ร่างอรชรสวมชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังใจกลางเมืองกรุงแห่งหนึ่ง หญิงสาวผู้มีใบหน้าที่สวยสดงดงามกำลังนั่งเหม่อหันหน้ามองไปนอกหน้าต่างของชั้นเรียน ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มกำลังจ้องมองต้นไม้ข้างนอกที่กำลังโดนลมพัดปลิวไสวอยู่อย่างครุ่นคิด
ชาลิสา เจริญวัฒนาวรรณ เด็กสาววัย 21 ปี นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจปีสุดท้าย สาวน้อยอารมณ์ดี มองโลกในแง่บวกแต่ก็โดนเอาเปรียบจากแม่เลี้ยงกับลูกติดของแม่เลี้ยงมาโดยตลอด หญิงสาวมีดวงตาสีน้ำตาลเข้มกับเรือนผมยาวตรงสีดกดำ ใบหน้าสวยคมบวกกับรูปร่างของสาวน้อยวัยสะพรั่งของเธอ ทำให้ชายหนุ่มในมหาวิทยาลัยหลายต่อหลายคนอยากจะเข้ามาขายขนมจีบและทำความรู้จักกับหญิงสาว จนทำให้ผู้หญิงบางกลุ่มไม่ชอบหน้าชาลิสาสักเท่าไหร่เพราะความสวยที่โดดเด่นของเธอ
หญิงสาวนั่งเหม่อเพราะมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้จิตใจของสาวน้อยไม่ค่อยสงบสักเท่าไหร่ นั่นก็คือเรื่องของแม่เลี้ยงกับลูกติดของแม่เลี้ยง
“เป็นอะไรหรือเปล่าคุณหนูชาลิสา” เสียงของเพื่อนสนิทชาลิสาที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย เมื่อเห็นว่าวันนี้ชาลิสาเอาแต่นั่งเหม่อมาตลอดทั้งวันแล้ว
ใบเฟิร์น เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของชาลิสา ใบเฟิร์นเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยคมไม่ต่างจากชาลิสา และเธอก็ยังเป็นคนที่อารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เวลาที่ทั้งสองสาวเดินด้วยกันในมหาวิทยาลัยจึงมีแต่คนคอยจับจ้องมองความสวยสะพรั่งที่โดดเด่นของทั้งสองสาว
“ปะ..เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร” เสียงของใบเฟิร์นทำให้ชาลิสาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะหันกลับมาตอบกลับเพื่อนสนิท
“แน่ใจ?” ใบเฟิร์นขมวดคิ้วเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเธอจะรู้อยู่แก่ใจก็เถอะว่าเพื่อนรักของเธอมีเรื่องกลุ้มใจอะไรอยู่ แต่ถ้าชาลิสาไม่อยากที่จะเล่า เธอก็จะไม่คาดคั้นอะไรทั้งนั้น
“อือ” ใบหน้าสวยคมของชาลิสาพยักหน้าให้กับใบเฟิร์นเบาๆ พลางส่งยิ้มอ่อนๆ ไปให้
“งั้นวันนี้เลิกเรียน เราไปหาอะไรกินที่ห้างกันหน่อยไหมสา” ในเมื่อเพื่อนรักเลือกที่จะเก็บงำเรื่องกลุ้มใจไว้เพียงคนเดียว หน้าที่ของใบเฟิร์นก็คือทำให้เพื่อนมีความสุขและลืมความทุกข์ไปชั่วขณะให้ได้ก็เท่านั้นเอง
“ได้จ้ะ” ชาลิสารับรู้ได้ถึงความห่วงใยจากเพื่อน และแน่นอนว่าเรื่องที่เธอกำลังกลุ้มใจอยู่ ก็เป็นเรื่องที่ใบเฟิร์นรับรู้มาตลอดเช่นกัน หญิงสาวส่งยิ้มกว้างให้กับเพื่อนรักจนใบหน้าสวยคมเป็นรอยแก้มบุ๋มลงไป
ทั้งสองสาวอยู่ในห้องเรียนจนกระทั่งหมดเวลาเรียน ในช่วงของชั่วโมงแรก อาจารย์เข้ามาเพื่อพูดคุยกับเด็กหนุ่มสาวในชั้นเรียน ก่อนที่อาจารย์จะปล่อยให้พวกเธอนั่งทำงานกันจนหมดชั่วโมงเรียน ช่วงบ่ายพวกเธอไม่ได้มีคาบเรียนต่อ ทั้งสองสาวจึงนั่งแท็กซี่ตรงหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อมาลงที่ห้างสรรพสินค้าสุดหรูในเวลาต่อมา
นักศึกษาสาวสวยทั้งสองคนที่สวมเสื้อเชิ้ตรัดรูปสีขาวกับกระโปรงทรงเอสั้นเลยเข่าขึ้นมา ชาลิสากับใบเฟิร์นเดินเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้าพร้อมกัน สายตาของชายหนุ่มหลายคู่จับจ้องมาที่พวกเธอ แต่ทั้งสองสาวก็ไม่ได้สนใจมันสักเท่าไหร่
“ชานมไข่มุกร้านนั้นน่ากินมากเลย” ใบเฟิร์นเอ่ยขึ้นมา ในขณะที่พวกเธอกำลังเดินเล่นกันอยู่
“อยากไปดูไหม” ชาลิสาหยุดเดินและหันไปมองร้านชานมไข่มุกที่เพื่อนบอกกล่าว ก่อนที่เธอจะตอบกลับเพื่อนสนิทออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ไป” สิ้นเสียงใบเฟิร์น ทั้งสองสาวก็เดินตรงไปที่ร้านชานมไข่มุกด้วยกันอย่างช้าๆ ด้วยท่าทางร่าเริงตามประสาของเด็กสาววัยกำลังเติบโต
“เอาชาเย็นไข่มุกค่ะ” ใบเฟิร์นสั่งออเดอร์หน้าเคาน์เตอร์ทันทีที่พวกเธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้าน
“เอาชานมไข่มุกค่ะ” ชาลิสาเอ่ยสั่งต่อ หลังจากนั้นพนักงานก็กดรับออเดอร์ของพวกเธอบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงเคาน์เตอร์
เวลาผ่านไปไม่นาน พนักงานสาวก็ยื่นแก้วชานมไข่มุกให้กับหญิงสาวทั้งสองคน นักศึกษาสาวเอื้อมมือไปรับแก้วชานมไข่มุกมาถือเอาไว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทั้งสองคน
หลังจากที่พวกเธอได้ชานมไข่มุกตามที่สั่งและจ่ายเงินจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชาลิสาตั้งท่าจะหันหลังกลับเพื่อเดินออกไปจากตรงหน้าร้านชานมไข่มุก แต่ทว่า…
ตุ้บ!!
“อุ๊ย!” หญิงสาวร้องขึ้นมาด้วยความตื่นตกใจเล็กน้อย เมื่อเธอหันกลับมาและชนเข้ากับคนเบาๆ และถึงแม้ว่าจะชนไม่แรงมากสักเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้ชานมไข่มุกในมือของหญิงสาวกระเด็นมาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวของชาลิสาอยู่ดี
“สา!” ใบเฟิร์นหันหลังกลับมาหาเพื่อนพลางร้องขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักชนเข้ากับผู้ชายร่างกำยำสวมชุดสูทคนหนึ่ง อีกทั้งชายหนุ่มยังสวมแว่นตากันแดดพร้อมกับร่างกายใหญ่โตที่ดูไม่ได้สะทกสะท้านกับแรงชนเพียงเล็กน้อยของชาลิสาเล็กด้วยซ้ำ มีเพียงเพื่อนของเธอนี่แหละที่เซถอยหลังพร้อมกับมีคราบของชานมไข่มุกที่เลอะเสื้อขาวของชาลิสาเป็นวงกว้าง
“เป็นอะไรไหมครับ” ชายหนุ่มร่างกำยำสูงใหญ่ค่อยๆ ถอดแว่นตาออกจากใบหน้าของตัวเองพร้อมกับเอ่ยถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“มะ..ไม่ค่ะ” ชาลิสามองตากับชายหนุ่มที่เธอเพิ่งจะเดินชนเขาไปเมื่อครู่นี้ เสียงหวานตอบกลับอย่างตะกุกตะกักเล็กน้อย
