LOGIN“ฉันไม่เคยให้ความหวังเธอ มีแต่เธอที่คาดหวังไปเอง” นั่นคือคำพูดของเขา คนที่อยู่ด้วยกันมาเกือบสองปี “ครับ พลับผิดเองที่หวังมากไป”
View More“เค้กครับคุณเคน น่านให้เอามาให้”
จานขนมเค้กที่ถูกแบ่งมาส่วนหนึ่งยื่นมาตรงหน้า ก่อนเจ้าของชื่อจะช้อนตาขึ้นมองเด็กตรงหน้าที่อายุห่างกันเพียงปีเดียว อีกทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทของพี่สะใภ้
ใบหน้าหวานเรียบนิ่งจ้องมองกันตาไม่กะพริบ รอให้ลูกชายคนกลางของตระกูล วิรุฬห์โยธิน รับจานเค้กในมือไปเสียที
ทว่านอกจากยอมรับไปแล้วยังเบือนหน้าหนีไม่สนใจกันอีก เฮอะ! ไอ้คนไม่มีมารยาท ทั้งที่อายุตั้งยี่สิบเจ็ดแล้ว แต่ยังทำตัวแบบนี้อยู่อีก
ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงตอนนี้ก็หกปีแล้วแม้จะไม่ได้เจอกันบ่อยนัก แต่วันแรกเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น ไร้มารยาทเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะน่านน้ำเขาไม่มีทางมายืนอยู่ตรงหน้าผู้ชายคนนี้แน่นอน หน้าตาก็ดีแต่กลับทำตัวผิดพี่ผิดน้อง นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว ที่เห็นก็มีแต่คนกลางที่ทำตัวไร้มารยาทกับคนอื่น เรียกได้ว่าไม่ให้ความสนใจกับใครเลย
ทั้งที่วันนี้เป็นวันเกิดมีคุณหลานชายตัวเองแท้ ๆ ทว่ากลับมานั่งอยู่คนเดียวหลังจากเป่าเค้กเสร็จ ไม่ไปร่วมวงกับพวกพี่ ๆ น้อง ๆ ใช่ว่าจะโกรธเกลียดอะไรกัน พี่น้องบ้านนี้สนิทกันมากกว่าที่คนนอกเห็นเสียอีก แต่เพราะนิสัยของเจ้าตัวเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งเขาก็พอจะรู้อยู่บ้างจากการบอกเล่าของเพื่อนสนิท
พลับจีนวางจานเค้กลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินกลับไปทางเดิม หากยืนอยู่ตรงนี้นานอีกแค่วินาทีเดียวเขาได้ประสาทเสียกับท่าทางของอีกฝ่ายเป็นแน่
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น โดนเฮียเคนว่าอะไรมาหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร” ครั้นเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องใส่ใจจึงไม่ได้บอกให้น่านน้ำรู้
“เราน่าจะเอาไปให้เอง ไม่น่าให้พลับเอาไปให้เลย”
ถึงพลับจีนไม่ได้พูดว่าเจออะไรมา แต่น่านน้ำก็พอจะเดาออก เพราะจากนิสัยของเฮียเคนแล้วคงจะทำให้พลับจีนหัวเสียได้ง่าย ๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่มีอะไรจริง ๆ” พลับจีนยกยิ้มบางให้เพื่อนสนิท “ไปเล่นกับน้องคุณดีกว่า”
พลับจีนเดินมานั่งเล่นกับหลานชายวัยสองขวบที่กำลังหัวเราะอย่างมีความสุขครั้นถูกคนเป็นน้าอย่างคีนชวนเล่น ทำให้พลับจีนอดยิ้มตามไม่ได้
นึกย้อนไปวัยเด็กของตัวเอง พลับจีนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าได้ยิ้มกว้าง ๆ ได้หัวเราะเสียงดัง ๆ แบบนี้บ้างหรือเปล่า เพราะความทรงจำที่ไม่เคยจางหายไปมีแต่ความโศกเศร้าเสียใจ กว่าจะมีวันนี้ได้เขาผ่านมันมาอย่างยากสาหัสอยู่เหมือนกัน
ครั้นได้เห็นครอบครัวของเพื่อนสนิทที่อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แม้ว่าน่านน้ำจะสูญเสียพ่อกับแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อย แต่นับว่าเป็นโชคดีที่เจ้าตัวได้เจอครอบครัวของคินทร์
ครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยหวังอยู่ลึก ๆ ว่าจะได้มีครอบครัวอย่างน่านน้ำบ้าง แค่ได้ตื่นมาเจอหน้าใครสักคนก็ยังดี แต่วาสนาของคนเราไม่เท่ากัน
ซึ่งเขาไม่เคยมี...
