หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป..
ไอรินกลับมายังคฤหาสน์ใหญ่โตเวอร์วังอลังการของตระกูลอัครเมธาสกุลในช่วงเช้าของวันหลังจากที่บินกลับมาจากภูเก็ตหญิงสาวอยู่แต่ในคอนโดไม่ยอมกลับบ้าน จนพิพัฒน์ต้องโทรไปตามเธอถึงจะยอมกลับมา
หญิงสาวสวมชุดเดรสรัดสั้นรูปคล้องคอแขนกุดสีดำเดินกรีดกรายเข้ามาภายในบ้านด้วยท่าทางมาดมั่นไม่สนใจใคร คนรับใช้ต่างพากันยกมือไหว้และทักทายคุณหนูของบ้านนี้ ไอรินสีหน้าเรียบเฉยเดินตรงไปยังห้องโถงใหญ่โตหรูหราทันที
“คุณหนู กลับมาแล้วหรอคะ” ดวงใจ หญิงแก่ชราอายุมากแต่ยังดูแข็งแรงเอ่ยทักทายไอรินด้วยความดีใจ
ป้าดวงใจช่วยแม่ของเธอเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เธอจำความได้และหลังจากที่แม่เสียไปหญิงสาวก็มีแต่ป้าดวงใจนี่แหละที่สามารถเป็นที่พึ่งทางใจให้เธอได้และคอยอยู่ข้างๆเธอเสมอ
“ป้าดวง รินคิดถึงจังเลย”
ไอรินเดินไปสวดกอดหญิงแก่ที่อยู่ในชุดแม่บ้านประจำตระกูลของเธออย่างไม่รังเกียจ
“คุณหนู หิวไหม กินอะไรมาหรือยัง” สาวแก่เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยพลางลูบหลังเบาๆ สองร่างกอดกันด้วยความคิดถึงอยู่นานสองนานจนไอรินค่อยๆผละออกจากร่างสูงอายุช้าๆ
“รินยังไม่ได้กินอะไรมาเลย รอกินฝีมือป้าดวงนี่แหละค่ะ”
“อ้อนป้าอีกแล้วนะ แต่ก็ไม่ยอมกลับมาบ้านสักที”
“ป้าก็รู้ว่ารินกลับมาก็มีแต่ปัญหาอยู่คอนโดดีกว่าค่ะ สบายใจดี”
“เดี๋ยวป้าไปทำอะไรให้กินนะคะ” สาวแก่เห็นความเศร้าหมองในสายตาหญิงสาว เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
พูดจบสาวใช้ที่อยู่ใกล้ๆก็เดินมาประคองหญิงชราอาวุโสที่สุดในคฤหาสน์นี้พาตรงไปยังห้องครัวใหญ่อย่างช้าๆ ไอรินก้าวเดินตรงไปยังห้องรับแขกใหญ่กวาดสายตาไปรอบๆห้อง
“คุณพ่ออยู่ไหน” ไอรินเอ่ยถามสาวใช้
“นายท่านอยู่บนห้องค่ะคุณหนู อีกสักพักก็จะลงมาแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบจากคนใช้แล้ว หญิงสาวจึงย่อตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่พร้อมกับวางกระเป๋าสีดำเข้ากับชุดราคาแพงลงบนโต๊ะ
“คุณหนูรับน้ำอะไรดีคะ” สาวใช้เอ่ยถามทันทีที่หญิงสาวนั่งลงบนโซฟา
“น้ำเปล่า” ไอรินตอบสั้นๆ
“ค่ะ”
สาวใช้ก้มหัวหนึ่งครั้งก่อนจะปลีกตัวเดินไปหยิบน้ำมาเสิร์ฟให้เธอ ในจังหวะนั้นเอง พิพัฒน์ พ่อของเธอก็เดินมายังห้องรับแขกพอดี
“แกยังจำทางกลับบ้านของแกได้ด้วยหรอ” พิพัฒน์เอ่ยเสียงเข้ม
“มีอะไรคะ โทรตามรินมาทำไม”
“ถ้าวันนี้ไม่มีธุระอะไรก็อยู่บ้าน เดี๋ยวจะมีแขกมาที่บ้านแกต้องทำความรู้จักสนิทสนมกับเขาไว้”
“แค่นั้นใช่ไหมคะ”
“แล้วต่อไปนี้แกต้องไปช่วยงานฉันที่บริษัททุกวัน แกจะมาเถลไถลแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว”
