공유

กลั่นแกล้ง

last update 최신 업데이트: 2025-04-06 05:18:19

หลังจากเมื่อวันก่อนที่ถูกเขาจับกินมาเกือบแทบทั้งวัน แถมยังโดนกักบริเวณให้อยู่เพียงแค่ในบ้านพักหลังนั้นกับเขายาวต่อไปอีกแทบทั้งคืน เช้านี้ฉัตรตะวันก็เลยยังคงต้องรีบแอบย่องเข้ามาเพื่อตระเตรียมอาหารเช้าเอาไว้ให้สำหรับเขาและอดีตคนรักตั้งแต่ไก่โห่

แน่นอนว่าคนที่นอนในบ้านนั้นยังไม่ทันได้แหกขี้ตาตื่นขึ้นมาเธอก็เตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่ฉัตรตะวันเลือกที่จะทำแบบนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองจากคนที่ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่หาทางรังแกเธอเสีย ไม่มากก็น้อยก็ยังดี ยังพอให้เธอได้มีโอกาสหลบลี้หลีกหนีจากเขาได้บ้าง

หลังจากที่ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเสร็จ จักรยานคันเดิมก็รีบปั่นมุ่งหน้ามาทางร้านคาเฟ่ต่อเลย เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม ผู้คนต่างก็พากันมาใช้บริการกันอย่างคับคลั่ง ยิ่งในส่วนทางด้านสวนสัตว์มีลูกสัตว์หลายตัวเกิดใหม่ จึงทำให้ผู้คนต่างก็พากันหลั่งไหลเข้ามากันไม่หยุด หน้าที่ของเธอในช่วงนี้จึงถูกโยนให้มาประจำช่วยอยู่ที่คาเฟ่ในทุกๆเช้าก่อน แล้วตอนบ่ายค่อยไปทำอะไรอย่างอื่นไป

ด้วยความที่ก็อยู่ที่นี่มาตั้งสองปี พนักงานในร้านนี้กับเธอจึงรู้จักคุ้นเคยกันดี บางคนรุ่นพี่ บางคนก็รุ่นน้อง ตลอดสองปีมานี้ฉัตรตะวันถูกสั่งให้มาช่วยที่นี่หลายทีหลายหนจนชิน ซึ่งถ้าเทียบกันกับการที่ต้องออกไปอยู่ที่แปลงมะเขือเทศร้อนๆแล้ว การได้มาช่วยงานในร้านคาเฟ่จึงถูกจริตกับเธอมากกว่า จนบรรดาพวกเจ๊ๆของเธอต่างพากันน้อยอกใจกันใหญ่ยามที่เธอหายหน้าไปหลายๆวัน 

"แก้วนี้โต๊ะห้านะคะพี่ซัน"

"ได้จ๊ะดา เดี๋ยวพี่เอาถาดไปเก็บหลังร้านแป๊บนะ พี่ยกไปเสิร์ฟให้" ข้อมือน้อยยกขึ้นปาดเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาทางหน้าผาก บรรยากาศตอนเที่ยงตรง ทำเอาเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ทำงานได้อย่างไม่ทั่วถึง

"พี่ซันไม่ต้องหรอกครับเดี๋ยวบอสยกออกไปให้เอง"

"จ๊ะๆ ขอบใจนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่จะได้กลับไปล้างแก้วต่อ"

"แหมบอส คิดจะจีบพี่เขาน่ะหวังสูงเกินไปแล้วไหมเอ็ง เงินเดือนแค่นี้ดูหรือเปล่าว่าพี่ซันเขาขับรถอะไร"

"ไม่เกี่ยวหรอกว่ะดา ถ้าฉันจริงใจวันหนึ่งพี่ซันอาจจะเห็นใจฉันขึ้นมาก็ได้"

"เออๆ เป็นกำลังใจให้นะ"

