บทที่ 6 ทำไมต้องอาบน้ำ....
พิมยืนอึ้งมองตามแผ่นหลังของธนินทร์ที่เดินจากไป คำพูดสั้นๆ "ไปอาบน้ำเสีย" ยังคงก้องอยู่ในหัว
'ทำไมต้องอาบน้ำตอนนี้ด้วยเล่า! งานฉันจบแล้วนี่นา' พิมคิดในใจอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
มองไปยังนาฬิกา... 7 โมงเช้าเท่านั้น เธอส่งน้องทีโอขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว หน้าที่ของเธอในตอนเช้าก็คือดูแลน้องจนกว่าจะไปโรงเรียน นั่นหมายความว่าตอนนี้เธอควรจะมีเวลาว่างที่จะได้ไปนอนต่ออีกหน่อย
‘ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้เหรอ... ทำไมต้องสั่งกันแบบนั้นด้วย!’ ความรู้สึกหงุดหงิดแล่นเข้ามา เธอรู้สึกเหมือนโดนจับผิดและโดนสั่งการทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนใช้ ยิ่งคิดถึงท่าทางนิ่งเฉยและสายตาที่มองมาของธนินทร์เมื่อเช้าแล้ว ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจ
พิมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอกำลังยืนอยู่ท่ามกลางความสงบของฟาร์มยามเช้า แต่ใจของเธอกลับว้าวุ่นไปด้วยความรู้สึกขัดแย้งกับเจ้าของบ้านผู้เย็นชา เธอยังคงยืนกอดอกแน่น ความไม่พอใจปนหงุดหงิดแล่นอยู่ในใจ เมื่อมองตามหลังคนสั่งการที่เดินหนีไปหลังพูดจบ
‘แล้วก็คือไม่อยู่ให้ถามด้วยไง! ว่าจะให้ไปทำอะไรต่อ!’ เธอคิดอย่างหัวเสีย
คำสั่งสั้นๆ "ไปอาบน้ำเสีย" ของธนินทร์มันค้างคาอยู่ในหัว เธอรู้ว่าตัวเองควรจะไปอาบน้ำอยู่แล้ว แต่คำสั่งที่ทิ้งไว้แบบไร้การอธิบายใดๆ แถมยังเดินจากไปเลยแบบนั้น ทำให้พิมรู้สึกเหมือนโดนบังคับและไม่ได้รับเกียรติ ยิ่งไปกว่านั้น ธนินทร์ไม่ได้บอกเลยว่าหลังจากอาบน้ำแล้ว เธอควรจะทำอะไรต่อ มีงานอะไรที่ต้องรับผิดชอบไหม หรือแค่รอจนกว่าทีโอจะกลับมา
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองไปยังทิศทางที่ธนินทร์เดินจากไปแล้ว เขาหายลับไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว ไม่มีแม้แต่เงาให้เห็น ยิ่งทำให้พิมรู้สึกว่าสถานการณ์นี้มันช่างน่าอึดอัดและซับซ้อนกว่าที่คิดไว้มากนัก
เธอตัดสินใจทันที เรื่องนอนเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอ การเป็นแอร์โฮสเตสทำให้เธอต้องปรับตารางการนอนให้ยืดหยุ่นและนอนให้เพียงพอเสมอ ดังนั้น การถูกสั่งให้ไปอาบน้ำโดยไม่มีงานอื่นรออยู่หลังจากนั้น มันช่างขัดใจเสียจริง
"ถ้าไม่มีอะไรให้ทำ จะให้มาอาบน้ำแล้วนั่งเฉยๆ ไม่เอานะ!" เธอพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว ก่อนจะหมุนตัวเดินตามธนินทร์ไปทางโรงเก็บของที่เขาเพิ่งเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว เธอเดินตามไปจนถึงหน้าโรงเก็บของที่เปิดอ้าอยู่ มองเห็นแผ่นหลังกว้างของคุณธนินทร์กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับอะไรบางอย่างในความมืดสลัวภายใน
เธอเดินตามเขาเข้ามาในโรงเก็บของ สภาพของเธอยังคงอยู่ในชุดนอนคลุมคาร์ดิแกนกับรองเท้าแตะ เธอรู้ตัวดีว่ามันดูแปลกๆ ที่มาอยู่ในสภาพนี้ แต่ความอยากรู้และต้องการคำตอบมันสำคัญกว่า เธอไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการได้คำตอบที่ชัดเจน
"คุณธนินทร์คะ!" พิมเรียกออกไปเสียงดังพอที่จะให้เขาได้ยิน
ธนินทร์ชะงักมือเล็กน้อย เขาไม่ได้หันกลับมาทันที แต่ร่างสูงใหญ่ของเขาก็หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยืดตัวขึ้นช้าๆ แล้วหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับพิม ใบหน้าคมคายของเขายังคงเรียบเฉย แววตาคมกริบมองมาที่พิมอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
