บทที่ 8 อุบัติเหตุเล็กๆ
ร่างสูงใหญ่ของธนินทร์เดินนำพิมไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินกรวด ผ่านต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา แสงแดดยามบ่ายสาดส่องลงมารำไร อากาศอบอ้าวเล็กน้อยแต่ก็ยังคงมีลมพัดเอื่อยๆ บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบ มีเพียงเสียงแมลงและเสียงนกร้องแผ่วๆ ไกลๆ ไม่นานนัก พิมก็เห็นอาคารเตี้ยๆ หลังหนึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล มีกลิ่นหอมของอาหารลอยมาตามลม ธนินทร์เดินตรงเข้าไปในอาคารนั้น ซึ่งเป็น โรงอาหาร ของฟาร์ม บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง สะอาดสะอ้าน มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่หลายตัววางเรียงรายอยู่
ในโรงอาหารมีคนงานของฟาร์มกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งทานข้าวกลางวันอยู่ พวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้ชายวัยกลางคนถึงสูงอายุ ทุกคนหันมามองนายใหญ่และสาวสวยข้างๆ ด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ธนินทร์เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ ให้กับพวกเขา ไม่ได้ทักทายอะไรเป็นพิเศษ
เขารับจานอาหารที่ดูเรียบง่ายแต่ก็น่าทานมาสองจานจากแม่ครัว จานหนึ่งมีข้าวสวยร้อนๆ กับแกงหมู อีกจานหนึ่งเป็นผัดผักรวมมิตร เขายื่นจานผัดผักให้กับพิม
"กินนี่" เขาพูดสั้นๆ
พิมรับจานมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าเขาจะตักอาหารให้เธอด้วยตัวเอง อาหารหน้าตาน่าทานและกลิ่นหอมชวนหิวทำให้ท้องของพิมร้องประท้วงอีกครั้ง ธนินทร์เดินนำไปที่โต๊ะว่างมุมหนึ่งของโรงอาหาร พวกเขานั่งลงตรงข้ามกัน
พิมมองจานผัดผักรวมมิตรตรงหน้า มันดูเรียบง่ายแต่ก็มีสีสันชวนมอง เธอเป็นคนทานง่าย มีอะไรก็กินอันนั้น ไม่ค่อยเรียกร้องอะไรมาก
‘ผัดผัก...โอเค กินได้’ พิมคิดในใจ เธอตักผัดผักเข้าปาก รสชาติกลมกล่อม ไม่จัดจ้านเกินไป ทำให้เธอกินได้อย่างสบาย
จากนั้นเธอก็เลื่อนสายตาไปที่จานแกงหมู ธนินทร์ตักให้เธอพยักหน้าให้ตัวเองเล็กน้อย ‘แกงหมู...เดี๋ยวขอชิมดูก่อน’
พิมตักแกงหมูเข้าปากช้าๆ รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องแกง เนื้อหมูนุ่มลิ้น แม้จะเป็นอาหารพื้นบ้าน แต่ก็ทำได้อย่างพิถีพิถัน มันอร่อยกว่าที่เธอคิดไว้มากนัก ทำให้พิมทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อยและเงียบงันไปพร้อมกับธนินทร์
ตลอดมื้อกลางวัน ความเงียบยังคงปกคลุมระหว่างทั้งคู่ เขาทานอาหารอย่างเงียบๆ และรวดเร็ว ไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้น มีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบจานแผ่วๆ และเสียงพูดคุยของคนงานคนอื่นๆ ที่ดังมาจากโต๊ะไกลๆ พิมเองก็ทานอาหารอย่างตั้งใจ เพราะความหิวทำให้รสชาติของอาหารธรรมดาๆ อร่อยขึ้นเป็นทวีคูณ
สายตาคมกริบของธนินทร์เหลือบมองไปยังพิมเป็นระยะ เขาเห็นเธอตักแกงหมูเข้าปากช้าๆ แล้วก็พยักหน้าเล็กน้อยราวกับพึงพอใจในรสชาติ
‘ท่าทางจะทานง่ายกว่าที่คิดไว้’ เขาคิดในใจ
เมื่อเช้าเธอดูหงุดหงิดกับการโดนสั่งให้ไปอาบน้ำ แต่ตอนนี้เธอกลับดูเป็นธรรมชาติและผ่อนคลายขณะทานอาหาร การที่เธอไม่บ่นเรื่องอาหาร หรือมีท่าทีไม่พอใจกับเมนูง่ายๆ แบบนี้ ทำให้เขารู้สึกว่าเธอเป็นคนไม่เรื่องมาก ไม่เหมือนผู้หญิงในสังคมที่เขาเคยเจอที่มักจะพิถีพิถันกับการกินอยู่เป็นพิเศษ
เขามองเห็นแววตาที่ดูมีความสุขเล็กๆ เมื่อเธอได้กินอาหารอร่อยๆ ธนินทร์ไม่ได้พูดอะไร เขายังคงทานอาหารต่อไปอย่างใจเย็น แต่สายตาของเขากลับจับจ้องไปยังผู้หญิงตรงหน้าอย่างเงียบงัน ราวกับกำลังประเมินและทำความเข้าใจในตัวเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่พิมกำลังทานแกงหมูอย่างเอร็ดอร่อย พลางคิดว่ารสชาติอาหารที่นี่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดไว้ จังหวะนั้นเอง...