สองชายหญิงเพื่อนซี้แอบยืนคุยกันอยู่ภายในเคาร์เตอร์ หลังจากพึ่งจะมีโอกาสได้พักดื่มน้ำพักหายใจตอนที่ลูกค้าเริ่มเบาลงแล้ว จึงใช้จังหวะนี้คุยกันถึงบุคคลที่สามที่กำลังตกเป็นประเด็นในการถูกพูดถึงอยู่ และดูท่าทีว่าเจ้าตัวเองก็คงจะไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากว่ายังง่วนอยู่กับการล้างจานล้างแก้วข้างใน ทำให้สองหนุ่มสาวมีเวลาในการปรึกษาปัญหาหัวใจกันเพลิน จนไม่ทันได้เห็นว่าที่ด้านข้างของผนังตรงเคาร์เตอร์นั้นหน้าต่างได้ถูกเปิดแง้มเอาไว้อยู่

"ได้ยินว่าใครจะจีบใคร"

เป็นเพราะไม่ทันได้สังเกตว่าลูกค้าชายหญิงคู่ที่พึ่งเข้ามานั่งใหม่ตรงที่นั่งติดผนังด้านนอกนั้นคือใคร ทำเอาตอนนี้เด็กหนุ่มกับเด็กสาวที่พึ่งจะพูดคุยเรื่องส่วนตัวกันไปถึงกับหน้าซีดขึ้นมาฉับพลัน

"คุณคีย์"

"ฉันมานั่งตั้งนานแล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมออกไปรับออเดอร์ ทำงานกันประสาอะไร หรือว่ามัวแต่สนใจเรื่องที่ไม่สมควรเอามาพูดในเวลาทำงานอยู่" คีตกานต์นั้นโหด พนักงานทุกๆคนต่างก็รู้ดี ยามใดที่อารมณ์ดีก็หน้าบึ้งอยู่แล้ว แต่ถ้าอยู่ในโหมดที่อารมณ์ไม่ดีล่ะก็ยิ่งน่ากลัวกว่า

"คือเราคิดว่าเดี๋ยวพี่ซันคงวิ่งออกไปน่ะค่ะ พอดีว่าเมื่อกี้ลูกค้าเยอะมากแล้วพี่ซันบอกว่าจะเป็นคนรับออเดอร์เอง หนูกับบอสก็เลยรอพี่ซัน" ดาริกาก้มหน้าก้มตาตอบเจ้านายหนุ่มออกไปอย่างหน้าเจื่อนๆ

"ถ้าอย่างงั้นก็ไปเรียกคนที่จะรับออร์เดอร์ออกมา!"

"ค่ะๆๆ" พนักงานสาวตัวน้อยทั้งรนรานและสั่นไปทั้งตัว เธอรีบวิ่งเข้าไปหาฉัตรตะวันที่หลังร้านทันทีที่ถูกน้ำเสียงดุๆนั้นตวาดใส่

"งั้นผมไปรับออร์เดอร์ให้เองครับคุณคีย์ พี่ซันน่าจะยังกำลังยุ่งอยู่" บวรวิทย์รีบเสนอตัวเองออกไปทันทีเพื่อหวังอยากที่จะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ให้หญิงสาวที่ตนแอบมีใจ

"อยากจะโชว์แมน ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษหรือยังไงนายน่ะ เอาไว้หาเงินเลี้ยงตัวเองให้รอดก่อนแล้วค่อยคิดอยากจะหาเมีย ลำพังเงินเดือนไม่ถึงสองหมื่นผู้หญิงคนนั้นไม่ชายตาแลนายหรอกบอส ฉันเตือนด้วยความหวังดี ไปเรียกฉัตรตะวันออกมา"

"ฉันอยู่นี่แล้วคุณจะรับอะไรก็สั่งมาสิคะ"

ภายใต้สีหน้าที่ปรับเป็นเรียบเฉยนั้นจริงๆแล้วฉัตรตะวันแอบเก็บความโกรธที่กำลังพลุ่งพล่านเอาไว้อยู่ อันที่จริงเธอเริ่มได้ยินเสียงเขาดังเข้าไปในครัวแว่วๆตั้งแต่ตอนที่เขาขึ้นเสียงใส่รุ่นน้องทั้งสองคนนี่แล้ว แต่ก็ยังทำเป็นเฉยเสียเพราะไม่อยากออกมาประจันหน้าคนบ้าที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่ไม่วายในที่สุดเขาก็ทำให้เธอต้องออกมาเสียจนได้ ทั้งๆที่สองสามวันมานี้เธอพยายามหลบเขาแทบเป็นแทบตาย