เวลาล่วงเลยมาเกือบสี่ทุ่ม เจ้าของวันเกิดอย่างมีคุณสลบเหมือดไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากวิ่งเล่นกับพวกสาวใช้และคีนจนเหนื่อย
ถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้ายกันไปพักผ่อน เช่นเดียวกับคุณรังสรรค์และคุณหญิงกนกอรที่พากันเข้าห้องนอนกันไปก่อนแล้ว
“ถ้างั้นผมไปก่อนนะเฮีย เฮียไปก่อนนะน่าน”
“เดี๋ยวครับ นี่ก็ดึกแล้วน่านฝากเฮียไปส่งพลับหน่อยได้ไหม” น่านน้ำเรียกน้องชายสามีเอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไป
“ไม่เป็นไรหรอกน่าน เดี๋ยวเรากลับเอง” พลับจีนรีบปฏิเสธด้วยท่าทางละล่ำละลักรู้สึกเกรงใจหากจะรบกวนคนอื่น อีกอย่างคงจะสร้างความอึดอัดไม่น้อยหากต้องนั่งรถไปด้วยกันสองคน
“ไม่ได้ ดึกแล้วจะกลับเองได้ยังไง เราเป็นห่วง จะให้นอนด้วยกันที่นี่ก็ไม่ยอมนอน ถ้าไม่ไปกับเฮียเคนเราจะไปส่งเอง” เขาไม่อยากปล่อยให้พลับจีนกลับเองเพียงลพพัง เพราะนี่ก็ดึกมากแล้วหากเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ไม่ได้อยากคิดในแง่ลบแต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ไม่ใช่หรือไง
“ไม่ต้อง เดี๋ยวเฮียไปส่งให้เอง”
“แต่..”
“ไปเถอะพลับ ให้เฮียเคนไปส่ง” ต่อให้ดูออกว่าพลับจีนไม่สบายใจที่จะไปกับเฮียเคน แต่น่านน้ำก็เป็นห่วงเพื่อนมากกว่าจะปล่อยให้กลับคนเดียว
ชายหนุ่มเหลือบมองคนอายุน้อยกว่าด้วยหางตา ก่อนจะเดินนำออกไป
“ตามเฮียเคนไปสิ ถึงห้องแล้วโทรมาบอกเราด้วยนะ”
“อือ งั้นเราไปก่อนนะ”
น่านน้ำพยักหน้ารับพลางโบกมือลาเพื่อน มองอีกคนเดินหายลับไปจากสายตาถึงจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน
หวังว่าเฮียเคนจะไม่ทำตัวให้เพื่อนเขาอึดอัดมากไปกว่านี้
บรรยากาศภายในรถค่อนข้างเงียบสงัด หากให้เทียบกับป่าช้าที่ที่เขาอยู่ตอนนี้น่ากลัวกว่าเป็นไหน ๆ
หลายครั้งที่พลับจีนแอบเหลือบตามองเสี้ยวใบหน้าคนขับ อยากรู้จริง ๆ ว่าคนที่เอาแต่ทำหน้านิ่ง เรียบตึงแบบนี้ถ้าได้ลองยิ้มออกมาจะดูดีเพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่หรือเปล่า
เคน คุณากร วิรุฬห์โยธิน ลูกชายคนกลางของนักธุรกิจชื่อดังอย่างคุณรังสรรค์ เป็นเพียงคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่มีประวัติ ข้อมูลตามโลกอินเทอร์เน็ตน้อยที่สุด หาอ่านได้ยากมาก ส่วนใหญ่ที่เอามาเขียนตามกระทู้กันก็ไม่รู้จริงมากน้อยแค่ไหน พลับจีนเองก็เคยหาอ่านอยู่ครั้งหนึ่งด้วยความอยากรู้
