Share

เจ้าถูกบุตรหลานหลอกเสียแล้ว

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-06-05 02:12:39

นางทั้งสองหารายชื่อจางเฉิงอยู่นานก็ไม่พบ นางฮั่วซื่อที่คิดว่าต้องมีความผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะหลานชายของนางมักจะพูดทุกครั้งที่กลับหมู่บ้านว่าครั้งนี้เขาต้องสอบได้ จึงทำให้นางปักใจเชื่อเช่นนั้น

“นายท่าน เหตุใดไม่มีชื่อจางเฉิง หรือว่ารายชื่อตกหายเจ้าคะ” นางเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ ที่ยืนเฝ้าใบประกาศไว้

สายตาเจ้าหน้าที่มองมาที่นางอย่างดูแคลน หากไม่มีรายชื่อก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าสอบไม่ผ่าน นางจะมาเอ่ยถามเช่นนี้ได้อย่างไร

“หากไม่มีชื่อก็คือสอบไปผ่าน” เขายังเอ่ยตอบนางอย่างใจเย็น

“เป็นไปไม่ได้ ต้องเกิดเรื่องผิดพลาดอย่างแน่นอน อาเฉิงบอกว่าเขาสอบได้ จะไม่มีรายชื่อได้อย่างไร” ชาวบ้านเริ่มมองมาที่นางฮั่วซื่อและนางหงซื่ออย่างตำหนิ

ทั้งสองขวางไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปดูรายชื่อ ทั้งยังส่งเสียงโวยวายเสียงดังไม่เกรงใจผู้อื่นสักนิด

“ยายเฒ่า หลานชายเจ้าบอกว่าเขาสอบผ่านก็ต้องผ่านเช่นนั้นรึ” เจ้าหน้าที่เริ่มจะหมดความอดทนกับความดื้อรั้นของนาง

อาจารย์จ้าวที่มีคนไปแจ้งเรื่องมีสตรีมาโวยวายเรื่องผลสอบหน้าสำนักศึกษาก็รีบร้อนเดินออกมาดู ก็พบว่านางฮั่วซื่อกับนางหงซื่อกำลังจะดึงกระดาษที่ติดประกาศไว้ออก

ทั้งเจ้าหน้าท
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ผู้ใดจะกล้าถามเขา

    เซี่ยเหลี่ยงและเต๋อหมิงที่ได้ฟังเรื่องราวของหลินเยว่ ว่านางถูกนางเจินซื่อวางยาเกือบตาย ก่อนที่จะส่งตัวไปแต่งเข้าเรือนตระกูลจางก็โกรธแค้นจนดวงตาของทั้งสองแดงก่ำ“เดรัจฉาน นางกล้ารังแกเจ้าถึงเพียงนี้” เซี่ยเหลี่ยงตบโต๊ะจนเสียงดังลั่น“ตอนนี้นางก็ได้รับโทษแล้วเจ้าค่ะ” หลินเยว่บอกกล่าวเรื่องที่ตระกูลจางต้องย้ายไปอยู่ทางตอนใต้ของแคว้น“หึ เอาเถิด หากข้าพบเจอนางอีกครั้ง คอยดูว่าข้าจะจัดการนางเช่นไร” ในเมื่อไม่พบเจอก็แล้วไป หากมีวันใดที่ได้พบเจอ เขาจะชำระแค้นที่เกาหยวนและเจินซื่อได้ทำกับบุตรสาวและหลานของเขาเองเพราะการเดินทางที่ยาวนานหลายวัน ทำให้เซี่ยเหลี่ยงที่อายุมากแล้วเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย ไหนจะเรื่องอาการป่วยของไป๋ซื่ออีกหลินเยว่จึงได้ให้ท่านตา ท่านลุงของนางเข้าไปพักผ่อนที่เรือนหลักเสียก่อน เมื่ออยู่ด้วยกันสี่คน เว่ยอ๋องที่อยากจะรู้มิติของหลินเยว่เป็นเช่นไร ก็บังคับให้นางพาเขาเข้าไปด้านใน“อาเยว่ เจ้าให้อารุ่ยกับเซียวเซียวเข้าไปด้านในได้ แล้วเหตุใดไม่ให้เปิ่นหวางเข้าไปด้านใน” เขากอดอกมองนางอย่างไม่พอใจ“เหอะ ท่านเป็นอันใดกับข้าเล่า ถึงอยากจะให้ข้าพาเข้าไปในมิติส่วนตัว” นางมองเขาอย่างเช่น

