Home / รักโบราณ / ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก / บทที่ 9 เริ่มภารกิจกระชับความสัมพันธ์

Share

บทที่ 9 เริ่มภารกิจกระชับความสัมพันธ์

last update Huling Na-update: 2025-01-04 22:42:55

บทที่ 9 เริ่มภารกิจกระชับความสัมพันธ์

หลังจากรุ่ยฉีลุกไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาและกลับเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว ที่ทำอะไรเสร็จอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้อากาศหนาวมาก! หนาวที่สุด แต่รุ่ยฉีออกไปทั้งชุดนอน ตอนอยู่บนเตียงเตามันก็อุ่นสบายอยู่หรอก แต่พอเข้าห้องน้ำเตรียมล้างหน้าแปรงฟันแค่นั้นแหละ น้ำในห้องน้ำเย็นยะเยือก รุ่ยฉีไม่สามารถล้างหน้าแปรงฟันได้ จนต้องเดินกลับเข้าห้องมาหาเสื้อคลุมเพิ่มอีกตัว เพื่อเดินเข้าครัวไปจุดเตาต้มน้ำไว้ใช้ผสมล้างหน้าแปรงฟันได้ ช่วงต้มน้ำก็คิดว่าเช้านี้ควรกินโจ๊กร้อน ๆ ก็คงจะดี แต่โจ๊กไม่มีในกำไลมิติ ไม่ว่าจะแบบซองหรือปรุงสำเร็จพร้อมทานเลย คงต้องเคี่ยวโจ๊กเอง ลงมือทำเอง รุ่ยฉีถือโอกาสแสดงฝีมือเลยแล้วกัน

"ระบบเตรียมวัตถุดิบในการต้มโจ๊กให้หน่อย เอาปริมาณแค่ 6 ชามนะ ในมิติมีน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋บ้างไหมระบบ" รุ่ยฉีสั่งงานระบบและถามหาของกินอย่างอื่นด้วย เพื่อที่จะได้เอามากินกับโจ๊ก

[ระบบเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำโจ๊กให้แก่โฮสต์เรียบร้อยแล้ว บางอย่างไม่มีในมิติ โฮสต์ต้องการให้แลกในร้านค้าระบบไหมหรือให้หาของที่พอจะใช้แทนในมิติ]

"หาของแทนสิ... อะไรใช้แทนได้ก็ใช้แทน จะต้องใช้คะแนนแลกให้เปลืองทำไม"

[ตามโฮสต์เห็นสมควรเลย ทางระบบจะจัดเตรียมให้ ส่วนน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ในมิติไม่มีสำเร็จรูป แต่เท่าที่เช็กดูมีวัตถุดิบที่เอามาทำได้ โฮสต์อยากให้จัดเตรียมวัตถุดิบไหม หรือว่าต้องการแลกคะแนนในร้านค้า เพราะช่วงเวลา 7.00 น.จะมีน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋มาจัดโปรโมชันลดคะแนนแลกสินค้า]

"จริงหรอ 7 โมงใช่ไหม แลกสิรออะไรล่ะ อย่าเสียเวลาทำเลย มันใช้เวลานาน เอาเวลาไปทำภารกิจกระชับความสัมพันธ์ดีกว่าเนอะระบบ" รุ่ยฉีรีบบอกระบบไป

[โฮสต์รีบให้แลกเลยนะ พอวัตถุดิบทำโจ๊กขาดโฮสต์ไม่ยอมแลก บ่นเสียดายคะแนน]

"แหมระบบก็... อย่ารู้ดี!! " รุ่ยฉีว่าเสร็จก็ปิดเตาแก็ส ยกหม้อต้มน้ำร้อนเดินสะบัดตูดเข้าห้องน้ำอย่างไม่สนใจอะไร

