Masukนั่นคือศีรษะของสือเหยาระยะห่างค่อนข้างใกล้เกินไปแล้วเซิ่นหรูซวงเอนหลังหนีเล็กน้อย “นายทำอะไร?”ดวงตาของสือเหยาในตอนกลางวันจะมีสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ แต่พอตกกลางคืนเซิ่นหรูซวงสามารถมองเห็นสีฟ้าจาง ๆ ได้จากในดวงตาของเขาสือเหยายิ้มให้เธอทันทีเซิ่นหรูซวงตะลึงไปเล็กน้อยห้าปีมานี้คนที่เติบโตขึ้นไม่ได้มีแค่เธอเท่านั้น สือเหยาก็เช่นกันใบหน้าของสือเหยาคมชัดและมีชีวิตชีวามากกว่าเมื่อห้าปีก่อนมาก มีพลังดึงดูดและน่าทึ่งมากกว่าเดิม เรียกได้ว่า ด้วยส่วนสูง รูปร่าง และรูปลักษณ์ภายนอกของเขา สามารถก้าวไปเป็นนายแบบระดับโลกที่โด่งดังและยอดเยี่ยมที่สุดได้เลยทีเดียวไม่ใช่แค่วงการนายแบบที่จะโด่งดังช่วงข้ามคืนเท่านั้น แต่ก็จะมีเหล่าบรรดาเศรษฐีนีจำนวนมากที่ต้องการเลี้ยงดูเขาด้วยเซิ่นหรูซวงคิดอย่างซุกซนในใจว่า ถ้าสือเหยาเป็นนายแบบจริง ๆ เธอก็มีเงินเลี้ยงดูเขาได้ถ้าสือเหยาต้องการหาคนอุปถัมภ์จริง ๆ เธอจะไม่ยอมปล่อยให้เขาไปหาคนอื่น ถึงตอนนั้นไม่ว่าเธอจะสั่งให้สือเหยาทำอะไร สือเหยาก็จะต้องทำตามนั้น“เซิ่นหรูซวง เธอกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ?”เซิ่นหรูซวงได้สติคืนมา เธอมองจ้องดวงตาของสือเหยาอย่างเหม่อลอย
เซิ่นหรูซวงได้ยินดังนั้นก็หัวเราะแผ่วเบา “สรุปว่าที่เงียบไปตลอดทางเมื่อกี้ คือกำลังคิดเรื่องนี้อยู่หรือ?”แววตาของสือเหยาฉายแววเขินอายชั่วครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย ลดเสียงลงแล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้ พร้อมพูดเร่งเร้าว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนที่เจียงเสี่ยวชุนคะยั้นคะยอให้ฉันไปกับเธอ ฉันรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากลแล้ว รีบตอบมาเร็วเข้า”เซิ่นหรูซวงหมุนข้อมือ แล้วดึงข้อมือของเธอออกจากมือของสือเหยา “ไม่มีอะไรน่าพูดถึงหรอก”สือเหยาขมวดคิ้วทันที และพูดว่า “เธอไม่อยากให้ฉันรู้?”เซิ่นหรูซวงเบนสายตาไปทางอื่น และพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ไม่ใช่ว่าไม่อยากบอก แต่ไม่มีความจำเป็นต้องรู้ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน”เซิ่นหรูซวงหันหน้าไปทางอื่น โดยหันด้านหลังศีรษะให้สือเหยาสือเหยาที่อยู่ด้านหลังเธอเงียบไปพักใหญ่ โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาเซิ่นหรูซวงนึกทบทวนคำพูดที่เพิ่งใช้ไปเมื่อครู่ แล้วจึงค่อย ๆ ตระหนักได้ว่าคำพูดของเธอนั้นค่อนข้างแข็งกระด้าง สือเหยาฟังแล้วอาจจะรู้สึกไม่ดีเธอตั้งใจจะอธิบาย แต่สือเหยาชิงพูดขึ้นมาก่อน“แต่ฉันอยากรู้”เซิ่นหรูซวงหันกลับมาเผชิญหน้ากับสือเหยา“ถ้าฉันมีความ
