ณ ร้านอาหารหรูในย่านตัวเมือง
ภายในห้องตอนนี้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมากันครบแล้วขาดเพียง มาร์คัส และ แก้มหอม ที่กำลังตาม
"เป็นไงบ้างตอนนี้ธุรกิจฝั่งโน้นราบรื่นดีไหม"
จักรกฤษณ์เอ่ยถาม ดอน
"ก็ดีนะแล้วแกละช่วงนี้ขาขึ้นนี้ได้กำไรเยอะละสิ"
"ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ก็ดีกว่าปีที่แล้วนิดหน่อย"
ส่วนทางด้านของ คุณมารตีและ คุณรัศมีตอนนี้กำลังคุยเรื่องความสวยความงามกันอย่างออกรสจะกระทั้งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ทำให้คนทั้งสี่หยุดการสนทนาลงโดยอัตโนมัติพร้อมกับหันมองไปยังประตูที่กำลังจะเปิดออกร่างบางในตอนนี้ที่กำลังก้าวเท้าหยุดชะงักก่อนจะส่งรอยยิ้มแบบรู้สึกผิดออกมามือทั้งสองข้างยกขึ้นไหว้พร้อมเสียงหวานๆตามออกมา
"สวัสดีคะ ขอโทษนะคะที่ปล่อยให้รอ"
แก้มหอมกล่าวออกมาอย่างรู้สึกผิดจริงๆวันนี้หญิงสาวมาในลุคน่ารักๆเรียบร้อยแต่ดูแพงเธอเลือกสวมใส่เดรสพอดีตัวสีชมพูพาสเทลปาดไหล่เล็กน้อยผมที่เคยมัดรวมตอนนี้ปล่อยเป็นธรรมชาติแต่งหน้าเพียงเบาบางปากเล็กจมูกหน่อยทำให้เตะตาต้องใจต่อผู้พบเห็นหลังจากทำความเคารพผู้ใหญ่เป็นที่เรียบร้อยหญิงสาวจึงเดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วผ่านไปไม่นานประตูบานนั้นก็เปิดออกอีกรอบก่อนจะมีชายหนุ่มรูปร่างสูงผิวขาวหน้าตาหล่อเหล่าดวงตาเฉียบคม แววตาดุดัน ผมสีน้ำตาลอ่อนๆที่ถูกเซตไว้เป็นอย่างดีชายหนุ่มสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวปลอดกระดุมออกสองเม็ดสวมทับด้วยสูทสีดำราคาแพงอีกชั้นชายหนุมสวมใส่กางเกงสแล็คสีดำตัดด้วยรองเท้าหนังสีดำชายหนุ่มไล่สายตาไปเรื่อย ๆ จนหยุดที่ร่างบางที่ตอนนี้กำลังงนั่งสนใจโทรศัพท์มากว่าเขาแต่เอ๊ะทำไมเขาถึงคุ้นๆเธอจังเมือนเคยเจอที่ไหนสักที่มาก่อนแต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกสักที
"อ้าวตามาร์แล้วก็มานั่งสิจะยืนบื้ออยู่ทำไม"
รัศมีพูดกับลูกชายก่อนจะหันไปหาแก้มหอมแล้วแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกันชายหนุ่มขยับเก้าอี้ออกก่อนจะนั่งลงใกล้ๆหญิงสาว
"หนูแก้มหอมนี้ตามาร์ลูกชายของป้าเองจ๊ะ"
แก้มหอมหันไปมองหน้าคนที่มาใหม่ด้วยสายตาที่คาดเดายากก่อนจะยกมือไหว้ทักทายตามมารยาท
"สวัสดีค่ะ"
เสียงหวานที่เอ่ยออกมาพร้อมกับส่งรอยยิ้มเป็นที่ดูธรรมาชาติมันชวนให้คนฟังหรือคนพบเห็นรู้สึกระรื่นหูน่าฟังยิ่งนักไม่เหมือนกับผู้หญิงหลายๆคนที่พยายามถึงเธอจะดูน่าสนใจอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับจะทำให้เขาต้องแต่งานด้วยอยู่ดี หึ ๆเสียงหัวในลำคอเบาๆพร้อมกับมุมปากหนายกยิ้มเล็กน้อยก แต่มีหรือที่คนฉลาดอย่างแก้มหอมจะรู้ไม่ทันคนอย่างเขา
