Share

บทที่ 3

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-23 18:48:04

บทที่ 3 การพบกันใต้ดารานับพันล้านดวง

ขณะที่พิมก้มลงไปอ่านนิทานภาพต่อให้น้องทีโอฟังอย่างตั้งใจ โดยไม่รู้เลยว่าอีกด้านหนึ่งของคอกม้า ชายผู้ลึกลับคนนั้นยังคงยืนนิ่งอยู่ เขาไม่ได้จ้องมองมาที่บ้านโดยตรงแล้ว แต่สายตาของเขากลับจับจ้องไปยังแสงไฟที่ส่องออกมาจากหน้าต่างห้องนั่งเล่น ราวกับกำลังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวภายในเงียบๆ รูปร่างสูงใหญ่ของเขากลืนหายไปกับความมืดมิดของยามค่ำคืน

เวลาล่วงเลยไปจนถึงสองทุ่ม แสงไฟจากในบ้านสว่างจ้า แต่คุณธนินทร์ เจ้าของบ้านก็ยังไม่กลับมาให้เห็นหน้า พิมรู้สึกแปลกเล็กน้อยที่มาอาศัยอยู่ในบ้านคนอื่นแบบนี้ แต่เจ้าของบ้านตัวจริงกลับยังไม่ปรากฏตัวเลย

‘สองทุ่มแล้วนะ ยังไม่กลับอีกเหรอ?’ พิมคิดในใจ พลางชำเลืองมองนาฬิกาบนผนัง

เธอรู้สึกเกรงใจอยู่ลึกๆ ที่เข้ามาอยู่และใช้พื้นที่ในบ้านโดยที่ยังไม่ได้พบปะเจ้าของอย่างเป็นทางการ แถมยังมีความรู้สึกแปลกๆ ว่ามันออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อยไหมนะ...จากฝั่งของธนินเองที่ยังไม่โผล่หน้ามาทักทายแขกที่มาพักถึงบ้านแบบนี้ แต่พิมเข้าใจว่า..เธอมาในฐานะลูกจ้าง ไม่มีสิทธิ์จะไปก้าวล่วงหรือเรียกร้องอะไรมากนักจากเจ้านายอยู่แล้ว

พิมพา น้องทีโอขึ้นไปอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอน พิมช่วยน้องแปรงฟัน อ่านนิทานก่อนนอนอีกเล่ม แล้วห่มผ้าให้ ก่อนจะบอกฝันดีกับเด็กชายตัวน้อยที่หลับตาพริ้มไปอย่างรวดเร็ว น้องทีโอก็ไม่ได้งอแงอะไรดูเหมือนจะชินกับการที่คุณพ่อกลับบ้านดึกดื่นเช่นนี้เป็นประจำอยู่แล้ว

หลังจากนั้นพิมก็กลับเข้ามาในห้องของตัวเอง จัดการอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่น เปลี่ยนเป็นชุดนอนสบายๆ แล้วเดินมาหยุดอยู่ริมหน้าต่าง เธอเปิดผ้าม่านออกช้าๆ มองไปยังความมืดมิดภายนอก แสงไฟจากบ้านสว่างไสว ตัดกับความมืดของสวนและคอกม้าที่อยู่ไกลออกไป

‘คุณธนินทร์ยังไม่กลับมาจริงๆ ด้วยสินะ’ พิมคิดในใจอีกครั้ง ก่อนจะปิดผ้าม่านลง ปล่อยให้ความเงียบสงบยามค่ำคืนเข้าปกคลุมห้องพัก

พิมรู้สึกคอแห้ง หลังจากเข้านอนได้ไม่นาน เธอจึงลุกขึ้นจากเตียง คว้านหาคาร์ดิแกนสีดำตัวใหญ่ ที่วางอยู่ข้างเตียงมาสวมคลุมชุดนอนสายเดี่ยวเพื่อความสุภาพ ก่อนจะย่องลงมาจากชั้นบนอย่างเงียบเชียบ

บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบงัน มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโถงทางเดินที่ส่องนำทาง พิมเดินตรงไปยังห้องครัว เปิดตู้เย็นหยิบเหยือกน้ำเย็นรินใส่แก้ว แล้วยกขึ้นดื่มช้าๆ

ในความเงียบยามดึกนั้น ความคิดของพิม ก็แวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง... เจ้าของฟาร์มวัย 42 ปี ที่ยังไม่กลับบ้านตอนสี่ทุ่ม...และชายผู้ลึกลับที่ฟาร์มม้าที่ผูกม้าสีดำชื่อนาคิส มันยังคงเป็นภาพที่ติดอยู่ในใจ คุณพิมก็พยายามไม่คิดอะไรมาก เธอเพียงแค่มาเป็นพี่เลี้ยงเท่านั้น ไม่ได้จะมาเป็นนักสืบหาข้อมูลอะไร แต่นิสัยช่างสังเกตช่างวิเคราะห์ที่ติดมาจากอาชีพหลักมันก็ช่วงไม่ได้จริงๆ ที่จะทำให้เธอวนกลับมาคิดเรื่องพวกนี้ตลอด

