เข้าสู่ระบบภาสกรนั่งเงียบๆ อยู่บนแคร่ไม้ใต้แสงจันทร์สลัวบนเรือนชานที่ยื่นออกไป แสงสีขาวนวลทาบทอทั่วร่างสูงของเขาเป็นเงารางๆ นิ้วแกร่งเลื่อนไถหน้าจอมือถืออย่างไม่ใส่ใจนัก ราวกับความคิดล่องลอยไปไกลกว่านั้น
หลังจากที่น้องจีน่าหลับสนิทสู่ห้วงนิทราไปแล้ว พริมาก็ตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนอนอย่างเงียบเชียบ ในมือมีผ้าห่มผืนหนาพับไว้อย่างเรียบร้อย เธอเดินตรงไปยังชานนอกบ้านที่ภาสกรนั่งอยู่
“คุณภาส นี่ผ้าห่มค่ะ ฉันเอามาเพิ่มให้ ดึกๆ มันจะหนาว” พริมาเอ่ยเสียงเรียบ พยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นไหว มือเรียวบางยื่นผ้าห่มให้เขาโดยไม่สบตา
“ไม่เอามุ้งแน่นะคุณ ถ้ายุงหาม อย่าหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ!” เธอเสริมด้วยน้ำเสียงที่แฝงความประชดประชันเล็กน้อย ภาสกรเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ รอยยิ้มบางๆ แต้มบนใบหน้าหล่อเหลา
“ครับ ผมอยู่ได้ สบายมากครับ” แววตาคมๆ ของเขากลับจ้องมองเรือนร่างของเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ราวกับกำลังสำรวจทุกรายละเอียด
แล้วในฉับพลัน เขาก็เอื้อมมือรั้งมือเรียวบางของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว พริมาเสียหลักเล็กน้อย ตามแรงดึงของเขาลงไปนั่งบนตักอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่วงแขนแกร่งจะโอบกระชับรอบเอวบางของเธอไว้แน่น
“คุณ!!!...” พริมาอุทานเสียงแผ่ว พยายามจะลุกขึ้น แต่ภาสกรกลับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
“อยู่นิ่งๆ ก่อนสิครับ... ผมแค่อยากอยู่ใกล้ๆ คุณ” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างใบหู ราวกับต้องมนต์สะกด
พริมาตัวแข็งทื่ออยู่บนตักของภาสกร หัวใจเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมานอกอก กลิ่นกายเฉพาะตัวของเขาอบอวลอยู่รอบกายเธอ สัมผัสจากวงแขนแกร่งที่โอบรอบเอวทำให้เธอรู้สึกวูบไหวอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
“คุณภาส ปล่อยฉันเถอะค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็น” พริมาพยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง แต่กลับสั่นเล็กน้อยอย่างไม่อาจควบคุมได้
“ไม่ปล่อยครับ คุณต้องให้ผมชื่นใจก่อน” ภาสกรเว้นคำพูด ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ ราวกับต้องการย้ำเตือนถึงความปรารถนา ใบหน้าของพริมาร้อนผ่าว เธอหลบสายตาของเขาอย่างรวดเร็ว
“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ เราเพิ่งรู้จักกันเอง”
“เราก็รู้จักกันมาสักพักแล้วนี่ครับ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย?” ภาสกรกระซิบเสียงพร่า เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนของเขาสัมผัสแก้มเนียนของเธอ พริมาเม้มปากแน่น พยายามรักษาระยะห่าง
“แต่คุณมีภรรยาแล้วนะคะ ฉันไม่อยากยุ่ง กลัวจะมีปัญหา”
“ไม่ต้องกังวลครับ ภรรยาของผมเค้าไม่ยุ่งเรื่องของผมหรอก” ภาสกรไม่ยอมลดละ เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบไล้แก้มของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสนุ่มนวลนั้นกลับทำให้ร่างกายของเธออ่อนระทวยอย่างน่าประหลาด
“อย่าค่ะ...” พริมาพยายามห้ามเสียงสั่น แต่สายตาของเธอกลับจ้องมองริมฝีปากหยักของเขาอย่างห้ามไม่อยู่
บรรยากาศรอบกายเงียบสงัด มีเพียงเสียงจิ้งหรีดที่ร้องระงม แสงจันทร์สาดส่องลงมาเป็นประกายสีเงิน ราวกับเป็นใจให้ความรู้สึกที่ซ่อนเร้นของทั้งสองค่อยๆ ปรากฏชัดเจนขึ้น
ภาสกรโน้มใบหน้าลงมาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งลมหายใจของพวกเขาแทบจะหลอมรวมกัน พริมาหลับตาลงอย่างห้ามไม่อยู่ เตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับสัมผัสที่เธอทั้งหวาดหวั่นและปรารถนาในเวลาเดียวกัน...