"โอ มาย กอด!" เธออุทานออกมาเสียงดังเล็กน้อย พร้อมกับก้มลงมองสำรวจเสื้อยืดสีขาวตัวโปรดของตัวเองด้วยสีหน้าตกใจ มีคราบสีเหลืองส้มของแกงหมูกระเด็นเลอะอยู่ตรงหน้าอกเป็นวงกว้าง
พิมถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอเป็นคนที่ชอบใส่เสื้อผ้าสีขาวมากๆ แต่มักจะมีปัญหาซุ่มซ่ามอยู่เสมอ โดยเฉพาะเวลาทานอาหารที่เป็นน้ำหรือมีเครื่องเทศเยอะๆ แบบนี้ที่มักจะมีอะไรกระเด็นเลอะเสื้อผ้าอยู่ตลอด
ส่วนธนินทร์กำลังตักข้าวเข้าปากอย่างเงียบๆ เมื่อได้ยินเสียงอุทานของหญิงสาวตรงหน้า สายตาคมกริบของเขาก็หยุดลงที่คราบแกงสีส้มที่ประดับอยู่บนเสื้อยืดสีขาวของพิมอย่างเด่นชัด
‘ซุ่มซ่ามดีนี่... สมกับที่เป็นคนไม่เรียบร้อย’ เขาคิดในใจอย่างไม่รู้สึกแปลกใจอะไรมากนัก ตั้งแต่เมื่อเช้าที่เห็นเธอในสภาพไม่พร้อม เขาก็พอจะเดาได้ว่าเธอไม่ใช่กุลสตรีอะไรนัก
‘แต่ก็ไม่ได้น่ารังเกียจอะไร... แค่เลอะ’ เขามองคราบแกงแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร มันก็แค่คราบอาหารบนเสื้อผ้า ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตสำหรับเขา
ร่างสูงใหญ่ตรงข้ามไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร เขาวางช้อนลงช้าๆ แล้วหยิบกระดาษทิชชูที่วางอยู่บนโต๊ะ ยื่นมือไปจะช่วยเช็ดให้ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อสังเกตตำแหน่งที่เลอะดีๆ อีกครั้ง เขาเลยทำแค่ส่งยื่นทิชชูให้พิมโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แววตาของเขายังคงนิ่งเรียบไม่แสดงความเห็นอกเห็นใจปรากฏให้เห็นชัดเจน
พิมมองกระดาษทิชชูที่ยื่นมาตรงหน้า เธอรับมันมาจากมือของเขาโดยไม่พูดอะไร ใบหน้าเธอแสดงความไม่พอใจเล็กน้อยกับความซุ่มซ่ามของตัวเอง
เธอรินน้ำสะอาดจากเหยือกบนโต๊ะลงบนกระดาษทิชชูจนชุ่ม แล้วค่อยๆ บรรจงซับลงไปบนคราบแกงที่เนินอกของเสื้อขาวอย่างเบามือและรวดเร็ว เธอรู้วิธีจัดการกับคราบแบบนี้เป็นอย่างดีจากการที่เลอะเทอะอยู่บ่อยครั้ง
เธอบรรจงซับน้ำออกอยู่หลายที พยายามเช็ดคราบแกงนั้นออกก่อนที่มันจะฝังแน่น ดวงตาของพิมจดจ่ออยู่กับการทำความสะอาดคราบนั้นอย่างจริงจัง ท้ายที่สุด คราบแกงสีเหลืองส้มก็จางลงไปมาก จนแทบมองไม่เห็นในระยะไกล แต่สิ่งที่ทิ้งไว้คือ รอยดวงน้ำขนาดใหญ่ ที่เปียกชื้นบนเนื้อผ้าบริเวณเนินอก เสื้อยืดสีขาวเนื้อบางเมื่อโดนน้ำ ยิ่งแนบเนื้อและเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านในมากขึ้นกว่าปกติ บริเวณเนินอกที่ต่อกับขอบบราจึงปรากฏให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นภายใต้เนื้อผ้าที่เปียกชื้น มันไม่ได้โป๊เปลือย แต่ก็เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าของสรีระที่ซ่อนอยู่ภายในอย่างเด่นชัดภายใต้เสื้อสีขาวที่เปียกน้ำ
