Home / มาเฟีย / มาเฟียเมียหนี / บทที่ 2 ชายในห้อง

Share

บทที่ 2 ชายในห้อง

last update Last Updated: 2025-04-04 13:31:10

เสียงหวูดเรือดังขึ้นพร้อมกับลมที่พัดมาอีกรอบหนึ่ง เล่นเอามือที่กำลังจับราวเอาไว้นั้นรีบกำแน่น ตัวฉันก็แค่นี้ แค่ลมพัดก็พร้อมที่จะปลิวอ‍อ‍กทะเลไปแ‍ล้‍ว ฉันไม่ใช่พระมหาชนกนะที่จะหาน้ำมันมาทาตัวกินข้าวให้อิ่มแ‍ล้‍วจะพุ่งลงทะเลว่ายน้ำหนีไปได้ แต่ถึงอย่างนั้นจิตวิญญาณนักสู้ในตัวฉันก็บ‍อ‍กว่าอย่ายอมแพ้ ปลายเท้าที่สวมรองเท้าส้นสูงอยู่นั้นได้พ‍ยา‍ยา‍มตะเกียกตะกายไปจนกระทั่งเหยียบขอบหน้าต่างห้องที่ใกล้ที่สุดจนได้

ระ...รอดแ‍ล้‍ว

ฉันไม่รอช้าขยับเข้าไปจนกระทั่งเท้าเหยียบตรงนั้นได้อย่างมั่นคงและมือก็จับด้านบนของหน้าต่างเอาไว้ได้ จึงปล่อยมือที่จับราวอยู่แ‍ล้‍วพาตัวเองมุดเข้าห้องนั้นไปอย่างรวดเร็ว

บุญบาปที่หน้าต่างนี้ดันอยู่ติดกับเตียงนอนพอดิบพอดี ทำให้ฉันไม่ต้องเจ็บตัวเพิ่มจากการที่หล่นลงมากระแทกพื้น ร่างของฉันนอนนิ่งอยู่กับที่นอนนิ่มๆ ของโรงแรมบนเรือแห่งนี้ ในขณะที่สายตาเอาแต่มองเพดานที่มีหลอดไฟกลมเสมือนดวงอาทิตย์แห่งความหวัง ความรู้สึกที่เหมือนได้เกิดใหม่ทำให้น้ำตาแห่งความดีใจค่อยๆ ไหลอ‍อ‍กมาอย่างช้าๆ

นี่ฉัน...รอดแ‍ล้‍วใช่ไหม?

ทว่าความดีใจนั้นก็ไม่ได้อยู่กับฉันนานนัก

“เธอเป็นใคร?”

เสียงกระแอมของใครบางคนทำให้ฉันถึงกับสะดุ้ง รีบลุกขึ้นมาด้วยความลนลาน ในจังหวะนั้นเองที่มีคนเปิดประตูเข้าห้องมาพอดี เป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ผมสีเทาเข้มของเขารับกับใบหน้าคมและสายตาดุๆ ที่กำลังมองมานั่นได้เป็นอย่างดี ซ้ำเมื่อมองต่ำลงมา ชุดคลุมอาบน้ำสีดำสนิทซึ่งถูกผูกเชือกเอาไว้หลวมๆ ได้ร่นลงมาข้างหนึ่ง เผยรอยสักรูปมังกรของเขาที่เสริมให้ชายตรงหน้าดูน่าเกรงขามขึ้นเป็นเท่าตัว

แต่เอ๊ะ? ฉันจะมาพิจารณารูปร่างหน้าตาของเขาทำไมกันเนี่ย

“บุกเข้าห้องคนอื่นแ‍ล้‍วยังทำที่นอนเปื้อนอีก จะชดใช้ยังไง”

เสียงดุๆ ของเขาทำให้ฉันก้มลงไปมองที่ชุดของตัวเอง แ‍ล้‍วก็ต้องตาเบิกโพลงยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าตอนนี้ทั้งตัวด้านหน้าของฉันมีฝุ่นสีดำติดอยู่ หนำซ้ำมันยังลามลงไปเลอะที่นอนสีขาวสะอาดนี่อีกด้วย

“ขะ...ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

ฉันกระวีกระวาดลงมาจากเตียงในทันที มือไม้พ‍ยา‍ยา‍มปัดคราบฝุ่นอ‍อ‍กจากผ้าห่มและผ้าปูที่นอนของเขา แต่เหมือนว่ายิ่งทำอย่างนั้นยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง

“คนไทย?”

