"วันนี่ฉันเลี้ยงเองนะ" น้ำหวานเอ่ยออกมาพร้อมกับตาปริบๆ
"ฉันก็มีตังไม่เห็นจะต้องง้อ" แก้มหอมตอบกลับอย่างมั่นใส้
"ถือว่าฉันเลี้ยงขอโทษเรื่องคืนนั้นนะ" น้ำหวานทำเสียงเศร้าๆ
"ก็สมควร"
"โอเครขอบคุณมากยัยน้องรักเจอกันคืนนี้บาย"
น้ำหวานพูดจบก็รีบวิ่งออกไปจากห้องตรวจทันทีหากขืนยืนอยู่ต่ออีกเธอเอ็งก็ไม่รู้จะหาวิธีไหนมาทำให้แก้มหอมตกลงได้อีก
"เดี๋ยวว!!!ให้ตายเถอะยัยบ้านี้ชอบเล่นทีเผลอ'' หญิงสาวบ่นไปด้วยเก็บของไปด้วยก่อนจะขับรถกลับคอนโด
"กะทิน้อยแม่กลับมาแล้วมาให้กอดหน่อย"
เมียว! เมียว! เมียว!
กะทิเป็นแมวจรที่เธอเก็บมันได้ที่ลานจอดรถของไรงพยาบาลเมื่อไม่กี่วันก่อนเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นแมวพันธ์อะไรมันมีขนเป็นสีขาวเมื่ออยู่บนเตียงเธอก็แยกไม่ออกหรอก ว่ามันคือแมวหรือผ้าห่มกันแน่
"กะทิแกอ้วนขึ้นหรือเปล่าเนี้ย"
แก้มหอมพูดกับเจ้ากะทิ มันหันมามองเธอนิดหนึ่งก่อนจะหันไปสนใจอาหารในจานต่อ
ไนต์คลับ DND
"สวัสดีครับคุณจอน บอสรออยู่ข้างบนแล้วครับ"
จอน พยักหน้าก่อนจะเดินขึ้นไปยังโซน VIP ที่มีมาร์คัสนั่งรออยู่แล้ว
"อว้านั่งสิวะยืนทำหอกอะไรนักหนา"
มาร์คัสพูดออกไปเมื่อเห็นว่าไอ้เพื่อนตัวดียืนมองอะไรเป็นนานสองนาน
"เอ่อ" พูดเสร็จก็เดินเข้าไปนั่งที่โซฟา
"เอาเหมือนเดิม" จอน หันหน้าไปบอกเด็กเสิร์ฟ
"ครับ"
ไม่นานเครื่องดื่มก็วางตรงหน้าทางด้านแก้มหอมวันนี้หญิงสาวเลือกที่จะใส่ชุดเดรสสีดำเกาะอกโชว์ผิวขาวละเอียดอมชมพูวันนี้เธอเลือกที่จะแต่งหน้าอ่อนๆทำให้ใบหน้ารูปไข่นั้นดูมีเสน่ห์น่าค้นหาส่วนผมหญิงสาวเลือกที่จะมัดสูงทำให้คอระหงส์ดูเชิญชวนให้น่าสัมผัสยิ่งนักแก้มหอมใช้เวลาขับรถจากที่พักไปไนต์คลับเพียงไม่นานก็ถึงที่หมาย
"ฮาโหล" เสียงหวานรับสาย
"อยู่ไหนแล้วยัยแก้มหอม" น้าหวานเอ่ยถามรุ่นน้องที่เธอรักเหมือนน้องสาว
"กำลังจอดรถอยู่จะเร่งอะไรนักหนาเดี๋ยวก็กลับซะหรอก" เสียงหวานตอบอย่างหงุดหงิด
"เปล่าถามดูฉันจะได้ออกไปรับเพราะคืนนี้คนแน่นมากฉันกลัวแกโดนฉุดก่อนจะถึงโต๊ะยะ"
เสียงของน้ำหวานดังตามสาย
"อืม"
"งั้นรอตรงนั้นแหละเดี๋ยวฉันจะเดินไปรับแกเอง"
พูดจบหญิงสาวก็หันไปคุยกับเด็กเสิร์ฟก่อนจะลงไปรับแก้มหอม วันนี้น้ำหวานเลือกสวมใส่ชุดเกาะอกสีขาวผมยาวสีดำปล่อยตามธรรมชาติทำให้ดูน่ารัก
"มึงมองอะไรนักหนาวะไอ้จอนกูเห็นมึงมองอยู่นานแล้ว"
มาร์คัสที่สังเกตเห็นเพื่อนหันไปมองอีกฝั่งของร้านอย่างไม่ละสายตาก่อนจะหันไปมองบ้างแต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่ามอง
"เปล่า ว่าแต่แกเถอะตอนนี้แกสืบรู้ยังว่าใครเป็นคนบงการ"
"ยังวะ"
