แชร์

มรสุมรัก CEO ซาตาน
มรสุมรัก CEO ซาตาน
ผู้แต่ง: เกาะลอยน้ำ

บทที่ 1

ผู้เขียน: เกาะลอยน้ำ
ลูกสาวของเธอได้จากไปแล้ว

ไม่มีงานไว้อาลัย ไม่มีการฝังร่าง ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อที่ฝังธรรมดาสักที่

มีเพียงโกศสีดำหนึ่งอัน ใส่ทุกอย่างที่เหลืออยู่ของกั่วกั่วลูกสาวเธอ

ในโทรทัศน์ของสถานฌาปนกิจ กำลังถ่ายทอดสดงานแต่งที่หรูหรายิ่งใหญ่ เจ้าบ่าวคืออดีตสามีที่เพิ่งหย่ากับเธอ และเป็นพ่อแท้ ๆ ของกั่วกั่ว ส่วนเจ้าสาว คือรักแรกที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอด

ในที่สุด เขาก็สมหวังเสียที

เซิ่นหรูซวง อุ้มโกศที่บรรจุอัฐิออกมาจากสถานฌาปนกิจ ภายนอกฝนกำลังตก

หญิงสาวพนักงานที่ทำงานในสถานฌาปนกิจ ลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ถามออกมาด้วยความเป็นห่วงว่า:

"คุณผู้หญิง ข้างนอกฝนตกหนักมาก มีใครมารับคุณไหมคะ?"

เซิ่นหรูซวงก้มลงมองโกศอัฐิ ใบหน้าซีดเซียว

ไม่มีใครหรอก ญาติคนเดียวที่เธอมี กำลังแต่งงานกับแฟนคนแรกของเขา เขาไม่มีแม้แต่เวลาจะสนใจเธอกับลูก แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าลูกสาวได้จากไปแล้ว

ต่อให้เขาว่าง เขาก็ไม่มีทางมารับเธออยู่ดี

ซิงจือเหยียนเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ

เกลียดแม้กระทั่งเงาของเธอ

ไม่กี่วันก่อน เว่ยอวิ่นลู่ขับรถพาลูกชายของเธอ พุ่งชนกับรถบัสที่เซิ่นหรูซวงและกั่วกั่วโดยสารอยู่ กั่วกั่วได้รับบาดเจ็บสาหัส หมดสติในที่เกิดเหตุ

ท่ามกลางหมู่ฝูงชน เธอมองเห็นซิงจือเหยียนในทันที

เหมือนเป็นความหวังสุดท้ายของเธอ พลันพุ่งเข้าไปหาเขา "จือเหยียน กั่วกั่วได้รับบาดเจ็บ เธอใกล้จะไม่รอดแล้ว ได้โปรด ช่วยพาเธอไปโรงพยาบาลทีเถอะ"

แต่ซิงจือเหยียนกลับผลักเธอออกอย่างแรง หัวของเธอกระแทกกับพื้นในทันที รู้สึกเวียนหัวจนหน้ามืดไปหมด

"เซิ่นหรูซวง มุกแกล้งบ้าแบบนี้ มันตกยุคไปแล้ว"

พูดจบ เขาก็มองไปรอบ ๆ อย่างลุกลี้ลุกลน รีบอุ้มลูกชายของเว่ยอวิ่นลู่ แล้วเดินไปทางรถพยาบาลทันที

เซิ่นหรูซวงเวียนหัวจนแทบยืนไม่ไหว เอื้อมมือไปคว้าขากางเกงของซิงจือเหยียนไว้แน่น ด้วยท่าทีต่ำต้อยดั่งฝุ่นบนดิน

"ฉันขอร้องล่ะ กั่วกั่วใกล้จะไม่รอดแล้วนะ... เธอก็เป็นลูกสาวของนายเหมือนกันไม่ใช่เหรอ"

ซิงจือเหยียนไม่เชื่อแม้แต่นิด จ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา "เซิ่นหรูซวง ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหม ว่าทั้งชีวิตนี้ ลูกเพียงคนเดียวของฉัน มีแค่คนที่ลู่ลู่เป็นคนให้กำเนิด"