"ออกไปรับออร์เดอร์ที่โต๊ะข้างนอก ฉันไม่ได้มาคนเดียว" ทันที่เดินออกมาแววตาก็แอบวูบไหวยามเมื่อได้เห็นว่าคีตกานต์นั้นมากับใคร ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าทั้งสองคนนี้นั้นอยู่ในสถานะไหน แต่ถ้าเป็นไปได้เธอก็ขอที่จะไม่เห็นได้หรือเปล่า 

"เนตรอยากดื่มอะไรครับ ที่นี่มีเมนูซิกเนเจอร์หลายตัวเลยนะ ผมว่าเนตรน่าจะชอบ" ใบหน้าหล่อเหลาหันไปยิ้มกับผู้หญิงที่เขานั่งข้างๆ ด้วยท่าทางที่ดูเอาอกเอาใจ ผิดกับเวลาที่อยู่กับเธอ ทั้งดุทั้งตะคอก มีก็แต่ความโกรธและความโมโหใส่ 

"อืม มีเยอะจริงๆด้วยค่ะเนตรเลือกไม่ถูกเลย คีย์สั่งให้หน่อยสิคะ"

"ร้อนๆแบบนี้ เอาเป็นอเมริกาโน่พีชดีไหมครับ เนตรจะได้ดื่มอเมริกาโน่ที่เนตรชอบด้วย"

"คีย์! นี่คีย์ยังจำได้อยู่อีกหรอคะว่าเนตรชอบดื่มอเมริกาโน่" ดวงตายิ้มหยีที่มีรอยยิ้มสุดหวานรีบหันไปมองทางคีตกานต์ทันทีที่เขาพูดจบ

"ผมคบเนตรมากี่ปี ถ้าเรื่องแค่นี้ผมจำไม่ได้ก็ไม่น่ายกให้ผมเป็นที่หนึ่งในใจอย่างที่เนตรพึ่งบอกไปเมื่อสักครู่นะครับ"

"คีย์น่ารักที่สุดเลยค่ะ" ใบหน้ายิ้มแย้มที่ดูราวกับว่าสุดแสนจะดีใจรีบโผใบหน้าเข้าไปซุกซบที่อกแกร่งทันที โดนไม่ได้สนว่ามันยังมีเธอยืนอยู่ตรงนั้น ทำราวกับว่าโลกนี้มีเพียงแค่เธอและผู้ชายที่ตัวเองกอดอยู่กันแค่สองคน

"ตกลงรับเป็นอเมริกาโน่พีชนะคะ"

"ค่ะ ของเนตรเป็นอเมริกาโน่พีช ส่วนของคีย์ชามะนาวน้ำผึ้งเข้มๆ" ว่าแล้วหญิงสาวคนเดิมก็หันไปยิ้มให้กับผู้ชายหน้าตึงที่กำลังมองมาที่เธออีก ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนไปทำหน้ายิ้มตอบกลับผู้หญิงนั้น

"ค่ะ รอสักครู่นะคะ"

"เดี๋ยวก่อน ที่ใต้โต๊ะมีลูกค้าคนก่อนทำน้ำหกเอาไว้อยู่เธอไปหาผ้ามาเช็ดด้วย ฉันไม่ชอบให้ร้านสกปรก"

ฉัตรตะวันเดินกลับเข้ามาหยิบผ้าถูพื้นในร้านก่อนจะเดินออกไปใช้ไม้ถูเช็ดที่บริเวณใต้โต๊ะตามที่คีตกานต์บอก มิหนำซ้ำพอเช็ดเสร็จเขาก็ยังบอกอีกว่ามันมีคราบหมากฝรั่งติดอยู่ที่พื้นตรงนั้นซึ่งเธอลองถูแล้วแต่มันก็ยังไม่ออก 

"ไปเอาผ้ามา แล้วมุดก้มเข้าไปถูข้างใน"ฉัตรตะวันพอได้ยินก็ได้แต่อึ้งในสิ่งที่คีตกานต์พูดออกมา ทั้งๆที่อันที่จริงจะรอให้เขากับผู้หญิงลุกออกไปก่อนแล้วค่อยเช็ดก็ได้ แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำกับเธอได้ถึงเพียงนี้