จอน มองหน้ามาร์คัสอย่างสงสัยเพราะปกติเรื่องแบบนี้ไม่ชั่วโมงก็รู้ตัวแล้วนอนเสียจากชายหนุ่มหันไปสบตามาร์คัสอย่างไร ทางด้านมาร์คัสเองเขามองอยู่ก่อนแล้วก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ
"ใครวะ" จอนเอ่ยถามออกไป
"ไม่รู้วะพอจะถึงตัวกลับไร้ร่อยรอยตลอด" มาร์คัสเอ่ยออกมาก่อนหันจะสบตากับ จอน
"อืม กูก็ว่าคนใกล้ตัวมึงนั้นแหละ"
ทั่งคู่นั่งกับไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสายตาของมาร์คัสไปสะดุดเข้ากับร่างบางของใครบางคน มันดูมีเสน่ห์น่าค้นหาชายนุ่มนั่งมองจนเพลินและไม่รู้ว่าเขามองมันนานแค่ไหนแล้วจน จอน ต้องเอ่ยปากแซว
"ทำไมมึงสนใจเหรอ"
จอนถามอย่างรู้ความคิดของคนเป็นเพื่อนมีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่ามาร์คัสกำลังสนใจ และจะเป็นใครไปไม่ได้คงจะหนีไม่พ้นสาวโต๊ะข้างล่างแน่แต่จะเป็นคนชุดขาวหรือชุดดำก็ต้องรอดูอีกที
"เปล่า"
ปากบอกว่าเปล่าแต่มุมปากกลับยกยิ้มอย่างเจ้าเล่น์แต่มีหรือที่คนอย่าง จอน จะดูไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดออะไรอยู่ ก่อนจะเอ่ยข้อมูลที่รู้ออกมา
"ผู้หญิงสองคนนั้นทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแก่นั่นแหละ"
"โรงพยาบาลฉัน!"
ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมอย่างสงสัย โรงพยาบาลของเขามีหมอน่ารักแบบนี้ด้วยเหรอ
"ใช่เป็นหมอทั้งคู่ด้วย
ยิ่งได้ฟังคำบอกเล่าจาก จอน ยิ่งทำให้มาร์คัสอย่างรู้รายละเอียดยิ่งนัก ด้านล่าง
"อย่ามานั่งทำหน้าอมทุกข์แบบนั้นสิมันทำให้แก่ไวนะยัยบ้า"
น้ำหวานเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังทำหน้ายูยี่ หญิงสาวมองหน้าน้ำหวานก่อนจะถอนหายใจออก มา เฮ้อ! พรุ่งนี้แล้วสินะที่เธอต้องให้คำตอบคุณเป็นพ่อเรื่องงานแต่งงานแต่ให้ตายเถอะอีตาว่าที่เจ้าบ่าวหน้าของเธอรูปร่างยังไงแถมนิสัยเธอเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเข้ากันได้หรือเปล่าหญิงสาวสลัดความคิดออกเธอไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เลยหลังจากที่นั่งดื่มได้สักพักมาร์คัสก็ขอตัวก่อนแยกย้ายตอนแรกชายหนุ่มคิดจะนอนที่ไนต์คลับแต่เพราะพรุ่งนี้เขามีนัดไปดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่ร้านอาหารแถวๆคอนโดชายหนุ่มจึงหอมสังขารกลับคอนโดทันที
เช้าวันต่อมา
ร่างบางที่กำลังหลับสบายอยู่บนเตียงหกฟุตแสนนุมนิ่มก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์
"ค่ะคุณพ่อ" เสียงหวานกรอกเสียงไปตามสาย
"วันนี้อย่าลืมละหนูมีนัดกับพ่อนะ" คนเป็นพ่อเอ่ยย้ำลูกสาว
"ค่ะหนูไม่ลืม พ่ออย่างลืมส่งที่อยู่ร้านมาให้หนูด้วยนะคะ"
"อืม"
หลังจากวางสายได้ไม่นานหญิงสาวก็ถูกปลุกโดยเจ้ากะทิน้อยอีกตามเคย
เมียว! เมียว! เมียว!
