พิธีแต่งงานถูกแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นแบบไทยและช่วงเย็นเป็นพิธีฉลองมงคลสมรสซึ่งจะจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าบ่าวเพื่อให้เพื่อนๆ ของทั้งสองฝ่ายได้มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างสะดวก
ในช่วงเช้าจัดเป็นพิธีแบบไทย ซึ่งจัดขึ้นที่บ้านสวนของคุณยายนวลแขที่จังหวัดนครปฐม แขกที่มาร่วมงานจึงมีแค่ญาติสนิทของทั้งสองฝ่ายเพียงเท่านั้น
ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างสวยงามตามความต้องการของคุณยายนวลแข ทางฝ่ายเจ้าบ่าวเองก็ยอมตามใจทุกอย่างเพราะมีความเคารพนับถือกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกอย่างคุณยายนวลแขก็เป็นคนจัดการงานนี้ด้วยตนเองเพราะอยากทำให้วันสำคัญของหลานสาวเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุด
ทั่วบริเวณบ้านเรือนไทยถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้จริงทั้งหมด ทำให้ทั่วบริเวณงานเต็มไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่น คนที่มาเป็นแขกต่างพากันชื่นชมไม่ขาดปาก
ไอรดาสวมชุดไทยศิวาลัยสีงาช้างพาดสไบสีเดียวกันปักดิ้นเงิน ผมถูกเกล้ารอบศีรษะ เปิดให้เห็นใบหน้าสวยหวานราวกับหลุดออกมาจากวรรณคดี ดวงตากลมโตถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงเสริมให้ดูเด่นชัดขึ้น พวกแก้มปัดสีอ่อนเน้นความเป็นธรรมชาติ ปากบางทาด้วยสีชมพู อ่อนๆ พอเธอปรากฏกายอติรุจน์ก็จ้องคนรักด้วยความตกตะลึง
ปกติแล้วคุณหมอสาวไม่เคยแต่งหน้าแบบนี้มาก่อนส่วนใหญ่ก็แค่รวบผมและทาเพียงรองพื้นเวลาออกไปข้างนอกเท่านั้น มันจึงทำให้อติรุจน์มองด้วยสายตาชื่นชมอย่างปิดไม่มิด
“วันนี้น้องอัยย์สวยมากเลยนะครับ” อติรุจน์กล่าวชมระหว่างที่ทั้งสองนั่งคู่กัน ขณะที่ญาติผู้ใหญ่ต่างพากันมารดน้ำสังข์
“พี่ติก็หล่อมากๆ เหมือนกันค่ะ”
การกระซิบกระซาบกันของคู่บ่าวสาวนั้นเป็นภาพที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมองแล้วพากันยิ้มอย่างมีความสุข ทั้งสองคนสวยหล่อและยังมีหน้าที่การงานที่ดี มองยังไงก็เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก ไม่ว่าจะขยับลุกนั่งหรือเดินต้อนรับแขกอติรุจน์จะคอยดูแลหญิงสาวราวกับเธอเป็นเจ้าหญิง
ไอรดารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้แต่งงานกับเขา ทั้งที่ไม่เคยคาดหวังว่าเขากับเธอจะเข้ากันได้ดีเพราะต่างฝ่ายต่างก็ถูกผู้ใหญ่บังคับด้วยกันทั้งคู่ แต่พอเวลาผ่านไปความรักก็เกินขึ้นจนมาวันนี้วันที่ทั้งสองจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันอย่างถูกต้องสมบูรณ์
พอช่วงบ่ายคุณยายนวลแขให้นุกูลลูกเขยเธอซึ่งเป็นลุงของไอรดาไปเชิญนายอำเภอมาที่บ้านเพื่อให้ทั้งสองคนได้จดทะเบียนสมรสกันต่อหน้าญาติของทั้งสองฝ่าย
“คุณยายจะไม่ไปงานฉลองตอนเย็นจริงๆ เหรอคะ”
“หนูอัยย์อย่าอ้อนให้ยากเลย ลุงว่าปล่อยให้ยายพักอยู่บ้านเถอะ นี่ก็เตรียมงานมานานหลายวัยยายคงอยากพัก” นุกูลบอกหลานสาวที่กำลังนั่งอ้อนให้คุณยายไปร่วมงานตอนเย็นกับเธอ
