로그인“โอเค!...ผมผิดเองครับ!...เพราะผมเสียงดังใส่เธอและเรียกลุงชัดให้มาลากเธอออกไปจากที่นี่...” สิ้นเสียงคำตอบของคริสต์ ดวงตาของคุณหญิงศศิธรและเขมิกาเปิดกว้างอย่างคาดไม่ถึง
“เขม!...น้าอยากจะเป็นลม!!!” เสียงของคุณหญิงศศิธรดังขึ้นมา
“คุณแม่ พี่เขม มันจำเป็นมากเหรอครับที่ต้องเป็นเรื่องนี้ เราเปลี่ยนไปหาบทประพันธ์เรื่องอื่นมาสร้างเป็นละครก็ได้นะครับ...บอกตามตรงนะครับ ผมไม่อยากร่วมงานกับคนที่ไร้ความเป็นมืออาชีพแบบนั้น”
“คริสต์!!!....แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์เป็นคนแบบนี้นะ...การเปลี่ยนเรื่องมันใช่! ว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหา แต่เป็นการแก้ปัญหาแบบหนีปัญหา แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์ทำแบบนี้ ไม่รู้ล่ะ!!! งานนี้คริสต์ต้องเป็นคนแก้ปัญหานี้ให้ได้เพราะเราเป็นคนก่อและสร้างมันขึ้นมา และอีกอย่างไม่ใช่เฉพาะช่องของเรานะที่ต้องการเรื่องนี้มาสร้างเป็นละคร แต่ที่เราได้และขยับได้มาไกลกว่าช่องอื่น เพราะแม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับคุณประจักษ์เจ้าของสำนักพิมพ์ข้อเขียน แม่จะเสียผู้ใหญ่ไม่ได้ และคุณประจักษ์บอกเพียงว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เจ้าของผลงานทั้งนั้น...”
Grrrr Grrrr กอหญ้าที่กำลังลงจากรถหลังจากจอดเรียบร้อย ล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายหยิบโทรศัพท์ ที่ดัังอย่างต่อเนื่อง
“กิ๊ก!...” กอหญ้ากรอกเสียง เมื่อหน้าจอแสดงภาพคนที่โทรเข้ามา
“เป็นไงบ้าง?...”
“คุณกิ๊ก! เพื่อนสาว ดีขึ้นแล้วเหรอ?” กอหญ้าเลี่ยงไม่ตอบคำถามเพื่อน ที่ต่างเข้าใจกันดีว่า กิ๊ก โสภิตา อยากทราบผลการสรุปว่าเธอตกลงเซ็นสัญญากับทางช่องมั้ย?
“ก็ดีขึ้นมากแล้ว...แล้วเป็นไงบ้าง...เล่ามาหน่อยสิ”
“วันมะรืนนี้ ฉันและก็แกที่ยังป่วยอยู่ มีสอบปลายภาค สนใจเรื่องนี้ก่อนมั้ย?” กอหญ้าเลี่ยงที่จะบอกเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องนึกถึงผู้ชายที่มีดีแต่หน้าตาคนนั้น...คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์... “...ฉันไม่มีทางที่จะให้ผลงานของฉันต้องแปดเปื้อนกับคนนิสัยอย่างนายแน่นอน...” กอหญ้าคิดในใจ ในขณะหูก็ฟังเสียงเพื่อนสาวที่กำลังจามเพราะอาการไข้หวัด
“แล้วบอกหน่อยไม่ได้เหรอไง คนมันอยากรู็และเป็นห่วงแกมาก...” กิ๊ก บ่นร่ายยาว ถามกลับอย่างเป็นห่วง
“…กิ๊ก!!! เพื่อนสาว หญ้าอายุครบยี่สิบเอ็ดแล้วนะ! ซึ่งถึงแม้จะไม่เท่ากับแก...หญ้าก็ดูแลตัวเองได้ และหญ้าก็กลับมาถึงคอนโดอย่างปลอดภัย...ไปพักผ่อนซะ!!! และถ้านอนไม่หลับก็ไปหยิบหนังสือมาอ่านทบทวน ถึงกิ๊กจะเรียนเก่ง ถึงเก่งมาก แต่ก็ไม่ควรประหลาด เดี๋ยวไอ้สิ่งที่หวังไว้ เกียรตินิยม มันจะหลุดไป....”