เมื่อเห็นว่าแก้มหอมยังไม่ยอมลุกขึ้นเจ้ากะทิเดินขึ้นไปนั่งทับบนใบหน้าของเธอพร้อมส่งเรียกอีกรอบ
เมียว! เมียว! เมียว
หญิงสาวที่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับจมูกจนหายไม่ออกก็รู้เลยว่าเจ้ากะทิคงหิวมากแล้วหญิงสาวลุกขึ้นนั้งก่อนตะตวัดเท้าลงจากเตียงแล้วเดินไปเทอาหารให้เจ้ากะทิน้อย หญิงสาวนั่งมองเจ้ากะทิกินอาหารเป็นนานสองนานกว่าจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี่เธอมีนัดต้องไปทานข้าวก็ปาเข้าไปเป็นครึ่งชั่วโมงแล้ว
ชายหนุ่มเลี่ยงที่จะไม่ตอบทำเพียงแค่ยิ้มออกมาและพูดออกมาว่า"ไม่มีอะไรครับ"แก้มหอมเองเมื่อเห็นว่าเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อเพราะว่าขนมที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้มันน่ากินมากก่วาเยอะและเมื่อทุกอย่างเข้าปากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั้งทุกอย่างที่อยูตรงหน้าตอนนี้เกลี้ยงจนเหลือแต่จานเปล่ามาร์คัสเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กตรงหน้าอิ่มแล้วจึงเรียกเช็คบิลในระหว่างทางชายหนุ่มก็พูดขึ้นมาว่า"แก้วหมอครับเดี๋ยวพี่ขอแวะที่โรงพยาบาลสักหน่อยนะครับ"มาร์คัสที่นั่งรอคำตอบก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่ได้รับการตอบรับจากคนที่นั่งข้างๆเขาจึงหันไปมองหน้าคนตัวเล็กแตาปรากฎว่าตอนนี้เธอหลับไปแล้วชายหนุ่มกะว่ารอให้ถึงโรงพยาบาลแล้วค่อยปลุกเธอในจังหวะที่เขาเลี้ยวรถเข้าจอดรถของผู้บริหารโรงพยาบาลคนตัวเล็กก็ตื่นขึ้นมาพอดี"พี่มาร์คัสมาทำอะไรที่ทำงานแก้มหอมค่ะ"เสียงหวานของคนตัวเล็กฟังดูงัวเงียเหมือนคนที่นอนยังไม่เต็มอิ่มดังขึ้น เพราะเธอคิดว่าถึงที่พักแล้วแต่ดันไม่ใช่มารัคัสส่งรอยยิ้มออกมาพ้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า"พี่จะมาหาลุงหมอหน่อย""ลุงหมอ?"สาวน้อยตรงหน้าขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมเป็นคำถามก่อนจะเอียคอน
หลังจากงานแต่งานนี้ก็ผ่านมา2เดือนย่างเข้าเดือนที่3แล้วที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันช่วงนี้แก้มหอมมักมีอาการอยากกินขนมหวานเป็นพิเศษหากวันไหนที่ไม่ได้กินก็จะรู้สึกหงุดหงิดไม่มีเรียวไม่มีแรงไม่อยากทำอะไรอยากนอนอย่างเดียวเวลามาร์คัสพูดหรือทำอะไรที่ขัดใจ เธอก็มักจะมีน้ำตาตลอดเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรวันนี้ก็เหมือนกันอยู่ ๆเธอก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่มีสาเหตุเพียงแค่เธอตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบหน้าสามีมันก็ทำให้เธอร้องไห้ออกมาอย่างดายและเสียงสะอื้นของคนตัวเล็กก็ดังเข้าไปในห้องน้ำที่ตอนนี้คนตัวโตกำลังจะแปรงฟังแต่เมื่อได้ยินเสียงร้องของภรรยาก็ทำให้เขาต้องรีบวางทุกอย่างแล้วสาวเท้าเข้าไปในห้องนอนอย่างไวเพราะความเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป"แก้มหอมครับเป็นอะไรครับร้องไห้ทำไม"เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