“แล้วอย่างนี้ใครจะเป็นญาติผู้ใหญ่ให้อัยย์ล่ะคะลุงนุ”
“ลุงกับป้าไง นี่ลุงตัดสูทหล่อๆ ไว้แล้วนะ กะว่างานนี้จะหล่อแข่งกับเจ้าบ่าวเสียหน่อย”
“พี่ณัฐไหนมาบอกว่าไม่มีใครไปไงคะ”
“พี่พูดแบบนั้นเหรอ พูดตอนไหน เราฟังผิดหรือเปล่า ทำงานมากจนเบลอหรือเปล่า”
“จริงๆ นะคะลุงนุป้าอร พี่ณัฐพูดแบบนั้นจริง อัยย์จำได้”
“มั่วแล้วหนูอัยย์ พี่ว่าอย่าเสียเวลาเถียงกันเลย รีบกลับกรุงเทพกันเถอะ แต่งตัวไม่ทันจะมาว่าพี่ไม่ได้นะ”
“อย่างอัยย์น่ะ สวยอยู่แล้ว ต่อให้หน้าสดก็ยังได้ใช่ไหมคะพี่ติ”
“ใช่ครับ”
“นี่ขนาดเพิ่งจะแต่งได้ไม่กี่ชั่วโมงยังกลัวเมียขนาดนั้น พี่นึกไม่ออกเลยว่าต่อไปอนาคตจะเป็นยัง” ศุภณัฐยักไหล่ก่อนจะรีบขึ้นไปนั่งบนรถตู้เป็นคนแรกเพื่อไปร่วมงานฉลองตอนเย็นซึ่งตอนนี้บิดามารดาของอติรุจน์นั้นได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว”
“อย่าไปฟังพี่ณัฐเลยค่ะพี่ติ”
“เอาล่ะ ยายว่ารีบไปกับเถอะเดี๋ยวจะแต่งหน้าทำผมไม่ทันอย่างที่เจ้าณัฐว่า หนูอัยย์ ถึงยายไม่ไป ก็ไม่ใช่ว่ายายไม่ยินดีกับหนูนะ แต่ยายไม่ไหวจริงๆ”
“งั้นอัยย์ให้พี่ณัฐถ่ายรูปมาให้ยายดูเยอะๆ นะคะ”
“จ้ะลูก พ่อติยายฝากหนูอัยย์ด้วยนะ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันแล้วก็อย่าลืมรีบมีเหลนให้ยายอุ้มก่อนที่ยายจะไม่มีแรงนะ”
“ครับคุณยาย แล้วผมจะพาน้องอัยย์กลับมาเยี่ยมคุณยายๆ บ่อยนะครับ”
รถตู้เล่นออกจาบ้านสวนแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนสายหลัก ใช่เวลาเพียงชั่วโมงเศษก็มาถึงบริเวณบ้านของอติรุจน์ที่ตอนนี้สถานที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม
“สวยมากเลยค่ะพี่ติ เหมือนที่อัยย์คิดไว้เลยค่ะ”
“พี่ดีใจที่อัยย์ชอบ พี่ว่าอัยย์รีบไปแต่งตัวนะครับ”
“ค่ะ”
งานฉลองตอนเย็นไอรดาสวมชุดแต่งงานเกาะอกสีขาว กระโปรงยาวถึงพื้น ผมเกล้าเป็นมวยตํ่า ส่วนเจ้าบ่าวนั้นอยู่ในสูทสีขาว ทั้งสองคนยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างานด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แขกที่มางานต่างชื่นชมบ่าวสาวว่าสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
เมื่อถึงเวลาที่กำหนดทั้งสองก็ขึ้นไปกล่าวขอบคุณแขกบนเวที จากนั้นก็ตัดเค้กและโยนช่อดอกไม้เมื่อเสร็จพิธีก็ถึงเวลาเข้าหอ ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็ร่วมอวยพร
“ลุงฝากน้องด้วยนะคุณติ หนักนิดเบาหน่อยให้อภัยกัน”
“ครับ”
“ส่วนป้าก็อยากให้ทั้งสองคนรักกันใหมากๆ จะทำอะไรก็ขอให้นึกถึงวันนี้ที่ทั้งสองคนมีความสุข”
“ครับคุณลุงคุณป้า” อติรุจน์รับคำ
“พ่ออยากหนูอัยย์กับติมีหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆ ” บิดาของเจ้าบ่าวอวยพร
“แม่ก็ขอให้หนูอัยย์มีความสุขกับชีวิตคู่นะลูก”
“ขอบคุณค่ะแม่ “ไอรดากล่าวขอบคุณมารดาของสามี
“ส่วนพี่ไม่ขออะไรมาก ขอให้รักน้องสาวของพี่ให้มากๆ ก็พอ”
จากนั้นทุกคนก็ออกไปจากห้องนอน ไอรดารู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่อยู่กันตามลำพังกับอติรุจน์ แม้ว่าจะคบกันมานาน แต่ทั้งสองก็ไม่เคยทำมากกว่าการจับมือเลย
