ตกดึกวันเดียวกัน
"คุณวานิลครับ"
"อ้าว นายยังไม่กลับอีกเหรอ"
"ผมอยากจะชวนคุณวานิลไปนั่งรถน่ะครับ เดี๋ยวผมแวะไปส่ง"
"ฉันไว้ใจนายได้ขนาดนั้นหรือไง?"
"ก็ถ้าเกิดอันตรายขึ้น ผมก็จะเป็นคนรับแทนก่อนที่คุณวานิลจะเจ็บตัว"
"แค่คำพูด ใครๆ ก็พูดได้ ฉันไม่เชื่อคนง่ายรู้ไว้ด้วย"
"ดะ เดี๋ยวครับ!"
"....." เธอถูกจับแขนไว้ขณะที่กำลังจะเดินหนี หันกลับไปมองด้วยสายตาที่เย็นชา ทำให้อีกฝ่ายต้องรีบปล่อยมือออกไปทันที
"ผมขอโทษครับ ผมแค่อยากชวนไปนั่งรถด้วย"
"นายก็ไปชวนคนอื่นสิ"
"แต่ผมอยากชวนคุณวานิล"
"รู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นคนยังไง"
"ไม่รู้ครับ แต่ผมไม่ได้จะทำอะไรไม่ดี"
"......"
"สาบานได้เลยครับ ผมไม่ทำอะไรแน่นอน ถ้าผมทำไม่ดี ให้คนของคุณวานิลมายิงผมได้เลยครับ ถ้าผมทำอะไรคุณวานิลไป ผมก็ไม่มีชีวิตรอดอยู่แล้ว ผมจะทำไปเพื่ออะไรล่ะครับ"
"งั้นฉันขอถาม ทำไมนายอยากชวนฉันเที่ยว? คนอื่นก็มี"
"ก็คำตอบเดิมครับ เพราะเป็นคุณวานิล ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงไม่ชวน"
"เอาตามตรง ฉันไม่ชอบอ้อมค้อม"
"ผมชอบคุณ..."
"....." พอได้ยินประโยคสั้นๆ แค่นั้นสีหน้าของวานิลก็เปลี่ยนไปทันที เธอไม่คิดว่าจะถูกสารภาพคำพูดแบบนี้ต่อหน้า เธอไม่ได้คิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้ ไม่คิดว่าภายนอกที่หยิ่งยโสของเธอจะสามารถดึงดูดใครได้
"คุณวานิลครับ รถพร้อมแล้วครับ" ขณะเดียวกันเรนก็เข้ามาซะก่อน
"เรน..นายกลับไปก่อน ฉันจะไปกับเด็กคนนี้"
"คุณวานิล.."
"จำไว้นะเรน ถ้าฉันเป็นอะไรไป นายตามหาผู้ชายคนนี้ ถอนมันออกให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่ราก" วานิลพูดอย่างจริงจัง เพราะเธออยากรู้ว่าถ้าเธอพูดขู่แบบนี้แล้วจะเป็นยังไง ถ้ากลัวหรือตกใจนั่นก็แปลว่า คิดที่จะทำอะไรแน่นอน
"อย่าไปเลยนะครับคุณวานิล"
"แต่ฉันจะไป ขอบใจที่เป็นห่วงนะ แต่ฉันดูแลตัวเองได้ นายกลับไปพักผ่อนเถอะ"
พอได้ยินคำตอบที่หนักแน่นของเจ้านาย ชายหนุ่มก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงจะเป็นห่วงเจ้านายมากแค่ไหนแต่ก็ขัดไม่ได้อยู่ดี เขาจ้องมองไปที่ชายหนุ่มหน้าตาดีตรงหน้า ดวงตาแข็งกร้าวเอาเรื่อง
"ถ้าคุณวานิลเป็นอะไรไป ฉันตามฆ่าล้างโคตรแกแน่"
"....."
"ไปพักผ่อนเถอะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้"
"ครับ"
เรนคือลูกน้องคนสนิทที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่ที่เจ้านายคนเก่ายังอยู่ ด้วยความที่อยู่ด้วยกันมานานจึงมีความสนิทสนมกัน และผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายมาด้วยกัน และรู้ว่าเจ้านายต้องเจออะไรมาบ้าง จึงเป็นห่วงเจ้านายอยู่ตลอดแม้ตอนนี้เธอจะไม่ใช่เด็กแล้วก็ตาม
วานิลนั่งซ้อนท้ายไปกับศรัณย์ ชายหนุ่มขับรถด้วยความเร็วจนกระทั่งมาถึงสถานที่ที่ต้องการอยากให้เธอมาเที่ยวด้วย มันเป็นริมทะเลแสนเงียบสงบ น้ำทะเลสีคราม บวกกับเสียงคลื่นทะเล มันเงียบสงบดีไม่น้อย และตรงนี้ไม่มีใครเลยนอกจากทั้งสองคน ราวกับเขารู้ว่าเธอชอบความเงียบสงบแบบนี้
"ทะเล...นายพาผู้หญิงมาเที่ยวบ่อยหรือไง"
"เปล่าครับ"
"ทำไมถึงอยากพาฉันมา?"
