Share

บทที่ 5

“ผมผิดไปแล้ว” นัยน์ตาของเยี่ยจิ่วโจวมีความละอายใจซ่อนอยู่ เขาเสียใจและโกรธแค้น “ผมถูกเซี่ยอวี่โหรวหลอกมาห้าปีเต็ม ถ้าไม่ใช่เพราะ…”

“ไม่ใช่แม่มึง!” สวีหู่ตะโกนขึ้นด้วยความโมโห ขัดจังหวะคำพูดของเยี่ยจิ่วโจวเขาทันที ชี้มือไปทางจมูกของเขา ด้วยใบหน้าแสนชั่วร้าย “ไอ้เหี้ย เมื่อกี้เกือบจะจำไม่ได้แล้ว ที่แท้ก็เป็นมึงนี่เอง! ลูกเขยที่ตระกูลเซี่ยแต่งเข้ามา เยี่ยจิ่วโจว!”

“กล้าทำลายเรื่องดีๆ ของกู ถึงมึงจะมีเก้าชีวิตมึงก็ต้องตาย!”

“กู…”

เสียงขาดหายและพลันหยุดลงทันที!

สีหน้าของเยี่ยจิ่วโจวเคร่งขรึมลงทันที ฝ่ามือราวกับฟ้าแลบยื่นออกมา บีบเข้าที่คางของสวีหู่ทั้งดึง ทั้งบีบ

ทั้งเขย่า

แกร๊ก!

กระดูกข้อต่อคางเคลื่อน ฟันขบขึ้น กัดลิ้นเข้าไปเต็มๆ จนขาดไปครึ่งหนึ่ง!

จากนั้นเท้าข้างหนึ่งกระโดดถีบ เข้าไปที่ท้องน้อยของสวีหู่ มองดูแล้วร่างที่แข็งแรงบึกบึนนี้ เป็นเหมือนกับกระสอบทรายที่กำลังจะขาด เพียงแตะแค่นิดเดียวก็ลอยออกไปไกลห้าหกเมตร ชนกับเก้าอี้นวดหรูหราล้มลงทั้งหมด และเขาก็ล้มลงบนพื้นกลิ้งไปด้วยเสียงร้องโหยหวน เสียงร้องคร่ำครวญเสียงดังราวกับหมูถูกเชือด เลือดแดงฉานทะลักออกมาจากลิ้นที่ขาด!

“…” ทุกคนข้างในนั้นรวมถึงเซี่ยจื่อชิวอยู่ในความตกใจ

ปู้หุ่ยน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเยี่ยจิ่วโจวตึกใจจนสะดุ้งโหยงและร้องไห้ออกมาเลย!

ความสูงของสวีหู่ประมาณหนึ่งร้อยเก้าสิบเมตร น้ำหนักอย่างน้อยก็ร้อยกิโลกรัม คิดไม่ถึงเลยว่าการที่ถูกถีบเพียงครั้งเดียวแล้วจะลอยไปไกลถึงขนาดนั้น จนกระดูกข้อต่อคางเคลื่อน ลิ้นขาด เลือดพ่นออกมาอย่างรุนแรง…

ป่าเถื่อนเกินไปแล้ว โหดร้ายเกินไปแล้ว!!

“ฮือ ฮือๆ …” เซี่ยจื่อชิวทั้งตกใจทั้งหวาดกลัว ในความวิตกกังวลนั้นก็ปล่อยเสียงร้องไห้ที่แหบแห้งออกมา เธอดันและผลักแขนของเยี่ยจิ่วโจวอย่างแรง

วิ่งสิ คุณรีบวิ่งสิ ที่นี่เป็นธุรกิจของตระกูลสวี คนทั้งหมดนี้ก็เป็นคนของพวกเขา!

“ผมไม่กลัวหรอก” เยี่ยจิ่วโจวหันกลับไปดวงตาจ้องมองเซี่ยจื่อชิวด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง คล้ายกับบอกว่าเรื่องนี้แค่เล็กน้อย “เพียงแค่คุณยินยอม ผมจะฆ่าพวกมันเดี๋ยวนี้”

“ใครที่มันเหยียดหยามภรรยาและลูกของฉัน ฉันจะฆ่ามันอย่างไร้ความปรานี!”

