Home / แฟนตาซี / ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค / ตอนที่ 6 ขับรถครั้งแรก

Share

ตอนที่ 6 ขับรถครั้งแรก

last update Last Updated: 2025-12-09 19:46:14

มาลีสอดมือหมุนเข้าไปในบล็อกเครื่องยนต์ มือซ้ายกดวาล์ว มือขวาหมุนตามเข็มนาฬิกา เธอหมุนเพียงสี่ห้ารอบเมื่อได้จังหวะจึงถอดมือหมุนและปล่อยวาล์ว

            ตั๊ก ตั๊ก ตั๊ก

            ทุกคนต่างยืนตะลึงเมื่อมาลีสามารถสตาร์ทรถไถเดินตามเพียงครั้งเดียวก็ติด ลูกทั้งสองต่างยิ้มและปรบมือให้

            “แม่เก่งจังเลยครับ” เอื้อกับอุ่นไม่เคยเห็นแม่มายุ่งกับรถไถนาสักครั้ง แต่ทำไมแม่ถึงสตาร์ทรถได้

            มาลียิ้มให้ทุกคนแล้วเอ่ยกับสามี “เดี๋ยววันนี้พี่เคนสอนฉันขับรถอีแต๊กนะคะ”

            เคนทำหน้าตาเหมือนหวาดกลัวนิด ๆ แล้วคิดในใจ จะรอดเหรอวะ!

            “เชื่อใจฉันเถอะน่า เอ้า ฉันซื้อนมมาให้พี่ด้วย” มาลีหยิบนมถั่วเหลืองที่ยังเย็นเฉียบให้สามีหนึ่งกล่อง

            เคนมองอย่างลังเล ตั้งแต่แต่งงานกันมา มาลีไม่เคยซื้อนมให้เขาดื่มเลย อย่าว่าแต่ซื้อให้เขา ซื้อให้ลูกกับตัวเองเธอก็ไม่เคย เหตุเพราะเธอขี้เหนียวกับการซื้อของกิน แต่ถ้าเป็นเหล้ากับบุหรี่เธอจะจ่ายไม่อั้น

            เห็นสามีชักช้ามาลีจึงดึงหลอดพลาสติกออกมาเจาะกล่องนมให้แล้วส่งให้เขาอีกครั้ง เขาจึงยอมรับไปดูดแบบงง ๆ

            “เด็ก ๆ มาขึ้นรถเร็ว” ลูกทั้งสองเดินมาใกล้เธอ มาลีจึงอุ้มลูกขึ้นรถทีละคน “ไปแล้วนะคะแม่” มาลีหันไปบอกแม่สามีอย่างอารมณ์ดี ซึ่งต่างจากมาลีคนก่อนโดยสิ้นเชิง ขานั้นเอาแต่ทำหน้าบึ้งและบังคับให้ผัวทำงานทั้งวัน

            “เออ ๆ” ฟั่นมองตามอย่างงง ๆ เหมือนกัน เหมือนลูกสะใภ้เธอจะเปลี่ยนไปนิด ๆ มาลีไม่โกรธเลยหรือไงทั้งที่เธอเพิ่งไล่ออกจากบ้าน

            เคนเคลื่อนรถอีแต๊กออกไปอย่างช้า ๆ โดยมีมาลียืนสังเกตการณ์อยู่ด้านหลัง ส่วนลูกทั้งสองนั่งกินขนมอยู่ในกระบะรถที่มีเสื่อปูรองอย่างสนุกสนาน เป็นครั้งแรกที่ทั้งสี่คนได้ไปนาพร้อมกัน

            มาลีพอเข้าใจการขับรถอีแต๊กแล้วจึงพูดขึ้น “ฉันขอลองขับบ้าง”

            เคนลุกออกจากเบาะนั่งแล้วให้ภรรยาไปนั่งแทน เขาก้าวขาเข้ามายืนด้านในกระบะ มือข้างหนึ่งยังช่วยภรรยาจับหางรถไถไว้มั่น

