共有

บทที่ 1122

作者: หูเทียนเสี่ยว
"อะไรนะ?!" คนสำนักเมฆาวารีคิดไม่ถึงว่าจะเป็นสิ่งนี้

แต่หลังจากที่ยอมรับเรื่องนี้ก็รู้สึกว่า สถานการณ์ที่นิ้วมือที่กำลังทำปางมือถูกดึงจนเปลี่ยนรูป ก็เหมือนถูกสายเชิดหุ่นดึงเอาไว้จริงๆ

คนสำนักเมฆาวารีคนหนึ่งสาดอะไรบางอย่างไปที่ระหว่างคนคนนั้นกับจั๋วซือหราน เหมือนเป็นผงฝุ่นสีแดงๆ

สรุปคือ จากการสาดนี้ ไหมกู่ที่พรางตัวอยู่ตอนแรกค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาแล้ว

ตอนที่ยังไม่ปรากฏตัว พวกเขายังรู้สึกว่าประหลาดอยู่ รู้สึกตกตะลึง แต่ก็ไม่ได้หวาดกลัว

แต่ตอนนี้พอสาดผงแดงออก พอไหมกู่ที่พรางร่างปรากฏรูปร่างแท้จริงออกมา

อารมณ์หวาดกลัวอย่างหนึ่ง ค่อยๆเกิดขึ้นมาในความคิดพวกเขา

ไม่ต้องมองที่อื่น แค่คนตรงหน้านี้ ก็ตกตะลึงกันแค่ไหน

เพราะตอนนี้ ไม่ใช่คนคนนั้นที่ถูกจั๋วซือหรานตัดท่าวิชาไป

แต่ว่าจั๋วซือหราน ทำเช่นนี้กับคนทั้งหมด

ระหว่างตัวพวกเขา เต็มไปด้วยใยหุ่นเชิดเต็มไปหมด โดยมีนางเป็นต้นตอ เชื่อมกับปลายทางที่ตัวพวกเขา

ใยหุ่นเชิดเหล่านั้นออกมาจากในแขนเสื้อนาง มากมายเต็มไปหมด

และนางตอนนี้ แค่กระดิกนิ้วสองนิ้วเท่านั้น ใช้สองเส้นนั้นดึงนิ้วคนคนนี้เอาไว้ ก็ทำลายวิชาของเขาลงได้แล้ว

นางอยู่ในชุดแดง นั่งเงียบๆ อ
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター
コメント (1)
goodnovel comment avatar
Sukunya Nok
ติดตามจ้า สนุกมาก
すべてのコメントを表示

関連チャプター

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1123

    "อะไรนะ?" คนสำนักเมฆาวารี ไม่เข้าใจคำพูดของนางแต่ก็มีคนที่กลับฟังออก สีหน้าเคร่งขรึม "นางรู้ว่าพวกเรามากันเจ็ดคน"เหลียนเจินบอกกับจั๋วซือหรานต่อ "ผู้ดูแลสำนักเมฆาวารี เครื่องแบบแตกต่างกับคนทั่วไปอยู่ ผ้าคาดเอวและขอบเสื้อจะประดับด้วยลายน้ำเมฆสีม่วง ดังนั้น..."จั๋วซือหรานตอบคำเขา "ยังไม่มาสินะ"กลุ่มตรงหน้านี้ ทั้งหกคน บนเครื่องแบบดุแล้วไม่มีอะไรแตกต่างกันบนพื้นฐานสามารถพิจารณาได้ ว่าคนพวกนี้เป็นศิษย์ทั่วไปเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น จั๋วซือหรานยังพิจารณาได้อีก ว่าในกลุ่มพวกเขาน่าจะไม่ได้ทำอะไรอย่างเช่นผู้ดูแลจงใจเปลี่ยนมาสวมชุดของศิษย์ทั่วไปมาแฝงอยู่ในกลุ่มเพื่อให้ศัตรูตายใจ เพื่อจะเล่นงานศัตรูได้อย่างไม่ทันตั้งตัว...สาเหตุที่จั๋วซือหรานมั่นใจเช่นนี้ ก็เพราะคนในสำนักเหล่านี้ ไม่ต้องคิดเลย ในใจล้วนเย่อหยิ่งกันหมดความเย่อหยิ่งนั้น บางครั้งก็ก็เป็ฯความจองหองแบบหนึ่งและความจองหองก็จะมองข้ามศัตรู ไหนจะเรื่องที่ชุดบ่งบอกถึงตัวตนฐานะอีก ตัวตนฐานะมันวางลงได้ง่ายๆ เสียที่ไหนไม่แน่ว่าคนที่มีจะเป็นพวกที่ว่า พอได้เลื่อนขั้นทั้งที ไปที่ไหนทีก็แทบอยากจะประกาศให้ใต้หล้ารู้ว่าตนเองได้เลื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1124

    จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ ก็ลูบคางเบาๆ"พูดแบบนี้ ทำเอาข้าสนใจฝีมือของผู้ดูแลชุยขึ้นมาเลย" จั๋วซือหรานเพ่งมองไปทางพวกเขา "เพียงแต่ว่า ผู้ดูแลชุยตอนนี้อยู่ไหนล่ะ?"จั๋วซือหรานพูดไปด้วยพลางเดินเข้าใกล้พวกเขาแต่พอเห็นว่าพวกเขายังคงปากแข็ง จั๋วซือหรานก็ยิ้มตาโค้ง "แนะนำกับพวกเจ้าหน่อย ใยหุ่นเชิดแบบใหม่ของข้า..."หลังจากนั้นนิ้วนางก็กระดิกเบาๆคนสำนักเมฆาวารีคนหนึ่งร้องเจ็บปวดขึ้นมาจากนั้นคนสำนักเมฆาวารีคนอื่นตอนที่มองจั๋วซือหราน สายตาก็ดูผิดปกติไปแล้ว"ใช้ดีดีมากในการทรมานไต่สวน" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "พวกเจ้าถ้าหากไม่ยอมพูดล่ะก็ จะลองทีละคนก็ได้ ข้าจะเล่นไปช้าๆ"คนจากสำนักเมฆาวารีเหล่านี้ ก็เป็นอย่างที่จั๋วซือหรานคาดเอาไว้ ไม่ได้มีพวกกล้าเลยแม้แต่คนเดียวคิดแล้วก็ใช่ คนในสำนักเหล่านี้ ส่วนใหญ่ล้วนมาจากพวกตระกูลที่มีฐานะดีหน่อยกันทั้งนัน มีแววดีตั้งแต่เด็ก ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักมาอย่างดีคิดว่าคงไม่เคยเจอของแข็งกันมาก่อน ดังนั้นจะไปเก่งกล้าได้ที่ไหนกันไม่ถึงหนึ่งเค่อ ก็ได้คำอธิบายออกมาผู้ดูแลชุยคนนั้น ชื่อเต็มว่าชุยหงฮุย เป็นหนึ่งในผู้ดูแลสำนักเมฆาวารี ฝีมือการต่อสู้ไม่เลว ค่อนข้าง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1125

    เหลียนเจินได้ยินจั๋วซือหรานพูดเช่นนี้ ก็เข้าใจความหมายลึกๆ ในคำพูดของนายท่านเป็นอย่างดีน่าจะเพราะ เขาเคยถูกจั๋วซือหรานแย่งตลับหุ่นเชิดไปนั่นล่ะดังนั้นเหลียนเจินจึงมีปฏิกิริยากับเรื่องพวกนี้ค่อนข้างเร็ว!"แม่นางจะบอกว่า..." เหลียนเจินก้มลงมองจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง "ใช่แล้ว เอาล่ะ พวกเจ้าก็พักฟื้นกันต่อไปนะ"นางยื่นมือไปตบเบาๆ ที่บ่าอันแข็งแรงของเหลียนเจิน "ข้าไปแปปเดียว"เหลียนเจินเดาได้ถึงเป้าหมายครั้งนี้ของนาง อดกังวลขึ้นมาไม่ได้ตามหลักการ เหลียนเจินเดิมทีคิดว่าตนเองควรจะกังวลความปลอดภัยของแม่นางถึงอย่างไร การจะไปแย่งของจากผู้ดูแลสำนักเมฆาวารี จะมองอย่างไรก็น่าจะเป็นเรื่องที่อันตรายแต่ว่าพอถึงเวลา เหลียนเจินกลับรู้สึกที่ตนเองกังวลไม่ใช่ความปลอดภัยของแม่นางแต่เป็น..."แม่นาง เจ้าสิ่งเย็นเยือกนั่น สัมผัสมากไปจะไม่ดีกับร่างกาย" เหลียนเจินเอ่ยเตือนขึ้นจั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ก็เลิกคิ้ว ในดวงตาและคิ้วก็มีรอยยิ้มที่เบิกบาน "ไม่เป็นไร หาวิธีจัดการได้แล้ว"มีวิธีจัดการด้วยหรือ?เหลียนเจินงงงัน แต่ก็สังเกตได้ว่า สีหน้าของนายท่านดูดีขึ้นมากแล้ว กระทั่งมองไม่ออกว่าเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1126

    หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็ยิ้มออกมา เพียงแต่ว่า พวกเขาไม่มีใครเห็นความรู้สึกยิ้มจากสีหน้ายิ้มของนางเลยยิ่งไปกว่านั้น ในคำพูดถัดจากนี้ของนาง ก็ยิ่งไม่มีคามอบอุ่นเหลืออยู่อีก"ข้าแค่จะทำให้สำนักพวกเจ้าขายหน้าแค่นั้นที่ไหน" จั๋วซือหรานเหลือบมองพวกเขาเย็นชาผาดหนึ่ง เอ่ยต่อว่า "สิ่งที่ข้าต้องการ คือสำนักของพวกเจ้า...ตายไปให้หมด!"แม้นางจะไม่พูดอะไรมาตลอด ต่อให้คนรับใช้ของนางเอง ก็รู้แค่เป้าหมายการเดินทางครั้งนี้ของนาง แต่กลับไม่รู้ความรู้สึกส่วนลึกในใจนางเลยเพราะนางไม่เคยพูดอะไรออกมา และไม่เคยเผยอะไรออกมาด้วยแต่ในความเป็นจริง หลังจากที่รู้ว่าเจ้าสำนักเมฆาวารี เพื่อจะช่วยเหลือลูกของตนเอง จนต้องใช้น้องสาวของนางมาเป็นผู้ทดลองยาในใจจั๋วซือหรานก็อดกลั้นเอาไว้มาตลอดความโกรธนี้ แผดเผาอยู่ในใจนางมาตลอด ทำให้ในใจนางอันที่จริงโกรธแค้นไม่หยุดมาตลอดนางคิดถึงน้องชายนับครั้งไม่ถ้วน คิดถึงเด็กน้อยจั๋วหวายเด็กคนนี้ ในเส้นโชคชะตาของเจ้าของร่างเดิม เป็นเด็กน้อยที่ตายไปอย่างน่าเวทนานางรับชีวิตของเจ้าของร่างเดิมมา มีความปรารถนาอยู่หนึ่งเรื่อง ก็คือทำให้ท่านแม่ น้องชายที่เจ้าของร่างเดิมรักใน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1127