หลังจากดื่มน้ำดับกระหายแล้ว แทนที่จะกลับขึ้นห้องทันที พิมก็เดินออกไปยังระเบียงข้างห้องครัว ทันทีที่ก้าวเท้าออกไป ความเงียบสงัดของยามค่ำคืนในต่างจังหวัดก็โอบล้อมเธอไว้ มันเงียบกว่าในกรุงเทพฯ มากนัก ยิ่งอยู่ในสวนกว้างๆ แบบนี้ ยิ่งได้ยินแม้กระทั่งเสียงแมลงร้องระงมแผ่วๆ ลมเย็นๆ พัดโชยมาปะทะกาย ทำให้พิมรู้สึกหนาวเล็กน้อย เธอสวมกอดตัวเองไว้ในคาร์ดิแกนตัวใหญ่ พลางเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้เธอต้องอ้าปากค้าง แสงดาวยิบระยับเต็มท้องฟ้ากว้างใหญ่ ไม่เหมือนกับภาพท้องฟ้าที่เห็นจากในเมืองหลวงเลยแม้แต่น้อย ดวงดาวนับล้านดวงส่องแสงระยิบระยับเป็นประกายพร่างพราย ราวกับเพชรเม็ดเล็กๆ ที่ถูกโปรยลงบนผืนผ้ากำมะหยี่สีดำสนิท

"ว้าวว...สวยจัง..." พิมพึมพำออกมาเบาๆ ด้วยความประทับใจ เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งไปกับความงดงามของธรรมชาติยามค่ำคืน

เธอยังยืนนิ่งอยู่ที่ระเบียง ปล่อยใจไปกับความงดงามของหมู่ดาวนับล้านที่พร่างพรายเต็มท้องฟ้า เธอสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด รู้สึกราวกับได้หลุดพ้นจากความวุ่นวายในโลกภายนอก สายลมยามค่ำคืนพัดเอื่อยๆ จนกระทั่งเธอไม่ทันสังเกตว่าที่มุมหนึ่งของระเบียงนั้น...

มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่เงียบๆ ใต้เต็นท์ผ้าใบที่กางไว้บังแสง เขาคือชายลึกลับคนเดิมที่เจอที่คอกม้า ร่างสูงใหญ่ของเขานั่งพิงพนักเก้าอี้สบายๆ ในมือถือแก้ววิสกี้ ใสที่มีของเหลวสีอำพันสะท้อนแสงจันทร์รำไร ดวงตาคมกริบภายใต้เงามึดยังคงจับจ้องมองไปยังพิมที่ยืนหันหลังให้ เขามองเห็นทุกการเคลื่อนไหว ทุกอากัปกิริยาที่แสดงออกถึงความประทับใจในความงามของท้องฟ้า แต่เธอกลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่ามีใครอีกคนอยู่ในบริเวณนั้น

ชายผู้นั้นยกแก้วขึ้นจิบช้าๆ เสียงน้ำแข็งกระทบแก้วดังแผ่วเบาในความเงียบงัน แต่พิมก็ยังไม่ได้สังเกตเห็น เขายังคงอยู่ในความเงียบงันของตัวเอง ไม่ได้เอ่ยปากทักทาย หรือทำเสียงใดๆ ที่จะทำให้เธอรู้ตัว การคงอยู่ของเขาราวกับเป็นส่วนหนึ่งของเงาที่ทอดยาวไปกับราตรีนี้

พิมยังคงจมดิ่งกับการชมดาวบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ความงามของมันช่างน่าหลงใหลจนเธอไม่ทันสังเกตสิ่งรอบตัว

แต่แล้ว... เสียงน้ำแข็งกระทบแก้ว ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันดังชัดเจนในความเงียบยามค่ำคืน เสียงนั้นทำให้พิมสะดุ้งสุดตัว เธอหันขวับไปตามทิศทางของเสียงด้วยความตกใจ

"เฮ้ย! นาย!" คุณพิมอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว สายตาจับจ้องไปยังมุมมืดของระเบียงที่เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีใครบางคนนั่งอยู่

