บ้านของจิรกิตติ์
ร่างของชายหนุ่ม ซึ่งใส่แค่กางเกงผืนเดียวนั่งอยู่บนโซฟา ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก “ มึงทำอะไรลงไปวะไอ้เจต ทำไมไม่รู้จักหักห้ามใจให้มากกว่านี้ “ เขาหลับตาปี๋นิ้วมือจับเข้าที่สองขมับอย่างปวดหัว เหตุจากเขานั้นเป็นรุ่นน้อง แสงรวี พ่อของพลอยเจนที่รู้จักกันมามากกว่า 30 ปี และตัวเขาเองก็เห็นหญิงสาวมาตั้งแต่เกิดแม้ว่าช่วงวัยรุ่นของเธอเขาจะเริ่มตีตัวออกห่างมาได้หลายปีจนไม่สนิทกันเหมือนก่อนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามพลอยเจนก็คือคนที่เขาบอกใครต่อใครว่าเป็นหลานสาว แม้จะกระดากปากทุกครั้งที่พูดก็ตาม “ ทั้งๆ ที่เราพยายามหักห้ามใจมาได้หลายปีแล้วแท้ๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ “ ยิ่งคิดภาพของเมื่อคืนก็ยิ่งชัดเจนในหัว ความรู้สึกผิดก็มีเพิ่มมากขึ้นแต่ก็พลันรู้สึกดีไปด้วย จนเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ เฮ้ย! “ เมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ เขาก็รีบดึงสติตนเองกลับมาด้วยการส่ายหน้าไปมากลางอากาศ “ เราต้องบอกเรื่องนี้กับพี่แสง พี่จ๊ะจ๋า มั้ยวะ? “ ความรู้สึกอยากจะรับผิดชอบหญิงสาวแล่นเข้ามาในหัว ปากของเขาเผยยิ้มไม่หุบเมื่อคิดว่าถ้าทั้งคู่ได้แต่งงานกันจริงมันจะเป็นอย่างไร เพราะตัวพลอยเจนนั้นแหละคือเหตุผลที่ทำให้เขายังไม่มีใคร แต่เมื่อคิดไปถึงเรื่องราวก่อนหน้าที่หญิงสาวจะได้เกิด เขาก็หุบยิ้มทันที “ ใช่เธอมั้ยพราว “ หลายอาทิตย์ต่อมาที่ร้านคาเฟ่เจระวี เจ้าของร้านกำลังถูกอ้อมล้อมไปด้วยเหล่าเพื่อนฝูง ซึ่งมองมาที่เธอด้วยความสงสัย “ พ่อของลูกมึงเป็นใคร “ สามเสียงของเพื่อนหนุ่ม โอม หนึ่ง และไน ประสานกันเสียงดังจนคนถูกถามก็สะดุ้งที่ได้รู้ว่าความลับแตก แต่ที่เธอจะแคร์สุดในตอนนี้ก็คือครีมหอม เพราะมีแค่ครีมหอมเท่านั้นที่รู้ว่าเธอกำลังคบหากับคิตตี้อยู่ “ อย่าบอกคิตตี้นะครีม “ ถึงคิตตี้จะไม่ซื่อสัตย์กับเธอ แต่พลอยเจนก็ไม่ทันได้บอกเรื่องนี้ให้คิตตี้รู้เลยตั้งแต่วันนั้น “ เกี่ยวอะไรกับคิตตี้วะ “ เสี่ยโอมคนที่นั่งอยู่ข้างครีมหอมจ้องมายังเพื่อนสาวอย่างสงสัย แต่พลอยเจนก็ไม่สนใจที่จะตอบเธอเอาแต่ยืนเงียบ “ ตกลงมึงจะไม่บอกใช่มั้ยไอ้เจน ว่าพ่อของลูกมึงคือใคร “ หนึ่งเดียวถามขึ้นอีกด้วยความอยากรู้ แต่คนถูกถามกลับยังไม่สนใจ “ กูขอคุยกับครีมก่อนนะ “ พลอยเจนจึงดึงแขนครีมหอมที่นั่งอยู่ออกไปคุยกันข้างนอก “ มึงอย่าตามมานะเว้ย “ แต่เมื่อเห็นว่าเสี่ยโอมกำลังจะลุกตามมา เจนก็รีบหันไปห้าม “ พี่เจน ตอนนี้พี่กับคิตตี้เป็นยังไง ครีมได้ยินคิตตี้บ่นว่าพี่ไม่ค่อยติดต่อไปหาหรือเป็นเพราะเรื่องนี้เหรอคะ “ เมื่อเดินออกมาพ้นสายตาคนอื่น หญิงสาวรุ่นน้องก็รีบถามเรื่องที่สงสัย “ ไม่ แต่มันก็มีส่วนนั้นแหละ จะให้พี่พูดยังไงดี “ พลอยเจนมีสีหน้าเป็นกังวลแต่ครีมหอมที่รู้จักทั้งสองดีกลับเข้าใจ “ พี่เจนพูดมาเถอะค่ะ ครีมเข้าใจ เพราะคิตตี้เองก็.. “ “ ไม่ได้คุยกับพี่แค่คนเดียว “ สิ่งที่พลอยเจนพูดแทรกขึ้นมาก็ทำให้ครีมหอมตกใจไม่น้อย “ พี่รู้เหรอคะ “ “ อืม วันที่พี่รู้ก็คือวันที่พี่มีอะไรกับผู้ชายครั้งแรก แล้วก็…” พลอยเจนถอนหายใจแรงพร้อมกับน้ำตาคลอ “ เป็นแบบที่ครีมเห็นนี่แหละ “ ครีมหอมได้ฟังก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเธอไม่รู้จะต้องเข้าข้างใครดี “ คิตตี้ไม่น่าทำแบบนี้กับพี่เจนเลย แล้วพี่จะไปเคลียร์กับคิตตี้วันไหนคะ “ ครีมหอมหน้าซีดจ้องมองสาวรุ่นพี่ เธอรู้ดีว่าถึงน้องสาวของเธอจะแอบไปมีอะไรกับผู้ชายลับหลังพี่เจน