[...] ระบบ

หลังจากรุ่ยฉีทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เดินเข้าห้องนอนอีกรอบเพื่อที่จะทาเซรัมและครีมบำรุงผิว จะไม่ทาก็ไม่ได้ หลังล้างหน้าเสร็จรู้เลยว่าหน้านี่ตึงยังกะคนฉีดโบท็อกซ์มา แต่อันนี้ไม่ใช่ลดรอยเหี่ยวย่นนะ อันนี้ตึงเพราะหน้าแห้งจะแตกอยู่รอมร่อ ต้องรีบโบกเซรัมและครีมบำรุง หัวก็คิดทำไมไม่มีกันแดดติดมาบ้างเลย ตาก็มองหาสีผึ้งมหาเสน่ห์ เอ้ย!ไม่ใช่สิ… ลิปมันแสนสวย พอคิดถึงลิปมันก็ทำให้นึกอะไรออก เมื่อคืน! ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนอนเตรียมเอาออกไปทาให้เด็ก ๆ แต่ลืม! สรุปพาลิปมันมานอนด้วยโดยที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย! มือก็ล้วงลิปมันออกมาทาปากและวางบนโต๊ะเครื่องแป้งให้เรียบร้อย ก่อนจะเตรียมตัวเข้าครัวเพื่อที่จะเตรียมต้มโจ๊ก

"ระบบจ๋า~ กี่โมงแล้ว~ " รุ่ยฉีส่งเสียงหวานหยดย้อยถามเวลากับระบบ

[ตอนนี้เวลา 06.03 น.ยังไม่ถึงช่วงน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ลดคะแนน ยังมีเวลาให้โฮสต์ได้ต้มโจ๊ก ใกล้ถึงเวลาระบบจะเตือนโฮสต์ให้โฮสต์ได้รับรู้]

"รู้ใจดีจริง ๆ ระบบเนี่ย! "

รุ่ยฉีพูดกับระบบอย่างอารมณ์ดี มือก็เตรียมของรื้อของที่จะทำโจ๊กในเช้านี้ รุ่ยฉีเปิดตู้หาหม้อขนาดกลาง ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เพื่อที่จะใช้ในการต้มโจ๊กครั้งนี้ วัตถุดิบที่ทางระบบเตรียมให้มีทั้งกระดูกหมู หมูบด และไข่ไก่อีก 8 ฟอง รุ่ยฉีเลยเริ่มจากการต้มน้ำซุปก่อนเลย มือก็เริ่มเตรียมวัตถุดิบเพื่อต้มโจ๊ก หัวก็กำลังคิดวางแผน และปากก็ปรึกษากับระบบไปด้วย รุ่ยฉีใช้เวลาต้มโจ๊กเกือบ 40 นาที ถามว่านานไหม ตอบเลยไม่นานเท่าไร ดีที่มีเตาแก๊สทำอาหารได้สะดวกและรวดเร็ว ไข่ไก่นั้น รุ่ยฉีต้มแบบยางมะตูมไว้ 2 ฟอง แบบสุกหมดเลย 2 ฟอง ส่วนอีก 4 ฟอง รุ่ยฉีใส่ลงหม้อต้มโจ๊กแล้วคนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกันเลย มองดูแล้วคล้าย ๆ ข้าวต้มข้น ๆ แต่รุ่ยฉีทำโจ๊ก ถึงแม้มันจะคล้ายข้าวต้มข้น ๆ แต่รุ่ยฉีให้หม้อนี้เป็นโจ๊ก มันเลยเป็นโจ๊กหอมกรุ่นพร้อมทาน เสร็จแล้วรุ่ยฉีเลยปิดเตา แล้วรอเวลาในการซื้อน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋

"ระบบ ตอนฉันเป็นวิญญาณ ฉันไปเรียนรู้วิธีต้มโจ๊ก ทำอาหารตั้งหลายอย่าง แต่ทำไมพอมาลงมือทำ หน้าตามันออกมาไม่เหมือนกับที่เขาทำกัน มีเคล็ดลับอะไรไหมบอกหน่อย เอาแบบที่ทำแล้สหน้าตาน่ากิน รสชาติเริดเลอระดับมิชลินสตาร์อะไรแบบนี้"

รุ่ยฉีดูหน้าต่างสถานะของระบบ ปากก็ยังพูดกับระบบ ถึงจะพอรู้ว่าวัตถุดิบที่ใช้ต่างกัน ไหนจะไปเรียนตอนเป็นวิญญาณแล้ว ไม่ได้ลงมือทำด้วยตัวเอง แต่เคล็ดลับทั้งหลายรุ่ยฉีก็ทำตามทั้งหมด มันน่าจะใกล้เคียงคำว่าโจ๊กบ้าง แต่นี่หน้าตากลายพันธุ์จนจะเป็นข้าวต้มอยู่แล้ว คงต้องลองบ่อย ๆ ล่ะมั้ง รุ่ยฉีคิด