“รินขอเวลาสักสองสามวันแล้วกันค่ะ”
สิ้นเสียงของหญิงสาว พิพัฒน์ย่อตัวนั่งลงข้างๆไอรินพร้อมกับเอ่ยเสียงเเข็งขึ้นอีกครั้ง
“แกไปอยู่เมืองนอกมานานมีแฟนหรือยัง”
“ถามทำไมคะ” ไอรินขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ฉันเป็นพ่อแกนะ ทำไมฉันจะถามไม่ได้”
“รินไม่มีค่ะ แล้วก็ยังไม่คิดจะมีด้วย”
“ยังไม่มีก็ดี ฉันจะได้นัดดูตัวให้แก”
“พ่อจะทำอะไรก็ทำเลยค่ะตามสบาย ยังไงพ่อก็ไม่เคยถามความเห็นของรินอยู่แล้ว” หญิงสาวตอบอย่างประชดประชัน
“ยัยริน ฉันก็ถามแกอยู่นี่ไง”
“อันนั้นเรียกว่าถามหรอคะ”
สองพ่อลูกเริ่มเสียงดังใส่กันตั้งท่าจะเถียงกันต่อ แต่ทว่าในจังหวะนั้นเองก็มีชายหนุ่มหน้าฝรั่งหล่อเหลานัยน์ตาสีเทาน่าหลงใหลย่างกรายเข้ามาภายในห้องรับแขกที่ใหญ่โตหรูหรา ส่งผลให้สองพ่อลูกหันขวับไปมองอย่างตื่นตกใจ
“อ่าว คุณคาเดนมาไวจังเลยนะครับ”
พิพัฒน์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง พิพัฒน์ได้นัดหมายกับเคแลนคุยเรื่องธุรกิจ เขาต้องการจะนัดไปที่บริษัทแต่คาเดนต้องการมาที่บ้านเนื่องจากเขาบอกว่าเขาผ่านมาทางนี้พอดีและคาเดนไม่ได้เข้าบริษัทในวันนี้
“สวัสดีครับคุณพิพัฒน์” คาเดนยิ้มกว้างอบอุ่นส่งกลับไปให้พิพัฒน์พลางจ้องมองร่างบางที่อยู่ข้างกายพ่อของเธอ
“สวัสดีครับ” พิพัฒน์เอ่ย
“สวัสดีครับน้องไอริน” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งไปให้ไอริน
“สวัสดีค่ะ”ไอรินหน้าตานิ่งเรียบยกมือไหว้ตามมารยาท
“นั่งก่อนครับ ทานมื้อเที่ยงมาหรือยังครับ” พิพัฒน์พายมือให้คาเดนนั่งลงตรงข้ามเขา
“ยังเลยครับ”
คาเดนย่อตัวนั่งลงบนโซฟาใหญ่พร้อมกับตวัดสายตามองที่ร่างบางอยู่บ่อยๆ ดวงหน้าของไอรินช่างน่ามองน่าหลงใหล เขาสามารถมองใบหน้าสวยเชิดรั้นนั้นได้อย่างไม่เบื่อเลย
“งั้นเดี๋ยวเชิญทานอาหารเที่ยงด้วยกันก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องงานกันดีกว่าไหมครับ”
“ได้ครับ”
“จัดโต๊ะเพิ่มอีกที่หนึ่งนะ” พิพัฒน์หันไปเอ่ยกับสาวใช้ที่ยืนประจำตำแหน่งอยู่ตามแต่ละจุดของบ้าน
“ค่ะนายท่าน” สาวใช้เอ่ยตอบกลับและรีบหันหลังตรงไปยังห้องรับประทานอาหารทันที
“ทำไมผมถึงไม่เคยเจอลูกสาวคนสวยของคุณพิพัฒน์เลยละครับ”
คาเดนเชิงถามในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว ชายหนุ่มให้คนไปสืบเรื่องของไอรินมาหมดแล้ว เธอโดนส่งไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นของชีวิตและเพิ่งได้กลับมาที่ประเทศไทยเมื่อไม่กี่สัปดาห์นี้เอง
“ไอรินไปเรียนที่ต่างประเทศมานะครับ เธอเพิ่งจะเรียนจบผมเลยให้เธอกลับมาศึกษางานที่บริษัทต่อ”