แต่ครีมเองก็รับรู้ได้ว่าความรู้สึกที่น้องสาวมีให้พลอยเจนก็คงไม่ใช่ของปลอมหรอก “ พี่กำลังคิดอยู่เหมือนกัน แต่เรื่อง “ พลอยเจนก้มลงมองท้องของตัวเอง “ ครีมอย่าให้คิตตี้รู้นะ ไว้พี่จะเป็นคนไปบอกด้วยตัวเอง “ ครีมหอมพยักหน้าเข้าใจ คุยกันต่ออีกไม่นานทั้งสองก็เดินเข้ามาหาคนอื่นในห้อง “ ยังไง? จะตอบคำถามของพวกกูได้หรือยัง “ เมื่อร่างของพลอยเจนนั่งลงที่โซฟา คนที่นั่งไขว้ห้างกอดอกมองอยู่ก็ถามเธอขึ้น พลอยเจนเงยหน้าจ้องเสี่ยโอมและอีกสองหนุ่มที่กำลังจ้องเธอด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวดสลับกัน “ พวกมึงจะอยากรู้กันไปทำไม เดี๋ยวกูก็ไปเอามันออกแล้ว “ คนตอบหันหน้าไปมองทางอื่น “ อย่านะพี่เจน! “ เสียงของวรรณิหลาที่ได้ยินพลอยเจนพูดเช่นนั้นเธอก็ร้องห้ามเสียงดัง ทำให้คนถูกเรียกหันกลับมามอง “ การทำแบบนั้นมันเป็นบาปนะคะ แล้วการที่เราเสียลูกไปมันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นสุข “ คนพูดนัยน์ตาเริ่มแดง จ้องพี่สาวด้วยแววตาอ้อนวอนไม่อยากให้คนพี่ทำผิดพลาด จนคนเป็นสามีแบบคุณหมอไนยะที่นั่งอยู่ด้วยต้องรีบลูบหลังปลอบประโลมเมียอย่างเบามือ “ ณิหลาเคยเสียลูกไปเพราะเหตุสุดวิสัย ณิหลาไม่อยากให้พี่เจนตั้งใจทำร้ายลูกตัวเองนะคะ “ “ ที่น้องมันพูดก็ถูก มึงอย่าทำแบบนั้นนะเจน “ จีนเน่คนที่นั่งอยู่ตรงหน้ากับพลอยเจนดึงมือหญิงสาวไปกุมไว้ “ มึงดูสิขนาดกูพยายามมีลูกกันแทบตายน้องยังไม่มาเลย แต่มึงเขาอุตส่าห์มาเกิดด้วย อย่าทำร้ายเขาเลยนะ ถือว่ากูขอ “ พลอยเจนฟังที่ทั้งคู่พูดก็นึกภาพตามไปต่างๆ นาๆ “ ใช่ ถ้าพ่อเด็กมันไม่ยอมรับพวกกูสามคนพร้อมเป็นพ่อทูนหัวให้หลานนะ “ ไนยะบอก เสี่ยโอมจึงเสริมต่อ “ นั่นสิ มึงก็สามสิบแล้วอายุไม่ใช่น้อยๆ ถ้ารอบนี้เอาออกไป ก็ไม่รู้จะมีโอกาสได้มีอีกมั้ย มึงเก็บเด็กไว้เถอะ ถ้าเกิดมาไม่มีเงินเลี้ยงหรือไม่อยากเลี้ยง กูเอาไปเลี้ยงให้เองก็ได้ “ “ มึงคิดดีๆ นะเจน เลือดเนื้อเชื้อไขของมึงเลยนะ ถ้ามึงไม่อยากให้ไอ้โอมเลี้ยงกลัวหลานเสียคน เดี๋ยวกูกับจีนช่วยเลี้ยงแทนเอง “ เพื่อนหนุ่มอีกคนก็พูดขึ้นมา พลอยเจนน้ำตาคลอจ้องหน้าเพื่อนทุกคนพลางเผยยิ้มอ่อน “ เห่อหลานกันจริงๆ เลยนะพวกมึง “ เธอกลั้นขำ แต่ก็ได้ไม่นานหน้าก็ซีดลงอีก “ กูยังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มบอกพ่อกับแม่ยังไงดี “ “ ทุกเรื่องมีทางออกหมดแหละไอ้เจน พ่อกับแม่มึง ท่านสองคนก็เป็นตากับยายของลูกในท้องมึงนะ พวกท่านคงไม่ใจร้ายกับหลานตัวเองหรอก “ หนึ่งเดียวทาบฝ่ามือลงบนบ่าเพื่อนสาว พูดปลอบเพื่อไม่ให้ว่าที่คุณแม่ต้องคิดมาก “ แล้วกี่เดือนแล้วเหรอ “ ไนยะถามคำถามใหม่ขึ้นเมื่อเห็นว่าคำถามเก่านั้นเธอไม่ยอมตอบเสียที “ เกือบจะ 3 แล้วแหละ “ คนถามพยักหน้าเข้าใจในทันที เพราะเขาพอจะเดาขึ้นมาได้บ้างแล้ว ว่าพ่อของเด็กคงจะเป็นคนที่เขากำลังคิดอยู่หลังจากนั่งคุยเล่นกับเพื่อนไปสักพักทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ พลอยเจนเองก็ขับรถกลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยเพลีย “ สงสัยจะได้หยุดปิดร้านสัก 2-3 วันไหมเนี่ย ทำไมช่วงนี้เหนื่อยง่ายจัง “ ขายาวก้าวลงจากรถเพื่อไปเปิดประตู เนื่องจากเธอกลับบ้านดึกแบบนี้ทุกวัน เลยไม่ได้ให้แม่บ้านรอเปิดประตูให้ “ โอ้ย อ้วก “ เมื่อเดินมาจนจะถึงประตู หญิงสาวก็รู้สึกพะอืดพะอม รีบก้มลงไปอ้วกที่มุมรั้ว แต่เมื่อเธออ้วกเสร็จเงยหน้าขึ้นกับหน้ามืดเซถอยหลัง วินาทีนั้นพลอยเจนตกใจมากเพราะกลัวจะทำตัวเองล้มหัวฟาด