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตามาช้าเกินไป

    หลินเยว่ยู่ปากอย่างไม่พอใจ หากเทพชะตาบอกว่ามีสมุนไพรล้ำค่าอยู่ภายในมิติ นางคงจะนำออกมาขายแล้วใช้เป็นทุนเปิดร้านเองไปแล้ว“ท่านน่าจะบอกข้าให้เร็วกว่านี้ ข้าจะได้นำไปขาย”“หึ ก็เจ้ามิเคยถาม”“เอาเถิด น้ำในลำธารช่วยรักษาอาการของท่านยายได้หรือไม่เจ้าคะ”“ย่อมได้ เจ้านำน้ำออกไปให้นางแช่ อาการป่วยเรื้อรังของนาง หรือแม้แต่อาการบาดเจ็บภายในของท่านตาเจ้าและท่านลุงเจ้าก็จะหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น แต่จำไว้ว่าต้องแช่เจ็ดราตรี หากไม่มีเรื่องอันใดแล้วข้าไปละ”“ขอบพระคุณท่านมากเจ้าค่ะ” หลินเยว่นางคุกเข่าลงคำนับให้เทพชะตาสามครั้ง ซูเซียวนางก็ทำเช่นกัน“เช่นนั้น ออกไปด้านนอกดีหรือไม่” ซูเซียวทนรอไม่ไหวที่จะให้ท่านย่าของนางได้แช่น้ำ“ได้ แต่คงต้องแช่กลางคืนใช่หรือไม่ ก็ท่านเทพชะตาบอกว่า ต้องแช่เจ็ดราตรี”“ก็คงจะต้องเป็นเช่นนั้น”เมื่อทั้งสองออกมาด้านนอก นางก็เดินไปดูไป๋ซื่อที่ห้องพักของนาง ตอนนี้นางยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าที่ไร้สีเลือดทำให้หลินเยว่นางปวดใจยิ่งนัก“ท่านให้สาวใช้ออกไปก่อนได้หรือไม่” หลินเยว่หันไปกระซิบบอกความกับซูเซียวเพราะคนพวกนี้ไม่ใช่คนของนาง หากนางยังไม่เชื่อใจก็ไม่แปลกนัก“พวก