    พอเห็นภาพตรงหน้า จั๋วซือหรานไม่ได้รู้สึกอะไร...ผู้ดูแลชุยออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้นางแล้ว จัดการสั่งสอนคนตระกูลเหอให้เช่นนั้นก็มีแค่ความเป็นไปได้เดียว"มีคนชิงตัดหน้าไปก่อนแล้วหรือ?" จั๋วซือหรานงึมงำจากนั้นจังหวะก้าวเท้าที่ไม่เร่งไม่ร้อนแต่เดิม ตอนนี้กลับเพิ่มความเร็วขึ้นมา! เดินตรงไปด้านใน!จั๋วซือหรานยังเดินไม่ทันถึงประตูห้อง ก็ได้ยินในห้องมีเสียงครวญครางลอดออกมาพอเดินเข้าไป ก็เห็นสภาพในห้อง แทบไม่ได้แตกต่างกับสภาพคนที่นอนบ้อท่าอยู่ในลานบ้านพวกนั้นเลยเก้าอี้ที่นั่งหลักกลายเป็นเศษชิ้นไม้ผู้เฒ่าเหอนั่งหมดสภาพอยู่บนเศษไม้บนพื้น ขยับตัวไม่ได้ ร้องไอ๊โยวไอ๊โยวครวญครางและรอบๆ ยังมีคนรับใช้ตระกูลเหออีกบางส่วน ล้วนนอนกระจัดกระจายกันอยู่บนพื้น ดูแล้วไม่เหลือสภาพกันเลยมีแค่ร่างหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง ที่ยังดูเด่นหน่อย เพราะดูจากสภาพแล้วเหมือนจะหนักหนากว่าคนอื่นพอควรจั๋วซือหรานพิจารณา คนผู้นี้น่าจะเป็นผู้ดูแลชุยจากสำนักเมฆาวารีสาเหตุที่ใช้คำว่าพิจารณา ก็เพราะบนตัวคนผู้นี้เสื้อผ้าคนผู้นี้ที่พอจะ่บอกตัวตนได้แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วบาดแผลบนตัวดูแล้ว...เหมือนถูกไฟร้อนแรงลวกเข้าอย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1128

    ผู้เฒ่าเหอกับหกคนนั้นของสำนักเมฆาวารี พริบตานี้ ก้เหมือนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันตรายที่ทำให้คนรู้สึกไม่ค่อยดี...จากบนตัวนาง"เจ้า..." คนสำนักเมฆาวารีคนหนึ่งเอ่ยขึ้น "คิดจะทำอะไร?"สายตาจั๋วซือหรานเหลือบผ่านพวกเขากับผู้เฒ่าเหอ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นขรึมๆ ว่า "ข้ามาที่นี่ ไม่ใช่แค่มาดูผู้ดูแลชุยของพวกเจ้าเท่านั้น"ผู้เฒ่าเหอบางทีอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายคำพูดของจั๋วซือหรานแต่คนสำนักเมฆาวารี ปัญญาเกิดขึ้นในพริบตา เข้าใจได้ทันทีนางมาเพื่อหุ่นเชิดความมืดขอผู้ดูแลชุย!เมื่อครุ่นางใช้ปลายฝักกริชพลิกไปมาบนตัวผู้ดูแลชุย แน่นอนว่าไม่ใช่ตรวจสอบบาดแผลบนตัวผู้ดูแลชุยแต่เพื่อค้นหาตลับหุ่นเชิดของเขาแต่ก็หาไม่เจอตอนที่ตระหนักได้ถึงสิ่งนี้ สีหน้าคนสำนักเมฆาวารีก็เปลี่ยนไป"แล้วเจ้า....เจ้าตอนนี้คิดจะทำอะไร...."จั๋วซือหรานพิจารณาตัวพวกเขา จากนั้นในมือก็ปรากฏตะปูวิญญาณสีดำเล่มหนึ่งออกมา นำออกมาหมุนเล่นบนนิ้ว"ในเมื่อไม่มีสินสงคราม ข้าก็กำลังคิดว่า หลอมพวกเจ้ามาเป็นหุ่นเชิดความมืดเปลี่ยนเป็นสินสงครามไปเลยดีไหม" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบมุมปากของนางมีรอยยิ้ม กระทั่งพวกเขาก็ยังไม่แน่ใจไป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1129

