Beranda / โรแมนติก / ภูริชหวงรัก / บทที่ 3 สมหวังสักที

Share

บทที่ 3 สมหวังสักที

Penulis: Fortune_289
last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-16 21:30:21

ใช้เวลาอยู่ในร้านหมูกระทะประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง พ่อเลี้ยงภูริชก็รู้สึกเบื่อแล้วก็เริ่มเวียนหัวกลิ่นควัน เริ่มรบเร้าเด็กในความดูแลให้กลับ โดยปกติถึงแม้ว่าจะกินอิ่มแต่เธอจะนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ต่ออีกเป็นชั่วโมง แต่ด้วยความที่มากับผู้ปกครองก็ต้องตามใจเขาหน่อย และที่สำคัญคือมื้อนี้เขาเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด บรรดาเพื่อนของเธอยิ้มแก้มปริดูอารมณ์ดีกันมาก แถมยังคะยั้นคะยอให้เธอรีบกลับบ้านไปกับเขาอีก

"คราวนี้ไม่เห็นจะเรียกร้องให้ฉันอยู่เลย"

"เอาน่า มื้อนี้พวกฉันกินฟรีนะยะ แล้วเจอกันอีกทีวันงานเลี้ยงประจำปีของไร่ชานะ"

"อืม เจอกันนะ"

เธอโบกไม้โบกมือลาเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กำลังจะเตรียมตัวกลับกัน ทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะพากันลุกขึ้นเดินออกมายังเคาน์เตอร์ซึ่งตอนนี้พ่อเลี้ยงภูริชกำลังชำระเงินอยู่

"ขอบคุณมากเลยนะคะพ่อเลี้ยง วันนี้พวกหนูอิ่มกันมากเลยค่ะ"

"ไม่เป็นไรเลยค่ะ เอาไว้ไปกินที่งานประจำปีโน่น รับรองว่าอาหารถูกปากกินกันพุงกางไปเลย"

ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็ก ๆ ทั้งหลาย ความจริงในวัยอายุแบบเขาน่าจะคุยกับเด็กวัยนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว แต่ด้วยความที่อยากปรับตัวให้เข้ากับแบมบี๋ได้ จึงจำเป็นที่จะต้องทันโลกอยู่ตลอด อะไรที่เป็นเทคโนโลยีมาใหม่ หรือแม้กระทั่งของแบรนด์เนม collection ใหม่ เขาก็จะต้องตามให้ทันเพื่อเอาอกเอาใจเด็กในความดูแล

"ขอบคุณมากเลยนะคะ วันนี้แดดดี้ใจดีมากเลยค่ะ"

แบมบี๋ยิ้มออกมาด้วยความอารมณ์ดี แดดดี้ของเธอโดยปกติก็เป็นคนใจดีแบบนี้แหละ แต่ด้วยความที่ช่วงหลังเธอไม่ได้ออกมาพบเจอเพื่อนฝูง และเขาเองก็ค่อนข้างมีงานยุ่ง ก็เลยไม่ได้ออกมาเปิดหูเปิดตาแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่เขามากับเธอก็จะเป็นเจ้ามือแบบนี้ตลอด

"ก็ใจดีแบบนี้อยู่แล้ว แล้วเราล่ะเมื่อไหร่จะใจอ่อน"

"ชิ~ กลับกันเถอะค่ะ"

หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาอย่างเขินอาย ก่อนจะพากันเดินควงแขนตรงไปยังรถที่จอดอยู่ตรงหน้าร้าน แล้ววันนี้เขาขับรถนำเข้าหลักสิบล้านออกมา โดยปกติจะขับแค่รถกระบะคันเก่าของไร่เท่านั้น ซึ่งรถคันนี้มีดีไซน์เรียบหรูและทันสมัย สีภายนอกเป็นสีดำเงางามสะท้อนแสงไฟจากถนน

"เข้าไปได้แล้วค่ะ"

"ขอบคุณค่ะ"

พ่อเลี้ยงภูริชเปิดประตูให้หญิงสาวเข้าไปนั่งอยู่ข้างใน กลิ่นของเครื่องหนังแทบตีขึ้นจมูก เพราะตั้งแต่ซื้อมาเขาขับเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง อากาศเย็นสบายจนแบมบี๋เผลอเคลิ้มหลับไป

ชายหนุ่มเดินอ้อมมายังฝั่งคนขับจากนั้นก็ทำการสตาร์ทรถและขับออกไปทันที ระหว่างทางทั้งคู่ก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งประเด็นหลักที่จะคุยกันก็น่าจะเป็นเรื่องอนาคตของทั้งคู่