เขาเองก็ไม่ได้รู้จักผู้ชายคนนี้มากมายนัก นิสัยใจคอก็รู้แบบเผิน ๆ แต่เท่าที่สัมผัสได้ตลอดหกปีที่ผ่านมาจากการเจอกันบ้างเป็นครั้งคราว เคนค่อนข้างเป็นคนนิ่งเงียบ สันโดษต่างจากพี่ชายและน้องชาย และดูท่าแล้วคงจะเป็นคนหัวรั้นพอสมควรเพราะแทบไม่สนใจคำพูดของใครเลย เรียกได้ว่าเชื่อตัวเองมากกว่าคนอื่น
“มีอะไร”
เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามขึ้นโดยที่ไม่ได้หันหน้ามามองกัน คนถูกทักสะดุ้งตกใจเล็กน้อยที่ถูกจับได้ ทำเสียงน่ากลัวเสียจนพูดแทบไม่ออก
“ไม่มีนี่ครับ”
“ไม่มีแล้วมองฉันทำไม”
“มั่วแล้วครับ พลับไม่ได้มองคุณเคนสักหน่อย”
หากเคนเป็นคนหัวรั้น พลับจีนก็คงรั้นมากกว่า เรียกได้ว่าเป็นคนไม่ยอมใครคนหนึ่งเหมือนกัน อย่างตอนนี้ที่ต่อให้ถูกจับได้ก็ยังปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ได้แสดงท่าทีหรือน้ำเสียงที่เกรงกลัวอีกฝ่ายออกไปแม้แต่น้อย
ทุกอย่างกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง เคนไม่ได้ตอบโต้หรือคิดที่จะต่อล้อต่อเถียงอะไรกลับไป แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าเด็กคนนี้โกหก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้อยากใส่ใจเท่าไรนัก
ไฟแดงตรงสี่แยกไม่ถึงหนึ่งนาทีแต่กลับรู้สึกเหมือนยาวนานเสียเหลือเกิน อึดอัด.. นั้นคือสิ่งที่พลับจีนรู้สึกมากที่สุดในตอนนี้
ปกติเป็นคนเข้ากับคนอื่นได้ยากอยู่แล้ว พอเป็นผู้ชายคนนี้ด้วยแล้วยิ่งรู้สึกว่าเราไม่มีทางเข้ากันได้แน่นอนไม่ว่าทำยังไงก็ตาม เคนเองก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน
“ส่งพลับหน้าป้ายรถเมล์ก็ได้ครับ เดี๋ยวพลับเดินต่อไปเอง”
“อยู่ตรงไหน”
“ครับ? ป้ายรถเมล์ตรง---”
“ห้องพักที่ว่า อยู่ตรงไหน?”
คนพูดหันมองคนข้าง ๆ เอ่ยเสียงเข้ม คิ้วหนากระตุกเข้าหากันเล็กน้อย แสดงถึงความหงุดหงิดบางอย่างผ่านสีหน้าและแววตาจนพลับจีนรับรู้ได้
“พ้นป้ายรถเมล์ไปนิดหนึ่งจะมีซอยอยู่ครับ เป็นห้องแถว”
เคนไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่ขับรถไปตามที่พลับจีนว่า และก็เจอกับห้องแถวที่ว่าจริง ๆ
ที่นี่น่ะหรือที่ที่เด็กคนนี้อยู่? แค่เห็นสภาพแวดล้อมภายนอกก็ไม่น่าอยู่แล้ว ไหนจะยังมีพวกขี้เหล้าเมายาที่นั่งตั้งวงอยู่ไม่ไกล
อยู่ไปได้ยังไง..
