อคิน...
หลังจากส่งผ้าแพรเสร็จผมก็มาที่คอนโดไอ้เก้าเพื่อนสนิทของผมซึ่งตอนนี้ห้องมันกลายเป็นผับขนาดย่อมๆไปแล้วเพราะพวกมันจัดงานวันเกิดของผมที่นี่ อันที่จริงพวกก็อยากไปดื่มกันที่ผับนะแต่อายุพวกผมยังไม่ถึงกันก็เลยจัดที่คอนโดแทนซึ่งก็จัดกันแบบนี้มาตลอดทุกปีไม่ว่าวันเกิดใคร ซึ่งในห้องตอนนี้มีพวกเพื่อนๆของผมที่สนิทกันมาตั้งแต่มอต้นซึ่งแต่ละคนตอนนี้น่าจะเมากันบ้างแล้วเพราะเล่นดื่มกันตั้งแต่สอบเสร็จ
"มึงทำไมมาเอาป่านนี้วะมึงเป็นเจ้าของวันเกิดนะเว้ยไอ้คิน" พอผมเดินเข้ามาไอ้เจ๋งเพื่อนสนิทอีกคนของผมก็เอ่ยทักเสียงยานคาง
"กูไปส่งผ้าแพรมา" ผมตอบก่อนจะโยนกระเป๋าหนังสือไว้ที่โซฟาก่อนจะหย่อนตัวนั่ง
"ผ้าแพร?? ยัยแม่ชีประจำห้องอ่ะนะ " ไอ้เจ๋งถามพร้อมทำท่าขมวดคิ้ว
"เออ" ผมตอบไปสั้นๆก่อนจะเทเหล้าใส่แก้ว
"กูก็ว่าจะถามมึงอยู่พอดี มึงคิดจะจีบยัยผ้าแพรหรอวะ" ไอ้เก้าครับที่ถาม
"ทำไมมึงคิดว่ากูจะจีบยัยนั่น" ไอ้เก้าเดินถือแก้วเหล้ามานั่งข้างๆ
"ก็เมื่อตอนพักเที่ยงมีคนพูดเรื่องที่มึงพายัยนั่นออกไปข้างนอกแล้วก็กลับมาพร้อมกันไหนมึงจะหิ้วกรงแมวเข้าห้องมาอีก กูกะจะถามมึงตั้งแต่อยู่ที่โรงเรียนแต่ก็ไม่ทันได้ถามเพราะต้องรีบเข้าห้องสอบ พอออกจากห้องสอบมึงก็หายหัว"
"นั่นดิแล้วยัยมินนี่เมียคนล่าสุดของมึงก็มาโวยวายถามกูเรื่องนี้กูก็บอกกูไม่รู้เพราะตอนมึงออกไปกูก็มัวแต่อ่านหนังสือในห้องสมุด"
"กูไม่เคยมีเมียมึงพูดดีๆไอ้เจ๋ง"
"เออ ๆ แม่งเอามากี่คนก็บอกไม่ใช่เมียกูเชื่อมึงเลยไอ้ห่า"
"สรุปมึงจีบยัยแม่ชีนั่นจริงๆเหรอวะยัยนั่นห่างไกลกับคำว่าสเปกมึงแบบสุดๆเลยนะเว้ย"
"มึงคิดว่าคนอย่างกูจะจีบผู้หญิงหน้าตาแบบนั้นเหรอวะ"
"ก็ถ้าไม่จีบมึงจะไปรับไปส่งยัยนั่นทำไมวะ"
"กูมีเหตุผลของกูก็แล้วกันพวกมึงไม่ต้องรู้หรอก"
"อะไรของมึงวะ พูดเหมือนมีความลับนะมึงอ่ะ"
"ไว้ถึงเวลากูจะบอกพวกมึงเอง เอาเป็นว่าถ้าช่วงนี้พวกมึงเห็นกูไปไหนมาไหนกับยัยนั่นพวกมึงก็ไม่ต้องสงสัยอะไรมาก"
พวกมันเอาแต่จ้องหน้าผมอย่างสงสัยจนผมเริ่มรำคาญสายตาพวกมัน
"ถ้ามึงไม่จริงจังมึงก็อย่าไปยุ่งกับยัยนั่นเลยแค่นึกถึงหน้ายัยนั่นกูก็อดสงสารไม่ได้ว่ะ" เป็นไอ้เก้าที่พูดขึ้นมา
"นั่นดิวะกูเห็นด้วยกับไอ้เก้านะเว้ย"
"มึงคิดว่าคนอย่างกูจะเอาผู้หญิงหน้าตาเห่ยๆแบบนั้นมาทำเมียเหรอวะ ให้หลับตาเอากูยังเอาไม่ลงเลย"
"แล้วมึงไปทำเหมือนจีบเค้าเพื่ออะไรวะ"
"กูบอกว่าถ้าถึงเวลากูจะบอกเอง"
หลังจากดื่มไปสักพักเสียงมือถือของผมก็ดังขึ้นพอดูหน้าจอผมก็รีบกดรับทันที
"ว่าไงลิน"
"ฉลองวันเกิดกับเพื่อนอยู่เหรอ"
"อืมใช่ว่าแต่ลินโทรมาเรื่องเจ้าปุกปุยใช่ไหม"