    เพียงแต่ว่า เหอจื้อหย่วนทางนี้ นางคงไม่ได้คำตอบอะไรแล้วบนนิ้วจั๋วซือหรานยังคงหมุนตะปูวิญญาณเล่นเหมือนควงปากกา ลุกขึ้นยืน เดินพิจารณาตัวเหอจื้อหย่วนสำนักเมฆาวารีทั้งหกคน แล้วก็ฐนตัวผู้ดูแลชุยไปรอบหนึ่งสภาพผู้ดูแลชุยตอนนี้ดูสับสนมาก แต่สำนักเมฆาวารีทั้งหกคนและเหอจื้อหย่วน พอเห็นท่าทางเดินเล่นเหมือนอยู่ในสวนของจั๋วซือหรานแล้วก็ผวาขึ้นมาจะแย่กลัวว่าจั๋วซือหรานจะพลั้งมือเอาตะปูวิญญาณในมือจิ้มเข้ามาที่หลังคอพวกเขา อย่างนั้นได้บรรลัยกันพอดีถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็ พวกเขาอาจจะไม่มีความรู้สึกเช่นนี้แต่ว่า หญิงสาวตรงหน้าคนนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกมองไม่ออกเลย! ไม่รู้ว่าในใจนางกำลังคิดอะไรดังนั้น จึงไม่กล้าเดิมพันกับหญิงสาวคนนี้ว่าจะปราณีพวกเขาหรือเปล่ารู้สึกแค่ว่านางเหมือนจะบ้าขึ้นมาได้ทุกขณะพวกเขาจ้องมองจั๋วซือหรานอย่างเคร่งเครียด เหงื่อไหลหยดลงมาจากหน้าผากจั๋วซือหรานแค่ร้องเชอะเย็นชาขึ้นมา เอ่ยว่า "ช่างเถอะ"นางใช้ตะปูวิญญาณชี้ไปที่พวกสำนักเมฆาวารี "พวกเจ้าแบกหัวหน้าพวกเจ้า แล้วไปกับข้า"พวกสำนักเมฆาวารีตกตะลึง นิ่งงันกันไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง มองพวกเขาอย่างเย็นชา "พวกเจ้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1130

    ดังนั้นจึงไม่กล้าอวดดีแล้วจั๋วซือหรานนำคนสำนักเมฆาวารีไปที่โรงเตี๊ยมหกคนนั้นของสำนักเมฆาวารีแบกผู้ดูแลชุยเหมือนคนดำแบกโลงศพอย่างไรอย่างนั้น...ตอนที่ออกจากโรงเตี๊ยมไปที่ตระกูลเหอ ก็ดึงดูดความสนใจไปไม่น้อยแล้ว ตอนนี้จากจวนตระกูลเหอยังแบกคนที่เจ็บจนน่าเวทนากลับมาอีกคน จึงทำให้คนที่เห็นยิ่งรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเข้าไปอีกยิ่งไปกว่านั้นยังมองออกอย่างรวดเร็วอีกว่าคนคนนั้น แม้บนตัวจะเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ก็มองออกไม่ยาก ว่าเป็นคนของสำนักเมฆาวารีเช่นกัน ยิ่งไปกว่นั้น เนื่องจากสื้อผ้าที่เหลืออยู่บางส่วนบนตัว พอมองก็รู้ว่าแตกต่างกับศิษย์ทั่วไปของสำนักเมฆาวารีดังนั้นจึงคาดเดาได้ไม่ยาก น่าจะเป็นคนที่มีฐานะหน่ยอในสำนักเมฆาวารียังกลายมาเป็นสภาพนี้...ถ้าบอกว่าแต่ก่อนสำนักเมฆาวารีมีชื่อเสียงมากในเมืองหยาง วันนี้ก็น่าจะถึงจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์แล้วจั๋วซือหรานไม่ได้สนใจสายตาคนรอบข้าง นางเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรเพียงแต่ว่า ระหว่างทางที่กลับมานี้ ผู้ดูแลชุยก็ร้องอย่างน่าเวทนา ฟังแล้วทำเอารำคาญขึ้นมาเลยพอมาถึงโรงเตี๊ยม ผู้จัดการโรงเตี๊ยมคางแทบจะห้อยลงมาแล้วพวกสำนักเมฆาวารีวางผู้ดูแลชุย

