ไม่มีใครคิดว่าไดอาเนียลล่าจะพูดขึ้นมาในขณะนั้น หน้าของเธอมีรอยยิ้มอย่างรู้ดีว่า “ฉันคิดว่าพวกคุณคงจะไม่รู้หรอกว่าเฟนด์อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นกลางแล้ว เขาทะลวงผ่านไปได้เมื่อไม่กี่วันก่อน และด้วยกระบี่เล่มนี้ เขาอาจมีพลังยุทธเหมือนกับนักสู้ระดับเทพแท้จริงขั้นสุดยอด!”“ว่าไงนะ? เขา-เขาทะลวงข้ามผ่านไปได้แล้วเหรอ?”แนชตกตะลึง เขาหันหน้าไปมองเฟนด์อย่างตื่นเต้น “เฟนด์ จริงเหรอ? ลูก-ลูกอยู่ระดับเทพแท้จริงขั้นกลางแล้วเหรอ?”“โอ้พระเจ้า เขาทะลวงผ่านไปได้เร็วมาก? นายน้อยเฟนด์ คุณช่างเป็นอัจฉริยะจริง ๆ ! นายน้อยแลนซ์ก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ!”ผู้อาวุโสหลายคนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา พวกเขาสงสัยว่าพวกเขากำลังฝันอยู่หรือเปล่าเพราะยังไงซะ ความตกใจที่พบว่า เฟนด์มีอาวุธระดับสูงสุดยังไม่สงบลงอย่างสมบูรณ์เลย และตอนนี้พวกเขายังมาบอกว่าเฟนด์ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพแท้จริงขั้นกลางได้แล้วมันไม่ง่ายเลยที่คนที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงจะก้าวผ่านเข้าสู่ขั้นที่สูงขึ้น ผู้ฝึกฝนต้องใช้ความสามารถอย่างมาก ที่สำคัญไปกว่านั้น บางคนก็ไม่สามารถทะลวงได้สำเร็จแม้จะพยายามถึงสองสามครั้งแล้วก็ตาม พวกเขาต้องพักสักระยะหนึ่งก่
“อย่าหัวเราะสิ พวกนั้นอาจจะบังเอิญได้อุปกรณ์ระดับต่ำจากที่ใดที่หนึ่งมา ดังนั้นพวกเขาจึงใช้มัน!”ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของตระกูลนอร์แมนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประชดประชันเพราะยังไงซะ กระบี่ของเฟนด์ก็ดูหมองคล้ำและธรรมดา มีเพียงสีดำที่ปกคลุมมันอยู่เท่านั้น มันบินด้วยความเร็วที่สบาย ๆ ไม่เร็วเกินไปและไม่ช้าเกินไปนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่มีทางบอกระดับของสมบัตินั้นได้สิ่งเดียวที่พวกเขามั่นใจได้ก็คือสมบัติที่บินได้นั้นต้องเป็นอุปกรณ์วิญญาณอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งอุปกรณ์วิญญาณระดับต่ำบางอย่างก็สามารถบินได้ แต่ก็บินได้ไม่เร็วมากนัก“พวกเขาบังเอิญได้มันมา?”ผู้อาวุโสลำดับที่สองของพวกเขาผงะไปครู่หนึ่ง “ฮ่า แม้จะเป็นสมบัติที่บินได้ก็ไม่คุ้มค่าที่จะเอามันมานะถ้าเป็นสมบัติระดับต่ำ” เขายิ้มพร้อมกับแสดงความเห็นออกมา “พวกเขาต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อของมือสองชิ้นนั้น”นายน้อยจากตระกูลนอร์แมนกลอกตา “ผู้อาวุโสลำดับที่สอง คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง?” เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “พวกเขาก็เป็นหนึ่งในแปดตระกูลลึกลับเหมือนกันและเป็นตระกูลชนชั้นหนึ่ง คุณพูดออกมาได้ไงว่าพวกเขาซื้อของมือสอง?”“เฮ้ จริงด้วย ฉันล
ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วตอนที่เห็นพวกเขาเข้ามาใกล้ ความกังวลบีบรัดหน้าอกของเขา “ใครสนล่ะ เราไม่มีอะไรต้องกลัว อีกอย่าง เราก็ไม่อาจหลบซ่อนพวกเขาได้ตลอด ยังไงเราก็ต้องไปเจอกับพวกเขาที่สถานที่แข่งขันอยู่ดี”แนชยิ้มอย่างเย็นช้าและพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ“นั่น...นั่นคือคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโลจริงด้วย!”หลังจากที่พวกเขาเข้าในระยะใกล้มากขึ้น ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็ตะโกนออกมาตอนที่เขาเห็นกับตาชัด ๆ“ไดอาเนียลล่า ทำไมคุณถึงไปอยู่บนกระบี่บินของตระกูลวู๊ด?”คีธ ลูกชายคนโตของนายท่านนอร์แมนรู้สึกประหลาดใจนิด ๆ “คุณไดอาเนียลล่า คุณถูกตระกูลวู๊ดลักพาตัวมาเหรอ?” เขาถาม “ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้คุณกระพริบตา ตระกูลนอร์แมนจะช่วยคุณเอง!”ลูกชายคนที่สองของนายท่านนอร์แมนก็ก้าวออกมาข้างหน้าเหมือนกัน “พวกสมาชิกตระกูลวู๊ด หญิงสาวคนสวยคนนี้คือคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโลนะ” เขาตะโกน “ฉันจะฆ่าพวกแกแน่ ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องผมแม้แต่เส้นเดียวของเธอ!”คนอ้วน ๆ ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สามก็พูดขึ้นด้วยท่าทีประชดประชันว่า “ด้วยเกียรติของฉันในฐานะนายน้อยของตระกูลนอร์แมน ฉันสาบานได้เลยว่าพวกแกเผช
ดูเหมือนว่าสิ่งที่ไดอาเนียลล่าพูดออกมาจะตรงประเด็นมาก และนายท่านนอร์แมนก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ถ้าเขายังยึดถือเรื่องนี้และรายงานต่อตระกูลคาเบลโลว่าเธออยู่กับตระกูลวู๊ด เขาจะไม่เป็นคนใจแคบไปหน่อยเหรอ? แต่ถ้าเขาปล่อยไปแบบนี้ ตระกูลนอร์แมนคงจะอับอายมาก เพราะยังไงซะ ที่พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็เพราะพวกเขาเข้ามาถามไดอาเนียลล่าว่าเธอถูกลักพาตัวหรือเปล่า และยังชวนเธอไปกับพวกเขาแทนอีกเขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันทีหลังจากที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเหลือบมองที่แนชและยิ้มอย่างเย็นชา “นายท่านวู๊ด ฉันได้ยินมาว่าเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้วมีบางอย่างเกิดขึ้นในตระกูลวู๊ดใช่ไหม? หึ ๆ... ถ้าเรื่องราวที่น่าสนใจดังกล่าวถูกเอาไปเขียนลงในหนังสือ หนังสือเล่มนั้นคงจะเป็นที่นิยมแน่นอน!”มุมปากของแนชกระตุกเล็กน้อย เขารู้ว่าคงมีบางคนพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและเอามันมาพูด แต่เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะถูกเอามาพูดถึงในระหว่างเดินทางไปที่ภูเขาโกเบเขาเหลือบมองแดร์ริลและยิ้มอย่างขมขื่น “ฮ่าฮ่า... ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าตระกูลนอร์แมนจะรู้เรื่องดีและให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในตระกูลวู๊ดมากจริง ๆ !”แนชหยุดก่อนจะพู
