LOGIN"ไอ้ดี!!"
"อย่าเสียงดังไปคุยกันในห้อง" ปึ้งง~ "ไอ้ดี~มึงเห็นแววตาของลูกเราตอนที่พูดถึงเพื่อนไหมดวงตาใสแจ๋วนั่น ทำไมอบอุ่นอ่อนโยนขนาดนั้นแล้วดูสายตาตอนมองกูดิ" "ใครจะอยากอบอุ่นกับแม่อย่างมึงล่ะ นี่ก็ปกตินะ" "ไม่ปกติเว้ย ตอนกูเมากลับมาลูกยังเช็ดตัวให้กูอยู่เลยทำไมรู้สึกห่างเหินออกไปทุกที..หรือกูควรจะแดกเหล้าเมากลับมาเหมือนเดิมดี" "จะถูกลูกเกลียดกกว่าเดิมน่ะสิ ลูกโตแล้วนะ" "ทำไมสมัยมัธยมเรากับเพื่อนไม่เห็นจะเคยคุยกันดีๆ ไม่เคยคุยกันรู้เรื่อง ต่อยตีกันแบบไม่ต้องมีเหตุผลแต่นี่อะไรดูมีความสุขม้าก อิจฉาเด้!" "ลูกมีความสุขก็ดีแล้วไง หรือมึงอยากให้ลูกมีปัญหาถูกบูลลี่เหมือนมึงกับกู" "ไม่ห่วงเรื่องนั้นแต่ก็ห่วงอีกเรื่องนะสำคัญมากๆ" "เรื่องอะไร" "ไอ้เด็กหัวสูงติดแบรนด์เนมทั้วตัวหัวจรดเท้านี่ไงกูส่องโซเชียลมันทุกวัน" ยื่นโทรศัพท์ให้ดีดู "มึงยังไม่เลิกส่องอีกเหรอถ้าลูกรู้จะไม่โกรธรึ?" "กูต้องปกป้องลูกโว้ย กูไม่เคยเห็นพวกขี้อวดติดหรูมีชีวิตที่สงบสุขจริงๆ สักคนเพราะมันต้องซี้อของใหม่เรื่อยๆ ราคาก็โหด ถ้าลูกคบไอ้หมอนั่นมีหวังล่มจมแน่นอน" "อืม..คราวนี้มึงอาจจะพูดถูก" "ใช่มะ? พ่อแม่เรามีเงินตั้งเท่าไหร่ไม่เห็นจะใช้อะไรฟุ่มเฟือยแบบนี้เลย เป็นแค่เด็กมอหนึ่งต้องหลงไหลวัตถุภายนอกขนาดนี้เลยเหรอ" "ก็นะ..ถ้าชินกับของแบบนี้ก็คงไม่ชินกับการใช้ชีวิตง่ายๆ ใช้แต่ของพวกนั้น...อืม ดูฟุ่มเฟือยไปหน่อย ถ้าวันนึงมีปัญหาเรื่องเงินแต่ก็ซื้อของไม่มียี่ห้อไม่ได้...ต้องแย่แน่ " "กูกลัวว่าสักวันลูกจะต้องยอมสละทุกอย่างเพื่อภาพลักษณ์จอมปลอมนั่น พึ่งรู้จักกันยังห้ามเราเข้าไปทักเลย แล้วต่อไปไม่ห้ามให้เราเข้าไปหาเลยเหรอ แล้วถ้าเกิด..ไม่อยากเจอเราอีกเลย อยากอยู่กับแฟนแค่สองคน แล้วกูจะทำยังไง" "มึงฟุ้งซ่านขนาดนี้เลยเหรอ" "โอ๊ยปวดหัวลามลงไปถึงหำแล้วเนี่ย" "เย็ดมั้ย" "จ่ายป้ะ" "กูก็อยากให้ลูกตัดมึงออกจากการเป็นแม่นะ" "กูมีทะเบียนสมรสนะ" "โว๊ะ!" "กูปวดหัว" "ควายมานี่มา" "เขามีแต่แว่นมานี่มา" "เออเหมือนกันนั่นแหละ" ดีจับมือแมนขึ้นดม เคลื่อนปลายจมูกดอมดมซอกหู เลิกเสื้อขึ้นดูหน้าท้องแบนแต่ไร้กล้ามเนื้อ "กลิ่นมึงเปลี่ยนไป ร่างกายก็เปล่ี่ยน" "ไม่ได้ฉีดน้ำหอมมาพักใหญ่แล้ว ทำไมเหม็นเหรอ" "ไม่เหม็น กลิ่นคุ้นๆ คงเป็นกลิ่นครีมอาบน้ำ ปกติฉีดน้ำหอมแทบอาบแทนน้ำแต่แบบนี้ี้ก็ดีผิวมึงก็กลิ่นหอมอยู่แล้ว" "ดมขนาดนี้ อยากแดกกูเหรอ" "กูแดกก็จ่ายไม่ได้ชักดาบแบบมึงดึงเสื้อขึ้นดิ้" "อยากดูดนมเหรอ" พรึ้บ~ "มึงอ้วนขึ้นหรือเปล่าเนี่ย" "ทักคนอื่นว่าอ้วนมันเสียมารยาทนะโว้ย" "หันหลังคลานเข่าสิ" "ท่าหมาเหรอ" "ท่าที่มึงถนัด" "กููไม่ถนัดท่านี้ก็ชอบขย่มมากกว่า" "ตูดมึงใหญ่นิ่มขึ้นด้วยเหมือนแม่วัวเลย" "ตินักก็ไม่ต้องเอา" "อารมณ์ขึ้นลงง่าย ด้วย" "แล้วจะทำไม" "มานั่งตัก" "ไม่ไป มึงจะทำไม" "ความรู้สึกไวกว่าเดิมหัวนมตั้งคอร้อนหูร้อน.." หมั่บ~ ล้วงกางเกงบีบหัวไชเท้าของแมน "หำร้อนสุดๆ อย่างกับคนไข้ขึ้น" "กูไม่ได้ป่วย อืออ~" "รู้สึกยังไงบ้าง" "อืมมม เสียด เสียวตั้งแต่ข้างนอกไปถึงข้างใน" "ไปหาหมอกันมั้ย?" "เดี๋ยวค่อยไป" "อารมณ์มาเต็มขนาดนี้..ท้องแน่" "ท้อง…ก็ดีสิ" "ทำไมวะ อยากได้สมบัติขนาดนั้นเลย" "เปล่า กูอยากให้น้องวันกลับบ้านเร็วขึ้น กลับมาเลี้ยงน้องอยู่ใกล้ๆ เรา" "ไอ้แมน มึงกำลังเอาแต่ใจอยู่" "กูเอาแต่ใจไม่ได้เหรอ กูรักลูกนะไอ้ดี" "มึงผูกมัดลูกเกินไปแล้ว ถ้าผิดหวังขึ้นมาจะทำยังไงเตรียมใจไว้หรือยัง" "ไอ้ดี" "ว่า?" "มาทำกัน" "ฟังกูบ้างไหมเนี่ย" "เย็ดก่อนคุยทีหลังโบราณว่าไว้จะเจรจาง่ายขึ้น" "โบราณของมึงเอาแต่ใจเกินไปนะ" "ทำไมสากมึงตั้งทุกทีที่จะเย็ดกูวะ กูสงสัยตลอดเลย กูคิดว่ามึงเป็นไอ้เด็กขี้เงี่ยนเห่อหมอยตอนที่เอากันครั้งแรก แค่มันมีสองมีสามแล้วมันก็ยังตั้งตำตูดกูได้ทุกที" "กูก็แค่เงี่ยนแล้วไม่ชอบเอามั่วกูมีทะเบียนสมรสไงใช้รูมึงได้ตามกฏหมาย" "..ทะแม่งๆ นะ" . ."แมนทำหน้าดีๆ หน่อยลูกชายคนแรกของเรากำลังจะแต่งงานนะ"พ่อของลูกชายทั้งเจ็ดบีบแก้มคนหน้าบึ้งเบะปากมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวลูบผมลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้เต็มขั้น"แต่งได้ก็เลิกได้คิดว่าโรแมนติกมากมั้งถ่อมาไกลถึงทะเลลมก็แรงมีแต่กลิ่นเกลือใครมันเป็นคนเลือกสถาณที่เนี่ย สิ้นคิดชะมัด" แมนบ่นอุบสะบัดหน้าให้หลุดพ้นเงื้อมมือพ่อของลูก"พี่วันไงพี่วันชอบทะเล" ทูถือไอติมยื่นให้แม่กับพ่อพลางตอบคำถามตัวแม่ แมนหุบปากฉับย่นจมูกอย่างขัดใจแต่แอบเนียนงับไอศกรีมผัวเพราะอยากชิม"อ้าวไม่ใช่หมอนั่นเลือกเรอะ""เรียกลูกเขยให้มันเหมือนชาวบ้านหน่อย""เช๊อะ...