"ก็แค่อยากพามาครับ"
"....." เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี และไม่เข้าใจไปมากกว่านั้นคือ อะไรที่ทำให้เธอยอมตกลงมากับผู้ชายคนนี้
มันเป็นเพราะอะไร เพราะเธอสนใจในตัวของผู้ชายคนนี้ หรือแค่อยากลองของ อยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไร
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ สิ่งเลวร้ายที่เธอเคยเจอมา มันหล่อหลอมให้เธอต้องกลายเป็นคนเข้มแข็ง ไม่กลัวแม้กระทั่งความตาย
"มานั่งตรงนี้สิครับ"
"......" หญิงสาวเดินไปนั่งที่ม้านั่ง และมองดูคลื่นทะเลที่กำลังซัดเข้าฝั่ง
"หนาวหรือเปล่าครับ"
"นิดหน่อย"
เพราะชุดที่เธอใส่มันเป็นชุดเดรสสายเดี่ยว และปกติเธอก็มักจะใส่แบบนี้อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
ชายหนุ่มลุกขึ้นถอดเสื้อคลุมแขนยาวตัวนอกของตัวเองออก และคลุมให้กับหญิงสาวตรงหน้า
"สูบบุหรี่ไหมครับ?"
"อืม..."
ทั้งสองนั่งสูบบุหรี่อยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างเงียบ มีเพียงเสียงพ่นควันบุหรี่เท่านั้น
"หน้าตาก็ดีทำไมไม่ไปเป็นดารา" เป็นครั้งแรกที่วานิลเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นก่อน
"หน้าตาดีแต่ประวัติไม่ดีใครเขาอยากจะรับล่ะครับ"
"ทำไม?"
"ที่ผมบอกว่า ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงานเพราะผมมีประวัติไม่ค่อยดี"
"ทำไมถึงมีประวัติไม่ดี"
"ตอนที่อายุสิบเจ็ดผมเคยถูกจับ แต่เพราะผมยังเป็นเยาวชนอยู่ เลยถูกส่งตัวไปอยู่สถานพินิจ ไม่ได้เรียนต่อ แม่ผมก็ต้องวิ่งเต้นหาเงินมาประกันตัวสู้คดี ต้องยืมเงินญาติพี่น้อง คนใกล้ตัว ต้องไปกู้แม้กระทั่งพวกเก็บดอกเบี้ยรายวัน เป็นหนี้สินท่วมหัวเพราะเรื่องนี้"
"นายทำอะไรผิด"
"ผมไม่ได้ทำผิด ผมแค่ตกเป็นแพะ ที่บังเอิญไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วยต่างหาก"
"......" วานิลไม่ได้ตอบอะไร แต่เหตุการณ์มันก็ให้คล้ายกับของเธอเลย เพียงแต่ตอนนั้นเธอไม่ใช่เยาวชน เธอเลยได้ติดคุกสำหรับผู้ใหญ่ และก็ไม่ได้มีใครมาวิ่งเต้นช่วยประกันตัว ไม่มีพยาน ไม่มีหลักฐานที่จะสื่อว่าเธอบริสุทธิ์ เธอเลยต้องรับในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ
"ที่ที่ผมเคยอยู่เป็นสลัม ที่มีแต่เรื่องผิดกฎหมาย ยาเสพติด อาวุธดัดแปลงขาย ค้าประเวณี หลายอย่างที่ผมต้องเจอ แต่แล้วจู่ๆ ตำรวจก็ลงพื้นที่ จับพวกวัยรุ่นที่ทำงานผิดกฎหมายไป ผมก็เลย...โดนไปด้วย"
"นายก็เลยมีประวัติไม่ดีไปเลย"
"ครับ...พอออกมาจากสถานพินิจ ผมก็ต้องทำงานหาเงินใช้หนี้ที่แม่ไปวิ่งเต้นกู้ยืมเขาเพื่อมาช่วยผม"
"......"
