“อัยย์ครับไหนว่าเราจะมีความสุขด้วยกัน เมื่อกี้คุณมีความสุขคนเดียวนะ”
“อ๊ะ! คุณชาน์”
ไอรดาร้องเสียงหลงเมื่อเรียวขาคู่สวยของเธอถูกเขาจับแยกออกจากกันกว้างกว่าเมื่อครู่ กลีบดอกไม้สีสวยลอยเด่นตรงหน้าเขาชัดเจน
“อย่ามองแบบนั้น”
“จะอายทำไมล่ะอัยย์ ผมว่ามันสวยผมชอบนะ”
เขากระซิบที่ข้างหู ก่อนจะดันขาของเธอให้กว้างออกมากพอที่ตัวเขาจะแทรกไปอยู่ตรงกลางได้ จากนั้นก็รีบสวมถุงยางอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้ฝ่ามือร้อนจับขาของไอรดาให้ยกชันขึ้น ทุกการกระทำของเขาทำให้ไอรดาร้อนรุ่มจนแทบระเบิด
ไอรดาสบตาคมปลาบ ขาสองข้างก็เกี่ยวเอวเขาไว้โดยอัตโนมัติ ใบหน้าขาวซับสีเลือดบอกอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านหญิงสาวมองใบหน้าเขา ที่กำลังแดงก่ำ เส้นเลือดที่ลำคอเต้นจนเห็นชัด เธอไม่รู้ว่าเขากำลังรู้สึกยังไง จะเหมือนกับที่เธอกำลังรู้สึกไหม แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังถูกของแข็งร้อนรุกล้ำอยู่ตรงเบื้องล่าง
“อ๊ะ คุณชาน์”
หญิงสาวแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขากำลังชำแรกเข้ามาในตัวเธอจนอึดอัดและคับแน่น รู้สึกราวกับร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง
“อัยย์อย่าเกร็ง สูดหายใจลึกๆ”
ชายหนุ่มพูดขณะที่ตนเองก็ขบกรามแน่น เขากำลังจะคลั่งเพียงแค่เข้าไปเฉพาะส่วนปลายกล้ามเนื้ออ่อนนุ่มของเธอก็บีบรัดจนเขาปวดร้าวจนแทบระเบิด ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจก่อนจะเริ่มดันตัวเองเข้าไปทีละนิดอย่างช้าๆ
“คุณชาย์ อัยย์เจ็บ”
“อีกนิดนะอัยย์อดทนอีกนิดเดียวก็จะดีขึ้นเอง”
เขาไม่รู้ว่าเธอมีเซ็กซ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ช่องทางสวาทของเธอถึงได้คับแน่นเช่นนี้
เสียงครวญครางของไอรดาดังขึ้นพร้อมกับเล็บมือที่จิกลงบนแผ่นหลังแรงขึ้นเพื่อระบายความเจ็บปวด
“อื้อ เจ็บค่ะ”
ไอรดาใบหน้าเหยเกเมื่อท่อนเอ็นร้อนดันเข้ามาถึงเยื่อ บางๆ ภายในโพรงถ้ำที่ไม่เคยมีใครเข้าถึง
“อัยย์ ผมไม่รู้อดทนนะ เดี๋ยวมันจะดีขึ้น”
ปิญชาน์ไม่มีเวลามาถามเรื่องความบริสุทธิ์ของเธอเพราะตอนนี้ร่างกายของเขาปวดร้าวจนแทบทนไม่ไหว ชายหนุ่มตอกอันท่อนเอ็นเข้าไปในช่องทางคับแน่นนั้นอย่างรุนแรงจนในที่สุดก็เข้าไปลึกสุดในกายของเธอ
“กรี๊ดดด คุณชาน์ อื้อ เจ็บ”
เสียงไอรดากรีดร้องเพราะความเจ็บปวด เธอไม่คิดเลยว่าครั้งแรกของผู้หญิงมันจะเจ็บแบบนี้ แล้วทำไมผู้คนถึงได้โหยหาสิ่งนี้กันหนักหนา