ทะเลก็สวยดีดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นสิ""เปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าเลยนะ" ดีว่าให้เมียตัวร้ายที่เดินไปสมทบกับปู่ย่าตายายเพื่อหาเหล้าฟรีดื่มแสงสุดท้ายของวันทอดตัวเหนือผิวน้ำ กลืนเข้ากับท้องฟ้าสีทองอ่อนจนแทบมองไม่ออกว่าทะเลเริ่มตรงที่ใดลมเย็นพัดผ่านกลิ่นเค็มจาง ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ขาวที่ประดับเรียงรายตลอดทางเดิน ผืนผ้าสีงาช้างพลิ้วเบาอยู่เหนือพื้นทราย ทุกอย่างดูเรียบหรูมีรสนิยมบ่งบอกตัวตนความเป็นคนรวยของทั้งสองตระกูลได้เป็นอย่างดีเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ
วันนี้ตัวแม่หมกมุ่นอย่างหนักกับคำว่ารักของลูกเขย เหมือนคนขี้อิจฉาผสมปนเปกับความไร้เดียงสาบวกกับความร้ายเดียงสาของแมนทำให้คนดีถามเมียขึ้น “มึงอายุเท่าไหร่นะไอ้แมน” “เอ่อ..น้องวันอายุเท่าไหร่น้า อ่าา..อื้มม?” เมียไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับตัวเลขได้ ไม่ว่าจะเลขอะไรยิ่งมีลูกเยอะก็จำวันเกิดสลับมั่วไปหมดแทบจะเป่าเค้กทุกเดือน “มึงแก่แล้ว” “เออแล้วไงตูดแก่ๆ จะมาเอาอะไรกับกู” “วุ่นวายไปหมดตั้งแต่เด็กยันแก่ กูไม่รู้ รักไหมไม่รู้แต่จะเอาถอดกางเกงเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเซเว่นอายุเท่าไหร่นะ?” “ถามทำไมอี้กมึงเป็นโรคความจำเสื่อมเร๊อะ!” “ก็กูสงสัยไอ้เด็กนั่นมันพูดออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน มันรู้สึกยังไงตอนพูดออกมา มันพูดจริงไหมหรือโกหกเก่ง แต่น้องวันบอกว่ามันดี โอยปวดหัว” “ทีเรื่องตัวเองไม่เห็นมึงจะคิดอะไรท้อง..แพ้ท้อง..แม่ด่า..พ่อไม่คุยด้วยไม่เห็นมึงจะเป็นอะไร” “ลูกรักของข้า น้องวันของข้า มหาสมบัติของข้า” “มึงบ้าไปแล้วไอ้แมน” “มึงสิบ้ากามถอดกางเกงกู” “สาดน้ำใส่สักทีสองทีมึงก็กลับมาร่าเริงเหมือนคนบ้าได้แล้ว” “กูไม่มีแรงมึงตอกมาเลยกูรับบทคนโดนข่มขืนเอง” “เอาหมอนปิดหน้ามึงไว้ได้มั้ยไม่อยากฟังมึงบ่
ตึกดึกคืนนั้น เงาดำตะคุ่มๆ คืบคลานเข้ามายังหน้าห้องหนึ่งซึ่งปิดป้ายเตือนไว้ยาวเหยียด ห้องที่ชื่อ Daddy ฝรั่งจ๋ามาแต่ไกล บรรทัดต่อมาเตือนว่าให้เคาะห้องตามลำดับการเกิดพ่อจะได้รู้ว่าใครจะมาหาเรื่องอะไร คนที่รู้ว่าลูกแต่ละคนจะมีเรื่องคุยแบบไหนมาหาเพราะอะไรนี่มันช่างเป็นสุดยอดคุณพ่อเสียจริง แต่ร่างตรงหน้าประตูไม่ได้เคาะมันแต่อย่างใดกลับบิดเปิดเข้ามาแผ่วเบาคืบคลานขึ้นมาบนเตียงกว้างคลานคล่อมร่างกำยำไร้อาภรช่วงบนปกปิดอวดกล้ามเนื้อแน่นหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คุณพ่อเพียงหนึ่งเดียวในบ้านนอนหลับสนิทโดยไม่รู้เลยว่ามีภัยคุกคาามคืบคลานคล่อมร่างตนเองและจ้องเขม็งมายังวงหน้าหล่อเหลายามนิทรา สิ่งนั้นเปล่งเสียงท่ามกลางความมืดออกมาว่า! “ไอ้ดี” “..