LOGINเด็กมัธยมตัวสูงพรวดๆ มาเจออีกทีก็ตอนเข้าเรียนที่เดียวกับลูกชาย เจ้าเด็กบ้านรวยติดหรูดูมีมารยาทเอาแต่ตามติดลูกชายคนโตแจ แถมยังดูแลลูกชายของเขายิ่งกว่าเจ้าชาย สายตาหมอนั่นที่มองใบหน้าเรียบเฉยของวัน เปล่งประกายพิเศษกว่าใคร
ถูกทำดีด้วยแบบนั้น มองด้วยสายตาแบบนั้น พูดด้วยน้ำเสียงละมุนทุกคำ ทุกวันๆ ถ้าลูกหวั่นไหวขึ้นมา ถ้าสองคนชอบกันขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ ..ไม่นะยังไม่อยากมีหลาน ยังไม่มีเงินเลยจะเอาอะไรให้หลานได้เล่า! ไม่ใช่สิ ลูกต้องเรียนสูงๆ ก่อน อย่าพึ่งเอากันน๊า! (วัน+ดีกัน) Rrrrrrrr "ใครโทรมาเหรอ" "..แปลก" "อะไรแปลกเหรอ?" "ปกติเขาไม่โทรหา" "คนมารับเหรอ หรือคนขับรถ" "..อือ" "รีบกลับมั้ย" "ไม่" ... "ทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะน้องวัน" ตู้ดดดดๆๆๆๆ "เอ้า..ตัดสายแม่..น้องวันทำม๊าย ฮือออออ" ปุ่บ..ดีวางมือบนบ่ากว้างของแมนตามมาดูพนักงานจอมอู้ที่แอบดูลูกตัวเองกินไอติมกับเพื่อนสนิท "เป็นอะไร?" "ลูกไม่รับสายกูอ่า ไอ้ดี ลูกไม่รับสายกู" "มึงจะร้องหาพระแสงอะไรลูกอยู่ในร้านตรงหน้ามึงเนี่ย!" "ก็ลูกห้ามเข้าไปทัก..เจ็บปวด อยากจิร้องไห้" "มึงนี่มัน..ประหลาดทั้งในบ้านทั้งนอกบ้านหยุดฟุ้งซ่านอยากแดกใช่ไหมไอติมกูจะไปซื้อมาให้" "มันใช่เวลาแดกมั้ย!" "จะกินมั้ย" "ช็อคกาแล้ดสตอเเบรี่" "สัตว์!" ... 17:00 น. แอ้ดด~ ร่างเพรียวในชุดนักเรียนของลูกชายคนโตเปิดประตูสีเทาเข้มบานใหญ่เข้ามาในบ้านคิ้วเรียวผูกปมหรี่ตาลงมองโซฟากลางบ้าน คนตัวขาวจัดสวมเสื้อผ้าอยู่กับบ้านดวงตากลมโตไม่มีร่องรอยของความเมามายยกมือขึ้นโบกไปมาพร้อมรอยยิ้มทะเล้นต้อนรับ และคุณพ่อตัวโตผมซอยสั้นสวมกางเกงขายาวเดินออกมาจากครัวไม่ใช่สิงอยู่ในห้องเกมส์ "เอ๊ะ...คุณแมน คุณดี มีเรื่องอะไรหรือเปล่าทำไมอยู่ด้วยกันได้" วันเดินเข้ามาดูใกล้ ๆ ดวงตาหรี่ลงกวาดตามองคนทั้งสองที่ปกติไม่ค่อยเห็นอยู่หน้าห้องรับแขกของบ้านแต่ตอนนี้นั่วหน้าสลอน "อ้าว น้องวันลูกรัก กลับมาแล้วเหรอ ฮ่ะฮ่ะ ฮ่ะ... หิวไหม กินข้าวกับอะไรดี สั่งไก่ทอดกินกันดีมั้ย พ่อของลูกจ่ายให้เองไม่ต้องเกรงใจ" แมนยิ้มหัวเราะด้วยท่าทีประหลาด พอเป็นเรื่องจริงจังก็พูดไม่รู้เรื่อง ดีมองเมียด้วยหางตาส่ายหน้าให้กับความมีพิรุจสุดขีด "ไม่ล่ะครับ กินไอติมกับเพื่อนมาแล้ว" วันตอบเสียงเรียบก่อนจะวางกระเป๋าแล้วถอดรองเท้าอย่างระวัง ดวงตาคมยังจับจ้องพ่อแม่ทั้งสองที่นั่งตัวตรงราวกับเด็กถูกผู้ปกครองเรียกไปดุ "อ่อ อ้อ... ดี ไอ้ดี