最新チャプター

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1279

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วหวาย สีหน้าจั๋วซือหรานก็ชะงักไปพอนึกถึงจั๋วเฮ่ออิงที่สีหน้าเปลี่ยนแล้วรีบร้อนออกไปวันนั้นนางรู้สึกว่าการคาดเดาของเสี่ยวหวาย...ดูสมเหตุสมผลดียังไม่ต้องพูดถึงว่าจั๋วเฮ่ออิงไปหาเซี่ยอวิ๋นซี แล้วจะมีผลลัพธ์อย่างไรจั๋วซือหรานแม้จะไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม แต่ก็มีความรู้สึกรักอย่างจริงใจต่อเซี่ยอวิ๋นซีด้วยความเข้าใจต่อตัวเซี่ยอวิ๋นซีของนาง จั๋วซือหรานรู้สึกว่า เซี่ยอวิ๋นซีเป็นคนที่อ่อนนอกแข็งในการที่นางสามารถเลี้ยงลูกสองคนจนโตได้เพียงลำพังก็มองออกได้ไม่ยากคนแบบนี้ ในสถานการณ์ปกติขีดจำกัดจะชัดเจนมากนางจะอ่อนโยนกับคนของตนเอง แต่มีนิสัยที่แข็งกร้าวในสายตาไม่อาจทนเห็นสิ่งไม่ดีได้ ยอมหักแต่ไม่ยอมงอตอนที่นางรักจั๋วเฮ่ออิงก็คือรักจริงๆ ถ้าหากไม่มีลูกน้อยสองคนคอยรั้งนางไว้ นางคงฆ่าตัวตายตามจั๋วเฮ่ออิงไปตั้งแต่ตอนรู้ว่าเขาตายแล้วแต่พอมีตัวตนอย่างสุ่ยจิ้งหลาน เซี่ยอวิ๋นซีก็ไม่แน่ว่าจะอดทนต่อจั๋วเฮ่ออิงได้อีกตอนที่ไม่รัก ก็อาจจะไม่รักได้จริงๆแต่แล้วทำไมล่ะ แค่จั๋วเฮ่ออิงไปบอกเรื่องของนาง ด้วยนิสัยของเซี่ยอวิ๋นซี ต่อให้ฟ้าถล่มก็คงจะรีบมาหาอยู่ดีจั๋วซือหรานถอนห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1278

    ตอนนี้ จั๋วซือหรานเห็นหน้าตนเองในน้ำได้เห็นสภาพของตนเองชัดๆ ดีขึ้นมากแล้วจริงๆแต่นางยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าสภาพของตนเองก็กำลังแย่ลงอย่างรวดเร็วดังนั้น ตนเองตอนนี้...อยู่ห่างจากชายคนนั้นไม่ได้จริงๆถ้าแค่ห่างจากชายคนนั้น ตนเองก็อาจจะทนต่อไปไม่ไหว แล้วกลับไปอยู่ในสภาพก่อนหน้านี้อีก นั่นมันอันตรายเอามากๆส่วนตนเองถ้าหากยังตามชายคนนี้อยู่ตลอดล่ะก็...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว ในใจก็อดคิดไม่ได้ ตอนนี้ตนเองอย่างน้อยยังพอทนไหว ไม่ต้องตัวติดกับเขาตลอดเวลาก็ได้แต่...นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นนะจั๋วซือหรานเป็นคนที่เตรียมพร้อมล่วงหน้าอยู่เสมอ นางยกมือขึ้นลูบท้องน้อยเบาๆในใจยังคิดขึ้นอย่างกังวล ถ้าหากอายุครรภ์มากขึ้น สถานการณ์แบบนี้ก็น่าจะยิ่งรุนแรงขึ้นด้วยถึงตอนนั้นหากตนเองต้องอยู่กับเขาตลอดเวลาถึงจะรักษาสภาพให้คงที่ได้ล่ะ?ถ้าตนเองเป็นอย่างที่เขาบอกล่ะ ที่ว่าต้องการแสงแดดแล้วในเวลากลางวันแบบนั้น...คนนึงต้องการแสงแดด แต่อีกคนกลับถูกแสงแดดทำร้ายสถานการณ์แบบนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆนางผ่อนคลายลงหน่อย แต่เขากลับทรมานขึ้นมาถ้าพอนางทรมาน เขาถึงจะผ่อนคลายลงมาได

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status