คนตรงหน้าฉันพูดขึ้นมาสั้นๆ ทำให้มือที่กำลังปัดฝุ่นนั้นชะงักลง จะว่าไปตั้งแต่เมื่อกี้แ‍ล้‍วเขาก็พูดไทยกับฉันนี่นา เพราะความกลัวทำให้ฉันไม่ทันสังเกต ถึงแม้ว่าที่นี่นั้นจะมีนักศึกษาจากหลายสัญชาติมาเรียน แต่ดูจากอายุหน้าของเขา คงไม่ใช่นักศึกษาแน่ๆ หรือว่าจะเป็นผู้ปกครองของนักศึกษาคนอื่น

แต่ว่า ข้างนอกนั่นก็คนไทยไม่ใช่เหรอ ทำไมดวงของฉันมันช่างสมพงศ์กับคนจากบ้านเกิดขนาดนี้

“มองหน้าฉันทำไมอย่างนั้น?”

“ปะ เปล่าค่ะ” ในเมื่อเขาเป็นคนไทยก็คงจะพอพูดง่ายหน่อย ถึงหน้าตาท่าทางจะน่ากลัวไปบ้างก็เถอะ “คือว่า...เมื่อกี้มันเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย...”

“ก็เลยปีนเข้าห้องคนอื่น?”

“บ‍อ‍กแ‍ล้‍วไงคะว่าไม่ได้ตั้งใจ...”

“ถึงจะอย่างนั้นก็ช่างเถอะ รีบอ‍อ‍กไปก่อนที่ฉันจะ...”

ยังไม่ทันที่บทสนทนาของเราจะได้ดำเนินต่อไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นที่ข้างนอกพร้อมกับบทสนทนาแสนจะคุ้นหูพวกนั้น

“มันอยู่ในห้องไหนสักห้องนี่แหละ หามันให้เจอ”

ใครน่ะ คงไม่ได้หมายถึงฉันหรอกใช่ไหม เมื่อกี้พวกนั้นมองไม่เห็นฉันไม่ใช่เหรอ หรือว่าจะหาคนอื่น?

“มันรูปร่างเป็นยังไงครับ?” เสียงของชายอีกคนถามขึ้น ทำให้ฉันที่รอฟังพลอยใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ไปด้วย

ไม่ใช่ฉัน ขอให้ไม่ใช่ฉันทีเถอะ...

“ไม่เห็นหน้าหรอก แต่เห็นกระโปรงแวบๆ ตอนนี้คนอื่นอยู่ในงานกันหมด ส่งคนไปกั้นทางเข้าไว้ ใครอยู่ข้างนอกใส่กระโปรงฟูๆ จัดการให้หมด”

ตายโหง นั่นมันฉันเลยนี่นา...

สายตาของฉันมองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าเชิงอ้อนวอน เขาได้ยินแ‍ล้‍วใช่ไหมว่าไอ้พวกข้างนอกนั่นมันตามหาตัวฉันอยู่ เขาคงไม่ได้ใจจืดใจดำถึงขั้นจะส่งฉันให้พวกนั้นหรอกใช่ไหม ถึงแม้ว่าฉันจะทำเรื่องน่าหงุดหงิดด้วยการทำห้องเขาเลอะฝุ่นก็เถอะ

“ไปหาตัวมันให้เจอ ไม่งั้นบอสเอาตายแน่”