“อัยย์อย่าดิ้นแบบนั้นมันจะเจ็บมากขึ้น”
“คุณชาน์เอาออกได้ไหม อัยย์ทนไม่ไหวแล้ว อัยย์เจ็บ”
หญิงสาวเอ่ยเสียงเครือ น้ำตาไหลออกอย่างห้ามไม่ได้
ปิญชาน์เช็ดคราบน้ำตาอย่างเบามือ ก่อนจะกระซิบปลอบเธออีกครั้ง
“เดี๋ยวก็ดีขึ้น เชื่อผมนะอัยย์”
ปิญชาน์กล่าวอย่างใจเย็นทั้งที่ในใจอย่างจะกระหนํ่าลงไปยังโพรงถ้ำนั้นแทบใจจะขาด แต่เพราะนี่คือครั้งแรกของหญิงสาวเขาเลยต้องพยายามหักห้ามใจอย่างที่สุดเพราะกลัวว่าเธอจะเข็ดกับการร่วมรักและฝังใจจนไม่กล้าทำแบบนี้กับเขาอีก
ใบหน้าหล่อก้มลงจูบปลอบโยนเธอขณะที่สองมือก็นวดคลึงเต้าอวบกระตุ้นให้ร่างกายของเธอรู้สึกถึงความเสียวซ่าน
“อัยย์ ผมขยับนะ”
ปิญชาน์อาศัยความมีประสบการณ์ปลุกเร้าจนเสียงหวานเริ่มครางกระเส่าอีกครั้ง
“อื้อ คุณชาน์”
ไอรดาหลุดครางหวานเมื่อทุกจังหวะที่ร่างกายเสียดสีทำให้เธอหลงลืมความเจ็บปวดไปทีละนิด จนในที่สุดความเสียวก็เข้ามาแทนที่
“อ่าห์... สุดยอดเลยอัยย์ มันแน่นมาก ฟิตมาก”
ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงกระเส่า ยิ่งเขากระแทกเข้าลึกแค่ไหนโพรงอ่อนนุ่มก็ตอดรัดเขาจนรู้สึกเสียวไปทั่วงทุกอณูขุมขน
ไม่เพียงร่างกายที่สอดประสานจะทำให้เสียวซ่าน แต่ตอนนี้ปากร้อนของชายหนุ่มยังดูดดึงปลายเม็ดทับทิมสีสวยบนยอดออกมันกระตุ้นให้อารมณ์ของเธอดำดิ่งลงไปเพลิงปรารถนา ลิ้นร้อนรัวเร็วจนเธอเสียวซ่านมากขึ้นทุกขณะ ปลายเล็บของหญิงสาวข่วนไปบนหลังกับไหล่ของปิญชาน์จนขึ้นรอยแดงเป็นทางยาว
แต่ชายหนุ่มไม่ได้ระคายผิวเลยสักนิดเพราะเขากำลังมีความสุขอยู่กับการส่งตัวตนเข้าออกโพรงถ้ำที่เขาเป็นคนแรกที่ได้ล่วงล้ำเขาไปในนั้น
คิดถึงตรงนี้ปิญชาน์ก็รู้สึกหวงแหนเธอขึ้นมาทันที ถ้าหากต่อจากนี้เธอจะไปเที่ยวแล้วพาคนอื่นมาทำกับร่างกายเธอแบบนี้เขาคงทนได้แน่ๆ มีทางเดียวที่จะทำให้เธอยอมเป็นของเขาแค่คนเดียวนั่นคือต้องให้เธอมีความสุขและติดใจกับรสสวาทที่เขาปรนเปรอให้
เสียงหวานครางเรียกชื่อของชายหนุ่มดังไปทั่วห้องเมื่อรู้สึกถึงความเสียวซ่านที่มันเพิ่มมากขึ้น
ปิญชาน์สวนสะโพกเข้าออกช่องทางคับแน่นครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เหนื่อย ทุกจังหวะที่เข้าออกมันเห็นชัดเจนว่าเลือดของเธออาบไปยังท่อนเอ็นของเขาจนกลายเป็นสีชมพู นั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและมีความสุข เสียงเขาครางต่ำอย่างพอใจกับรสสวาทที่หญิงสาวมอบให้