"สวัสดีครับ"
เสียงทุ้มที่เอ่ยมานั้นน่าฟังยิ่งนักสำหรับคนทั่วไปแต่มันใช้ไม่ได้กับแก้มหอมหรอกเพราะเธอมันมีภูมิต้านตานสูง
"อะ! อะ!มากันครบแล้วก็ลงมือทานเถอะอาหารก็ยกมาครบแล้ว"
ดอน เอ่ยออกมาเพื่อเป็นสัญญาณว่าได้เวลาทานข้าวแล้วหลังทานข้าวกันเป็นที่เรียบผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ให้หนุ่มสาวได้เดินออกไปย่อยอาหารเพื่อทำความรู้จักกันยังไม่ทันที่คนทั่งคู่จะได้พูดกันโทรศัพท์ของมาร์คัสก็ดังขึ้นซะก่อนชายหนุ่มเดินแยกตัวออกไปรับโทรศัพท์ก่อนจะเดินกลับมาหญิงสาวว่าเขามีด่วนต้องขอตัวก่อน
"คุณแก้มหอมครับพอดีผมมีงานด่วนคงไปเดินเล่นกันคุณไม่ได้แล้วนะครับ"
มาร์คัสบอกหญิงสาว
"ค่ะงั้นเชิญเลยค่ะ ฉันเองก็ขี้เกียจเดินเหมือนกันงั้นลากันตรงนี้นะคะสวัสดีค่ะ"
แก้มหอมตอบกลับชายพร้อมยกไหว้แล้วเดินอกกมาทันทีหญิงสาวเองก็ไม่อย่างอยู่กับบรรยากาศที่มันน่าอึดอัดนี้เท่าไรนักมาร์คัสยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อหญิงสาวก็เดินหายเข้าไปในกลุ่มคนซะก่อนชายหนุ่มส่ายหัวน้อยให้กับความไวของเธอจริงๆแล้วมันไม่ใช่งานด่วนอะไรหรอกแต่เขาเห็นท่าทางอึดอัดเธอแล้วมันรู้สึกขัดตายังไงก็ไม่รู้ทำอย่างกับเขาน่ากลัวซะเหลือเกินทั้งที่ผู้หญิงคนอื่นๆมีแต่วิ่งเข้าหาเขาก่อนทั้งนั้นครั้งนี้เขาจะปล่อยเธอไปก่อนละกันจากนั้นชายหนุ่มก็รีบขับรถไปยังโกดังส่วนตัวทันทีทางด้านแก้มหอมหลังจากแยกตัวออกชายหนุ่มแล้วเธอก็ขับรถมานั่งร้านคาเฟ่ที่เป็นร้านประจำเป็นร้านชื่อร้านค่าเฟ่ในสวนบรรยากาศร่มรื่นอบอุ่นชวนฝัน มีพื้นที่โล่ หายใจสะดวก ตกแต่งสไสต์วินเทจตัวร้านเป็นบ้านขนาดเล็กที่ผสมผสานระหว่างปูเปลือยกับอิฐบล็อคที่ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยและต้นไม้ที่เขียวขจีทำให้รู้สึกสบายตาทุกครั้งที่หันไปมอง บรรยากาศภายในร้านทาด้วยโทนสีขาว แบบสไตล์วินเทจ เฟอร์นิเจอร์ต่างเป็นไม้ ส่วนเกาอี้ผลิตมาจากหวายชั้นดีอาหารและเครื่องมีให้เลือกได้หลากหลายแก้มหอมสั่งเครื่องดื่มและคุกกี้เหมือนทุกครั้งที่มาหญิงสาวชอบมานั่งร้านนี้มากเพราะธรรมชาติภายในร้านสามารถเยียวยาจิตใจและอาการเหนื่อยเมื่อยล้าของเธอได้ดีมากหญิงสาวมักในเวลาในช่วงวันหยุดหรือช่วงจากการเลิกงานมานั่งเล่นที่ร้านทุกครั้งที่มีโอกาสวันนี้ก็เช่นกันหญิงสาวนั่งจนเพลินจนถึงเวลาเปิดร้านเธอก็ขับรถกลับคอนโดเพราะพรุ่งนี้เธอมีคิวต้องผ่าตัดคนไข้แต่เช้า