“พี่คะ..ขอกระดาษทิชชูหน่อยได้ไหมคะ” ใบเฟิร์นเผลอมองหน้าของชายหนุ่มอยู่ชั่วครู่ เนื่องจากบุคคลตรงหน้าของพวกเธอช่างหล่อเหลาเกินมนุษย์เหลือเกินเมื่อเขาถอดแว่นตาออก ก่อนที่เธอจะหันกลับไปขอกระดาษชำระที่ร้านชานมให้กับเพื่อนของเธอ
“เสื้อเรา” ลูคัส บอกกล่าวนักศึกษาสาวพลางมองไปตรงเสื้อของเธอ และเขาก็พบว่าเสื้อนักศึกษามันแนบเนื้อของเด็กสาวไปจนเห็นเนินเนื้อของหน้าอกอวบอิ่มกับเสื้อชั้นในสีดำได้อย่างชัดเจนแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ” หญิงสาวก้มลงมองเสื้อตัวเองเล็กน้อย มือบางยกขึ้นมาปิดเนื้ออกของตัวเองเอาไว้ ใบหน้าสวยคมแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร” ชายหนุ่มตอบกลับพลางกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ
“ทิชชูแก” ใบเฟิร์นยื่นกระดาษชำระที่เอามาจากพนักงานร้านชานมไข่มุกให้กับชาลิสา
“ขอบใจนะ” ชาลิสาส่งยิ้มหวานให้เพื่อน ก่อนที่เธอจะยื่นมือไปรับกระดาษชำระมาซับที่เสื้อของตัวเองพร้อมกับทำแก้มป่องอย่างครุ่นคิดว่าเธอจะเอายังไงกับคราบน้ำหวานพวกนี้ดี
ลูคัสลอบมองหญิงสาวที่ทำแก้มป่องพร้อมกับใบหน้าสวยคมที่แดงระเรื่อเล็กน้อย ชายหนุ่มอมยิ้มกับท่าทางของหญิงสาวตรงหน้า ส่วนอีวานก็แอบมองท่าทีของเจ้านายอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ
น่ารักจัง
ลูคัสครุ่นคิดอยู่ภายในใจกับท่าทางของเด็กสาววัยสะพรั่ง เขาสะบัดหัวไล่ความคิดขอตัวเองออกไป ก่อนที่ชายหนุ่มจะถอดเสื้อสูทตัวนอกออกมายื่นให้หญิงสาว
“เอาไปคลุมไว้ก่อนนะ” ชายหนุ่มบอกกล่าว ทำให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตากับลูคัสด้วยใบหน้าที่เขินอาย
“ขอบคุณมากเลยนะคะ” มือบางเอื้อมไปหยิบเสื้อสูทตัวใหญ่มาจากมือแกร่ง
“ยินดีครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มเบาๆ กลับไปให้เธอ ชายหนุ่มสบตากันอยู่ชั่วครู่ และยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้เอ่ยอะไรออกมาต่อ เสียงโทรศัพท์ของลูคัสก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
ติ้ดดดด
ชายหนุ่มก้มศีรษะให้เด็กสาวเบาๆ เพื่อเป็นการไม่เสียมารยาท ก่อนที่เขาจะเคลื่อนมือแกร่งไปล้วงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋ากางเกงออกมาดูบนหน้าจอโทรศัพท์
“ขอตัวก่อนนะครับ ขอโทษอีกครั้งด้วย” ชายหนุ่มเอ่ยล่ำลาหญิงสาวก่อน ใบหน้าหล่อเหลาดั่งเทพบุตรยิ้มอย่างอบอุ่นให้หญิงสาว จากนั้นเขาก็ปลีกตัวออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เขายังไม่ได้ทำความรู้จักเธอเลย แต่เพราะเขาต้องรีบรับสายนี้ก่อน อีกทั้งงานที่เขายังค้างคาอยู่ที่โรงพยาบาลอีก ลูคัสจึงต้องจำใจเดินออกมาพร้อมกับกดรับสายและยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเอาไว้