"เธอ และลูกที่เธอคลอดออกมา ก็เป็นแค่ขยะที่ฉันไม่ต้องการ แล้วก็ เธอรีบเอาใบหย่ามาให้ฉันซะ"

พูดจบ เขาจึงถีบเซิ่นหรูซวงออกไป แล้วอุ้มเด็กชายที่มีแค่แผลถลอกเล็กน้อยขึ้นรถพยาบาลไป

เซิ่นหรูซวงรู้สึกสิ้นหวังราวกับไร้ซึ่งหัวใจ ท้ายที่สุด เพราะเธอพาลูกส่งโรงพยาบาลช้าไปครึ่งชั่วโมง กั่วกั่วเลยไม่ได้รับการช่วยชีวิตทันเวลา และจากไปในห้องผ่าตัด

ส่วนเด็กผู้ชายที่เขาอุ้มขึ้นรถไป กลับกระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริง อยู่ในงานแต่งของพวกเขา ในฐานะเด็กโปรยดอกไม้ และส่งแหวนให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว

เซิ่นหรูซวงหัวเราะเยาะเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย "ฉันกลับเองได้ ขอบคุณค่ะ"

เธอก้าวเข้าไปในม่านฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก

หญิงสาวพนักงานคนนั้นมองแผ่นหลังของเซิ่นหรูซวงอย่างลังเลอยากจะพูดอะไรบางอย่าง พอจะก้าวตามไป ก็ต้องชะงักลง

เธอเองก็ได้ทำดีจนถึงที่สุดแล้ว และไม่อยากสร้างปัญหาให้ประธานซิงไม่พอใจ

เซิ่นหรูซวงเดินอยู่ท่ามกลางสายฝน ถอดเสื้อคลุมออกมาคลุมโกศอัฐิ แล้วห่อร่างกายส่วนบนของตนเอง แล้วก้มตัวไปข้างหน้าเพื่อบังโกศจากลมและฝนให้มากที่สุด

"กั่วกั่ว แม่จะไม่ยอมให้หนูเปียกฝนหรอกนะ"

ลำแสงจากไฟหน้ารถคันหนึ่งทะลุผ่านม่านฝนออกมา พร้อมกับเสียงแตรดังขึ้น รถยนต์มายบัคสีดำคันหนึ่งหยุดลงข้างกายเธอ

เธอไม่ได้หยุดเดิน และยังคงเดินหน้าต่อไป

...

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

เรือนหอของเธอกับซิงจือเหยียน อ้อ ไม่สิ ตอนนี้ควรเรียกว่าเรือนหอของซิงจือเหยียนกับเว่ยอวิ่นลู่ ถูกตกแต่งเต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริง

เซิ่นหรูซวงในสภาพเลอะเทอะเปรอะเปื้อน ยืนอยู่ในห้องรับแขก รู้สึกเหมือนตัวเองไม่เข้ากับที่นี่เลยแม้แต่น้อย

แม่บ้านถึงกับให้เธอยืนแค่ตรงทางเข้า ไม่ยอมให้เดินเข้าไป เพราะกลัวจะเหยียบทำพื้นที่เพิ่งถูเสร็จเปื้อนอีก

เซิ่นหรูซวงวางโกศอัฐิลงบนพื้น แล้วหยิบใบหย่าที่เปียกฝนจนชุ่มออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

แม่บ้านรับเอกสารไป แล้วใช้เท้าเตะเข้าไปที่โกศอัฐิที่ถูกคลุมด้วยเสื้อคลุม

"นี่มันอะไรกัน รีบเอาออกไปซะ"

เสื้อคลุมค่อย ๆ เลื่อนหลุด เผยให้เห็นมุมหนึ่งของโกศอัฐิ

พอเห็นชื่อที่อยู่บนโกศอัฐิ แม่บ้านก็ชะงัก สีหน้าตกตะลึง

นี่มันชื่อของลูกสาวเซิ่นหรูซวงไม่ใช่เหรอ?