แต่เธอก็ยังโชคดีที่มีร่างใหญ่ของบางคนซึ่งยืนซ้อนอยู่ด้านหลังของเธอนานแล้ว หญิงสาวจึงได้ล้มลงไปใส่อกของเขา “ อาเจต! “ เจระวีตาเหลือกโผนเมื่อเงยหน้ามองแล้วเห็นว่าเป็นใคร เธอรีบดีดตัวออกจากเขา แต่กลายเป็นว่าหน้ามืดรีบรอบ ทำให้จิรกิตติ์ต้องรีบกอดเอวเธอเอาไว้ “ อยู่เฉยๆ สิ เดี๋ยวก็ล้มหัวฟาดหรอก นี่ดื่มเมามาเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตัวก็ไม่ได้มีกลิ่นเหล้านี่ “ คนพูดสูดดมไปตามซอกคอและต้นแขนของคนตรงหน้า “ คนทะลึ่ง อย่ามาทำแบบนี้นะ “ เธอเอียงหน้าไปดุเขา “ ทำไม ทำเยอะกว่านี้ก็เคยมาแล้วนี่ “ ใบหน้าโกรธปรากฏขึ้นมาบนหน้าสว
“ มีแฟนหรือยังเจน “ คำถามที่คนเป็นพ่อถามทำให้หญิงสาวสำลักนม “ เจน ..” จ๊ะจ๋าจึงได้รีบหยิบทิชชู่ส่งให้แก่ลูก ได้เช็ดหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำนมออก “ ทำไมพ่อถึงได้ถามแบบนี้คะ “ แสงรวีคิ้วชนกันเมื่อลูกตอบกลับมา เพราะเขาไม่ได้ถามคำถามนี้ครั้งแรก “ ก็ลูก 30 แล้วนะเจนควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้ว คบใครอยู่ห๊ะ บอกพ่อมาสิ ใช่หนึ่งในสองคนเพื่อนลูกหรือเปล่า “ แสงรวีถามขึ้นมาอย่างมีความหวังเพราะคิดเอาเองว่าลูกอาจจะแอบคบใครอยู่แต่แค่ไม่กล้าบอกตน “ ถ้าเป็นสองคนนั่นพ่อไม่ติดหรอกนะ คนไหนก็ได้ แต่ขอแค่รีบมาขอรีบแต่งเสียที “ พลอยเจนรีบส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้ “ โอ้ยพ่อ ไม่ค่ะ “ “ อ้าว ไม่ใช่สองคนนั้นเหรอ แล้วใครล่ะ พ่อเห็นผู้ชายที่พัวพันในชีวิตลูกส่วนมากก็มีแค่สามคนนั้นไม่ใช่หรือ หนึ่งเดียวก็แต่งงานไปแล้ว ก็เหลือไนยะกับโอมไม่ใช่เหรอ “ ตัวเขาเองเพิ่งจะกลับมาจากทำธุรกิจต่างแดน จึงไม่ทันได้รู้เรื่องคุณหมอไนที่เพิ่งจะแต่งงานไป “ ไม่เหลือสักคนแล้วค่ะพ่อ ไนเพิ่งจะแต่งงานไปเมื่ออาทิตย์ก่อน คุณแม่ก็ไปด้วยนี่ ไม่ได้เล่าให้กันฟังหรือคะ “ แสงรวีมองหน้าเมียที่กำลังพยักหน้าให้เขา “ เหรอ พ่อก็ไม่
“ เป็นยังไงแล้ว ไม่สบายตรงไหนไปหาหมอไหม “ คนเป็นพ่อที่เห็นว่าสองแม่ลูกหายกันมานานจึงได้เดินมาหา “ แล้วนี่เป็นอะไรกัน ร้องไห้เหรอ? “ ชายแก่จ้องหน้าลูกเมียด้วยความสงสัย “ กลับไปที่โต๊ะเถอะค่ะคุณ ลูกมีอะไรจะบอก “ จ๊ะจ๋าหันไปพูดกับสามีทำเอาลูกสาวตกใจ “ แม่คะ…” “ บอกพ่อไปเถอะลูก เชื่อแม่สิ “ เมื่อเป็นแบบนั้นทั้งสามจึงเดินกลับมาที่โต๊ะกินข้าว พลอยเจนยืนอ้ำอึ้งไม่ยอมนั่งลง “ อ้าว ทำไมไม่นั่งล่ะ ไหนบอกว่ามีอะไรจะบอกพ่อไง “ “ เจนว่า ยืนเอาก็ได้ค่ะ “ “ พูดอย่างกับจะไม่กินข้าว “ แสงรวีหัวเราะในลำคอเบาๆ แต่พอเห็นสีหน้าลูกเมียที่เหมือนจะไม่เล่นด้วยเขาจึงเงียบแล้วกลับสู่โหมดจริงจัง “ ไหน มีอะไรก็ว่ามา “ เขาถามลูกสาว มือก็คีบเครื่องเคียงบนโต๊ะจะเอาเข้าปาก “ เจนท้อง “ แสงรวีหยุดชะงัก รีบวางตะเกียบลงเสียงดัง “ อ้าว ไหนว่าไม่มีแฟนไง เจน!! “ คนเป็นพ่อลุกขึ้นตะคอกเสียงดัง “ มันหมายความว่ายังไงหะ “ พลอยเจนจ้องไปที่พ่อด้วยท่าทีสั่นกลัว “ เจนขอโทษ “ “ ขอโทษ? หมายความว่ายังไง! จะบอกว่าเด็กในท้องไม่มีพ่องั้นเหรอ! “ คนฟังน้ำตานองหน้า ถ้าเธอบอกไปว่าเป็นเขา พ่อต้องโกรธมาก พ่อจะไม