อติรุจน์ไม่เคยล่วงเกินเธอสักครั้งเพราะอยากรอให้ถึงวันนี้วันที่ทั้งสองแต่งงานกันอย่างถูกต้อง และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไอรดารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโชคดีที่สุดคนหนึ่ง
“เหนื่อยไหมครับ”
“ค่ะ อัยย์ไม่คิดเลยว่าจะเหนื่อยจนแทบหมดแรงแบบนี้ เหนื่อยกว่าขึ้นเวรที่โรงพยาบาลอีกค่ะ พี่ติล่ะคะเหนื่อยไหม”
“ครับ พี่เป็นผู้ชายยังเหนื่อยขนาดนี้ แต่เดี๋ยวนอนพักก็คงหายเหนื่อย”
“พี่ติยังไม่บอกเลยว่าจะพาอัยย์ไปฮันนีมูนที่ไหน”
“พรุ่งนี้เจ้าจะบอกครับ รับรองว่าอัยย์ต้องชอบ แต่ตอนนี้พี่ว่าอัยย์ไปอาบน้ำก่อนดีไหมครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ให้พี่ช่วยถอดชุดให้ไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ อัยย์ถอดเองได้”
“ไม่เห็นต้องอายเลยเราแต่งงานกันแล้ว
“ไม่ได้อายสักหน่อย”
“งั้นหันหลังมานะครับเดี๋ยวพี่รูดซิปให้”
ไอรดาหันหลังให้เขาอย่างว่าง่าย หัวใจเธอเต้นแรงเมื่อชุดถูกรูดลงไปกองอยู่กับพื้น หญิงสาวรีบความผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่มาพันรอบกายอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านหลังได้แต่หัวเราะด้วยความเอ็นดู
“เอาล่ะ อัยย์ไปอาบได้แล้ว เดี๋ยวพี่จะออกไปอาบห้องน้ำแขกนะครับจะได้รีบเข้านอนพร้อมกัน”
“ค่ะพี่ติ”
ไอรดาคุกเข่าลงตรงหน้าคนรัก ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบตาคมปลาบหญิงสาวส่งยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ อัยย์”เพียงมือเล็กสัมผัสกายความเป็นชายปิญชาน์ก็ครางสะท้าน ไอรดาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็งเธอรู้ว่าจุดไหนของร่างกายที่เป็นศูนย์รวมเส้นประสาทและจะทำให้เขาเสียวซ่าน ยิ่งได้ยินเสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งได้ใจ เรียวปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เรียวปากเล็กกลืนกินกายแกร่งอย่างที่เขาเคยจินตนาการถึง“เยี่ยมที่สุด สุดยอดที่รัก...” ปิญชาน์เอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าแหงนขึ้นสูดปากด้วยความเสียวกระสันเมื่อภรรยาสาวปรนเปรอให้เขาอย่างถึงใจ ปลานลิ้นเลียวนส่วนปลายก่อนจะดูดเข้าปากเล็กจนแก้มตอบ ปิญชาน์สั่นสะท้านไปทั่วร่างจนทนแทบไม่ไหว ชายหนุ่มดึงคนรักให้ลุกขึ้นแล้วประกบจูบที่กลีบปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ความเสียวที่เธอมอบให้มันอัดแน่นจนแทบจะระเบิดเขาพลิกให้ไอรดาหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ จับ
หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วไอรดาก็เก็บของใช้มาอยู่กับปิญชาน์ที่คอนโด ระหว่างนี้เรือนหอก็เริ่มสร้างตามแบบที่ทั้งสองคนช่วยกันเลือก ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเสร็จก่อนวันแต่งงานประมาณหนึ่งเดือน หมอปิญชาน์อัปเดตภาพทะเบียนสมรสลงในโซเซียลทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเขากับหมอไอรดาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานหรือคนที่กำลังดูใจกันอยู่ แต่สถานะของทั้งสองคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการตัดโอกาสคนที่จะข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องการของทั้งสองอยู่ในจังหวะที่ลงตัวมาก ทุกวันทั้งสองจะไปทำงานพร้อม พอตอนเย็นไอรดาก็จะมาส่งหมอปิญชาน์ที่คลินิก ส่วนตัวเองก็จะนั่งอ่านหนังสือรอหรือบางครั้งก็กลับมาที่คอนโดก่อนแล้วจึงขับรถไปรับเขาอีกครั้งในเวลาที่คลิกนิกปิดแล้ว ปกติแล้ววันเสาร์ช่วงบ่ายวันเสาร์แบบนี้จะเป็นเวลาพักของทั้งสองคุณหมอ บางครั้งทั้งสองคนก็พากันออกไปซื้อของ ไปเดินเล่นหรือไม่ก็ไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องแต่วันนี้ปิญชาน์ต้องไปให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากกับเพื่อนของพี่สาว ไอรดาจึงอยู่ที่คอนโดเพียงคนเดียว หลังจากทานอาหารค่ำแบบง่า
ไอรดากับปิญชาน์มาถึงบ้านสวนก่อนเที่ยงเล็กน้อยเพราะทั้งสองคนต้องไปราวน์คนไข้ก่อนจะออกเดินทาง “สวัสดีครับคุณยาย ผมไม่มาหาคุณยายนานเลย คุณยายสบายดีไหมครับ” หมอปิญชาน์เข้าไปสวัสดีคุณยายอย่างประจบ “สบายดีจ้ะ ยายว่าตอนนี้ยายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ ยายเดินออกกำลังกายรอบบ้านทุกวันเลย” คุณยายนวลแขรีบอวดคุณหมอคนโปรด “ดีเลยครับ ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” “งานหนักล่ะสิ ดูหมอผอมไปนะ ทั้งหมอชาน์และหนูอัยย์เลย ยายว่าสองคนทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า หาเวลาพักผ่อนบ้างเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ” คุณยายบอกกับทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง “งานอัยย์ไม่หนักเท่าไร่หรอกค่ะ หมอชาน์หนักกว่าอัยย์เยอะเลยค่ะ ทั้งงานที่โรงพยาบาลและที่คลินิก” “ขยันจริงๆ แล้ววันหยุดแทนที่จะพัก ก็พากันมาซะไกลเลย” “ก็อัยย์คิดถึงคุณยายนี่คะ” “ยายก็คิดถึงหนู นี่ลุงกับป้าก็บ่นคิดถึงหนูเหมือนกัน เห็นว่าหยุดยาวคราวหน้าจะให้เจ้าณัฐไปรับมานอนที่บ้านสักคืน” “คุณยายขาอัยย์ขอไปหาคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะคะ หมอชาน์คุยกับคุณยายนะคะ เดี๋ยวอัยย์มาค่ะ
เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับความสนิทสนมของหมอปิญชาน์กับหมอไอรดาว่าทั้งสองคนจะสนิทกันมากว่าแค่เพื่อร่วมงานธรรมดา เพราะนอกจากทั้งสองมักจะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันแล้วบางครั้งถ้าโทรตามหมอปิญชาน์มาทำคลอดหรือมาผ่าตัดในเวลากลางคืน หมอปิญชาน์ก็มักจะมาพร้อมกับหมอไอรดาแม้ว่าเวรของทั้งสองจะตรงกันแต่มันก็ผิดสังเกตอยู่ดี เรื่องนี้ไอรดาเองก็ได้ยินเข้าหูมาอยู่บ้างสำหรับเธอแล้วมันได้มีผลกระทบอะไรเลยเพราะความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเสียงที่ได้ยินส่วนใหญ่จะออกไปแนวประมาณว่าทำไมหมอปิญชาน์ถึงเลือกคบกับหมอไอรดาที่เพิ่งหย่ากับสามีแทนที่คนหล่อๆ โปรไฟล์ดีอย่างเขาน่าจะมองหาหมอที่ทั้งสาวทั้งสวยอย่างหมอน้ำฟ้าลูกสาวคนเล็กของอาจารย์หมอประทีปซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาล หลายคนมองออกว่าคุณหมอน้ำฟ้านั้นมีความสนใจคุณหมอปิญชาน์อยู่ประมาณหนึ่งเพียงแต่เธอไม่กล้าออกตัวเพราะคิดว่ายังไงคุณหมอหนุ่มก็คงจะไม่มองใครที่ไหนเนื่องจากตอนนี้เธอเป็นคุณหมอคนเดียวที่ยังโสดอยู่ แต่ความสวยและความโสดก็ได้ทำให้คุณหมอปิญชาน์หันมาสนใจเธอเลยสักนิดเพราะคุณหมอหนุ่มไม่เหลือที่ว่างในหัวใจให้ใครอี
วันนี้การประชุมค่อนข้างน่าเบื่อเพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลทางสถิติซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไอรดานั้นง่วงจนตาแทบจะปิดเนื่องจากเมื่อคืนกว่าเธอจะได้นอนก็เกือบจะตีสาม ถึงแม้จะเคยอยู่เวรทำงานยาวถึง 48 ชั่วโมงมาแล้วแต่มันต่างกันอย่างชิ้นเชิง “หมออัยย์ ง่วงไหมคะ” “ค่ะ หมอพั้นช์ล่ะคะ” “ง่วงมากค่ะ เมื่อคืนพั้นช์กับหมอภพนั่งดื่มกันจนผับปิดแล้วยังไปเดินรับลมกันต่ออีก กว่าจะได้ขึ้นนอนก็เกือบจะตีสามเลยค่ะ” พัณณ์ชิตากระซิบเบาๆ “ถ้าบ่ายนี้ไม่ได้กาแฟคงนั่งหลับในห้องประชุมแน่ๆ” “กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ ขากลับจะแวะซื้อกาแฟเข้ามาด้วยเลยดีไหมคะ เพราะกาแฟที่ห้องประชุมคงเอาไม่อยู่แน่นอนเลย” “ปกติเราก็ไปทานด้วยกันอยู่แล้วนี่คะ” “อัยย์หมายถึงออกไปทานข้างนอกโรงแรม พอดีหมอชาน์เขาจองร้านอาหารไว้” “ไม่ดีกว่าพั้นช์ไม่อยากเป็นก้างค่ะ เดี๋ยวพี่หมอจะมาว่าพั้นช์ทีหลัง” “แต่ร้านนี้อาหารอร่อยมากนะคะ ใครมาภูเก็ตต้องได้ไปทาน เราชวนหมอภพไปด้วยก็ได้นะคะ ไปหลายคนจะได้สั่งทานได้หลายอย่าง” “หมออัยย์ไม
ปิญชาน์และไอรดาเดินคุยกันต่ออีกไม่นานก็พากันกลับเข้ามายังโรงแรมอีกครั้ง ทั้งสองตรงไปยังห้องพักของไอรดาและช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น ไอรดายังไม่ทันได้เปิดกระเป๋าเพื่อเอาชุดมาแขวนก็ถูกคนตัวโตรวบกอดจนแทบหายใจไม่ออก และเมื่อเธอจะกำลังจะบอกให้เขาปล่อย ริมฝีปากสีสวยถูกประจบจูบลงมาอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ปลายลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน ราวกับว่าถ้าเขาจูบเธอช้ากว่านี้เขาจะขาดใจลงตรงหน้า จูบที่คุ้นเคย กระตุ้นความปรารถนาของในกายให้ลุกโชน ไอรดาตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสำรวจภายในอุ้งปากของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ“ผมคิดถึงคุณมากนะอัยย์ ผมขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้คุณเลย แต่สามวันนี้ผมจะให้เวลาทุกวินาทีกับคุณนะครับอัยย์”“อัยย์ก็คิดถึงคุณค่ะ เรื่องเวลาอัยย์เข้าใจดีค่ะ”ในขณะที่ปากร้อนกำลังดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่ก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว จนที่สุดร่างกายสาวขาวเนียนก็เปลือยเปล่าสายตาของชายหนุ่ม ไฟแห่งตัณหาเริ่มปะทุขึ้น ปิญชาน์อุ้มคุณหมอสาวยังไปวางบ