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตระกูลเซี่ยมาเยือน

    หลินเยว่เม้มปากแน่น นางกลัวว่านางจะร้องไห้ออกมาจนทำให้พวกเขาแปลกใจ คุณตาคุณยายของนางในภพก่อน เสียชีวิตลงก่อนที่นางจะประสบความสำเร็จเพราะพ่อกับแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลนาง จึงได้ส่งนางไปอยู่กับพวกท่านตั้งแต่ยังเล็ก“อาเยว่” เลี่ยงรุ่ยเอ่ยเรียกนางเมื่อเห็นว่าตัวนางสั่นน้อยๆ พร้อมทั้งดวงตาที่แดงราวกับกำลังฝืนไม่ให้น้ำตาไหลออกมาซูเซียวนางก็มองสำรวจอยู่ที่หลินเยว่เช่นกัน นางก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะตอนที่นางมาถึง เมื่อเจอคนในตระกูลเซี่ยนางยังไม่มีอาการเช่นนี้ หรือว่าจะเป็นความรู้สึกโหยหาความรักของเจ้าของร่างเดิม“เอ่อ วะ ว่าอย่างไร” นางหันไปหาเลี่ยงรุ่ย“เจ้าเป็นอันใดหรือไม่”“ไม่ข้ามิได้เป็นอันใด เจ้าพาผู้ใดมา” นางก้มหน้าลงเพื่อซ่อนอารมณ์เมื่อครู่แต่ก่อนที่เว่ยอ๋องจะเอ่ยบอกว่าทั้งหมดคือคนตระกูลเซี่ย ไป๋หว่านอี้ที่เดินทางมาหลายวัน และนางก็มีอาการไม่สู้ดีหลายวันแล้ว ได้หมดสติลงก่อนที่จะเข้าไปในเรือน“คุณยาย!!!” หลินเยว่วิ่งเข้าไปหานางทันที“อาเยว่ พายายเจ้าเข้าเรือนเสียก่อน” เว่ยอ๋องร้องบอกนางที่ตอนนี้ไม่อาจควบคุมสติได้ตัวเขาก็แปลกใจเช่นกัน หลังจากที่อยู่กับนางมาหลายเดือน ไม่เคยเห็นนางมีท่าท

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง

    หลินเยว่นางไม่รู้เลยว่าท่านตาท่านยายของนางกำลังเดินทางมาหานางที่หานตง ตอนนี้นางยังคงทำสินค้าออกมาส่งให้เหมยฮวาเช่นเดิมยิ่งนับวันเหมยฮวาก็ต้องการสินค้าเพิ่มมากกว่าเดิม นางจึงไม่คิดจะทำสินค้าตัวใหม่ออกมา เพราะเพียงแค่เพิ่มการผลิตนางก็ไม่อาจจะทำสิ่งใดออกมาขายเพิ่มแล้ว“หาซื้อคนเพิ่มดีหรือไม่ขอรับ” พ่อบ้านฟู่เอ่ยถามออกมาอย่างกังวลเพราะยอดที่ร้านจินเซียงขอสั่งสบู่เพิ่มอีกเดือนละสองหมื่นก้อน เป็นตอนนี้หลินเยว่นางต้องทำสบู่ออกมาส่งกลิ่นละสามหมื่นก้อนต่อเดือนไหนจะยาสระผมกับครีมนวดที่ขอเพิ่มจากเดิมห้าพันขวดเป็นสองหมื่นขวด ผู้ใดจะทำได้ทัน ยังไม่พูดถึงลิปสติกที่หลินเยว่นางห้ามเหมยฮวาไว้ก่อน เพียงเท่านี้นางก็ไม่อาจทำได้ทันแล้ว“ท่านลุงคิดเห็นเช่นไรเจ้าคะ” ไม่ใช่ว่าตอนนี้คนที่มีอยู่จะทำไม่ทัน เพียงแต่ทุกคนต้องเหนื่อยไม่น้อย อีกอย่างเสี่ยวถิงนางก็คงไม่อาจช่วยงานหนักได้อีกแล้วนางช่วยทำได้เพียงแกะสบู่ออกมาตัดเท่านั้น เพราะหลินเยว่กลัวว่าหากนางเข้าไปช่วยตุ๋นสบู่จะกระทบหลานของนางในครรภ์ได้“ฮูหยินซื้อบ่าวเพิ่มอีกสักสองครอบครัวเถิดขอรับ”หลินเยว่มองไปรอบเรือนที่หลังไม่ได้ใหญ่ พอจะให้คนมาอยู่เพิ่มอีก