นี่ไม่ใช่การพูดส่งเดช แต่นี่คือประกาศอย่างกึกก้องของเทพเจ้าแห่งสงคราม

ก็แค่แมลงตัวเล็กๆ ถ้าถูกฆ่าจะเป็นยังไงเหรอ

“…” เซี่ยจื่อชิวส่ายหัวอย่างสุดชีวิต น้ำตาไหลลงราวกับฝน!

ฆ่าไม่ได้นะ ฆ่าไม่ได้นะ!

ถึงแม้ว่าคุณจะเคยเป็นทหารมาก่อน ฝีมือการต่อสู้ก็นับว่าดี ถึงคุณจะสามารถฆ่าสวีหู่ได้ สามารถฆ่าคนมากมายที่นี่ได้ แต่ว่าคุณก็ต้องชดใช้ให้พวกเขาด้วยชีวิตเหมือนกัน!

แล้วมันจะเป็นไปได้ยังที่คุณจะฆ่าพวกตระกูลสวีทั้งหมดได้!

ที่ปินไห่ ใครบ้างที่จะไม่รู้ถึงความร้ายกาจของตระกูลสวี มีทรัพย์สินนับหมื่นล้าน กินเรียบทั้งสองทางทั้งธุรกิจสีขาวและสีดำ ก็เพราะว่าตระกูลสวีที่คอยหนุนหลังอยู่ เซี่ยอวี่โหรวจึงได้กล้าเนรเทศพวกเราออกมาจากตระกูลเซี่ย!

เราไม่สามารถจะทำให้ตระกูลสวีขุ่นเคืองได้!

“คุณ ผมทำให้คุณกลัวเหรอ” เยี่ยจิ่วโจวอุ้มปู้หุ่ยน้อยไว้ในอ้อมกอด ส่ายหน้าใส่เซี่ยจื่อชิวช้าๆ ท่าทางมุ่งมั่นเด็ดขาด “คุณสบายใจได้ ถึงผมจะฆ่าคน ราวกับเชือดไก่เชือดหมู ก็ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคตแน่นอน คุณอยากพูดอะไรเหรอ ใช้ภาษามือแสดงมันออกมา ผม…”

ไม่ทันที่เยี่ยจิ่วโจวพูดจบ เซี่ยจื่อชิวร่ำไห้โดยไร้เสียง ทุบตีที่หน้าอกของเขาอย่างต่อเนื่อง

ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแล้ว คุณไปเลย คุณไปได้แล้ว!!

“ฉันเข้าใจแล้ว…” เยี่ยจิ่วโจวอึกอัก สุดท้ายก็พยักหน้าช้าๆ “วันนี้ ผมจะฟังคุณ ผมจะไว้ชีวิตอันไร้ค่าของพวกมันไปชั่วคราว!”

“จื่อชิว ไป พวกเรากลับบ้านกัน!”

เสียงสิ้นสุดลง ไม่ยอมให้เซี่ยจื่อชิวได้ปฏิเสธ ตรงเข้าไปโอบเอวบางของเธอ ทั้งสามคนในครอบครัวก็เดินก้าวเท้ายาวๆ ไปยังหน้าประตู

ส่วนลูกผู้ดีมีเงินแล้วก็พนักงานรักษาความปลอดภัยลูกสมุนพวกนั้นนะเหรอ

เขาไม่สนใจมันเลย แค่มองก็ยังไม่มอง!

“คามาเลอ!”

ด้านหลังไปไม่ไกลนัก สวีหู่ถูกประคองไว้โดยบอดี้การ์ดสองสามคน กำลังลุกขึ้นจากพื้น จ้องมองไปยังด้านหลังของเยี่ยจิ่วโจว คนทั้งคนเหมือนกับเป็นบ้า!

เสียงตะโกนคลุมเครือไม่ชัดเจนดังออกมาจากปากของที่ลิ้นขาดของเขา “คามาเลอ! คามาไหฉา!!”

“…” ผู้คนมากมายบริเวณรอบๆ ที่กำลังอยู่ในความสับสน แต่ทว่าผ่านไปไม่กี่วินาทีก็เข้าใจขึ้นมาในทันที แต่ละคนก็คึกคักขึ้นมาราวกับถูกฉีดเลือดไก่เข้าไป ใบหน้าพลันดุร้าย

ที่สวีหู่พูดก็คือ

ฆ่ามันเลย!

ฆ่ามันให้ฉัน!