"พี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม"

"คะ... ว่ามาสิคะ"

หญิงสาวเหลือบสายตาหันไปมองด้วยความสงสัย

"ทำไมหนูถึงไม่ยอมเป็นเมียพี่สักที พี่ไม่ดีตรงไหนหรือว่าพี่อายุมากเกินไป"

เขาเอ่ยถามหญิงสาวไปตามตรง เอาจริงมันก็รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่รับรู้ว่าเราสองคนอายุค่อนข้างห่างกันเยอะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ถ้าเลือกได้เขาก็คงอยากเกิดห่างจากเธอเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นอุปสรรคหลักที่เธอไม่ยอมรับรักเขาสักที

"มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าอายุมากเกินหรอกค่ะ แดดดี้ยังดูหนุ่มแน่นอยู่เลย แต่เป็นหนูเองมากกว่าที่เด็กจนเกินไป ไม่เหมาะสมกับพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภูริชเลยแม้แต่น้อย"

เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ถ้าถามว่าความรู้สึกของเธอในตอนนี้เป็นยังไง บอกเลยว่าทั้งหัวใจมีแค่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะปากแข็งและใจร้ายกับเธอในอดีต แต่ทุกสิ่งที่เขาทำคือรักและหวังดีกับเธอในทุกเรื่อง

"ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย แค่เราสองคนรักกันมันไม่มีอะไรที่เป็นปัญหาเลยนะ"

เขายื่นมือมากุมมือหญิงสาวเอาไว้ หันไปมองสบตาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างออกมา

"พี่แค่อยากรู้ว่าบี๋คิดกับพี่เหมือนกับที่พี่คิดหรือเปล่า"

"แล้วแดดดี้คิดอะไรล่ะคะ"

เธอเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง ซึ่งเรื่องความสัมพันธ์ที่มันคลุมเครือของเราทั้งคู่ มันคาราคาซังมาโดยตลอดไม่จบสิ้นสักที บางทีวันนี้อาจจะเป็นการเคลียร์ครั้งสุดท้ายก็ได้ วัยอายุของพ่อเลี้ยงไม่ใช่น้อย ๆ ถ้าเกิดเขาจะต้องมารอแบบไม่มีจุดหมาย ก็คงจะต้องโสดจนขึ้นคานไปเลยอย่างที่เคยรับปากกับเพื่อนรัก แต่คงทำใจไม่ได้ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งต้องเห็นผู้หญิงที่เขารักแต่งงานเป็นของคนอื่น

"ก็แดดดี้รักหนูไง ไม่รู้หรอกว่ารักตอนไหน รู้แค่ว่าตอนนี้รักก็พอแล้ว"

และเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ระบายยิ้มออกมาก่อนจะซบใบหน้าลงกับไหล่กว้าง

"แบมก็รักแดดดี้ค่ะ หัวใจดวงนี้ไม่เคยมีใครเลยนอกจากแดดดี้คนเดียว ถ้าเกิดแดดดี้ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องอายุของหนู ก็คงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วค่ะ"

"หมายความว่าหนูรับรักพี่แล้วถูกไหม"

เขาเองก็ลุ้นในคำตอบของเธอเป็นอย่างมาก จึงต้องถามกลับเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับชายคนรัก ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

"ใช่ค่ะ"

"น่ารักที่สุดเลย รู้งี้พามากินหมูกระทะนานแล้ว ไม่ปล่อยให้นานขนาดนี้หรอก"

"มันไม่ได้เกี่ยวกับหมูกระทะสักหน่อย เฮ้อ! แดดดี้เนี่ยนะ"

ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เธอไม่อยากจะบ่ายเบี่ยงกับเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว ถ้าหัวบอกว่าใช่ มันไม่มีอะไรที่เธอกับเขาจะต้องปฏิเสธมันอีกต่อไป แค่ยอมรับหัวใจของตัวเองเท่านั้น จากนี้ทั้งคู่ก็จะได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างเปิดเผยสถานะ ไม่ต้องคลุมเครือแบบนี้อีก ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งสองคนใช้ชีวิตเหมือนคู่รักทั่วไป ตามหึงหวงไปรับไปส่งกันตลอด ใครก็มองว่าแบมบี๋เนี่ยแหละคือนายหญิงของไร่ในอนาคต และคงไม่ผิดคาดไปจากที่เดาสักเท่าไหร่ เพราะในที่สุดทั้งสองคนก็สมหวังกันสักที

"ถึงแล้วลงมาค่ะ"