[ในระบบแลกคะแนนมีโจ๊กและอาหารสำเร็จรูป ง่ายต่อการทำ แถมได้หน้าตาและรสชาติที่การันตีว่าดีจากระบบด้วย โฮสต์แลกคะแนนไว้ทำอาหารได้ มีทั้งของคาวของหวาน]

ระบบเริ่มขายของ ไม่รู้ว่าได้เปอร์เซ็นต์การแลกด้วยหรือเปล่าสนับสนุนให้แลกอยู่นั่นแหละ ทำยังกะมีคะแนนมากมาย ตอนนี้ที่มีอยู่จะแลกอะไรได้บ้างล่ะ

[โฮสต์เตรียมพร้อม บรรดาชุดอาหารเช้าหลายเชื้อชาติกำลังมาจัดมหกรรมลดคะแนนแล้ว]

"พร้อมมาก!! "

เมื่อถึงเวลา 7.00 น.มหกรรมอาหารเช้าลดคะแนนก็เริ่มขึ้น รุ่ยฉีไม่ลืมจุดประสงค์แรกของการมาแลกคะแนนน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ สายตาก็ไล่อ่านเรื่อย ๆ ถ้าแลกคะแนนภายใน 5 นาทีมีทั้งลดแลกแจกแถมทั้งนั้นเลย รุ่ยฉีกำลังอ่านการแลกเซตน้ำเต้าหู้ มันจะมีเป็นขนาด S M L มีทั้งหมด 3 ขนาด ไซซ์ S มีปา 5 ตัว น้ำเต้าหู้ 1เหยือก (5แก้ว) ไซซ์ M มีปา 8 ตัว น้ำเต้าหู้ 1เหยือก (8แก้ว) ไซซ์ L มีปา 12 ตัว น้ำเต้าหู้ 1เหยือก (12แก้ว) ราคาแลก 200, 300, 400 คะแนนเรียงตามลำดับ จะบอกว่าถูกไหม บอกเลยว่าไม่! ที่สำคัญ รุ่ยฉีที่มีคะแนนอยู่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ขนาดช่วงลดราคายังราคานี้ แต่ระบบแนะนำว่ามันมีรสชาติระดับพรีเมียมเลย ของทุกอย่างที่อยู่ในระบบได้รับการรับรองทั้งรสชาติ หน้าตา และคุณภาพ แลกแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน คะแนนมีน้อย รุ่ยฉีเลยคิดว่าเอาแค่ไซซ์เล็กก็พอ แค่พอกินเช้านี้ เก็บคะแนนไว้แลกอะไรที่มันจำเป็นดีกว่า มือกำลังจะกดแลกไซซ์เล็ก ก็มีตัวหนังสือสีแดงแจ้งนาทีทอง ถ้าแลกไซซ์ L ตอนนี้จะได้ปาท่องโก๋แถมอีก 3 ตัว รวมเป็น 15 ตัว และยังมีนมข้นหวานแถมอีก 1 หลอด นาทีทองมีเวลาแค่ 3 นาทีเท่านั้น!!! แค่มีของแถมเพิ่มมาและมีเวลาบีบบังคับ นิ้วของรุ่ยฉีก็กดแลกทันที! จากตั้งใจเอาชุดเล็กแต่กลายเป็นชุดใหญ่ ภายในเวลาไม่ถึงนาที ของฟรีของแถมก็เปลี่ยนใจรุ่ยฉีได้แล้ว ทาสการตลาดโดยแท้ หลังจากเป็นทาสการตลาดของระบบแลกคะแนนมา จนตอนนี้เหลือ 600 คะแนนก็ไม่กล้าดูสินค้าอื่น กลัวมือเร็วใจเร็วไปกดแลกแบบไม่ยั้งคิดอีก รีบปิดหน้าต่างระบบมาดูชุดปาท่องโก๋ที่แลกมาเก็บในกำไลมิติ รุ่ยฉีหยิบออกมาเตรียมแค่ 5 ตัว และเอาน้ำเต้าหู้มาเทใส่แก้วเตรียมไว้ให้ครบ 4 แก้ว นอกนั้นรุ่ยฉีเก็บเข้ากำไลมิติไว้ เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปปลุกบรรดาเดอะแก๊งให้ตื่น