ชายผู้นั้นยังคงอยู่ในความมืดมิดของมุมระเบียง แม้ตอนนี้เขาจะไม่ได้พันผ้าปิดหน้าแล้ว แต่แสงจันทร์ที่สลัวเกินกว่าจะเผยรายละเอียดของใบหน้า ทำให้พิมมองไม่เห็นสีหน้าและแววตาภายใต้ความมึดนั้นได้ชัดเจน มีเพียงโครงหน้าคมสันและเค้าโครงรูปร่างสูงใหญ่ที่คุ้นตา เขาคือชายคนเดียวกับที่อยู่กับม้า นาคิส ที่ฟาร์มม้าเมื่อตอนเย็นนั่นเอง

ชายผู้นั้นไม่ได้ตอบสนองพิมทันที แต่กลับยกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบอีกครั้งอย่างใจเย็น เสียงน้ำแข็งกระทบแก้วดังขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม ย้ำชัดเจนว่าเขาอยู่ตรงนั้นมาสักพักแล้ว ในความมืด พิมสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของวิสกี้ที่ลอยมาตามลม เคล้ากับกลิ่นดินและพืชพรรณยามค่ำคืน

พิมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น หัวใจเต้นระรัวด้วยความประหลาดใจปนอึดอัด เธอไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี จะเดินหนีไปเลยก็ดูเสียมารยาท หรือจะยืนจ้องเขาอยู่อย่างนี้ก็คงจะยิ่งอึดอัดหนักกว่าเดิม

ในที่สุด ชายผู้นั้นก็ลดแก้วลงช้าๆ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แหบพร่ากว่าเดิมเล็กน้อยเมื่ออยู่ในความมืดมิดยามค่ำคืน

"ยังไม่นอนอีกเหรอ...คุณพี่เลี้ยงคนใหม่"

คำพูดของเขาทำให้พิมยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก เขาจำเธอได้ และยังรู้ด้วยว่าเธอมาในฐานะอะไร น้ำเสียงนั้นไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ชัดเจน แต่มันกลับมีความน่าค้นหาและลึกลับอยู่ในที มันทำให้เธอพิมรู้สึกได้ว่าชายคนนี้ไม่ใช่แค่คนงานธรรมดาๆ อย่างที่เธอเคยคิดไว้

พิมประหม่าเล็กน้อยที่ถูกจับได้ว่ายังไม่นอน ทั้งยังโดนเรียกอย่างสนิทสนมว่า 'คุณพี่เลี้ยงคนใหม่' ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง เธอตอบเสียงเบา "เอ่อ...ยังน่ะ"

ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มคืบคลานเข้ามา เธอแต่งตัวไม่เรียบร้อยนัก ทั้งยังอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าสองต่อสองในความมืดมิดยามวิกาลของบ้านคนอื่น มันแอบไม่ปลอดภัยไหมนะ? พิมขยับเท้าถอยหลังช้าๆ ทีละนิด เพื่อให้เข้าใกล้ประตูครัวมากขึ้น เผื่อจะต้องถอยหนี

"แล้วทำไมนายมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ บ้านพักอยู่แถวนี้เหรอ" พิมถามออกไป พยายามเก็บซ่อนความประหม่าไว้ในน้ำเสียง

ชายผู้นั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่ในความมืด ไม่ได้ตอบคำถามของพิมทันที แก้ววิสกี้ในมือยกขึ้นจรดริมฝีปากอีกครั้ง แสงจันทร์สลัวๆ สะท้อนผิวน้ำสีอำพันในแก้ววูบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะลดมันลงอย่างช้าๆ

ชายผู้นั้นเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาคมกริบยังคงจับจ้องมาที่พิมที่ยืนอยู่หน้าประตูครัว เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะตอบคำถามของเธอ ปล่อยให้ความเงียบและความไม่แน่ใจเข้าปกคลุมบรรยากาศอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เหมือนกำลังเพลิดเพลินกับการเข้าใจผิดของคนตรงหน้า

จากนั้น เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นรวบนิ้วมือหนาๆ เข้าหากัน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แหบพร่า แต่แฝงไว้ด้วยอำนาจบางอย่างที่พิมรู้สึกได้

"บ้านพักของผม...ก็ที่นี่แหละ"

คำพูดสั้นๆ เพียงไม่กี่คำนั้นราวกับฟ้าผ่ากลางใจคุณพิม ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจและความประหลาดใจอย่างที่สุด

'บ้านพักของผม...ก็ที่นี่แหละ!'

นั่นหมายความว่า... เขาคือ...

