Home / แฟนตาซี / ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค / ตอนที่ 5 ไม่ใช่ม่วยคนเดิมแล้ว

Share

ตอนที่ 5 ไม่ใช่ม่วยคนเดิมแล้ว

last update Last Updated: 2025-12-09 19:45:28

มาลีเลือกเสื้อผ้าที่มีอยู่มากขึ้นมาสวม เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วเตรียมจะขึ้นไปบนเรือนใหญ่เพื่อเอาอาหารออกไปส่งน้องสามีที่ไปเลี้ยงควายก่อนแล้ว ป่านนี้พวกเขาคงนอนรอแล้วกระมัง เพราะเมื่อคืนก็ไปดูหมอลำกันจนดึกดื่นเหมือนกัน

            “เธอจะไปไหน” เคนเอ่ยถามภรรยา

            “ไปนาค่ะ” ถึงจะยังมึนศีรษะอยู่บ้างแต่ก็พอทนได้ ไปถึงนาแล้วค่อยนอนพักก็แล้วกัน เพราะถ้าเธอไม่ไปพวกน้อง ๆ ของเขาก็คงไม่มีข้าวกิน

            “เดี๋ยวพี่ไปด้วย” ปกติถ้าเธอเมาค้างก็อย่าหวังว่าจะมีใครได้กินข้าวจากเธอ

            “หนูไปด้วยค่ะ”

            “ผมไปด้วยครับ”

            ลูกทั้งสองปาดน้ำตาแล้วขอตามไปด้วย

            “พี่เคนเดินกลับไหวเหรอคะ” ความจำเดิมบอกเธอว่า เขาเดินไปนาและหอบไปตลอดทาง และต้องนั่งพักหลายครั้งกว่าจะถึงนา

            “วันนี้พี่จะเอารถอีแต๊กไปก็แล้วกัน” ปกติถ้าไม่มีอะไรให้บรรทุกของหนัก ๆ กำพลจะไม่ยอมให้ลูกคนไหนใช้รถอีแต๊กเด็ดขาด ช่วงนี้มีแต่เลี้ยงควายอย่างเดียวยิ่งแตะไม่ได้เลย แต่ครั้งนี้เคนจำเป็นต้องใช้มัน

            “รถอีแต๊กเหรอคะ” มาลียืนคิดถึงรูปร่างหน้าตาของรถอีแต๊กอยู่ครู่หนึ่ง

            อ้อ รถที่เอารถไถนาเดินตามมาต่อพ่วงเข้ากับสิ่งที่คล้ายกับเกวียนไม้นั่นเอง แต่ด้านข้างจะเตี้ยกว่าเกวียนมาก

            “อือ แต่เธอต้องกินข้าวก่อน”

            มาลีมองถ้วยข้าวต้มที่อยู่ในมือเขาแล้วก็รู้สึกผะอืดผะอม แต่เธอจะลองซดน้ำข้าวต้มร้อน ๆ ดู เผื่ออาการจะดีขึ้น  อีกอย่างเธอจะได้กินยาที่หมอให้มาด้วย แต่ตอนนี้อาการเธอก็ดีขึ้นมากแล้ว ร่างกายผู้หญิงคนนี้แข็งแรงจริง ๆ

            กินข้าวเสร็จมาลีเดินไปร้านค้าในหมู่บ้านกับลูก ๆ เพื่อซื้อน้ำแข็งหลอดใส่กระติกออกไปนาด้วย เพราะช่วงเดือนสามถึงเดือนห้าอากาศที่นี่จะร้อนมาก

พอเจ้าของร้านขายของชำเห็นหน้ามาลีก็รีบทักขึ้นทันที “ฟื้นแล้วเหรอม่วย” ข่าวที่ว่าเธอโดนลูกหลงจนสลบเมื่อคืนชาวบ้านลือกันให้แซด รวมถึงที่เธอควงสกลไปดูหมอลำด้วย พอเมาได้ที่หน่อยความกล้าของเธอคงมากตามไปด้วย แม้แต่ผัวเธอก็ไม่สนใจ

“ค่ะป้าศรี”