            “ถ้าจะเลี้ยวก็กำเบรกแล้วก็เลี้ยวแบบนี้นะ” เคนสาธิตการเลี้ยวตรงทางโค้งให้ภรรยาดู

            มาลีพยักหน้าหงึกหงัก แต่การที่มีคนตัวสูงมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังในระยะประชิดเช่นนี้มันทำให้เธอใจสั่น มือสั่นเล็กน้อย

            ไหนบอกว่าให้รักษาระยะห่างไง ทำไมถึงเข้ามายืนใกล้แบบนี้ล่ะ

            เคนถอยห่างออกไปแล้ว เมื่อเห็นเมียขับรถอีแต๊กได้คล่อง

            มาลีแอบยิ้มคนเดียว ตื่นเต้นที่ตัวเองขับรถอีแต๊กได้เร็ว มันขับง่ายกว่ารถยนต์เสียอีก บางครั้งการได้กลับมาใช้ชีวิตแบบบ้าน ๆ แบบนี้อีกครั้งมันก็ดีเหมือนกัน แต่ถ้ามาแบบโสด ๆ ก็คงไม่ต้องกังวลว่าต้องอยู่อย่างไร แต่นี่พ่วงสามีขี้โรคกับลูกน้อยทั้งสองมาด้วย ในชีวิตต่อจากนี้ก็ต้องมีพวกเขาอยู่ด้วยตลอด อย่างน้อยเธอก็ผ่านชีวิตช่วงวัยรุ่นมาแล้ว และทำงานมาอย่างหนัก ประสบการณ์ก็มากพอสมควร เธอคิดว่าเธอจะผ่านมันไปได้ไม่ยากนัก

            มาลีขับรถอีแต๊กไปตามทางเรื่อย ๆ หัวแต่ละคนสั่นด๊อกแด๊ก ๆ ไปมาตลอดทางคล้ายกับตุ๊กตาหัวสั่นที่ติดไว้หน้ารถยนต์ บางจังหวะทางขรุขระมากดูเหมือนว่าไส้ข้างในท้องจะเคลื่อนที่ไปด้วย

            เฮ้อ! หมดกันชีวิตนางพยาบาลสุดสวย ตอนนี้กลายเป็นนางม่วยขี้เมาขับรถอีแต๊กไปแล้ว จะแก้ตัวก็คงแก้ไม่หวาดไม่ไหว ต้องปล่อยไปตามน้ำอย่างเดียว

           

            ทั้งสี่มาถึงนาเกือบสิบโมง ทุกคนที่นั่งเลี้ยงควายอยู่ต่างมองมาด้วยความสงสัย เหตุใดมาลีถึงเป็นคนขับรถอีแต๊ก และทำไมเธอถึงออกมานาได้ทั้งที่เมื่อคืนเธอเมาหนักและหัวแตกด้วย ปกติถ้าเมาแล้วผู้หญิงคนนี้จะนอนตื่นตอนบ่ายหรือไม่ก็เย็น

            มาลีถือตะกร้ากับข้าวขึ้นไปไว้บนเถียงนาเมื่อจอดรถเสร็จ

            “พี่เคนก็มาด้วยเหรอครับ” สำเริงน้องชายที่อายุห่างกันสามปีเอ่ยถามเมื่อเดินมาถึงเถียงนา ทุกคนในบ้านย่อมรู้ดีว่าเขาไปไหนมาไหนได้ไม่ค่อยไกลนัก

            “อือ อยากมาดูหน่อไม้ไปขายด้วย” นานกว่าสัปดาห์แล้วที่ฝนตกหนักก่อนที่จะมีงานบุญที่บ้าน เขาคิดว่าหน่อไม้คงโผล่พ้นดินขึ้นมามากแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาจะได้ตัดไปขาย เพราะเขาคิดว่าเงินที่เหลืออยู่กับภรรยาคงมีไม่มากแล้ว เขาต้องเร่งหาเงินโดยเร็วที่สุด