“คนอุตส่าห์เป็นห่วง...” กิ๊กบ่นอุบอิบ ใช่! เธอต้องได้เกียรตินิยม และเธอต้องพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้คนสำคัญที่นอกเหนือจากพ่อ เห็นว่าเธอไม่ใช่คนประเภทที่อารมณ์พาไป เธอรักเขาจริงๆ
“...ไว้เรียนให้จบ โตขึ้นอีกหน่อย...ถ้าถึงตอนนั้นกิ๊กยังไม่เปลี่ยน ตอนนั้นเราค่อยมาคุยกันอีกครั้ง...” คำพูดของผู้ชายที่เธอสารภาพรักเมื่อสี่ปีก่อน ซึ่งกิ๊กไม่มีวันลืม นี้ก็เหลืออีกไม่กี่วันเธอก็จะจบ แน่นอนเธอจบแน่ๆ แต่เธอจะเอาเกียรตินิยม เป็นของขวัญให้กับเขาคนนั้น คนที่เป็นรักแรกของเธอ และตอนนี้เธอก็ยังรักเขาอยู่
“…รู้ค่ะ คุณแม่....” กอหญ้าเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อปลายสายหัวเราะ คริ คริ กับสรรพนามคำเรียกของเธอ ที่เป็นที่ถูกใจของเพื่อนสาวนัก
“คุณกอหญ้ากลับมาเร็วจังครับ”
“พอดีวันมะรืนนี้ หญ้ามีสอบเลยอยากกลับมาอ่านหนังสือนะคะ...รบกวนลุงด้วยนะคะ” ลุงหวังพยักหน้าอย่างเข้าใจกันกับประโยคหลังของกอหญ้า เพราะรถที่กอหญ้าใช้วันนี้ จะเป็นหน้าที่ของลุงหวังที่ต้องไปคลุมรถให้กับเธอเป็นประจำทุกครั้ง....
“ไม่มีปัญหาครับ...” กอหญ้ากล่าวขอบคุณ และขอตัวกลับขึ้นห้องไป
‘สองสัปดาห์ต่อมา....’
“คริสต์เป็นอะไรว๊ะ!...ทำหน้ายังกับคนเบื่อโลก!” กัณฑ์ เอ่ยถามคริสต์ ที่คืนนี้มาปรากฎตัวที่ผับของตัวเอง หลังจากที่หายหน้าไปกว่าสองสัปดาห์
“หาคนไม่เจอ...” คริสต์ตอบกลับเพื่อน และหยิบเครื่องดื่มสีอำพันที่พนักงานนำเสิร์ฟให้ในห้องวีวีไอพี ของผับแห่งนี้ คริสต์กับกัณฑ์เป็นเพื่อนกันตอนประถมที่คริสต์กลับมาอยู่เมืองไทยสองปีและทั้งสองก็เจอกันอีกครั้งที่อเมริกา จากตอนแรกที่แค่คุ้นๆ แต่เมื่อรู้จักกันมากขึ้นทำให้ทั้งสองระลึกได้ถึงความเป็นเพื่อนสมัยประถม ซึ่งกัณฑ์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่น้อยนิดที่รู้ว่า คริสต์ เป็นคนแบบไหน...
“หาคน?...ใครว๊ะ?”
“นักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า ‘กอหญ้า’...”