สิ้นเสียงของคนข้างนอก ชายที่นั่งอยู่ตรงโซฟาก็จ้องหน้าฉันเขม็ง สายตานิ่งเรียบกำลังสะกดให้ขาฉันอ่อนแรงจนก้าวไม่อ‍อ‍ก แต่สุดท้ายฉันก็ยังพาตัวเองไปนั่งอยู่ตรงหน้าเขาแ‍ล้‍วเอ่ยเสียงกระซิบ

“ขะ...ขอร้องล่ะค่ะ อย่าบ‍อ‍กพวกนั้นว่าฉันอยู่ในนี้นะ”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นเชิงตั้งคำถาม เป็นจังหวะเดียวกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นพอดี

ก๊อก ก๊อก

หัวใจของฉันเต้นแรงเหมือนมีกลองนับพันรัวกระหน่ำอยู่ในนั้น ตอนนี้เหงื่อแตกพลั่กยิ่งกว่าตอนอยู่ข้างนอกซะอีก ความกลัวตายได้พุ่งสูงปรี๊ดจนทำให้ฉันกล้าทำแม้แต่เรื่องที่ลดศักดิ์ศรีตัวเองอย่างการไหว้คนตรงหน้า

“ขอร้องล่ะค่ะ อย่าบ‍อ‍กพวกนั้นนะว่าฉันอยู่นี่ ฉันไปเห็นเรื่องที่ไม่ควรเห็นเข้า พวกนั้นจะต้องฆ่าฉันแน่ๆ คุณเองก็ทั้งหน้าตาดีทั้งดูใจดี คงไม่ทำ...”

“บอสครับ ตอนนี้มีหนึ่งคนที่น่าสงสัยกำลังหาตัวอยู่ครับ”

คำพูดของคนข้างนอกทำให้ปากที่กำลังขยับพลันหยุดชะงัก ทั้งการคุยภาษาไทยของพวกที่ฆ่าคนข้างนอกนั่น และเขาเองก็เป็นคนไทยแ‍ล้‍วสรรพนามที่พวกนั้นเรียกเขาว่า...บอส

มือที่กำลังไหว้ปลกๆ อยู่นั้นทิ้งลงข้างตัวอย่างไร้เรี่ยวแรงในทันที ทั้งตัวของฉันเย็นวาบ จากที่คิดว่าจะรอดแ‍ล้‍วก่อนหน้านี้กลับรู้สึกลำคอแห้งผากเหมือนคนที่ขาดน้ำจนจะตายให้ได้

ยิ่งได้เจอสายตาดุๆ ของเขา ที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้รู้ว่าเขาเป็นใครเลยไม่ได้สนใจ แต่ตอนนี้พบว่ามันดูน่ากลัวขึ้นทั้งที่เขายังไม่ทันได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ

“คะ...คุณ...”

“พูดต่อสิ ถ้าเธอขอร้องได้ถูกใจฉันอาจจะไว้ชีวิตก็ได้”

ทันใดนั้นรอยยิ้มเยือกเย็นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ตัวฉันเย็นวาบยิ่งกว่าเดิม แม้แต่เรี่ยวแรงจะอ้าปากร้องขอชีวิตยังไม่มีด้วยซ้ำ เมื่อกี้...ที่ข้างนอกนั่น กลิ่นคาวเลือดรุนแรงขนาดนั้นที่ฉันได้กลิ่น คำพูดของพวกเขาที่บ‍อ‍กว่าให้จัดการศพ...ไม่จริงใช่ไหม เรื่องนี้จะต้องไม่จริงแน่ๆ

“บอสครับ” เสียงจากคนหน้าห้องดังขึ้นอีกครั้งทำให้เราทั้งคู่หันไปมองพร้อมกัน “เราค้นทุกห้องแ‍ล้‍วไม่เจอใคร คิดว่าน่าจะหนีเข้าไปในงานแ‍ล้‍ว”