"ต้องเช็ดตอนนี้เลยหรอคะ"

"ตอนนี้สิ บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบให้ร้านสกปรก"

จนในที่สุดมันก็ผ่านพ้นไป วันเวลาที่แสนยุ่งๆบวกกับต้องมาเจอคนกวนประสาทแบบคีตกานต์แกล้งเอา ฉัตรตะวันทั้งเจ็บใจทั้งโมโห ทั้งโกรธทั้งเกลียดที่เขาเลือกที่จะกลั่นแกล้งเธอต่อหน้าแฟนเก่า หรือไม่ก็อาจจะกำลังกลับมาเป็นแฟนใหม่ คอยดูทีของเธอบ้างเถอะ ถ้ามีโอกาสได้เอาคืนเขาเมื่อไหร่ล่ะก็ เธอจะไม่มีคำว่าเมตตากับเขาเลย

"ขอบใจมากนะบอสที่อุตส่าห์ขับมาส่งพี่"

"บอสเต็มใจครับพี่ซัน ถ้าเป็นไปได้บอสอยากขับมาส่งพี่ซันทุกวันเลยด้วยซ้ำ"

"อย่าเลยจ๊ะแค่นี้ก็รบกวนบอสแย่แล้ว ขับรถกลับบ้านดีๆล่ะ พี่เข้าบ้านก่อนนะ"

ว่าแล้วฉัตรตะวันก็รีบเดินกลับเข้าบ้านไปในทันที สายตาของชายหนุ่มรุ่นน้องที่ส่งมา มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร อย่างเช่นตอนเมื่อกี้ก็เหมือนกัน พอรู้ว่าจักรยานของเธอนั้นยางแตกจนปั่นไม่ได้ บวรวิทย์ก็รีบคะยั้นคะยอขอขับมอเตอร์ไซด์มาส่งทันทีทั้งๆที่เธอปฏิเสธไปแล้ว

ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจ บวรวิทย์ทำงานที่นี่มาก่อนเธอ และเธอกับเขาก็ทำงานด้วยกันมาหลายครั้งแล้ว บวกกับท่าทางซื่อๆใสๆและเป็นคนดีนั้นทำให้ฉัตรตะวันไม่อยากบุ่มบ่ามที่จะหักหาญน้ำใจหนุ่มรุ่นน้อง

แต่ทั้งมวลทั้งหมด เหตุผลที่ในวันนี้ฉัตรตะวันไม่อยากให้ชายหนุ่มรุ่นน้องนั้นขับมาส่งก็คงจะเป็นเพราะว่าตรงที่บริเวณลานใต้ต้นมะม่วงที่จะต้องขับผ่านไปนั้นมีกลุ่มคนงานรวมตัวกันตั้งวงนั่งดื่มอยู่ เธอไม่อยากให้คนที่เห็นนั้นเข้าใจผิดและเอาไปพูดต่อกันแบบผิดๆถึงความสัมพันธ์ของเธอกับรุ่นน้องหนุ่ม และที่สำคัญถ้าหากว่ามองไม่ผิด สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นว่าในนั้นมีคีตกานต์นั่งรวมอยู่ด้วย