“คุณชาน์ อื้อ”
หญิงสาวกอดเขาแน่นเมื่อรู้สึกว่าตอนนี้เธอกำลังจะไปถึงปลายขอบฟ้า เธออยากให้เขาเข้ามาในตัวเธอให้ลึกยิ่งขึ้นอีกยิ่งขึ้น แต่ก็อายจนไม่กล้าจะเอ่อออกมา จึงได้แค่ครางเสียงกระเส่ากอดเขาแน่นขึ้น เรียวขายกตวัดปลายเท้ากดร่างสูงใหญ่ให้แนบชิดอย่างน่าอาย เธอทำทุกอย่างไปตามสัญชาตญาณและความต้องการที่ไม่อาจห้ามได้ สะโพกกลมกลึงยกขึ้นเหนือพื้น ส่ายรับกับจังหวะที่เขาตอกอัดลงมา
“ใกล้แล้วเหรออัยย์ อยากให้แรงขึ้นไหม เร็วกว่าใช่หรือเปล่า”
เขาเอ่ยถามอย่างรู้ใจ เมื่อมองสบตาคู่สวยก็เห็นว่าตอนนี้มันเต็มไปด้วยไฟพิศวาส เขาเข้าใจทุกกิริยาเป็นอย่างดี
ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแรงและเร็วอย่างไม่มีออมแรง ความเสียวที่เธอส่งมอบมันทำให้เขาขยับนะโพกเข้าออกราวกับเครื่องจักร
“คุณชาน์ อีกนิด อัยย์เสียว...อื้อ....คุณชาน์”
เสียงหวานกรีดร้องยาวเมื่อพบพานกับความสุขจากการร่วมรักเป็นครั้งแรกในชีวิต ร่างกายของเธอเกร็งกระตุกและสั่นสะท้านจนเขาต้องกอดไว้แน่น พลางสวนสะโพกเข้าออกเพื่อส่งเธอไปให้สุดทาง ไอรดาหอบเหนื่อยอย่างหนัก แต่คนที่อยู่เหนือร่างของเธอยังคงขยับโยกอย่างไม่รู้เหนื่อย
“คุณชาน์จูบอัยย์ได้ไหม”
เสียงหวานเอ่ยขออย่างน่าอาย เธอรู้สึกดีที่ได้จูบกับเขา มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก รู้แต่ว่าชอบที่ได้สัมผัสเรียวปากและลิ้นของเขาอย่างไม่อาจจะห้ามใจของตนเองได้
ปิญชาน์กระตุกยิ้มก่อนจะมอบจูบให้เธอตามคำขอ และจูบครั้งนี้มันก็เร่าร้อนและเรียกร้องจนไอรดารู้สึกว่าเขากำลังกระชากวิญญาณเธอให้หลุดออกจากร่าง ยิ่งเขาส่งลิ้นเข้ามาหยอกล้อสติของเธอก็เตลิดไปไกลอีกครั้ง ความเสียวซ่านเพิ่มทีละนิด เรียวลิ้นเล็กก็พยายามตอบโต้เขากลับอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน
หญิงสาวสั่นสะท้าน แอ่นร่างเข้าหาฝ่ามือร้อนที่บีบคลึงอกอวบอย่างหนักหน่วงขึ้นตามอารมณ์ดิบเถื่อน และทุกสัมผัสของเขาก็ราวกับน้ำมันที่ราดลงบนกองเพลิงแห่งตัณหา
“อ๊า...คุณชาน์ อัยย์เสียวอีกแล้ว”
ไอรดาสาดเสียวขึ้นมาจนห้ามเสียงไม่อยู่ ทุกจังหวะที่เขาเข้ามานั้นเต็มไปด้วยความสุขและความเสียว
“คุณร้อนแรงมากอัยย์”
ตอนนี้ชายหนุ่มเองก็เสียวจนแทบจะทนไม่ไหวเมื่อโพรงอุ่นร้อนของไอรดานั้นรัดเขาแรงและถี่อย่างที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน
“อัยย์จะไม่ไหวแล้ว มันจะถึง อื้อ คุณชาน์...”