รุ่ยฉีปลุกเด็ก ๆ แล้วสั่งให้เด็ก ๆ เก็บที่นอน ช่วยกันพับให้เรียบร้อย ส่วนตัวรุ่ยฉีเดินเข้าไปเอาน้ำต้มที่ต้มเตรียมไว้แล้วเข้าไปผสมไว้ให้เด็ก ๆ ในห้องอาบน้ำไว้ล้างหน้าแปรงฟัน พอเสร็จก็เดินย้อนกลับมาดูความเรียบร้อยในห้องนอน ถามว่าเด็กอายุเท่านี้ทำเรียบร้อยไหม บอกเลยว่าไม่ แต่ต้องให้หัดทำ รุ่ยฉีค่อยมาเก็บใหม่อีกรอบให้เรียบร้อย รุ่ยฉีคิดว่าจะทำกิจกรรมอะไรเพื่อกระชับความสัมพันธ์ รอหลังจากกินมื้อเช้าเสร็จก่อนเถอะ ได้กระชับความสัมพันธ์แน่

"โห... ข้าวต้มแม่น่ากินมาก"

พอมานั่งกันที่โต๊ะกินข้าวแล้ว สมุนตัวน้อยก็เริ่มบทสนทนา รุ่ยฉีก็มองไปที่ชามโจ๊ก คือเธอต้มโจ๊กนะ แต่สมุนตัวน้อยมองเป็นข้าวต้ม!

"มีปาท่องโก๋กับนมด้วยหรอแม่" ตามด้วยตัวแทนหมู่บ้าน

"เช้านี้เรามีของกินเยอะเลยเนอะ" สมุนตัวน้อยยังคงเจื้อยแจ้ว ส่วนหัวหน้าแก๊งคงไม่ได้พกปากมาด้วย เพราะยังไม่ได้พูดอะไรเลย

"ทุกคน วันนี้มีโจ๊กและน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ ค่อย ๆ กิน ไม่ต้องรีบ ไม่อิ่มมีให้เติม" รุ่ยฉีบอกเด็ก ๆ พยายามบอกว่ามันคือโจ๊ก

"ไหนโจ๊ก... นี่ข้าวต้มชัด ๆ " แหม… เอาปากมาด้วยเหรอหัวหน้าแก๊ง ถ้าเอามาแล้วพูดแบบนี้อย่าเอามาด้วยเลย รุ่ยฉีก็ได้แต่คิดไม่ได้พูดออกไป

"ข้าวต้มก็ข้าวต้ม รีบกินเถอะ อย่ามัวแต่พูด"

รุ่ยฉีบอกเด็ก ๆ ให้เริ่มกินข้าว ต่างคนต่างก้มหน้ากินข้าวกันอย่างเงียบ ๆ เป็นระเบียบเรียบร้อย รุ่ยฉีก็กินไปด้วย สังเกตไปด้วย รุ่ยฉีมีความคิดจะพาเด็ก ๆ ออกกำลังกายในตอนเช้าในทุก ๆ เช้า จะได้มีกิจกรรมร่วมกัน แต่จะให้ไปวิ่งทั้งที่อากาศเย็นแบบนี้ รุ่ยฉีก็ไม่เห็นด้วยกับการวิ่งสักเท่าไร หรือจะเป็นโยคะดี ทำประจำรูปร่างดีด้วย ช่วยยืดเส้น มันเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งด้วย สามารถทำในบ้านได้ด้วย คิดแล้วก็ตัดสินใจโยคะนี่แหละทางเลือกที่ดี หลังจากละเมียดละไมกินข้าวกิน น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋กันเรียบร้อยแล้ว ก็เหมือนเดิม ช่วยกันเก็บทำความสะอาด พอเสร็จจากในครัว รุ่ยฉีก็ไล่ทุกคนไปเปลี่ยนชุด จากชุดนอนเป็นชุดอยู่บ้าน เพื่อที่จะได้เริ่มกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์แม่ลูก