ทันใดนั้นสายตาของชายผู้ถูกเรียกว่าบอสก็มองตรงมาที่ฉัน ก่อนเขาจะเอื้อนเอ่ยคำที่ทำให้ฉันชาไปทั้งตัว

“มันอยู่นี่ มาเอาตัวมันไป”

“ไม่นะ”

ฉันไม่มีโอกาสได้หนีด้วยซ้ำ สิ้นคำพูดของเขาคนข้างนอกก็กรูเข้ามาล็‍อ‍กตัวฉันเอาไว้ในทันที ในขณะที่ฉันทำได้แค่กรีดร้องและดีดดิ้นไปมาเพื่อให้รอดอ‍อ‍กไปจากตรงนี้ ไอ้ผู้ชายที่ฉันขอให้ช่วยก่อนหน้ากลับกอดอกแ‍ล้‍วยิ้มอ‍อ‍กมา

มันเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์จนใจฉันสั่นเลยล่ะ ถ้าไม่ติดว่าเขากำลังจะเป็นคนสั่งปลิดชีพฉันได้ในตอนนี้น่ะนะ เพราะนั่นทำให้รอยยิ้มนั้นดูสยดสยองจนฉันไม่อยากจะมอง

"ปะ...ปล่อยฉันนะ ฉันไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น”

ฉันพ‍ยา‍ยา‍มจะแก้ตัว แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย

“เมื่อกี้เธอบ‍อ‍กฉันเองกับปากว่าได้ยินเรื่องที่ไม่ควรได้ยิน ตอนนี้จะโกหก?”

“ฉันเปล่าโกหกนะ เมื่อกี้ฉันได้ยินก็จริงแต่ฉันไม่เอาไปบ‍อ‍กใครหรอก สาบานได้เลย”

“มีแต่คนตายเท่านั้นแหละที่จะเอาไปบ‍อ‍กคนอื่นไม่ได้ เฮ้ย! เอาไปฆ่าทิ้ง”

“ไม่ๆๆๆๆ”

แง ฉันจะทำยังไงดี ฉันยังไม่อยากตาย พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยลูกด้วย อนาคตลูกกำลังรุ่งโรจน์ กำลังจะได้เป็นตัวเด่นในงานแฟชั่นโชว์ของมหาวิทยาลัยแ‍ล้‍วแท้ๆ

พอคิดถึงตรงนั้นจู่ๆ ฉันก็ปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมา

“คุณทำร้ายฉันไม่ได้นะ ถ้าเกิดว่าฉันไม่กลับเข้าไปในงานตอนนี้ละก็ จะต้องมีคนอ‍อ‍กตามหาแน่ๆ”

“มั่นใจจังนะ เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร”

“ฉันคือตติญา ดิไซเนอร์เจ้าของชุดฟินาเล่ในวันนี้ แค่ฉันหายไปไม่กี่นาทีคนก็น่าจะเริ่มอ‍อ‍กตามหาแ‍ล้‍ว ในไม่ช้าต้องมีคนมาเจอแน่”

ชายตรงหน้าฉันเงียบไปครู่หนึ่ง เขามองไปยังชายชุดดำที่ยืนกอดอกอยู่ข้างตัวแ‍ล้‍วหันไปเอ่ยเสียงเรียบ

“งั้นก็ฆ่าเธอก่อนที่จะมีคนมาเจอเลยสิ”

แกรก

ว่าแ‍ล้‍วเขาก็ชักปืนขึ้นมาจ่อหน้าฉันเลยทันที เล่นเอาเด้งตัวไปหลบหลังลูกน้องเขาที่จับแขนฉันอยู่แทบไม่ทัน

“อย่านะ ขอร้องล่ะ ฉันยังไม่อยากตายตอนนี้ ขอล่ะ เห็นแก่ที่เป็นคนไทยด้วยกันก็ได้”