“ ก็หลานสาวสุดที่รักของแกไงเจต มันท้อง! “ จิรกิตติ์นิ่งอึ้งรีบหันไปจ้องหน้าหญิงสาว พลอยเจนที่กำลังจ้องเขาอยู่เช่นกันจึงรีบหลบหน้า “ มันไม่ยอมบอกว่าพ่อของลูกในท้องมันเป็นใคร! พี่ก็จะตีมันให้ตายคามือเลย หลีก“ แสงรวีผลักรุ่นน้องของเขาออก แล้วเตรียมฟาดไม้ใส่หลังลูกสาว เจตจึงรีบเข้ามาขวางไว้อีกครั้ง “ อย่า!! ในท้องเจนคือลูกผมเอง!! “ คนในบ้านเงียบไป แสงรวีจ้องมายังคนที่เขารักดั่งน้องชายด้วยแววตาผิดหวัง “ แกว่าอะไรนะ!! “ แสงรวีฟาดคันเบ็ดใส่เจตไปเต็มแรง “ ไหนแกบอกว่าหักห้ามใจได้แล้วไง ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้! ไอ้น้องเลว! “ “ ผมขอโทษพี่แสง จะตีจะฆ่ายังไงก็ได้ แต่ขอให้ทำผม อย่าทำเจนเลย ผมขอ “ “ ฮือ “ แสงรวีโมโหจัด ฟาดคันเบ็ดใส่จิรกิตติ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยความโมโห จนพลอยเจนทนมองไม่ได้ต้องรีบเข้ามาห้าม “ พ่ออย่านะคะ อย่า อาเจตไม่ได้ผิด เพราะถ้าคืนนั้นไม่ใช่เขาเจนก็คงไปทำกับคนอื่นอยู่ดี “ จิรกิตติ์ถึงกับหน้าซึม ไม่ใช่เพราะโดนตีแต่เขาเจ็บในสิ่งที่หญิงสาวพูด “ ทำไมทำตัวแบบนี้ห๊ะ!! แล้วนี่จะเอายังไงกัน “ “ เจนจะเอาเด็กออก “ “ ไม่ได้นะเจน! “ ทั้งแม่และเจตรีบร้องประสานเสียง
“ ถ้าแม่บอกว่าเขามีเหตุผล งั้นแม่ก็บอกเหตุผลของเขามาให้เจนรู้ได้มั้ยล่ะ “ พูดจบเจระวีก็กอดอกหันหน้าหนีไปทางอื่น “ ไว้เจน ไปถามอาเจตเอาเองเถอะลูก “ จ๊ะจ๋าก้มหน้าคอตก ไม่รู้จะพูดยังไงให้ลูกสาวเข้าใจ ก่อนจะมีมือใหญ่ยื่นมาสะกิดบนบ่าเธอ จ๊ะจ๋าหันไปจ้องก็เห็นว่าเป็นจิรกิตติ์ “ ขอผมคุยกับเจนเองนะครับ “ คนฟังพยักหน้าแล้วเดินออกไปปล่อยให้ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง “ ทำไมเจนถึงไม่อยากจะแต่งงานกับอา “ คนที่ยืนหันหลังให้อยู่สะดุ้งแล้วรีบหันมามองต้นเสียง “ ถามแปลก คนไม่ได้รักใครจะอยากแต่งด้วยล่ะ หรือคุณอาอยากเหรอคะ “ เธอถามเขากลับอย่างประชดประชัน เมื่อเขาตอบกลับเท่านั้นเล่นเอาเธออึ้ง “ อยากสิ “ เธอกำลังจะเคลิ้มแต่เขากลับเฉลยเหตุผลเสียก่อน หญิงสาวถึงกับเบี่ยงหน้าหนี “ เพราะอาอยากให้ลูกของอาได้ลืมตาดูโลก “ คนพูดจ้องหน้าหญิงสาวอย่างจับพิรุธ แต่เมื่อเห็นเธอเอาแต่เงียบ เขาจึงถามเธอขึ้น “ เจน คิดจะทำร้ายลูกจริงๆ เหรอ นั่นลูกของเจนเลยนะ “ คนสองใจที่กำลังลังเลเรื่องจะเก็บเด็กไว้ หรือ เอาออกก็เริ่มคิดได้ “ แต่เจนไม่อยากแต่งงาน แล้วพ่อก็ต้องไม่ยอมแน่ถ้าจะให้เจนท้องโตโดยไม่จัดงานแต่ง “ ถึงอย่างนั
“ เจนยอมแต่งครับ “ “ ห๊ะ! แล้วไปพูดท่าไหนเนี้ย ปกติเห็นเจนตั้งท่าจะเกลียดแกยิ่งกว่าอะไรดี “ แสงรวีที่ตกใจรีบหลุดปากถาม เจตจึงมีเพียงส่งยิ้มอ่อนให้ “ เอาเป็นว่าตามนั้นแหละครับพี่แสง ไว้เย็นนี้เราค่อยมาคุยกันใหม่ ผมต้องไปบริษัท “ “ ไม่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนเหรอ “ จ๊ะจ๋าชักชวน คนฟังก็รีบส่ายหน้า “ ไม่เป็นไรผมทานมาแล้ว ไปนะครับ “ ลาทั้งคู่เสร็จเขาจึงเดินออกไป ทำให้สองผัวเมียที่ยังอยู่หันมาจ้องหน้าแล้วคุยกันถึงเรื่องของทั้งสอง “ คุณคิดว่าเจนคือพราวมาเกิดใหม่จริงมั้ยคะ “ คนที่ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหลือบมองเมียของเขา ตอนได้ยินในสิ่งที่เธอถาม “ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน “ “ แต่ฉันเริ่มจะเชื่อขึ้นมาแล้วนะคะ พราวอาจจะกลับมาหาเจตจริงๆ ก็ได้ “ แสงรวีถอนหายใจแรงแล้วหันมาพูดกับเมียน้ำเสียงเด็ดขาด “ จะยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ลูกของเราคือเจน ไม่ใช่พราว แล้วก็หวังว่าเจตจะเห็นเจนเป็นพลอยเจนเหมือนกัน ผมไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจ “ จ๊ะจ๋าได้ฟังเช่นนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ “ อือ จริงด้วยค่ะ ลูกของเราไม่ใช่ตัวแทนของใครสักหน่อย “ เจระวีคาเฟ่ พลอยเจนที่กำลังช่วยพนักงานจัดโต๊ะอยู่ รีบหยิบมือถือท