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • พ่ายรักเธอ   ตอนจบ

    "ช่วยอธิบายให้ซันฟังหน่อยได้ไหมคะว่าระหว่างที่ซันหลับไป คุณกับป๊าซันไปแอบทำสัญญาพักรบกันตอนไหน จำได้ว่าที่ซันเป็นล้มไปก็เพราะว่าคุณกับป๊านั้นเถียงกันไม่หยุด" ฉัตรตะวันถามซักไซ้ไล่เรียงทันทีที่คีตกานต์เดินกลับเข้ามา"สงสัยว่าป๊าซันคงกลัวว่ามันจะไปกระทบกระเทือนถึงหลานละมั้ง ก็เลยยอมอ่อนข้อลงให้""หลาน? ที่ไหนคะ""ก็หลานในท้องซันไง""คุณคีย์ซันไม่ตลกด้วยนะคะ นี่คุณกำลังหมายความว่าอะไร คุณบอกอะไรกับป๊าซันไปคะ ป๊าถึงได้ยอมถอยกลับไปได้ง่ายๆแบบนั้น" ฉัตรตะวันรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ แถมสีหน้าท่าทางยังดูระแวงระวังอย่างไม่ไว้วางใจ"ผมบอกกับป๊าว่าซันกำลังท้องลูกของเราอยู่ แล้วก็จะยกหนี้สินทั้งหมดที่ป๊าคุณกู้ไปให้ ป๊าคุณคงเห็นแก่หลานและความจริงใจของผมละมั้ง ก็เลยยอม""ท้อง? ใครกันที่ท้อง ซันยังไม่ได้ท้องนะคะ นี่คุณโกหกป๊าซันทำไม""ผมไม่ได้โกหกป๊าคุณนะซัน ที่คุณเป็นลมล้มตึงไปนั่นอาจจะเป็นเพราะว่าคุณกำลังท้องอยู่ก็ได้ หรือถ้าไม่ ยังไงเร็วๆนี้คุณก็ต้องท้องแน่ๆ เชื่อมือผมสิ"ฉัตรตะวันยังคงงงๆกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น เพียงแค่ภายในสัปดาห์ คีตกานต์ก็ได้พาทั้งคุณยายประไพศรีและคุณพรประภาเข้าไปต

  • พ่ายรักเธอ   ลูกเขยคนดี

    "ถุย! ไอ้คีตกานต์ น้องซันเกลียดมึงจะตายไป ยังจะมากล้าพูดได้ไม่อายปากว่าน้องซันเป็นเมียมึง ไม่กระดากปากบ้างหรือไงวะ" ธนากรทำท่าจะเดินเข้าไปหา แต่ก็ถูกฉัตรดนัยห้ามเอาไว้"ที่เขาพูดมันจริงหรือเปล่าพี่ซัน" ฉัตรดนัยเองก็อดสงสัยไม่ได้ที่อยู่ดีๆตนก็มีพี่เขยโผล่มา "ซี คือว่า.." เพราะฉัตรตะวันมัวแต่อึกๆอักๆไม่ยอมพูดไป จึงทำให้คนข้างๆเริ่มที่จะหมั่นไส้ตัดสินใจชูใบแผ่นกระดาษให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป"ผมกับฉัตรตะวันเราพึ่งไปจดทะเบียนสมรสกันมา และผมต้องขอโทษเสี่ยด้วยที่พาฉัตรตะวันไปจดโดยพละการโดยที่ไม่ได้บอกกล่าว แต่หลังจากนี้ผมจะพาคุณยายกับคุณแม่เข้าไปพูดคุยกับเสี่ยให้เร็วที่สุด ไม่ทราบว่าเสี่ยสะดวกวันไหนครับ""พูดบ้าอะไรของมึงวะไอ้คีตกานต์ จดทะบงทะเบียนอะไร น้องซันเป็นว่าที่คู่หมั้นของกู กูไม่ยอมให้มึงมาชุบมือเปิบไปหรอก ไอ้บ้านี่มันโกหก เรื่องที่มันพูดไม่เป็นความจริงใช่ไหมน้องซัน" พอเห็นคีตกานต์ชูแผ่นกระดาษที่มีกรอบเป็นรูปดอกกุหลาบล้อมรอบธนากรก็เริ่มร้อนใจ พยายามถามให้ฉัตรตะวันตอบหรือปฏิเสธอะไรก็ได้ ช่วยพูดออกมาทีว่าสิ่งที่คีตกานต์กำลังพูดนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง"จริงค่ะพี่ธนา ซันกับคุณคีย์พึ่งไ