เซิ่นหรูซวงดึงเสื้อคลุมให้แน่น แล้วหันหลังเดินจากไป

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ชายหาดไม่ไกลจากที่นั่น

เซิ่นหรูซวงกอดโกศอัฐิไว้ในอ้อมแขนแน่น แล้วเดินลงไปในทะเล

ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่

"กั่วกั่ว ไม่ต้องกลัวนะ ถึงแม้จะไม่อยู่แล้ว แม่ก็จะอยู่กับหนูตลอดไป"

น้ำทะเลค่อย ๆ กลืนร่างของเธอจนมิดทั้งตัว

...

ที่งานแต่งงาน

เว่ยอวิ่นลู่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว จึงเดินออกจากห้องพักในชุดเดรสยาวสีแดงไวน์ งดงามราวดอกไม้ยามแย้มบาน ท่วงท่าอ่อนช้อยสง่างาม

"จือเหยียน แขกกำลังรออยู่ ออกไปดื่มอวยพรกันเถอะนะ"

เว่ยอวิ่นลู่ยื่นมือเรียวยาวสีขาวนวลไปหาเขา

"ครับ" ซิงจือเหยียนมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน มือใหญ่จับมือนุ่มนวลของเธอไว้ แล้วจูงเธอออกจากห้องพัก

ทันใดนั้น ผู้ช่วยส่วนตัวของซิงจือเหยียนก็พุ่งเข้ามา สีหน้าเต็มไปด้วยความตึงเครียด

"ท่านประธานซิง เซิ่นหรูซวงกระโดดทะเลจบชีวิตตัวเองครับ"

สีหน้าของทุกคนพลันชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างไม่ใยดี "เซิ่นหรูซวงบ้าบออะไร คุณซิงเลิกกับเธอไปนานแล้ว จะเป็นจะตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณซิงอีก อย่ามาขัดแข้งขัดขาหน่อยเลย ไม่เห็นเหรอว่าวันนี้เป็นวันสำคัญแค่ไหน?"

แต่ในวินาทีนั้นเอง ร่างสูงของซิงจือเหยียนกลับก้าวเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าเคร่งเครียดจนดูน่ากลัว เขาจ้องมองผู้ช่วยอย่างเย็นชา "คุณพูดว่าอะไรนะ?"

เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ คล้ายจะกลบความรู้สึกบางอย่างในใจ "เป็นไปไม่ได้น่า เซิ่นหรูซวงโกหกอีกแล้วใช่ไหม? ผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างเธอ ไม่มีทางตายง่าย ๆ หรอกใช่ไหม?"

เสียงของผู้ช่วยสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด "คุณซิง เป็นเรื่องจริงนะครับ ทีมค้นหาเพิ่งพบร่างของคุณในทะเล แล้วก็..."

"แล้วก็โกศอัฐิของลูกสาวเธอด้วย..."

ในสายตาของทุกคน ซิงจือเหยียนคือคนที่ไม่มีวันสะเทือนใจเพราะผู้หญิงคนนั้นเด็ดขาด แต่ในตอนนั้น สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คิ้วขมวดแน่น ดวงตาคมเข้มจ้องมองไปยังเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย

ทุกคนพากันเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อนใด ๆ ต่างมองหน้ากันไปมาด้วยความตกใจ

มีเพียงเว่ยอวิ่นลู่ที่รีบวิ่งเข้าไป คว้ามือของซิงจือเหยียนไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลและความอาลัย

"จือเหยียน..."

ซิงจือเหยียนไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ เขาสะบัดมือออก แล้วเดินจากไปอย่างช้า ๆ

เว่ยอวิ่นลู่หน้าทอดสีในทันที
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 450

    เซิ่นหรูซวงค่อย ๆ พบว่าแก้วน้ำของเธอไม่เคยว่างเปล่าเลย อุณหภูมิของน้ำในแต่ละครั้งที่ดื่มก็พอดีเป๊ะ ดื่มแล้วรู้สึกชุ่มคอมากเซิ่นหรูซวงเบ้ปากเธอโกรธก็คือโกรธจริง ๆ และก็ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมวันนั้นสือเหยาถึงได้โกรธรุนแรงขนาดนั้น ราวกับว่าซิงจือเหยียนเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเขาอย่างไรก็ตาม ถึงแม้เธอจะโกรธมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะโกรธสือเหยาได้นานสือเหยาช่วยเธอไว้มากมายหลายเรื่อง เธอจดจำไว้ในใจเป็นอย่างดีเพียงชั่วพริบตา ก็ถึงเวลานัดพบกับซิงจือเหยียนแล้วตอนที่เซิ่นหรูซวงขึ้นรถ เธอได้เตือนสือเหยาอีกครั้งว่าอย่าตามมา ให้ติดตามเจียงเสี่ยวชุนอย่างว่านอนสอนง่ายสือเหยายืนพยักหน้าอย่างว่าง่ายอยู่ที่ข้างรถเซิ่นหรูซวงไม่ค่อยเชื่อว่าสือเหยาจะว่าง่ายขนาดนี้ เธอจึงดึงเจียงเสี่ยวชุนมาต่อหน้าเขา พร้อมกับกำชับว่าให้จับตาดูสือเหยาให้ดี อย่าให้เขาตามมาเจียงเสี่ยวชุนเข้าใจเรื่องราวในอดีตของเซิ่นหรูซวงกับซิงจือเหยียนเป็นอย่างดี และเข้าใจเหตุผลที่เซิ่นหรูซวงตัดสินใจทำแบบนั้น เธอจึงพยักหน้าโดยไม่ต้องคิดมาก “ได้ เธอไปจัดการธุระได้เลย ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันนะ”เซิ่นหรูซวงพยักหน้าแล้วให้คนขับขับรถออก

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 449

    รอยที่แก้มแดงก่ำกว่าเดิมหลายเท่าสือเหยาหอบหายใจอย่างหนัก ความรู้สึกที่เสียใจ จนใจ หงุดหงิด หึงหวง และอารมณ์วุ่นวายอื่น ๆ อีกมากมาย หลั่งไหลเข้ามา กระแทกที่หัวใจจนสับสนอลหม่าน ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกายเป็นฝ่ามือของเซิ่นหรูซวงที่เรียกสติของเขากลับคืนมาเขาได้แต่สำนึกผิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อรู้สึกตัวถึงท่าทีและสิ่งที่พูดออกไปใส่เซิ่นหรูซวงแล้ว ตอนนี้สือเหยาแทบอยากจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องทำงาน และยอมให้เซิ่นหรูซวงตบอีกสองสามครั้ง จนกว่าเธอจะหายโกรธเขาพูดคำพูดแบบนั้นกับเซิ่นหรูซวงได้อย่างไรเขาทำไปได้อย่างไร?เมื่อสติกลับคืนมา สือเหยาได้แต่เจ็บแค้นตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมตนเองต่อหน้าผู้หญิงที่เขารักได้ ทั้งยังขาดความสุภาพ ขาดความยับยั้งชั่งใจ พูดไม่คิดจนทำร้ายจิตใจเซิ่นหรูซวง และทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับเซิ่นหรูซวงไกลออกไปจนเกินเอื้อมอีกแล้วเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นคนเลวทรามที่ไม่น่าให้อภัยสือเหยาคอตก ใช้มือทั้งสองข้างบีบขมับตัวเองแล้วถอนหายใจอย่างหนักเซิ่นหรูซวงคงจะโมโหมากแล้วแน่ ๆเขาไม่เคยเห็นเซิ่นหรูซวงเฉียบขาดและดุดันขนาดนี้ม