"ใช่น่ะสิ จะเอาไปก็ไม่บอกกันก่อนว่าแต่คินเอาไปไว้ไหนเหรอ"
"ไว้ที่คอนโด"
"ห๊ะคอนโด คอนโดใคร"
"คอนโดฉันน่ะสิจะคอนโดใคร"
"ก็นึกว่าเอาไปให้สาวเห็นน้องพนักงานบอกว่าวันนี้คินมากับผู้หญิงด้วยลินก็เลยไเปิดกล้องวงจรปิดร้านดู เธอน่ารักดีนะแฟนคินเหรอ"
"แฟนเฟินอะไรไม่ใช่หรอกฉันไม่เคยคิดที่จะมีแฟนเธอก็รู้นะลิน ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะอยู่ดูแลเธอจนกว่าเธอจะเจอผู้ชายดีๆที่เค้าจะดูแลเธอได้น่ะลิน"
"ถ้าลินหาไม่ได้ล่ะ"
"ฉันก็จะอยู่ดูแลเธอจนแก่เฒ่าไปเลยไง"
"ขอให้จริงเถอะน่า"
"ฉันเคยพูดโกหกเธอหรือไง"
"เคยสิทำไมจะไม่เคย"
"เคยตอนไหนวะ"
"ก็ตอนนั้นไงตอนที่คินว่าว่าพีทมาเยี่ยมลินตอนที่ลินยังนอนไม่ได้สติทั้งที่จริงแล้วพีทเค้าไม่เคยมาเยี่ยมลินเลย...ฮึก ฮึก"
"ลินไม่เอาน่าฉันบอกว่าให้เธอเลิกคิดถึงไอ้เหี้ยนั่นไงเธอจะคิดถึงมันทำไม"
"ก็ลินรักพีทนี่นาลินจะเลิกคิดถึงเค้าได้ยังไง ฮึก ฮึก" ผมรู้สึกโกรธและเคียดแค้นที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของพี่สาวผม
"ลินอยากกินอะไรเดี๋ยวฉันจะซื้อไปฝาก เอาเค้กไอศครีมมั้ยที่ลินชอบอ่ะ" ผมเปลี่ยนเรื่องพูดแล้วเอาของโปรดมาล่อเพื่อให้พี่สาวผมเลิกเศร้า
"ฮึก ฮึก อื้อออก็ได้ เอามาหลายๆชิ้นเลยนะ ฮึก ฮึก"
"เคร เคร รอก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบซื้อไปให้ แล้วก็เลิกร้องไห้ได้แล้วถ้ากลับไปแล้วเห็นยังร้องไห้อยู่ฉันจะเอาเค้กทิ้งถังขยะ"
"อื้มม เลิกร้องแล้วก็ได้ ฮึก ฮึก ลินจะรอนะ รีบๆกลับมา"
"ครับผม"
"พี่ลินโทรมาเหรอวะ" ไอ้เจ๋งถามหลังจากที่ผมวางสายจากอลินพี่สาวของผม
"อือ"
"พี่สาวมึงโอเคบ้างหรือยังวะ"
"ก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ยังไงวันนี้กูขอกลับก่อนนะ พวกมึงก็ดื่มกันไปละกันหมดเท่าไหร่ก็บอกกูเดี๋ยวกูโอนให้" ผมบอกพวกมันสองตัวก่อนจะหยิบหระเป๋าหนังสือออกจากห้อง
4ปีต่อมา...."คินไปได้แล้วสายแล้วนะเดี๋ยวเข้าประชุมไม่ทัน" ฉันบอกคินที่ตอนนี้เอาแต่ชะเง้อมองเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลคือเขาเป็นอยู่แบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว"แป๊บนึงคินกลัวน้องเพลงมองหาเราสองคนแล้วไม่เจอเกิดแกร้องไห้ขึ้นมาเราจะได้รับกลับบ้าน" ฉันต้องถอนหายใจกับความห่วงลูกสาวแบบเกินเบอร์ของคุณพ่อ ส่วนน้องอลันตอนนี้แกอายุได้8ขวบแล้วแกเรียนอยู่อีกโรงเรียนหนึ่งซึ่งรายนั้นพ่อก็ห่วงไม่แพ้กันแต่น้องอลันไม่ให้ไปส่งเพราะรู้ว่าพ่อเป็นยังไงก็เลยให้คนขับรถที่บ้านไปรับไปส่งแทน"ลูกไม่ร้องหรอกดูสิเล่นกับเพื่อนจนลืมเราสองคนแล้ว""คินห่วงลูกอ่ะคินกลัวลูกโดนเพื่อนแกล้งน้องเพลงยังเล็กอยู่เลยอายุแค่สามขวบเองนะ" น้ำเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ของคนเป็นพ่อทำเอาฉันต้องถอนหายใจอีกรอบ"ถึงน้องเพลงจะอายุแค่สามขวบแต่แกก็เก่งนะดูสิเรามาส่งไม่มีร้องไห้เลย" ฉันพยายามปลอบเพื่อให้คินเลิกห่วงลูกแบบเกินกว่าเหตุแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล"วันนี้เราพาแกกลับก่อนดีมั้ยรอให้คินทำใจได้เมื่อไหร่ค่อยพาแกมาโรงเรียน นะแพรนะ" คินหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนอย่างน่าสงสารแต่ถามว่าฉันสงสารมั้ย ไม่เลยค่ะ"ไม่ต้องเลยให้ลูกอยู่โรงเรียนส่วนคินก
ผ้าแพร...หลังจากที่เราสองคนพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วฉันก็ชวนคินมาหาคุณหมอเพื่อตรวจดูอาการของฉันเพราะฉันคิดว่าฉันอาจจะกำลังท้องลูกคนที่สอง ตอนแรกฉันก็ไม่ทันได้คิดจนกระทั่งก่อนออกจากบ้านฉันเปิดตู้เสื้อผ้าก็เจอกับห่อผ้าอนามัยที่ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสองเดือนที่ผ่านมาฉันไม่ได้หยิบมันออกมาใช้เลย"ยินดีด้วยนะคะคุณผ้าแพรทั้งครรภ์ได้6สัปดาห์แล้วค่ะ^^""เมียผมท้องแล้วจริงๆเหรอครับคุณหมอ คุณหมอไม่ได้หลอกให้ผมดีใจใช่มั้ยครับ" น้ำเสียงคินดูตื่นเต้นสุดๆเมื่อได้ยินคุณหมอบอกว่าฉันท้อง"จริงๆสิคะหมอจะโกหกทำไม^^""เอ่อ แล้วผมต้องทำยังไงต่อครับ คือตอนท้องลูกคนแรก..ผมทำตัวไม่ดีผม...ผมแทบไม่มีโอกาสได้ดูแลเมียกับลูกเลยผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อจากนี้" จากน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเศร้าลงในทันทีมันไม่ใช่แค่น้ำเสียงใบหน้าของเขาก็เศร้าลงเช่นกันจนฉันอดสงสารเขาไม่ได้เขาคงรู้สึกแย่เพราะตอนนั้นที่ฉันบอกเขาว่าฉันท้องเขาไม่ยอมรับซ้ำยังไล่ให้ฉันไปเอาลูกออกอีกเพราะคิดว่าไม่ใช่ลูกตัวเองถึงตอนหลังเขาจะรู้ความจริงและมาดูแลฉันตอนที่ฉันท้องได้หลายเดือนแล้วแต่ตอนนั้นฉันก็ตั้งแง่กับเขาพอลูกคลอดฉันก็ยังพาลูกหนีเข
ผ้าแพร...ฉันนั่งแท็กซี่มาที่โรงพยาบาลแทนการให้คนขับรถที่บ้านมาส่งเพราะฉันกลัวคินจะรู้ว่าฉันมาหาพลอยใส เขาเคยกำชับและสั่งฉันว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับพ่อแม่หรือพลอยใสอีกเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นว่าฉันเป็นคนครอบครัว พวกเขาเห็นเงินสำคัญกว่าฉันยอมตัดขาดจากฉันเพื่อแลกกับเงินใช้หนี้ คินบอกว่าตอนนี้ชีวิตของฉันเป็นอิสระแล้วเขาบอกอีกว่าอย่าคิดว่าตัวเองเลวหรืออกตัญญูเพราะพวกเขาเลือกเงินมากกว่าฉันซึ่งเป็นลูกซึ่งฉันก็รับปากคินไปแต่หลังจากได้รับโทรศัพท์จากพลอยใสว่าตอนนี้ป่วยอยู่โรงพยาบาลฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้และนี่คือครั้งแรกที่พลอยใสโทรหาฉันตั้งแต่เราเป็นพี่น้องกันมาซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเธอรู้เบอร์โทรของฉันได้ยังไงแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะเพราะตอนนี้ฉันเป็นห่วงพลอยใสมาก ตอนที่เธอโทรมาเธอร้องห่มร้องไห้บอกอยากตายอยากฆ่าตัวตายทำให้ฉันรีบออกมาจากบ้าน พอมาถึงโรงพยาบาลฉันก็สอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่าพลอยใสพักอยู่ห้องไหนพอรู้ห้องฉันก็รีบขึ้นมาทันทีปรากฏว่าพลอยใสอยู่ห้องพักรวมฉันรีบเดินมาหาทันที"ยัยพลอย""แพร ฮือออ แพร พี่มาเยี่ยมฉันจริงๆด้วย ฮือออ" พลอยใสลุกขึ้นนั่งแล้วกอดเอวฉันไว้แน่น"พลอยเป็นอะไรทำไมถึงมานอนโรงพย
ผ้าแพร...."ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่กลับมาหาคิน คินรักแพรนะ รักที่สุด" จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ เขาระดมจูบฉันไปทั่วใบหน้าเมือ่ฉันตอบตกลงแต่งงานกับเขา จากนั้นเราสองคนจูบกันอย่างดูดดื่ม มือของเขาเริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล้ไปทั่วร่างกายของฉัน เขาบีบเคล้นหน้าอกเบาสลับหนัก"หิวนมเมียจังครับ" เสียงกระเส่าเอ่ยขึ้นข้างหูทำให้ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาต้องการอะไร"อื้ออ คินอย่านะ" "แพรจ๋า คินอยากกก..." แต่ไม่ทันทีเราสองคนจะทันได้ทำอะไรกันก็มีเสียงเคาะประตูดังอยู่หน้าประตูไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครก๊อก ก๊อก ก๊อก"ปะป๊าค๊าบบบบ อลันอยากเล่นน้ำแล้วค๊าบบบบ ปะป๊าาาาา ปะป๊าค๊าบบ เปิดประตูให้หน่อบค๊าบบบบ""เห้ออออ" พอได้ยินเสียงลูกคินก็ถึงกับถอนหายใจอย่างสิ้นหวังทำเอาฉันถึงกับขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้อคิน...หลังจากวันนั้นผมก็พาผ้าแพรกับน้องอลันมาอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกได้ถึงความสุขที่เฝ้ารอมานาน การที่ได้มีผ้าแพรกับลูกอยู่ในชีวิตประจำวันของผมมันเป็นอะไรที่ผมเฝ้ารอมานานและวันนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว มันทำให้ผมมีแรงที่จะทำอะไรต่อมิอะไรทำเพื่อให้พวกเค้าทั้งสองคนมีความสุขผ้าแพรไม่ต้องลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วผมให้เธอเป็นแม่บ้านอย่างเดียวไ