“วันนี้เอากี่เป๊กดี” สมศรีถามพลางหยิบขวดเหล้าขาวที่วางอยู่บนโต๊ะมาเตรียมพร้อม มืออีกข้างคว้าแก้วใบเล็กสำหรับตวงเหล้าขายมาเคียงข้าง

มาลียิ้มแหยให้แล้วว่าไปตามน้ำ แค่คิดถึงเหล้าขาวก็รู้สึกแสบคอรอแล้ว “วันนี้ไม่เอาดีกว่าค่ะ ฉันอยากพักตับมันบ้างน่ะ เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย”

“แล้วบุหรี่ล่ะ เอากี่ตัวดี”

“ไม่เหมือนกันค่ะ วันนี้จะมาซื้อน้ำแข็งและก็ขนมให้เด็ก ๆ ก็พอค่ะ”

สมศรีทำหน้างงหนักขึ้นและมองหน้ามาลีอย่างไม่เชื่อสายตา เหล้าก็ไม่ บุหรี่ก็ไม่ เป็นไปได้อย่างไรที่วันนี้เธอจะไม่ได้เงินค่าเหล้าค่ายาจากลูกค้าประจำคนนี้

สมศรีตักน้ำแข็งใส่กระติกสองใบให้มาลีจนเต็มและนำไปวางไว้ข้างโต๊ะคิดเงิน

“อุ่นกับเอื้อจะเอาขนมอะไรก็เลือกเอาเลยจ้ะ” มาลีบอกลูกเมื่อเห็นพวกเขายืนเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนเกรงใจ

“แม่พูดจริงเหรอคะ” ปกติแม่ไม่เคยซื้อขนมให้กินเลย นานครั้งเธอถึงจะซื้อให้สักห่อ

“จริงสิจ๊ะ” ถึงในกระเป๋าจะเหลือเงินไม่มาก แต่ค่อยคิดหาทางทำกินใหม่ก็แล้วกัน ถ้าเธอหายดีอาจจะพอไปรับจ้างได้ คนขยันอย่างเธอไม่มีทางอยู่เฉยหรอก ยิ่งร่างนี้ค่อนข้างจะอวบเกินไปสำหรับเธอ เพราะฉะนั้นเธอจะต้องรีดน้ำหนักออกสักสองสามกิโลกรัม จะได้สวยใสตามที่เธอต้องการ

“พี่เอื้อมาเลือกขนมช่วยหนูหน่อยค่ะ”

เอื้อเดินไปหาน้อง ทั้งสองตื่นเต้นมากที่ได้เลือกซื้อขนมคนละหลายห่อเป็นครั้งแรก

เสร็จแล้วเด็ก ๆ ก็เอาขนมมาวางบนโต๊ะคิดเงิน มาลีหยิบนมถั่วเหลืองไปฝากสามีด้วยสองกล่อง

“ทั้งหมดสี่สิบบาทจ้ะ” สมศรีบอกราคาสินค้าทั้งหมด

“นี่ค่ะ” มาลียื่นธนบัตรใบละห้าสิบบาทให้เจ้าของร้าน

“ไม่เป๊กจริงเหรอ” สมศรียังรบเร้าต่อ

“ไม่ล่ะค่ะ” มาลีพูดพร้อมส่ายหน้าให้

“บุหรี่ก็ไม่เหรอ”

“ค่ะ” มาลีตอบเสียงหนักแน่น

 “ม่วยจะทนได้เหรอ”

“ไม่มีอะไรต้องทนอีกแล้วค่ะ” เธอจะต้องลบภาพไม่ดีเก่า ๆ ของม่วยคนเดิมให้ได้

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” สมศรีว่าอย่างเสียดาย วันนี้เธอขาดรายได้ส่วนนั้นจากมาลีไปตั้งยี่สิบบาท