พิพัฒน์เอ่ยตอบกลับคาเดนแทนลูกสาวที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา พิพัฒน์ลอบสังเกตสายตาที่คาเดนมองไอริน เขาเป็นผู้ชายเหมือนกันเขาพอจะมองออกว่าคาเดนคงจะชอบพอไอรินอยู่ไม่น้อย หากเป็นอย่างนั้นเขาจะได้ไม่ต้องให้ไอรินไปนัดดูตัวให้เสียเวลา เพราะคาเดนนั้นเพรียบพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ฐานะ เชื้อสายวงศ์ตระกูล ทุกอย่างที่เป็นคาเดนมันช่างสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ
“ช่วงศึกษางานคงเหนื่อยแย่เลยนะครับ”
“ครับ ผมก็ค่อยๆให้แกเรียนรู้ไปนั่นแหละครับไม่ได้เร่งรัดแกมากจนเกินไป”
“ดีแล้วครับ อย่าหักโหมมากนะไอริน”คาเดนเอ่ยเสียงนุ่มนวล
“ขอบคุณค่ะ” ไอรินตอบกลับอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง พิพัฒน์และคาเดนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ส่วนไอรินเอาแต่นั่งหน้านิ่งไร้อารม์ถามคำตอบคำ จนสาวใช้เดินมาบอกเจ้านายของพวกเธอว่าโต๊ะอาหารจัดเตรียมเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว
“โต๊ะอาหารจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะนายท่าน” สาวใช้เอ่ย
“ขึ้นไปตามคุณมลบนห้องมาทานอาหารหน่อย”
สิ้นเสียงของพิพัฒน์ ไอรินหันขวับมองหน้าบิดาด้วยสายตาแข็งกร้าวขึ้นมาทันที จนคาเดนจับสังเกตอาการของเธอได้ว่าเธอรู้สึกไม่พอใจบิดาเป็นอย่างมาก
ศศิวิมล อรุณพงษ์วิไล หรือ มล ภรรยาคนที่สองของนายพิพัฒน์ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเธอมีอายุมากกว่าลูกเลี้ยงเพียงแค่ 10 ปีเท่านั้น ไอรินและแม่เลี้ยงไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่นัก นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ไอรินไม่อยากกลับบ้าน
“รินไม่หิว ขอตัวขึ้นห้องก่อนค่ะ” ไอรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ไอริน เรามีแขกอยู่นะอย่าเอาแต่ใจแบบนี้ รักษาหน้าพ่อด้วย” พิพัฒน์กระซิบข้างหูไอรินเบาๆแต่กระนั้นก็ทำให้คาเดนได้ยินอยู่ดี
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณพิพัฒน์ ถ้าไอรินไม่หิวก็อย่าไปบังคับน้องเลย”
“ไม่ได้หรอกครับคุณคาเดน ไอรินอยู่เมืองนอกมานาน ผมต้องอบรมเรื่องมารยาทไทยให้เข้มงวดกว่านี้ครับ” พิพัฒน์ตอบกลับเสียงเข้ม
ไอรินกลอกตาพร้อมกับถอนหายใจเบาๆอย่างเบื่อหน่าย เธอไม่อยากเจอหน้ายัยแม่เลี้ยงใจร้ายตีสองหน้าที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องโดนพ่อเนรเทศไปอยู่เมืองนอกใช้ชีวิตอยู่คนเดียว คิดไปถึงตอนนั้นแล้วเธอก็ยังเจ็บใจไม่หาย