[ระบบแนะนำให้โฮสต์พูดคุยกับเด็ก ๆ แทนตัวเองว่าแม่ เพื่อความสนิทสนม ความสัมพันธ์จะได้พัฒนาได้เร็ว]

"พูดมันง่าย... แต่เรียกแทนมันก็ง่ายแหละ ถ้าไม่คิดอะไรมาก แต่ก็กระดากปากนิด ๆ จะพยายามแล้วกัน" รุ่ยฉีบอกกับระบบไป

พอทุกคนเปลี่ยนเป็นชุดที่พร้อมทำกิจกรรม ก็ชุดเสื้อยืด กางกางวอร์มขายาวสำหรับเด็กนั่นแหละ แต่จะมีเสื้อคลุมกันหนาวคนละตัวเพิ่มมา ทุกอย่างเป็นของใหม่ที่รุ่ยฉีเตรียมมาจากกำไลมิติ ทุกคนใส่ชุดคล้าย ๆ กันหมด ตอนแรกเด็ก ๆ ไม่ยอม จะเปลี่ยน แต่พอรู้ว่าเป็นชุดใหม่ก็รีบกันโดยที่ไม่ต้องบอกซ้ำอีกรอบ พอทุกคนเตรียมตัวพร้อมและนั่งคุยกันที่ห้องโถงเพื่อบอกว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง ก็เริ่มมีการขัดแย้ง เสียงบ่น เสียงค้าน เสียงโอดครวญกันบ้างแหละ

"ทุกคน เห็นกองผ้าที่มุมหน้าห้องนอนนั่นไหม วันนี้เราจะช่วยกันแยกและซักตากให้เรียบร้อย ให้น่าใส่มากกว่าที่กองอยู่นั่น" รุ่ยฉีเริ่มพูดก่อน

"งานผู้หญิง ฉันเป็นผู้ชายไม่ทำงานอะไรแบบนี้หรอก" มาแล้วหัวหน้าแก๊ง

"ใช่ ๆ เราผู้ชายเนอะ ๆ " ตามติดมาด้วยสมุนตัวน้อย

"อะไร จะให้ฉันกับแม่ทำสองคนเหรอ... ผ้ากองตั้งเยอะ เหม็นก็เหม็น พวกผู้ชายตัวเหม็น! "เอาแล้ว ตัวแทนหมู่บ้านไม่ยอม!

......................................

ยังไม่ได้เริ่มกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์เลย เริ่มแตกคอกันแล้วทุกคน!!

ช่วยรุ่ยฉีด้วย!!!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   ตอนพิเศษ 3 ตัวป่วนแห่งยุค 70 (แก๊งมงกุฎ)

    ตอนพิเศษ 3ตัวป่วนแห่งยุค 70(แก๊งมงกุฎ)วันนี้รุ่ยฉีตื่นแต่เช้าเพื่อมาช่วยเฟยหรงเตรียมอาหารให้ลูก ๆ ของเธอที่จะไปทัศนศึกษา ดูเหมือนไปไกล แต่จริง ๆ แค่ภูเขาหลังบ้านเธอนี่แหละ และถามว่าไปทัศนศึกษากับโรงเรียนหรือยังไง ก็อยากจะหัวเราะดัง ๆ ว่าวันนี้โรงเรียนปิด ที่ว่าไปก็ไปกันทั้งบ้านนั่นแหละ แต่เพราะสองสาวที่กำลังเห่อการไปทัศนศึกษาที่ได้ไปกับโรงเรียนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เลยอยากไปอีก เฟยหรงผู้ไม่เคยห้ามลูกสาวก็ตามใจ พาไปทัศนศึกษาที่ภูเขาที่อยู่ติดกับหลังบ้านนี่แหละ"เย่วเย่วตื่นเต้นมากเลยค่ะ" สาวน้อยเย่วเย่วที่ดูตื่นเต้นกับการไปทัศนศึกษาหลังบ้านในครั้งนี้เฟยหรงที่เตรียมอาหารอยู่หันมาหัวเราะกับท่าทางของเย่วเย่ว"พร้อมหรือยัง" "พวกหนูพร้อมแล้วค่ะ... แต่น้องสาวฉิงฉิงยังไม่พร้อมค่ะ" เย่วเย่วตอบแม่ใหญ่น้องน้อยของเธอไม่ยอมใส่เสื้อผ้าที่เธอกับพี่สาวอาอีเตรียมให้ น้องน้อยจะเอาแต่สีแดง คุณครูบอกว่าเวลาขึ้นเขาเข้าป่าให้ใส่สีทึบเพื่อไม่ให้สัตว์ป่าตกใจ เพราะถ้ามันตกใจ มันอาจวิ่งมาทำร้ายเราได้ แต่น้องน้อยจะใส่สีที่แม้แต่ยืนอยู่โรงเรียนยังมองเห็น มันแดงมาก เธอไม่รู้จะบอกน้องน้อยยังไงดี"เดี๋ยวแม่ไปดู

