอบล่ะ?" "ไอ้ดีหุบปากไปเลย กูไม่ชอบขี้หน้าคนบ้านนี้!" "มึงเหมือนแม่ยายกูเลย ด่ากูจะตายห่าสุดท้ายก็ได้ลูกเขยเป็นกูอยู่ดี คลั่งรักเสปิร์มของกูอีกต่างหาก" "อย่าพูดนะ กูไม่อยากเป็นแบบแม่" "มึงอาการหนักนะหาหมอไหม?" "หมอไหนวะตอนนี้กูฟุ้งซ่านมากเลยเนี่ย หน้ามืด ตาลาย คล้ายจะเป็นลม อยากแดกเหล้าด้วยแต่ไม่มีตัง" "หมอผี" "สัตว์!!" ."แมนทำหน้าดีๆ หน่อยลูกชายคนแรกของเรากำลังจะแต่งงานนะ"พ่อของลูกชายทั้งเจ็ดบีบแก้มคนหน้าบึ้งเบะปากมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวลูบผมลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้เต็มขั้น"แต่งได้ก็เลิกได้คิดว่าโรแมนติกมากมั้งถ่อมาไกลถึงทะเลลมก็แรงมีแต่กลิ่นเกลือใครมันเป็นคนเลือกสถาณที่เนี่ย สิ้นคิดชะมัด" แมนบ่นอุบสะบัดหน้าให้หลุดพ้นเงื้อมมือพ่อของลูก"พี่วันไงพี่วันชอบทะเล" ทูถือไอติมยื่นให้แม่กับพ่อพลางตอบคำถามตัวแม่ แมนหุบปากฉับย่นจมูกอย่างขัดใจแต่แอบเนียนงับไอศกรีมผัวเพราะอยากชิม"อ้าวไม่ใช่หมอนั่นเลือกเรอะ""เรียกลูกเขยให้มันเหมือนชาวบ้านหน่อย""เช๊อะ...ทะเลก็สวยดีดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นสิ""เปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าเลยนะ" ดีว่าให้เมียตัวร้ายที่เดินไปสมทบกับปู่ย่าตายายเพื่อหาเหล้าฟรีดื่มแสงสุดท้ายของวันทอดตัวเหนือผิวน้ำ กลืนเข้ากับท้องฟ้าสีทองอ่อนจนแทบมองไม่ออกว่าทะเลเริ่มตรงที่ใดลมเย็นพัดผ่านกลิ่นเค็มจาง ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ขาวที่ประดับเรียงรายตลอดทางเดิน ผืนผ้าสีงาช้างพลิ้วเบาอยู่เหนือพื้นทราย ทุกอย่างดูเรียบหรูมีรสนิยมบ่งบอกตัวตนความเป็นคนรวยของทั้งสองตระกูลได้เป็นอย่างดีเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ
วันนี้ตัวแม่หมกมุ่นอย่างหนักกับคำว่ารักของลูกเขย เหมือนคนขี้อิจฉาผสมปนเปกับความไร้เดียงสาบวกกับความร้ายเดียงสาของแมนทำให้คนดีถามเมียขึ้น “มึงอายุเท่าไหร่นะไอ้แมน” “เอ่อ..น้องวันอายุเท่าไหร่น้า อ่าา..อื้มม?” เมียไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับตัวเลขได้ ไม่ว่าจะเลขอะไรยิ่งมีลูกเยอะก็จำวันเกิดสลับมั่วไปหมดแทบจะเป่าเค้กทุกเดือน “มึงแก่แล้ว” “เออแล้วไงตูดแก่ๆ จะมาเอาอะไรกับกู” “วุ่นวายไปหมดตั้งแต่เด็กยันแก่ กูไม่รู้ รักไหมไม่รู้แต่จะเอาถอดกางเกงเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเซเว่นอายุเท่าไหร่นะ?” “ถามทำไมอี้กมึงเป็นโรคความจำเสื่อมเร๊อะ!” “ก็กูสงสัยไอ้เด็กนั่นมันพูดออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน มันรู้สึกยังไงตอนพูดออกมา มันพูดจริงไหมหรือโกหกเก่ง แต่น้องวันบอกว่ามันดี โอยปวดหัว” “ทีเรื่องตัวเองไม่เห็นมึงจะคิดอะไรท้อง..แพ้ท้อง..แม่ด่า..พ่อไม่คุยด้วยไม่เห็นมึงจะเป็นอะไร” “ลูกรักของข้า น้องวันของข้า มหาสมบัติของข้า” “มึงบ้าไปแล้วไอ้แมน” “มึงสิบ้ากามถอดกางเกงกู” “สาดน้ำใส่สักทีสองทีมึงก็กลับมาร่าเริงเหมือนคนบ้าได้แล้ว” “กูไม่มีแรงมึงตอกมาเลยกูรับบทคนโดนข่มขืนเอง” “เอาหมอนปิดหน้ามึงไว้ได้มั้ยไม่อยากฟังมึงบ่
