All Chapters of มรสุมรัก CEO ซาตาน: Chapter 1 - Chapter 10

100 Chapters

บทที่ 1

ลูกสาวของเธอได้จากไปแล้วไม่มีงานไว้อาลัย ไม่มีการฝังร่าง ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อที่ฝังธรรมดาสักที่มีเพียงโกศสีดำหนึ่งอัน ใส่ทุกอย่างที่เหลืออยู่ของกั่วกั่วลูกสาวเธอในโทรทัศน์ของสถานฌาปนกิจ กำลังถ่ายทอดสดงานแต่งที่หรูหรายิ่งใหญ่ เจ้าบ่าวคืออดีตสามีที่เพิ่งหย่ากับเธอ และเป็นพ่อแท้ ๆ ของกั่วกั่ว ส่วนเจ้าสาว คือรักแรกที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดในที่สุด เขาก็สมหวังเสียทีเซิ่นหรูซวง อุ้มโกศที่บรรจุอัฐิออกมาจากสถานฌาปนกิจ ภายนอกฝนกำลังตกหญิงสาวพนักงานที่ทำงานในสถานฌาปนกิจ ลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ถามออกมาด้วยความเป็นห่วงว่า:"คุณผู้หญิง ข้างนอกฝนตกหนักมาก มีใครมารับคุณไหมคะ?"เซิ่นหรูซวงก้มลงมองโกศอัฐิ ใบหน้าซีดเซียวไม่มีใครหรอก ญาติคนเดียวที่เธอมี กำลังแต่งงานกับแฟนคนแรกของเขา เขาไม่มีแม้แต่เวลาจะสนใจเธอกับลูก แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าลูกสาวได้จากไปแล้วต่อให้เขาว่าง เขาก็ไม่มีทางมารับเธออยู่ดีซิงจือเหยียนเกลียดเธอเข้ากระดูกดำเกลียดแม้กระทั่งเงาของเธอไม่กี่วันก่อน เว่ยอวิ่นลู่ขับรถพาลูกชายของเธอ พุ่งชนกับรถบัสที่เซิ่นหรูซวงและกั่วกั่วโดยสารอยู่ กั่วกั่วได้รับบาดเจ็บสาหัส หมดสติในที
Read more

บทที่ 2

บ้านตระกูลซิง ห้องรับแขกกว้างใหญ่เซิ่นหรูซวงก้มมองมือที่ยังดูเด็กและบอบบางของตัวเอง จนในที่สุดก็แน่ใจว่า เธอได้เกิดใหม่แล้วจริง ๆตรงกลางโซฟา สายตาเฉียบคมของคุณปู่ซิงมองตรงมาที่เธอ น้ำเสียงของวัยชราและหนักแน่น"หรูซวง แน่ใจหรือว่าจะไปธุระที่เมืองฮัวชุยกับอาเหยียนจริง ๆ?"ขนตาของเซิ่นหรูซวงกระพือเบา ๆเมื่อนึกย้อนกลับมา นี่คือจุดพลิกผันสำคัญในชาติก่อนซิงจือเหยียนไปเมืองฮัวชุย สร้างภาพว่าไปทำงาน แต่ในความเป็นจริง คืออยากเจอเว่ยอวิ่นลู่ แฟนคนแรกของตัวเองเมื่อเธอรู้เรื่องนี้ ก็สร้างสถานการณ์ว่าอยากตามไปด้วยพ่อของเธอเคยเป็นคนขับรถของคุณปู่ซิง ซึ่งได้สละชีวิตเพื่อช่วยคุณปู่ และเพื่อแสดงความขอบคุณ ตระกูลซิงจึงรับเธอมาเลี้ยงดู ดูแลให้ทุกอย่างตามต้องการ กลายเป็นเหมือนคุณหนูอันดับสองแบบไม่เป็นทางการในตระกูลซิงด้วยเหตุนี้คุณปู่ซิงจึงยอมให้เธอตามซิงจือเหยียนไปธุระด้วยเธอเหลือบตามองไปยังด้านข้างของคุณปู่ซิงซิงจือเหยียนสวมชุดสูทสีดำที่ตัดเย็บอย่างประณีต กระดุมทุกเม็ดติดแน่นไร้ที่ติ ขาข้างหนึ่งงอนพาดแบบไม่ตั้งใจ ผมด้านหน้าที่หล่นบังคิ้วคมและหน้านิ่งเย็นชา ริมฝีปากบางที่มักขบเบา ๆ เป
Read more