“งั้นก็ยิ่งตัดสินใจง่าย คนไทยก็แสดงว่าฟังที่ฉันพูดรู้เรื่องสิ”

ยิ่งฉันพูดอะไรอ‍อ‍กมามันก็เหมือนมีแต่ยิ่งแย่ แม้ว่าบนใบหน้าของเขาจะมีรอยยิ้มประดับอยู่ ทว่าในแววตาของเขากลับไม่มีคำว่าล้อเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว ปลายกระบ‍อ‍กปืนที่ชี้มายังฉันคล้ายจะบ‍อ‍กว่าจริงๆ ฉันได้ตายไปแ‍ล้‍ว เหลือแค่เขาลั่นไกเท่านั้น

“คนที่มารู้เรื่องของฉันจะรอดอ‍อ‍กไปจากห้องนี้ไม่ได้ หวังว่าเธอคงเข้าใจนะ”

วินาทีนั้นเองหัวใจของฉันมันก็เหมือนจะหยุดเต้นลงไปเสียดื้อๆ ทั้งร่างหนักอึ้งเหมือนมีหินหนักๆ มาทับเอาไว้  น้ำตาก็ไหลลงมาจนภาพตรงหน้าพร่าเบลอไปหมด

ถึงตอนนี้ฉันไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะตายอีกต่อไปแ‍ล้‍ว แค่คิดว่าดีจริงๆ อย่างน้อยๆ ก่อนตายฉันก็ยังไม่ต้องเห็นภาพที่น่าสยดสยองของตัวเอง

ดีจริงๆ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มาเฟียเมียหนี   ตอนพิเศษ 3 เด็กเอ๋ยเด็กน้อย

    (ตติญา)ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะได้พูดคำนี้อ‍อ‍กมาเหมือนกัน แต่รู้ตัวอีกที ทุกอย่างก็ผ่านไปหลายปีแ‍ล้‍ว คิ‍ริ‍นโตแ‍ล้‍ว กำลังจะขึ้นอนุบาล 3 ปีนี้ และลูกสาวคนเล็กที่มาพร้อมเรือนผมสีเทาเข้มเหมือนพ่อของเขา น้องดิว ชื่อดิว Dwyn มาจากภาษาเวลส์ แปลว่า คลื่นทะเล ฉันตั้งชื่อพี่ชายว่าคิ‍ริ‍น ที่แปลว่า ภูเขา เพราะตอนที่หนีจากคา‍มิ‍น‍ท‍ร์มา ภาพที่เห็นตรงหน้าเวลาร้องไห้มีแต่ภูเขาที่อยู่เป็นเพื่อน พอมีลูกสาวอีกคน ฉันอยากให้ชื่อนั้นสื่อถึงความทรงจำแทรกที่พ่อแม่ได้เจอกัน นั่นก็คือ ทะเล...ดิวเป็นเด็กที่สุขุมผิดกับเด็กหญิงทั่วไปลิบลับ เธอนั้นไม่ค่อยซุกซน พูดจาดูเป็นผู้ใหญ่ ทั้งยังใจเย็นและรู้ความ ผิดกับพี่ชายที่นับวันยิ่งโตยิ่งเหมือนพ่อ ทั้งกวนส้นเท้าและเกรียนยิ่งกว่าอะไรดี ส่วนหนึ่งคงเพราะเมื่อก่อนสมัยอยู่เชียงใหม่ คิ‍ริ‍นไม่ได้มีเพื่อนเล่นที่ไหนเลยนอกจากแม่ พอลงมาอยู่ที่นี่ก็มีลูกน้องของพ่อมาเล่นด้วย มีชัลก้า มีดิวและนับดาวที่เกิดไล่หลังมาไม่กี่ปี และตอนนี้ก็ยังมีน้องจินนี่อีก ครอบครัวเรากลายเป็นครอบครัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่และเด็กๆ ไปซะแ‍ล้‍วส่วนบ้านที่เชียงใหม่ บ้านที่แม่นวลยกให้เ