แล้วหญิงสาวก็สุขสมไปอีกครั้ง ช่องทางสวาทของเธอบีบรัดท่อนเอ็นย่างรุนแรงอย่างที่ไม่อาจควบคุมมันได้
“เสียวที่สุดอัยย์ คุณสุดยอดมาก ผมจะแตกแล้ว อื้อ...คุณอัยย์ อ่าห์... ”
เขาร้องครางราวกับสัตว์ป่า ไม่เคยรู้สึกสุขมากมายเท่านี้มาก่อน ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกอุ่นวาบไปถึงหัวใจแบบนี้เลยสักคน
ท่อนเอ็นของปิญชาน์กระตุกหงึกๆ อยู่ในโพรงอ่อนนุ่มอย่างยาวนาน พร้อมกับลมหายใจที่หอบเหนื่อยอย่างหนัก เขาแช่ทิ้งไว้อย่างนั้น รอให้ร่างกายของเธอหายเกร็งก็ถอนตัวตนออกแล้วดึงถุงยางทิ้งลงที่ข้างเตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างไอรดาที่ร่างกายอ่อนระทวยและชื้นไปด้วยเหงื่อ
“อัยย์ อยากเล่าให้ฟังไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ชายหนุ่มกอดคนที่นอนหมดแรงแล้วถามด้วยความสงสัย
“ฉันไม่มีอะไรละเล่า”
“แต่คุณบอกผมว่าคุณเป็นแม่หม้าย ทั้งๆ ที่คุณเพิ่งเคย”
“จะสนใจทำไม คุณไม่ชอบหรอกเหรอที่ได้เป็นคนแรก ใครๆ เขาก็ชอบกันทั้งนั้น
“ผมยอมรับว่าชอบและมีความสุขมาก ผมอยากรู้จักคุณให้มากขึ้น”
“อย่าเลยค่ะแค่นี้อัยย์ก็อายมากพอแล้ว”
“มันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย ผมรู้คุณมีความสุข”
“ค่ะ อัยย์มีความสุข คุณทำให้อัยย์มีความสุขแบบที่ไม่เคยได้รับ”
“จะเป็นไรไหมถ้าเราจะรู้จักกันมากกว่านี้” เพราะรู้สึกดีและติดใจกับรสสวาทที่ได้รับปิญชาน์เลยอยากสานต่อความสัมพันธ์กับเธอ
“ฉันขอคิดดูก่อนได้ไหม”
“ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรมาก เราเข้ากันได้ดีออก”
“ฉันรู้”
“แต่ผมอยากให้คุณแน่ใจว่าเราจะมีความสุขกันได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด”
“หมายถึงฉันจะต้องจ่ายเงินให้คุณทุกครั้งที่เรานอนด้วยกันใช่ไหม” ไอรดาอยากถามให้แน่ใจก่อนที่จะตอบคำถามของเขาเพราะเรื่องนี้มันฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้งครอบครัวและหน้าที่การงานของเธอมันทำให้เธอตัดสินลำบาก
“คุณไม่ต้องจ่ายอะไรให้ผมทั้งนั้น เราต่างฝ่ายต่างมีความสุข ถ้าคุณคิดถึงผม แค่ไลน์บอกผมจะมาหาคุณทันที ในทางกลับกันถ้าผมคิดถึงคุณผมก็จะไลน์หา แต่คุณไม่จำเป็นต้องมาทุกครั้งเพราะผมอยากให้ครั้งต่อไปมันเกิดจากความต้องการของเราทั้งสองฝ่าย”
“คุณเป็นคนพูดตรงแบบนี้เสมอเหรอคะ”
“ครับ ผมไม่อยากต้องเสียวเวลาให้อีกฝ่ายต้องเดาความรู้สึกแบบไหนก็บอกออกไปตรงๆ”
“ฉันชอบความคิดคุณนะคะ”
“ชอบแค่ความคิดเหรอครับ”
“แล้วจะให้ชอบอะไร”
“ก็ชอบที่ผมทำให้ ชอบไหม”
“ขอไม่ตอบได้ไหมคะ” จะให้เธอตอบยังไงล่ะในเมื่อเขาทำเธอมีความสุขมาก อายุของเธอก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วเรื่องแบบนี้มันก็คงใช่เรื่องเสียหายอะไร