“ฆ่าไอ้เหี้ยนี่ให้ตาย!”

“ทุกคนมารวมกัน!”

“แก้แค้นให้กับพี่หู่ สับมัน…”

บอดี้การ์ดข้างกายสวีหู่หลายคน ทุกคนต่างพากับหยิบมีดเงาวับออกมา และพุ่งขึ้นมาจากทางด้านหลังของเยี่ยจิ่วโจว!

ทันใดนั้นเยี่ยจิ่วโจวหันกลับไป ร่างของเขาราวกับสายฟ้า!

เสียงกรีดร้องเจ็บปวดรวดร้าวน่าเวทนาดังระงมไม่ขาดสาย

คนพวกนี้ ถูกเขาตรงเข้าถล่มลอยออกไป และล้มลงบนพื้น ได้รับบาดเจ็บสาหัสเอ็นขาดกระดูกหัก

ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดของพวกมัน มองไปที่เยี่ยจิ่วโจวด้วยสายตาบ่งบอกถึงความหวาดกลัว

“ตอนนี้ ก็ไม่มีใครมารบกวนเราแล้ว” เยี่ยจิ่วโจวหันกลับไปอีกครั้ง ยืดมือไปดึงนิ้วเรียวยาวของเซี่ยจื่อชิว และเอ่ยขึ้นเสียงเบา

“ผมรู้ว่าคุณมีหลายเรื่องที่อยากพูด มีหลายเรื่องที่อยากถาม”

“อย่าเพิ่งรีบร้อน”

“ไม่ว่าคอของคุณจะได้รับบาดเจ็บหนักสักแค่ไหน ผมก็จะต้องรักษาคุณให้หาย!”

“ผมสัญญา!”

เขาอุ้มลูกสาวของตัวเอง จูงมือผู้หญิงของตัวเอง เดินออกไปจากสโมสรตี้หวังอย่างเปิดเผยราวกับว่าที่นี่มีแค่พวกเขาสามคน

“ปู้หุ่ย”

เยี่ยจิ่วโจวมองปู้หุ่ยน้อยที่น่ารักและเฉลียวฉลาดในอ้อมกอด เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอบอุ่น “บอกพ่อ ว่าบ้านของเราอยู่ที่ไหน พ่อจะพาหนูกับแม่กลับบ้านด้วยกัน”

“อยู่ อยู่…” ถึงอย่างไรแล้วปู้หุ่ยน้อยก็ยังไม่คุ้นเคยกับเยี่ยจิ่วโจว จึงมองเซี่ยจื่อชิวพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ถึงได้เอ่ยขึ้นอย่างเขินอาย “อยู่ที่ย่านกวนหลานค่ะ อยู่กับคุณตาแล้วก็คุณยาย นั่งรถเมล์สายสิบเก้า ลงที่สถานีสุดท้าย จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายค่ะ…”

หัวใจเยี่ยจิ่วโจวคับแน่นขึ้นเล็กน้อย

ย่านกวนหลาน เมื่อหลายปีก่อนเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ ตั้งอยู่ในแถบพรมแดนติดต่อระหว่างเมืองกับชนบท และเมื่อห้าปีก่อนได้มีการเข้ามาทำโครงการสร้างและปรับปรุงตัวอาคาร ตอนนั้นตระกูลเยี่ยก็เคยคิดที่จะลงทุนกับที่ดินผืนนี้ แต่เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนนั้น ตระกูลเยี่ยจึงได้แตกกระเส็นกระสายไป แผนการลงทุนจึงต้องจบลงอย่างไร้เหตุผล

แต่คิดไม่ถึงว่าผ่านไปห้าปี ย่านกวนหลานยังไม่ได้ถูกรื้อถอน!

“พวกเราจะไม่นั่งรถเมล์ พ่อมีรถ” เยี่ยจิ่วโจวจุ๊บไปบนใบหน้าเล็กของปู้หุ่ย และล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก

ณ ขณะนี้…

“เจอแล้ว พวกเขาอยู่ตรงนี้!”

เสียงแหลมร้องตะโกนพร้อมกับเสียงแหลมจากการเบรกรถดังขึ้นจากมุมโค้งถนนที่อยู่ไม่ไกล!

สวีเจียหาว เซี่ยอวี่โหรว!