            “ฉันขอไปด้วยนะคะ”

            “หนูไปด้วยนะคะพ่อ”

            “ผมไปด้วยครับ”

            เคนมองภรรยากับลูกด้วยความงุนงงสุด ๆ เหตุการณ์ที่เขากับภรรยาพร้อมกับลูกอีกสองคนจะไปหาอยู่หากินด้วยกันมันไม่เคยเกิดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว

            “เดี๋ยวฉันไปช่วยถือค่ะ เผื่อพี่หิ้วกลับมาไม่ไหว” คิดแล้วก็อยากกินแกงหน่อไม้น้ำข้น ๆ ใส่ชะอมกลิ่นหอม ๆ ถ้าได้จริง ๆ เธอจะทำกินคืนนี้แหละ

            “ไปก็ไป” ในเมื่อทุกคนอยากไปเขาก็จะไม่ห้าม แต่เข้าไปในป่าไผ่มีทั้งยุงทั้งริ้นเต็มไปหมด เคนหันมาพูดกับสำเริง “ฉันไปดูหน่อไม้ก่อนนะ”

            “ครับ”

            ป่าไผ่ขนาดใหญ่กว่าสิบไร่เป็นป่าไผ่ธรรมชาติที่อยู่ติดกับนาพ่อ ใครจะไปหากินหาขายก็ได้ทั้งนั้น ซึ่งแต่ละปีจะมีหน่อไม้ขึ้นตั้งแต่ฝนแรก ยาวไปจนเกือบถึงต้นฤดูหนาวถ้าฝนไม่ขาดช่วง คนที่ขยันก็สามารถทำเงินได้จากไผ่ป่านี้ได้มากเช่นกัน

            เคนเดินไปถือกระติกน้ำและถุงย่ามห่อข้าวที่เตรียมมาด้วยพร้อมเสียมหนึ่งเล่ม “เอื้อถือตะกร้าใบนี้ให้พ่อหน่อย” เคนยื่นตะกร้าไม้ไผ่ใบเปล่าให้ลูก ในนั้นมีย่ามที่ทำจากกระสอบปุ๋ยอีกหนึ่งใบ “ไม้คานด้วย”

            “ครับ”

            “ฉันถือกระติกน้ำกับห่อข้าวให้ดีกว่าค่ะ” แค่เดินอย่างเดียวเขาก็จะไม่รอดแล้ว

            ถึงแม้จะแปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของภรรยาแต่เขาก็ไม่พูดอะไร เธออาจจะขอโอกาสกับเขาจริง ๆ ก็ได้ “งั้นก็ตามใจ” ภรรยาสะพายถุงห่อข้าวและหิ้วกระติกน้ำเดินตาม ส่วนเขาถือตะกร้า มีด และเสียม เดินนำหน้า เอื้อแบกไม้คานวิ่งตามหลังพ่อไปติด ๆ

            พี่ชายพาลูกกับเมียเดินไปหาหน่อไม้แล้ว สำเริงจึงเดินหิ้วกระติกน้ำและห่อข้าวไปหาภรรยาและน้องสาวที่กำลังนอนอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 20 ปฏิเสธสิ่งที่ชอบ