ในวินาทีนั้นเอง ชายผู้นั้นก็ยืดตัวขึ้นจากเก้าอี้ ร่างสูงใหญ่ในความมืดทำให้เขามองสูงกว่าเธออย่างเห็นได้ชัด เขาก้าวออกมาตรงแสงสว่าง เผยให้เห็นใบหน้าคมคายภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาเพียงเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วเข้มรับกับจมูกโด่งเป็นสัน...และดวงตาคมกริบคู่นั้นที่จ้องมองมายังพิมอย่างมั่นคงชัดเจน

คุณธนินทร์—เจ้าของฟาร์ม พ่อของน้องทีโอ—ยืนอยู่ตรงหน้าพิมแล้ว เขาไม่ได้แก่ชราอย่างที่เธอคิด แต่เป็นชายวัย 42 ปีที่ยังคงหล่อเหลา สง่างาม และเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล

-🖤🤍🖤-
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฟ้าจรดฟาร์ม NC24+   บทที่ 130

    บทที่85 พิมคือของผมธนินทร์ต้องการคำตอบที่ชัดเจน เขาต้องการขุดคุ้ยทุกข้อมูลที่พิมไม่เคยบอกไว้ออกมาให้หมด"ก็แล้วแต่ตารางบินค่ะ บางทีอาจจะไม่เจอเป็นปีๆ หรือบางทีก็เจอเดือนละ 2-3 ไฟรต์ พิมยังตอบไม่ได้" พิมตอบเสียงเบาลง ใบหน้าหันไปทางเขาเล็กน้อยเพื่อสบตา ทว่าใบหน้าคมยังคงจ้องมองออกไปเบื้องหน้าเขารับรู

  • ฟ้าจรดฟาร์ม NC24+   บทที่ 129

    ขณะที่พวกเขาเดินผ่านฝูงชนในงาน ธนินทร์ไม่ได้มองไปที่ใครเลยนอกจากคนตัวเล็กข้าง ดวงตาคมกริบของเขายังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ ราวกับกำลังใช้สายตาสำรวจว่าเธอจะแสดงอาการอะไรออกมาหรือไม่ และพยายามอ่านใจเธอไปพร้อมๆ กันเมื่อพ้นจากสายตาผู้คนพอสมควร เขาก็พาพิมเดินตรงไปยังระเบียงด้านนอกของห้องจัดเลี้ยง ซึ่ง

  • ฟ้าจรดฟาร์ม NC24+   บทที่ 128

    บทที่84 คนขี้หวงมาก มากทันทีที่คำว่า ‘นักบินติดดาว’ หลุดออกมาจากปากของพีช สีหน้าของธนินทร์ก็เปลี่ยนไปในพริบตา ความเรียบเฉยที่เขาพยายามรักษาไว้พังทลายลงสิ้น แววตาคมกริบแข็งกร้าว ราวกับมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ภายใน ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่พิมอย่างค้นหาคำตอบ แต่ก็อดเหลือบมองพีชด้วยสายตาเย็นยะเยือกไม่ได้เพรา

  • ฟ้าจรดฟาร์ม NC24+   บทที่ 127

    "แล้วไง?" ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเรียบ ทว่าคำพูดนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย "ก็ดี... ถ้าคนจะคิดอย่างนั้น"เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้เล็กน้อย จนปลายจมูกของเขาสัมผัสกับขมับของเธอ เสียงกระซิบของเขาแผ่วเบา แต่ก็ชัดเจนพอที่พิมจะได้ยิน"อย่างน้อย... ก็ดีกว่าให้ใครมาเข้าใจผิดว่าพิมยังไม่มีเจ้าของ"ธนินทร์เงยหน้าขึ้นเล

  • ฟ้าจรดฟาร์ม NC24+   บทที่ 126

    บทที่83 คนขี้หวง"คุณเพชร พิมมือเจ็บอยู่ครับ" ธนินทร์บอกเสียงเรียบ แฝงความห่างเหินสีหน้าของชายหนุ่มคนนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มเจื่อนๆ กลับไป"อ่า... ขอโทษด้วยครับ ไม่ทราบจริงๆ ครับ"ร่างสูงพยักหน้ารับอย่างไม่แยแส แล้วดึงพิมให้เดินเลี่ยงออกมาเล็กน้อยขณะที่ธนินทร์กำลังจะดึงตัวพิมออกห่าง เธอกลับ

  • ฟ้าจรดฟาร์ม NC24+   บทที่ 125

    ธนินทร์ยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉยแต่มือที่โอบเอวบางอยู่นั้นกระชับแน่นขึ้นเรื่อยๆ เขาเห็นทุกสายตาที่มองมา และได้ยินทุกคำซุบซิบ ยิ่งทำให้ความหึงหวงและต้องการครอบครองพิมในตัวเขาพุ่งสูงขึ้นไปอีกระดับ เขาแทบจะขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์ ‘คืนนี้คงจะอีกยาวไกล... และฉันจะทนได้แค่ไหนกัน! ‘ธนินทร์หายใจแรงๆ ไปก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status