Share

บทที่ 10

last update Last Updated: 2024-12-14 20:46:24

แล้วคฑาจะรออะไร เงินหนึ่งล้านบาทสำหรับเขามันแค่เศษฝุ่น ชายหนุ่มโอนเข้าบัญชีธนาคารให้กับเธอในทันที เพราะนั่นมันหมายถึงการผูกมัดเธอเพื่อที่จะเก็บไว้ใช้งาน

พอได้เงินรรรรรรก็ขอไปทำธุระให้เสร็จก่อน แล้วค่อยจะกลับมาหาเขา ซึ่งคฑาก็ยอม ในที่สุดผู้หญิงทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนที่หยิ่งผยองแบบเธอก็ยังต้องการเงินของเขาอยู่ดี

โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง..

นี่แหละเหตุผลที่เธอต้องใช้เงินถึงหนึ่งล้านบาท เพราะพี่สาวของเธอถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน และค่าใช้จ่ายก็สูงลิบลิ่ว

ที่รรรรรรเลือกโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะเธอเหลือพี่สาวแค่คนเดียว ถึงแม้ว่าตอนนี้เด็กจะถูกผ่าคลอดออกมา แต่ก็ต้องได้อยู่ห้องอบสำหรับเด็กทารกแรกเกิด เพราะได้รับความกระทบกระเทือนตอนที่แม่ประสบอุบัติเหตุ

"พี่สาวของฉันปลอดภัยแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ" หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นคุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัด

"ใช่แล้วครับ แต่ต้องรอให้เธอฟื้นตัวให้ได้ก่อน คงใช้เวลาอีกสักระยะ"

"ฝากคุณหมอดูแลพี่สาวและก็หลานของฉันด้วยนะคะ" ตอนนี้ยิ่งกว่ายกภูเขาออกจากอกเมื่อรู้ว่าพี่สาวปลอดภัยแล้ว แต่ด่านต่อไปที่เธอจะเจอมันคงหนักหนาเอาการ เพราะเธอเห็นฤทธิ์เดชของแม่และพี่สาวของเขาแล้ว

วันต่อมา.. ที่บริษัท

"ลาคลอด?" คฑามองดูเอกสารที่ เลขาคนใหม่เพิ่งจะยื่นมาให้ เพราะมันเป็นเอกสารการคลอดบุตรของพี่สาวเธอเอง

"ใช่แล้วค่ะ พี่รินคลอดก่อนกำหนด" หญิงสาวถือโอกาสลาคลอดให้พี่สาวไปในตัว อุบัติเหตุที่เกิดกับพี่สาวไม่ได้เกี่ยวกับงาน ถึงแม้เธอจะบอกเขาไป ก็คงได้รับแต่ความสงสาร และเห็นใจ รรรรรรก็เลยไม่บอกดีกว่า เพราะถึงยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว

"ส่วนเรื่องงาน ดิฉันจะเริ่มรับผิดชอบส่วนของพี่รินทั้งหมดค่ะ"

"แล้ว?" เรื่องลาคลอดผ่านไป เรื่องงานเลขาก็ผ่านไป แต่ยังเหลือข้อตกลงระหว่างเธอกับเขา ซึ่งเธอก็รับค่าจ้างไปแล้วด้วย

"เรื่องนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะทำงานให้คุณสุดความสามารถ"

"ดี" งานที่เขาอยากให้เธอทำก็มีแค่ กีดกันผู้หญิงทุกคนที่แม่จัดหามาให้ เพราะเขาไม่อยากจะปวดหัวกับเรื่องพวกนี้ แต่ถ้ามีนอกเหนือจากนั้นเขาก็จะแจ้งเธออีกที ซึ่งเธอก็ตอบตกลง

"คนรวยนี่ก็แปลก" หญิงสาวเอ่ยพูดขึ้นในขณะที่เดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง วันนี้เธอต้องได้จัดการงานทั้งหมดคนเดียว โชคดีที่เธอเรียนมาทางด้านนี้ แต่งานบางอย่างก็ไม่ค่อยเข้าใจ

พอเลิกงานรรรรรรต้องรีบไปที่โรงพยาบาล เธอค้างอยู่ที่นี่เพื่อดูแลพี่สาว ที่นอนยังไม่ได้สติ ส่วนหลานสาวมีพยาบาลดูแลอีกที เพราะยังไม่ออกจากตู้อบ

"เมื่อไรพี่จะตื่น พี่มาดูหนูรักสิ ..พี่สงสัยใช่ไหมล่ะว่าใครชื่อรัก ก็ลูกสาวของพี่ไง เขาเป็นความรักของเราทั้งสอง" รรรรรรตั้งชื่อให้หลานสาวว่ารักนรินทร์ เพราะชื่อนี้คล้ายกับชื่อของแม่และน้าด้วย

ผ้าชุบน้ำเย็นๆ ถูกลูบไล้ตามเนื้อตัวของรรินธร ..เธอเช็ดตัวและคุยกับพี่ เพื่อให้พี่สาวฟื้นตัวได้เร็ว แต่ก็ผ่านมาสามวันแล้วรรินธรยังไม่ได้สติเลย

หมอบอกไม่ต้องเป็นห่วงมากถ้าพี่สาวของเธอพร้อมที่จะตื่น เดี๋ยวก็ตื่นเอง เพราะทั้งชีพจรและความดันเป็นปกติหมดแล้ว