“ถ้าคุณไม่ตอบผมก็ขอเดาเอาเองว่าคุณชอบ เอาล่ะคุณคุยถ่วงเวลามามากแล้ว”
“ถ่วงเวลาอะไรคะ”
“ผมบอกแล้วไงว่าคืนนี้เราจะมีความสุขกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
“แต่อัยย์เหนื่อย”
“เหนื่อยแต่มีความสุขผมว่ามันคุ้มนะครับอัยย์”
เสียงทุ้มกระซิบข้างหูก่อนที่เขาจะเริ่มบทรักอีกครั้ง
ไอรดาคุกเข่าลงตรงหน้าคนรัก ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบตาคมปลาบหญิงสาวส่งยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ อัยย์”เพียงมือเล็กสัมผัสกายความเป็นชายปิญชาน์ก็ครางสะท้าน ไอรดาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็งเธอรู้ว่าจุดไหนของร่างกายที่เป็นศูนย์รวมเส้นประสาทและจะทำให้เขาเสียวซ่าน ยิ่งได้ยินเสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งได้ใจ เรียวปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เรียวปากเล็กกลืนกินกายแกร่งอย่างที่เขาเคยจินตนาการถึง“เยี่ยมที่สุด สุดยอดที่รัก...” ปิญชาน์เอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าแหงนขึ้นสูดปากด้วยความเสียวกระสันเมื่อภรรยาสาวปรนเปรอให้เขาอย่างถึงใจ ปลานลิ้นเลียวนส่วนปลายก่อนจะดูดเข้าปากเล็กจนแก้มตอบ ปิญชาน์สั่นสะท้านไปทั่วร่างจนทนแทบไม่ไหว ชายหนุ่มดึงคนรักให้ลุกขึ้นแล้วประกบจูบที่กลีบปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ความเสียวที่เธอมอบให้มันอัดแน่นจนแทบจะระเบิดเขาพลิกให้ไอรดาหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำ จับ
หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้วไอรดาก็เก็บของใช้มาอยู่กับปิญชาน์ที่คอนโด ระหว่างนี้เรือนหอก็เริ่มสร้างตามแบบที่ทั้งสองคนช่วยกันเลือก ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเสร็จก่อนวันแต่งงานประมาณหนึ่งเดือน หมอปิญชาน์อัปเดตภาพทะเบียนสมรสลงในโซเซียลทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเขากับหมอไอรดาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานหรือคนที่กำลังดูใจกันอยู่ แต่สถานะของทั้งสองคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการตัดโอกาสคนที่จะข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องการของทั้งสองอยู่ในจังหวะที่ลงตัวมาก ทุกวันทั้งสองจะไปทำงานพร้อม พอตอนเย็นไอรดาก็จะมาส่งหมอปิญชาน์ที่คลินิก ส่วนตัวเองก็จะนั่งอ่านหนังสือรอหรือบางครั้งก็กลับมาที่คอนโดก่อนแล้วจึงขับรถไปรับเขาอีกครั้งในเวลาที่คลิกนิกปิดแล้ว ปกติแล้ววันเสาร์ช่วงบ่ายวันเสาร์แบบนี้จะเป็นเวลาพักของทั้งสองคุณหมอ บางครั้งทั้งสองคนก็พากันออกไปซื้อของ ไปเดินเล่นหรือไม่ก็ไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องแต่วันนี้ปิญชาน์ต้องไปให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยากกับเพื่อนของพี่สาว ไอรดาจึงอยู่ที่คอนโดเพียงคนเดียว หลังจากทานอาหารค่ำแบบง่า