“ไม่เข้าใจว๊ะ...หาไม่เจอยังไง”
“คุณแม่ ต้องการให้ฉันเล่นละคร เรื่อง ‘พ่ายกลซาตาน’ แต่......” คริสต์เล่าเรื่องราวให้กัณฑ์ฟัง
“ค่อยยังชั่ว...คิดว่าตายทั้งๆที่ยังหายใจอยู่” คริสต์พูดพร้อมกับยิ้มออกมา “บ้าเหรอเปล่าคุณนะ!...ตบเข้ามาได้...ฉันก็เจ็บเป็นนะ” “ใครจะไปรู้ล่ะ!...แหย่เล่นแค่นี้ถึงกับช็อคไปเลย...”“แหย่เล่น?...คนบ้านี้คุณหลอกฉันเหรอ?...” คริสต์รีบลงจากเตียง เมื่อหญิงสาวกำลังจะดึงหมอนมาฟาดเขา คริสต์ยืนยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่ลุกขึ้นมานั่ง แต่ไม่ลืมที่จะดึงผ้าห่มกระชับกายมากขึ้น แต่ใครเล่าจะเข้าใจ ‘รอยยิ้ม’ แบบนั้นของคริสต์คงไม่มี นอกจากเจ้าตัว.... คริสต์เดินเข้าห้องน้ำไป... กอหญ้ามองตามจนคริสต์หายเข้าไปในห้องน้ำ สายตาก็เริ่มทำงานในภารกิจแรกทันที คือมองหาเสื้อผ้าของตนเอง ‘ว่างเปล่า’ “บ้าจริง!....ป่านนี้ยายกิ๊กคงเป็นห่วงแย่แล้ว” กอหญ้าพึมพำกับตัวเอง เมื่อเธอหาเสื้อผ้าของตัวเองไม่เจอ เธอขยับตัวอย่างระมัดระวังและรวบผ้าห่มที่คลุมกายกระชับมากขึ้นและจัดให้ขาของเธอสามารถเดินได้ กอหญ้าเห็นเครื่องมือสื่อสารของคริสต์วางไว้ เธอรีบคว้าขึ้นมาและกดเพื่อเปิดหน้าจอ...ล็อค!...มันล็อค...แน่นอนมันต้องล็อค!...เอาว๊ะ!!! “คุณ!...ก็อกๆๆๆ....ได้ยินฉันม
ทางด้านกิ๊ก ที่เอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ของเพื่อนสาว หวังว่าจะมีการติดต่อกลับมา แต่นี้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ที่เธอเดินกระสับกระส่ายไปมาในห้อง คอนโดของเพื่อนสาวหลังจากที่เธอต้องเป็นฝ่ายไปขยับรถของเพื่อนออกจากผับที่เกิดเรื่องเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กรูกันเข้ามา แต่จากที่เธอเฝ้ามองกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกทางเจ้าหน้าคุมตัวไม่มีแม้แต่เงาเพื่อนสาว “หญ้า!....แกไปอยู่ไหน?....แกต้องไม่เป็นอะไร...แล้วฉันจะเอาหน้าไปเจอ... ‘เขาคนนั้น’...ได้ยังไง?...ช่วยติดต่อกลับมาสักทีเถอะ”‘รุ่งอรุณ...เช้าวันใหม่’ กอหญ้าที่ขยับตัวหลังจากได้พักผ่อนอย่างเต็มที่...คิ้วบางเริ่มขมวดเข้าหากันทีละน้อยเมื่อดวงตาบ่งบอกถึงเชื้อชาติเริ่มพบสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นตา ดวงตาเบิกกว้างขึ้น เมื่อสติเริ่มเข้าครอบครองสมอง เมื่อสมองเริ่มทำงาน มือบางเลิกผ้าห่มเล็กน้อย ดวงตาคมที่เบิกกว้างอยู่แล้วกว้างขึ้นอีก เมื่อกอหญ้าเริ่มรับรู้ว่าตัวเองเกือบเปลือยเปล่า เธอสวมเพียงบิกินี่ปกปิดสิ่งล้ำค่าของความเป็นหญิงของเธอเพียงชิ้นเดียว เนื่องจากกอหญ้าไม่ใช่คนขี้ตกใจอะไร แต่สำหรับเรื่องนี้มันเกินกว่าที่เธอจะไม่ตกใจไม่ได้....สา