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2ตอนนี้เฟยหรงอยู่ที่โรงพยาบาลในเมืองซูโจว เนื่องจากอยู่ ๆ แม่เฒ่าซ่งก็เกิดอาการชักเกร็งเป็นลมหมดสติไป ทำให้ต้องรีบหามส่งโรงพยาบาล อาการยังไม่แน่ชัดว่าเป็นยังไงบ้าง"เป็นยังไงบ้างพี่ใหญ่" เฟยหรงที่มาเจอกับพี่ชายคนโตก็ถามขึ้นทันทีที่เจอ"หมอยังไม่บอกอะไร พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้ฟื้นแล้ว แต่ยังมีอาการเหม่อลอย พูดบ่นอะไรไม่รู้ตลอดเวลา บางทีก็ทำอะไรแปลก ๆ " "แล้วแม่รู้เรื่องไหม รู้ตัวไหมเวลาที่ทำ""รู้ตัวเป็นบางครั้ง บางครั้งก็ไม่รู้ตัว เข้าไปพร้อมกันไหม หมอเพิ่งให้เข้าเยี่ยม" "ครับ"พอเข้าไปในห้องพักคนไข้ก็เห็นแม่ของเขาที่นั่งเหม่อลอยมองออกไปข้างนอก ช่วงก่อนพี่ใหญ่จะถูกปล่อยตัว แม่ต้องเก็บตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ คนเดียว ลูกหลานไม่มีใครเข้าหา เพราะทุกคนกลัวแม่หาเรื่องหรือหาปัญหามาให้ พี่น้องทุกคนแยกบ้านกันอยู่เพราะไม่อยากให้มีปัญหา แวะเวียนมาหาเยี่ยมแม่เป็นบางครั้ง จนพี่ใหญ่กลับมานี่แหละที่เข้ามาดูแลมาหาบ่อย ๆ ทั้งสองคนเลยเดินไปนั่งลงข้าง ๆ"แม่หิวไหม ผมซื้อข้าวต้มกับขนมมาให้" ลูกชายคนโตเอ่ยถามแม่"หรือจะกินผลไม้ น้องสี่เอามาให้เยอะแยะเลย" เมื่อเขาเห็นแม่ยังนั่งเงียบ เขาเลยพูด