มมีความตกใจแต่ปนด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอยู่เต็มเปี่ยมแก้มหอมเมื่อได้ยินเสียงของคนเป็นสามีก็หยุดร้องไห้โดยอัตโนมัติเธอเองก็งงเหมือนกันกับสิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่มาร์คัสเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กนิ่งไปก็รู้สึกไจคอดีเขาจึงเอ่ยขึ้นมาว่า“งั้นลุกขึ้นอาบน้ำนะครับเดี๋ยววันนี้พี่จะภรรยาคนสวยของพี่ไปกินขนมเค้กร
ในช่วงระหว่างที่กำลังจะมีพิธีการแลกแหวนแต่งงานแก้มหอมพยายามที่จะสาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาใครบางคนที่กำลังรอแต่ไม่ว่าจะหาเท่าไรก็หาไม่เจอจนกระทั่งพิธีการทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีสายตาของแก้มหอมก็ไปสะดุดเข้ากลับกล่องของขวัญเล็กๆกล่องหนึ่งที่วางอยู่บนเก้าอี้แถวสุดท้ายคนตัวเล็กรีบเดินไปหยิบขึ้นมาดูทันทีก่อนจะเปิดมันออกมาก็พบกับกล่องดนตรีกล่องหนึ่งบนกล่องมีรูปตุ๊กตาหน้าเหมือนเธอและมาร์คัสในกล่องมีการ์ดเล็กๆและมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า“ยินดีด้วยนะยัยตัวแสบรีบมีหลานเร็วๆละ รักนะพี่สาวข้างบ้าน”เมื่ออ่านจบน้ำตาของคนตัวเล็กก็ไหลอาบลงมาทั้งสองแก้มมาร์คัสที่เห็นว่าคนตัวเล็กกำลังร้องไห้ก็รีบเดินไปหาอย่างเร็วไว“เป็นอะไรครับคนเก่งร้องไห้ทำไม มีใครทำอะไรให้น้องแก้มหอมไม่สบายใจครับ”น้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยของชายหนุ่มทำให้ใบหน้าที่กำลังร้องไห้กลับมารอยยิ้มอีกครั้งก่อนจะยื่นของขวัญในมือให้อีกฝ่ายดู มาร์คัสที่เห็นของขวัญและข้อความในการ์ดใบเล็กก็รู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนให้ก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมา“พี่ว่าเขาคงไม่สะดวกใจที่จะให้ใครหรอกครับ แต่อย่างน้อยๆมันก็ทำให้เราได้รู้นะครับว่าเขาไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่เขาคงมี
นี้มันก็ผ่านมาหลายวันแล้วแก้มหอมก็ยังติดต่อน้ำหวานไม่ได้หญิงสาวติดต่อไปทุกทางก็ไม่มีวิธีไหนที่สามารถติดต่อหญิงสาวได้เลยถามพี่ธีร์ก็แล้วยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมและอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานของเธอกับมาร์คัสแล้วหญิงสาวอย่างให้น้ำหวานมาร่วมงานแต่งงานครั้งนี้เพราะเธอเองก็ไม่มีเพื่อที่สนิทที่ไหนเลยนอกจากยัยพี่สาวข้างบ้าน เฮ้อ แต่ดันหายไปซะเนี้ยงั้นลองอีเมลไปหาอีกครั้งก็ได้หวังว่าครั้งนี้อีกคนคงจะอ่านนะเพราะถ้าไม่อ่านเธอก็หมดหนทางแล้ว ณ กรุงปรีส ประเทศฝรั่งเศสช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิอากาศช่วงนี้จะสบายๆไม่ร้อนไม่หนาวอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ10-18 องศาเซลเซียสถึงแม้ช่วงต้นฤดูจะยังหนาวอยู่บ้างแต่ก็ไม่หนาวเท่ากับช่วงฤดูใบไม้ร่วงกลางวันจะมีแสงแดดอุ่นๆต้นไม้ใบหญ้าในช่วงนี้กำลังแตกหน่อเป็นสีเขียวพวกดอกไม้นานๆชนิดก็บานสะพรั่งมันจึงทำให้บรรยากาศในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดูโรแมนติกขึ้นไปอีกและมันเหมาะสำหรับการมาเที่ยวที่ฝรั่งเศษเป็นอย่างมากเพราะจะได้ดูได้ชมสวนดอกไม้หรือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติฟินสุดๆไม่แพ้กันการแต่กายในช่วงนี้ก็จะประมาณเป็นเสื้อแขนยาวใส่แมตช์กับกางเกงหรือกระโปรงยาวและสวมทับด้วยเสื