ช่วยหน่อย" แมนยิ้มยิงฟันไม่เป็นธรรมชาติดูตลกไม่รู้วีธีพูดอ้อมค้อมแต่อยากล้วงความลับของลูกชายจนตัวสั่น "ไปเรียนเป็นไงบ้างลูก?" "ดีครับ เพื่อนนิสัยดี พูดกันรู้เรื่อง ไม่ต้องพูดมาก" "อู้ววว เหมือนถูกแดกดัน" แมนยกมือทาบอกเอียงหน้ากระซิบกับพ่อของลูก ท่าทางโอเวอร์ ทำเอาดีแอบหัวเราะในลำคอ ขณะที่วันกลอกตาเบา ๆ ชินกับความเพี้ยนของผู้ใหญ่ในบ้าน "มีเพื่อนเยอะเลยใช่ไหม?" ดีเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ถามด้วยความเอ็นดูแม้หน้าตาจะโหดเหี้ยมก็ตาม "คุยได้กับทุกคนครับ" วันตอบสั้น ๆ อีกเช่นเคย ท่าทีสุขุมเกินวัยจนแมนย่นคิ้ว มองลูกชายเหมือนกำลังดูตัวเองตอนอายุสิบเจ็ด "แล้วเพื่อนสนิทละมีใคร... เป็นพิเศษมั้ยน้า~" เสียงลากยาวของแมนจะจับผิดบางอย่าง ดีหันขวับไปมองพร้อมตีแขนอีกฝ่ายเบา ๆ "มึงปวดขี้ไหมไอ้แมน ไปเข้าห้องน้ำไป เลิ่กลักสุด" "พวกคุณ... ดูแปลก ๆ นะครับ" น้ำเสียงของวันแฝงความสงสัยเต็มเปี่ยม ดวงตาเรียวหรี่ลงมองทั้งคู่สลับไปมา "ไม่มีอะไรหรอก ถ้าแม่ของลูกปกติสิแปลก" แมนรีบพยักหน้าเห็นด้วยแต่ไม่กล้าสบตาลูกชาย "อืม ก็จริง น้อง ๆ ล่ะครับ" "เจ้าทูอยู่บ้านคุณย่า เจ้าทรีอยู่บ้านคุณยาย" "อ้อ แล้วคุณดีไม่เล่นเกมเหรอ ทำไมอาบน้ำ.. คุณแมนก็ด้วย ไม่มีกลิ่นน้ำหอม ไม่มีกลิ่นเหล้า มีแต่กลิ่นครีมอาบน้ำ" แววตาคมกริบกวาดมองทั้งคู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตานั้นทำเอาคนโดนจับสังเกตนั่งแข็งทือกรอกตาล่อกแล่กทำตัวไม่ถูก "เอ่อ..." "แม่ของลูกไม่ค่อยสบาย" ดีชิงตอบมองลูกชายที่ขมวดคิ้วไม่คลาย "..คงเพราะดื่มเหล้ามากไงครับ ถ้าไม่สบายก็ไปโรงพยาบาล ผมไปอาบน้ำก่อน" วันตำหนิคนเป็นแม่แล้วเดินเข้าห้องส่วนตัวไปเสียงฝีเท้าเบา ๆ ทิ้งไว้ในอากาศและความเงียบงันของสองผู้ใหญ่ที่ี่ี่หันมามองหน้ากัน "อ่า แค่ก ๆ ๆ ~" แมนไอกลบเกลื่อนสองผัวเมียสบตากันครู่หนึ่งก่อนจะ.."แมนทำหน้าดีๆ หน่อยลูกชายคนแรกของเรากำลังจะแต่งงานนะ"พ่อของลูกชายทั้งเจ็ดบีบแก้มคนหน้าบึ้งเบะปากมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวลูบผมลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้เต็มขั้น"แต่งได้ก็เลิกได้คิดว่าโรแมนติกมากมั้งถ่อมาไกลถึงทะเลลมก็แรงมีแต่กลิ่นเกลือใครมันเป็นคนเลือกสถาณที่เนี่ย สิ้นคิดชะมัด" แมนบ่นอุบสะบัดหน้าให้หลุดพ้นเงื้อมมือพ่อของลูก"พี่วันไงพี่วันชอบทะเล" ทูถือไอติมยื่นให้แม่กับพ่อพลางตอบคำถามตัวแม่ แมนหุบปากฉับย่นจมูกอย่างขัดใจแต่แอบเนียนงับไอศกรีมผัวเพราะอยากชิม"อ้าวไม่ใช่หมอนั่นเลือกเรอะ""เรียกลูกเขยให้มันเหมือนชาวบ้านหน่อย""เช๊อะ...