"หลังจากนั้นไม่นานแม่ผมก็จากไป ผมก็เลยย้ายออกไปอยู่คนเดียว หนีพวกเจ้าหนี้"
"ยิ่งหนีนายจะยิ่งโดนหนักนะรู้ไหม" เธอรู้เพราะเป็นประสบการณ์ตรง จากที่คลุกคลีอยู่กับคนพวกนี้มานาน และก็มีไม่น้อยที่ต้องตายเพราะไม่มีเงินจ่ายดอกที่ขูดเลือดขูดเนื้อแบบนั้น
"รู้ครับ แต่ผมหาเงินไปคืนให้จนหมดแล้ว แต่ก็ไม่รู้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตอนไหน ทั้งที่ก่อนหน้ามันแค่นี้ พวกมันกะจะโกงผม กะจะให้ผมจ่ายดอกพวกมันเรื่อยๆ ผมคืนเท่าที่ยืมมา ผมก็เลยหนีครับ"
"อืม...ระวังตัวด้วยละกัน พวกนี้ถ้ามันเจอ มันไม่เอาไว้แน่"
"ครับ"
เวลาต่อมาสนามบินประเทศไทย"ระวังนะครับตะวัน" ฉันร้องห้ามลูกชาย เมื่อลงมาจากเครื่องเจ้าตัวก็วิ่งไปรอบๆ เหมือนกำลังตื่นเต้น ก็ปกติแหละสำหรับเด็กที่เพิ่งจะได้ออกมาจากโลกของตัวเอง ตะวันไม่เคยไปเที่ยวไหนไกลขนาดนี้มาก่อนเลย"มันแปลกตามากเลยครับแม่""ตะวันครับตะวัน""ปล่อยเถอะครับ แกยังไม่เคยเห็น คนของผมก็อยู่กันเยอะแยะ เขาไม่ปล่อยให้นายน้อยของเขาคลาดสายตาหรอก""....." ฉันไม่ได้ตอบอะไร ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ แต่คนเป็นแม่อ่ะ ยังไงก็ห่วงลูกอยู่แล้ว"รถจอดอยู่ทางนี้ครับ" ลูกน้องของเขาเดินมาบอก"มากันเถอะครับนิล ตะวันครับมาขึ้นรถเร็ว""ครับคุณพ่อ"สมกับเป็นเขาจริงๆ นะ แค่เจ้านายกลับมาจากต่างประเทศ ลูกน้องนี่ขนกันมารุมล้อมต้อนรับราวกับว่าจะมีคนมาดักทำร้ายงั้นแหละ ฉันอุตส่าห์จะกลับมาอย่างเงียบๆ แต่นี่คงไม่เงียบแล้วล่ะจะว่าไปหลายปีที่ฉันไม่เคยได้กลับมา อะไรต่อมิอะไรมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกันเลยนะเนี่ย มันดูแปลกตาไปเยอะเลย แม้บางอย่างจะอยู่ที่เดิม แต่ก็ปรับเปลี่ยนไปไม่ใช่น้อย"เราจะไปที่ไหนกันครับคุณพ่อ""บ้านของพ่อไงครับ""แล้วแม่นิลมีบ้านที่นี่ไหมครับ""มีครับ""เราจะไปเที่ยวไหนกันบ้างค
เช้าแสนสดใสของวันรุ่งขึ้น"เฮือก!!" วานิลสะดุ้งตื่น เธอรีบลุกขึ้นและมองรอบๆ ตัวเอง พอเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นจนสว่างจ้าแล้วเธอก็รู้ได้ทันทีว่า มันสายมากแล้ว "รัณ!"ร่างบางรีบลุกขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดู ให้ตายสินี่มันจะสิบโมงแล้ว เธอนอนตื่นสายขนาดนี้ได้ยังไงกัน"ให้ตายสิโอ้ย! ตื่นสายได้ยังไงวะเนี่ย!" เธอบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่กำลังเร่งรีบแต่งตัว เพราะเธอจะลงไปสภาพแบบนี้ไม่ได้หรอกพอแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบเดินออกไปที่ประตู แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เปิดออกไปประตูก็ถูกผลักเปิดเข้ามาซะก่อนแกร๊ก~"คุณ!""ตื่นแล้วเหรอครับ ผมว่าจะขึ้นมาดูอยู่พอดี" ศรัณย์พูด"ตะวันล่ะคุณ?""ไปเรียนแล้วครับ""ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ นี่ฉันสายเลยนะ ไหนจะต้องเปิดร้านอีก""ไม่เห็นต้องเร่งรีบเลยครับ พนักงานของคุณเขาจัดการกันเรียบร้อยหมดแล้วนะครับ""....""ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วครับ ลงมากินข้าวสิ ผมเตรียมให้แล้ว""เฮ้อ...ตกใจหมด!""ตกใจทำไมครับ มีผมอยู่ทั้งคนนะครับ""ปกติฉันเป็นคนไม่ตื่นสายนะ เล่นมาตื่นสายแบบนี้ ใครบ้างจะไม่ตกใจ""มากินข้าวเถอะครับ""อืม..."วานิลรีบเดินตามศรัณย์ลงไปด้านล่าง เขาทำอาหารไว้ให