"ค่ะ แดดดี้ไปอาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนนะคะ พรุ่งนี้เช้าจะได้สดชื่น มีประชุมตอนเก้าโมงเช้านะคะเรื่องงานเลี้ยงประจำปีของไร่ชาค่ะ"

"ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวพี่กลับห้องก่อนนะ"

"ค่ะ แยกกันตรงนี้นะคะ"

เธอยื่นริมฝีปากไปจุ๊บแก้มชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน ใบหน้านั้นแดงก่ำด้วยความเขินอายก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนด้วยความรวดเร็ว พ่อเลี้ยงภูริชยิ้มมุมปากออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ มองตามหญิงสาวไปจนลับสายตาก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ

"อาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนเหรอ... หึ ฝันไปเถอะ"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 42 ต้าวแฝดสาม จบบริบูรณ์

    ทั้งสามคนถึงกับร้องกรี๊ดออกมาเสียงดังลั่นห้องอัลตราซาวนด์ ได้รับข่าวดีแรกก็คือหญิงสาวกำลังตั้งครรภ์ แต่ก็ต้องมาช็อกอีกครั้งเมื่อได้รับรู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด 3 มาทีเดียวพร้อมปิดอู่ได้เลย ใครจะไม่ดีใจบ้างก็ให้มันรู้ไปสิ"หนูเราจะได้ลูกแฝด 3""ดีใจจังเลยค่ะมาทีเดียวพร้อมกัน 3 คนเลย ถ้าเป็นแบบนี้ก็ท้องแค่ครั้งเดียวพอ หนูจะได้ไม่เหนื่อยคลอดหลายรอบดีไหมคะ""แบบนี้แหละดีค่ะหนูจะได้ไม่ทรมานหลายครั้ง คุณหมอแล้วแบบนี้เราจะต้องดูแลยังไงบ้างครับ ผมต้องมาพบคุณหมอทุกอาทิตย์หรือเปล่า"เขาหันไปคุยกับคุณหมอทันที เพราะอยากจะทราบวิธีการดูแลคุณแม่ที่ท้องลูกแฝดสาม เขาเคยอ่านมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณแม่จะอุ้มเด็กน้อยอยู่ในท้องด้วยกันถึง 3 คน การดูแลจะต้องมากกว่าคนท้องปกติ และก็มีความเสี่ยงเช่นกัน"ไม่ต้องห่วงนะครับทางเราจะดูแลคุณแม่แล้วก็เจ้าตัวเล็กอย่างดีที่สุด แต่ว่าอาจจะต้องนัดบ่อยอยู่นะครับ เพราะว่าเป็นครรภ์แฝดมีความเสี่ยงมากกว่าครรภ์ปกติ""ไม่เป็นอะไรเลยครับ ขอแค่ลูกของผมกับภรรยาปลอดภัย คุณหมอแนะนำมาได้เลยครับว่าต้องดูแลยังไง คงยินดีที่จะทำตามที่คุณหมอแนะนำทุกอย่าง""ได้เลยครับถ้าอย่างนั้นเชิญท

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 41 เบบี๋มาแล้ว

    หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จสองแม่ลูกก็พากันเดินทางมาที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เล่นเอาตื่นเต้นกันไม่น้อยเลยเพราะถ้าเกิดว่าลูกสาวเกิดท้องขึ้นมา คงจะเป็นข่าวดีที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว พ่อเลี้ยงภูริชเองก็ลุ้นอยู่ทุกวันว่าภรรยาจะท้องในที่สุด เธอภาวนาตั้งแต่ออกจากร้านอาหารจนมาถึงที่โรงพยาบาล ขอให้เด็กมาเกิดในท้องของเธอด้วยเถิด"ขอให้ท้องเถอะค่ะ หนูอยากให้พ่อเลี้ยงดีใจ""แม่ก็ขอให้หนูท้องนะ รีบไปกันเถอะแม่ตื่นเต้นจะแย่แล้วเนี่ย"ทั้งสองคนเดินเข้าไปด้วยความตื่นเต้น และเมื่อมาถึงก็ยื่นเอกสารให้เรียบร้อย จากนั้นพยาบาลก็พามายังห้องตรวจสูตินรีเวช คุณหมอให้ตรวจปัสสาวะเข้ามาก่อน ซึ่งมีพยาบาลคอยจัดการให้ทุกอย่าง จะได้เข้าไปฟังผลทีเดียวไม่ต้องเสียเวลา"เดี๋ยวคุณแบมเก็บปัสสาวะให้พยาบาลหน่อยนะคะ จะได้ส่งห้องแล็บตรวจ ผลจะได้ออกเร็วค่ะ""ขอบคุณค่ะคุณพยาบาล"เธอรับแก้วมาถือไว้ในมือ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการเก็บปัสสาวะของตัวเองส่งให้พยาบาล ใบหน้านั้นดูตื่นเต้นไม่น้อยเลย ตอนแรกว่าจะโทรศัพท์ให้พ่อเลี้ยงมาหาที่โรงพยาบาล แต่พอคิดดูอีกทีให้ผลมันออกไปที่แน่ชัดก่อน เพราะถ้าเกิดว่าไม่ท้องขึ้นมา เขาอาจจะร

