ไอรดามาถึงคอนโดมิเนียมโครงการหรูที่อยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก หญิงสาวเข้าไปติดต่อกับพนักงานขายเพื่อเลือกห้องที่ตัวเองถูกใจมากที่สุด จากนั้นก็โทรศัพท์ไปบอกบริษัทรับย้ายของที่ให้ไปเอาของใช้ส่วนตัวที่เธอแพ็คลงกล่องไว้ที่คอนโดเดิมมายังคอนโดแห่งใหม่ ซึ่งของเหล่านั้นเดิมทีเธอเตรียมจะย้ายไปอยู่ที่บ้านของอติรุจน์หลังแต่งงาน
แต่เมื่อทุกอย่างมันผิดแผนไปหมดเธอจึงต้องหาที่อยู่ใหม่เพราะคอนโดของตนเองนั้นได้ประกาศขายไปแล้ว และเจ้าของคนใหม่ก็จะย้ายเข้ามาอยู่ในเดือนหน้า
คอนโดแห่งใหม่นี้มีขนาดสองห้องนอนสองห้องน้ำเป็นห้องเกือบริมสุด มีระเบียงมองออกไปวิวแม่น้ำพระยา มีห้องนั่งเล่นและครัวอยู่ตรงกลางห้อง ส่วนห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่จะอยู่กันคนละฝั่ง อีกด้านจะเป็นพื้นที่ครัว ที่มีโต๊ะทานข้าววางอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัวกั้นระหว่างครัวกับพื้นที่นั่งเล่น
ไอรดาพอใจกับขนาดของห้องและพื้นที่การใช้สอยมากในอนาคตเธอวางแผนว่าอาจจะใช้ห้องนอนเล็กเป็นห้องทำงานและห้องหนังสือ แต่วันนี้คงได้แค่เอาของที่อยู่ในกระเป๋ามาจัดให้เข้าที่เพราะบริษัทขนส่งแจ้งพรุ่งนี้พวกเขาถึงจะนำของมาส่งให้เธอได้
เก็บของเสร็จและนั่งดูทีวีได้ไม่นานเสียงออดที่หน้าประตูก็ดังขึ้น หญิงสาวรีบลุกไปเปิดอย่างรวดเร็ว
“อัยย์ เล่ามาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมยังไม่เดินทางอีกไหนว่าจะไปฮันนีมูน แล้วนี่คอนโดของใครทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่ไปอยู่บ้านพี่ติแล้วเหรอ”
“ริตาถามเยอะจังอัยย์ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี แล้วซื้อของกินมาไหมอัยย์หิว”
“ใครจะมีเวลาซื้อล่ะ เลิกงานก็รีบตรงมาที่นี่เลย”
“เป็นไงล่ะ ขับรถไม่ถึงสิบนาทีใช่ไหม”
“อือ ใกล้ที่ทำงานมาก เฮ้ย! อัยย์อย่าเปลี่ยนเรื่องนะ เล่ามาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ออกไปหาอะไรกินก่อนได้ไหม อัยย์หิว”
“จะกินอะไรสั่งมาได้ไหมขี้เกียจออกไป”
“ก็ได้ งั้นอัยย์สั่งนะ อยากกินข้าวหมูกรอบ ริตาจะกินอะไร”
“เอาสุกี้น้ำ ไม่ใส่วุ้นเส้น”
“กลัวอ้วนเหรอ”
“อือ ใครจะเป็นเหมือนอัยย์ล่ะ กินเท่าไร่ก็ไม่อ้วน”
“เดี๋ยวอัยย์สั่งข้าวก่อน ริตาไปล้างหน้าล้างตาก่อนไหมดูสิหน้ามันเชียว”
“ไม่ต้องแซวเลยนี่ออกจากห้องผ่าตัดก็รีบมาเลยนะ ดึกนี้มีเคยวางยาสลบอีกเคสคงอยู่กับอัยย์ได้ไม่นานหรอก”
“แค่ริตามาหาก็ดีใจแล้ว”
สิรตารีบเข้าไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะกลับออกมานั่งจ้องหน้าไอรดาที่วันนี้เธอควรจะไปฮันนีมูนกับสามี ไม่ใช่มานั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้
“อัยย์เล่ามาเถอะ ริตารู้ว่าอัยย์กำลังมีปัญหา”
“ปัญหามันใหญ่มากด้วย อัยย์ไม่รู้จะเล่าจากตรงไหนมันสับสนไปหมด”
“ถ้างั้นริตาขอถามว่าทำไมถึงไม่ไปฮันนีมูน”