“คริสต์!!!...” กัณฑ์ที่ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับการ์ด “...แกต้องออกจากที่นี่...เดี๋ยวเจ้าหน้าที่กำลังเข้ามา...อ้าว!...เฮ้ย!!!...ใครว๊ะ?” กัณฑ์ที่จะเข้ามาพาเพื่อนออกจากที่นี่ ก็เจอกับหญิงสาวที่สวมเกาะอกสีดำกับกางเกงยีนต์สีเข้มเข้ารูป นอนไม่ได้สติอยู่บนโซฟาตัวยาว “ไม่รู้ว๊ะ!...น่าจะโดนลูกหลงจากเหตุการณ์ข้างนอก” “แกต้องรีบออกจากที่นี่นะ!...แล้วเอาไงกับผู้หญิงคนนี้” คริสต์หันไปมองใบหน้าหวานที่สลบไม่ได้สติ เธอคงตกใจมากจนหมดสติ “คงต้องเอาไปด้วย...ฟื้นแล้วค่อยว่ากัน” คริสต์ที่ตัดสินใจแล้วก็ขยับช้อนตัวอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขน กัณฑ์พยักหน้าให้ลูกน้องเมื่อเพื่อนพร้อมแล้ว คริสต์อุ้มกอหญ้าที่ไม่ได้สติเดินไปยังทางออกหลังร้าน ที่รถของกัณฑ์จอดอยู่ กัณฑ์ขอกุญแจรถของคริสต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าและส่งกุญแจคอนโดของตัวเองให้กับคริสต์ “คืนนี้แกไปพักที่คอนโดฉันก่อน ส่วนรถของแกเดี๋ยวฉันให้เด็กขยับไปจอดที่อื่น...ขอโทษด้วยว๊ะ!...” คริสต์ที่เข้ามานั่งเบาะหลังโดยมีกอหญ้าอยู่ในอ้อมแขน บอกกัณฑ์ว่าไม่เป็นไร “...พาคุณคริสต์ไปส่งที่คอนโดฉัน...” ป
Grrrr Grrrr กอหญ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเสียงเครื่องมือสื่อสารของนักศึกษาที่เธอช่วยไว้ดังขึ้นมา “…ขอเสียมารยาทนะคะ...” กอหญ้ากล่าวออกมาพร้อมกับหยิบเครื่องมือสื่อสารของเพื่อนนักศึกษาออกมา “คุณพ่อ...” กอหญ้ากรอกเสียงตามคำที่โชว์ตามหน้าจอ และเมื่อปลายสายขานรับ เธอแจ้งเรื่องราวให้ทราบโดยทันที... และผลสรุปออกมาก็คือ เพื่อนนักศึกษาคนนั้น มีอาการแพ้อาหารทะเล และจากการซักถามเธอคงไปทานบางอย่างที่ไม่รู้ว่ามีหอยแมลงภู่เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย จึงทำให้อาการกำเริบอย่างที่เห็น และตั้งแต่วันนั้น กอหญ้า กับ กิ๊ก ก็เป็นเพื่อนที่สนิทและเป็นที่ปรึกษาของกันและกันมาโดยตลอด การสังสรรค์ เฮฮาของเหล่านักศึกษาที่ไม่ใช่มีเพียงกลุ่มของพวกเธอ เพราะคลับแห่งนี้ในคืนนี้เต็มไปด้วยกลุ่มวัยรุ่นมากมาย กอหญ้า และ กิ๊ก ก็สนุกไปกับเพื่อนๆที่ทั้งร้องและเต้นกันตามประสา “กิ๊ก...หญ้าไปห้องน้ำก่อนนะ” กอหญ้าหันไปกระซิบกับเพื่อนสาว “ฉันไปเป็นเพื่อน” “ไม่เป็นไร...ห้องน้ำไกล้แค่นี้เอง...ฝากกระเป๋าด้วย” กอหญ้าเดินออกไปจากกลุ่ม เพื่อไปยังห้องน้ำ “...