    “พี่เคนคิดว่าดีไหมคะ พี่กับฉันจะได้เป็นอิสระเสียที และถ้าพี่อยากมีคนใหม่ก็สามารถมีได้เลย” มาลีคิดว่าวิธีนี้คงดีที่สุดแล้ว นานครั้งเธอค่อยกลับมาเยี่ยมเด็ก ๆ ก็ได้ ความห่างจะทำให้เด็กทั้งสองเข้มแข็งและยอมรับมันได้โดยปริยาย “ก็ดี” เคนตอบแบบขอไปที จะให้เขาพูดอะไรได้ล่ะก็ในเมื่อเธอต้องการอย่างนั้น อีกอย่างเขาเองที่เป็นฝ่ายอยากเลิกกับเธอ “ค่ะ ถ้าฉันไม่อยู่แล้วให้อาสามาช่วยดูเด็ก ๆ ก็ได้นะคะ” “อือ…นอนเถอะพี่ง่วงแล้ว” เขาไม่อยากฟังเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว เหมือนทุกอย่างมันกำลังจะไปได้ดี แต่มันกลับไม่ใช่ เคนนอนหันหน้าเข้าฝาผนัง อยู่ดี ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดวันที่เขากับเธอต้องจากกันจริง ๆ ก็กำลังจะมาถึง มาลีอาจจะวางแผนไปกรุงเทพฯ พร้อมกับสกล ถ้าทั้งสองไปอยู่กรุงเทพฯ แล้ว ถึงชาวบ้านนินทาพวกเขาก็คงไม่ได้ยิน และคงไม่รู้สึกอะไร มีแต่เขาที่ต้องทนฟังคำดูหมิ่นดูแคลนจากชาวบ้านที่ปล่อยให้เมียหนีตามผู้ชายไป “วันนี้ไม่ไปช่วยเคนมันทำบ้านเหรอเริง” ฟั่นถามลูกเมื่อสายแล้วสำเริงยังไม่ได้ไปไหน ปกติสำเริงจะออกไปบ้านพี่ชายแต่เช้า

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 19 วางแผนไว้แล้ว

    เช้าวันต่อมาเคนจึงได้ทำความเข้าใจเรื่องสร้างบ้านกับน้องชายใหม่ โดยต้องจ้างช่างมาทำบ้านให้ เพราะจากบ้านขนาดแปดสิบตารางเมตร มาลีจะสร้างบ้านปูนชั้นเดียวขนาดห้าสิบตารางวา ที่มีสองห้องนอน หนึ่งห้องครัว หนึ่งห้องนั่งเล่น หนึ่งห้องน้ำ และมีระเบียงหน้าบ้านด้วย งบประมาณไม่เกินสองแสนบาท แต่กระนั้นก็ถือว่าได้บ้านหลังใหญ่และหรูมากแล้ว สำเริงต่างแปลกใจที่อยู่ดี ๆ พี่ชายก็มีเงินเก็บมากมายจนสามารถสร้างบ้านหลังใหญ่ได้ อดใจไม่ไหวจึงเอ่ยถาม “พี่เคนเอาเงินมาจากไหนครับ” “เงินที่ฉันไปทำงานต่างประเทศไง” “ยังเหลืออีกเหรอครับ” เขาถามเสียงสูง กลับมาจากเมืองนอกสองปีแล้วเพิ่งจะพูดถึงเงินเก็บ ความรู้สึกช้าไปไหม “อื้อ ม่วยอำฉันเล่นว่าเงินหมดแล้ว ที่จริงพี่สะใภ้แกเก็บเงินไว้ใช้ในยามจำเป็นมากกว่า” ภรรยาบอกเขาเช่นนั้น และเขาก็พร้อมจะเชื่อหมดใจ หากไม่เห็นกับตาเขาก็อาจจะไขว้เขวบ้าง เพราะฉะนั้นที่ผ่านมาหากเธอประหยัดเงินจนทำให้เขาผอม เขาก็พร้อมจะให้อภัย “พี่เคนพูดเรื่องจริงเหรอครับ” สำเริงยังไม่อยากเชื่อนัก “จริงสิ แกเห็นฉันเป็นเพื่อนเล่นหร