“ เจนไปไหนแล้วล่ะ “ จิรกิตติ์ทำการเก็บจานชามในห้องเสร็จ เดินออกมาก็ไม่เห็นหลานสาวตัวแสบแล้ว เขาจึงหันไปถามกับน้องพนักงาน “ มุกเห็นพี่เจนขับรถออกไปนานแล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าไปไหนเหมือนกัน พอดีมุกไม่ได้ถามไว้ “ เมื่อได้ยินแบบนั้นคนถามก็พยักหน้าเข้าใจ เจนไปทำอะไรที่ไหนอีกนะ เขาเริ่มจะกังวลแล้วสิ อพาร์ทเม้นท์ แห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากเจระวีคาเฟ่เท่าไหร่นักในห้อง 305 มีร่างของพลอยเจนนั่งอยู่บนเตียง ในมือถือโทรศัพท์ต่อสายหาแฟนสาวที่กำลังจะได้กลายเป็นแค่พี่น้อง [“ ฮัลโหล พี่เจนในที่สุดพี่ก็โทรมา คิตตี้คิดว่าพี่เทคิตตี้ไปแล้ว “] ปลายสายตอบกลับเธอมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงตื่นเต้น “ มาหาหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย ตอนนี้รออยู่ที่ห้องของเรา “ พูดจบเธอก็ตัดสาย เธอไม่อยากจะให้ความสัมพันธ์นี้ไปต่อแล้ว ในเมื่อคนรักไม่ซื่อสัตย์ ก็ควรจะจบ เพราะเรื่องที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้คงไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับหญิงสาวได้เคลียร์ใจแล้วไปต่อได้อีก มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาน้อยๆ ที่หยดลงมาบนใบหน้า บ้านรุณรวี “ คุณเจตมาหรือยังตูน “ จ๊ะจ๋าที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวถามกับแม่บ้านที่เพิ่งเดินออกไปจัดโต๊ะอาหารที่ห้องกิ
“ เมื่อไหร่เจนจะกลับมาเนี้ย “ คนเป็นแม่บ่นหลังจากเอาอาหารมาตั้งโต๊ะหมดแล้วยังไม่เห็นหน้าลูกสาวโผล่มา “ เถลไถลแต่เล็กจนโตจริงๆ ลูกสาวคนนี้ “ แสงรวีเห็นอาการกระวนกระวายของเมียก็รีบร้องปราม “ อย่าไปรอเลย สงสัยคงไม่มาแล้วแหละ มากินข้าวกันเถอะ “ ระหว่างที่ทุกคนกำลังจับช้อนส้อม เสียงมือถือของจิรกิตติ์ก็ดังขึ้น เขาจึงขอตัวลุกจากโต๊ะออกไปรับสาย แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครเขาก็แปลกใจไม่น้อย เพราะหลานสาวคนนี้ไม่ได้โทรหาเขาแบบนี้นานแล้ว [“ ฮัลโหล ถ้าตอนนี้คุณอยู่กับพ่อแม่เจนละก็ รีบเงียบปากไว้เลยนะ “] เมื่อรับสายเขาก็โดนเธอขู่เสียงแข็ง “ ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า “ [“ รถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล “] “ ห๊ะ!!! “ จิรกิตติ์ร้องออกมาด้วยความตกใจ มือไม้สั่นไปหมด [“ อย่าบอกพ่อแม่เจนเด็ดขาดเลยนะ เจนไม่อยากโดนด่า แล้วคุณก็มารับเจนด้วย “] “ ก็ได้ ๆ “ เมื่อหญิงสาววางสายไป จิรกิตติ์ที่ตอนนี้จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวก็รีบวิ่งกลับไปหาพี่ชายพี่สาวที่โต๊ะกินข้าว “ พี่แสงพี่จ๊ะจ๋า พอดีผมมีงานด่วน ต้องขอตัวก่อนนะครับ “ ไม่ทันที่จะให้ทั้งคู่ได้ซักถามเจตก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้านของเขาทันที “ อ้า
“ เป็นยังไงบ้าง เจต พราว “ แสงรวี รุ่นพี่ของเจตและพราวซึ่งมีอายุห่างกัน 5 ปี ทั้งสามสนิทสนมกันมากเนื่องจากบ้านอยู่ไม่ไกลกันนัก แถมแสงรวีก็คอยมาช่วยสอนหนังสือให้น้องทั้งสอง ทำให้ทั้งสามสนิทกันมากเป็นพิเศษ “ อ้าวพี่แสงมาได้ยังไงครับ “ เจตเดินเข้ามาทักพร้อมรับของฝากจากมือพี่ชาย “ พอดีพี่พาพี่จ๊ะจ๋าไปหาหมอมานะ เลยมาแวะดูเราสองคน “ “ พี่จ๊ะจ๋าเป็นอะไรคะ หรือว่าจะคลอดแล้วเหรอ “ พราวฟ้ารีบวิ่งออกมาช่วยประคองคนท้องมานั่งในบ้าน แววตาของพราวนั้นสดใสดีใจที่จะได้เห็นหน้าหลาน ในขณะที่เจระวีเองก็มองพ่อแม่วัยหนุ่มสาวด้วยความชอบใจ “ ยังหรอก เพิ่งจะแปดเดือนกว่าๆ เอง “ จ๊ะจ๋ายิ้มตอบน้องสาว พราวฟ้าก็มีท่าทีร่าเริงแล้วถามกับพี่สาวพี่ชายออกมา “ แล้วพวกพี่สองคนได้ตั้งชื่อหลานไว้หรือยังคะ “ จ๊ะจ๋าเงยหน้ามองแสงรวีแล้วหันมาส่ายหน้าให้คนถาม “ ยังเลยจ้ะ พอดีพวกพี่ยังไม่รู้เพศลูกกัน เลยยังไม่รู้ว่าควรจะตั้งชื่อว่าอะไรดี “ จ๊ะจ๋าบอกมือก็ลูบท้องของตัวเอง จนเจระวีที่มองอยู่ก็รู้สึกดีซาบซึ้งแปลกๆ และเหมือนว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่พราวเป็นในตอนนั้นด้วย “ หลานคงจะโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพวกพี่