แดร์ริลไม่คิดว่าไดอาเนียลล่าจะไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะเดินทางไปกับตระกูลนอร์แมนเท่านั้น แต่เธอยังช่วยพูดเข้าข้างตระกูลวู๊ดอีกเขาตะลึงเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “จริงเหรอ? งั้นมารอดูกันว่าจะเป็นยังไง”เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่เขาพูดก่อนจะถามไดอาเนียลล่าอีกครั้ง “ยังไงก็ตาม ไดอาเนียลล่า คุณแน่ใจนะสว่าไม่อยากมากับพวกเรา? หากคุณนั่งบนกระบี่บินที่ช้า ๆ ของพวกตระกูลวู๊ด มันคงอาจต้องใช้เวลาสักพัก ไปพักผ่อนที่เมืองใต้ภูเขาโกเบก่อนดีกว่าไหม?”“ลุงแดร์ริล ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าการนั่งบนกระบี่บินของพวกเขาจะเร็วกว่าการเดินทางกับคุณมากกว่าล่ะ?” ไดอาเนียลล่ายิ้มขณะที่เธอหันไปถามเฟนด์ “เฟนด์ กระบี่บินของเราเร็วกว่าของพวกนั้นใช่ไหม?”เฟนด์เงียบตลอดเวลาในขณะที่เขาเชื่อว่าพัฒนาของตระกูลวู๊ดคงจะได้รับการพิสูจน์ในเวลานี้อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังพยักหน้าตอนที่ไดอาเนียลล่ากำลังพูดแทนพวกเขามากมาย “แน่นอนอยู่แล้ว!”“ฮ่าฮ่า… ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาไปเอาขยะชิ้นนี้มาจากไหน คงเป็นเรื่องตลกที่พวกเขาคิดจะมาเทียบความเร็วกับกระบี่บินของพวกเรา!” คีธยิ้มอย่างเย็นชา “ไดอาเนียลล่า ไม่คิดว่าพวกวู๊ดจะบ้าไปแล้ว ทำไมคุ
ผู้อาวุโสลำดับแรกของตระกูลนอร์แมนไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น "เป็นไปไม่ได้หรอก ตระกูลวู๊ดไม่มีอุปกรณ์วิญญาณระดับกลางเท่าที่ฉันนึกออก โดยเฉพาะกระบี่บินอุปกรณ์วิญญาณระดับกลางก็ยิ่งหายากไปเลย! ดาบของเราเหินได้ช้ากว่าดาบพวกมันเนี่ยนะ ดาบของพวกมันจะเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับกลางได้ไหม?"เขาไม่ได้เห็นภาพหลอนหรือฝันไป ทุกคนก็ต่างเห็นแบบเดียวกันแดร์ริลพูดด้วยสีหน้าเย็นชา "ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตระกูลวู๊ดจะโชคดีและได้ของหายากมาจากที่ที่ใครก็รู้ว่าที่ไหน ถ้านี่เป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงสุดก็จะเพิ่มพลังการต่อสู้ได้มากเลย! ถ้าแนชใช้ดาบเล่มนี้ ฉันก็จะโค่นมันลงไม่ได้!""อ้อ แล้วนั่นใคร" ชายหนุ่มพูดหลังจากที่เห็นพวกนั้น "แล้วทำไมเหมือนไดอาเนียลล่าจะคุ้นเคยกับเขาน่ะ?""เหมือนว่าไดอาเนียลล่าจะเรียกเขาว่าเฟนด์นะ!" คนอื่นพูด"เฟนด์ ลูกนอกสมรสนั่นน่ะเหรอ?" นายน้อยลำดับสองของตระกูลนอร์แมนทำหน้าเบ้ "แม่ง! ไดอาเนียลล่าอยากจะอยู่ฝั่งคนที่ใช้กระบี่บินแทนที่จะไปกับเราเหรอ?"ในทางกลับกัน คีธยิ้มเยาะเย้ย "เป็นไปได้ว่าไดอาเนียลล่ารู้สึกว่ากระบี่บินเร็วกว่ามาก เธอเต็มใจไปกับตระกูลวู๊ดเพราะรู้ว่าดาบนั่นคืออุปกรณ์วิญญาณระดับ