ไอรดาตอบคำถามเพื่อนจากนั้นก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่คืนเข้าหอให้กับสริตาฟังรวมถึงเรื่องคอนโดและเงินสิบล้านค่าหย่าที่เพิ่งได้มาอย่างไม่มีปิดบัง
“ตายตาย ริตาไม่อยากจะเชื่อคนเราทำไม่ถึงปิดบังกันได้นานขนาดนี้ ครอบครัวเขาไม่รู้เลยเหรอ”
“อือ ไม่มีใครรู้เลย”
“แสดงว่าที่เขาไปหาอัยย์บ่อยๆ ตอนไปเรียนนั่นก็เพราะผลประโยชน์ของเขาทั้งหมดใช่ไหม”
“ใช้สิ ทุกครั้งที่เขาไปเยี่ยมหรือทุกครั้งที่เราไปเที่ยวด้วยกันเขาจะพาเลขาไปด้วยโดยอ้างว่าเพราะยังมีงานที่ต้องทำ กลางวันเขาก็เที่ยวกันเราปกติ พอกลางคืนเขาก็ไปนอนห้องเดียวกับเลขา ไอ้เราก็หลงดีใจนึกว่าเป็นสุภาพบุรุษหลงปลื้มมาตั้งสามปี มันน่าเจ็บใจไหมล่ะ”
“เรียกแค่สิบล้านยังน้อยไปด้วยซ้ำเพราะตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าอัยย์แต่งงานแล้ว”
“แต่งแล้วหย่าแล้ว ตอนนี้เราก็แม่หม้ายคนหนึ่ง”
“เอาน่ามันก็แค่สถานะ อย่าไปคิดอะไรมากเลย ลองคิดดูอีกทีริตาว่าอัยย์โชคดีที่รู้รสนิยมของเขา ถ้าไม่อย่างนั้นนั้นคงแย่”
“นั้นสิ คิดแล้วก็นึกภาพไม่ออกเลย ถ้าเรากับเขามีอะไรกัน เวลาอยู่กับเราเขาเป็นสามี แต่พอไปอยู่กับเลขาเขาก็กลายเป็นภรรยา มันคงฟังดูพิลึกมาก”
“อัยย์โกรธเขาไหม”
“โกรธสิ โกรธมาก แต่ก็พยายามเข้าใจความรักของเขานะ แต่เขาก็น่าจะบอกกับทางบ้านไปตรงๆ ไม่ใช่ดึงอัยย์เข้ามาเกี่ยวด้วยแบบนี้”
“นั้นสิ เขาก็เห็นแกตัวอยู่เหมือนกัน แล้วทีนี่อัยย์จะเอายังไงต่อละ”
“ก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ แหละ”
“ตั้งปีหนึ่งเลยนะ”
“เราอยู่มาได้โดยไม่มีแฟนตั้งหลายปี ทนอีกปีเดียวไม่เห็นจะเป็นไรเลย”
“แล้วนี้ต้องอยู่แต่ในห้องไปจนกว่าเขาจะกลับเหรอ น่าเบื่อแย่เลย”
“ไม่หรอกเราว่าคืนนี้จะลองไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาดูบ้าง”
“ไม่กลัวเจอคนรู้จักเหรอ”
“แล้วครั้งนั้นที่อัยย์แต่งหน้าเข้มๆ แต่งตัวโป๊ๆ มารอริตาที่หน้าโรงพยาบาลริตาจำได้ไหมล่ะ”
“อ้อ ลุคนั้นเปรี้ยวจี๊ดเลย ถ้าแต่งแบบนั้นคงไม่มีใครจำได้หรอก”
“อัยย์เป็นแม่หม้ายไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะคนที่จะข้ามาคงไม่อยากได้ผู้หญิงมือสองหรอก ริตาว่าจริงไหมล่ะ”
“มันแน่ซะที่ไหน ผู้ชายบางคนก็ไม่สนใจอดีต”
“แต่อัยย์เข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย”
“อย่าปิดโอกาสตัวเองสิ ถ้าเจอคนที่ชอบก็บอกเขาไปตรงๆ ถ้าเขารับได้ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร”
“พูดเหมือนคืนอัยย์ออกไปแล้วจะได้คู่เลยนะ”
“ใครจะรู้ล่ะ อ้อคืนนี้มันคืนคนโสด ร้านพี่ชายริตาจัดกิจกรรมด้วยนะสนใจไหมเดี๋ยวริตาโทรจองโต๊ะให้”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ อัยย์แค่อยากไปดื่ม”
“ดื่มคนเดียวถ้าเมาจะกลับยังไง”