ชาลิสามองตามแผ่นหลังชายหนุ่มกำยำที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เนื่องจากเขาได้เอาเสื้อสูทตัวนอกให้เธอแล้ว ดวงตากลมโตมองแผ่นหลังกว้างที่เดินไกลออกไปเรื่อยๆ ก่อนที่เธอจะก้มลงมามองเสื้อสูทตัวใหญ่ในมือของเธอ
หนึ่งเดือนผ่านไป เวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ชาลิสาตื่นมาในช่วงเช้ามืดของวันและเธอก็ตรงไปยังห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำชำระร่างกายทันที หลังจากที่ชาลิสาอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาเสร็จสรรพ หญิงสาวก็คว้ากระเป๋าสะพายสีดำขึ้นมาสะพายบนไหล่แบบบางเอาไว้ ก่อนที่ร่างอรชรจะมองตัวเองในกระจกเล็กน้อย แล้วค่อยเดินด้วยความมาดมั่นออกมาจากห้องนอนของเธอชาลิสาลงมาจากชั้นสองของบ้าน และเตรียมจะเดินไปยังห้องอาหารเพื่อทานอาหารเช้าก่อนออกไปมหาวิทยาลัย แต่ทว่าร่างอวบอิ่มก็ต้องชะงักฝีเท้าไปเล็กน้อย เมื่อหูของหญิงสาวดันไปได้ยินเสียงคนมาเอ๊ะอ๊ะโวยวายอยู่หน้าบ้านของเธอ หญิงสาวจึงรีบเร่งฝีเท้าเดินไปหน้าบ้านทันทีดวงตากลมโตกวาดสายตามองไปหน้าประตูรั้ว เธอพบกับแม่เลี้ยง พี่ชาย คนใช้อีกสองคนที่ยืนอยู่ในรั้วประตูบ้าน อีกทั้งยังมีชายชุดดำสองคนที่ยืนเสียงดังโวยวายอยู่ด้านนอกของรั้วบ้านเธอ“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงมาโวยวายหน้าบ้านของคนอื่นแบบนี้คะ” เสียงหวานเอ่ยออกมาดังเล็กน้อย ทำให้ทุกคนที่อยู่หน้าบ้านหันมามองเธอเป็นตาเดียวกัน“เอ่ออ” แม่เลี้ยงกระอักกระอ่วนไม่กล้าตอบ ก่อนที่เสียงของชายชุดดำร่างใหญ่ด้านนอกประตูรั้วจะเอ่ยแทรกขึ้น
ลูคัสกลับมายังโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ชายหนุ่มกลับมาทำงานต่อจนกระทั่งถึงหกโมงเย็นของวัน จากนั้นลูคัสก็ไปทานอาหารที่ร้านอาหารบนตึกหรูจวบจนเวลาผ่านพ้นไปถึงสามทุ่มหลังจากที่ชายหนุ่มทานอาหารเย็นจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตรงมายังผับสุดหรูทันทีโดยมีอีวานที่พ่วงตำแหน่งคนขับรถมาให้เจ้านาย เมื่อมาถึงผับหรูใจกลางเมืองแล้ว ลูคัสก็ตรงไปยังห้องวีไอพีประจำของเขากับเพื่อนทันที อีวานยืนรออยู่หน้าห้องวีไอพีตรงชั้นสองของผับหรูด้วยท่าทางแข็งแรงมั่นคง“มาแล้วเหรอวะ” ฟีลิกซ์ เอ่ยทักทายเพื่อนทันที เมื่อลูคัสเปิดประตูเข้ามาในห้องวีไอพี เสียงเพลงในห้องวีไอพีไม่ได้เปิดดังเท่าเพลงด้านนอกห้องสักเท่าไหร่ เนื่องจากบางห้องก็ต้องการที่จะมาพูดคุยธุรกิจและดื่มกินไปด้วย เหมือนดั่งเช่นลูคัสกับฟีลิกซ์ดวงตาคมกริบของลูคัสปรายตามองเพื่อนของตัวเองที่มีสาวหุ่นอวบอิ่มชุดเดรสสั้นสีดำนั่งอยู่ข้างกายบนโซฟานุ่มสีดำสนิท อีกทั้งตรงข้ามของฟีลิกซ์ก็ยังมีหญิงสาวชุดแดงเพลิงรัดรูปอีกคนที่นั่งอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าลูคัสรู้ดีว่าเพื่อนของเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนเตรียมผู้หญิงพวกนี้มาเผื่อเขาด้วย“มีอะไรวะ” ลูคัสใช้สองมือล้วงกระเป๋าพลางเอ่ยถามฟีลิ