"อุ๊บ! อื้อ!!~"วานิลทำตัวไม่ถูก จู่ๆ ศรัณย์ก็โน้มหน้าลงมาจูบปากกับเธอ เรียวลิ้นสอดเข้าไปในปากเล็ก ตวัดไปมาเหมือนควานหาอะไรในปากของเธอ"อื้ม...!!""อืม...อยู่นิ่งๆ สิครับ" น้ำเสียงของอีกฝ่ายแหบพร่า แม้เธอจะขัดขืนแต่เขาก็ไม่ได้หยุดการกระทำของตัวเองนี่มันเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เธอได้จูบกับใคร และมันก็น่าตกใจไม่น้อย เพราะตอนนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าระเบียง"อืม...""พะ พอ อืม..." วานิลพยายามเบี่ยงหน้าหลบ แต่แล้วก็ถูกเขาประคองให้กลับมาอยู่ในท่าเดิม เริ่มที่จะขัดขืนยากขึ้น เพราะมือทั้งสองข้างถูกล็อคเอาไว้ บวกกับร่างกายที่เหมือนจู่ๆ ก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาบอกไม่ถูก"ระ รัณ...!" คราวนี้เธอผลักเขาออกไปได้สำเร็จ แต่ถึงจะจูบกับเธอต่อไม่ได้ ก็ใช่ว่าเขาจะหยุดการกระทำของตัวเองเสียหน่อยจมูกโด่งเริ่มซุกไซ้ตามลำคอขาวต่อจากนั้น คลอเคลียอยู่กับใบหูของเธอจนมาถึงหน้าอก ทำอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด เหมือนกับแมวน้อยที่กำลังคลอเคลียเจ้านาย"อะ อืม...พอแล้ว""ตัวคุณหอมจัง""ระ รัณ...""ผมไม่เคยรังเกียจคุณ ผมรักคุณ ผมรักคุณ...""อะ อือ...หยะ หยุดก่อน" เพราะเขาไม่ได้พูดอย่างเดียวเนี่ยสิ มือสองข้างก็เล้าโลม จับตรงนั้นตรง
ตกกลางคืน หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแสนหวานกับศรัณย์มา วานิลกำลังนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวเงียบๆ จนกระทั่งศรัณย์เดินเข้ามา"คิดอะไรอยู่ครับ""มีเรื่องให้ต้องคิดน่ะค่ะ" วานิลตอบ"พอจะบอกผมได้ไหม ว่าคุณกำลังคิดเรื่องอะไร?""....." วานิลเงียบ ก่อนจะถอนหายใจออกมา การกระทำแบบนี้เหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเธอไปแล้ว "ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ""ครับ?""ฉันคิดว่าเรื่องนี้คุณเองก็ยังไม่รู้ และถ้าฉันเล่าออกไป คุณอาจจะรังเกียจคนอย่างฉันไปเลยก็ได้""ไม่ ผมจะไม่...""ฟังฉันก่อนสิ" วานิลรีบพูดดักขึ้น เขายังไม่รู้เลยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรให้ฟัง บางทีถ้าเขาได้ยินแล้วเขาอาจจะรับไม่ได้และเลิกรักเธอไปเลยด้วยและที่เธอเลือกที่จะพูดเอาตอนนี้ เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาเธอไม่มีความกล้าซะเลย ยิ่งเธอนึกถึงเรื่องเหล่านั้น มันก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเธออยู่ตลอด"พูดมาสิครับ...""ฉันเคยติดคุก แต่คุณคงรู้แล้ว ฉันถูกอดีตแฟนใส่ร้ายเรื่องยาเสพติด ฉันเลยต้องติดคุก เพราะไม่มีพยาน ไม่มีหลักฐาน ไม่มีคนมาช่วยเรื่องคดี""ใช่ ผมรู้เรื่องนี้แล้ว""เรื่องข้างใน...""ครับ?""ขอโทษนะ ที่เพิ่งบอกเอาตอนนี้ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงมัน ฉันก็ยังเจ็บใจอยู