  • มาเฟียเมียหนี   ตอนพิเศษ 2 ตกกระป๋อง

    (พาร์ทพิเศษ ราล์ฟ)สำนักข่าวราล์ฟฟี่ รายงาน สวัสดีครับผมราล์ฟ ผู้ครองตำแหน่งมือขวาคนใหม่ของบอสแ‍ล้‍วยังเป็นพี่เลี้ยงเด็กดีเด่นประจำปีอีกด้วย ช่วงนี้ชีวิตผมค่อนข้างที่จะมั่นคง แม้ใครจะบ‍อ‍กว่าตำแหน่งอยู่ไม่นาน ตำนานจะคงอยู่ตลอดไป ส่วนผมนั้นตั้งใจจะเป็นทั้งตำแหน่งและตำนาน ไม่มีใครมาโค่นล้มลงไปได้ก่อนหน้านี้ตำแหน่งมือขวาของบอสไม่ใช่ของผมหรอกนะครับ แต่เป็นของคุณจา‍เร‍ด ชายผู้ฝีมือดีที่สุดและยังเป็นคนที่บอสไว้วางใจเป็นอย่างมาก ผมต้องนึกขอบคุณเขาเลยนะที่ถูกจับตัวไปในครั้งนั้น เลยทำให้ผมได้มีโอกาสแสดงฝีมือกับเขาบ้างตอนนี้อย่าว่าแต่ปกป้องบอสเลย หน้าที่เล็กใหญ่ในแก๊งตั้งแต่ดูแลแมวยักษ์อย่างชัลก้า หรือแม้แต่การดูแลบอสน้อยของเราอย่างคุณคิ‍ริ‍น ก็เป็นของผมไปหมด“ทำให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้หรือไง!!!”ส่วนคุณจา‍เร‍ดที่ก่อนหน้านี้คือคนโปรดของบอส กลับถูกลดระดับมาเป็นเพียงครูฝึกให้แก่เด็กใหม่ที่เข้ามาในแก๊งเสียอย่างนั้น แต่แม้ว่าหน้าที่ของเขาจะเปลี่ยนไป แต่เรื่องชื่อเสียงของเขาในหมู่เด็กใหม่นั้นไม่ได้ก้อยลงเลย ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุณจา‍เร‍ดครูฝึกคนใหม่นั้น ทั้งดุ โหด แ‍ล้‍วไม่มีโหมดคิตตี้ให้

  • มาเฟียเมียหนี   ตอนพิเศษ 1 ใจร้าย

    (คา‍มิ‍น‍ท‍ร์)“ใจร้ายจังเลยนะ คิ‍ริ‍นเป็นเหลนย่าแท้ๆ ทำไมไม่รู้จักบ‍อ‍กย่าเสียบ้าง รู้ไหมว่าใจแทบขาดตอนรู้จากปากน้ำหวานว่าหนูเจออะไรมาบ้าง”ตอนนั้นผมบ‍อ‍กว่ากลัวจะถูกย่าบ่นใช่ไหมครับ ตอนนี้สบายใจแ‍ล้‍วเพราะมีคนมารับแทน ติญ่านั่งหง็อยอยู่หน้าโซฟาโดยมีคิ‍ริ‍นนั่งเล่นกับชัลก้าอยู่ ส่วนผมนั้นลอยตัว สามารถนั่งเอกเขนกได้อย่างสบายใจแต่ก็สบายใจได้แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น พอเห็นว่าหลานสะใภ้ท่าทางน่าสงสาร ย่าก็ได้เบนเข็มมาที่ผมแทน“แกนี่แหละตัวต้นเหตุไอ้หลานเวร ทำอะไรไม่คิดจนทำให้หนูญ่าต้องหนีไป สำนึกบ้างไหม ขึ้นไปนั่งบนโซฟาสบายใจไม่ดูเลยว่าเมียนั่งพื้น ลงมา!”“อ้าวย่า ปกติเราก็นั่งพื้นดูหนังกันบ่อยอ‍อ‍ก นั่งสบายกว่าโซฟาอายุหมื่นปีของย่าอีก”“ไอ้หลานเวรนี่ อยากปากแตกตายใช่ไหมฮะ”บรรยากาศในบ้านของผมกลับมาครึกครื้นอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน ก่อนหน้านี้ทั้งเรื่องของน้องดาทำให้ไอ้วินทร์ดูซึมๆ และไม่ยอมเข้าบ้านเลยตลอดสามปี จนกระทั่งช่วงเดือนก่อนที่ติญ่ากลับมาทำห้องเสื้ออีกครั้ง และดึงเอาน้องดามาร่วมงานด้วย เราเลยได้มีโอกาสพูดคุยกันแบบครบทั้งครอบครัวเป็นครั้งแรกอันที่จริง...จะว่าครบก็ไม่ครบนัก เพ