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 18 กินข้าวไม่ลง

    “ทั้งผัวหลวงผัวน้อยช่วยกันทำมาหากินดีเนอะ”“นังม่วยมันทำบุญด้วยอะไรวะช่างโชคดีจริง ๆ” คนกลุ่มนั้นยังนินทาไม่หยุด ก่อนที่เคนจะเคลื่อนรถเข็นเข้าไปหาพวกเขา“ม่วยขยันจังเลยนะ รู้จักทำมาหากินช่วยผัว” เสียงหนึ่งแสร้งเอ่ยชม ทั้งที่ก่อนหน้ายังนินทาเธออยู่เลย แต่มาลีก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังพูดประชด“ค่ะ ไม่อยากอยู่เฉย ๆ แล้วนินทาชาวบ้านไปวัน ๆ เหมือนใครบางคนน่ะค่ะ” เป็นน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ทำไมคนที่ยืนฟังอยู่ตรงนั้นถึงได้รู้สึกเจ็บจิ๊ดเข้าไปถึงในทรวง ป้า ๆ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นสามสี่คนได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่ก“แต่ก็ไม่ได้ไปกับผัวตัวเอง” ป้านีพูดขึ้นเหมือนรู้ดีเคนและลูกทั้งสองต่างมองหน้ามาลีเมื่อได้ยินป้านีพูดแบบนั้น “แม่ไปกับใครเหรอครับ”“ก็ไปกับ…”“ถ้าไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จป้าก็อย่าพูดส่งเดชเลยค่ะ ฉันไม่อยากให้ลูกได้ยินเรื่องที่ไม่เป็นความจริง” ป้าคนนั้นชะงักปากเมื่อมาลีพูดสวนขึ้นก่อน“ก็มีคนเขาเห็น…”“เห็นอะไรคะ ถ้าสิ่งที่ป้าพูดมาไม่เป็นความจริงฉันจะไหมปากป้านะคะ” ป้านียืนอ้าปากหวอ “พูดต่อสิคะว่าคนเขาเห็นอะไร” มาลียืนจ้องหน้าป้านีไม่วางตาแล้วร่ายต่อ “ที่จริงการนินทาชาวบ้านก็มีส่วนดีนะคะ เพรา

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 17 เร้าหรือ

    ตลอดทางที่เดินกลับบ้านด้วยกันสกลพยายามหว่านล้อมให้มาลีใจอ่อนอีกทั้งยังเข้ามาเดินใกล้ ๆ และมาช่วยเข็นรถจนมาลีรู้สึกอึดอัด“อากลอย่าทำอย่างนี้เลย มันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ” “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พี่สะใภ้ถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ หรือว่าพี่สะใภ้ความจำเสื่อม” สกลยังไม่ละความพยายาม ทำไมพอเธอตื่นขึ้นมาแล้วคำพูดคำจาถึงได้เปลี่ยนไป “ถ้าฉันความจำเสื่อมฉันจะจำใครต่อใครได้เหรอคะ” มันก็จริง… “แต่ทำไมพี่สะใภ้ถึงตัดความสัมพันธ์กับฉันได้ง่ายดายนัก ทั้งที่เราก็คบกันมาตั้งหลายปี” “ฉันไม่อยากให้ใครมองว่าสามีฉันโง่อีกต่อไปแล้วค่ะ อีกอย่างฉันก็ไม่อยากให้ลูกโดนเพื่อนที่โรงเรียนล้อเลียนด้วยค่ะ ฉันสงสารพวกเขา” ความทรงจำเดิมบอกกับเธอว่าเอื้อที่เพิ่งเรียนจบชั้นปอหนึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนที่เธอจะมาอยู่ในร่างนี้เขาโดนเพื่อนล้อว่าเขามีพ่อใหม่ จนต้องร้องไห้กลับบ้าน แต่ตอนนั้นมาลีไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับเสียงร้องไห้ของลูกเลย เธอยังทำตัวให้คนนินทาตามปกติ แต่มาลีคนนี้ไม่มีทางให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับลูกอีกอย่างแน่นอน “แต่ฉันจะรอ รอจนกว่าพี่สะใภ้จะเลิก