“ อือ “ เจระวีรู้สึกตัวขึ้นบนเตียง ไม่ทันที่เธอจะได้นึกคิดหรือสังเกตอะไรร่างของเธอก็ลุกจากเตียงไปอย่างกระฉับกระเฉง เหมือนกับว่าเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ เจระวียืนมองภาพของตัวเองตอนนี้ในกระจก ก็เห็นว่าเธอใส่ชุดนักเรียนอยู่ พร้อมกับความรู้สึกที่ว่านี้คือตัวเธอแต่ก็ไม่ใช่เธอ ‘ นี่มันอะไร เรามาอยู่ในชุดนี้ได้ยังไง แล้วที่นี้มันที่ไหน ไม่ใช่บ้านเรานี่ ‘ เจระวีสงสัย แต่ร่างกายก็ไม่ได้ขยับตามท่าทีที่เธอต้องการ เหมือนกับว่าเธอควบคุมไม่มันได้ แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น “ อีพราว! มึงลงมานี้เดี๋ยวนี้ “ เสียงตะโกนร้องขึ้นมาจากด้านล่างทำให้เจระวีตกใจ พราวเหรอ? หมายความว่าไง เจระวีได้แต่นึกคิดในระหว่างนั้นร่างกายนี้ของเธอก็รีบวิ่งลงไปข้างล่าง “ พ่อ มีอะไรจ๊ะ “ ร่างกายพูดคุยกับคนตรงหน้าโดยที่เจระวีไม่ได้ควบคุมอะไร เธอได้แต่จ้องมองชายแก่ที่ดูเหมือนว่าจะเมามาย มองมาทางนี้ด้วยความโกรธ เพียะ! ฝ่ามือใหญ่ตบมาที่หน้าของหญิงสาว เจระวีปวดแสบปวดร้อนรู้สึกเจ็บไปกับร่างนี้ด้วย แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงควบคุมร่างกายนี้ไม่ได้ ไม่งั้นตาแก่ตรงหน้าคงได้เจอกันสักตั้ง เจระวีได้แต่โมโหแล้วมองเห
บ้านรุณรวี “ อ้าว นี่แม่ยังไม่นอนเหรอคะ “ พลอยเจนเดินเข้ามาในบ้านเห็นแม่นั่งชะเง้อคอรออยู่ จึงได้เดินเข้าไปนั่งด้วย “ แล้วน้องแจมหลับแล้วเหรอแม่ “ จ๊ะจ๋าพยักหน้าให้คำถามของลูก “ ใช่ หลับไปตั้งแต่หัวเย็นคุณตาเขานอนเฝ้าอยู่บนห้องนู้น แม่มีเรื่องจะคุยกับเจน ช่วงนี้เจนได้ไปหาเจตที่โรงพยาบาลบ้างมั้ย “ พลอยเจนได้ฟังแบบนั้นเธอก็ถอนหายใจแรง “ ที่ผ่านมาเจนก็แวะไปหาเขาทุกวัน ยังไม่เห็นว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเลย “ คนพูดมีท่าทีเคืองๆ นิดหน่อย เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ ที่ว่าจิรกิตติ์เห็นเธอเป็นตัวแทนของพราวฟ้าก็ยังไม่เคลียร์เลย แถมยังจะมามีเรื่องนี้อีก เขาไม่ยอมตื่นขึ้นมาจะได้ปีหนึ่งอยู่แล้ว ใจคอจะปล่อยเธอทำงานหนักแล้วก็เลี้ยงลูกคนเดียวไปจนถึงเมื่อไหร่ “ เจน ลูกคิดอะไรอยู่ หืม? “ หญิงสาวรีบหันไปจ้องหน้าแม่ “ เจนไม่อยากจะรอแล้วค่ะแม่ ไม่รู้ว่ามันจะต้องนานอีกแค่ไหน “ “ ..งั้นแม่จะเล่าอะไรให้ฟังนะ “ จ๊ะจ๋าได้สังเกตลูกสาวมาหลายเดือนแล้วเธอเป็นห่วง สุขภาพจิตใจของลูกวันนี้จึงอยากจะมาเล่าอะไรบ้างอย่างให้ลูกสาวฟัง เผื่อว่ามันจะทำให้พลอยเจนมีกำลังสู้ต่อไป ซึ่งพลอยเจนได้ยินแบบนั้นเธอก็นั่งเงียบจ