ตึกดึกคืนนั้น เงาดำตะคุ่มๆ คืบคลานเข้ามายังหน้าห้องหนึ่งซึ่งปิดป้ายเตือนไว้ยาวเหยียด ห้องที่ชื่อ Daddy ฝรั่งจ๋ามาแต่ไกล บรรทัดต่อมาเตือนว่าให้เคาะห้องตามลำดับการเกิดพ่อจะได้รู้ว่าใครจะมาหาเรื่องอะไร คนที่รู้ว่าลูกแต่ละคนจะมีเรื่องคุยแบบไหนมาหาเพราะอะไรนี่มันช่างเป็นสุดยอดคุณพ่อเสียจริง แต่ร่างตรงหน้าประตูไม่ได้เคาะมันแต่อย่างใดกลับบิดเปิดเข้ามาแผ่วเบาคืบคลานขึ้นมาบนเตียงกว้างคลานคล่อมร่างกำยำไร้อาภรช่วงบนปกปิดอวดกล้ามเนื้อแน่นหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คุณพ่อเพียงหนึ่งเดียวในบ้านนอนหลับสนิทโดยไม่รู้เลยว่ามีภัยคุกคาามคืบคลานคล่อมร่างตนเองและจ้องเขม็งมายังวงหน้าหล่อเหลายามนิทรา สิ่งนั้นเปล่งเสียงท่ามกลางความมืดออกมาว่า! “ไอ้ดี” “..ว่า” ไม่ต้องลืมตาขึ้นมามองก็รู้ว่าใครที่เข้ามาห้องคนอื่นโดยพละการคลานขึ้นเตียงมาตัวขาวโพลน คนที่ไร้มารยาทที่สุดในบ้านและคาดหวังว่ามันจะดีไปกว่านี้ไม่ได้ อีเมียตัวดี “มึงรักกูมั้ย?” คำถามที่มาพร้อมความรู้สึกหยาบกร้านแสบสันไร้ความอ่อนโยนเหมือนกระดาษทรายเบอร์ 88 ทำเอาคนตัวโตขนลุกซู่จนต้องท้าวแขนผงกตัวขึ้นมาเปิดไฟหัวเตียงด้วยใบหน้านิ่งสนิทหรี่ตามองคนร่างควาย
ตอนแนะนำตัวกับครอบครัววันครั้งแรก ดีกันคิดว่าคงเป็นแค่ทักทายธรรมดาแต่ไม่… มันคือการเจอกองทัพทั้งเจ็ด…อย่างกับสโนว์ไวท์แน่ะเขายืนหน้าประตูบ้าน ยิ้มสุภาพเหมือนคนดูมีมารยาท ทันใดนั้น ฝูงน้อง ๆ ก็กรูเข้ามาเหมือนเจอดารา“สวัสดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีจ้าพี่ดี~!”“เฮลโหลวพี่กันดี เอ้ย ดีกัน!”“ไงพี่กัน!”“โย่วพี่ดีกัน!”เสียงทักดังรัวเหมือนยิงปืนกล“สวัสดีน้องๆ”ใช่ครับแฟนผมมีน้องพ่อแม่เดียวกันมากถึงหกคนรวมแฟนผมเป็นเจ็ดคน…เขากวาดตามองแถวเด็กที่ยืนเป็นระบบระเบียบกว่าทหารเกณฑ์ลูกดกขนาดนี้นี่คือบ้านหรือเครื่องถ่ายเอกสาร?“ลูกดกมาก…” ดีกันกระแอมห่างกันปี สองปี สามปี สูงไล่เลี่ยกันหมด…หน้าตาดีทั้งบ้าน เพราะพ่อแม่หน้าตาดีมากด้วย“ใครให้อินดีกว่านี้มั้ย…ตั้งใจปั๊มลูกอย่างมีระบบมากเลยนี่นา~”น้องซิกยกมือทันที “พ่อบอกว่าอยากครบสิบ!!”ดีกันช็อกจนแทบหยุดหายใจวันตบบ่าเขาเบา ๆดีกันหันมองคนข้างตัวช้า ๆ“…วันอยากมีลูกกับฉันแบบนี้ไหม”วันชะงักเแต่น้องๆ หัวเราะกร๊าก"อยู่บ้านกันหมดเลยเหรอ" ดีกันกวาดตามองรอบบ้านใหญ่ที่เต็มไปด้วยรองเท้ากองหน้าประตู เหมือนทุกคนในจังหวัดนัดกันมาที่นี่"ช่าย นี่