ธนินทร์ยังคงนั่งนิ่ง มองการกระทำของพิมตั้งแต่ต้นจนจบ เขาเห็นเธอรับทิชชูไปรินน้ำ แล้วบรรจงซับคราบแกงที่เนินอกอย่างคล่องแคล่ว สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่มือของเธอ และเสื้อสีขาวที่เปียกน้ำแล้วแนบไปกับผิว
แต่แล้ว...เมื่อคราบจางหายไป สิ่งที่ปรากฏขึ้นแทนคือ รอยน้ำขนาดใหญ่ ที่ทำให้เสื้อสีขาวเนื้อบางแนบไปกับผิวเผยให้เห็นรูปทรงที่ซ่อนอยู่ภายในชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะบริเวณเนินอกที่ต่อกับขอบบรา มันไม่ใช่การตั้งใจโชว์ แต่เป็นผลจากความซุ่มซ่ามที่เพิ่งเกิดขึ้น
สายตาคมกริบกวาดมองไปยังบริเวณนั้นช้าๆ เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาทางสีหน้า แต่ภายในใจกลับรับรู้ถึงภาพตรงหน้าอย่างเงียบงัน
‘ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด... ในสภาพแบบนี้’ ธนินทร์ยกมุมปากนิดเดียว ก่อนจะก้มลงทานอาหารของตนเองต่อ เขายอมรับในใจว่ารูปร่างของเธอนั้นไม่ธรรมดา แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ก็ตาม
ส่วนพิมยังคงไม่รู้ตัวถึงร่องรอยน้ำที่ทำให้เสื้อยืดสีขาวแนบเนื้อเผยสรีระ เธอหันกลับไปสนใจอาหารในจานและทานต่ออย่างเป็นปกติ ธนินทร์เองก็ไม่ได้เอ่ยปากเตือน หรือแสดงท่าทีใดๆ ที่จะทำให้เธอรู้ตัวถึงสภาพเสื้อของตัวเอง เขาเพียงแค่เหลือบมองเธอเป็นระยะ แล้วกลับมาทานอาหารของเขาต่ออย่างใจเย็น
เมื่อเธออิ่มแล้ว เธอวางช้อนส้อมลงก่อนดื่มน้ำไปอีกอึกใหญ่ ทางธนินทร์เองก็ทานอาหารเสร็จแล้วเช่นกัน เขาวางช้อนส้อมลงอย่างเงียบๆ แล้วเลื่อนจานเปล่าไปด้านข้างเล็กน้อย ดวงตาคมกริบของเขายังคงจับจ้องมาที่คุณพิมเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย
เขาไม่แม้แต่จะถามว่าพิมอิ่มไหม หรือถามความเห็นเกี่ยวกับอาหาร เขาเพียงแค่ลุกขึ้นจากเก้าอี้โดยไม่พูดอะไร พิมมองตามเขาด้วยความงุนงง ไม่แน่ใจว่าเขาจะไปไหนต่อ
"ถ้าทานเสร็จแล้ว...ก็กลับไปพักผ่อนได้" ธนินทร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและเรียบเฉยเช่นเคย เขามองคุณพิมนิ่งๆ ก่อนจะหันหลังเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อนำจานไปเก็บ เธอก็พยักหน้ารับคำของเขาอย่างงงๆ แล้วก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตามไป เพื่อนำจานของตัวเองไปเก็บเช่นกัน
-🖤🤍🖤-