“ ว่าอย่างไร คุณประธานบริษัทคนสวย “ เมื่อเห็นคนที่กำลังรอก้าวขาเข้ามาในห้อง เพื่อนๆ ที่รออยู่ก็แซวใหญ่ “ จะให้ว่ายังไงล่ะ ก็เหนื่อยน่ะสิ “ พลอยเจนปลดกระเป๋าสะพายลงแล้วนั่งลงข้างๆ ครีมหอมพร้อมกับถอนหายใจโล่งอกที่วันนี้มันผ่านไปได้สักที มือของเธอก็พลันหยิบกล่องของขวัญออกมาจากกระเป๋า “ ของขวัญเรียนจบสำหรับน้องสาวคนสวยของพี่ค่ะ “ ครีมหอมตาโตแสดงท่าทีดีใจออกมา แล้วรีบรับเอาโดยไม่ลืมเข้าสวมกอดและหอมพลอยเจนเพื่อเป็นการขอบคุณ จนเสี่ยโอมเริ่มไม่พอใจรีบดึงเมียออก “ พอแล้วครีม มันบาดตาบาดใจพี่นะ โอ้ย “ เสี่ยเลยโดนแฟนสาวหันมาหยิกแขนให้ด้วยความหมั่นไส้ แล้วครีมหอมก็หันกลับไปยิ้มให้พลอยเจน มือเล็กยกขึ้นพนมไหว้แนบอกพี่สาว “ ขอบคุณมากๆ นะคะพี่เจน ขนาดงานยุ่งยังมีเวลาหาของขวัญมาให้น้องด้วย “ “ ครีม “ เสี่ยโอมรีบกอดเอวเมียให้ขยับออกมาหาเขา แม้ว่าพลอยเจนจะแต่งงานมีผัวเขาก็ไม่ไว้ใจ ดูสายตามันสิ หยุดแพรวพราวได้สักที่ไหน “ ไว้ครีมจะมาช่วยงานนะคะพี่เจน พรุ่งนี้เลยก็ได้ “ คนฟังขมวดคิ้ว “ แล้วเสี่ยโอมของน้องจะยอมเหรอ “ คนถูกโยงถอนหายใจแรง “ ถ้าครีมต้องการฉันจะขัดอะไรได้ล่ะ ที่สำคัญมึงก็ยังล
9 เดือนต่อมา ที่คาเฟ่เจระวี “ ยินดีด้วยนะครีม เรียนจบสักทีแบบนี้ก็แต่งงานได้แล้วสิ “ จีนเน่เดินเข้ามาทักครีมหอมซึ่งนั่งรออยู่กับเสี่ยโอมในห้องนั่งเล่นประจำของพวกเขาก่อนที่คนอื่นๆ จะเดินตามเข้ามา “ ครีมไม่รีบหรอกค่ะพี่จีน ความจริงยังไม่คิดอยากจะแต่งด้วยซ้ำ “ เสี่ยโอมถึงกับจ้องหน้าเมียด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เขาอุตส่าห์รอเธอมาตั้ง 3 ปีเลยนะ ทำไมถึงพูดแบบนี้ “ แล้วนี้ยัยเจ้าของร้านไปไหนแล้วล่ะ “ ไนยะเข้ามานั่งตรงข้ามเสี่ยโอม แล้วถามหาอีกคนที่ควรจะอยู่แต่ไม่อยู่ คนที่นั่งหน้ายุ่งงอนแฟนสาวอยู่จึงได้ตอบ “ วันนี้มันเข้าไปดูงานที่บริษัท บอกว่าตอนนี้กำลังจะออกมา “ ไนยะพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่เสี่ยโอมพูด “ สงสารพี่เจนนะคะ ต้องเลี้ยงทั้งลูกต้องไปบริษัทให้อาเจตแถมยังต้องมาดูแลคาเฟ่อีก พี่เจนเป็นผู้หญิงที่โคตรแกร่งเลย “ ณิหลาเป็นคนพูดขึ้น ทุกคนที่ได้ฟังก็คิดแบบเดียวกับที่ณิหลาคิด “ อืม ครีมว่าถ้าวันไหนว่างครีมมาช่วยงานที่ร้านนี้ให้พี่เจนดีไหม ยังไงทุกวันนี้ครีมก็ยังไม่ได้ทำงานยู่แล้ว “ นางแบบคนสวยของเสี่ยโอมหันหน้าไปถามเขา เสี่ยเองก็มองเมียด้วยแววตานิ่งๆ เมื่อไหร่เธอจะรู้ตัวว่าเขางอนในส
โรงพยาบาล ร่างของพลอยเจนนั่งร้องไห้อยู่กับจีนเน่ ไม่นานพ่อกับแม่ของเธอก็รีบวิ่งเข้ามาหา “ เจน เจนลูก “ จ๊ะจ๋ารีบมานั่งข้างลูกสาวแล้วสวมกอดลูกของเธอเอาไว้ “ แม่ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ เจนยังไม่ทันได้คืนดีกับเขาเลยนะ ทำไมเขาถึงได้ทำแบบนี้ “ “ ไม่เอาสิเจน ไม่ร้องไห้นะลูก เจตต้องปลอดภัยสิเชื่อแม่ “ จ๊ะจ๋าพยายามจะปลอบใจลูกที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนไม่มีแม้เสียง จีนเน่เองก็รีบยื่นมือมากุมมือเพื่อนไว้ “ ใช่เจน มึงตั้งสติก่อนนะ ไนมันเก่งมันต้องช่วยให้อาเจตคืนกลับมาหามึงกับลูกได้แน่ “ สักพักเสี่ยโอมกับหนึ่งเดียวก็วิ่งเข้ามาสมทบหลังจากไปจัดการจับนกน้อยส่งตำรวจ ในอ้อมแขนของเสี่ยโอมก็อุ้มหลานสาวตัวน้อยที่พลอยเจนฝากกับมุกดาไว้ที่ร้านมาด้วย ทารกน้อยก็กำลังร้องไห้เหมือนรับรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น “ เอาน้องแจมมาให้พ่อนะลูก “ แสงรวีเดินเข้าไปอุ้มเอาหลานจากเสี่ยโอม เสี่ยจึงได้เดินมาหาเพื่อนรักของเขา “ ไม่เป็นอะไรนะเจน มึงอย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลเลย อาเจตต้องรอดกลับมา “ “ ใช่ มึงดูจากพวกกูสิทั้งโดนซ้อมโดนแทงโดนปืนเข้าโรงพยาบาลปางตายกันก็ยังกลับมาได้เลย กูเชื่อว่าอาเจตเองก็ต้องเข้มแข็งกลับมาอย