“ทั้งหล่อทั้งนิสัยดีอะแก” เสียงของใบเฟิร์นปลุกให้ชาลิสาหลุดออกจากภวังคจิต ชาลิสาหันหน้าไปมองเพื่อนของตัวเองเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะก้มลงมามองเสื้อนักศึกษาของเธอที่เลอะเป็นวงกว้าง มือเล็กกระชับเสื้อสูทขึ้นมาปกปิดอกอวบอิ่มเอาไว้“ซักไม่ออกแน่เลย รีบไปห้องน้ำก่อนเถอะ” ใบเฟิร์นเอ่ยต่อ ชาลิสาจึงพยักหน้าให้เพื่อนรักเบาๆ จากนั้นทั้งสองสาวจึงก้าวเดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ทันที ชาลิสาวางเสื้อสูทไว้บนอ่างล้างมืออย่างเบามือ เธอเปิดน้ำและพยายามใช้มือล้างน้ำให้เปียกเล็กน้อยตรงก๊อกตรงอ่างล้างมือ และเอาขึ้นมาแตะๆ ที่เสื้อของเธอทีละนิด เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้เสื้อนักศึกษามันเปียกจนแนบเนื้อเกินไปและไม่ต้องการให้ใครมาเห็นอะไรต่อมิอะไรของเธอไปมากกว่านี้ “ออกไหมแก” ใบเฟิร์นที่ยืนอยู่ข้างๆ ชาลิสาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เธอช่วยดึงกระดาษชำระมายื่นให้เพื่อน เพื่อให้ชาลิสาใช้กระดาษชำระซับน้ำที่จะไหลเปียกเสื้อของเพื่อนไปมากกว่านี้“ไม่ออกเลย” ชาลิสาตอบกลับไป เธอพยายามจะล้างคราบน้ำหวานอยู่ชั่วครู่ แต่ทว่าหญิงสาวก็ไม่เห็นวี่แววที่คราบน้ำชานมไข่มุกจะออกจากเสื้อขาวของเธอเลยสักนิด“ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ” เ
ร่างอรชรสวมชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังใจกลางเมืองกรุงแห่งหนึ่ง หญิงสาวผู้มีใบหน้าที่สวยสดงดงามกำลังนั่งเหม่อหันหน้ามองไปนอกหน้าต่างของชั้นเรียน ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มกำลังจ้องมองต้นไม้ข้างนอกที่กำลังโดนลมพัดปลิวไสวอยู่อย่างครุ่นคิดชาลิสา เจริญวัฒนาวรรณ เด็กสาววัย 21 ปี นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจปีสุดท้าย สาวน้อยอารมณ์ดี มองโลกในแง่บวกแต่ก็โดนเอาเปรียบจากแม่เลี้ยงกับลูกติดของแม่เลี้ยงมาโดยตลอด หญิงสาวมีดวงตาสีน้ำตาลเข้มกับเรือนผมยาวตรงสีดกดำ ใบหน้าสวยคมบวกกับรูปร่างของสาวน้อยวัยสะพรั่งของเธอ ทำให้ชายหนุ่มในมหาวิทยาลัยหลายต่อหลายคนอยากจะเข้ามาขายขนมจีบและทำความรู้จักกับหญิงสาว จนทำให้ผู้หญิงบางกลุ่มไม่ชอบหน้าชาลิสาสักเท่าไหร่เพราะความสวยที่โดดเด่นของเธอหญิงสาวนั่งเหม่อเพราะมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้จิตใจของสาวน้อยไม่ค่อยสงบสักเท่าไหร่ นั่นก็คือเรื่องของแม่เลี้ยงกับลูกติดของแม่เลี้ยง“เป็นอะไรหรือเปล่าคุณหนูชาลิสา” เสียงของเพื่อนสนิทชาลิสาที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย เมื่อเห็นว่าวันนี้ชาลิสาเอาแต่นั่งเหม่อมาตลอดทั้งวันแล้วใบเฟิร์น เพื่อนสนิทเพียงคนเดีย
