เมื่อการเกิดขึ้นจากการถูกบังคับมาเฟียหนุ่มนิสัยแสนป่าเถื่อนกับคุณหนูแสนดื้อรั้นจึงต้องทำทุกวิธีทางเพื่อให้การหมั้นล้มเลิกลง
View More@สนามบินฮ่องกง
ตุ้บ! "แม่งเอ๊ย!" ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังเดินออกจากอาคารผู้โดนสารขาเข้าสบถคำหยาบออกมาระคนหงุดหงิดเมื่อมีเด็กน้อยวัยสามขวบเศษวิ่งซุกซนมาชนเขาเข้าอย่างจัง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูเยือกเย็นภายใต้แว่นตาดำชำเลืองมองเด็กน้อยที่หงายหลังลงไปนั่งกองกับพื้นด้วยแววตาราบเรียบ ก่อนจะส่าวเท้าเดินต่อโดยไม่คิดดูดำดูดีเด็กคนนั้นสักนิด "ซวยชะมัด" ใบหน้าหล่อเหลาขมวดเป็นปมเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ต้องคลี่ยิ้มในเวลาต่อมาเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับสาวสวยที่กำลังเดินนวยนาดตรงมาหาเขาเธอคือหงส์ฟ้าน้องสาวตัวแสบนั้นเอง "คิดถึงจังเลยเฮียสุดหล่อของน้อง" หญิงสาวรูปร่างผอมเพรียววิ่งเข้าสวมกอดผู้เป็นพี่ชายด้วยความคิดถึง ทว่าคนโดนกอดกลับไม่ชอบใจเอาซะเลย มือหนายกขึ้นดันศรีษะเล็กทุยที่แนบอกอยู่ให้พ้นตัวเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้โดยเฉพาะในที่สาธารณะ "คนเยอะแยะให้มันน้อย ๆ หน่อยยัยหงส์" "ก็น้องคิดถึงเฮียนิไปอยู่อังกฤษตั้ง 5-6 ปะ.." "พอกลับไปคุยกันที่บ้าน" ไม่รอให้น้องสาวได้พูดจบมาเฟียหนุ่มก็รีบยกมือขึ้นปรามแล้วเดินนำไปขึ้นรถทันทีขืนให้น้องสาวพูดต่อคงยืดยาวไม่รู้จบ@คฤหาสน์หวงเฟยหง "กลับมาแล้วเหรอไอ้ลูกตัวดีเรียนจบตั้งสองปีแล้วก็ไม่ยอมกลับบ้านสักที นี่ถ้าไม่โทรตามบอกว่ามีธุระสำคัญก็คงยังไม่กลับใช่ไหม" ทันทีที่มาเฟียหนุ่มก้าวเท้าเข้าคฤหาสน์เสียงของหวงเฟยหงผู้เป็นพ่อที่นั่งรอการมาของเขาอยู่ในห้องโถงก็ดังขึ้น "ผมก็กลับมาแล้วนี่ไงป๊าจะบ่นอะไรนักหนา" มาเฟียหนุ่มพ่นลมหายใจหนัก ๆ ออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ยังไม่ทันจะได้หย่อนก้นนั่งก็โดนผู้เป็นพ่อบ่นใส่เป็นชุดอยากจะเดินหนีขึ้นห้องให้รู้แล้วรู้รอดเพราะไม่อยากฟังคำบ่นของผู้เป็นพ่อ แต่ก็ทำได้แค่คิดแล้วเดินไปหย่อนสะโพกนั่งข้างผู้เป็นแม่ด้วยความจำใจ "แกนี่มัน.." "พอ ๆ ทั้งพ่อทั้งลูก" พีชที่นั่งฟังสองคนพ่อลูกต่อปากต่อคำกันถึงกับรีบออกปากห้ามก่อนที่จะทะเลาะกันใหญ่โตไปมากกว่านี้ "หัวแข็งได้ใครมาก็ไม่รู้" หวงเฟยหงพึมพำออกมาระคนหงุดหงิดพลางตวัดสายตามองหน้าบุตรชายอย่างเคือง ๆ ตั้งแต่โตมาบุตรชายก็เริ่มแข็งข้อต่อต้านคำพูดตลอดเขาสั่งอีกอย่างแต่บุตรชายกลับทำอีกอย่างไม่เชื่อฟังเหมือนตอนเด็ก "ยังจะถามอีกว่าเหมือนใคร" พีชมองค้อนผู้เป็นสามีเขม็งนิสัยบุตรชายได้ตัวเองมาชัด ๆ ยังจะโยนให้เธออีก เธอเองก็รู้สึกหนักใจไม่น้อยกับนิสัยแข็งกร้าวของบุตรชาย "แล้วป๊าเรียกผมกลับมามีอะไร