ว่า” ไม่ต้องลืมตาขึ้นมามองก็รู้ว่าใครที่เข้ามาห้องคนอื่นโดยพละการคลานขึ้นเตียงมาตัวขาวโพลน คนที่ไร้มารยาทที่สุดในบ้านและคาดหวังว่ามันจะดีไปกว่านี้ไม่ได้ อีเมียตัวดี “มึงรักกูมั้ย?” คำถามที่มาพร้อมความรู้สึกหยาบกร้านแสบสันไร้ความอ่อนโยนเหมือนกระดาษทรายเบอร์ 88 ทำเอาคนตัวโตขนลุกซู่จนต้องท้าวแขนผงกตัวขึ้นมาเปิดไฟหัวเตียงด้วยใบหน้านิ่งสนิทหรี่ตามองคนร่างควาย
ตอนแนะนำตัวกับครอบครัววันครั้งแรก ดีกันคิดว่าคงเป็นแค่ทักทายธรรมดาแต่ไม่… มันคือการเจอกองทัพทั้งเจ็ด…อย่างกับสโนว์ไวท์แน่ะเขายืนหน้าประตูบ้าน ยิ้มสุภาพเหมือนคนดูมีมารยาท ทันใดนั้น ฝูงน้อง ๆ ก็กรูเข้ามาเหมือนเจอดารา“สวัสดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีจ้าพี่ดี~!”“เฮลโหลวพี่กันดี เอ้ย ดีกัน!”“ไงพี่กัน!”“โย่วพี่ดีกัน!”เสียงทักดังรัวเหมือนยิงปืนกล“สวัสดีน้องๆ”ใช่ครับแฟนผมมีน้องพ่อแม่เดียวกันมากถึงหกคนรวมแฟนผมเป็นเจ็ดคน…เขากวาดตามองแถวเด็กที่ยืนเป็นระบบระเบียบกว่าทหารเกณฑ์ลูกดกขนาดนี้นี่คือบ้านหรือเครื่องถ่ายเอกสาร?“ลูกดกมาก…” ดีกันกระแอมห่างกันปี สองปี สามปี สูงไล่เลี่ยกันหมด…หน้าตาดีทั้งบ้าน เพราะพ่อแม่หน้าตาดีมากด้วย“ใครให้อินดีกว่านี้มั้ย…ตั้งใจปั๊มลูกอย่างมีระบบมากเลยนี่นา~”น้องซิกยกมือทันที “พ่อบอกว่าอยากครบสิบ!!”ดีกันช็อกจนแทบหยุดหายใจวันตบบ่าเขาเบา ๆดีกันหันมองคนข้างตัวช้า ๆ“…วันอยากมีลูกกับฉันแบบนี้ไหม”วันชะงักเแต่น้องๆ หัวเราะกร๊าก"อยู่บ้านกันหมดเลยเหรอ" ดีกันกวาดตามองรอบบ้านใหญ่ที่เต็มไปด้วยรองเท้ากองหน้าประตู เหมือนทุกคนในจังหวัดนัดกันมาที่นี่"ช่าย นี่
(วัน) หลายปีผ่านไปครอบครัวของผมใหญ่ขึ้นเพราะน้องๆ โตขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้นแยกย้ายกันเรียนในสายที่ชอบแต่ไม่ไกลบ้านนัก ผมอยู่คอนโดลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลำพังเสียทีเดียว ก็คุณแมนไปอ้อนคุณยายให้ซื้ออีกห้องชั้นล่างสุดน่ะสิไม่รู้มีแผนอะไรชอบไปตีสนิทกับยามและแม่บ้าน ก็คงเล่นเป็นสายลับเหมือนเดิมเกิดเป็นลูกคนอย่างพ่อกับแม่ไม่ง่ายเลยนะเหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน หลายครั้งก็อยากจะดุด่าให้สำนึกจริงจังสักทีว่าทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ แต่พอโตขึ้นก็นึกขอบคุณที่เขาไม่ตามกระแสยังคงความเป็นตัวของตัวเองแบบมนุษย์ที่มีความแตกต่างได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่รู้สึกแบบนั้นเพราะส่วนหนึ่งเห็นครอบครัวคนรักอย่างดีกันเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตมากไปหน่อย ยามอยู่ห่างกันคนตัวโตทำท่าจะเป็นจะตายเพราะงานที่บ้านชวนให้อึดอัด พอกลับมาเจอก็อ้อนอยากกอดตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านให้ดีกันคอยพักพิงไปเสียแล้ว“เหนื่อยจังไม่อยากทำงานแล้ว”คนตัวสูงรูดเนคไทออกจากลำคอแกร่ง นักบาสคนเก่งกลายร่างเป็นนนักธุรกิจหนุ่มขึ้นทุกวัน ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อนคนอื่นมีแพลนเรียนต่อต่างประเทศเริ่มธุรกิจอย่างที่อยากทำ
เสียงวันสวนกลับทันที พ่อแม่เงียบไปสามวินาทีก่อนระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน“อู้วว เสียดสีเหลือเกิ๊น” แมนยกมือกุมอกแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดพลางเอนพิงโซฟา “ไปนอนด้วยได้มั้ย เดี๋ยวเหงา”“ไม่เอาอ้ะ” วันพูดเสียงเนือยตัดบททันควัน “ให้อยู่กับคุณ เอาน้องห้าคนไปอยู่ด้วยดีกว่า”“อะไรอ้ะ~” แม่ทำเสียงสูงทันที ส่วนเจ้าแฝดเริ่มหัวเราะคิกคัก“ผมไปอาบน้ำนอนละ อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวน้องเลียนแบบ” วันพูดก่อนเดินขึ้นห้องไป“อะไรอ้าาาา~”เสียงแม่แมนลากยาวตามหลัง ส่วนพ่อดีก็หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ เหมือนจะบอกว่าบ้านนี้…เงียบได้สักวันคงปาฏิหาริย์แล้วล่ะ“มึงดูลูกสิ”แมนทำหน้ายู่ชี้นิ้วไปทางห้องลูกชายคนโตแตสามีเพียงยิ้มให้พลางเทน้ำส้มลงแก้ววางลงตรงหน้าคนท้อง “ดูทำไม ลูกจะเรียนจบมอหกแล้ว โตมาอย่างมีคุณภาพ อาจจะกดดันตัวเองมากไปหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้โดยไม่ทะเลาะกัน”“ใครจะกล้าทะเลาะด้วยวะ ดุจะตาย” แม่แมนหัวเราะในลำคอ นึกถึงสายตาคม ๆ ของลูกชายที่เหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิดดีหัวเราะเบา ๆ “ดีจริง ๆ มีลูกคนแรกมากำราบความดื้อด้านของตัวเองอีกที”“นี่กูคิดถูกไหมเนี่ย ที่ปล่อยให้มีลูกมากขนาดนี้” แมนพูดพร้อมยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบเหล




![สถานะลับ(รับ)สถานะรัก [เมะxเมะ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