ทะเลก็สวยดีดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นสิ""เปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าเลยนะ" ดีว่าให้เมียตัวร้ายที่เดินไปสมทบกับปู่ย่าตายายเพื่อหาเหล้าฟรีดื่มแสงสุดท้ายของวันทอดตัวเหนือผิวน้ำ กลืนเข้ากับท้องฟ้าสีทองอ่อนจนแทบมองไม่ออกว่าทะเลเริ่มตรงที่ใดลมเย็นพัดผ่านกลิ่นเค็มจาง ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ขาวที่ประดับเรียงรายตลอดทางเดิน ผืนผ้าสีงาช้างพลิ้วเบาอยู่เหนือพื้นทราย ทุกอย่างดูเรียบหรูมีรสนิยมบ่งบอกตัวตนความเป็นคนรวยของทั้งสองตระกูลได้เป็นอย่างดีเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ
วันนี้ตัวแม่หมกมุ่นอย่างหนักกับคำว่ารักของลูกเขย เหมือนคนขี้อิจฉาผสมปนเปกับความไร้เดียงสาบวกกับความร้ายเดียงสาของแมนทำให้คนดีถามเมียขึ้น “มึงอายุเท่าไหร่นะไอ้แมน” “เอ่อ..น้องวันอายุเท่าไหร่น้า อ่าา..อื้มม?” เมียไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับตัวเลขได้ ไม่ว่าจะเลขอะไรยิ่งมีลูกเยอะก็จำวันเกิดสลับมั่วไปหมดแทบจะเป่าเค้กทุกเดือน “มึงแก่แล้ว” “เออแล้วไงตูดแก่ๆ จะมาเอาอะไรกับกู” “วุ่นวายไปหมดตั้งแต่เด็กยันแก่ กูไม่รู้ รักไหมไม่รู้แต่จะเอาถอดกางเกงเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเซเว่นอายุเท่าไหร่นะ?” “ถามทำไมอี้กมึงเป็นโรคความจำเสื่อมเร๊อะ!” “ก็กูสงสัยไอ้เด็กนั่นมันพูดออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน มันรู้สึกยังไงตอนพูดออกมา มันพูดจริงไหมหรือโกหกเก่ง แต่น้องวันบอกว่ามันดี โอยปวดหัว” “ทีเรื่องตัวเองไม่เห็นมึงจะคิดอะไรท้อง..แพ้ท้อง..แม่ด่า..พ่อไม่คุยด้วยไม่เห็นมึงจะเป็นอะไร” “ลูกรักของข้า น้องวันของข้า มหาสมบัติของข้า” “มึงบ้าไปแล้วไอ้แมน” “มึงสิบ้ากามถอดกางเกงกู” “สาดน้ำใส่สักทีสองทีมึงก็กลับมาร่าเริงเหมือนคนบ้าได้แล้ว” “กูไม่มีแรงมึงตอกมาเลยกูรับบทคนโดนข่มขืนเอง” “เอาหมอนปิดหน้ามึงไว้ได้มั้ยไม่อยากฟังมึงบ่
ตึกดึกคืนนั้น เงาดำตะคุ่มๆ คืบคลานเข้ามายังหน้าห้องหนึ่งซึ่งปิดป้ายเตือนไว้ยาวเหยียด ห้องที่ชื่อ Daddy ฝรั่งจ๋ามาแต่ไกล บรรทัดต่อมาเตือนว่าให้เคาะห้องตามลำดับการเกิดพ่อจะได้รู้ว่าใครจะมาหาเรื่องอะไร คนที่รู้ว่าลูกแต่ละคนจะมีเรื่องคุยแบบไหนมาหาเพราะอะไรนี่มันช่างเป็นสุดยอดคุณพ่อเสียจริง แต่ร่างตรงหน้าประตูไม่ได้เคาะมันแต่อย่างใดกลับบิดเปิดเข้ามาแผ่วเบาคืบคลานขึ้นมาบนเตียงกว้างคลานคล่อมร่างกำยำไร้อาภรช่วงบนปกปิดอวดกล้ามเนื้อแน่นหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คุณพ่อเพียงหนึ่งเดียวในบ้านนอนหลับสนิทโดยไม่รู้เลยว่ามีภัยคุกคาามคืบคลานคล่อมร่างตนเองและจ้องเขม็งมายังวงหน้าหล่อเหลายามนิทรา สิ่งนั้นเปล่งเสียงท่ามกลางความมืดออกมาว่า! “ไอ้ดี” “..