ถ้าไม่มีอะไรผมจะขึ้นห้องพักผ่อน" ห้องโถงตกอยู่ในความเงียบนานนับนาทีก่อนมาเฟียหนุ่มจะพูดทำลายความเงียบ "ป๊าจะให้แกหมั้นกับลูกสาวคนรู้จักป๊า" หวงเฟยหงหันมองหน้าเมียสาวด้วยความหนักใจ ก่อนเลื่อนสายตามองหน้าบุตรชายพร้อมเปล่งเสียงพูด เขารู้ว่าบุตรชายต้องโวยวายและปฏิเสธแน่นอนเมื่อได้รู้ถึงจุดประสงค์ที่เรียกเขากลับมาและมันก็เป็นไปตามที่คิด "ผมไม่หมั้น" มาเฟียหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมกับปฏิเสธเสียงแข็งทันทีที่ผู้เป็นพ่อพูดจบ คนเป็นพ่อก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้เช่นกันยังคงยืนกร้านเสียงแข็ง "แกต้องหมั้นนี่เป็นคำสั่ง" "นี่มันยุคสมัยไหนแล้วป๊ายังจะใช้วิธีคลุมถุงชนอยู่อีก" "ป๊าบอกว่าหมั้นแกก็ต้องหมั้น" "ยังไงผมก็ไม่หมั้นป๊าอยากหมั้นก็หมั้นเองสิครับ" เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะคว้ารีโมทรถจากมือน้องสาวแล้วเดินออกไปขึ้นรถด้วยความเร็ว@ผับss รถปอร์เช่คันหรูที่มีมาเฟียหนุ่มเป็นคนขับเคลื่อนตัวมาจอดลงหน้าผับมาตินเพื่อนสนิทของเขา ก่อนร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสแล็คสีดำปลดกระดุมเสื้อลงมา 2-3 เม็ดเผยให้เห็นแผงอกแกร่งจะเดินเข้าไปภายในผับอย่างสง่าผ่าเผยจนสาว ๆ ที่อยู่ด้านในต่างพากันชื่นชมในความหล่อของเขาบ้างก็เดินเข้ามาทักทาย ทว่ามาเฟียหนุ่มหาได้สนใจไม่เขาเพียงตวัดสายตามองพวกเธอเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงขึ้นไปยังห้องทำงานของเพื่อนชายที่อยู่ชั้นสองของผับ แกร๊ก! "ไปกินเหล้าเป็นเพื่อนกูหน่อย" เขาเปิดประตูห้องทำงานของเพื่อนชายอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะเดินไปหย่อนสะโพกนั่งไขว้ห้างบนโซฟา "อ้าว! ไอ้มังกรกลับมาตั้งแต่เมื่อไร" มาตินที่นั่งเคลียร์บิลของผับอยู่ผงกหน้าขึ้นทักทายเพื่อนชายด้วยความแปลกใจที่จู่ ๆ เขาก็มาปรากฏตัวต่อหน้าโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า "เพิ่งกลับมาวันนี้แหละ" "แล้วเป็นอะไร" มาตินเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของเพื่อนชาย "ไปหาโต๊ะนั่งก่อนเถอะเดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง" มาเฟียหนุ่มเอ่ยพร้อมกับหยัดกายลุกเดินไปหาเพื่อนชาย มาตินก็ไม่ได้ขัดอะไรลุกเดินนำเพื่อนชายออกไปยังโซนวีไอพีที่อยู่ชั้นสองของผับอย่างว่าง่าย "ตกลงเรื่องอะไร" เมื่อมาถึงโต๊ะเขาก็เอ่ยถามเพื่อนชายทันทีเขาอยากจะรู้นักว่าเรื่องอะไรที่ทำให้มังกรผู้ที่สามารถจัดการทุกอย่างได้เพียงชั่วพริบตาเดียวกลัดกลุ้มใจได้ "ก็ป๊ากูนะสิเรียกกูกลับมาเพื่อจะให้กูหมั้นกับใครก็ไม่รู้" "แบบนี้ก็ได้เหรอว่ะ" "เออ" "มึงก็ลองไปเจอว่าที่คู่หมั้นมึงก่อนดิถ้าสวยก็หมั้นเลยง่าย ๆ" "มึงก็พูดได้ไม่โดนกับตัวนิ" เหล้าราคาแพงที่อยู่ในแก้วโดนมาเฟียหนุ่มยกขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดหลังจากพูดจบ "ไอ้มังกรกูว่าน้องโต๊ะนั้นมองมึงอยู่วะสวยด้วย" มาตินสะกิดบอกเพื่อนชายเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับสาวโต๊ะข้าง ๆ ที่กำลังมองมายังเพื่อนชายด้วยสายตาหยาดเยิ้ม "ช่างแม่งเถอะ" ทว่ามาเฟียหนุ่มหาได้สนใจสิ่งที่เพื่อนชายพูดไม่เขายังคงกรอกเหล้าเข้าปากอย่างต่อเนื่องเพื่อดับเรื่องกลัดกลุ้มในใจมาเฟียหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะออกแรงดึงแขนเล็กออกจากนั้นจึงหันกลับมามองใบหน้าสวยอย่างคาดโทษ"ฉันไม่ได้จะทำให้คุณโกรธฉันแค่อยากกลับจีนด้วย" คนโดนจ้องรีบหลุบหน้าลงต่ำพูดแก้ตัวเสียงแผ่วเบาแทบจะขาดหาย"ผมพาคุณกลับแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้" มือหนาจับร่างบางยกขึ้นอุ้มพาดบ่าพาเดินเข้าห้องทันทีที่พูดจบ "คุณปล่อยฉันลงนะ" เสียงหวานร้องท้วงดังลั่นพร้อมทั้งดีดดิ้นไปด้วยจนมาเฟียหนุ่มต้องฟาดผ่ามือลงบนก้นงามงอนด้วยความมันเขี้ยว "ตั้งแต่หายป่วยรอบนี้ใจกล้าขึ้นเยอะนะเหมยเมย"ร่างบางถูกวางลงบนเตียงเบา ๆ พร้อมกับร่างของคนตัวสูงที่ตามมาทาบทับเธอไว้"ลุกออกไปฉันหนักมังกร" มือเล็กยกขึ้นดันไหล่คนตัวสูงที่ทุ่มน้ำหนักทาบทับบนตัวเธอจนรู้สึกหายใจลำบากให้พ้นตัว แต่แรงอันน้อยนิดไม่ได้ทำให้คนด้านบนสะเทือนเลยสักนิด"..." มาเฟียหนุ่มยังคงทาบทับเธออยู่แบบนั้นจับจ้องใบหน้าสวยด้วยแววตาแทะโลม ทว่ากลับแฝงไปด้วยอบอุ่นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างบางลอบกลืืนน้ำลายเหนี่ยว ๆ ลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ ดวงตากลมโตกลอกกลิ้งไปมาด้วยความประหม่าภายในใจเต้นโครมครามเพราะแอบลุ้นว่าคนด้านบนจะทำอะไรกับเธอภายในห้องถูกปกคลุมไ
เหมยเมยนอนถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าในอ้อมกอดคนตัวสูง ก่อนค่อย ๆ ชำเลืองมองเสี้ยวหน้าคมเมื่อลมหายใจของเขาดังสม่ำเสมอบ่งบอกได้ว่าเขาหลับสนิทแล้วเธอค่อย ๆ ยกแขนแกร่งที่พาดอยู่บนลำตัวออกอย่างระวังและเบามือที่สุดเพราะกลัวเขาจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ขาเรียวเล็กก้าวลงจากเตียงอย่างระมัดระวังก่อนจะรีบส่าวเท้าออกไปจากห้องเดินตรงไปยังชั้นล่างของบ้าน“พี่ซุนหนี่เหมยขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ” เธอเดินเข้าไปหาซุนหนี่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องโถงแล้วเอ่ยขึ้น ใจดวงน้อยลุ้นระทึกกับคำตอบเป็นอย่างมากเพราะซุนหนี่ก็เป็นคนของมาเฟียหนุ่มไม่รู้ว่าเธอจะยอมให้ยืมโทรศัพท์ไหม หรือจะเอาเรื่องนี้ไปบอกผู้เป็นเจ้านายหรืเปล่า“พี่ให้ไม่ได้จริง ๆ ค่ะน้องเหมย คุณมังกรสั่งไว้หากขัดคำสั่งพี่ต้องโดนคุณมังกรเล่นงานแน่ ๆ น้องเหมยเข้าใจพี่นะคะ” ซุนหนี่ตอบด้วยสีหน้าหนักใจไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกสงสารหญิงสาว แต่เธอก็ต้องรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้เหมือนกัน “เหมยเข้าใจค่ะไม่เป็นไร” ใบหน้าสวยเศร้าหมองลงในทันตาเมื่อได้ยินคำตอบ เธอฝืนยิ้มให้ซุนหนี่เล็กน้อยก่อนเดินคอตกออกไปนั่งบนศาลาที่ตั้งอยู่ในสวนข้างบ้าน “ป่านนี้ป๊าจะเป็นยังไงบ้าง