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 16 ต่างหูขจร

    เช้าวันรุ่งขึ้นมาลีเตรียมตัวออกเดินทางแต่เช้า เพราะเธอกะว่าจะกลับไม่เกินเที่ยง สามีนำรถเข็นมาให้แล้ว เธอก็ขนตะกร้าไม้ไผ่สี่ใบขึ้นรถ และน้ำเย็นอีกหนึ่งกระติก มีขวดน้ำประมาณหนึ่งลิตรติดไปด้วย เพราะเธอจะเอาเข้าไปในป่าไผ่ด้วย “แม่คะหนูไปด้วยได้ไหมคะ” อุ่นทำท่างอแงแล้วปีนขึ้นไปบนรถเข็นของแม่โดยมีพี่ชายเป็นคนยกก้นช่วย จนเธอเข้าไปนั่งรออยู่ในรถเข็นแล้วมองแม่ตาละห้อย “ผมก็อยากไปด้วย” “ไปไม่ได้หรอกลูก” เธอไม่อยากห่วงหน้าพะวงหลังจึงบอกลูกเช่นนั้น ถึงจะรู้สึกสงสารลูกแต่เธอก็ต้องใจแข็ง “อุ่นกับเอื้อไม่ไปหรอกลูก เกะกะแม่เปล่า ๆ ถ้าพ่อทำบ้านเสร็จเดี๋ยวพ่อจะพาไป พ่อจะพาไปหารังผึ้งด้วยดีไหม รออีกสักสองสามวันพ่อก็ทำบ้านเสร็จแล้ว” เคนย่นระยะเวลาการทำบ้านเข้ามาอีกเพื่อให้ลูกรู้สึกสบายใจขึ้นและยอมที่จะไม่ไปกับแม่ “ผมอยากไปหารังผึ้งกับพ่อครับ” “หนูก็อยากค่ะ” “งั้นรอไปพร้อมกับพ่อนะ” “ค่ะ” อุ่นยกแขนทั้งสองข้างขึ้นให้พ่ออุ้มลงจากรถเข็น เคนจึงหันไปพยักหน้าให้ภรรยาเข็นรถออกไป มาลียิ้มให้เขาแล้วเดินออกไปท

  • ภรรยาแสนร้ายกับนายขี้โรค   ตอนที่ 15 แยกบ้าน

    มาลีเดินออกจากบ้านแม่ก็เดินไปดูพื้นที่แปลงที่จะปลูกบ้าน เคนเดินดูป่ากล้วยน้ำว้าที่มีพื้นที่มากกว่าสองร้อยตารางวา มาลีรู้สึกผิดหวังกับผู้เป็นแม่เล็กน้อย เธอไม่คิดว่าแม่กับพี่สาวจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แต่ก็อย่างว่าแหละ ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเธอทำตัวไม่ดีเอง ทุกคนจึงไม่อยากให้ความช่วยเหลือ “เราต้องตัดต้นกล้วยออกก่อน” เคนบอกภรรยา “ค่ะ” “เดี๋ยววันนี้พี่จะเริ่มทำเลย พรุ่งนี้จะวานไอ้เริงมาช่วย สองอาทิตย์ก็น่าจะเสร็จ” บ้านที่นำมาปลูกก็คงต้องรื้อจากหลังเดิมเล็ก ๆ มาปลูกก่อน เขาก็หวังว่าสักวันจะนำพาครอบครัวให้ดีขึ้นได้ “ฉันจะช่วยพี่อีกแรงค่ะ” “ให้หนูช่วยด้วยนะคะ” “ผมช่วยด้วยครับ” พ่อกับแม่ยิ้มให้ลูกทั้งสองที่ทำท่ากระตือรือร้นจะช่วยพ่อกับแม่ พวกเขาเป็นกำลังใจที่ดีของพ่อกับแม่ให้ก้าวต่อไปเสมอตอนเย็นวันเดียวกันเคนจึงพาครอบครัวไปคุยกับพ่อแม่เรื่องย้ายบ้าน “ผมขอแบ่งควายไปด้วยสักตัวได้ไหมครับพ่อ” เคนถามพ่อ อย่างน้อยถ้ามีควายเขายังพอไปรับจ้างได้ “เอาไอ้จ่อยไปก็แล้วกัน” กำพลพูดน้ำเสียงอ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status