บทที่ 7 ทานข้าวกันไหม
ธนินทร์ใช้เวลาช่วงเช้าทั้งหมดอยู่ในฟาร์มม้า ตรวจดูความเรียบร้อยของคอกสัตว์ ให้อาหารม้า จัดการเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจสวนผลไม้มากมาย เสียงคุณศักดิ์มาเรียกให้ไปทานอาหารเช้า เขาก็แค่ดื่มกาแฟดำไปแก้วเดียว
ในขณะที่มือทำงานอย่างขยันขันแข็ง จิตใจของเขากลับอดคิดถึงผู้หญิงที่ชื่อ พิม ไม่ได้
‘เธอจะหลับไปจริงๆ หรือเปล่า... หรือจะแอบบ่นฉันอยู่ในใจ’ เขานึกถึงสภาพของเธอเมื่อเช้าที่ดูวุ่นๆ แต่ก็เป็นธรรมชาติ และท่าทางที่อุ้มทีโอขึ้นรถ ซึ่งเผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนเพียงชั่วครู่
ธนินทร์ใช้เวลาหลายชั่วโมงจัดการงานในฟาร์ม ไม่ได้กลับไปที่บ้านใหญ่จนกระทั่งใกล้เที่ยง เขาเดินตรวจดูความเรียบร้อยของสวนผลไม้ ก่อนจะเดินผ่านหน้าบ้านไปทางโรงเก็บเครื่องมือเพื่อหยิบอุปกรณ์เพิ่มเติม
‘คงจะยังนอนอยู่สินะ’ เขาคิดเมื่อเห็นว่าบ้านยังคงเงียบสงบ ไม่มีวี่แววของกิจกรรมใดๆ จากในตัวบ้าน แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
พิมเดินลงมาจากชั้นบนอย่างสดใสในชุดเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนสีขาว ผมยาวถูกรวบเป็นหางม้าสูง เผยให้เห็นลำคอระหงและใบหน้าที่เปล่งปลั่ง เธอเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น แล้วหยุดยืนงงๆ อยู่หน้าประตูบ้านที่เปิดออกสู่สวนกว้าง
แสงแดดยามบ่ายสาดส่องลงมาบนตัวเธอ ทำให้ชุดสีขาวดูสว่างสดใสยิ่งขึ้น พิมสูดหายใจลึกๆ รับอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติเข้าเต็มปอด เธอรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้นอนเต็มอิ่ม
ท้องที่เริ่มร้องเตือนอีกครั้งให้รู้ว่าถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว พิมจึงค่อยๆ เดินสำรวจไปรอบๆ บริเวณบ้าน หวังจะได้เจอคุณศักดิ์ เพื่อจะถามว่าปกติแล้วคนในฟาร์มทานข้าวกันที่ไหน
เธอเดินผ่านสวนหย่อมเล็กๆ ที่จัดไว้อย่างสวยงาม เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแผ่วๆ มาจากต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมพัดใบไม้
ขณะที่พิมกำลังเดินไปตามทางเดินเล็กๆ ที่ทอดยาวไปทางด้านหลังของบ้าน สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่คุ้นตาที่กำลังเดินออกมาจากทางโรงเก็บของที่อยู่ไม่ไกลนัก เขากำลังเดินตรงมาทางพิม ใบหน้าคมคายของเขายังคงเรียบเฉย แววตาคมกริบมองตรงมาที่เธออย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
ทันทีที่เธอเห็นว่าร่างสูงใหญ่นั้นคือ คุณธนินทร์ใบหน้าของพิมก็ชะงักไปเล็กน้อย ความประหม่าจากเหตุการณ์เมื่อเช้ายังคงฝังใจ แต่ครั้งนี้เธออยู่ในสภาพที่พร้อมกว่ามาก
ธนินทร์เองก็เดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แสงแดดยามบ่ายทำให้พิมมองเห็นรายละเอียดบนใบหน้าของเขาได้ชัดเจน พิมกวาดสายตามองสำรวจร่างสูงเล็กน้อย เขาดูลึกลับและน่าค้นหาไม่ต่างจากเมื่อคืน แต่ในเวลากลางวันแบบนี้ เขากลับดูสง่าและมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในตอนเช้าตรู่
ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพิม ระยะห่างระหว่างกันไม่มากนัก ดวงตาคมกริบคู่นั้นกวาดสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าช้าๆ พลางหยุดอยู่ที่ชุดขาวสะอาดตาและผมหางม้าที่รวบขึ้นไปเผยลำคอระหง แววตาของเขาดูเหมือนจะมีความประหลาดใจเล็กน้อยแวบเข้ามา แต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว พิมอ่านไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จนในที่สุดธนินทร์ก็เอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่าเช่นเคย "ตื่นแล้ว?"