รถยุโรปคันหรูที่วิ่งด้วยความเร็วเคลื่อนตัวมาจอดลงในบริเวณบ้านหรูสไตล์อังกฤษหลังไม่ใหญ่มากนักเหมาะแก่การพักอาศัยสามสี่คน เมื่อรถจอดสนิทมาเฟียหนุ่มก็ปล่อยร่างบางที่นั่งอยู่บนตักให้เป็นอิสระ ร่างบางดีดตัวลงจากตักมาเฟียหนุ่มอย่างไม่รอช้าก่อนรีบเปิดประตูลงจากรถทันที ดวงตากลมโตมองสำรวจไปรอบบริเวณบ้านที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ประดับน้อยใหญ่บรรยากาศดูร่มรื่นน่าอยู่อย่างพินิจพิจารณา"บรรยากาศดีจังเลยค่ะพี่ซุนหนี่" ใบหน้าสวยที่เคลือบด้วยรอยยิ้มเอี่ยวไปพูดกับซุนหนี่ด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วค่อย ๆ หลับตาลงพร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเฮือกใหญ่หลังจากที่ต้องทนกับกลิ่นยามานานเกือบอาทิตย์การกระทำของเธอทำให้มาเฟียหนุ่มที่ยืนมองอยู่หลุดยิ้มออกมาอย่างลืมตัว เขาไม่เคยเห็นหญิงสาวในมุมสดใสร่าเริงแบบนี้มาก่อนพอยอมรับว่าเขารู้สึกชอบตอนที่เธอเป็นแบบนี้มากกว่าตอนร้องไห้เป็นไหน ๆ โลกดูสดใสน่ามองขึ้นมาในทันตา มาเฟียหนุ่มยืนมองร่างบางอยู่อย่างนั้นนานนับนาทีก่อนจะออกคำสั่ง "เข้าบ้าน""ฉันขอเดินสูดอากาศรอบ ๆ บ้านหน่อยได้ไหม...คุณเข้าไปก่อนเลย" ร่างบางที่กำลังเพลิดเพลินกับการดื่มด่ำบรรยากาศบ
สุดท้ายกว่าเหมยเมยจะได้ออกจากโรงพยาบาลก็เสียเวลาไปเป็นชั่วโมงเพราะคำสั่งเอาแต่ใจของมาเฟียหนุ่มที่สั่งให้ซุนหนี่ออกไปซื้อกางเกงตัวใหม่มาให้เธอเปลี่ยน"พอใจหรือยังล่ะ" ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าบึ้งตึงหลังจากเข้าไปเปลี่ยนกางเกงเสร็จแล้ว ก่อนเปล่งเสียงถามอย่างกระแทกแดกดันใส่คนตัวสูงที่นั่งไขว้ห้างอยู่บนโซฟาด้วยความไม่พอใจ อีกคนกลับยกยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจมองสำรวจร่างบางในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขายาวที่ปิดมิดชิดจนถึงตาตุ่มครู่หนึ่ง ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินเข้าไปโอบเอวคอดของคนตัวเล็กที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดพาเดินออกไปนอกห้องโดยไม่พูดไม่จาสักคำ"ปล่อยฉันเดินออกได้ไม่ต้องมาโอบ" ร่างบางพยายามเบี่ยงตัวออกจากวงแขนแกร่งของมาเฟียหนุ่มเพราะรู้สึกอายที่เขาโอบกอดของเธอต่อหน้าผู้คนมากมายที่เดินขวักไขว้อยู่ในโรงพยาบาล เธอไม่ได้เป็นอะไรสักนิดไม่จำเป็นต้องประคองแต่แรงอันน้อยนิดของเธอก็ไม่อาจต้านทานกำลังของคนตัวโตกว่าได้ กลับกลายเป็นว่าเขายิ่งกระชับมือให้แน่นขึ้นไปอีกก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลากระซิบประชิดกกหู "จะเดินดี ๆ หรือให้ผมอุ้ม"คำขู่ของมาเฟียหนุ่มได้ผลร่างบางที่พยายามดิ้นร