หลายเดือนต่อมาร้านดอกไม้ Tawan Flower Shop"อะไรเนี่ย?" วานิลพึมพำกับตัวเอง เพราะจู่ๆ ตรงหน้าของเธอก็มีช่อดอกไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้า และดูเหมือนว่าจะมีคนยืนถือมันอยู่ด้วย"จ๊ะเอ๋!~""คุณ! เล่นอะไรเนี่ย ตกใจหมด!""เซอร์ไพรส์ครับ""ร้านดอกไม้อยู่ตรงนี้แท้ๆ คุณไปอุดหนุนร้านอื่นเหรอ?" ถามเสียงแข็งเหมือนหาเรื่อง"ปะ ป่าวนะครับ ผมสั่งมาจากร้านตรงที่บริษัทที่ผมไปทำงาน ซื้อจากร้านคุณ คุณก็รู้น่ะสิ แบบนั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์หรอก""......" ก็ไม่อะไรหรอก แค่แกล้งเขาเล่นก็เท่านั้นแหละ"ดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยๆ ของผมครับ""อื้ม...ขอบใจนะ""หิวกาแฟจังเลยครับ""เข้าไปข้างในสิ""ไปนั่งด้วยกันนะครับ""อ๊ะ! ดะ เดี๋ยว! ฉันยังทำงานอยู่นะ!"เหมือนศรัณย์จะไม่ฟังอะไรเลย เขาจับแขนของวานิลแล้วดึงเธอเข้าไปในร้าน และตอนนี้ร้านขยับขยายไปอีกเพราะซื้อคูหาใกล้ๆ กันรวมเป็นร้านเดียวไปแล้ว เป็นร้านดอกไม้ที่มีคาเฟ่อยู่ด้วย พอจัดด้วยดอกไม้สวยๆ แล้ว เรียกลูกค้าได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคนที่ชอบมาถ่ายรูป"อะไรของคุณเนี่ย!?""พนักงานก็เต็มร้าน ไม่เห็นต้องทำเองเลยครับ""ก็คนมันว่าง จะให้ฉันทำอะไร ทำไม่ให้ฉันทำแบบนี้""ตอนนี้ไม่ว่างแล้วน
เวลาผ่านไปร่วมเดือน"ตะวัน!!" วานิลตะโกนเรียกลูกชาย พร้อมกับเท้าเอวยืนรออยู่ตรงบันได เพราะนี่มัน 7:45 แล้วแต่ลูกชายยังมัวแต่โอ้เอ้อยู่ได้ ศรัณย์นี่แหละตัวดีเลย คอยอยู่เบื้องหลังคอยให้ท้ายกันอยู่แบบนี้ไงตะวันถึงได้เป็นแบบนี้"มาแล้วคร้าบแม่นิล..." เสียงหวานของหนุ่มน้อยดังมาแต่ไกล"สายแล้วนะ มัวทำอะไรกันอยู่!" เธอถามเสียงเข้ม"เสร็จแล้วครับ เสร็จแล้ว""คุณ...!" กำลังจะบ่นแต่ก็ถูกเขาพูดแทรกซะก่อน ราวกับว่ารู้ว่าเธอจะบ่นยังไงเลยชิงพูดก่อน"ขอโทษครับ ผมลืมดูเวลา จะรีบไปส่งเดี๋ยวนี้เลย""....." วานิลยืนมองนิ่ง ส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับสองพ่อลูกคู่นี้ที่กำลังพากันวิ่งไปที่รถ มันน่าจริงๆ เลยนะสองพ่อลูกคู่นี้"มีอะไรกันเหรอพี่นิล?" เจียอีเดินเข้ามาถาม"จะอะไรซะอีกล่ะนอกจากสองพ่อลูกคู่นี้""หึหึ ดูเขาเข้ากันได้ดีเลยนะ" เจียอีหัวเราะใส่ ตอนแรกที่รู้ความจริงว่าพ่อของตะวันเป็นใครก็ตกใจอยู่นะ แต่ตอนนี้ก็ชินแล้วล่ะ"เข้ากันได้ดีเกินน่ะสิ หัวจะปวด โอ้ยยย!""เอาน่าพี่ อย่าไปเคร่งนักเลย""พี่ไม่ได้เคร่งนะ แต่เขากำลังจะทำให้ตะวันเสียคน ตะวันเคยตรงเวลา มีระเบียบเรียบร้อย แต่พอมีเขาที่ทำให้ทุกอย่าง ตะวันเปลี