ชายหนุ่มเลี่ยงที่จะไม่ตอบทำเพียงแค่ยิ้มออกมาและพูดออกมาว่า"ไม่มีอะไรครับ"แก้มหอมเองเมื่อเห็นว่าเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อเพราะว่าขนมที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้มันน่ากินมากก่วาเยอะและเมื่อทุกอย่างเข้าปากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั้งทุกอย่างที่อยูตรงหน้าตอนนี้เกลี้ยงจนเหลือแต่จานเปล่ามาร์คัสเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กตรงหน้าอิ่มแล้วจึงเรียกเช็คบิลในระหว่างทางชายหนุ่มก็พูดขึ้นมาว่า"แก้วหมอครับเดี๋ยวพี่ขอแวะที่โรงพยาบาลสักหน่อยนะครับ"มาร์คัสที่นั่งรอคำตอบก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่ได้รับการตอบรับจากคนที่นั่งข้างๆเขาจึงหันไปมองหน้าคนตัวเล็กแตาปรากฎว่าตอนนี้เธอหลับไปแล้วชายหนุ่มกะว่ารอให้ถึงโรงพยาบาลแล้วค่อยปลุกเธอในจังหวะที่เขาเลี้ยวรถเข้าจอดรถของผู้บริหารโรงพยาบาลคนตัวเล็กก็ตื่นขึ้นมาพอดี"พี่มาร์คัสมาทำอะไรที่ทำงานแก้มหอมค่ะ"เสียงหวานของคนตัวเล็กฟังดูงัวเงียเหมือนคนที่นอนยังไม่เต็มอิ่มดังขึ้น เพราะเธอคิดว่าถึงที่พักแล้วแต่ดันไม่ใช่มารัคัสส่งรอยยิ้มออกมาพ้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า"พี่จะมาหาลุงหมอหน่อย""ลุงหมอ?"สาวน้อยตรงหน้าขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมเป็นคำถามก่อนจะเอียคอน
หลังจากงานแต่งานนี้ก็ผ่านมา2เดือนย่างเข้าเดือนที่3แล้วที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันช่วงนี้แก้มหอมมักมีอาการอยากกินขนมหวานเป็นพิเศษหากวันไหนที่ไม่ได้กินก็จะรู้สึกหงุดหงิดไม่มีเรียวไม่มีแรงไม่อยากทำอะไรอยากนอนอย่างเดียวเวลามาร์คัสพูดหรือทำอะไรที่ขัดใจ เธอก็มักจะมีน้ำตาตลอดเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรวันนี้ก็เหมือนกันอยู่ ๆเธอก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่มีสาเหตุเพียงแค่เธอตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบหน้าสามีมันก็ทำให้เธอร้องไห้ออกมาอย่างดายและเสียงสะอื้นของคนตัวเล็กก็ดังเข้าไปในห้องน้ำที่ตอนนี้คนตัวโตกำลังจะแปรงฟังแต่เมื่อได้ยินเสียงร้องของภรรยาก็ทำให้เขาต้องรีบวางทุกอย่างแล้วสาวเท้าเข้าไปในห้องนอนอย่างไวเพราะความเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป"แก้มหอมครับเป็นอะไรครับร้องไห้ทำไม"เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มมีความตกใจแต่ปนด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอยู่เต็มเปี่ยมแก้มหอมเมื่อได้ยินเสียงของคนเป็นสามีก็หยุดร้องไห้โดยอัตโนมัติเธอเองก็งงเหมือนกันกับสิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่มาร์คัสเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กนิ่งไปก็รู้สึกไจคอดีเขาจึงเอ่ยขึ้นมาว่า“งั้นลุกขึ้นอาบน้ำนะครับเดี๋ยววันนี้พี่จะภรรยาคนสวยของพี่ไปกินขนมเค้กร