พิมพยักหน้ารับคำของคุณธนินทร์สั้นๆ "ค่ะ"
ในใจของพิมอยากจะกวนประสาทกลับไปเสียเหลือเกินว่า ‘ถ้าไม่ตื่นแล้วจะมายืนอยู่ตรงนี้ให้คุณเห็นหรือคะ’ แต่เธอก็ยับยั้งชั่งใจไว้ได้ ยังไงเขาคือเจ้านายของเธอ ถึงแม้จะรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีเย็นชาของเขาแค่ไหน แต่ก็ต้องรักษามารยาทไว้
ธนินทร์ยังคงจ้องมองเธอนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ พิมรู้สึกได้ว่าเขากำลังรออะไรบางอย่าง แต่เธอก็ไม่รู้ว่าคืออะไร และความหิวก็เริ่มตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ
เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงของพิมจากเมื่อเช้าตรู่ได้อย่างชัดเจน จากสภาพชุดนอนไม่เรียบร้อยที่เขาไม่ชินตา มาเป็นลุคสาวฟาร์มในชุดขาวสะอาดตาและผมหางม้าที่รวบสูง มันทำให้เธอดูสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้นมาก
‘ดูดีกว่าเมื่อเช้าเยอะ’
รอยยิ้มจางๆ เกือบจะปรากฏบนริมฝีปากเขา แต่ก็ถูกกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว ธนินไม่เคยคาดหวังว่าเธอจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง และท่าทางที่นิ่งขึ้น ไม่โวยวายเหมือนเมื่อเช้า ก็ทำให้เขารู้สึกว่าเธอคนนี้มีอะไรให้ค้นหาอยู่เสมอ
เขาสัมผัสได้ถึงความอยากรู้อะไรบางอย่างจากแววตาของเธอ แต่เธอก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่ได้เอ่ยปากถามออกมา
‘จะกล้าถามไหมนะ... หรือจะเก็บความหิวไว้คนเดียว?’ ธนินทร์อดคิดไม่ได้ เขารู้ว่าถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว และแน่นอนว่าเธอคงจะหิวไม่ต่างจากเขา
"ปกติแล้ว คนที่นี่หาอาหารทานกันยังไงเหรอคะ" พิมตัดสินใจที่จะไม่รออีกต่อไป ความหิวเริ่มเอาชนะความประหม่า เธอเอ่ยถามออกไปตรงๆ "สั่ง Grab มาได้ไหม" เธอถามต่อ พลางนึกถึงความสะดวกสบายแบบคนเมืองที่คุ้นเคย
สายตาคมจ้องมองพิมนิ่งๆ ดวงตาคมกริบยังคงไม่มีอารมณ์ใดๆ ชัดเจน แต่พิมรู้สึกได้ถึงประกายบางอย่างที่วูบผ่านไปในดวงตาของเขา ก่อนที่เขาจะตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเรียบๆ
"ที่นี่ไม่มี Grab มาส่ง" เขาตอบสั้นๆ "เราทำอาหารทานกันเอง หรือไม่ก็ออกไปทานข้างนอก" ธนินทร์มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ขณะตอบเธอเรื่องอาหาร
‘สั่ง Grab มาได้ไหม...?’ เขาคิดในใจ มุมปากแทบจะกระตุกยิ้มเล็กน้อย เธอคงลืมไปแล้วสินะว่านี่คือฟาร์ม ไม่ใช่ใจกลางเมืองหลวงที่ทุกอย่างสะดวกสบายไปหมด
‘ยังไม่ชินสินะ... กับชีวิตแบบนี้’ เขารับรู้ได้ถึงความไม่คุ้นเคยของเธอจากคำถามนั้น และเขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