"มีงานอะไรให้ทำต่อหรือเปล่าคะ หลังจากส่งน้องทีโอแล้ว" พิมถามออกไปตรงๆ เมื่อเขาหันหน้ามาหา พยายามเน้นย้ำถึงขอบเขตงานของเธอที่เกี่ยวข้องกับการดูแลน้องทีโอ
ธนินทร์จ้องมองพิมนิ่งๆ ดวงตาของเขาไล่สำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอีกครั้งช้าๆ ราวกับกำลังประเมินอะไรบางอย่างในตัวเธอ ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้มหรือแววตาใดๆ ที่แสดงถึงความประหลาดใจหรือความไม่พอใจกับการปรากฏตัวของเธอในสภาพนี้
"ไม่มี" ธนินทร์ตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่าเช่นเคย "แต่คุณควรจะอาบน้ำ"
คำตอบของเขาทำให้พิมรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่มีงานให้ทำก็แปลว่าเธอควรจะนอนต่อได้สิ แล้วทำไมยังต้องย้ำเรื่องอาบน้ำอีก!
ร่างสูงมองผู้หญิงตรงหน้าที่ยืนอยู่ในโรงเก็บของ เขากำลังคิดว่าทำไมเธอถึงได้ปรากฏตัวในสภาพนี้ ทั้งๆ ที่เขาบอกให้ไปอาบน้ำแล้ว และทำไมถึงได้ตามเขามาถึงนี่?
‘ตามมาทำไม... ชุดก็ไม่เรียบร้อย’ เขาคิดในใจ สีหน้ายังคงเรียบเฉยแต่ดวงตาคมกริบกวาดมองสำรวจเธออีกครั้ง
เขาเห็นความหงุดหงิดและไม่พอใจในแววตาของเธอ ตอนที่เขาบอกว่า "ไม่มี" งานอะไรให้ทำต่อแล้วก็ยังย้ำเรื่องอาบน้ำ เขารับรู้ได้ถึงคำถามในใจของเธอว่า ‘แล้วทำไมต้องอาบด้วย’ และ ‘ทำไมต้องสั่งกันขนาดนี้’
‘ก็แค่บอกให้ไปอาบน้ำ... มันเข้าใจยากนักหรือไง’
คนตัวสูงไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องง่ายๆ แค่นี้เธอถึงต้องมีปฏิกิริยา เขาคิดว่าการบอกให้ไปอาบน้ำก็เป็นเรื่องปกติของการเริ่มต้นวันใหม่ หลังจากที่ต้องวุ่นวายกับการส่งน้องทีโอไปโรงเรียน แถมเธอก็ยังอยู่ในชุดนอนที่ดูไม่เรียบร้อย
เขามองเห็นความขัดใจในแววตาของเธอ ที่พยายามปกปิดแต่ก็ทำได้ไม่มิดนัก และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าเธอคนนี้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขามักจะเจอ ผู้หญิงที่มักจะทำตามคำสั่งหรือความต้องการของเขาอย่างว่าง่าย
เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่สงบนิ่ง ปล่อยให้คุณพิมได้คิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง
พิมยังคงยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองคุณธนินทร์ด้วยความไม่เข้าใจนัก
เธอพยายามทวนคำพูดของเขา "ไม่มี...?" เสียงของเธอเจือความสงสัยและไม่พอใจที่เห็นได้ชัด
ธนินทร์ไม่ได้ขยับตัวไปไหน เขายังคงยืนนิ่งในท่าเดิม มองตรงมาที่พิมด้วยสายตาเรียบเฉยเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยของการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าคมคายของเขา ไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติมใดๆ นอกจากคำสั้นๆ เมื่อครู่
บรรยากาศในโรงเก็บของกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง มีเพียงเสียงแผ่วเบาของลมที่พัดผ่านเข้ามา มันเป็นความเงียบที่ทำให้พิมรู้สึกอึดอัด และดูเหมือนว่าธนินทร์จะพอใจกับความเงียบนี้
พิมตัดสินใจแล้ว เรื่องนอนคือเรื่องใหญ่ที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ และเมื่อไม่มีงานอื่นให้ทำ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบไปทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ
"งั้นพิมขอนอนต่อนะคะ" พิมเอ่ยออกไปเสียงเรียบ พยายามให้สุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอเลือกใช้ชื่อของตัวเองแทนสรรพนามอื่น เพราะรู้สึกว่ามันเหมาะสมที่สุด ไม่ก้าวร้าวเกินไปอย่าง 'ฉัน' และไม่ดูเป็นเด็กเกินไปอย่าง 'หนู' ที่แม้จะติดปากกว่าก็ตาม
เธอไม่รอฟังคำตอบหรือปฏิกิริยาใดๆ จากคุณธนินทร์ เธอหมุนตัวกลับหลัง แล้วเดินจากโรงเก็บของออกมาอย่างรวดเร็ว มุ่งตรงกลับไปยังตัวบ้าน หวังว่าจะได้กลับไปทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆ และงีบหลับต่อเพื่อชดเชยเวลาที่หายไป
ธนินทร์มองตามแผ่นหลังของพิมที่เดินจากไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉย แต่ในแววตาคมกริบนั้นมีประกายบางอย่างที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจเล็กน้อย
‘งั้นพิมขอนอนต่อนะคะ...?’ เขาพึมพำในใจ ทวนคำพูดของเธอ
‘นี่เธอไม่เข้าใจคำสั่งฉันจริงๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจกันแน่?’ ความหงุดหงิดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจเขา เขาบอกให้ไปอาบน้ำ ไม่ใช่ให้กลับไปนอนต่อ การที่เธอเลือกที่จะทำตามใจตัวเองแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกท้าทายเล็กๆ
ธนินทร์ถอนหายใจแผ่วเบา เขาไม่ได้โกรธ แต่รู้สึกแปลกใจและไม่เข้าใจในตัวผู้หญิงคนนี้ เธอแตกต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยเจอมาจริงๆ สุดท้ายเขาหันกลับไปสนใจงานที่ค้างอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ปล่อยให้ความคิดเกี่ยวกับพิมวนเวียนอยู่ในหัวเงียบๆ
พิมกลับมาถึงห้องนอน ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆ อย่างไม่ลังเล ความเหนื่อยล้าจากการตื่นเช้าผิดปกติและเหตุการณ์วุ่นวายเล็กๆ น้อยๆ ในตอนเช้าทำให้เธอหลับใหลไปในทันที
อากาศในฟาร์มนั้นบริสุทธิ์และเย็นสบายกว่าในเมืองกรุงมากนัก กลิ่นดินและพืชพรรณอ่อนๆ ที่โชยเข้ามาจากหน้าต่างช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย พิมหลับลึกและสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานนับปี เธอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งแสงแดดยามเที่ยงวันสาดส่องเข้ามาในห้อง
พิมลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงงเล็กน้อย เธอมองนาฬิกา... เที่ยงตรง! เธอหลับไปนานถึง 5 ชั่วโมง! มันเป็นเวลาการนอนที่เพียงพอและทำให้เธอรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง รู้สึกถึงพลังงานที่กลับคืนมาเต็มเปี่ยม ลืมเรื่องราวความขัดแย้งกับธนินทร์เมื่อเช้าไปชั่วขณะ สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกตอนนี้คือความสดชื่นและท้องที่เริ่มร้องจ๊อกๆ
พิมรู้สึกสดชื่นเต็มที่หลังจากตื่นนอน เธอเดินตรงไปยังห้องน้ำ จัดการอาบน้ำชำระร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงเมื่อเช้าถูกจัดแต่งอย่างพิถีพิถัน ใบหน้าสวยใสเปล่งปลั่งด้วยเครื่องสำอางบางเบา
วันนี้พิมเลือกสวม เสื้อยืดสีขาว เข้ารูป แมทช์กับ กางเกงยีนสีขาว ขาตรงที่เสริมให้เรียวขาดูยาวขึ้น เธอชอบแต่งตัวและมีความสุขกับการได้เลือกเสื้อผ้าที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง ลุค "สาวฟาร์ม" ในแบบฉบับของพิมดูคล่องตัวแต่ก็ยังคงความทันสมัยและมีสไตล์
เมื่อแต่งตัวเสร็จ พิมเดินลงมาจากชั้นบนด้วยความรู้สึกเบาสบายตัวและสดใสกว่าเมื่อเช้ามาก ท้องที่ร้องจ๊อกๆ เตือนให้รู้ว่าถึงเวลาหาอะไรใส่ท้องแล้ว
-🖤🤍🖤-