(วัน) หลายปีผ่านไปครอบครัวของผมใหญ่ขึ้นเพราะน้องๆ โตขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้นแยกย้ายกันเรียนในสายที่ชอบแต่ไม่ไกลบ้านนัก ผมอยู่คอนโดลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลำพังเสียทีเดียว ก็คุณแมนไปอ้อนคุณยายให้ซื้ออีกห้องชั้นล่างสุดน่ะสิไม่รู้มีแผนอะไรชอบไปตีสนิทกับยามและแม่บ้าน ก็คงเล่นเป็นสายลับเหมือนเดิมเกิดเป็นลูกคนอย่างพ่อกับแม่ไม่ง่ายเลยนะเหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน หลายครั้งก็อยากจะดุด่าให้สำนึกจริงจังสักทีว่าทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ แต่พอโตขึ้นก็นึกขอบคุณที่เขาไม่ตามกระแสยังคงความเป็นตัวของตัวเองแบบมนุษย์ที่มีความแตกต่างได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่รู้สึกแบบนั้นเพราะส่วนหนึ่งเห็นครอบครัวคนรักอย่างดีกันเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตมากไปหน่อย ยามอยู่ห่างกันคนตัวโตทำท่าจะเป็นจะตายเพราะงานที่บ้านชวนให้อึดอัด พอกลับมาเจอก็อ้อนอยากกอดตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านให้ดีกันคอยพักพิงไปเสียแล้ว“เหนื่อยจังไม่อยากทำงานแล้ว”คนตัวสูงรูดเนคไทออกจากลำคอแกร่ง นักบาสคนเก่งกลายร่างเป็นนนักธุรกิจหนุ่มขึ้นทุกวัน ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อนคนอื่นมีแพลนเรียนต่อต่างประเทศเริ่มธุรกิจอย่างที่อยากทำ
เสียงวันสวนกลับทันที พ่อแม่เงียบไปสามวินาทีก่อนระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน“อู้วว เสียดสีเหลือเกิ๊น” แมนยกมือกุมอกแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดพลางเอนพิงโซฟา “ไปนอนด้วยได้มั้ย เดี๋ยวเหงา”“ไม่เอาอ้ะ” วันพูดเสียงเนือยตัดบททันควัน “ให้อยู่กับคุณ เอาน้องห้าคนไปอยู่ด้วยดีกว่า”“อะไรอ้ะ~” แม่ทำเสียงสูงทันที ส่วนเจ้าแฝดเริ่มหัวเราะคิกคัก“ผมไปอาบน้ำนอนละ อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวน้องเลียนแบบ” วันพูดก่อนเดินขึ้นห้องไป“อะไรอ้าาาา~”เสียงแม่แมนลากยาวตามหลัง ส่วนพ่อดีก็หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ เหมือนจะบอกว่าบ้านนี้…เงียบได้สักวันคงปาฏิหาริย์แล้วล่ะ“มึงดูลูกสิ”แมนทำหน้ายู่ชี้นิ้วไปทางห้องลูกชายคนโตแตสามีเพียงยิ้มให้พลางเทน้ำส้มลงแก้ววางลงตรงหน้าคนท้อง “ดูทำไม ลูกจะเรียนจบมอหกแล้ว โตมาอย่างมีคุณภาพ อาจจะกดดันตัวเองมากไปหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้โดยไม่ทะเลาะกัน”“ใครจะกล้าทะเลาะด้วยวะ ดุจะตาย” แม่แมนหัวเราะในลำคอ นึกถึงสายตาคม ๆ ของลูกชายที่เหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิดดีหัวเราะเบา ๆ “ดีจริง ๆ มีลูกคนแรกมากำราบความดื้อด้านของตัวเองอีกที”“นี่กูคิดถูกไหมเนี่ย ที่ปล่อยให้มีลูกมากขนาดนี้” แมนพูดพร้อมยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบเหล





![เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรีส์วายเรื่องหนึ่ง [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