ริมฝีปากหยักของภาสกรแตะลงบนริมฝีปากอิ่มของพริมาอย่างแผ่วเบา สัมผัสแรกนั้นนุ่มนวล ราวกับกลีบดอกไม้ต้องสายลม แต่ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยแรงปรารถนาที่เก็บกักมานาน
พริมาสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่ได้ผลักไส ในความมืดสลัวใต้แสงจันทร์ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเริ่มเลือนรางลง เหลือเพียงแต่ความวูบไหวที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง
ภาสกรค่อยๆ เพิ่มแรงกดจูบ ริมฝีปากของเขาเริ่มรุกล้ำอย่างอ่อนโยน พริมาเผลอไผลคลายริมฝีปากออกเล็กน้อย เปิดโอกาสให้เขาแทรกปลายลิ้นอุ่นชื้นเข้ามาสำรวจภายในโพรงปากหวาน
รสจูบนั้นหวานล้ำและลุ่มลึก จนพริมาแทบจะลืมหายใจ มือเรียวค่อยๆ ยกขึ้นคล้องรอบคอของภาสกรอย่างไม่รู้ตัว ตอบสนองต่อรสจูบที่โหยหามานาน
อ้อมกอดของภาสกรกระชับแน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น ความร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ราวกับไฟที่กำลังลุกลามเสียงจูบดูดดื่มดังแผ่วเบา ท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืน แสงจันทร์ส่องสว่างเป็นพยานให้กับความปรารถนาที่ทั้งคู่ต่างโหยหา
มือแกร่งของภาสกรลูบไล้แผ่นหลังเนียนของพริมาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปสัมผัสส่วนโค้งเว้าที่ทำให้เขาแทบคลั่ง พริมาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไปอย่างไม่อาจควบคุมได้ เธอซบหน้าลงกับไหล่กว้างของเขา ปล่อยเสียงครางแผ่วเบาออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
บรรยากาศรอบกายอบอวลไปด้วยไอแห่งความปรารถนา จันทราบนฟ้าสูงส่องแสงนวล ละเลยต่อความเร่าร้อนที่กำลังก่อตัวขึ้นบนชานบ้านหลังเล็กแห่งนี้...
ลมหายใจของทั้งสองหอบกระชั้น ริมฝีปากยังคงแนบชิด สัมผัสเร่าร้อนและลุ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ มือของภาสกรลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังและบั้นเอวของพริมาอย่างชำนาญ ปลุกเร้าความรู้สึกให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
พริมาเองก็ตอบสนองต่อสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ มือเรียวเลื่อนลงมาสัมผัสแผ่นอกกว้างของเขา สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อภายใต้เสื้อยืดบางเบา
ในที่สุด ภาสกรก็ผละริมฝีปากออกเล็กน้อย ดวงตาคมกล้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาหวานเยิ้มของพริมา แววตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่ยากจะหักห้าม
โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ อีก ภาสกรค่อยๆ ช้อนร่างบางของพริมาขึ้นมาทาบทับบนร่างหนา หญิงสาวซบหน้าลงกับอกกว้างของเขา ปล่อยให้เขาพาไปยังทิศทางที่หัวใจทั้งสองปรารถนา แสงจันทร์สาดส่อง ทำให้เห็นเงารางๆ ของทั้งสองร่างที่แนบชิดกันบนแคร่ไม้
ก่อนที่กายหนาจะพลิกมาทาบทับร่างของเธอลงไป ริมฝีปากของเขายังคงมอบจูบที่เร่าร้อนและโหยหาให้กับเธออย่างต่อเนื่อง มือก็ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอย่างทะนุถนอม เสื้อผ้าชุดค่อยๆ ถูกปลดเปลื้องออกอย่างช้า ๆ เหลือเพียงผิวเนื้อที่สัมผัสกันโดยตรง ความร้อนจากกายของทั้งสองหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เสียงครางกระเส่าดังแผ่วเบาในความมืดมิด สัมผัสที่ลึกซึ้งและแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ นำพาไปสู่ห้วงแห่งความสุขสมที่ทั้งคู่โหยหามานาน
จนกระทั่งในที่สุด ทุกอย่างก็เงียบลง เหลือเพียงเสียงหอบหายใจถี่รัว และอ้อมกอดที่กระชับแน่น ความเหนื่อยอ่อนและความสุขสมคลอเคลียอยู่รอบกายของทั้งสอง...