บทที่ 3

เซิ่นหรูซวงตอบกลับทันทีว่า "หนูบอกไปแล้วว่าหนูไม่ไป"เหยียนเหวินอินจ้องมองเธออย่างโกรธเคือง: "แกจะดื้อรั้นอะไรนักหนา นี่เป็นโอกาสที่ดีขนาดไหนรู้ไหม?"เซิ่นหรูซวงกำหมัดแน่น ไม่ยอมอ่อนข้อ: "โอกาสอะไร?"เสียงของเหยียนเหวินอินดังขึ้น: "ก็โอกาสที่จะได้ยั่วยวนซิงจือเหยียนไง แกชอบเขาไม่ใช่เหรอ?"อาจเป็นเพราะประสบการณ์ในชาติที่แล้ว ทำให้เซิ่นหรูซวงรู้สึกสะเทือนใจอย่างไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินชื่อซิงจือเหยียนเธอเกือบจะน้ำตาคลอเบ้า: "หนูไม่ได้..."ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นเซิ่นหรูซวงยังไม่ทันได้เก็บซ่อนความเจ็บปวดในแววตา ก็สบเข้ากับสายตาที่เย็นชาและเฉยเมยของซิงจือเหยียนที่อยู่หน้าประตูในชั่ววินาทีที่สบตากัน เซิ่นนหรูซวงก็นึกถึงชาติที่แล้วขึ้นมาทันทีที่ซิงจือเหยียนก็มองเธอแบบนี้ เหมือนกำลังมองขยะก้อนหนึ่ง เหมือนกำลังมองสิ่งของที่ไร้ชีวิตชั่วแวบเดียว เธอคิดว่าตัวเองกลับไปสู่ชาติที่แล้วที่เจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่เธอถอยหลังไปสองสามก้าว แม้จะหลบสายตาไปแล้ว ก็ยังสัมผัสได้ถึงสายตาที่ทรงพลังของซิงจือเหยียนที่ยังคงจับจ้องอยู่บนใบหน้าของเธอซิงจือเหยียนได้ยินบทสนทนาระหว่างเธอก
Read more

บทที่ 4

ในแววตาของคนรับใช้มีความสงสัยและประหลาดใจอยู่บ้าง เธอจ้องมองก้อนนูน ๆ ใต้ผ้าห่มด้วยความลังเลเธอยังรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เซิ่นหรูซวงก็แค่ลูกสาวของคนขับรถคุณผู้ชาย มีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้เธอทำงาน"คุณหนูเซิ่นคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณควรจะทำอยู่แล้ว"เซิ่นหรูซวงไม่ได้สนใจผ่านไปนาน คนรับใช้จ้องมองก้อนนูนใต้ผ้าห่มอยู่สักพัก ก่อนค่อย ๆ ปิดประตูลงหลังจากซิงจือเหยียนอาบน้ำเสร็จและออกมาจากห้อง ก็เห็นไฟในครัวชั้นล่างเปิดอยู่ และมีเสียงชามกับอ่างกระทบกันดังออกมาเบา ๆเขาหรี่ตาลงเล็กน้อย ยกมือขึ้นใช้นิ้วถูที่ขมับเพื่อบรรเทาความรู้สึกไม่สบายหลังจากการดื่มไม่ได้คิดอะไรมาก ซิงจือเหยียนก็ลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว พลางนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น แล้วหลับตาพักผ่อนห้านาทีต่อมา คนรับใช้ก็ออกมาจากครัว ในมือถือซุปแก้เมาที่ยังร้อนอยู่แล้ววางไว้ตรงหน้าซิงจือเหยียน"คุณซิงคะ ซุปแก้เมายังร้อนอยู่ ค่อย ๆ ทานนะคะ"เมื่อได้ยินเสียงที่แตกต่างไปจากที่คาดไว้ ซิงจือเหยียนก็ลืมตาขึ้น มองคนรับใช้ที่อยู่ตรงหน้า คิ้วขมวดเล็กน้อย"ทำไมเป็นเธอ?"คนรับใช้มองสีหน้าของเขาอย่างระมัดระวัง ในแววตามีความร้ายกาจเล็ก
Read more