หลายคนไม่เข้าใจกับสิ่งที่ไดอาเนียลล่าพูด? เธอหมายความว่ายังไงกัน จะฟังทุกอย่างที่เขาจะพูดเหรอ? ทำไมฟังดูเหมือนคู่รักคุยกัน?เฟนด์ก็ตกใจเช่นกัน เขาทำได้แค่ยิ้มแหย ๆ ขณะมองไปข้างหน้าพร้อมเร่งเร้ากระบี่บินไปข้างหน้ากลุ่มหนึ่งได้มาถึงที่ชานเมืองที่อยู่ใต้เขาโกเบด้วยกระบี่บินในคืนนั้นเฟนด์หยุดกระบี่บินตอนที่พวกเขามาถึงที่ทางเข้า "เอาล่ะ ลงไปแล้วเข้ากันไปเถอะ จะดีที่สุดถ้าทำตัวให้ธรรมดา ๆ เข้าไว้ เพราะการได้เห็นจะเป็นการรบกวนถ้าใครจับตามองดูของล้ำค่าอย่างนั้นอยู่"แนชพยักหน้าอย่างพอใจ "เอาล่ะ เข้าไปข้างในกัน"พวกเขากระโดดลงจากกระบี่บินและเดินเข้าไปหลังจากที่เฟนด์ทำให้ดาบเล็กลงและซ่อนไว้ในแหวนยุทธ"เหมือนว่าเราจะมาถึงก่อนใครเลยนะ ถ้ามาทีหลังคงหาที่พักยาก" ผู้อาวุโสลำดับแรกยิ้มขมขื่น "ตอนนั้น เราทำได้แค่หาถ้ำนอกเมืองอยู่ถ้าหาที่พักไม่ได้""ฮ่า ๆ...! ต้องขอบคุณนายน้อยเฟนด์สำหรับกระบี่บินนะ เราคงมาไม่ได้เร็วขนาดนี้ถ้าไม่มีดาบนั่นใช่ไหม?" เมสันหัวเราะ แม้ว่าตระกูลวู๊ดจะสูญเสียอย่างร้ายแรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็ยังมั่นใจในความพัฒนาของตัววเอง โดยเฉพาะเฟนด์ที่มีพรสวรรค์และ
แนชตกใจกับข่าวนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าตระกูลฮันท์ทำเพื่อหากำไรชัดเจนเลยว่าพรรคเล็ก ๆ อย่างโกเบไม่ได้ต้องพึ่งพาตระกูลฮันท์ในทันที ตระกูลฮันท์ต้องหาพวกเขาและแบ่งกำไรกันในภายหลังอย่างไรก็ตาม ตระกูลฮันท์ก็เป็นพรรคใหญ่ และมีปรมาจารย์ถึงสี่คนในระดับสูงสุดของเทพแท้จริง พวกเขายังมีปรมาจารย์อีกหลายคนที่เป็นระดับสูงสุดของเทพแท้จริงตระกูลวู๊ดจะไปเถียงอะไรได้ถ้าต้องเจอกับตระกูลที่มีอำนาจขนาดนี้?แนชทำได้เพียงแค่ยิ้มให้บอดี้การ์ด "แล้วเราจะทำให้มันยากขึ้นสำหรับพวกคุณได้ยังไงกันล่ะ? นี่คือสิ่งที่เราควรทำ! และเราจะทำ! บอกฉันมา ต้องจ่ายหินวิญญาณเท่าไหร่?"บอดี้การ์ดยิ้ม "อืมมม... หินวิญญาณระดับเล็กสองก้อนต่อหนึ่งคน และผมเห็นว่าตรงนี้มีสี่สิบสองคน หมายความว่าหนึ่งพันสี่สิบก้อนก็พอแล้วสินะ?""เกินพันเลยเหรอ?" มุมปากของผู้อาวุโสกระตุกเมื่อได้ยินค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างแพง พวกเขาต้องจ่ายหินวิญญาณเพื่อเข้าเมืองให้ได้ และมันแพงไปสำหรับสองก้อนต่อคนสุดท้ายแล้ว ของอย่างนั้นก็จำเป็นกับพวกปรมาจารย์ที่ต้องการฝึกฝน"ใช่ นี่คือคำสั่งที่พวกเขาสั่งไว้ เราทำอะไรไม่ได้เลย" บอดี้การ์ดพูดอย่างเหลืออดขณะมองผู้อาวุโ