ผ้าแพร...กว่าคินจะยอมพาฉันกลับบ้านก็ปาไปเกือบสามทุ่มพอมาถึงฉันก็ถามหาน้องอลันทันทีเพราะไม่เห็นแกคุณป้าบอกว่าแกเล่นจนเหนื่อยหลับไปตั้งแต่ทุ่มนึงแล้ว ฉันกับคินก็เลยขึ้นไปดูลูกที่ตอนนี้แกนอนอยู่ห้องนอนของคินพอเดินเข้ามาก็เจอแกนอนกอดหมอนข้างหลับอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง"คินขอบคุณแพรอีกครั้งนะ" คินกอดฉันจากทางด้านหลังเอาคางเกยไหล่ของฉันก่อนจะพูด"ขอบคุณเรื่องอะไรอีก""ก็ขอบคุณที่เลี้ยงลูกของเราอย่างดีและไม่ได้สอนลูกให้ลูกเกลียดคิน""แพรจะทำแบบนั้นทำไมแพรรู้ว่าคินรักลูกมาก""แต่คินก็ไม่ได้ช่วยแพรเลี้ยงลูก""คินไม่ผิดแพรเองต่างหากที่ผิดและต้องขอโทษคินถ้าแพรไม่พาแกหนีไปคินก็คงได้ทำหน้าที่พ่อได้สมบูรณ์มากกว่านี้""ที่แพรหนีไปก็เพราะตอนนั้นคินไม่ทำให้แพรเชื่อใจมันก็เลยไม่แปลกที่แพรจะหนี แพรรู้มั้ยว่าจดหมายที่แพรเขียนฉบับนั้นคินเอามันอ่่านมันบ่อยมากเลยนะเพราะมันตอกย้ำให้คินรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคินทำเรื่องเลวร้ายกับแพรมากแค่ไหน""เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วอย่าพูดถึงมันอีกเลยนะ""คินจะลืมได้ยังไงคินทำร้ายแพรโดยที่แพรไมไ่ด้ผิดอะไรเลย ถ้าคินไม่เข้าใจผิดเรื่องแพรกับไอ้พีท...คินขอโทษจริงนะที่ตอนนั้นคิ
อคิน....จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ ผมจูบผ้าแพรด้วยความรู้สึกโหยหา นานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ได้กอดไม่ได้จูบไม่ได้สัมผัสกับร่างกายนี้ จูบครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งที่ผ่านๆมา ผมไม่เคยลืมว่าที่ผ่านมาที่เรามีความสัมพันกันเป็นเพราะผมหลอกเธอเป็นเพราะความแค้นความอยากเอาชนะอยากให้เธอเจ็บปวด แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่มันเกิดจากความรักจริงๆความรักที่ผมมีให้เธอเต็มหัวใจผมอยากชดเชยความผิดพลาดของตัวเองผมอยากทำให้เธอรู้ว่าตั้งแต่นี้ต่อไปผมจะมอบความรักที่ดีให้กับเธอ"แพร...คินรักแพรนะ" ผมกระซิบข้างหูเบาๆก่อนจะจูบลงไปที่ซอกคอของเธออย่างแผ่วเบามือไม้ของผมเริ่่มอยู่ไม่สุขผมลูบไล้ไปทั่วร่างกายของผ้าแพร ถ้าผมไม่อยากหยุดแค่จูบเธอจะว่าอะไรผมหรือเปล่านะเพราะตอนนี้เจ้าน้องชายของผมมันเริ่มตื่นตัว อาจจะเป็นเพราะผมห่างหายไปจากเรื่องอย่างว่ามานานมันก็เลยตื่นเร็ว ก็ตั้งแต่ที่ผมรู้ใจตัวเองว่าผมรักผ้าแพรแล้วก็ตามไปอยู่กับเธอที่น่านผมยอมอยู่อย่างลำบากเพราะอยากใกล้ชิดดูแลผ้าแพรกับลูกจนผมอดแปลกใจตัวเองว่าผมอยู่ได้ยังไงเพราะตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยอยู่อย่างลำบากมาก่อนไม่เคยนอนห้องที่ไม่มีแอร์ ไม่เคยนอนฟูก ไม่เคยทำกับข้าวไม่เคยซักผ้า ไม่เค