คำตอบของเขาทำให้พิมพยักหน้าเข้าใจ สถานที่ที่ห่างไกลจากเมืองแบบนี้ การสั่งอาหารเดลิเวอรี่คงเป็นไปไม่ได้จริงๆ แต่คำว่า ทำอาหารทานกันเอง ทำให้คุณพิมรู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่ามันหมายถึงเธอจะต้องทำอาหารเองด้วยหรือไม่"งั้น...ส่วนของพิม พิมต้องทำเองใช่ไหมคะ" เธอถามออกไปตรงๆ แววตาแฝงความกังวลเล็กน้อย เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาสำหรับสิ่งนี้
ร่างสูงมองพิมนิ่งๆ เช่นเคย แววตาคมกริบอ่านไม่ออก เขาไม่ได้แสดงท่าทีตกใจหรือประหลาดใจกับคำถามนั้นเลยแม้แต่น้อย ราวกับคาดเดาไว้แล้วว่าจะต้องมีคำถามนี้
‘แน่นอนว่าเธอคงทำไม่เป็น’ เขามองเห็นแววกังวลในดวงตาของเธอชัดเจน ผู้หญิงที่ดูบอบบางแบบนี้คงไม่เคยเข้าครัวทำอาหารจริงๆ จังๆ มาก่อนแน่
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จะปล่อยให้เธอไปหาอะไรกินเองในสภาพที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็คงจะลำบาก หรือจะให้คนอื่นจัดการก็ดูจะเสียเวลา
‘ง่ายกว่า... ก็ชวนไปกินด้วยกันนี่แหละ’
เขาตัดสินใจทันที มันเป็นทางออกที่ตรงไปตรงมาที่สุด อีกอย่าง เขาก็อยากจะสังเกตเธอมากกว่านี้ด้วย จากที่เห็นเธออยู่กับทีโอเมื่อเช้า และท่าทางที่เป็นธรรมชาติของเธอ มันทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิดไว้
"ไม่" ธนินทร์ตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "ไปทานข้าวเที่ยงกับผม"
คำพูดของเขาทำให้พิมชะงักไปเล็กน้อย เธอไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับเชิญให้ไปทานอาหารกลางวันกับเขาโดยตรง ความรู้สึกประหลาดใจปนอึดอัดแล่นเข้ามาในใจทันที
‘อ้อ... ค่อยเหมือนลูกน้องกับเจ้านายหน่อย’ พิมคิดในใจ เธอรู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาปฏิบัติต่อเธอในฐานะลูกน้องจริงๆ ไม่ใช่แค่สั่งการอย่างเดียว
แม้จะรู้สึกโล่งใจที่เขาจะพาไปทานข้าว แต่ความประหม่าก็ยังคงมีอยู่เล็กน้อย พิมจึงเลือกที่จะถามกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"อ้อ งั้นคุณธนินทร์หิวหรือยังคะ" พิมถามออกไป แต่ในใจนั้นร้องตะโกนว่า 'ฉันหิวมากเลยนะ!' เธอหวังว่าธนินจะรู้ว่าเธอกำลังหิวสุดๆ แล้ว และจะได้พาเธอไปทานข้าวเสียที
"หิว" ธนินทร์ตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่าเช่นเคย เขาไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม แต่กลับหมุนตัวเดินนำพิมไปทางด้านข้างของตัวบ้าน ซึ่งเป็นทางที่ทอดยาวไปสู่โซนที่พักของคนงานและอาจจะมีโรงอาหารอยู่ เธอเดินตามร่างสูงไปอย่างเงียบๆ ท้องที่ร้องจ๊อกๆ เตือนให้รู้ว่าเธอหิวมากจริงๆ และหวังว่าอาหารกลางวันจะมาถึงในไม่ช้า
-🖤🤍🖤-