รอยยิ้มของเว่ยอวิ่นลู่ชะงักงันเล็กน้อย จากนั้นก็พูดว่า “เป็นไปได้อย่างไรกัน ฉันไม่ได้เน้นย้ำเลยนะ แค่หวังว่าเธอจะรู้สถานะของฉันกับอาเหยียนอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เธอลืมแล้วทำเรื่องล้ำเส้นอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันกับอาเหยียนคงจะหนักใจมาก”เซิ่นหรูซวงเลิกคิ้ว “ที่เธอพูดหมายความว่า ฉันจะทิ้งผู้ชายหนุ่ม ๆ แล้วไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่มีภรรยาแล้วอย่างนั้นหรือ?”เธอพูดอย่างเย้ยหยันเธอพูดพร้อมยิ้มบาง ๆ “ถ้าคุณนายซิงคิดแบบนั้น ก็ถือว่าคิดมากเกินไปจริง ๆ ค่ะ ฉันว่าฉันชอบเด็กผู้ชายที่เรียบง่ายกว่า อย่างน้อยก็มีความจริงใจ คุณว่าไหมคะ?”ใบหน้าของเว่ยอวิ่นลู่เกือบจะมืดครึ้มลงทันที แต่เธอก็ยังคงรักษาท่าทีของสุภาพสตรีสูงศักดิ์ไว้ “หวังว่าจะเป็นอย่างที่พูดจริง ๆ”“คืนนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานห้าปีของฉันกับอาเหยียนพอดี ถ้าเธอว่างก็มาเข้าร่วมได้นะ พวกเด็ก ๆ ในตระกูลซิงก็คิดถึงเธอมากทีเดียว”เซิ่นหรูซวงยิ้มบาง ๆ “ได้ค่ะ ฉันจะไปถึงที่นั่นตรงเวลา”เซิ่นหรูซวงหมุนตัวกลับ เดินออกจากห้องน้ำไปอย่างสง่างามและเด็ดเดี่ยวเซิ่นหรูซวงเพิ่งจะเผชิญหน้ากับเว่ยอวิ่นลู่และได้สู้รบทางฝีปากกัน รู้สึกแค่ว่ามันเป็นเรื
จวงเหมยกลั้นเสียงหัวเราะพลางมองดูหนุ่มสาวทั้งสองหยอกล้อกัน และพูดว่า “พอแล้วน่า ดูสิอายุเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้เธอใกล้จะยี่สิบสี่แล้ว ถึงวัยที่ควรจะมีแฟนได้แล้ว ไม่ต้องอายหรอก ฉันดูแล้วเสี่ยวชือเป็นคนดีมากทีเดียว แถมยังหล่อขนาดนี้อีกด้วย”สือเหยาพยักหน้าอย่างเปิดเผยและมั่นใจ “ใช่ครับ ใช่ครับ อาจารย์จวงต้องช่วยผมเกลี้ยกล่อมเซิ่นหรูซวงให้เธอเห็นคุณค่าของผมให้ดี ๆ หน่อยนะครับ ผมโตมาขนาดนี้ เพิ่งเคยคบกับผู้หญิงเป็นครั้งแรกเลยนะครับ”จวงเหมยเลิกคิ้ว “รักครั้งแรก?”สือเหยาพยักหน้า “ใช่แล้วครับ ตั้งแต่เด็กยันโตผมไม่เคยคบกับใครมาก่อน เซิ่นหรูซวงเป็นคนแรกเลยครับ อาจารย์จวงคิดว่าผมไม่เหมือนคนที่โสดมาตลอดแบบนั้นใช่ไหมครับ?”“ไม่เหมือนจริง ๆ” ดวงตาของจวงเหมยซ่อนรอยยิ้มไว้ “หรูซวง ฉันว่าเธอต้องเห็นคุณค่าในตัวเสี่ยวสือให้ดี ๆ ล่ะ แฟนที่หล่อขนาดนี้จะไปหาได้จากที่ไหนแล้ว?”สือเหยาพยักหน้าเสริมอย่างเห็นด้วย “ใช่ครับ ใช่ครับ”เซิ่นหรูซวงก้มหน้าลงอย่างท้อแท้ “หนูยอมแล้วค่ะ…”หลังจากพนักงานเสิร์ฟยกอาหารมาวางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เซิ่นหรูซวงก็สามารถสงบจิตสงบใจและกินข้าวได้อย่างสบายใจในที่สุดเซิ่นหรูซวงแ