ประตูบานไม้ค่อยๆ แง้มออก เผยช่องว่างให้ร่างบางได้เล็ดลอดเข้าไปอย่างแผ่วเบาไร้เสียง ชั่วอึดใจก่อนที่จะรีบปิดลงกลอนอย่างเงียบเชียบ ราวกับต้องการผนึกตัวเองไว้ภายใน ตัดขาดจากโลกภายนอก
แสงจันทร์นวลสาดส่องเข้ามาในห้องไม่ได้บดบังสายตาที่อ่อนโยน เมื่อหญิงสาวทอดมองไปยังร่างเล็กๆ ที่นอนหลับใหลอย่างสนิท ภาพของลูกน้อยในห้วงนิทรานั้นช่างสงบเงียบ
พริมาพยายามอย่างยิ่งที่จะสลัดภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ออกไปจากความคิด ราวกับมันเป็นเพียงฝันร้ายที่เธอปรารถนาจะลืมเลือน ร่างบางทิ้งกายเบาหวิวลงข้างลูกน้อย สัมผัสไออุ่นจากร่างเล็กๆ นั้นช่วยปลอบประโลมความรู้สึกผิดในใจเมื่อครู่
เวลาผ่านไปนานดวงตาคู่สวยก็ยังคงเบิกโพลง ทอดมองไปยังม่านมุ้งสีขาวบางๆ ความเงียบงันที่ปกคลุมอยู่ภายในกลับก้องกังวานด้วยเสียงแห่งความสับสนในความคิดของเธอ
พริมาพลิกตัวตะแคงข้าง ก่อนจะช้อนตามองใบหน้าของลูกน้อยที่หลับพริ้มอย่างไม่รู้เรื่องราว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ความละอายใจ และความสับสนว้าวุ่นยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึง ไม่ยอมจางหายไปง่าย ๆ ...เธอหวังเพียงว่าแสงอรุณในวันพรุ่งนี้ จะนำพาความกระจ่างและความสงบมาสู่จิตใจที่กำลังสับสนนี้ให้จางคลาย
ดวงตาของพริมาทอดมองภาพนั้นด้วยความรัก ความโล่งใจที่ลูกน้อยหลับสบาย พริมาสูดลมหายใจลึกๆ ราวกับต้องการซึมซับภาพลูกน้อยตรงหน้าไว้ในทุกอณูของหัวใจ
รัตติกาลในชนบทสงบเงียบ ราตรีถูกขับกล่อมด้วยเสียงจิ้งหรีดแว่วหวาน พริมานอนลืมตา จิตใจยังคงว้าวุ่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น สักพักโทรศัพท์ข้างกายของเธอก็สั่นขึ้นเล็กน้อยพอรู้สึกได้ ก่อนจะตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาดูแล้วเห็นเป็นภาสกรเองที่ส่งสติกเกอร์ฝันดีมาให้..ก่อนที่หญิงสาวจะโต้ตอบกลับไป