เหมยเมยมองการกระทำของมาเฟียหนุ่มที่กำลังเช็ดหยาดน้ำตาบนใบหน้าให้เธออย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับสัมผัสที่อ่อนโยนจากคนอย่างเขา ผิดจากที่เธอคาดไว้มากว่าเขาคงจะแสดงกริยาเลวทรามต่ำช้าใส่ เอาเข้าจริง ๆ เธอไม่สามารถคาดเดาอะไรจากเขาได้เลย "มาทำดีกับฉันทำไม" เธอมองหน้ามาเฟียหนุ่มอย่างใช้ความคินานนับนาทีก่อนเปล่งเสียงถามอย่างไม่เข้าใจ การกระทำของเขาทำให้เธอสับสนเป็นอย่างมากจนต้องถามออกไปให้หายขัดข้องใจแต่ก็ได้รับเพียงความเงียบแทนคำตอบ"..." มาเฟียหนุ่มหยุดการกระทำทันทีที่ถูกถามก่อนจะหมุนตัวเดินไปนั่งไข้วห้างบนโซฟาจ้องมองปฏิกริยาของคนบนเตียงนิ่ง ๆ เขาก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าทำไมถึงทำแบบนั้น รู้เพียงแค่ว่าตัวเองไม่ชอบเอาเสียเลยเวลาที่เห็นน้ำตาหญิงสาวมันรู้สึกขัดหูขัดตายังไงก็ไม่รู้"มองผมทำไมนอนได้แล้ว หรือต้องให้ผมร้ายใส่" เสียงทุ้มออกคำสั่งอย่างเผด็จการเมื่อเหลือบไปเห็นเวลาบนนาฬิกาข้างผนังที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลา สามทุ่มแล้ว สิ้นเสียงพูดมาเฟียหนุ่มร่างบางบนเตียงก็รีบล้มตัวลงนอนทันทีเพราะไม่อยากมีปัญหากับเขา ดวงตากลมโตชำเลืองมองคนตัวสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความขุ่นเคืองใจก่อนที่เธอจะต้อง
@ลอนดอน ประเทศอังกฤษผ่านไปกว่าสิบเอ็ดชั่วโมงมาเฟียหนุ่มก็เดินทางมาถึงประเทศอังกฤษเขาพาหญิงสาวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชื่อดังใจกลางเมืองลอนดอนทันทีที่มาถึง"เฮ้อ" มาเฟียหนุ่มนั่งมองร่างบางที่หลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยแววตาอ่อนสมองก็ครุ่นคิดอะไรบางอย่างไปด้วย เขาถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความหนักใจ ก่อนละสายตาจากคนบนเตียงล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเปิดเครื่องหลังจากเพิ่งกดปิดเครื่องไปก่อนหน้านี้เพราะรำคาญที่ทุกคนโทรเข้ามาหาไม่ขาดสายจนเครื่องแทบพังเขาจึงตัดความรำคาญด้วยการปิดเครื่องหนี'ครืด ครืด'และทันทีที่โทรศัพท์เปิดเครื่องสายเรียกเข้าก็ดังขึ้นไม่ขาดสายเขาจ้องมองเบอร์บนหน้าจอโทรศัพท์อย่างชั่งใจก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย(มังกรแกพาหนูเหมยไปไว้ที่ไหน) ทันทีที่เขากดรับเสียงของผู้เป็นพ่อก็ตะเบ็งมาตามสายจนเขาต้องรีบยกโทรศัพท์ห่างจากหูอัตโนมัติ"ผมเคลียร์กับเธอเสร็จเมื่อไรผมไปส่งคืนแน่ ป๊าไม่ต้องกลัวหรอกว่าผมจะทำอะไร เธอจะกลับไปแบบยังมีลมหายใจและครบสามสิบสองแน่นอน"(แกจะมาทำอะไรเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้นะมังกรลูกเขามีพ่อมีแม่ พาหนูเหมยกลับมาคืนพ่อเขาเดี๋ยวนี้)"เธอก็เป็นเมียผ
Comments