เซิ่นหรูซวงยิ้มบาง ๆ “แล้วอาจารย์ล่ะคะ หลายปีมานี้ใช้ชีวิตเป็นอย่างไรบ้างคะ? หนูได้ยินมาว่าอาจารย์จวงได้เข้าทำงานที่สถาบันดนตรีเฉียวเหอในประเทศเอ็มแล้ว สุดยอดมากเลยค่ะ”จวงเหมยหัวเราะออกมาอย่างขำขัน “มันก็แค่งานหนึ่งน่ะ ไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นหรอก”เซิ่นหรูซวงมองไปที่เธอ รอยยิ้มที่มุมปากลดลงเล็กน้อย “หลังจากเรื่องเย่ว์ไห่ หนูก็เป็นห่วงอาจารย์มาตลอด โชคดีที่อาชีพของอาจารย์ไม่ได้รับผลกระทบ ถ้าอาจารย์จวงได้รับผลกระทบเรื่องงานเพราะหนูจริงๆ ล่ะก็ หนูคงไม่มีหน้ามาพบอาจารย์ได้อีก”จวงเหมยถอนหายใจด้วยความโล่งใจไม่น้อย “ตอนนั้นฉันเคยบอกเธอแล้ว ว่าฉันจะจัดการเอง แต่ตอนนั้นเธอกลับไม่ฟังเลยสักนิด ทำอะไรหุนหันพลันแล่น ช้างเก้าเชือกก็ฉุดไว้ไม่อยู่ อย่าว่าแต่เธอเป็นห่วงฉันเลย ฉันต่างหากที่จะโดนเธอทำให้เป็นโรคหัวใจวายอยู่แล้ว แต่โชคดีที่เธอเอาตัวรอดออกมาและก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ผลลัพธ์ถือว่าดีแล้วล่ะ พวกเราทั้งสองคนก็เลิกห่วงกันไปห่วงกันมาได้แล้ว”เซิ่นหรูซวงไม่สามารถอธิบายเรื่องราวในอดีตให้จวงเหมยเข้าใจได้อย่างชัดเจน ทำได้เพียงแค่ตอบด้วยรอยยิ้มสือเหยาหัวเราะออกมาทันที “ใช่ครับ เซิ่นหรูซวงเป็นคนดื้อ
เซิ่นหรูซวงตกตะลึงเล็กน้อย แล้วหันไปมองสือเหยาสือเหยาเลิกคิ้วให้เธอ พร้อมขยับปากเป็นคำว่า “ฉันจัดการเอง”เซิ่นหรูซวงยกยิ้มมุมปากปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรู้สึกที่มีคนคอยหนุนหลังให้นั้น ช่างสบายใจสุด ๆรอยยิ้มบนมุมปากและหางตาของเว่ยอวิ่นลู่ชะงักค้างไปในทันที “หรูซวง นี่คงไม่ใช่แฟนของเธอหรอกนะ?”ขณะที่เซิ่นหรูซวงกำลังจะเอ่ยปากว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ จู่ ๆ สือเหยาก็โอบไหล่เธอไว้ แล้วดึงเข้ามาใกล้ตัว พูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง “ใช่แล้ว ฉันเป็นแฟนเสี่ยวซวงของฉันเอง”เสี่ยว เสี่ยวซวง?เซิ่นหรูซวงกระตุกมุมปากเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ห้ามสือเหยา เพราะบางครั้งคำพูดคำจาของสือเหยาคนเดียว ก็สามารถทำให้คนฟังถึงกับต้องปิดปากเงียบไปได้เลยสือเหยายิ้มอย่างสง่างาม “ต้องขออภัยด้วยนะครับ ฉันทนเห็นเสี่ยวซวงของฉันต้องถูกรังแกไม่ได้จริง ๆ คำพูดคำจาเลยอาจจะรุนแรงไปหน่อย หวังว่าผู้ปกครองท่านนี้จะไม่ถือสา เพราะอย่างไรแล้วลูกชายของคุณก็พูดจาไม่สุภาพ ในฐานะที่ผมเป็นแฟนของเธอก็ต้องพูดอะไรเพื่อปลอบใจเสี่ยวซวงบ้าง”ในที่สาธารณะแบบนี้ การที่ซิงฉีหยวนพูดจาไม่สุภาพและล่วงเกินผู้ใหญ่เป็นเรื่องจริง ข้อนี้เว่ยอวิ