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 40 อาการแปลกๆ ๆ

    หนึ่งเดือนต่อมา...แบมบี๋ในชุดทำงานมาดนักธุรกิจ ในมือถือแฟ้มเอกสารเดินออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับคุณแม่ ส่วนสามีของเธอวันนี้เดินทางไปคุยกับลูกค้า พอเวลาผ่านไปก็เริ่มปรับตัวกันได้ คุณแม่ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯเป็นหลัก โดยมีคุณแม่ของพ่อเลี้ยงภูริชคอยอยู่เป็นเพื่อน จึงทำให้สองสามีภรรยาหมดห่วง มีแม่นมคอยดูแลคุณแม่ของเธออีกแรงหนึ่ง ทำให้เธอค่อนข้างจะรู้สึกสบายใจในการเดินทางแต่ละครั้ง ไม่ต้องห่วงคนนั้นคนนี้ไปทั่วเหมือนเมื่อก่อน"เที่ยงแล้วหนูจะกินข้าวหรือยังลูก หรือว่าจะรอสามี""กินข้าวกับแม่ก็ได้ค่ะ แดดดี้น่าจะคุยงานกับลูกค้านานค่ะ หนูคิดว่าตอนนี้น่าจะกินข้าวกับลูกค้าไปแล้วด้วย"เธอตอบกลับคุณแม่พร้อมกับกุมมือท่านพาเดินไปด้วยกัน ตั้งแต่ที่เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ชีวิตของเราสองแม่ลูกก็กลับมาสู่ความสงบ คุณหญิงกิ่งแก้วและลูกสาวก็ได้รับกรรมที่ก่อไว้ โทษที่ได้รับก็สาสมกับสิ่งที่เธอคิดร้ายกับคนอื่น หวังว่าออกมาจากคุกจะเลิกวุ่นวายกับครอบครัวของเรา ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง"ถ้าอย่างนั้นเราไปกินข้างนอกกันไหม""ก็ดีนะคะแม่ ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะคะ"สองแม่ลูกควงแขนพากันเดินออกไปขึ้นรถที่จ

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 39 ปั๊มลูกกันเถอะ NC+

    หลังจากที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี แบมบี๋และพ่อเลี้ยงภูริชก็เดินทางกลับมาที่ไร่ ส่วนคุณแม่ของเธอได้รับอำนาจจากลูกสาวในการขึ้นไปบริหารบริษัทอีกคน เห็นแบบนั้นแต่ว่าเธออยู่กับบริษัทมาตั้งแต่แรกเริ่มยังไม่มีอะไรด้วยซ้ำ เรียนรู้งานพร้อมกับสามีจนมีได้อย่างทุกวันนี้ ก็ไม่แปลกใจทำไมเธอถึงบริหารงานแทนลูกสาวได้ โชคดีที่มีทนายรักษ์และผู้ช่วยคนสนิทคนเก่าของคุณพ่อ คอยอยู่เคียงข้างและแนะนำทุกอย่างจนทำให้แบมบี๋สามารถกลับมาอยู่ที่ไร่ภูริชได้ แต่ก็เดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯกับเชียงราย เนื่องจากว่าเธอไม่กล้าทิ้งคุณแม่อยู่คนเดียว แต่ยังไงก็ต้องกลับมาที่ไร่เพราะเธอมีธุรกิจอยู่ที่นี่อีกนั่นก็คือโฮมสเตย์และคาเฟ่ ไม่สามารถจะทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปได้ เธอกับพ่อเลี้ยงตกลงกันว่าเราจะเดินทางไปมาแบบนี้แหละ แล้วก็จะมีลูกหลายคนจะได้มาช่วยกันบริหารธุรกิจที่มีในอนาคต"บี๋เมื่อไหร่หนูจะมีลูกให้พี่สักที"เขาเอ่ยออกมาเสียงออดอ้อน ตั้งแต่ที่มีอะไรกันเขากับภรรยาไม่ได้ป้องกันเลยด้วยซ้ำ ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเด็กน้อยถึงไม่ยอมมาสักที หรือเพราะว่าเขาไร้น้ำยาเธอจึงไม่ท้องสักที"หนูก็ไม่ได้กินยาคุมหรือว่าป้องกันเลยนี่คะ ใจเย็นก