“ขอบคุณที่มาส่งครับ”
พลับจีนเอ่ยขอบคุณคนขับ แม้จะรู้ดีว่าเจ้าตัวไม่ได้เต็มใจที่จะมาส่งแต่เป็นเพราะน่านน้ำขอเอาไว้ ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณตามมารยาทอยู่ดี
ทันทีที่พลับจีนลงมาจากรถ รถเบนซ์คันสีดำก็ขับออกไปจากที่นี่แทบจะทันที ทำเอาคนที่ยืนมองอยู่ถึงกับกลอกตามมองบน พลางถอนหายใจ ก่อนจะรีบเดินกลับห้องตัวเอง
เคนกลับมาที่ผับของตัวเอง คืนนี้ตั้งใจจะนอนที่นี่เพราะขี้เกียจขับกลับคอนโดฯ ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีกหลายกิโลเมตร
“คุณเคนเรียกซานต้ามีอะไรหรือเปล่าคะ?” ผู้จัดการร้านเอ่ยถามขึ้น ครั้นจู่ ๆ ก็ถูกโทรตามให้ขึ้นมาที่ห้องทำงาน
“ช่วยเอารายชื่อของพนักงานในร้านทุกคนมาให้ผมที ถ้ามีรูปด้วยก็ดีครับ”
“อ๋อ.. ได้ค่ะ เดี๋ยวต้าจะไปเอามาให้ค่ะ”
ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาหนังราคาแพง ปลดกระดุมเสื้อออกคล้ายความอึดอัด เอนศีรษะไปด้านหลังพิงกับพนักโซฟา พลางปิดเปลือกตาลง
ตั้งแต่ขับรถออกมาจากห้องแถวนั้นในหัวก็เผลอคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนน่าหงุดหงิด ทั้งที่ปกติเขาไม่ได้สนใจเรื่องของคนอื่นเท่าไรนัก แต่ทว่าครั้งนี้กลับคิดวนอยู่ซ้ำ ๆ ว่าเด็กผู้ชายตัวแค่นั้นอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นเพียงลำพังได้ยังไง
เพราะเท่าที่รู้มาน่านน้ำเคยเล่าให้ฟังว่าเพื่อนของตนเป็นคนขยัน อีกทั้งยังมีชีวิตที่น่าสงสาร ตัวคนเดียวไม่มีพ่อมีแม่เหมือนตนเอง ต่างกันตรงที่พลับจีนนั้นสู้ชีวิตยิ่งกว่า
ตอนนั้นเคนก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จึงจำได้แค่ลาง ๆ พอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองก็ไม่คิดว่าจะลำบากถึงขนาดหาที่พักให้ดีกว่านั้นไม่ได้
เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างนึกรำคาญ เขาไม่ควรเก็บเรื่องไร้สาระของเด็กคนนั้นมาคิดแบบนี้ ไม่ว่าจะใช้ชีวิตยังไง อาศัยอยู่ในสถานที่แบบไหน มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยสักนิด
อย่าเก็บมาใส่ใจนักเลย..
“ไม่มีแล้วมองฉันทำไม”
tbc.