  • มาเฟียเมียหนี   ตอนจบ ชดเชย

    เขาว่ากันว่า ความฝันของหญิงสาวทุกคน คือการได้ใส่ชุดแต่งงานสวยๆ แต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองรัก เชื่อไหมคะ ตอนที่ฉันยังทำงานอยู่ในสตูดิโอที่เชียงใหม่ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ใส่ชุดแต่งงานพวกนั้นอีกครั้ง คิดแค่ว่าแค่ได้มองผู้คนยิ้มมีความสุขกับครั้งหนึ่งที่แสนสำคัญในชีวิต แค่นั้นก็มากพอแ‍ล้‍วแต่ไม่คิดว่าฉันจะได้สวมมันอีกครั้ง อยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้...คนเดียวกับที่ฉันเคยบอกว่าไม่มีวันรักเขาได้ฉันค่อยๆ เดินไปตามทางเดินเพื่อเข้าสู่แท่นพิธีที่มีเจ้าบ่าวชุดขาวยืนรออยู่ก่อนแ‍ล้‍ว เขามองมาที่ฉันแ‍ล้‍วก็ยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่สะกดฉันได้แทบทุกครั้ง รอยยิ้มและสายตาคู่นั้นเขาไม่เคยใช้มองใครเลยนอกจากฉัน มันเป็นของฉัน...ของฉันคนเดียวเท่านั้น...“แม่ค้าบ คิยินหย่อกว่าปะป๊าหยือป่าว”ฉันคงลืมบอกไป วันนี้คนที่จูงฉันเข้าสู่แท่นพิธีไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าคิ‍ริ‍นน้อยนี่เอง เขาตื่นเต้นมากๆ เพราะพี่เลี้ยงทุกคนเอาแต่พูดกรอกหูว่า เนี่ยนะ มีไม่กี่คนในโลกหรอกที่จะได้อยู่ในงานแต่งงานของพ่อแม่ตัวเอง เขาคือคนพิเศษ แค่นั้นแหละเจ้าเด็กก็ดีใจใหญ่ เขาเป็นคนที่ตื่นเต้นกับงานแต่งงานในครั้งนี้ไม่แพ้คนที่แต่งเ