ในช่วงระหว่างที่กำลังจะมีพิธีการแลกแหวนแต่งงานแก้มหอมพยายามที่จะสาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาใครบางคนที่กำลังรอแต่ไม่ว่าจะหาเท่าไรก็หาไม่เจอจนกระทั่งพิธีการทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีสายตาของแก้มหอมก็ไปสะดุดเข้ากลับกล่องของขวัญเล็กๆกล่องหนึ่งที่วางอยู่บนเก้าอี้แถวสุดท้ายคนตัวเล็กรีบเดินไปหยิบขึ้นมาดูทันทีก่อนจะเปิดมันออกมาก็พบกับกล่องดนตรีกล่องหนึ่งบนกล่องมีรูปตุ๊กตาหน้าเหมือนเธอและมาร์คัสในกล่องมีการ์ดเล็กๆและมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า“ยินดีด้วยนะยัยตัวแสบรีบมีหลานเร็วๆละ รักนะพี่สาวข้างบ้าน”เมื่ออ่านจบน้ำตาของคนตัวเล็กก็ไหลอาบลงมาทั้งสองแก้มมาร์คัสที่เห็นว่าคนตัวเล็กกำลังร้องไห้ก็รีบเดินไปหาอย่างเร็วไว“เป็นอะไรครับคนเก่งร้องไห้ทำไม มีใครทำอะไรให้น้องแก้มหอมไม่สบายใจครับ”น้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยของชายหนุ่มทำให้ใบหน้าที่กำลังร้องไห้กลับมารอยยิ้มอีกครั้งก่อนจะยื่นของขวัญในมือให้อีกฝ่ายดู มาร์คัสที่เห็นของขวัญและข้อความในการ์ดใบเล็กก็รู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนให้ก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมา“พี่ว่าเขาคงไม่สะดวกใจที่จะให้ใครหรอกครับ แต่อย่างน้อยๆมันก็ทำให้เราได้รู้นะครับว่าเขาไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่เขาคงมี
นี้มันก็ผ่านมาหลายวันแล้วแก้มหอมก็ยังติดต่อน้ำหวานไม่ได้หญิงสาวติดต่อไปทุกทางก็ไม่มีวิธีไหนที่สามารถติดต่อหญิงสาวได้เลยถามพี่ธีร์ก็แล้วยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมและอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานของเธอกับมาร์คัสแล้วหญิงสาวอย่างให้น้ำหวานมาร่วมงานแต่งงานครั้งนี้เพราะเธอเองก็ไม่มีเพื่อที่สนิทที่ไหนเลยนอกจากยัยพี่สาวข้างบ้าน เฮ้อ แต่ดันหายไปซะเนี้ยงั้นลองอีเมลไปหาอีกครั้งก็ได้หวังว่าครั้งนี้อีกคนคงจะอ่านนะเพราะถ้าไม่อ่านเธอก็หมดหนทางแล้ว ณ กรุงปรีส ประเทศฝรั่งเศสช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิอากาศช่วงนี้จะสบายๆไม่ร้อนไม่หนาวอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ10-18 องศาเซลเซียสถึงแม้ช่วงต้นฤดูจะยังหนาวอยู่บ้างแต่ก็ไม่หนาวเท่ากับช่วงฤดูใบไม้ร่วงกลางวันจะมีแสงแดดอุ่นๆต้นไม้ใบหญ้าในช่วงนี้กำลังแตกหน่อเป็นสีเขียวพวกดอกไม้นานๆชนิดก็บานสะพรั่งมันจึงทำให้บรรยากาศในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดูโรแมนติกขึ้นไปอีกและมันเหมาะสำหรับการมาเที่ยวที่ฝรั่งเศษเป็นอย่างมากเพราะจะได้ดูได้ชมสวนดอกไม้หรือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติฟินสุดๆไม่แพ้กันการแต่กายในช่วงนี้ก็จะประมาณเป็นเสื้อแขนยาวใส่แมตช์กับกางเกงหรือกระโปรงยาวและสวมทับด้วยเสื