         ไม่ใช่แค่สมศรีเท่านั้นที่แปลกใจ ลูกทั้งสองก็แปลกใจไปด้วยที่วันนี้แม่ไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่ ปกติทุกเช้าพวกเขาจะได้กลิ่นเหล้าจากตัวแม่ตลอด ไม่ใช่แค่วันที่มีงานบุญอย่างเมื่อวานนี้ แต่ก็ดีแล้ว พวกเขาไม่ชอบกลิ่นเหม็นของมันเลยสักนิด ไม่รู้ว่าแม่กินเข้าไปได้อย่างไร ขนาดพ่อเป็นผู้ชายพ่อยังไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่

            มาลีกับลูกเดินออกมายังไม่พ้นร้านดีก็มีเสียงพูดขึ้นตามหลังมาให้ได้ยิน มาลีจึงเดินช้าลง

            “แกว่าเขาสองคนได้กันยังวะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น

            “ใคร?”

            “ก็นังม่วยกับไอ้กลไง เมื่อคืนมั่วกันอยู่หน้าเวทีหมอลำ แกไม่เห็นหรือไง”

            “เห็นสิฉันไม่ได้ตาบอด…ก็อาจจะ เพราะเห็นเขาลือกันว่าแอบคุยกันตั้งแต่ผัวไปเมืองนอกแล้วนี่ พอผัวกลับมาก็ยังคุยกันเหมือนเดิม หน้าหนาสุด ๆ” ผู้หญิงอีกคนกล่าวขึ้น

            “ถ้าฉันเป็นไอ้เคนนะฉันเลิกไปนานแล้วว่ะ ไม่รู้มันทนเมียสำส่อนแบบนี้ได้ยังไง”

            มาลีหยุดเดินแล้วหันหลังกลับมามองหน้าคนที่นินทาเธอตาเขม็ง ยายรัตนากับยายอรอนงค์นี่เอง มาลีกำลังจะเดินไปหาทั้งคู่แต่พวกเขาหลบสายตาแล้วรีบเดินเข้าไปในร้านค้าเสียก่อน

            มาลีส่ายหัวน้อย ๆ ก่อนจะพาลูกเดินกลับบ้าน ไม่ว่าใครก็ชอบเรื่องของชาวบ้านทั้งนั้น ยิ่งเป็นเรื่องคาว ๆ คนยิ่งชอบ และที่ผ่านมาเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาลีทำให้คนอยากนินทาจริง ๆ

            มาถึงบ้านเธอก็เห็นสามีนั่งหอบแฮ่ก ๆ อยู่หน้ารถอีแต๊ก โดยมีแม่สามียืนให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ

            “พี่เคนเป็นอะไรเหรอคะ” ดูท่าทางเขาเหมือนคนหมดแรง

            “หมุนรถไม่ติด” เขาบอกสียงแผ่ว

            ตาย! แล้วแบบนี้จะขับรถถึงนาไหมเนี่ย ขนาดสตาร์ทรถก็ยังไม่ติด

            “ไม่ให้แม่ช่วยหมุนล่ะคะ” พูดพร้อมเหล่ตามองหน้าแม่สามีอย่างไม่เกรงกลัว

            “นี่แก” ฟั่นทำเสียงเขียวใส่ลูกสะใภ้

            “ฉันล้อเล่นค่ะแม่ ทำจริงจังไปได้ มา ให้ฉันช่วยดีกว่าค่ะ” เธอวางกระติกน้ำแข็งไว้บนรถ แล้วเดินไปหยิบมือหมุนกับสามีมาถือไว้

            “ม่วยทำไม่ไหวหรอกมันหนัก” เธอไม่เคยทำสักทีจะหมุนรถติดได้อย่างไร

            “ไม่ลองก็ไม่รู้ค่ะ” เธอก็ลูกชาวนาคนหนึ่งเหมือนกัน อีกอย่างเธอก็เคยไถนาด้วยรถไถนาเดินตามมาก่อน ขับรถอีแต๋นก็ยังได้ทำไมเธอจะหมุนไม่ได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 20 ปฏิเสธสิ่งที่ชอบ