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 38 ทุกอย่างกลับมาอยู่ในความสงบ

    เจ้าหน้าที่ตำรวจลากสองแม่ลูกให้ไปขึ้นรถ จากนั้นก็พาเดินทางไปยังสถานีตำรวจต่อ ดูท่าทางจะรอดยาก เพราะหลักฐานที่แดนเก็บไว้หลายอย่าง น่าจะทำให้ทั้งสองคนสำนึกผิดอยู่ในคุกนานพอสมควร"แม่จ๋า"แบมบี๋วิ่งเข้าไปสวมกอดคุณแม่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เรื่องนี้ตัวเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน วางแผนกันมาอยู่สักพักใหญ่ เล่นละครหลอกคุณหญิงกิ่งแก้วแล้วก็ลูกสาวเพื่อให้ตายใจ เพื่อที่จะได้จัดการรวบรัดทีเดียว"หนูเจ็บตรงไหนไหม แม่นึกว่าเราจะไม่รอดซะแล้ว"คุณหญิงกวาเอ่ยออกมาพร้อมกับลูบแก้มลูกสาวทั้งสองข้าง รู้สึกเป็นห่วงลูกเสียเหลือเกิน ถ้าครั้งนี้เราสองคนไม่มีชีวิตรอดกลับไป เธอคงรู้สึกผิดมากที่ไม่สามารถทำให้แบมบี๋ได้ใช้ชีวิตเหมือนอย่างคนอื่น"หนูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะแม่"เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก ในที่สุดเราสองคนก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข คนที่เคยคิดร้ายก็แพ้ภัยตัวเองไป หลังจากนี้ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีเถอะ อย่ามีเรื่องราวเลวร้ายเข้ามาในชีวิตอีกเลย"เดี๋ยวผมจะพาคุณหญิงกิ่งแก้วกับลูกสาวไปก่อนนะครับ ถ้าเกิดว่าทางนี้พร้อมเมื่อไหร่ก็ไปให้ปากคำได้เลย""ขอบคุณมากเลยนะครับคุณตำรวจ"พ่อเลี้ยง

  • ภูริชหวงรัก   บทที่ 37 ความจริงทุกอย่าง

    คุณหญิงและลูกสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาก่อนจะใส่กุญแจมือของทั้งคู่รวมถึงพวกชายฉกรรจ์อีก 5 คน โดยที่เอามือไขว้ไว้ข้างหลังทั้งสองข้าง และคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คือพ่อเลี้ยงภูริช"แดดดี้!"เธอตะโกนเรียกชายคนรักด้วยน้ำเสียงดีใจ เขารีบวิ่งเข้ามาก่อนจะรีบแก้มัดให้กับหญิงสาวและคุณแม่ของเธอ เมื่อเป็นอิสระแบมบี๋ก็สวมกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น"หนูเป็นอะไรได้เปล่า เจ็บตรงไหนไหม""ไม่ค่ะ หนูไม่เป็นอะไร"เธอสวมกอดคนรักเอาไว้แน่น ใบหน้ายิ้มออกมาอย่างดีใจที่เขามาได้ทันเวลา ซึ่งไม่รู้ว่าถ้ามาช้ากว่านี้เธอกับแม่อาจจะถูกพาไปชายแดนแล้ว"คุณแม่เป็นหรือเปล่าครับ""ไม่เป็นอะไรค่ะ ว่าแต่นี่มันอะไรกัน"ทุกคนดูมีความสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะดูพ่อเลี้ยงภูริชจะเป็นห่วงแบมบี๋อย่างออกนอกหน้าทั้งที่เป็นอันรู้กันว่าทั้งสองคนหย่าร้างกันไปแล้ว ที่สำคัญมาช่วยได้ทันเวลาอีก ตอนแรกเห็นทะเลาะกันไม่เจอกันเลย คิดว่าเขาจะมาที่นี่ได้ด้วยซ้ำ"ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า กล้าดียังไงมาจับฉัน รู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร ถ้าพวกแกยังไม่ปล่อยเดี๋ยวฉันจะฟ้องเจ้านายพวกแกให้หมดเลย"คุณหญิงสะบัดตัวเองให้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status