บทที่ 5

เซิ่นหรูซวงขยุ้มผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด ในตอนนั้นเองที่เหยียนเหวินอินคว้าไหล่ของเธอไว้ พลางทำสีหน้าจริงจัง ราวกับจะบังคับคาดคั้น"แกไม่รู้หรือไงว่าคนตระกูลซิงไม่มีใครมองเห็นหัวพวกเราเลยแม้แต่คนเดียว พวกคนรับใช้ก็เหมือนกัน มีแต่สายตาดูถูกกันทั้งนั้น แม่ฝากความหวังไว้ที่แกแล้วนะ อยากให้แกเชิดหน้าชูตาได้!"ชาติก่อน เซิ่นหรูซวงฟังเรื่องพวกนี้จนเบื่อ ต่อให้ฟังอีกก็ไม่มีทางสะเทือนใจอีกแล้ว"แม่คะ หนูบอกแล้วไงว่า หนูไม่มีทาง...""เซิ่นหรูซวง เหยียนเหวินอิน พวกเธอสองคนฝันกลางวันอะไรกันอยู่เหรอ?"จู่ ๆ เสียงของหญิงสาวที่ทั้งออดอ้อนและเอาแต่ใจก็ดังแทรกเข้ามาในหูของทั้งสองคน เมื่อมองไปที่ประตู สีหน้าของเหยียนเหวินอินก็เปลี่ยนไปทันที แล้วรีบพูดด้วยท่าทางประจบประแจง"คุณหนูคะ กลับมาแล้วหรือคะ"เซิ่นหรูซวงเงียบไปสักพัก ก่อนจะแย่งกระเป๋าเดินทางจากมือของเหยียนเหวินอินมา และกำลังจะยัดมันกลับไปใต้เตียง แต่หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูก็เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเธอซิงฟานโหรว ลูกพี่ลูกน้องของซิงจือเหยียน และเป็นหลานสาวแท้ ๆ เพียงคนเดียวของคุณปู่ซิงเธอเติบโตมาด้วยความเอาใจใส่ของทุกคน มีท่าทางสง่างามสู
Read more

บทที่ 6

เซิ่นหรูซวงคิดในใจในชาติก่อน เหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ก็เคยเกิดขึ้นในห้องรับแขกนี้เช่นกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือทัศนคติของเธอตอนนั้น เธอใช้ข้อเท็จจริงที่ว่าเว่ยอวิ่นลู่และซิงจือเหยียนเลิกกันไปนานแล้วมาเป็นข้ออ้างเพื่อขัดขวางไม่ให้เว่ยอวิ่นลู่มาพักที่บ้านตระกูลซิง สุดท้ายก็กลายเป็นตัวตลกซ้ำแล้วซ้ำเล่าคนใช้ต่างมองด้วยสายตาเย็นชา ส่วนคุณปู่ซิงก็ไม่แม้แต่จะใส่ใจเว่ยอวิ่นลู่ยังคงยืนอยู่ข้างหลังซิงจือเหยียนอย่างสง่างาม ไม่แม้แต่จะถูกแตะต้องแม้แต่ปลายเส้นผม สง่างาม อ่อนโยน แตกต่างจากเธอในตอนนั้นที่ดูเหมือนหญิงบ้าสติแตกโดยสิ้นเชิงเธอจำได้อย่างแม่นยำว่า ซิงจือเหยียนบังคับให้เธอขอโทษ และให้เธอนั่งคุกเข่าในสวนของบ้านตระกูลซิงเพื่อสำนึกผิดตลอดทั้งคืนคืนนั้น เธอเห็นเว่ยอวิ่นลู่เดินเข้าไปในห้องของซิงจือเหยียน ตลอดทั้งคืน ไฟในห้องของซิงจือเหยียนไม่เคยดับ และมักจะมีเงาของคนสองคนปรากฏให้เห็นบนขอบหน้าต่างที่ปิดอยู่จู่ ๆ เธอก็หยุดชะงักบนบันไดเธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าทำไมเธอถึงขัดขวางเว่ยอวิ่นลู่ไม่ให้มาพักที่บ้านตระกูลซิงขนาดนั้นชาติก่อน เธอตามซิงจือเหยียนไปที่เมืองฮัวซุย และพักในโรงแรมเดียวกัน
Read more