คุยกับนักเขียน
หุหุ พอคนปากร้ายน ใจร้าย มาแล้วค่ะ คุณเคนคือที่สุดในบรรดาสามพี่น้อง หมายถึงนิสัย เสียทีสุด ยืนยันโดยพลับจีน ฮ่าๆ
เรื่องนี้มีความดราม่ามากกว่าเรื่องเอียคินทร์ประมาณหนึ่งเลย ซึ่งเข้าทางแตงมากๆ ชอบจริง ๆ ได้เล่นกับใจนักอ่าน แต่ถึงยังไงก็ฝาเอ็นดู เอาใจช่วยน้องพลับของเราเยอะ ๆ นะคะ เรื่องนี้ขอตั้งจนเป็นแม่ของคุณเคนค่ะ จะมาสู้รบกับนักอ่าน
ซียูตอนใหม่ทูมอโร่จ้าาาา
“รีบจัดการซะสิ มัวพิรี้พิไรอะไรอยู่”“คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาสั่งฉัน” พฤกษ์ตวัดตามองหญิงวัยกลางคนด้วยสายตารังเกียจ“นี่ ยังไงเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว แกควรจะฟังฉันไว้บ้างก็ดีนะ”บุษบายืนกอดอกมองชายหนุ่มตรงหน้า ไม่มีท่าทางเกรงกลัวใด ๆ เธอรอเวลานี้มาตั้งนาน เวลาที่จะได้แก้แค้นเด็กคนนี้ ครั้งก่อนที่เธอโดนจับเขาคุกก็เพราะมัน หากไม่ได้ลูกสาวไปพลีกายให้กับคนใหญ่คนโตเพื่อหาทางมาช่วยเธอ ป่านนี้เธอคงยังนอนเน่าอยู่ในคุกเธอใช้เวลาตลอดหลายเดือนนับตั้งแต่ที่ออกมา วางแผนทุกอย่างเป็นอย่างดี ครั้งก่อนอาจเป็นเพราะบุ่มบ่ามเกินไปเลยทำให้ตัวเองซวย ทว่าครั้งนี้เธอมั่นใจว่ายังไงก็จะเอาคืนมันให้ได้ที่พฤกษ์ได้มาร่วมมือกับเธอก็เพราะคืนนั้นอีกฝ่ายเพิ่งโดนหักอกมาพอดิบพอดี ออกไปดื่มจนเมาเธอจึงส่งเฟญ่าให้ไปจัดการ หว่านล้อมอีกฝ่ายให้มาร่วมมือด้วยกันขอแค่เธอได้แก้แค้นเด็กคนนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการไหน ของแค่ให้มันเจ็บ รู้สึกผิด หรือทรมานทุรนทุรายยังไงก็ได้ ส่วนพฤกษ์ก็แค่ต้องการตัวพลับจีน และเด็กในท้องนั่นคือสิ่งที่สามารถทำให้เราทั้งสองฝ่ายได้ตามที่ต้องการแต่มีอีกสิ่งที่บุษบาต้องการ คือเงิน หลังจากที่ตามสืบมาหลา
23:21 น.ในช่วงกลางดึกตอนที่พลับจีนกำลังนอนหลับสนิท กลับต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงดังอยู่ตรงประตู ก่อนจะเอื้อมมือเปิดไฟในห้อง เห็นกลอนประตูกำลังถูกบิดไปมาคล้ายกับมีคนพยายามจะเข้ามาด้วยสัญชาตญาณพลับจีนกดโทรหาคุณป้าเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ทว่าไม่มีใครรับ คงกำลังนอนหลับกันอยู่ ด้วยความกลัวคนที่คิดถึงตอนนี้ก็มีอยู่ไม่กี่คน และคนที่เด่นชัดขึ้นมาที่สุดก็ไม่เคยเป็นคนอื่นเลยนอกจากเคน แม้ว่าที่ผ่านมาอีกคนจะไม่เคยมาหาเลยสักครั้งก็ตาม“รับสิคุณเคน ขอร้อง” หากมีแค่เขาคนเดียวมันก็คงไม่เป็นอะไร แต่นี่มีลูกในท้องอีกคน เขาไม่อยากเสียเด็กคนนี้ไปเป็นครั้งที่สองคนที่อยู่ด้านนอกพลับจีนไม่รู้ว่าเป็นใคร จะใช่โจรหรือเปล่า ถ้าหากให้สู้ก็คงทำได้ไม่เต็มที่นักเพราะเป็นห่วงลูกในห้อง จะให้หนีก็ไม่มีหนทาง[ฮัลโหลพลับ]“ช่วยพลับด้วย มีคนพยายามงัดห้องพลับ”[ฉันจะรีบไป ในห้องมีอะไรพอป้องกันตัวเองได้ไหม โทรหาตำรวจก่อนพลับ]“รีบมาได้ไหม พลับกลัว”[ครับ ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะรีบไป เธอจะไม่เป็นอะไร]เคนรีบหยิบกุญแจรถและขับออกมาทันที ระยะทางจากคอนโดฯ ไปอะพาร์ตเมนต์ค่อนข้างไกลพอสมควร ประมาณสามสิบนาทีเห็นจะได้กว่าจะถึงท
“เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเถอะครับพี่พฤกษ์”“ทำไมล่ะพลับ พี่ทำอะไรผิดไปหรือเปล่า พลับบอกพี่มาตรง ๆ ได้เลยนะ พี่พร้อมแก้ไขทุกอย่าง”ปากบางเม้มติดกันแน่น ก้มมองมือที่ถูกอีกฝ่ายกอบกุมเอาไว้แน่น ใบหน้าเปื้อนยิ้มยามนี้หม่นหมองคล้ายคนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ“พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด.. ไม่เคยเลยสักครั้ง”“แล้วทำไมถึงบอกให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกันล่ะครับ”หยดน้ำจากตาหยดแมะลงบนหลังมือพลับจีน เจ้าของร่างเล็กยืนตัวแข็ง นึกสงสารอีกฝ่ายจับใจ“พลับท้อง..”“ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่รับได้ พี่ดูแลได้ทั้งพลับแล้วก็ลูกของพลับ”“แต่พลับทำแบบนั้นไม่ได้ จะให้พี่มารับผิดชอบดูแลทั้งพลับทั้งลูกได้ยังไง ไม่ได้ครับ ยังไงก็ไม่ได้”พลับจีนคิดมาดีมากแล้ว ยังไงเขาก็คงไปต่อกับพฤกษ์ไม่ได้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะพูดว่ารับได้ที่เขามีลูกกับคนอื่น พร้อมที่จะดูแลทั้งเขาและเด็ก แต่ด้วยจิตสำนึกของพลับจีนในตอนนี้ทำไม่ได้จริง ๆ“ไม่ได้จริง ๆ เหรอครับ เป็นพี่ไม่ได้จริง ๆ เหรอ”“พลับขอโทษ”มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพฤกษ์ แต่สำหรับพลับจีนแล้วมันเป็นเรื่องที่ใช้เวลาคิดตรึกตรองอยู่หลายวัน การตัดสินใจทำอะไรสักอย่างไม่ใช่ว่าจะปุบปับทันที“ไม่เป็นไร พี่เ
นอกจากจะตกใจที่พลับจีนท้องแล้ว ยังตกใจเรื่องที่พลับจีนเคยแท้งอีกด้วย เคนไม่รู้มาก่อนเลย ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ตอนไหน เรื่องราวเป็นมายังไง ไม่เคยรู้อะไรสักอย่างหรือว่า...“ขอบคุณครับพี่หมอ ผมขอตัวก่อน”เคนรีบออกมาจากห้อง ยังไงเรื่องนี้เขาก็ต้องฟังจากปากพลับจีนให้ได้ คาดว่าพลับจีนออกจากโรงพยาบาลก็น่าจะกลับห้องไปเลย ไม่น่าจะแวะที่ไหนต่อใช้เวลาไม่นานเคนก็กลับมายืนอยู่หน้าห้องพลับจีนแล้ว ยืนเคาะเรียกอยู่นานแต่ก็ไม่มีคนออกมาเปิด ไม่รู้จงใจที่จะไม่เปิดหรือไม่อยู่กันแน่ เจ้าของร่างสูงเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้อง จนได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ไม่ไกลร่างเล็กหยุดชะงักตรงบันได มองคนที่ยืนอยู่หน้าห้องตัวเองด้วยดวงตาวูบไหว เขาไม่รู้ว่าเคนมาที่นี่ทำไม พลับจีนทำทีเป็นไม่สนใจ เดินตรงมาที่ห้องไขกุญแจเปิดประตูเข้าไป“เดี๋ยวก่อน” เคนดันประตูเอาไว้ ดวงตาคมหลุบมองของในมือที่พลับจีนซื้อมา มีแต่ของบำรุงสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ไหนจะหนังสือสำหรับคุณแม่มือใหม่นั่นด้วย “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม”พลับจีนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบให้อีกฝ่ายได้เข้ามาให้ห้อง เคนยืนนิ่งอยู่ตรงประตู มองคนตัวเล็กเอาของที่ซื้




![What is a divorce? [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