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1ตอนนี้รุ่ยฉีและทุกคนในครอบครัวกลับมาเที่ยวเมืองซูโจว ซึ่งได้กลับมาอยู่บ้านหลังเดิมในหมู่บ้านที่ตอนแรกตั้งใจจะขาย ติดประกาศขายไว้นาน แต่ก็ยังไม่มีคนมาติดต่อซื้อ อาจเพราะราคาที่เธอตั้งไว้มันค่อนข้างสูงเกินไป จึงทำให้ชาวบ้านไม่ซื้อกัน พวกเราเลยตัดสินใจเก็บบ้านไว้จ้างคนมาดูแลทำความสะอาดประจำ มีโอกาสก็กลับมาพัก และรุ่ยฉีรู้สึกว่าที่นี่ยังมีความทรงจำดี ๆ ถึงตอนแรกจะตัดสินใจขาย แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ก็ใจหาย ยังดีที่ไม่มีคนมาซื้อ และตอนนี้รุ่ยฉีได้คลอดลูกสาวแล้ว แต่จะเป็นลูกสาวขี้อายไหม อันนี้ไม่อยากพูด..."หม่ำ หม่ำ" 'ซ่งอ้ายฉิง' ลูกสาวขี้อาย (มั้ง) ของเธอเอง หรือที่ทุกคนเรียกว่า 'ฉิงฉิง'ตอนนี้อ้ายฉิงอายุ 9 เดือนแล้ว กำลังกินข้าวบดที่รุ่ยฉีแลกมาจากร้านค้าในระบบ กินเก่งเหมือนสมุนตัวน้อย ขี้โวยวาย แค่ป้อนไม่ทันใจก็ร้องหม่ำหม่ำแล้ว มือเร็วที่สุด ถ้าชามอยู่ใกล้เป็นต้องเอามืออ้วน ๆ ขาว ๆ นั่นมาคว้าทันที คิดว่าขี้อายไหมล่ะ... รุ่ยฉีอยากจะหัวเราะ ถึงยังไงพ่อกับพี่ก็ยังเรียกลูกสาวขี้อาย น้องสาวขี้อาย..."ใจเย็น ๆ นะครับลูก" เฟยหรงที่ทำหน้าที่ป้อนข้าวบดลูกสาวพยายามบอกให้ลูกสาวใจเย็น ๆ"แอ๊ ๆ

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   บทที่ 52 บทส่งท้าย เติบโตและก้าวไปด้วยกัน

    บทที่ 52 บทส่งท้ายเติบโตและก้าวไปด้วยกันรุ่ยฉีเจอเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างทำให้เธอคิดได้ว่าไม่ควรช่วยคนสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะบางคนช่วยมาแล้วก็มาสร้างความเดือดร้อน มาสร้างปัญหาให้ภายหลัง ช่วงหลังมานี้ รุ่ยฉีแทบไม่ออกไปไหนและไม่ช่วยใคร นอกจากเด็กเร่ร่อนที่หนิงหลงช่วยมาจากการถูกลักพาตัวไปแล้วมาขอความช่วยเหลือจากโรงเรียนของเธอ เรื่องนี้รุ่ยฉีปฏิเสธไม่ได้ เพราะเธอสงสารเด็กด้วย และอีกอย่างเรื่องช่วยเหลือเด็กเร่ร่อนคือภารกิจใหม่และภารกิจหลักของเธอในตอนนี้ เผื่อเรื่องนี้จะอนุมัติ ระบบของเธอยื่นเรื่องไปถึงสองปีกว่า ๆ แต่ก็ถือว่าคุ้ม ได้ช่วยเด็ก ๆ ตอนนี้เธอช่วยแค่เด็ก ๆ ส่วนคนโตนั้น เธอไม่อยากหาปัญหามาให้ตัวเองปวดหัวอีกแล้วตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว รุ่ยฉีแทบไม่ต้องทำอะไรมาก ลูก ๆ ของเธอโตขึ้นมาบ้างแล้ว และมีแนวโน้มจะไปในทางที่ดี หัวหน้าแก๊งของเรา 11 ขวบ โตขึ้น สูงขึ้น เข้มขึ้นแต่ยังพูดน้อยเหมือนเดิม ซิงอีกับเย่วเย่วอายุ 10 ขวบเริ่มสูงขึ้น ซิงอีมีแววสวยเฉี่ยวตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว และในอนาคตดูท่าทางซิงอีจะเป็นสาวมั่นตัวแม่แน่ ๆ เย่วน้อยของเรานั้นเป็นสาวหวานทั้งหน้าตาท่าทางและการพ

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   บทที่ 51 ไม่ถอดใจ... ไม่หมดหวัง