ไม่นานนักมือเรียวบางก็ปลดกลอนประตูออกอย่างแผ่วเบา พร้อมกับเงาของร่างสูงที่เคลื่อนไหวในความมืดมิด ภาสกรตามเธอเข้ามาในห้อง ก่อนที่หญิงสาวจะแย้มชายมุ้งออก เพื่อให้เขาสอดกายเข้าไป ก่อนที่ร่างบางจะตามเข้ามาแนบชิดข้างกายหนา หญิงสาวสะดุ้งน้อยๆ ที่ถูกกอดรัด แต่จำต้องนิ่งเงียบ เพราะกลัวลูกน้อยจะตื่น
“ขอบคุณนะครับ...ข้างนอกยุงเยอะจริง ๆ” เสียงกระซิบแผ่วเบาร้อนระอุข้าง ๆ ใบหูของพริมา ปลุกเร้าความรู้สึกที่หญิงสาวพยายามเก็บกดเอาไว้ ก่อนริมฝีปากอิ่มจะเผลอหลุดปากเอ่ยออกไป
“ก็ฉันจะกางมุ้งให้คุณ คุณก็ไม่เอา..แล้วเป็นไงล่ะ” เธอตอบกลับด้วยกระซิบแผ่วเบาเช่นกัน ทว่าในน้ำเสียงนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความขุ่นเคืองระคนหวั่นไหว
“ผมขอโทษ..ที่ไม่เชื่อฟังคุณตั้งแต่แรก...” สิ้นเสียงออดอ้อน มือแกร่งที่วางทาบทามบนต้นแขนเปลือยเปล่าของเธอก็ค่อยๆ ลูบไล้ขึ้นลงอย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นราวกับเปลวไฟลามเลีย ผิวเนื้อเธอร้อนวูบวาบ พริมาพยายามขยับหนี แต่เขากลับรุกคืบเข้ามาใกล้จนแผ่นหลังเธอแนบสนิทกับอกกว้าง
“อย่าค่ะ คุณภาส!!! ฉันจะไม่ใจอ่อนแบบเมื่อกี้นี้อีกแล้วนะ...คุณหยุดเลย!!!” เธอเตือนเสียงสั่น แม้ความตั้งใจจะหนักแน่น แต่ร่างกายกลับทรยศ
“อย่าดิ้นสิครับ อยากให้ลูกคุณตื่นหรือไง” ภาสกรกระซิบเตือนกลับ น้ำเสียงทุ้มนุ่มนั้นกลับแฝงไปด้วยอำนาจที่ทำให้เธอชะงัก
ริมฝีปากร้อนผ่าวเริ่มไซร้ซอกคอระหง สูดดมกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเธออย่างยั่วยวน พริมาพยายามห้ามปรามด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“คุณภาส!!!!... อย่าค่ะ... จีน่าหลับอยู่...”
“โถ่วว...ที่รัก!!! น้องจีน่าหลับสนิทไปแล้ว...อย่าดื้อกับผมเลยนะ...เดี๋ยวกลับไป ผมสัญญาว่า..จะหาบ้านให้คุณอยู่ ไม่ให้คุณลำบากเลย นะครับที่รัก ให้ผมชื่นใจอีกครั้งนะ..” คำพูดหวานหูราวกับน้ำผึ้งเคลือบยาพิษ สอดคล้องกับสัมผัสที่เร้าร้อนจนแทบจะแผดเผา ในความเงียบงันยามค่ำคืน ความเหงาที่กัดกินหัวใจ ความสับสนในความรู้สึก และแรงปรารถนาที่ถูกปลุกเร้า ค่อยๆ คลายความแข็งกระด้างในตัวพริมาทีละน้อย เธอต่อต้านเขาได้ไม่นาน...