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 448

    สือเหยายืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ส่วนแขนก็ยังคงจับพยักเก้าอี้ไว้เหมือนเดิมเซิ่นหรูซวงโกรธจัด ยกเท้าขึ้นเตะเข้าที่หน้าท้องของสือเหยาอย่างแรงเธอไม่ได้ยั้งแรง สือเหยาจึงถูกแตะถอยหลังไปหลายก้าวจนชนเข้ากับหน้าต่างบานใหญ่อย่างทุลักทุเลเซิ่นหรูซวงเห็นสภาพของเขาแล้วรู้สึกหงุดหงิด ทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่าเธอต่างหากที่ถูกโดนต่อว่าอย่างไร้เหตุผล แต่สือเหยากลับทำท่าทางที่ดูทุลักทุลเและเหมือนน้อยใจแบบนั้นเธอหมุนเก้าอี้อย่างหัวเสีย หันมองคอมพิวเตอร์ด้วยใบหน้าเย็นชา ไม่มองสือเหยาอีก ผ่านไปสักพัก สือเหยาพูดด้วยเสียงแหบพร่า “หรูซวง ขอโทษนะ ความผิดของฉัน…”เซิ่นหรูซวงเคาะแป้นพิมพ์ด้วยสีหน้าเย็นชา “รีบไปให้พ้น”สือเหยาพูดด้วยเสียงแหบพร่า “ฉันไม่ไป ฉันไม่ไปได้ไหม?”เซิ่นหรูซวงไม่ตอบคำถามเขา เคาะแป้นพิมพ์เสียงดังลั่นจนน่าตกใจสือเหยาเงยหน้าขึ้นมองเซิ่นหรูซวงด้วยความลำบากใจแลดูน่าสงสาร“…งั้นฉันไปแล้วนะ?”เซิ่นหรูซวงยังคงไม่ตอบสือเหยาก้มหน้าลง กำหมัดแน่น เดินผ่านด้านข้างของเซิ่นหรูซวงไปอย่างเงียบเชียบ และเดินออกจากห้องทำงานของเธอโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูเซิ่นหรูซวงเงยหน้าขึ้นผลักแป้นพิมพ์ออกด้วยสี

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 447

    เซิ่นหรูซวงเกิดความหงุดหงิดขึ้นมาในใจลึก ๆไม่ใช่ความหงุดหงิดที่เกิดจากสือเหยา แต่เป็นความหงุดหงิดที่เกิดจากการที่จะต้องไปพบซิงจือเหยียนเธอทำหน้าเย็นชาอย่างไม่เคยทำมาก่อน แล้วหันหน้าไปพูด “ฉันไม่รู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ และฉันก็บอกไปแล้วว่า ฉันไปเจรจาด้วยตัวเองได้”สือเหยาเห็นใบหน้าเย็นชาของเซิ่นหรูซวง ก็คิดไปอีกอย่างในใจของสือเหยาโกรธ กระวนกระวาย และรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมากเขากัดฟันถามเธออย่างห้ามไม่อยู่ “เธอรังเกียจที่ฉันยุ่งมากเกินไปใช่ไหม?”เซิ่นหรูซวงขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ ฉันแค่บอกว่าฉัน…”สือเหยาหัวเราะเยาะเย็นชาและพูดแทรกขึ้นมาทันที “เธอต้องการไปคนเดียวแน่นอน ถ้าหากให้ฉันไปด้วย ก็เท่ากับว่าไปขัดขวางเธอรื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่า ๆ กับซิงจือเหยียนใช่ไหมล่ะ?”เซิ่นหรูซวงเริ่มงงในตัวเองว่าเธอฟังผิดไปหรือเปล่า “นายพูดอะไรนะ?”สือเหยายกมือกำพนักเก้าอี้ของเซิ่นหรูซวงไว้แน่น แล้วดึงเก้าอี้เข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ทำให้เซิ่นหรูซวงหันหน้าเข้าหาเขา ส่วนเขาโน้มตัวลง โดยที่มือทั้งสองข้างวางอยู่บนที่พนักทั้งสองข้าง ราวกับเป็นการกักขัง เขามองลงมาด้วยแววตาที่ขุ่นเคืองคล้ายกับจะคร