    บทที่ 51 ไม่ถอดใจ... ไม่หมดหวังจากเหตุการณ์สะดุดอากาศล้มในวันนั้น ทำให้เจียวจูได้ทหารคนนั้นเป็นสามี ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงได้รวดเร็วทันใจขนาดนั้น ก็เพราะสองสาวที่ตะโกนลั่นโรงเรียนให้คุณครูไปช่วยลุงทหาร ทั้งวิ่งทั้งตะโกนไปทั่วโรงเรียนจนคนรีบตามมาช่วยและได้เห็นทั้งสองที่กอดรัดกันอยู่ เมื่อมีคนมาเป็นสักขีพยานมากมาย เจียวจูเลยได้นายทหารคนนั้นเป็นสามี รุ่ยฉีไม่อยากจะคิดเลย ถ้ายอมให้เธอทำงานที่บ้านต่อจะเป็นยังไง ยังดีที่รีบบอกให้ไปช่วยงานที่อื่น ไม่อย่างนั้นคนที่โดนเจียวจูล้มทับอาจเป็นเฟยหรงก็ได้ ใครจะไปรู้ตอนนี้หลาย ๆ อย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางบ้างแล้ว โรงเรียนก็มีครูใหญ่เป็นคนดูแลจัดการให้ ส่วนโรงพยาบาลก็เริ่มมีหมอ มีพยาบาลผู้ช่วย แต่ก็ยังไม่ได้เปิดแบบเป็นทางการ รุ่ยฉีอย่างให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป"แม่ใหญ่คะ... วันนี้โรงเรียนหยุดเหรอคะ" เย่วน้อยที่นั่งกินบิสกิตจิ้มนมพูดขึ้น"ใช่ค่ะ" รุ่ยฉีตอบกลับเย่วน้อย"คุณครูบอกว่าใกล้วันกีฬาสี... ต้องขยันซ้อม" อาอีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นรุ่ยฉีก็นึกขึ้นมาได้ว่าโรงเรียนจะจัดกีฬาสี ถึงจะมีนักเรียนน้อยแต่ก็ทำกิจกรรมทุกอย่างเหมือนโรงเรีย

  • ภารกิจเปลี่ยนบุตรตัวร้ายให้เป็นสุดที่รัก   บทที่ 50 สะดุดอากาศ

    บทที่ 50 สะดุดอากาศตั้งแต่วันนั้นที่รุ่ยฉีเห็นบรรยากาศแปลก ๆ บนโต๊ะกับข้าว เธอก็คอยสังเกตดูตลอดว่ามันมีอะไรผิดปกติบ้างไหม เจียวจูยังทำงานที่บ้านเธอตามปกติ แต่ส่วนมากเหมือนเธอจะหลบหน้ารุ่ยฉี แต่รุ่ยฉีก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นแบบที่เธอสงสัยหรือเปล่า และอีกอย่าง ตอนนี้เฟยหรงก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน เพราะต้องออกไปประสานงานให้เธอในหลาย ๆ เรื่อง"เจียวจู ตั้งแต่พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานที่นี่แล้วนะ ไปช่วยงานที่โรงเรียนได้เลย ฉันแจ้งครูใหญ่ให้แล้ว""ไม่ค่ะ... ฉันชอบทำที่นี่""แต่ฉันให้เธอไป! ถ้าไม่ทำก็ไปอยู่ที่อื่น" บอกดี ๆ ไม่ชอบ... ไปไม่ไป!"แต่คุณเฟยหรงชอบที่ฉันทำอาหารที่มีผักให้เด็ก ๆ กินนะคะ" เจียวจูไม่ยอมไปง่าย ๆ"เขาบอกตอนไหน! " รุ่ยฉีถามกลับกินผักมันก็ดีอันนี้รุ่ยฉีไม่เถียง แต่ใครก็ทำเมนูผักได้ไม่ใช่หรอ"บอกทุกวันค่ะ""คุณหลงครับ... คุณหลงอยู่ไหมครับ"รุ่ยฉียังไม่ทันได้พูดอะไรกับเจียวจู เพราะมีคนมาตะโกนเรียก น่าจะเป็นครูใหญ่เพราะเธอจำเสียงนี้ได้"เข้ามาก่อนค่ะ" พอเห็นว่าเป็นใคร รุ่ยฉีก็เชิญเข้าบ้านแล้วพาไปที่ห้องรับแขกเจียวจูพอเห็นว่าครูใหญ่มาก็เอาน้ำออกมาต้อนรับ พอเสร็จก็ออกจากห้องรับแขกทั

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status