สุดท้าย ภายใต้มุ้งแคบๆ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกายของทั้งสอง บวกกับความมืดมิดที่ปกคลุมทุกสิ่ง พริมาก็ยอมจำนน ปล่อยให้ภาสกรมอบจุมพิตเร่าร้อนและสัมผัสลึกซึ้งให้เธออีกครั้ง ริมฝีปากของเขาบดเบียดกับเธออย่างหนักหน่วง มือแกร่งลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังและบั้นเอวอย่างชำนาญ ราวกับโลกทั้งใบในเวลานี้เหลือเพียงแค่เธอกับเขา... และความปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างไม่อาจต้านทาน
ตอนที่ 24 สายใยรัก NCจากนั้น หญิงสาวก็เริ่มเคลื่อนไหว บดเบียดสะโพกขึ้นลงอย่างนุ่มนวล ท่วงท่าที่เธอควบคุมเองนี้ สร้างความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ไมค์ได้แต่นอนมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังปลดปล่อยความปรารถนาอยู่เหนือร่างของเขา ทุกการขยับเคลื่อนไหวของเธอ ราวกับเป็นการร่ายรำที่แสนเย้ายวน ปลุกเร้าอารมณ์ให้พลุ่งพล่านจนแทบคลั่ง เสียงครางหวานที่ลอดออกมาจากริมฝีปากบาง ยิ่งเติมเชื้อเพลิงให้กับความปรารถนาในตัวของทั้งสองให้ลุกโชนมากยิ่งขึ้นพริมาควบคุมจังหวะการเคลื่อนไหวของสะโพกอย่างเชี่ยวชาญ บดเบียดขึ้นลง เนิบนาบแต่หนักแน่น ราวกับกำลังบรรเลงบทเพลงแห่งความปรารถนา ไมค์ได้แต่นอนมองใบหน้าสวยหวานที่โน้มต่ำลงมาใกล้ ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายแห่งความสุขสม เสียงครางหวานที่ลอดออกมาจากริมฝีปากบาง ยิ่งกระตุ้นเร้าอารมณ์ในกายของเขาให้ทวีความรุนแรงขึ้นความรู้สึกคับแน่นและเสียดสีภายในร่างของพริมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหว ราวกับมีคลื่นความสุขซัดสาดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเธอเริ่มสั่นระริกน้อยๆ ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อย หายใจถี่กระชั้นไมค์ยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นหลังบอบบางของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสอุ่
ตอนที่ 23 อรุณสวาท NCเช้าวันรุ่งขึ้น แสงอรุณรำไรปลุกให้พริมาตื่นขึ้นจากภวังค์ หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงอ้อมแขนอบอุ่นที่โอบกอดร่างเธอไว้จากทางด้านหลัง ความรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจแผ่ซ่านไปทั่วร่าง พริมานอนนิ่ง ๆ ซึมซับความรู้สึกนี้ไว้ ก่อนจะค่อยๆ หันกายไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่นอนอยู่เคียงข้างไมค์เองก็ตื่นขึ้นมาในจังหวะเดียวกัน แววตาของเขามองเธอด้วยความอ่อนโยนและรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก“อรุณสวัสดิ์ครับ... คุณพริม” ไมค์เอ่ยเสียงพร่าเล็กน้อยจากความง่วงงุน พร้อมกับกระชับอ้อมแขนที่โอบกอดเธอไว้แน่นขึ้น“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” พริมาตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่สดใสอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมานานแสนนาน หัวใจของเธอเบิกบานราวกับดอกไม้แรกแย้ม แสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านมาแตะใบหน้าของเขา ยิ่งทำให้เธอมองเขาอย่างพิจารณา“คุณพริมมีชื่อเล่นไหมครับ?” ไมค์ถามพลางใช้นิ้วเกลี่ยปอยผมที่ปรกใบหน้าหวานของเธออย่างเบามือ เมื่อเห็นสีหน้าลังเลของหญิงสาว เขาก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกนิด ก่อนจะกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม“เราใกล้ชิดกันขนาดนี้แล้ว แต่ผมยังไม่รู้ชื่อเล่นของคุณเลย” พริมายิ้มบางๆ แก้มแดงระเรื่อเล็กน้
ตอนที่ 22 คำว่ารัก..จะเยียวยาทุกสิ่ง NCความคิดหนึ่งวูบเข้ามาในสมองอันพร่าเลือน... หรือว่าเธอจะถูกไอ้เอกมันยัดยาปลุกเซ็กซ์กันแน่! สารกระตุ้นชนิดใดกันที่ปลุกเร้าความต้องการทางเพศในตัวเธอให้รุนแรงถึงเพียงนี้ ความร้อนรุ่มที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง หรือว่าลึกๆ แล้ว เธอเองก็ปรารถนาสัมผัสเช่นนี้มาโดยตลอด แต่ไม่มีใครสามารถตอบสนองให้เธอได้เท่านี้มาก่อนโชคดีที่พวกมันพาเธอไปไม่ถึงรังของพวกมัน... ไม่อย่างนั้น ด้วยความต้องการที่ร่างกายโหยหาอย่างบ้าคลั่งนี้ เธอคงได้ตกเป็นเหยื่อของพวกมันอย่างสมยอมเป็นแน่... แค่คิดก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวและขยะแขยงตัวเองอย่างประหลาดการเคลื่อนไหวของไมค์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง บั้นเอวแกร่งบดเบียด หมุนวนลึกเข้าไปในโพรงสวาทของเธอ ราวกับคลื่นอารมณ์ลูกใหญ่ที่ซัดสาดเข้ามาโถมทับ ความเสียวสะท้านแล่นริ้วไปทั่วทุกอณูของร่างกาย จนพริมาต้องเผลอเกร็งหน้าท้องน้อยๆ แอ่นสะโพกขึ้นรับจังหวะการนำพาของเขาอย่างไม่รู้ตัว เสียงหวานครางกระเส่าแผ่วเบา หลุดลอดออกมาจากริมฝีปากที่เผยอขึ้นเล็กน้อย ราวกับมนต์สะกดที่ยากจะถอน ”โอ้ววว โอ๊ยยย........ไมค์ขา....อื้มมมม.ซี๊ดดดดดด!!!!.......โอ๊ยยย ๆ ..โ
ตอนที่ 21 จากเหยื่อ... สู่โหมดอ้อนวอน NCมือทั้งสองของพริมาลูบไล้เส้นผมดำขลับของไมค์อย่างแผ่วเบา ศีรษะเล็กๆ แอ่นขึ้นเล็กน้อยอย่างลืมตัวเมื่อความเสียวซ่านที่ได้รับนั้นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ส่วนมือแกร่งของไมค์ก็เคลื่อนลงต่ำ ลูบไล้จากต้นขาด้านในของเธออย่างเชื่องช้า ไล่สูงขึ้นมาทีละน้อย จนพริมารู้สึกถึงการรุกล้ำสู่จุดสำคัญ เธอบีบเรียวขาทั้งสองเข้าหากันตามสัญชาตญาณ แต่ไมค์กลับเลื่อนขาข้างหนึ่งมากดทาบทับขาของเธอไว้มั่น แล้วใช้ฝ่ามืออุ่นวางทาบทับลงบนเนินเนื้อกลางลำตัวของเธออย่างแผ่วเบา“แต่สิ่งที่ฉันโดนมา... มันก็สมควรแล้วล่ะคะ?” พริมาถามเสียงแผ่วเบา น้ำตาคลอหน่วย ความรู้สึกเจ็บปวดและความอับอายยังคงกัดกินหัวใจเธอฝ่ามืออุ่นร้อนของไมค์โค้งรับกับความนูนหยุ่นของเนินสาว ราวกับกำลังสัมผัสความลับที่อ่อนหวานที่สุด เขารู้สึกถึงความอวบอิ่ม นูนสูง จนฝ่ามือของเขาแทบจะโอบไว้ไม่มิด ยิ่งสัมผัส ความปรารถนาก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ เขาจึงรั้งเรียวขาของพริมาให้แยกออกจากกันเล็กน้อย ก่อนจะส่งนิ้วกลางแตะลงตรงรอยแยกกลางเนินเนื้ออ่อนนุ่มนั้นอย่างแผ่วเบา“ไม่ครับ... คุณไม่สมควรถูกกระทำเช่นนั้น” ไมค์ตอบหนักแน่น