เวลาผ่านพ้นไปจวบจนถึงเวลาของอาหารค่ำ ชายหนุ่มจัดเตรียมดินเนอร์ส่วนตัวสุดแสนจะหรูหราไว้ให้หญิงสาวที่ริมชายหาด แสงไฟสลัวๆ เป็นทางเดินตั้งแต่ลงจากบ้านพักมาจนถึงโต๊ะอาหารที่มีอาหารทะเลมากมายหลากหลายอย่างวางเต็มโต๊ะไปหมด“นี่คุณเตรียมไว้เพื่อเราเลยเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถามชายหนุ่ม“ใช่”“ขอบคุณนะคะ”“เรื่องแค่นี้จะขอบคุณทำไมละไอริน มากกว่านี้ผัวก็ให้ได้”“รินขอบคุณสำหรับทุกเรื่องค่ะ ขอบคุณที่ดูแลเอาใจใส่รินเป็นอย่างดีนะคะ”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพราะผัวทำอะไรก็ต้องหวังผลตอบแทนอยู่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยพลางมองจ้องไปที่หน้าอกอวบอิ่มของหญิงสาว“คนบ้า กินข้าวกันเถอะค่ะ..รินหิวแล้ว”“หึหึ” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจกับท่าทางของหญิงสาวทั้งสองคนนั่งลงบนเก้าอี้และค่อยๆ ทานอาหารที่เชฟฝีมือดีรังสรรค์มาให้พวกเขากันอย่างช้าๆสองชั่วโมงผ่านไป หลังจากที่มื้อค่ำสุดโรแมนติกผ่านพ้นไป คาเดนและไอรินก็กลับเข้ามาในบ้านพักส่วนตัวสุดหรูหราทันทีไอรินก้มๆ เงยๆ เก็บเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าเดินทางเพื่อที่จะแขวนที่ราวในตู้เสื้อผ้า ส่วนคาเดนนั้นก็เอาแต่นั่งมองภรรยาคนสวยอยู่ตรงปลายเตียงด้วยสายตาหื่นกระหายมาเฟียหนุ่มนั่งมองร่างบางอ
@เกาะพีพี กระบี่สองสามีภรรยากำลังนั่งเรือสปีดโบ๊ทจากโรงแรมที่ภูเก็ตของเขามายังเกาะพีพี เมื่อคืนพวกเขามาถึงภูเก็ตก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งวันแล้วเนื่องจากพวกเขาขับรถมาจึงต้องนอนพักที่โรงแรมของมาเฟียหนุ่มก่อน ครั้นจะให้นั่งเครื่องบินมาเขาก็เป็นห่วงภรรยาที่กำลังท้องกำลังไส้อยู่ไอรินค้างคาใจเรื่องของสกาย เธอจึงถามคาเดนอีกครั้งและได้คำตอบว่าชายหนุ่มขังเธอไว้ที่คุกใต้ดินที่มืดสนิทแต่มีคนคอยส่งข้าวส่งน้ำให้เธอทุกวัน ไอรินรู้สึกสงสารเธอจับใจจึงคุยกับสามีให้ปล่อยตัวเธอไปแล้วส่งเธอกลับไปที่บ้านให้พ่อของเธอ ซึ่งคาเดนไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่แต่ก็ต้องยอมให้ศรีภรรยา แต่ทว่าไม่นานพวกเขาก็ได้ข่าวว่าสกายเป็นโรคจิตเภทขั้นรุนแรงต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง เรือสปีดโบ๊ทก็มาจอดสนิทที่ท่าเรือของโรงแรมหรูแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับทะเลสีฟ้าคราม ซึ่งมาเฟียหนุ่มก็พอจะรู้จักกับเจ้าของโรงแรมแห่งนี้เช่นกัน โรงแรมหรูที่ชายหนุ่มเลือกเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดของเกาะนี้ มีทั้งบ้านพักส่วนตัวที่อยู่กันหลายคนและเป็นห้องพักที่อยู่บนอาคารสำหรับนักท่องเที่ยวที่มากันแค่สองสามคนร่างอรชรสวมชุดมินิเดรสส