ว่า” ไม่ต้องลืมตาขึ้นมามองก็รู้ว่าใครที่เข้ามาห้องคนอื่นโดยพละการคลานขึ้นเตียงมาตัวขาวโพลน คนที่ไร้มารยาทที่สุดในบ้านและคาดหวังว่ามันจะดีไปกว่านี้ไม่ได้ อีเมียตัวดี “มึงรักกูมั้ย?” คำถามที่มาพร้อมความรู้สึกหยาบกร้านแสบสันไร้ความอ่อนโยนเหมือนกระดาษทรายเบอร์ 88 ทำเอาคนตัวโตขนลุกซู่จนต้องท้าวแขนผงกตัวขึ้นมาเปิดไฟหัวเตียงด้วยใบหน้านิ่งสนิทหรี่ตามองคนร่างควาย
ตอนแนะนำตัวกับครอบครัววันครั้งแรก ดีกันคิดว่าคงเป็นแค่ทักทายธรรมดาแต่ไม่… มันคือการเจอกองทัพทั้งเจ็ด…อย่างกับสโนว์ไวท์แน่ะเขายืนหน้าประตูบ้าน ยิ้มสุภาพเหมือนคนดูมีมารยาท ทันใดนั้น ฝูงน้อง ๆ ก็กรูเข้ามาเหมือนเจอดารา“สวัสดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีจ้าพี่ดี~!”“เฮลโหลวพี่กันดี เอ้ย ดีกัน!”“ไงพี่กัน!”“โย่วพี่ดีกัน!”เสียงทักดังรัวเหมือนยิงปืนกล“สวัสดีน้องๆ”ใช่ครับแฟนผมมีน้องพ่อแม่เดียวกันมากถึงหกคนรวมแฟนผมเป็นเจ็ดคน…เขากวาดตามองแถวเด็กที่ยืนเป็นระบบระเบียบกว่าทหารเกณฑ์ลูกดกขนาดนี้นี่คือบ้านหรือเครื่องถ่ายเอกสาร?“ลูกดกมาก…” ดีกันกระแอมห่างกันปี สองปี สามปี สูงไล่เลี่ยกันหมด…หน้าตาดีทั้งบ้าน เพราะพ่อแม่หน้าตาดีมากด้วย“ใครให้อินดีกว่านี้มั้ย…ตั้งใจปั๊มลูกอย่างมีระบบมากเลยนี่นา~”น้องซิกยกมือทันที “พ่อบอกว่าอยากครบสิบ!!”ดีกันช็อกจนแทบหยุดหายใจวันตบบ่าเขาเบา ๆดีกันหันมองคนข้างตัวช้า ๆ“…วันอยากมีลูกกับฉันแบบนี้ไหม”วันชะงักเแต่น้องๆ หัวเราะกร๊าก"อยู่บ้านกันหมดเลยเหรอ" ดีกันกวาดตามองรอบบ้านใหญ่ที่เต็มไปด้วยรองเท้ากองหน้าประตู เหมือนทุกคนในจังหวัดนัดกันมาที่นี่"ช่าย นี่
(วัน) หลายปีผ่านไปครอบครัวของผมใหญ่ขึ้นเพราะน้องๆ โตขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้นแยกย้ายกันเรียนในสายที่ชอบแต่ไม่ไกลบ้านนัก ผมอยู่คอนโดลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลำพังเสียทีเดียว ก็คุณแมนไปอ้อนคุณยายให้ซื้ออีกห้องชั้นล่างสุดน่ะสิไม่รู้มีแผนอะไรชอบไปตีสนิทกับยามและแม่บ้าน ก็คงเล่นเป็นสายลับเหมือนเดิมเกิดเป็นลูกคนอย่างพ่อกับแม่ไม่ง่ายเลยนะเหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน หลายครั้งก็อยากจะดุด่าให้สำนึกจริงจังสักทีว่าทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ แต่พอโตขึ้นก็นึกขอบคุณที่เขาไม่ตามกระแสยังคงความเป็นตัวของตัวเองแบบมนุษย์ที่มีความแตกต่างได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่รู้สึกแบบนั้นเพราะส่วนหนึ่งเห็นครอบครัวคนรักอย่างดีกันเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตมากไปหน่อย ยามอยู่ห่างกันคนตัวโตทำท่าจะเป็นจะตายเพราะงานที่บ้านชวนให้อึดอัด พอกลับมาเจอก็อ้อนอยากกอดตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านให้ดีกันคอยพักพิงไปเสียแล้ว“เหนื่อยจังไม่อยากทำงานแล้ว”คนตัวสูงรูดเนคไทออกจากลำคอแกร่ง นักบาสคนเก่งกลายร่างเป็นนนักธุรกิจหนุ่มขึ้นทุกวัน ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อนคนอื่นมีแพลนเรียนต่อต่างประเทศเริ่มธุรกิจอย่างที่อยากทำ
เสียงวันสวนกลับทันที พ่อแม่เงียบไปสามวินาทีก่อนระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน“อู้วว เสียดสีเหลือเกิ๊น” แมนยกมือกุมอกแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดพลางเอนพิงโซฟา “ไปนอนด้วยได้มั้ย เดี๋ยวเหงา”“ไม่เอาอ้ะ” วันพูดเสียงเนือยตัดบททันควัน “ให้อยู่กับคุณ เอาน้องห้าคนไปอยู่ด้วยดีกว่า”“อะไรอ้ะ~” แม่ทำเสียงสูงทันที ส่วนเจ้าแฝดเริ่มหัวเราะคิกคัก“ผมไปอาบน้ำนอนละ อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวน้องเลียนแบบ” วันพูดก่อนเดินขึ้นห้องไป“อะไรอ้าาาา~”เสียงแม่แมนลากยาวตามหลัง ส่วนพ่อดีก็หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ เหมือนจะบอกว่าบ้านนี้…เงียบได้สักวันคงปาฏิหาริย์แล้วล่ะ“มึงดูลูกสิ”แมนทำหน้ายู่ชี้นิ้วไปทางห้องลูกชายคนโตแตสามีเพียงยิ้มให้พลางเทน้ำส้มลงแก้ววางลงตรงหน้าคนท้อง “ดูทำไม ลูกจะเรียนจบมอหกแล้ว โตมาอย่างมีคุณภาพ อาจจะกดดันตัวเองมากไปหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้โดยไม่ทะเลาะกัน”“ใครจะกล้าทะเลาะด้วยวะ ดุจะตาย” แม่แมนหัวเราะในลำคอ นึกถึงสายตาคม ๆ ของลูกชายที่เหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิดดีหัวเราะเบา ๆ “ดีจริง ๆ มีลูกคนแรกมากำราบความดื้อด้านของตัวเองอีกที”“นี่กูคิดถูกไหมเนี่ย ที่ปล่อยให้มีลูกมากขนาดนี้” แมนพูดพร้อมยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบเหล







![สถานะลับ(รับ)สถานะรัก [เมะxเมะ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)