  • พ่ายรักเธอ   พ่อตา

    หลังจากนั้นคีตกานต์ก็พาเธอมายังสถานที่ๆหนึ่งซึ่งดูสงบและร่มเย็น เขาจอดรถไว้ที่ด้านนอกก่อนจะพาเธอเดินเข้าไปด้านใน ใบไม้ต้นไม้พัดโบกปลิวไสว ฉัตรตะวันมองตามที่คีตกานต์ชี้นิ้วตรงไปใต้ร่มโคลนต้นไม้ใหญ่ ตรงนั้นมีใครคนหนึ่งนุ่งชุดขาวห่มขาวปิดเปลือกตาทำสมาธิอย่างสงบฝ่ามือเล็กยกขึ้นมาข้างหนึ่งเพื่อปิดปากไว้ หลังจากที่เพ่งมองจนเห็นชัดเจนว่าคนที่กำลังนั่งหลับตาอยู่ที่โคลนใต้ไม้ต้นนั้นคือใคร ไม่ว่าจะมองใกล้ไกลแค่ไหน ใบหน้านั้นก็ยังดูเด่นชัดคีตภัทรอยู่ในนุ่งห่มสีขาวและกำลังนั่งสวดภาวนาอย่างตั้งใจ คีตกานต์เล่าต่อให้เธอฟังว่า หลังจากที่ถูกธนากรทำร้ายจิตใจในวันนั้น คีตภัทรก็เริ่มเปลี่ยนไป จิตใจคิดฝักใฝ่ไปในทางธรรม เห็นทุกข์เห็นแจ้งว่าคงจะไม่มีใครรักเธออย่างจริงใจได้เท่าคนครอบครัว จากนั้นจึงได้ตัดสินใจที่จะละจากทางโลกมุ่งเข้าสู่ทางธรรม"เห็นแล้วนะว่าต่อไปนี้ครีมคงจะไม่มีทางที่จะเข้ามายุ่งเรื่องระหว่างเธอกับฉันได้""อันที่จริงขนาดน้องสาวคุณยังตัดสินใจละจากทางโลกเลย คนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างคุณก็น่าจะทำบ้างนะคะ""ไม่ล่ะ คนอย่างฉันมันกิเลสหนา ฉันยังตัดเรื่องอย่างว่าไม่ได้ นี่ขนาดว่าเธอยืนอยู่ตั้งไกลแบบ

  • พ่ายรักเธอ   คำสารภาพ

    กว่าครึ่งชั่วโมงที่คีตกานต์ยังคงนั่งเฉยอยู่ในรถและปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปอย่างนั้น ธนากรบอกว่าเสี่ยมนัสรู้สึกตัวและรับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว นั่นหมายความว่าอีกไม่นานก็คงจะนำเงินทั้งหมดมาคืนให้ เป็นไปได้ว่าคงจะเป็นเงินจากธนากรที่เสนอให้ อาจแลกด้วยการหมั้นหมายหรืออะไรสักอย่าง ไม่เช่นนั้นฝ่ายนั้นคงจะไม่แสดงท่าทีที่สุดแสนจะมั่นอกมั่นใจและกล้าเรียกฉัตรตะวันได้เต็มปากว่า 'ว่าที่คู่หมั้น'เขายังไม่ได้อยากได้เงินคืน หรือไม่ก็ไม่ได้อยากที่จะได้เงินคืนเลย..ขอเพียงแค่ฉัตรตะวันยังอยู่ใกล้ๆ คีตกานต์พาตัวเองกลับมายังบ้านพักก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คขึ้นมาแล้วจัดการโหลดไฟล์วีดีโอใส่เข้าไปในมือถือ จากนั้นจึงกดส่งไปยังรายชื่อที่ถูกตั้งค่าไว้ในโหมดรายชื่อโปรดที่พักหลังๆมานี้มักจะแสดงอยู่ในหน้าจอประวัติการโทรเข้าออกของเขาบ่อยที่สุด พร้อมมีข้อความกำกับเขียนเอาไว้ด้วยความร้อนอกร้อนใจ เขาอยากให้เธอได้เห็นว่าเรื่องระหว่างเขาและเนตรดาววันนั้นมันไม่ได้มีอะไร เขาไม่เคยแม้แต่คิดนอกใจเธอ'ที่ผ่านมาฉันไม่เคยทำผิดต่อเธอเลย แล้วเธอกล้าที่จะทิ้งฉัน หนีฉันไปหมั้นกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไง'หมดวันหยุดฉัตรตะวันยังคง