สองเดือนต่อมาตั้งแต่วันที่แก้มหอมไปเรียนรู้งานที่ไนต์คลับในตอนนั้นนี้มันก็ผ่านมาเป็นเวลาสองเดือนแล้วหญิงสาวเป็นคนหัวไวเรียนรู้งานได้ไวมากจนตอนนี้เธอเรียนรู้งานในทุกๆด้านของมาร์คัสจนครบทุกอย่างแต่เธอก็ยังคงไปๆมาๆระหว่างโรงพยาบาลไนต์คลับและฮ่องกงจนเป็นเรื่องปกติแถมดูเหมือนว่าความรักระหว่างแก้มหอมกับมาร์คัสกำลังไปได้ดีและจะมีข่าวดีในอีกไม่นาน“คิดอะไรอยู่ครับ”ชายหนุ่มเอ่ยปากอย่างสบายอารมณ์สุ่มเสียงของเขาอ่อนโยนสุดจะเปรียบ“แก้มหอมกำลังคิดว่ายัยพี่สาวข้างบ้านหายไปไหนเพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่องเมื่อวันนั้นแก้มหอมก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้ากันเลยค่ะ"คนตัวเล็กอธิบายในเรื่องที่ตัวเองกำลังสงสัยและไม่ไม่ใช้ฉเพาะเธอที่สงสัยชายหนุ่มเองก็สงสัยเหมือนกันเพราะหากเป็นเมื่อก่อนไม่ว่าจะไปไหนมาไหมคนทั้งสองมักจะตัวติดกันก็ว่าได้แต่ตอนนี้ทำไมถึงกลับไม่เห็นอีกคนเลยตอนแรกเขาก็คิดว่าอาจจะเกิดเรื่องร้ายกับน้ำหวานแต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้มีโอกาสเจอบิดาของหญิงสาวเขาจึงใช้โอกาสนี้ถามหาหญิงสาวโดยให้เหตุผลที่ว่าแก้มหอมคนรักของเขามีของฝากมาให้เพราะหญิงสาวโทรหาก็โทรไม่ติดบางครั้งโทรติดก็ไม่รับสายจึงทำให้เขาได้รู้ว่
ความเจ็บปวดแบบนี้มันคืออะไรกันทำไมเธอถึงรู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้โดยฉเพาะที่ดอกไม้สวาทของเธอมันเจ็บจนทำให้คนตัวเล็กต้องลงไปกองอยู่กับพื้นมาร์คัสที่ได้ยินเสียงเจ็บปวดของคนตัวเล็กเขามีทั้งความรู้สึกสงสารและอดขำไม่ได้ในเวลาเดียวกัน เธอคิดได้ยังไงที่ลุกขึ้นพรวดพราดไปแบบนั้นคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์หรือไงทั้งที่เมื่อคืนเธอกับเขาเพิ่งผ่านสมรภูมิอันดุเดือดมาด้วยกัน“หึๆ หึๆ”เสียงหัวเราะเบาๆในลำคอจากคนตัวโตกว่าทำให้คนตัวเล็กที่กำลังนั่งกองอยู่กับพื้นถึงกับหันมามองด้วยสายที่เขียวปัดให้ตายเถอะเขาทำกับเธอแบบนี้แล้วยังจะมีอารมณ์มาหัวเราะเธออีกเหรอและแทนที่เขาจะรีบเข้ามาช่วยประคองเธอให้ลุกขึ้นมันน่าหยิกให้เขียวจริงๆสงสัยที่โดนศอกของเธอไปเมื่อกี้มันคงน้อยเกินไปใช่ไหม ทางด้านมาร์คัสที่เห็นสายคาดโทษและบวกกับสีหน้าที่เหยเกของหญิงสาวก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงขนาดคิงไซส์นุ่มๆที่กำลังนอนอยู่ขึ้นไปประคองคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังแจกค้อนอันใหญ่ให้เขาอยู่ แก้มหอมที่เห็นว่าคนตัวโตที่กำลังช่วยเธออยู่ตอนนี้ไม่ได้สวมใส่อะไรเลยแม้แต่ชิ้นเดียวบนร่างกายก็มีความรู้สึกอายกระด้างขึ้นมาทันทีก่อนจะก้มลงมามองตัวเองซึ่งตอนนี้ก็