    “พี่เคนคิดว่าดีไหมคะ พี่กับฉันจะได้เป็นอิสระเสียที และถ้าพี่อยากมีคนใหม่ก็สามารถมีได้เลย” มาลีคิดว่าวิธีนี้คงดีที่สุดแล้ว นานครั้งเธอค่อยกลับมาเยี่ยมเด็ก ๆ ก็ได้ ความห่างจะทำให้เด็กทั้งสองเข้มแข็งและยอมรับมันได้โดยปริยาย “ก็ดี” เคนตอบแบบขอไปที จะให้เขาพูดอะไรได้ล่ะก็ในเมื่อเธอต้องการอย่างนั้น อีกอย่างเขาเองที่เป็นฝ่ายอยากเลิกกับเธอ “ค่ะ ถ้าฉันไม่อยู่แล้วให้อาสามาช่วยดูเด็ก ๆ ก็ได้นะคะ” “อือ…นอนเถอะพี่ง่วงแล้ว” เขาไม่อยากฟังเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว เหมือนทุกอย่างมันกำลังจะไปได้ดี แต่มันกลับไม่ใช่ เคนนอนหันหน้าเข้าฝาผนัง อยู่ดี ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดวันที่เขากับเธอต้องจากกันจริง ๆ ก็กำลังจะมาถึง มาลีอาจจะวางแผนไปกรุงเทพฯ พร้อมกับสกล ถ้าทั้งสองไปอยู่กรุงเทพฯ แล้ว ถึงชาวบ้านนินทาพวกเขาก็คงไม่ได้ยิน และคงไม่รู้สึกอะไร มีแต่เขาที่ต้องทนฟังคำดูหมิ่นดูแคลนจากชาวบ้านที่ปล่อยให้เมียหนีตามผู้ชายไป “วันนี้ไม่ไปช่วยเคนมันทำบ้านเหรอเริง” ฟั่นถามลูกเมื่อสายแล้วสำเริงยังไม่ได้ไปไหน ปกติสำเริงจะออกไปบ้านพี่ชายแต่เช้า

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 19 วางแผนไว้แล้ว

    เช้าวันต่อมาเคนจึงได้ทำความเข้าใจเรื่องสร้างบ้านกับน้องชายใหม่ โดยต้องจ้างช่างมาทำบ้านให้ เพราะจากบ้านขนาดแปดสิบตารางเมตร มาลีจะสร้างบ้านปูนชั้นเดียวขนาดห้าสิบตารางวา ที่มีสองห้องนอน หนึ่งห้องครัว หนึ่งห้องนั่งเล่น หนึ่งห้องน้ำ และมีระเบียงหน้าบ้านด้วย งบประมาณไม่เกินสองแสนบาท แต่กระนั้นก็ถือว่าได้บ้านหลังใหญ่และหรูมากแล้ว สำเริงต่างแปลกใจที่อยู่ดี ๆ พี่ชายก็มีเงินเก็บมากมายจนสามารถสร้างบ้านหลังใหญ่ได้ อดใจไม่ไหวจึงเอ่ยถาม “พี่เคนเอาเงินมาจากไหนครับ” “เงินที่ฉันไปทำงานต่างประเทศไง” “ยังเหลืออีกเหรอครับ” เขาถามเสียงสูง กลับมาจากเมืองนอกสองปีแล้วเพิ่งจะพูดถึงเงินเก็บ ความรู้สึกช้าไปไหม “อื้อ ม่วยอำฉันเล่นว่าเงินหมดแล้ว ที่จริงพี่สะใภ้แกเก็บเงินไว้ใช้ในยามจำเป็นมากกว่า” ภรรยาบอกเขาเช่นนั้น และเขาก็พร้อมจะเชื่อหมดใจ หากไม่เห็นกับตาเขาก็อาจจะไขว้เขวบ้าง เพราะฉะนั้นที่ผ่านมาหากเธอประหยัดเงินจนทำให้เขาผอม เขาก็พร้อมจะให้อภัย “พี่เคนพูดเรื่องจริงเหรอครับ” สำเริงยังไม่อยากเชื่อนัก “จริงสิ แกเห็นฉันเป็นเพื่อนเล่นหร