บทที่ 7

ซิงฟานโหรวแสดงสีหน้าเยาะเย้ย และอ่านถ้อยคำในจดหมายรักทีละตัว"พี่จือเหยียนคะ หนูเฝ้ามองพี่จากข้างหลังมาตลอด พี่จะหันกลับมามองหนูได้ไหมคะ?"เมื่อได้ยินเสียงของซิงฟานโหรว กำปั้นของเซิ่นหรูซวงก็กำแน่นขึ้นเรื่อย ๆนี่เป็นสิ่งที่เธอเขียนจริง ๆ ก่อนที่จะเกิดใหม่ ตอนนั้นเธอยังคงมีความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริงกับซิงจือเหยียนแต่ปกติแล้วเธอซ่อนจดหมายรักไว้เป็นอย่างดี ไม่มีทางที่จะเอาไปใส่ไว้ในห้องของซิงจือเหยียนได้อย่างแน่นอนมีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือมีคนอื่นขโมยไปและนำไปวางไว้ในห้องของซิงจือเหยียนอาจจะเป็นซิงฟานโหรว หรือไม่ก็เว่ยอวิ่นลู่"พอได้แล้ว"เสียงของซิงจือเหยียนทุ้มและแหบแห้งเล็กน้อย แฝงไปด้วยความโกรธ ดวงตาคมกริบและเย็นชา "ฉันไม่อยากฟังอีกแล้ว"ซิงฟานโหรวหัวเราะเยาะแล้วหุบปากลง ก่อนจะยัดจดหมายรักใส่อ้อมอกของเซิ่นหรูซวงด้วยความรังเกียจแม้ว่าจะเป็นเซิ่นหรูซวงที่เกิดใหม่แล้ว เธอก็ยังไม่อาจเมินเฉยต่อสายตาแบบนี้ของซิงจือเหยียนได้ รู้สึกเหมือนความหนาวเย็นแผ่ซ่านไปทั่วตัว“เซิ่นหรูซวง เธอต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับฉัน”เว่ยอวิ่นลู่จู่ ๆ ก็ดึงแขนของซิงจือเหยียน และพูดด้วยน้
Read more

บทที่ 8

"อย่าคิดหนีนะ"เซิ่นหรูซวงกัดฟันด้วยความเกลียดชังซิงจือเหยียนคงคิดว่าเธอเป็นเว่ยอวิ่นลู่จริง ๆ ถึงได้ทำเกินขอบเขตแบบนี้เมื่อซิงจือเหยียนล้วงมือเข้ามาใต้เสื้อของเธอ เซิ่นหรูซวงรู้สึกต่อต้านไปทั้งตัว เธอใช้ข้อศอกกระแทกเข้าที่หน้าอกของเขาอย่างแรง"อย่าแตะต้องฉัน!"เซิ่นหรูซวงพูดลอดไรฟัน "น่ารังเกียจจริงๆ"มือของซิงจือเหยียนหยุดชะงักไปชั่วขณะ เสียงแหบแห้งของเขาดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ"เธอว่าอะไรนะ?"เซิ่นหรูซวงกัดฟันกรอด "ซิงจือเหยียน คุณมันน่ารังเกียจ"ซิงจือเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วใช้มือปิดปากของเธอทันที พลางคำรามด้วยความโกรธ"หุบปาก!"ทันใดนั้น ซิงจือเหยียนก็เลิกเสื้อของเธอขึ้น มือที่ร้อนผ่าวของเขาจับที่เอวของเธอเซิ่นหรูซวงซบหน้าผากของเธอเข้ากับประตูห้องน้ำด้วยความสิ้นหวังข้างหลังคือซิงจือเหยียนที่ดุร้ายราวกับหมาป่า เธอไม่มีทางหนีรอดได้เลยหรือว่าเรื่องราวน่าสลดใจในชาติก่อนจะต้องซ้ำรอยอีกครั้ง?ราวกับสวรรค์กำลังช่วยเหลือเธอ ประตูห้องก็เปิดออกเองโดยอัตโนมัติในวินาทีนั้น เซิ่นหรูซวงใช้แรงทั้งหมดผลักซิงจือเหยียนออกไป แล้วรีบวิ่งออกจากห้องหลังจากออกมา เซิ่นหรูซวงก็ป
Read more