  • พ่ายรักเธอ   หลักฐาน

    หลังจากเหตุการณ์วันนั้นคีตกานต์ก็ได้รับข่าวว่าฉัตรตะวันยกเลิกที่จะเช่าบ้านพักหลังนั้นแล้วย้ายออกไปเช่าหอพักอยู่ใหม่ในเมืองแทน พอคีตกานต์รู้ข่าวก็เกิดกระวนกระวายใจ พยายามแอบขับรถตามไปดูว่าฉัตรตะวันย้ายไปพักอยู่ที่ไหน และพอได้รู้ ใจก็อยากจะขอแอบตามขึ้นไปดูอีกว่าห้องหับความเป็นอยู่ของเธอนั้นเป็นอย่างไร สะดวกสบายปลอดภัยดีหรือเปล่า หากแต่แล้วก็ทำไม่ได้ มีคนไม่ยอมให้เขาขึ้นไปด้วยความที่ว่าหอพักแห่งนี้มีระบบความปลอดภัยที่ค่อนข้างสูง ทันทีที่บุคคลภายนอกอย่างเขาย่างกรายเข้าไป เจ้าหน้าที่ที่คอยรักษาความปลอดภัยก็ตรงดิ่งเข้ามาเชิญตัวเขาให้ออกไปโดยทันที "เมียผมพักอยู่ที่นี่จริงๆ เธอพึ่งย้ายมาเพราะว่าเราทะเลาะกัน ผมแค่อยากจะขอขึ้นไปดูความเป็นอยู่ของเธอหน่อยว่าห้องที่เธออยู่เรียบร้อยปลอดภัยดีไหม พี่ให้ผมขึ้นไปแค่แป๊บเดียวก็ได้แล้วผมจะรีบลงมา"หลังจากยืนอ้อนวอนพี่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่เสียนาน สุดท้ายแล้วคีตกานต์ก็ต้องหน้าจ๋อยกลับขึ้นรถมาอย่างเก่า สองวันมานี้ยอมรับว่าจิตใจของเขานั้นไม่เป็นสุขเลย มันค่อยๆดิ่งลงเพราะมัวแต่พะวงคิดมากเรื่องที่ฉัตรตะวันเข้ามาเห็นเขาและเนตรดาวอยู่ด้วยกันเขาไม่สบ

  • พ่ายรักเธอ   เอาเงินคุณคืนไป

    คีตกานต์ค่อยๆขยับลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อแสงแดดที่สาดเข้ามาจากด้านนอกนั้นโผล่ทะลุผ้าม่านห้องนอนเข้ามาได้ เมื่อวานเขาคงจะดื่มไปจนหนักมาก เช้านี้พอตื่นขึ้นมาถึงได้มีอาการปวดหัวจนแทบจะระเบิดแบบนี้ได้เรือนร่างสูงใหญ่พยามยามกระถดกายลุกขึ้นนั่ง เขาขยับอย่างช้าๆ สายตาเหลือบมองไปที่เข็มนาฬิกาซึ่งกำลังบอกว่าเป็นเวลาเกือบแปดโมง แต่ทันทีที่ได้ขยับ บริเวณหน้าอกของเขากลับมีการเคลื่อนไหวของอะไรบางอย่าง พอมันค่อยๆโผล่พ้นขอบผ้าห่มออกมา จึงได้เห็นว่าเป็นแขนของใครคนหนึ่งที่ยกพาดทับมากอดก่ายหน้าอกเขาเอาไว้คีตกานต์ถึงกับต้องทำการนึกคิดทบทวนอย่างละเอียด จำได้ว่าเมื่อคืนเขานั่งเครียดและดื่มอยู่เพียงคนเดียวในบ้าน แล้วเช้านี้ก็ตื่นขึ้นมาในบ้านของตัวเอง ไม่ได้ออกไปไหนหรือว่าพาใครที่ไหนเข้ามา แล้วแขนของคนที่นอนขยุกขยิกอยู่บนเตียงเดียวกันกับเขาใต้ผ้าห่มนี้คือใคร "ตื่นแล้วหรอคะคีย์"และทันทีที่ได้ยินเสียง คีตกานต์ก็จำได้ทันทีว่าเสียงที่พูดออกมานี้คือเสียงใคร ใช่เสียงของคนที่เขาคิดเอาไว้แน่ๆ แต่เพราะความที่อยากจะแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้จำผิด ผ้าห่มผืนใหญ่จึงได้ถูกดึงเปิดออกจนปรากฏเผยให้เห็นร่างที่เกือบจะนอนเปลือยเ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status