“อัยย์คงมาเมามายจนไม่ได้สติหรอกน่า แต่ถ้าเมาจริงๆ พี่รัชก็คงให้คนมาส่งเองแหละ” เพราะหลายครั้งแล้วที่เธอนั่งดื่มจนเมาแล้วพี่ชายของเพื่อนก็ในเด็กที่ร้านพามาส่ง
หลังจากทานข้าวอิ่มแล้วสริตาก็ขอนอนพักก่อนจะกลับไปทำงาน พอสี่ทุ่มไอรดาก็ปลุกเพื่อนขึ้นมาล้างหน้าล้างตาอีกครั้ง
“ริตา ไปส่งอัยย์ที่ผับนะ ขากลับอัยย์ว่าจะเรียกแท็กซี่”
“จะกลับกี่โมงล่ะ เผื่อว่าริตาทำงานเสร็จจะได้มารับ”
“อย่าเลยพรุ่งนี้ยังต้องทำงานอีก เข้าเคสเสร็จก็รีบกลับไปพักเถอะอัยย์นั่งแท็กซี่กลับจะสะดวกกว่า”
“งั้นก็ตามใจแต่ถ้าไม่ไหวก็บอกพี่รัชแล้วกัน”
“จ้ะ งั้นไปกับเถอะเดี๋ยวริตาจะไปไม่ทันเข้าเคส”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เขาจะผ่าตัดกันได้ยังไงในเมื่อวิสัญญียังไม่ได้ว่างยาสลบ”
“ใครว่าหมอผ่าตัดสำคัญ อัยย์ว่าหมอวางยาก็สำคัญกว่าอีกนะ”
“ก็สำคัญทุกคนนั่นแหละจ้ะ ถ้างั้นหมอก็คงทำงานไม่สำเร็จ ว่าแต่ชุดนี้ไม่โป๊ไปแน่นะ” สริตามองชุดสายเดี่ยวสีดำตัวสั้นของเพื่อนด้วยความไม่สบายใจ
“ไม่หรอกน่า ไปเที่ยวผับจะให้แต่งตัวเรียบร้อยได้ยังไงล่ะ”
ไอรดาคุกเข่าลงตรงหน้าคนรัก ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบตาคมปลาบหญิงสาวส่งยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ อัยย์”เพียงมือเล็กสัมผัสกายความเป็นชายปิญชาน์ก็ครางสะท้าน ไอรดาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็งเธอรู้ว่าจุดไหนของร่างกายที่เป็นศูนย์รวมเส้นประสาทและจะทำให้เขาเสียวซ่าน ยิ่งได้ยินเสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งได้ใจ เรียวปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เรียวปากเล็กกลืนกินกายแกร่งอย่างที่เขาเคยจินตนาการถึง“เยี่ยมที่สุด สุดยอดที่รัก...” ปิญชาน์เอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าแหงนขึ้นสูดปากด้วยความเสียวกระสันเมื่อภรรยาสาวปรนเปรอให้เขาอย่างถึงใจ ปลานลิ้นเลียวนส่วนปลายก่อนจะดูดเข้าปากเล็กจนแก้มตอบ ปิญชาน์สั่นสะท้านไปทั่วร่างจนทนแทบไม่ไหว ชายหนุ่มดึงคนรักให้ลุกขึ้นแล้วประกบจูบที่กลีบปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ความเสียวที่เธอมอบให้มันอัดแน่นจนแทบจะระเบิดเขาพลิกให้ไอรดาหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ จับ
หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วไอรดาก็เก็บของใช้มาอยู่กับปิญชาน์ที่คอนโด ระหว่างนี้เรือนหอก็เริ่มสร้างตามแบบที่ทั้งสองคนช่วยกันเลือก ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเสร็จก่อนวันแต่งงานประมาณหนึ่งเดือน หมอปิญชาน์อัปเดตภาพทะเบียนสมรสลงในโซเซียลทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเขากับหมอไอรดาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานหรือคนที่กำลังดูใจกันอยู่ แต่สถานะของทั้งสองคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการตัดโอกาสคนที่จะข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องการของทั้งสองอยู่ในจังหวะที่ลงตัวมาก