ครืนนน ครืนนนนน

ในค่ำคืนเดียวกันนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รรรรรรที่กำลังจะหลับก็ได้ลุกขึ้นมารับโทรศัพท์สายนั้นก่อน

"นอนหรือยัง"

"ยังค่ะ"

"คืนนี้มีงานเลี้ยงที่โรงแรม เดี๋ยวจะให้คนไปรับ" ที่เขาโทรมาบอกดึกขนาดนี้ เพราะทีแรกคิดว่าจะไม่ไป แต่แม่ก็โทรมาตามอยู่นั่นแหละ

"โรงแรมไหนคะเดี๋ยวฉันไปเองได้"

"แต่เธอต้องได้แต่งตัว"

"ที่ไหนนัดมาได้เลยค่ะ" ถ้าเธอให้คนของเขามารับที่โรงพยาบาล ก็ต้องมีคำถามอีกนั่นแหละว่าทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่

พอรู้สถานที่แน่ชัดแล้ว เธอก็ไม่รีรอรีบออกมาจากโรงพยาบาลแล้วเรียกแท็กซี่

ซอยใกล้โรงแรมของกัลยา

หญิงสาวร่างระหงที่อยู่ในชุดราตรีสีสดใสได้ก้าวลงจากรถที่มีคนขับรถเป็นผู้ช่วยคนสนิทของเขา แล้วเดินไปขึ้นรถอีกคัน ซึ่งรถคันนี้ คฑาเป็นคนขับเอง

ความสวยของเธอไม่สามารถที่จะดึงดูดสายตาของเขาได้ ..พอเข้ามาในโรงแรม ทั้งสองก็ควงกันเดินเหมือนคู่รักที่รักกันแทบจะกลืนกิน

"ดู..ดูมันทำ" คนที่พูดก็คือกัลยาพี่สาว และก็พูดกับสามีของตัวเอง

"น้องก็บอกแล้วว่านั่นเป็น..."

"หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!" สามียังไม่ทันได้พูดจบประโยคเลยด้วยซ้ำ ก็ถูกภรรยาตะคอก

สันติก็เลยเดินไปคุยกับแขกของโรงแรมที่มาร่วมงาน

วันนี้ที่จัดงานขึ้น อัญชัญอยากจะแนะนำลูกสะใภ้ให้คนในแวดวงสังคมได้รู้จัก แต่ไม่คิดว่าลูกชายจะตลบหลังด้วยการควงผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาด้วยแบบนี้

"คุณ.." ถึงแม้จะเก่งแค่ไหน แต่เจอสายตาทุกคู่ที่เพ่งเล็งมา มันก็สร้างความประหม่าให้กับเธอ

"ไม่ต้องพูดอะไรแล้วเดินตามฉันมา" ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปกระซิบพูดใกล้หูของคนตัวเล็กด้วยใบหน้าที่อมยิ้ม แต่เธอก็รู้แหละว่านั่นมันคือการแสดงละครของเขา

"ว่าไงครับคุณแม่"

"ลูกทำอะไร!" อัญชัญคิดว่าลูกชายจะไว้หน้าของนางบ้าง

"ไม่คิดว่าคุณแม่จะจัดงานใหญ่ขนาดนี้"

"ให้มันออกจากงานไปเดี๋ยวนี้เลยนะ" สายตาของนางมองจิกมาที่คู่ควงลูกชาย

"สวัสดีค่ะคุณแม่" หญิงสาวพนมมือไหว้แบบนอบน้อม และส่งยิ้มหวานให้กับแม่สามี

"เอากองไว้ตรงนั้นแหละ แล้วก็ไสหัวไปสะ" นางแค่พูดออกมาเบาๆ

"แรงส์" รรรรรรก็อุทานออกมาเบาๆ เช่นกัน

"คฑาพี่ว่ามานั่งตรงนี้ดีกว่า" กัลยาเดินมาแยกทั้งสองออกจากกัน แล้วลากแขนน้องชายให้มานั่งที่เก้าอี้

รรรรรรกำลังจะเดินตามไป แต่ถูกแม่ของเขายืนขวางหน้าไว้ก่อน ส่วนผู้หญิงที่แม่จัดหาให้ นางได้กระซิบบอกอะไรสักอย่าง แล้วเธอคนนั้นก็รีบเดินตามเข้าไปนั่งข้างๆ

"ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"

"เรื่องอะไรคะ"

"ตามมา" ว่าแล้วอัญชัญก็เดินนำหน้าไปที่ประตู เพราะคิดว่าเธอจะตามมา แต่พอหันกลับมาอีกที ตอนนี้รรรรรรกำลังเดินตรงไปโต๊ะที่มีลูกชายของนางนั่งอยู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (10)
goodnovel comment avatar
นางนฤมล อุตมะ
สนุกม๊ากบอกต่อกัน
goodnovel comment avatar
บุญญาภา อิ่มศิล
กำลังสนุกเลยค่ะ
goodnovel comment avatar
Sudarat Chanpean
ชอบบทนางเอก เดินเรื่องได้ดี
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 122 ตอนจบ

    เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 121

    "ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 120

    [คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 119

    "ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 118

    "กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 117

    แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status