ตอนที่ 20 ปลอบใจด้วยไฟรัก NCหลังจากได้ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชื้นออก ทั้งสองคนก็รู้สึกสบายตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พริมาเดินกลับมานั่งคุยกับไมค์บนเตียงนุ่มในห้องเล็กๆ ของเธอ เขาอยู่ในเสื้อยืดตัวโคร่งลายการ์ตูนที่ดูยังไงก็เล็กกว่าตัวไปหน่อย แถมกางเกงขาสั้นสีหวานของเธอก็รั้งเป้าจนเห็นได้ชัดว่าคับติ้ว ส่วนปลายขาก็เต่อขึ้นมาจนกลายเป็นกางเกงสามส่วนสุดฮิตไปเสียอย่างนั้นทันทีที่พริมาเห็นสภาพของไมค์ เธอก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เสียงใสๆ หัวเราะร่วนออกมาจนแก้มแดงปลั่ง“คริๆๆ ไมค์!!!” เธอถามพลางเอามือป้องปาก แต่เสียงหัวเราะก็ยังลอดออกมาอยู่ดี“ขำอะไรครับ ก็ชุดคุณมันมีแต่แบบนี้ทั้งนั้นเลยอะ”“ตอนคุณอยู่ในชุดของฉัน ก็น่ารักไปอีกแบบนะคะ..คริๆๆ แบบว่า...สาว ๆ ยังอายเลยอะคริๆๆ อื้มม น่ารักแบบตะโกน! แบบว่า... สาวๆ ยังต้องหลบอะ ขาวโอโม่เบอร์สิบไปเลยปะเนี่ย? คริๆๆ?” เธอเอ่ยแซวเป็นเรื่องขบขันไมค์ก้มลงมองตัวเองบ้าง แล้วก็อดขำตามไม่ได้“โถ่ววว!!!! อย่าเพิ่งแซวซิครับ” เขาว่าพลางทำท่าทางเบ่งกล้ามแขนที่อยู่ภายใต้เสื้อแขนสั้นตัวจิ๋ว“ผมว่า ความจริงแล้วผมไม่ควรใส่อะไรเลยจะดีกว่านะครับ กลัวชุดคุณมันจะขาดน่ะ
ตอนที่ 19 หยาดน้ำตา...และไออุ่นพริมาเดินเปลือยเปล่าไปยังห้องน้ำ แสงไฟนวลภายในห้องขับให้ผิวขาวเนียนของเธอดูเปล่งปลั่ง แม้จะยังคงปรากฏร่องรอยแดงจางๆ เป็นทางยาวบนผิวเนื้อบางส่วน ราวกับภาพวาดที่ถูกแต้มแต่งด้วยสีแดงเรื่ออันน่าเศร้าหญิงสาวรีบคว้าผ้าขนหนูเนื้อนุ่มสะอาดมาพันรอบกายบอบช้ำของตนเองเอาไว้ ส่วนอีกผืนคล้องไว้ที่ไหล่ เตรียมนำไปเช็ดตัวให้ชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอ ก่อนจะเดินไปยังตู้ยาเพื่อนำกล่องปฐมพยาบาลออกไป เธอตั้งใจว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดในค่ำคืนนี้... ค่ำคืนที่โชคชะตานำพาให้เธอได้มาใกล้ชิดกับเขาอีกครั้งร่างอรชรของพริมาเคลื่อนกายออกมาจากห้องด้านใน พร้อมผ้าขนหนูสองผืนและกล่องยาในมือ ทว่าภาพที่ปรากฏแก่สายตาของไมค์นั้น ราวกับสะกดทุกการเคลื่อนไหว หัวใจของเขาเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นเสื้อผ้าที่เปียกชื้นแนบเนื้อเมื่อครู่ได้เลือนหายไป เหลือเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่โอบรัดเรือนกายบอบบางไว้หลวมๆ อีกผืนคล้องอยู่บนไหล่มน หยาดน้ำยังคงเกาะพราวระยิบระยับบนผิวขาวเนียนละเอียดอ่อนที่เผยออกมาในแต่ละย่างก้าว ไม่ว่าจะเป็นโคนขาอ่อนที่ซ่อนเร้น หรือต้นแขนกลมกลึงขาวผ่อง ทุกสัดส่วนล้วนกระตุ้นจินตนาการให้