ทุกวันทั้งสองจะไปทำงานพร้อม พอตอนเย็นไอรดาก็จะมาส่งหมอปิญชาน์ที่คลินิก ส่วนตัวเองก็จะนั่งอ่านหนังสือรอหรือบางครั้งก็กลับมาที่คอนโดก่อนแล้วจึงขับรถไปรับเขาอีกครั้งในเวลาที่คลิกนิกปิดแล้ว ปกติแล้ววันเสาร์ช่วงบ่ายวันเสาร์แบบนี้จะเป็นเวลาพักของทั้งสองคุณหมอ บางครั้งทั้งสองคนก็พากันออกไปซื้อของ ไปเดินเล่นหรือไม่ก็ไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องแต่วันนี้ปิญชาน์ต้องไปให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากกับเพื่อนของพี่สาว ไอรดาจึงอยู่ที่คอนโดเพียงคนเดียว หลังจากทานอาหารค่ำแบบง่า
ไอรดากับปิญชาน์มาถึงบ้านสวนก่อนเที่ยงเล็กน้อยเพราะทั้งสองคนต้องไปราวน์คนไข้ก่อนจะออกเดินทาง “สวัสดีครับคุณยาย ผมไม่มาหาคุณยายนานเลย คุณยายสบายดีไหมครับ” หมอปิญชาน์เข้าไปสวัสดีคุณยายอย่างประจบ “สบายดีจ้ะ ยายว่าตอนนี้ยายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ ยายเดินออกกำลังกายรอบบ้านทุกวันเลย” คุณยายนวลแขรีบอวดคุณหมอคนโปรด “ดีเลยครับ ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” “งานหนักล่ะสิ ดูหมอผอมไปนะ ทั้งหมอชาน์และหนูอัยย์เลย ยายว่าสองคนทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า หาเวลาพักผ่อนบ้างเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ” คุณยายบอกกับทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง “งานอัยย์ไม่หนักเท่าไร่หรอกค่ะ หมอชาน์หนักกว่าอัยย์เยอะเลยค่ะ ทั้งงานที่โรงพยาบาลและที่คลินิก” “ขยันจริงๆ แล้ววันหยุดแทนที่จะพัก ก็พากันมาซะไกลเลย” “ก็อัยย์คิดถึงคุณยายนี่คะ” “ยายก็คิดถึงหนู นี่ลุงกับป้าก็บ่นคิดถึงหนูเหมือนกัน เห็นว่าหยุดยาวคราวหน้าจะให้เจ้าณัฐไปรับมานอนที่บ้านสักคืน” “คุณยายขาอัยย์ขอไปหาคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะคะ หมอชาน์คุยกับคุณยายนะคะ เดี๋ยวอัยย์มาค่ะ
เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับความสนิทสนมของหมอปิญชาน์กับหมอไอรดาว่าทั้งสองคนจะสนิทกันมากว่าแค่เพื่อร่วมงานธรรมดา เพราะนอกจากทั้งสองมักจะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันแล้วบางครั้งถ้าโทรตามหมอปิญชาน์มาทำคลอดหรือมาผ่าตัดในเวลากลางคืน หมอปิญชาน์ก็มักจะมาพร้อมกับหมอไอรดาแม้ว่าเวรของทั้งสองจะตรงกันแต่มันก็ผิดสังเกตอยู่ดี เรื่องนี้ไอรดาเองก็ได้ยินเข้าหูมาอยู่บ้างสำหรับเธอแล้วมันได้มีผลกระทบอะไรเลยเพราะความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเสียงที่ได้ยินส่วนใหญ่จะออกไปแนวประมาณว่าทำไมหมอปิญชาน์ถึงเลือกคบกับหมอไอรดาที่เพิ่งหย่ากับสามีแทนที่คนหล่อๆ โปรไฟล์ดีอย่างเขาน่าจะมองหาหมอที่ทั้งสาวทั้งสวยอย่างหมอน้ำฟ้าลูกสาวคนเล็กของอาจารย์หมอประทีปซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาล หลายคนมองออกว่าคุณหมอน้ำฟ้านั้นมีความสนใจคุณหมอปิญชาน์อยู่ประมาณหนึ่งเพียงแต่เธอไม่กล้าออกตัวเพราะคิดว่ายังไงคุณหมอหนุ่มก็คงจะไม่มองใครที่ไหนเนื่องจากตอนนี้เธอเป็นคุณหมอคนเดียวที่ยังโสดอยู่ แต่ความสวยและความโสดก็ได้ทำให้คุณหมอปิญชาน์หันมาสนใจเธอเลยสักนิดเพราะคุณหมอหนุ่มไม่เหลือที่ว่างในหัวใจให้ใครอี