ไอรดากับปิญชาน์มาถึงบ้านสวนก่อนเที่ยงเล็กน้อยเพราะทั้งสองคนต้องไปราวน์คนไข้ก่อนจะออกเดินทาง “สวัสดีครับคุณยาย ผมไม่มาหาคุณยายนานเลย คุณยายสบายดีไหมครับ” หมอปิญชาน์เข้าไปสวัสดีคุณยายอย่างประจบ “สบายดีจ้ะ ยายว่าตอนนี้ยายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะ ยายเดินออกกำลังกายรอบบ้านทุกวันเลย” คุณยายนวลแขรีบอวดคุณหมอคนโปรด “ดีเลยครับ ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” “งานหนักล่ะสิ ดูหมอผอมไปนะ ทั้งหมอชาน์และหนูอัยย์เลย ยายว่าสองคนทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า หาเวลาพักผ่อนบ้างเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ” คุณยายบอกกับทั้งสองคนด้วยความเป็นห่วง “งานอัยย์ไม่หนักเท่าไร่หรอกค่ะ หมอชาน์หนักกว่าอัยย์เยอะเลยค่ะ ทั้งงานที่โรงพยาบาลและที่คลินิก” “ขยันจริงๆ แล้ววันหยุดแทนที่จะพัก ก็พากันมาซะไกลเลย” “ก็อัยย์คิดถึงคุณยายนี่คะ” “ยายก็คิดถึงหนู นี่ลุงกับป้าก็บ่นคิดถึงหนูเหมือนกัน เห็นว่าหยุดยาวคราวหน้าจะให้เจ้าณัฐไปรับมานอนที่บ้านสักคืน” “คุณยายขาอัยย์ขอไปหาคุณลุงกับคุณป้าก่อนนะคะ หมอชาน์คุยกับคุณยายนะคะ เดี๋ยวอัยย์มาค่ะ
เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับความสนิทสนมของหมอปิญชาน์กับหมอไอรดาว่าทั้งสองคนจะสนิทกันมากว่าแค่เพื่อร่วมงานธรรมดา เพราะนอกจากทั้งสองมักจะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันแล้วบางครั้งถ้าโทรตามหมอปิญชาน์มาทำคลอดหรือมาผ่าตัดในเวลากลางคืน หมอปิญชาน์ก็มักจะมาพร้อมกับหมอไอรดาแม้ว่าเวรของทั้งสองจะตรงกันแต่มันก็ผิดสังเกตอยู่ดี เรื่องนี้ไอรดาเองก็ได้ยินเข้าหูมาอยู่บ้างสำหรับเธอแล้วมันได้มีผลกระทบอะไรเลยเพราะความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเสียงที่ได้ยินส่วนใหญ่จะออกไปแนวประมาณว่าทำไมหมอปิญชาน์ถึงเลือกคบกับหมอไอรดาที่เพิ่งหย่ากับสามีแทนที่คนหล่อๆ โปรไฟล์ดีอย่างเขาน่าจะมองหาหมอที่ทั้งสาวทั้งสวยอย่างหมอน้ำฟ้าลูกสาวคนเล็กของอาจารย์หมอประทีปซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงพยาบาล หลายคนมองออกว่าคุณหมอน้ำฟ้านั้นมีความสนใจคุณหมอปิญชาน์อยู่ประมาณหนึ่งเพียงแต่เธอไม่กล้าออกตัวเพราะคิดว่ายังไงคุณหมอหนุ่มก็คงจะไม่มองใครที่ไหนเนื่องจากตอนนี้เธอเป็นคุณหมอคนเดียวที่ยังโสดอยู่ แต่ความสวยและความโสดก็ได้ทำให้คุณหมอปิญชาน์หันมาสนใจเธอเลยสักนิดเพราะคุณหมอหนุ่มไม่เหลือที่ว่างในหัวใจให้ใครอี