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 446

    “มีปัญหาสิ มีปัญหาแน่นอน ทั้งที่ปล่อยให้ผู้ช่วยจัดการก็ได้ ทำไมต้องให้เธอไปเจรจาด้วยตัวเอง ไม่รู้มีแผนร้ายอะไร เซิ่นหรูซวง เธออย่าโดนเขาหลอกเชียวนะ”เมื่อเขาพูดจบ ก็เพิ่งนึกได้ว่าเซิ่นหรูซวงพูดอะไรไป“เธอพูดว่าอะไรนะ?”เซิ่นหรูซวงพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่ได้พูดอะไร นายพูดอยู่คนเดียวไม่ใช่หรือไง?”สือเหยาจับจ้องดวงตาของเธอ “ไม่ใช่สิ เธอพูดแล้ว เธอพูดว่าสมองของซิงจือเหยียนมีปัญหา”เซิ่นหรูซวงสารภาพตอบ “ใช่น่ะสิ ฉันพูดเอง ทำไมหรือ?”สือเหยาจ้องมองดวงตาของเธออย่างแน่วแน่ ด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา และไม่ได้พูดอะไรออกมาเซิ่นหรูซวงพูด “นายไม่ต้องมองหน้าฉันแล้ว ลิขสิทธิ์เกมเฮยไป๋ทู่มีความสำคัญสำหรับเกมใหม่ ฉันต้องได้มันมา ในเมื่อทางอวิ๋นเหยียนเรียกร้องให้ฉันไป ฉันก็ต้องทำตาม ถ้านายไม่ยินยอม งั้นก็ช่วยฉันแย่งลิขสิทธิ์เกมมาสิ”สือเหยาพูดซ้ำด้วยความประหลาดใจว่า “เธอพูดว่าสมองเขามีปัญหา”เซิ่นหรูซวง : ?สือเหยาเน้นเสียงหนัก “เธอพูดว่าสมองเขามีปัญหา”เซิ่นหรูซวง : …เซิ่นหรูซวง “ถ้านายจะพูดซ้ำอีก คนที่สมองมีปัญหาไม่ใช่เขา แต่เป็นนายแล้ว”สือเหยาเดินเข้าไปใกล้อีก คว้าข้อมือของเธอ

  • มรสุมรัก CEO ซาตาน   บทที่ 445

    ในขณะที่พูด ก็เหลือบหางตามองสีหน้าของสือเหยา และก็เห็นสีหน้าบูดบึ้งตามที่คาดไว้จางหลานเอ๋อร์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยโดยเห็นได้จากระหว่างคิ้วที่ขมวดอย่างงดงามนั้น “ประธานเซิ่นคะ ทางฝ่ายอวิ๋นเหยียนได้ตอบกลับเรื่องการขอซื้อลิขสิทธิ์เกมเฮยไป๋ทู่มาแล้วค่ะ”เซิ่นหรูซวงเคลื่อนสายตา “ว่ามาได้เลยค่ะ”จางหลานเอ๋อร์พูด “ทางประธานซิงจากอวิ๋นเหยียนเทคโนโลยีมีความประสงค์ว่า ต้องการให้คุณไปเจรจาด้วยตัวเองค่ะ”เซิ่นหรูซวงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ซิงจือ... ประธานซิงเป็นคนพูดออกมาเองหรือ?”จางหลานเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้พูดคุยกับประธานซิงโดยตรง คำพูดนี้มาจากผู้ช่วยเขาค่ะ แต่ก็สามารถถือเป็นความประสงค์ของประธานซิงโดยตรงค่ะ”ในห้องทำงานเงียบไปชั่วขณะ จางหลานเอ๋อร์พูดเสริมว่า “ความหมายของผู้ช่วยคือ ท่านประธานซิงจะมาทำธุระที่นี่ในวันมะรืน และจะมีเวลาว่างช่วงบ่ายของวันมะรืน คุณสามารถนัดหมายในช่วงเวลานี้ได้เลยค่ะ”เซิ่นหรูซวงพูด “สรุปว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะเต็มใจขายลิขสิทธิ์เกมเฮยไป๋ทู่ใช่ไหม?”จางหลานเอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างลำบากใจ “ตั้งแต่ได้รับมอบหมายงานมา ฉันก็ติดต่อกับทางอวิ๋นเหยียนมาตล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status