สามอาทิตย์ต่อมา…พิธีวิวาห์สุดอลังการถูกจัดขึ้นในโบสถ์ของตระกูลแคสเซียสอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยเม็ดเงินมหาศาลของมาเฟียหนุ่มสุดหล่อเหลา มาเฟียหนุ่มพาไอรินไปพบกับครอบครัวอย่างเป็นทางการเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วพร้อมกับบอกพวกท่านว่าไอรินกำลังตั้งครรภ์อยู่ หญิงสาวได้มีการขอโทษขอโพยผู้ใหญ่จากใจจริงที่เธอทำอะไรลงไปโดยไม่คิดจนทำให้ตระกูลของแคสเซียสเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ทว่าบิดามารดาของคาเดนก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองไอรินแต่อย่างใดแขกเหรื่อที่มาร่วมงานก็ล้วนเป็นไฮโซ นักธุรกิจ ที่แต่งกายหรูหราสวมเครื่องเพชรเม็ดโตให้สมกับฐานะเพื่อโอ้อวดกัน ตรีมงานในวันนี้เป็นโทนสีขาวฟ้า แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายจึงเลือกสรรเสื้อผ้าให้เข้ากับตรีมงานเช่นกันร่างอรชรสวมชุดเจ้าสาวเกาะอกสีขาวสะอาดตาราคาหลายล้าน ดีไซน์แบบผ้าชีทรูบางคล้องคอกับแขนยาว กระโปรงหางปลายาวรัดรูปเห็นส่วนโค้งเว้าของเอวคอดกิ่งได้อย่างชัดเจน ผมยาวดกดำถูกเกล้าผมมวยต่ำ ปล่อยเส้นผมให้ดูฟุ้งเล็กน้อยพร้อมกับติดเครื่องประดับที่เป็นเพชร เป็นทรงผมที่ดูเรียบง่ายแต่เพิ่มความละมุนให้กับใบหน้าเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี เสียงไวโอลินบรรเลงขึ้นเบาๆ ทำใ
หลายวันผ่านไป มาเฟียหนุ่มและไอรินย่างกรายเข้ามาภายในบริษัทของพิพัฒน์เพื่อเรียนเชิญเพื่อนรักอย่างแพรวาไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งของพวกเขา โดยมีบอดี้การ์ดร่างกำยำหลายคนเดินตามหลังมาติดๆพวกเขาเดินตรงไปยังแผนกดีไซน์อย่างรวดเร็ว ไอรินเข้ามาถึงแผนกก็เห็นเพื่อนรักกำลังยุ่งกับการออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ที่ต้องรีบทำให้เสร็จเพราะต้องเปิดตัวก่อนสิ้นปีนี้ อาการแพ้ท้องของชายหนุ่มเริ่มดีขึ้นเพราะเขาจับว่าที่เจ้าสาวกินอยู่ทุกวัน หากวันไหนไม่ได้กินหญิงสาวเขาก็จะรู้สึกพะอืดพะอมเหมือนจะอ้วกอยู่ตลอดทั้งวันเลย “ยุ่งอยู่ไหมจ๊ะแพร” ไอรินเอ่ยถามแพรวาเมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนรักจึงเงยหน้าขึ้นมาจากงานที่กำลังวาดออกแบบเค้าโครงอยู่ “ริน..คุณคาเดนสวัสดีค่ะ” แพรวาวาดดินสอลงที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว “ครับ” คาเดนตอบกลับสั้นๆ “คุณเซนต์สวัสดีค่ะ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ” แพรวาชะเง้อหน้าไปมองบอดี้การ์ดคนสนิทของคาเดนที่ยืนอยู่ข้างหลังเจ้านาย “สวัสดีครับคุณแพรวา” เซนต์ส่งยิ้มอบอุ่นกลับไปให้เจ้าหล่อน “มากันได้ไงคะเนี่ย มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” แพรวาเอ่ยถามต่อ “พอดีว่ารินจะขอให้แพรไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้รินหน่อยได้ไหม”