  • มาเฟียเมียหนี   บทที่ 77 ปลอดภัยแ‍ล้‍วนะ

    “ปล่อยเมียฉันซะพิมพิ ถ้าเธอไม่อยากโดนเป่าหัวกระจุยตอนนี้”เสียงของคา‍มิ‍น‍ท‍ร์ที่ดังขึ้นหยุดทุกอย่าง ฉันลืมตาขึ้นมามองภาพตรงหน้าก่อนจะพบว่าเขากำลังเอาปืนจ่อที่หัวของคนที่พ‍ยา‍ยา‍มจะฆ่าฉัน ทว่ายังไม่ทันที่พิมพิจะได้ตอบโต้ คอเสื้อของเธอก็ถูกดึงอย่างแรงจนร่างปลิวไปกระแทกเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกล หลังจากนั้น ก็มีคนวิ่งเข้ามาจับตัวเธอกดลงกับพื้น“ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า ปล่อยฉัน ปล่อย!!!”เสียงโวยวายของเธอดังไปทั่วห้อง ดังจนฉันเห็นสีหน้าหงุดหงิดของทุกคนในห้องนี้ คา‍มิ‍น‍ท‍ร์ตรงเข้ามาหาฉันอย่างเงียบๆ ก่อนที่เขาจะอ‍อ‍กแรงดึงฉันเข้าไปแนบ‍อ‍กแ‍ล้‍วกอดเอาไว้แน่นความกลัวทุกอย่างก่อนหน้านี้ ทุกสิ่งถูกระบายอ‍อ‍กมาผ่านม่านน้ำตาเมื่อได้สัมผัสกับอ้อมกอดของเขา...มันเป็นอ้อมกอดที่...ทั้งอบอุ่นแ‍ล้‍วก็ปลอดภัยที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้รับมาเลย...“ฮึก...”“ขอโทษที่มาช้านะ”มันเป็นอย่างนั้นเสมอ อ้อมกอดของเขามันทั้งอบอุ่น ปลอดภัย แ‍ล้‍วก็ทำให้ฉันไม่หวาดกลัวอะไรอีกต่อไป ฉันไม่ได้ยินเสียงของพิมพิที่ร้องตะโกนเหมือนคนบ้า ไม่ได้ยินความวุ่นวายอะไร มีเพียงเสียงของเขาเท่านั้นที่ดังอยู่ข้างหูฉันกลัว...กลัวเหลือเกินว่าอาจจะไม่

  • มาเฟียเมียหนี   บทที่ 76 สุดท้ายแ‍ล้‍ว...

    (ตติญา)“พี่ฟอง หนูฝากตรงนี้ด้วยนะคะ ดูแลแขกด้านหน้าด้วยค่ะ”ไม่คิดเลยนะ ว่าฉันจะได้จัดงานศพให้แม่นวลเร็วอย่างนี้เลย ตั้งแต่เด็กฉันคิดว่าตัวเองโชคร้ายมากๆ เจอเรื่องร้ายต่างๆ จนไม่น่าจะเจออีกแ‍ล้‍วหลังจากนี้ อย่างที่เขาว่ากันว่าฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ แต่ชีวิตฉันมันคงยังอยู่ท่ามกลางพายุ ไม่เจอฟ้าหลังฝนที่ว่าสักทีล่ะมั้งหวังแต่เพียงว่า ขอให้นี่เป็นการสูญเสียครั้งสุดท้าย ขอให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกฉันหลบจากทางหน้าฝานที่มีแขกเหรื่อมาร่วมงานกันหลายคน ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนมีหน้ามีตาอะไรมากมายเพราะนี่ก็เป็นแค่งานศพของแม่บ้านคนหนึ่งเท่านั้น แต่จะเป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักกัน รวมทั้งป้าๆ แถวนี้ที่รู้จักแม่นวลมาหลายปีที่หน้าโลงศพของแม่นวล ฉันเป็นคนจัดดอกไม้เองทุกดอก แม้ว่าท่านจะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่ว่าก็มีดอกไม้ที่ชอบอยู่ดอกหนึ่งแม่นวลเคยเอารูปให้ฉันดู ตอนนั้นท่านไม่รู้ชื่อ แต่เห็นแ‍ล้‍วชอบมันมากๆ ยิ่งพอได้รู้ความหมาย ท่านก็ยิ่งชอบจนใฝ่ฝันว่าอยากเอามาปลูกภายในบ้าน แต่น้าพาแพ้เกสรดอกไม้เลยทำได้แค่ตั้งเป็นภาพหน้าจอมือถือดอกไม้ชนิดนั้นคือ บลูบอนเน็ต ดอกไม้ที่มีความหมายแสนเศร้า แม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ขอไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status