สองเดือนต่อมาตั้งแต่วันที่แก้มหอมไปเรียนรู้งานที่ไนต์คลับในตอนนั้นนี้มันก็ผ่านมาเป็นเวลาสองเดือนแล้วหญิงสาวเป็นคนหัวไวเรียนรู้งานได้ไวมากจนตอนนี้เธอเรียนรู้งานในทุกๆด้านของมาร์คัสจนครบทุกอย่างแต่เธอก็ยังคงไปๆมาๆระหว่างโรงพยาบาลไนต์คลับและฮ่องกงจนเป็นเรื่องปกติแถมดูเหมือนว่าความรักระหว่างแก้มหอมกับมาร์คัสกำลังไปได้ดีและจะมีข่าวดีในอีกไม่นาน“คิดอะไรอยู่ครับ”ชายหนุ่มเอ่ยปากอย่างสบายอารมณ์สุ่มเสียงของเขาอ่อนโยนสุดจะเปรียบ“แก้มหอมกำลังคิดว่ายัยพี่สาวข้างบ้านหายไปไหนเพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่องเมื่อวันนั้นแก้มหอมก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้ากันเลยค่ะ"คนตัวเล็กอธิบายในเรื่องที่ตัวเองกำลังสงสัยและไม่ไม่ใช้ฉเพาะเธอที่สงสัยชายหนุ่มเองก็สงสัยเหมือนกันเพราะหากเป็นเมื่อก่อนไม่ว่าจะไปไหนมาไหมคนทั้งสองมักจะตัวติดกันก็ว่าได้แต่ตอนนี้ทำไมถึงกลับไม่เห็นอีกคนเลยตอนแรกเขาก็คิดว่าอาจจะเกิดเรื่องร้ายกับน้ำหวานแต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้มีโอกาสเจอบิดาของหญิงสาวเขาจึงใช้โอกาสนี้ถามหาหญิงสาวโดยให้เหตุผลที่ว่าแก้มหอมคนรักของเขามีของฝากมาให้เพราะหญิงสาวโทรหาก็โทรไม่ติดบางครั้งโทรติดก็ไม่รับสายจึงทำให้เขาได้รู้ว่
ความเจ็บปวดแบบนี้มันคืออะไรกันทำไมเธอถึงรู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้โดยฉเพาะที่ดอกไม้สวาทของเธอมันเจ็บจนทำให้คนตัวเล็กต้องลงไปกองอยู่กับพื้นมาร์คัสที่ได้ยินเสียงเจ็บปวดของคนตัวเล็กเขามีทั้งความรู้สึกสงสารและอดขำไม่ได้ในเวลาเดียวกัน เธอคิดได้ยังไงที่ลุกขึ้นพรวดพราดไปแบบนั้นคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์หรือไงทั้งที่เมื่อคืนเธอกับเขาเพิ่งผ่านสมรภูมิอันดุเดือดมาด้วยกัน“หึๆ หึๆ”เสียงหัวเราะเบาๆในลำคอจากคนตัวโตกว่าทำให้คนตัวเล็กที่กำลังนั่งกองอยู่กับพื้นถึงกับหันมามองด้วยสายที่เขียวปัดให้ตายเถอะเขาทำกับเธอแบบนี้แล้วยังจะมีอารมณ์มาหัวเราะเธออีกเหรอและแทนที่เขาจะรีบเข้ามาช่วยประคองเธอให้ลุกขึ้นมันน่าหยิกให้เขียวจริงๆสงสัยที่โดนศอกของเธอไปเมื่อกี้มันคงน้อยเกินไปใช่ไหม ทางด้านมาร์คัสที่เห็นสายคาดโทษและบวกกับสีหน้าที่เหยเกของหญิงสาวก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงขนาดคิงไซส์นุ่มๆที่กำลังนอนอยู่ขึ้นไปประคองคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังแจกค้อนอันใหญ่ให้เขาอยู่ แก้มหอมที่เห็นว่าคนตัวโตที่กำลังช่วยเธออยู่ตอนนี้ไม่ได้สวมใส่อะไรเลยแม้แต่ชิ้นเดียวบนร่างกายก็มีความรู้สึกอายกระด้างขึ้นมาทันทีก่อนจะก้มลงมามองตัวเองซึ่งตอนนี้ก็