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตระกูลเซี่ย

    การทะเลาะที่ใหญ่โตของทั้งสามคน ทำให้ชาวบ้านไปตามเจ้าหน้าที่มาจัดการ จางซุนจำต้องพาทั้งหมดเดินทางกลับไปที่หมู่บ้าน เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นลูกจ้างคนอื่นที่อยู่ในร้านข้าวสาร ในตอนแรกเขาก็เพียงแค่สงสัยว่าเหตุใดจางซุนจึงดูร่ำรวยผิดปกติ พอได้ฟังคำที่นางหงซื่อพูดออกมาก็เข้าใจได้ทันทีเช่นนี้ผู้ใดจะไม่อยากได้ความดีความชอบเล่า หากจางซุนถูกไล่ออกหรือถูกเจ้าของร้านจับเข้าคุก พวกตนคนใดคนหนึ่งต้องได้ขึ้นมาเป็นหลงจู๊แทนอย่างแน่นอนเมื่อคิดได้เช่นนี้ พวกเขาจึงได้เขียนสารแจ้งไปยังเจ้าของร้านตัวจริงที่เมืองหลวงทันทีเลี่ยงรุ่ยกับหลินเยว่เมื่อกลับมาถึงเรือนก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นของตระกูลจางจากเซี่ยหมิ่นและเสี่ยวถิง ทั้งสองต่างเล่าเรื่องราวกันอย่างออกรสชาติ“พอๆ เลย พี่หมิ่น ท่านทบทวนตำราไปถึงไหนแล้ว เมื่อสำนักศึกษาเปิดให้เรียนข้าจะส่งท่านไปเรียน” นางขี้เกียจฟังปัญหาของครอบครัวอื่นยิ่งเป็นเรื่องของตระกูลจาง นางยิ่งไม่อยากรับรู้ ต่อให้พวกเขาฆ่ากันตายก็ไม่ใช่เรื่องของนาง“เอ่อ น้องสาวคนดี ไม่เร็วไปหรือที่จะให้พี่ไปเข้าเรียนตอนนี้” เขาเรียกนางเสียงหวานอย่างเอาใจเซี่ยหมิ่นผู้ที่ประมาณตน เขารู้สึกว่า

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   เจ้าถูกบุตรหลานหลอกเสียแล้ว

    นางทั้งสองหารายชื่อจางเฉิงอยู่นานก็ไม่พบ นางฮั่วซื่อที่คิดว่าต้องมีความผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะหลานชายของนางมักจะพูดทุกครั้งที่กลับหมู่บ้านว่าครั้งนี้เขาต้องสอบได้ จึงทำให้นางปักใจเชื่อเช่นนั้น“นายท่าน เหตุใดไม่มีชื่อจางเฉิง หรือว่ารายชื่อตกหายเจ้าคะ” นางเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ ที่ยืนเฝ้าใบประกาศไว้สายตาเจ้าหน้าที่มองมาที่นางอย่างดูแคลน หากไม่มีรายชื่อก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าสอบไม่ผ่าน นางจะมาเอ่ยถามเช่นนี้ได้อย่างไร“หากไม่มีชื่อก็คือสอบไปผ่าน” เขายังเอ่ยตอบนางอย่างใจเย็น“เป็นไปไม่ได้ ต้องเกิดเรื่องผิดพลาดอย่างแน่นอน อาเฉิงบอกว่าเขาสอบได้ จะไม่มีรายชื่อได้อย่างไร” ชาวบ้านเริ่มมองมาที่นางฮั่วซื่อและนางหงซื่ออย่างตำหนิทั้งสองขวางไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปดูรายชื่อ ทั้งยังส่งเสียงโวยวายเสียงดังไม่เกรงใจผู้อื่นสักนิด“ยายเฒ่า หลานชายเจ้าบอกว่าเขาสอบผ่านก็ต้องผ่านเช่นนั้นรึ” เจ้าหน้าที่เริ่มจะหมดความอดทนกับความดื้อรั้นของนางอาจารย์จ้าวที่มีคนไปแจ้งเรื่องมีสตรีมาโวยวายเรื่องผลสอบหน้าสำนักศึกษาก็รีบร้อนเดินออกมาดู ก็พบว่านางฮั่วซื่อกับนางหงซื่อกำลังจะดึงกระดาษที่ติดประกาศไว้ออกทั้งเจ้าหน้าท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status