ว้า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า....ฉันอยากเห็นนักเขียนคนนี้จริงๆ...ตั้งแต่รู้จักแกมา ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่ ‘กล้า หือ กล้า หา’ กับแกเลย” “ยายเด็กบ้านั้น...ปากจัดขนาดนั้น...ใครจะคิดว่าจะเป็นนักเขียน” “เด็กมากเลยเหรอว๊ะ...” กัณฑ์ถามกลับอย่างสงสัย “ไม่รู้ว๊ะ...ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว ฉันยังหาเด็กนั้นไม่เจอเลย...คุณแม่กับพี่เขม ถามความคืบหน้าแทบทุกวัน...” “แล้วที่สำนักพิมพ์ละว๊ะ?” “นี่ก็แปลกมาก!...ไม่มีใครสามารถให้คำตอบฉันได้เลยว๊ะ...เขาบอกแต่ว่าเธอไม่เข้า มีอะไรให้ฝากข้อความไว้ จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้รับข้อความตอบกลับเลย...ไม่รู้อะไรกันนักหนา” คริสต์พูดจบ พร้อมกับนำน้ำสีอำพันกรอกเข้าปากลงคออย่างคนที่กำลังเซ็งสุดๆ “เท่าที่ฟังแกมา...ฉันเห็นด้วยว๊ะ แปลกจริง ดูมันมีลับลมคมนัยมาก...แล้วแกจะทำยังไงต่อ?...ถ้าเรื่องนี้หลุดจากช่องของแกไป คุณป้ากับพี่เขมคง ส่งค้อนใส่แกวันละหลายๆอันแน่...” “…ทุกวันนี้ ฉันก็ได้รับจนแทบจะแบกไว้ไม่ไหวแล้ว...” คริสต์คำรามออกมา กัณฑ์ได้แต่ยิ้ม และนึกภาพออกทันที เพราะถ้าคุณหญิงศศิธร
“โอเค!...ผมผิดเองครับ!...เพราะผมเสียงดังใส่เธอและเรียกลุงชัดให้มาลากเธอออกไปจากที่นี่...” สิ้นเสียงคำตอบของคริสต์ ดวงตาของคุณหญิงศศิธรและเขมิกาเปิดกว้างอย่างคาดไม่ถึง “เขม!...น้าอยากจะเป็นลม!!!” เสียงของคุณหญิงศศิธรดังขึ้นมา “คุณแม่ พี่เขม มันจำเป็นมากเหรอครับที่ต้องเป็นเรื่องนี้ เราเปลี่ยนไปหาบทประพันธ์เรื่องอื่นมาสร้างเป็นละครก็ได้นะครับ...บอกตามตรงนะครับ ผมไม่อยากร่วมงานกับคนที่ไร้ความเป็นมืออาชีพแบบนั้น” “คริสต์!!!....แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์เป็นคนแบบนี้นะ...การเปลี่ยนเรื่องมันใช่! ว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหา แต่เป็นการแก้ปัญหาแบบหนีปัญหา แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์ทำแบบนี้ ไม่รู้ล่ะ!!! งานนี้คริสต์ต้องเป็นคนแก้ปัญหานี้ให้ได้เพราะเราเป็นคนก่อและสร้างมันขึ้นมา และอีกอย่างไม่ใช่เฉพาะช่องของเรานะที่ต้องการเรื่องนี้มาสร้างเป็นละคร แต่ที่เราได้และขยับได้มาไกลกว่าช่องอื่น เพราะแม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับคุณประจักษ์เจ้าของสำนักพิมพ์ข้อเขียน แม่จะเสียผู้ใหญ่ไม่ได้ และคุณประจักษ์บอกเพียงว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เจ้าของผลงานทั้งนั้น...”