นั่งอยู่บนรถยนต์ไมบัคคันสีดำ โดยที่หัวของเขายื่นออกมาจากหน้าต่างทางด้านหลัง จ้องเขม็งไปที่เยี่ยจิ่วโจวด้วยความโกรธแค้นจากไกลๆ ออดี้เอแปดหกคันกำลังตามหลังมาติดๆ ซึ่งเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลสวีทั้งหมด พวกเขาพุ่งตัวออกมาจากรถ และเข้ามาล้อมรอบเยี่ยจิ่วโจวเอาไว้

“เยี่ยจิ่วโจว แล้วแกก็มาที่นี่จริงๆ !”

ภายใต้การคุ้มกันของบอดี้การ์ด สวีเจียหาวและเซี่ยอวี่โหรวขบเคี้ยวฟันด้วยความโกรธเดินไปข้างหน้าเยี่ยจิ่วโจว ใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น

ความโกรธแค้นอยู่ในใจ!

ที่คฤหาสน์ตระกูลเซี่ย สวีเจียหาวที่ถูกเยี่ยจิ่วโจวเตะจนตัวลอย กระดูกเกือบหักไปแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังเจ็บแทบตาย เซี่ยอวี่โหรวที่อีกนิดเดียวก็จะถูกบีบคอตาย ใช้ผ้าพันคอพันคอเอาไว้ เพื่อปิดบังรอยฟกช้ำที่ขึ้นเป็นรอยนิ้วมือ

ชีวิตนี้ไม่เคยเสียเปรียบมากขนาดนี้ และไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูถึงมากขนาดนี้มาก่อน!

“ไอ้สวะ อีใบ้ แล้วก็เด็กน้อย…” สวีเจียหาวยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ จนเสียงกัดฟันดังกรอดๆ “ยังจะงงกันอยู่ทำไม ฉันบอกพวกแกว่ายังไง ไปตีมัน!”

“ตีแรงๆ ตีให้ตาย!”

ซู่ซ่าซ่า!

บอดี้การ์ดของตระกูลสวีรวมทั้งหมดยี่สิบกว่าคน เค้าโครงของกล้ามเนื้อภายใต้เสื้อสูทสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แวบแรกเห็นคงเป็นพวกที่ฝึกการต่อสู้ แข็งแรงและมีฝีมือ พวกอันธพาลทั้งหลาย ทำท่าทางว่ากำลังจะเริ่มลงมือ!

“เดี๋ยว!” เซี่ยอวี่โหรวยกมือขึ้นอย่างสุดแรง เพื่อบอกให้เหล่าบอดี้การ์ดอย่าเพิ่งวู่วามให้รอดูเหตุการณ์ไปก่อน จากนั้นจ้องเขม็งไปที่เซี่ยจื่อชิว และเอ่ยถ้อยคำถากถางที่ชั่วร้ายขึ้น "ไอ้สวะนี่กลับมาจากการเป็นทหารแล้ว แกคิดว่าแกมีความหวังขึ้นมาแล้วอย่างนั้นสินะ"

“แกรู้ไหมว่ามันทำอะไรไว้บ้าง”

“มันไปที่สนามประลองสุนัขคลั่ง เตะเจียงหย่งจนกระดูกหักไปหลายสิบท่อน ฆ่าทิเบตันแมสติฟฟ์สามตัวที่คุณปู่รักที่สุด แถมยังทำร้ายคนดูอีกมากมาย ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้น! แล้วยังทำร้ายฉัน ทำร้ายพี่เจียหาวอีก!”

“สิ่งที่มันทำ คงเพียงพอที่จะทำให้พวกแกตายไปหมดทั้งครอบครัว!”

ริมฝีปากของเซี่ยจื่อชิวพูดอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่สองสามครั้ง หันหน้ามองเยี่ยจิ่วโจวที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าสิ้นหวังขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

วู่วาม วู่วามเกินไปแล้ว!

การแสดงออกของเขาตอนที่อยู่โรงอาบน้ำ นิสัยของเยี่ยจิ่วโจวนั้น เดายังไงก็เดาถูก และเรื่องที่อวี่โหรวลูกพี่ลูกน้องพูดคงไม่ใช่เรื่องที่ปรุงแต่งขึ้นมาโดยไม่มีหลักฐานเป็นแน่ เขาทำมันได้แน่!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status