วันนี้การประชุมค่อนข้างน่าเบื่อเพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลทางสถิติซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไอรดานั้นง่วงจนตาแทบจะปิดเนื่องจากเมื่อคืนกว่าเธอจะได้นอนก็เกือบจะตีสาม ถึงแม้จะเคยอยู่เวรทำงานยาวถึง 48 ชั่วโมงมาแล้วแต่มันต่างกันอย่างชิ้นเชิง “หมออัยย์ ง่วงไหมคะ” “ค่ะ หมอพั้นช์ล่ะคะ” “ง่วงมากค่ะ เมื่อคืนพั้นช์กับหมอภพนั่งดื่มกันจนผับปิดแล้วยังไปเดินรับลมกันต่ออีก กว่าจะได้ขึ้นนอนก็เกือบจะตีสามเลยค่ะ” พัณณ์ชิตากระซิบเบาๆ “ถ้าบ่ายนี้ไม่ได้กาแฟคงนั่งหลับในห้องประชุมแน่ๆ” “กลางวันนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ ขากลับจะแวะซื้อกาแฟเข้ามาด้วยเลยดีไหมคะ เพราะกาแฟที่ห้องประชุมคงเอาไม่อยู่แน่นอนเลย” “ปกติเราก็ไปทานด้วยกันอยู่แล้วนี่คะ” “อัยย์หมายถึงออกไปทานข้างนอกโรงแรม พอดีหมอชาน์เขาจองร้านอาหารไว้” “ไม่ดีกว่าพั้นช์ไม่อยากเป็นก้างค่ะ เดี๋ยวพี่หมอจะมาว่าพั้นช์ทีหลัง” “แต่ร้านนี้อาหารอร่อยมากนะคะ ใครมาภูเก็ตต้องได้ไปทาน เราชวนหมอภพไปด้วยก็ได้นะคะ ไปหลายคนจะได้สั่งทานได้หลายอย่าง” “หมออัยย์ไม
ปิญชาน์และไอรดาเดินคุยกันต่ออีกไม่นานก็พากันกลับเข้ามายังโรงแรมอีกครั้ง ทั้งสองตรงไปยังห้องพักของไอรดาและช่วยกันเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีกสองชั้น ไอรดายังไม่ทันได้เปิดกระเป๋าเพื่อเอาชุดมาแขวนก็ถูกคนตัวโตรวบกอดจนแทบหายใจไม่ออก และเมื่อเธอจะกำลังจะบอกให้เขาปล่อย ริมฝีปากสีสวยถูกประจบจูบลงมาอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ปลายลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน ราวกับว่าถ้าเขาจูบเธอช้ากว่านี้เขาจะขาดใจลงตรงหน้า จูบที่คุ้นเคย กระตุ้นความปรารถนาของในกายให้ลุกโชน ไอรดาตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสำรวจภายในอุ้งปากของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ“ผมคิดถึงคุณมากนะอัยย์ ผมขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้คุณเลย แต่สามวันนี้ผมจะให้เวลาทุกวินาทีกับคุณนะครับอัยย์”“อัยย์ก็คิดถึงคุณค่ะ เรื่องเวลาอัยย์เข้าใจดีค่ะ”ในขณะที่ปากร้อนกำลังดื่มด่ำกับความหวานในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่ก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว จนที่สุดร่างกายสาวขาวเนียนก็เปลือยเปล่าสายตาของชายหนุ่ม ไฟแห่งตัณหาเริ่มปะทุขึ้น ปิญชาน์อุ้มคุณหมอสาวยังไปวางบ