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 18 กินข้าวไม่ลง

    “ทั้งผัวหลวงผัวน้อยช่วยกันทำมาหากินดีเนอะ”“นังม่วยมันทำบุญด้วยอะไรวะช่างโชคดีจริง ๆ” คนกลุ่มนั้นยังนินทาไม่หยุด ก่อนที่เคนจะเคลื่อนรถเข็นเข้าไปหาพวกเขา“ม่วยขยันจังเลยนะ รู้จักทำมาหากินช่วยผัว” เสียงหนึ่งแสร้งเอ่ยชม ทั้งที่ก่อนหน้ายังนินทาเธออยู่เลย แต่มาลีก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังพูดประชด“ค่ะ ไม่อยากอยู่เฉย ๆ แล้วนินทาชาวบ้านไปวัน ๆ เหมือนใครบางคนน่ะค่ะ” เป็นน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ทำไมคนที่ยืนฟังอยู่ตรงนั้นถึงได้รู้สึกเจ็บจิ๊ดเข้าไปถึงในทรวง ป้า ๆ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นสามสี่คนได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่ก“แต่ก็ไม่ได้ไปกับผัวตัวเอง” ป้านีพูดขึ้นเหมือนรู้ดีเคนและลูกทั้งสองต่างมองหน้ามาลีเมื่อได้ยินป้านีพูดแบบนั้น “แม่ไปกับใครเหรอครับ”“ก็ไปกับ…”“ถ้าไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จป้าก็อย่าพูดส่งเดชเลยค่ะ ฉันไม่อยากให้ลูกได้ยินเรื่องที่ไม่เป็นความจริง” ป้าคนนั้นชะงักปากเมื่อมาลีพูดสวนขึ้นก่อน“ก็มีคนเขาเห็น…”“เห็นอะไรคะ ถ้าสิ่งที่ป้าพูดมาไม่เป็นความจริงฉันจะไหมปากป้านะคะ” ป้านียืนอ้าปากหวอ “พูดต่อสิคะว่าคนเขาเห็นอะไร” มาลียืนจ้องหน้าป้านีไม่วางตาแล้วร่ายต่อ “ที่จริงการนินทาชาวบ้านก็มีส่วนดีนะคะ เพรา

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 17 เร้าหรือ

    ตลอดทางที่เดินกลับบ้านด้วยกันสกลพยายามหว่านล้อมให้มาลีใจอ่อนอีกทั้งยังเข้ามาเดินใกล้ ๆ และมาช่วยเข็นรถจนมาลีรู้สึกอึดอัด“อากลอย่าทำอย่างนี้เลย มันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ” “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พี่สะใภ้ถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ หรือว่าพี่สะใภ้ความจำเสื่อม” สกลยังไม่ละความพยายาม ทำไมพอเธอตื่นขึ้นมาแล้วคำพูดคำจาถึงได้เปลี่ยนไป “ถ้าฉันความจำเสื่อมฉันจะจำใครต่อใครได้เหรอคะ” มันก็จริง… “แต่ทำไมพี่สะใภ้ถึงตัดความสัมพันธ์กับฉันได้ง่ายดายนัก ทั้งที่เราก็คบกันมาตั้งหลายปี” “ฉันไม่อยากให้ใครมองว่าสามีฉันโง่อีกต่อไปแล้วค่ะ อีกอย่างฉันก็ไม่อยากให้ลูกโดนเพื่อนที่โรงเรียนล้อเลียนด้วยค่ะ ฉันสงสารพวกเขา” ความทรงจำเดิมบอกกับเธอว่าเอื้อที่เพิ่งเรียนจบชั้นปอหนึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนที่เธอจะมาอยู่ในร่างนี้เขาโดนเพื่อนล้อว่าเขามีพ่อใหม่ จนต้องร้องไห้กลับบ้าน แต่ตอนนั้นมาลีไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับเสียงร้องไห้ของลูกเลย เธอยังทำตัวให้คนนินทาตามปกติ แต่มาลีคนนี้ไม่มีทางให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับลูกอีกอย่างแน่นอน “แต่ฉันจะรอ รอจนกว่าพี่สะใภ้จะเลิก