สามวันผ่านไป…มาเฟียหนุ่มพาไอรินมาลองชุดแต่งงานที่ห้องชุดสุดหรูหราโทนสีขาวสะอาดตาทั้งร้าน ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันจวบจนเวลาผ่านไปเกือบถึงห้าโมงเย็น เมื่อพวกเขาลองชุดจนได้ชุดที่พอใจแล้ว ชายหนุ่มก็พาไอรินมายังคฤหาสน์อัครเมธาสกุลต่อคาเดนได้ติดต่อไปหาบิดาและมารดาของตัวเองเรื่องที่ไอรินตั้งครรภ์และพวกท่านก็ดีใจมากต้องการให้จัดงานแต่งโดยเร็วที่สุด ใช้เวลาไม่นานรถคันหรูสีดำเงาก็เข้ามาจอดสนิทลงที่ลานจอดรถของคฤหาสน์หรูอย่างช้าๆชายหญิงเดินเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่ก็พบกับพิพัฒน์กำลังนั่งจิบชาอยู่คนเดียวบนโซฟาตัวใหญ่ “พ่อไม่ได้ไปทำงานหรอคะวันนี้” ไอรินเอ่ยถามทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง “พ่อกลับมาไวนะ” พิพัฒน์วางแก้วน้ำชาในมือลงพลางตอบกลับลูกสาว “เป็นไงบ้างละวันนี้ไปลองชุดแต่งงานกันมาเป็นไงบ้าง” ชายแก่ถามต่อ “รินชอบใส่ชุดเกาะอกค่ะ แต่คุณคาเดนไม่ชอบให้ใส่เกาะอก แต่ก็ได้ชุดที่ถูกใจแล้วละค่ะ” “ก็ชุดเกาะอกมันโป๊เกินไป” เสียงทุ้มของคาเดนเอ่ย “ดีแล้วละลูก อย่าแต่งตัวโป๊มากสิ ผู้ชายยังไงก็ต้องหวงเมียเป็นธรรมดา” พิพัฒน์เสริมต่ออย่างเข้าข้างว่าที่ลูกเขยสองคนชายหญิงเดินมานั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ตรงข้ามกับพิ
เวลาผ่านไปจวบจนพลบค่ำของวัน มาเฟียหนุ่มกำลังจะพาไปหญิงสาวกลับเพนท์เฮาส์ ไอรินจึงขอตัวไปเก็บของบนห้องก่อน หญิงสาวใช้เวลาเก็บของที่จำเป็นไม่นานเพราะเสื้อผ้าของเธอคาเดนบอกว่าเขายังเก็บไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง หลังจากเก็บของเสร็จไอรินก็เปิดประตูห้องนอนออกมา และก็พบกับศศิวิมลที่กำลังยืนรอเธออยู่ด้วยแววตาท่าทางไม่เป็นมิตรเหมือนดั่งเช่นทุกครั้งเวลาพวกเธออยู่กันสองต่อสอง “มีอะไร” ไอรินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “อย่าคิดนะว่าตัวเองท้องแล้วทุกอย่างจะต้องตกเป็นของเธอ” เจ้าหล่อนยืนกอดอกเอ่ยด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ “ฉันหรือเธอกันแน่ที่คิดแบบนั้น ทุกอย่างมันเป็นของครอบครัวฉันมาตั้งแต่แรกแล้ว มีแต่เธอนั่นแหละที่คิดจะมาชุบมือเปิบไปง่ายๆ” ไอรินเอ่ยพลางเดินไปเผชิญหน้ากับศศิวิมลทำให้เจ้าหล่อนหายใจออกแรงด้วยความโมโห ก่อนที่พวกเธอจะมีปากเสียงกันต่อก็มีเสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยขึ้นมาก่อน “ไอริน” มาเฟียหนุ่มสองมือล้วงกระเป๋าค่อยๆ ก้าวเดินมาใกล้ๆ ไอริน ศศิวิมลจึงแสร้งทำสีหน้าปกติ “คุณคาเดน ขึ้นมาทำไมคะ” ไอรินเอ่ย “เห็นขึ้นมานานแล้ว มีอะไรหรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ รินเก็บของเสร็จแล้วไปกันเถอะค่ะ” หญิงสาวเดินไปคล