“ แง แอ “ พลอยเจนหาวนอนพยายามโอ๋ลูกนานแล้วแต่ทารกน้อยก็ไม่ยอมเงียบสักที เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว จนแม่แบบเธอที่เห็นก็สงสาร หญิงสาวหันไปมองจิรกิตติ์ซึ่งยื่นมือมาจับที่แขนของลูก ตัวเล็กกลับนิ่งแล้วค่อยๆ หยุดร้องไห้ “ ส่งลูกให้อาเถอะ แล้วเจนก็ไปนอนได้แล้ว “ พลอยเจนที่เห็นว่าลูกคงอยากจะให้พ่ออุ้มมากกว่าเธอ จึงยอมส่งลูกให้เขาเพราะคงไม่มีแม่คนไหมทนเห็นลูกร้องไห้ไม่หยุดแบบนี้ได้หรอก “ ลูกพ่อ ร้องไห้ทำไมครับ ทำแบบนี้ไม่ดีเลย คุณแม่เขาตกใจนะ “ เมื่อลงไปอยู่ในอ้อมแขนของพ่อ ลูกสาวก็เงียบไปนอกจากจะไม่ร้องไห้ยังยิ้มมีความสุขอีก ทำเอาพลอยเจนที่นั่งมองอยู่หมั่นไส้ เขาทำแบบนี้กะจะไม่ให้เธอพาลูกไปจากเขาได้ใช่มั้ย แล้วถ้าวันหนึ่งไม่มีเขาเธอจะต้องทำอย่างไรล่ะ เช้าของวันต่อมา เวลา 05:13น. พลอยเจนตื่นงัวเงียลุกขึ้น เธอมองซ้ายมองขวาก็เห็นว่าลูกสาวกำลังนอนอยู่ในเปลแต่พ่อของลูกเธอไม่รู้ว่าหายไปไหน “ ทำไม เจตต้องกลับไปหานกนะ! “ “ เสียงใคร “ พลอยเจนรู้สึกว่ามีเสียงโวยวายดังอยู่หน้าร้าน เธอจึงลุกแล้วเดินออกไปดู “ คุณกลับไปซะ เราจบกันไปตั้งนานแล้วนี่คุณยังจะกลับมาวุ่นวายอะไรอีก “ “ ไม่!นกไม่กลับ
“ เจน! เดี๋ยว!เจน “ จิรกิตติ์มาถึงร้านในตอนที่พลอยเจนกำลังจะปิดประตูพอดี เขาจึงรีบวิ่งเข้ามาเอามือจับประตูไว้ “ มาทำไม “ เธอถามเขาเสียงแข็ง “ อาเป็นห่วง กลับไปนอนที่บ้านเราเถอะนะเจน นี่เจนเกลียดอาขนาดถึงขั้นพาลูกออกมานอนข้างนอกแบบนี้เลยเหรอ “ “ เจนไม่อยากเห็นหน้าคุณ เพราะเจนรู้สึกว่าสายตาของคุณไม่ได้มองเจนเป็นพลอยเจนอีกแล้ว แต่คุณมองเจนเป็นคนอื่น “ เจระวีตะคอกเสียงดังใส่หน้าเขา จนจิรกิตติ์ก็ได้แต่หงอยเหงา ที่โดนดุ “ เจน อารักเจนในแบบที่เจนเป็นนะ แล้วก็เป็นห่วงมากด้วย ฟังกันก่อนได้มั้ย “ “ ไม่ฟัง ถ้าเจนไม่บังเอิญไปหน้าเหมือนคนที่ชื่อพราว คุณก็จะรักเจนอย่างนั้นสิ “ คำถามนี้ทำเอาเขายืนเงียบอีกรอบ “ คุณก็ตอบเจนไม่ได้! “ มือเล็กดึงประตูสุดแรงเพื่อจะปิดมัน แต่เขาก็ยังดันไว้ “ แต่เจนก็คือเจนนะ ถ้าเจนไม่หน้าเหมือนพราวอาก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นยังไง แต่อาก็รักเด็กหัวดื้อคนนี้จนมาถึงตอนนี้แล้วไง เรามีลูกด้วยกันแล้วนะพลอยเจน “ หญิงสาวจ้องตาเขาแล้วแสยะยิ้ม “ หือ ปล่อย! “ มือของเธอออกแรงดึงประตูอีกรอบพลันยกขาขึ้นตีนถีบยอดอกของสามีจนเขาล้มหงายหลัง แล้วเธอจึงปิดประตูได้ “ เจน!
“ พี่เจน มุกกับพี่ชัยกลับก่อนนะคะ “ เมื่อถึงเวลาเลิกงานมุกดาก็เดินเข้ามาลาพลอยเจนในห้องพัก “ จ้ะ “ พลอยเจนที่กำลังนั่งจ้องลูกสาวหลับอยู่จึงได้เงยหน้าขึ้นหันไปพยักหน้าให้คนข้างนอก “ ว่าแต่พี่เจนจะกลับกี่โมงคะ มันจะดึกแล้วนะ “ มุกดาถามเธอมาด้วยความเป็นห่วง แต่พลอยเจนก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะเธอยังไม่ทันได้คิดไว้ “ อีกสักแป๊บเนี้ยแหละ “ ถึงอย่างนั้นเธอก็ตอบส่งๆ ออกมาเพื่อไม่ให้มุกดาต้องห่วง มุกดาจึงส่งยิ้มตอบแล้วหันหลังไปเจอเข้ากับคุณจ๊ะจ๋า ที่กำลังเดินมาทางนี้ “ สวัสดีค่ะ “ มุกพนมมือไหว้ตามมารยาทจากนั้นจึงก้มหน้าแล้วเดินออกไป ส่วนจ๊ะจ๋าก็มุ่งหน้าเดินเข้ามาในห้องที่ลูกกับหลานสาวอยู่ “ แม่ “ พลอยเจนที่เห็นแม่เดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับเธอ ก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อย ส่วนคนเป็นมารดาก็มองไปที่คนตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับที่ลูกสาวนั่งอยู่ “ อาเจตบอกให้แม่มานี่เหรอคะ “ จ๊ะจ๋ารีบละสายตาจากหลานแล้วเงยหน้าขึ้นมองพลอยเจน “ แล้วเจนเป็นอะไรถึงได้หอบลูกหนีมาแบบนี้ล่ะ “ “ เจนว่าแม่คงจะรู้จากอาเจตแล้วนะคะ “ สองแม่ลูกจ้องตากัน พลอยเจนน้ำตาซึมเพราะเกิดอาการน้อยใจ ทั้งที่พ่อแม่ก็น