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 16 ต่างหูขจร

    เช้าวันรุ่งขึ้นมาลีเตรียมตัวออกเดินทางแต่เช้า เพราะเธอกะว่าจะกลับไม่เกินเที่ยง สามีนำรถเข็นมาให้แล้ว เธอก็ขนตะกร้าไม้ไผ่สี่ใบขึ้นรถ และน้ำเย็นอีกหนึ่งกระติก มีขวดน้ำประมาณหนึ่งลิตรติดไปด้วย เพราะเธอจะเอาเข้าไปในป่าไผ่ด้วย “แม่คะหนูไปด้วยได้ไหมคะ” อุ่นทำท่างอแงแล้วปีนขึ้นไปบนรถเข็นของแม่โดยมีพี่ชายเป็นคนยกก้นช่วย จนเธอเข้าไปนั่งรออยู่ในรถเข็นแล้วมองแม่ตาละห้อย “ผมก็อยากไปด้วย” “ไปไม่ได้หรอกลูก” เธอไม่อยากห่วงหน้าพะวงหลังจึงบอกลูกเช่นนั้น ถึงจะรู้สึกสงสารลูกแต่เธอก็ต้องใจแข็ง “อุ่นกับเอื้อไม่ไปหรอกลูก เกะกะแม่เปล่า ๆ ถ้าพ่อทำบ้านเสร็จเดี๋ยวพ่อจะพาไป พ่อจะพาไปหารังผึ้งด้วยดีไหม รออีกสักสองสามวันพ่อก็ทำบ้านเสร็จแล้ว” เคนย่นระยะเวลาการทำบ้านเข้ามาอีกเพื่อให้ลูกรู้สึกสบายใจขึ้นและยอมที่จะไม่ไปกับแม่ “ผมอยากไปหารังผึ้งกับพ่อครับ” “หนูก็อยากค่ะ” “งั้นรอไปพร้อมกับพ่อนะ” “ค่ะ” อุ่นยกแขนทั้งสองข้างขึ้นให้พ่ออุ้มลงจากรถเข็น เคนจึงหันไปพยักหน้าให้ภรรยาเข็นรถออกไป มาลียิ้มให้เขาแล้วเดินออกไปท

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 15 แยกบ้าน

    มาลีเดินออกจากบ้านแม่ก็เดินไปดูพื้นที่แปลงที่จะปลูกบ้าน เคนเดินดูป่ากล้วยน้ำว้าที่มีพื้นที่มากกว่าสองร้อยตารางวา มาลีรู้สึกผิดหวังกับผู้เป็นแม่เล็กน้อย เธอไม่คิดว่าแม่กับพี่สาวจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แต่ก็อย่างว่าแหละ ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเธอทำตัวไม่ดีเอง ทุกคนจึงไม่อยากให้ความช่วยเหลือ “เราต้องตัดต้นกล้วยออกก่อน” เคนบอกภรรยา “ค่ะ” “เดี๋ยววันนี้พี่จะเริ่มทำเลย พรุ่งนี้จะวานไอ้เริงมาช่วย สองอาทิตย์ก็น่าจะเสร็จ” บ้านที่นำมาปลูกก็คงต้องรื้อจากหลังเดิมเล็ก ๆ มาปลูกก่อน เขาก็หวังว่าสักวันจะนำพาครอบครัวให้ดีขึ้นได้ “ฉันจะช่วยพี่อีกแรงค่ะ” “ให้หนูช่วยด้วยนะคะ” “ผมช่วยด้วยครับ” พ่อกับแม่ยิ้มให้ลูกทั้งสองที่ทำท่ากระตือรือร้นจะช่วยพ่อกับแม่ พวกเขาเป็นกำลังใจที่ดีของพ่อกับแม่ให้ก้าวต่อไปเสมอตอนเย็นวันเดียวกันเคนจึงพาครอบครัวไปคุยกับพ่อแม่เรื่องย้ายบ้าน “ผมขอแบ่งควายไปด้วยสักตัวได้ไหมครับพ่อ” เคนถามพ่อ อย่างน้อยถ้ามีควายเขายังพอไปรับจ้างได้ “เอาไอ้จ่อยไปก็แล้วกัน” กำพลพูดน้ำเสียงอ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status