วันนี้การประชุมค่อนข้างน่าเบื่อเพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลทางสถิติซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไอรดานั้นง่วงจนตาแทบจะปิดเนื่องจากเมื่อคืนกว่าเธอจะได้นอนก็เกือบจะตีสาม ถึงแม้จะเคยอยู่เวรทำงานยาวถึง 48 ชั่วโมงมาแล้วแต่มันต่างกันอย่างชิ้นเชิง “หมออัยย์ ง่วงไหมคะ” “ค่ะ หมอพั้นช์ล่ะคะ” “ง่วงมากค่ะ เมื่อคืนพั้นช์กับหมอภพนั่งดื่มกันจนผับปิดแล้วยังไปเดินรับลมกันต่ออีก กว่าจะได้ขึ้นนอนก็เกือบจะตีสามเลยค่ะ” พัณณ์ชิตากระซิบเบาๆ “ถ้าบ่ายนี้ไม่ได้กาแฟคงนั่งหลับในห้องประชุมแน่ๆ” “กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ ขากลับจะแวะซื้อกาแฟเข้ามาด้วยเลยดีไหมคะ เพราะกาแฟที่ห้องประชุมคงเอาไม่อยู่แน่นอนเลย” “ปกติเราก็ไปทานด้วยกันอยู่แล้วนี่คะ” “อัยย์หมายถึงออกไปทานข้างนอกโรงแรม พอดีหมอชาน์เขาจองร้านอาหารไว้” “ไม่ดีกว่าพั้นช์ไม่อยากเป็นก้างค่ะ เดี๋ยวพี่หมอจะมาว่าพั้นช์ทีหลัง” “แต่ร้านนี้อาหารอร่อยมากนะคะ ใครมาภูเก็ตต้องได้ไปทาน เราชวนหมอภพไปด้วยก็ได้นะคะ ไปหลายคนจะได้สั่งทานได้หลายอย่าง” “หมออัยย์ไม
ปิญชาน์และไอรดาเดินคุยกันต่ออีกไม่นานก็พากันกลับเข้ามายังโรงแรมอีกครั้ง ทั้งสองตรงไปยังห้องพักของไอรดาและช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น ไอรดายังไม่ทันได้เปิดกระเป๋าเพื่อเอาชุดมาแขวนก็ถูกคนตัวโตรวบกอดจนแทบหายใจไม่ออก และเมื่อเธอจะกำลังจะบอกให้เขาปล่อย ริมฝีปากสีสวยถูกประจบจูบลงมาอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ปลายลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน ราวกับว่าถ้าเขาจูบเธอช้ากว่านี้เขาจะขาดใจลงตรงหน้า จูบที่คุ้นเคย กระตุ้นความปรารถนาของในกายให้ลุกโชน ไอรดาตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสำรวจภายในอุ้งปากของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ“ผมคิดถึงคุณมากนะอัยย์ ผมขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้คุณเลย แต่สามวันนี้ผมจะให้เวลาทุกวินาทีกับคุณนะครับอัยย์”“อัยย์ก็คิดถึงคุณค่ะ เรื่องเวลาอัยย์เข้าใจดีค่ะ”ในขณะที่ปากร้อนกำลังดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่ก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว จนที่สุดร่างกายสาวขาวเนียนก็เปลือยเปล่าสายตาของชายหนุ่ม ไฟแห่งตัณหาเริ่มปะทุขึ้น ปิญชาน์อุ้มคุณหมอสาวยังไปวางบ