ณ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งชายหนุ่มร่างกำยำสมบูรณ์แบบดูสง่างามและน่าเกรงขาม ลูคัส นั่งใจจดใจจ่ออยู่กับกองเอกสารตรงหน้าของตัวเองอยู่ตรงโต๊ะทำงาน ภายในห้องทำงานชั้นบนสุดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ในช่วงเช้าของวัน ตระกูลโลรองต์เป็นเจ้าของโรงพยาบาลทั้งในประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศส ลูคัสถูกบิดาแต่งตั้งให้ขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลในช่วงอายุ 28 ปี เพราะบิดาต้องการให้ชายหนุ่มเข้ามาเรียนรู้การบริหารงานทุกอย่างก่อนที่พ่อของเขาจะยกกิจการทุกอย่างให้กับเขาลูคัส โลรองต์ หนุ่มลูกครึ่งไทยฝรั่งเศส อายุ 30 ปี ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของประเทศ ผมสีดำเข้ากับนัยน์ตาคมเข้มนุ่มลึกมีเสน่ห์ของชายหนุ่ม ในตอนนี้ลูคัสได้เข้ามารับตำแหน่งของผู้อำนวยการโรงพยาบาลในสาขาของประเทศไทยตั้งแต่อายุยังน้อย บวกกับหน้าตาที่โดดเด่นของลูคัสกับการได้รับตำแหน่งตั้งแต่อายุยังไม่เข้าเลขสามจึงทำให้สื่อต่างๆ จับตามองชายหนุ่มเป็นพิเศษ “คุณลูคัสครับ” เสียงของคนสนิทเคาะประตูห้องทำงานของลูคัสพร้อมกับเอ่ยลอดผ่านประตูมา“เข้ามา” ชายหนุ่มวางมือจากเอกสารตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยออกไปสิ้นเสียงของลูคัส ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดแง้ม
มาเฟียหลงเด็กลูคัส & ชาลิสาคำโปรย...เธอต้องสูญเสียพ่ออันเป็นที่รักยังไม่พอ เธอยังถูกแม่เลี้ยงใจร้ายขายให้กับเสี่ยแก่บ้ากามเพื่อใช้หนี้พนันของตัวเองอีก…ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับเธอขนาดนี้?“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะไม่ทำกับเธอแบบที่ไอ้เสี่ยบ้ากามมันทำเด็ดขาด…เธอเชื่อใจฉันได้”“ทำไมคุณถึงต้องมาช่วยฉันด้วยคะ”“เพราะฉันชอบเธอไง”ลูคัส โลรองต์ หนุ่มลูกครึ่งไทยฝรั่งเศส อายุ 30 ปี ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของประเทศ ผมสีดำเข้ากับนัยน์ตาคมเข้มนุ่มลึกมีเสน่ห์ของชายหนุ่ม ในตอนนี้ลูคัสได้เข้ามารับตำแหน่งของผู้อำนวยการโรงพยาบาลในสาขาของประเทศไทยตั้งแต่อายุยังน้อย บวกกับหน้าตาที่โดดเด่นของลูคัสกับการได้รับตำแหน่งตั้งแต่อายุยังไม่เข้าเลขสามจึงทำให้สื่อต่างๆ จับตามองชายหนุ่มเป็นพิเศษ ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาดั่งเทพบุตรจึงทำให้หญิงสาวหลายต่อหลายคนต่างหวังที่จะได้ครอบครองชายหนุ่ม ทว่าลูคัสกลับไม่รู้สึกถูกใจใครทั้งนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ไปเดินชนเด็กสาวคนหนึ่งเข้า... ชาลิสา เจริญวัฒนาวรรณ อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจปีสุดท้าย สาวน้อยอารมณ์ดี มองโลกในแง่บวกแต่ก็โดนเอาเปรียบจากแม่เลี้ยงกับ