บทที่ 9

เซิ่นหรูซวงหายใจติดขัดเล็กน้อย แล้วพูดอย่างสงบเสงี่ยมว่า "ไม่ได้พูดค่ะ คุณคงฟังผิดไปเอง"เธอไม่คาดคิดเลยว่าซิงจือเหยียนจะยังจำเรื่องเมื่อคืนนี้และคำพูดของเธอได้เขาไม่ได้คิดว่าเธอคือเว่ยอวิ่นลู่เหรอ?จู่ ๆ ซิงจือเหยียนก็ยื่นมือออกไปโอบเอวของเธอ และดึงเธอขึ้นมานั่งบนตักอย่างแรงโดยไม่สนใจการขัดขืนของเธอด้วยความตื่นตระหนก กระเป๋าเป้ของเธอหล่นลงไปใต้เบาะรถเซิ่นหรูซวงทุบไหล่ของซิงจือเหยียนอย่างบ้าคลั่ง "ซิงจือเหยียน คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?!"ฝ่ามือของซิงจือเหยียนรัดเอวของเธอไว้แน่น กดเธอแนบไปกับเบาะคนขับ มืออีกข้างหนึ่งบีบคางของเธอไว้ ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องไปที่ดวงตาของเธออย่างเฉียบคม"เธอคิดว่าฉันโง่เหรอ?"เซิ่นหรูซวงยกแขนขึ้นมากันระหว่างทั้งสองไว้ "เมื่อคุณคิดว่าฉันเป็นเว่ยอวิ่นลู่ ทำไมฉันจะรู้สึกน่ารังเกียจไม่ได้?""ฉันบอกไปนานแล้วว่าฉันจะรักษาระยะห่างจากคุณ แต่เป็นคุณเองที่ล้ำเส้น""แล้วเรื่องวางยา คุณสืบได้หรือยังว่าใครเป็นคนทำ?"เธอกำคอเสื้อของซิงจือเหยียนที่ดูดีมีราคาของเขาไว้แน่น ดวงตาสดใสของเธอปกคลุมไปด้วยม่านน้ำตา"อย่าพยายามใส่ร้ายฉันอีกเลย""อีกแล้ว?" ดวงตาสีดำของซิงจ
Read more

บทที่ 10

เซิ่นหรูซวงชูกำไลหยกในมือ แล้วยื่นไปตรงหน้าซิงจือเหยียน "กำไลหยกชิ้นนี้ ซิงฟานโหรวเป็นคนทำแตก"ครูประจำชั้นมองดูแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ฟานโหรวเป็นเด็กดีขนาดนี้ จะตั้งใจทำกำไลหยกของเธอแตกได้ยังไง? อย่ามาใส่ร้ายฟานโหรวในโรงเรียนนะ""ส่วนเธอน่ะ ต่อยคนโดยไม่ไตร่ตรองอะไรเลย ทำตัวไม่ได้เรื่องจริงๆ!"น่าขันเสียจริงซิงฟานโหรวทำกำไลหยกของเธอแตก กลับกลายเป็นไม่ได้ตั้งใจแต่การที่เธอต่อยซิงฟานโหรวกลับกลายเป็นว่าเธอเป็นคนมีพฤติกรรมต่ำทรามและตั้งใจจะทำร้ายเว่ยอวิ่นลู่เห็นกำไลหยกชิ้นนั้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "หยกชิ้นนี้ดูแล้วก็ไม่ได้แพงอะไร ถ้าเธอชอบ ฉันซื้อให้ใหม่ก็ได้ ไม่เห็นต้องมาโกรธกันเพราะเรื่องแค่นี้เลย""อีกอย่าง ฟานโหรวมีหยกดี ๆ เยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องตั้งใจทำหยกของเธอแตกหรอก หรูซวง ฉันว่าเธอเข้าใจฟานโหรวผิดไปแล้วนะ"คำพูดของเธอฟังดูคลุมเครือ อ่อนโยน เหมือนมีน้ำใจแต่ในสายตาของคนที่ตั้งใจฟังแล้ว นี่คือการเย้ยหยันอย่างโจ่งแจ้งคุณหนูใหญ่ตระกูลซิงอย่างซิงฟานโหรวจะมาสนใจหยกราคาถูกแบบนี้ได้ยังไง มีแต่เซิ่นหรูซวงเท่านั้นแหละที่เห็นหยกแตก ๆ แบบนี้เป็นสมบัติล้ำค่าคนอย่าง
Read more
PREV
123456
...
10
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status